-
สแกนเนีย ปฏิวัติวงการสิบล้อ ส่งรถ Scania Rigid Euro 5 ลงตลาด
ชูจุดเด่นรถบรรทุก 10 ล้อ มาตรฐานยุโรป ประหยัดน้ำมัน ปลอดภัยสูง เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมเปิดราคาเร้าใจ 3.5 ล้าน เผยผู้ประกอบการสนใจจำนวนมากตลาดสิบล้อสะเทือน สแกนเนีย ประกาศปฏิวัติวงการ ส่งรถบรรทุก 10 ล้อ Scania Rigid Euro 5 มาตรฐานยุโรปลงตลาด ชูจุดเด่นประสิทธิภาพสมรรถนะเครื่องยนต์ ประหยัดน้ำมัน ระบบความปลอดภัยสูง เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มีช่วงล่างให้เลือกทั้งแบบแหนบและถุงลม เปิดราคาจอง (Pre Booking) เร้าใจแค่ 3.5 ล้านบาท ดาวน์ต่ำ 5% ดอกเบี้ยคงที่ 3.99% พร้อมแพ็คเกจดูแลรักษารถนาน 3 ปี มั่นใจคุณสมบัติเด่นจับใจผู้ประกอบการ ชิงส่วนแบ่งตลาดรถบรรทุกได้แน่ ล่าสุดเผยผลตอบรับดีเกิดคาดผู้ประกอบการให้ความสนใจจำนวนมาก
นางสาวดวงใจ พงศ์ประเทืองสุข ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการงานขายและกลยุทธ์ประจำประเทศไทย บริษัท สแกนเนีย สยาม จำกัด กล่าวถึงการเดินหน้ารุกตลาดรถบรรทุก 10 ล้อ ในประเทศไทยว่า หลังการเปิดตัวรถบรรทุกหัวลาก Scania Euro 5 ไปเมื่อเดือนสิงหาคม 2567 ผลตอบรับถือว่าดีมาก จากทั้งลูกค้าเก่าและลูกค้าใหม่ พร้อมแนวโน้มการซื้อซ้ำอีกจำนวนมากในปีนี้ ผลดังกล่าวเกิดจากการยอมรับในประสิทธิภาพและสมรรถนะของเครื่องยนต์ การประหยัดน้ำมันในอัตราขาไปบรรทุกหนักและขากลับบรรทุกเบาสูงสุดถึง 4.8 กิโลเมตร / ลิตร และการเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม จุดเด่นที่ถูกพูดถึงในวงกว้างทำให้เกิดกระแสเรียกร้องจากกลุ่มลูกค้ารถบรรทุก 10 ล้อ ว่าต้องการรถ Euro 5 มาใช้งานด้วยเช่นกัน เนื่องจากมองเห็นถึงโอกาสและความสำคัญของรถ Euro 5 โดยเฉพาะในช่วง PM 2.5 พุ่งสูง ทำให้ กรุงเทพมหานคร ยกระดับมาตรการควบคุมฝุ่น ห้ามรถบรรทุกที่ไม่อยู่ในบัญชีสีเขียวเข้าพื้นที่เขตควบคุม ทำให้รถที่ไม่เป็นไปตามมาตรฐานเสียโอกาสในการดำเนินธุรกิจ แต่รถ Euro 5 เป็นหนึ่งในรถที่ได้รับการยกเว้นให้เข้าในพื้นที่ได้
สัญญาณที่ดีและแนวโน้มความต้องการรถบรรทุก 10 ล้อ Euro 5 ผนวกกับตลาดรถบรรทุก 10 ล้อ ของไทย มีขนาดใหญ่มาก โดยรถบรรทุกน้ำหนักเกิน 7 ตัน ขึ้นไป ที่จดทะเบียนใหม่ในปี 2567 ที่ผ่านมามีประมาณ 11,000 คัน เป็นรถบรรทุก 10 ล้อ ถึงประมาณ 50% หรือ 5,500 คัน ทำให้ สแกนเนีย ศึกษาตลาดอย่างจริงจัง โดยทีมสนับสนุนการขายและฝ่ายขายร่วมกันออกหาลูกค้า ศึกษาหาความต้องการที่แท้จริง และนำข้อมูลที่ได้มาหาโซลูชั่นร่วมกับบริษัทฯ แม่ที่สวีเดน เพื่อพัฒนาและยกระดับรถบรรทุก 10 ล้อ ที่เป็น Euro 5 ให้เหมาะสมกับตลาดประเทศไทย มีสมรรถนะสูงสุด ประหยัดน้ำมัน ปลอดภัยตามมาตรฐานยุโรป เป็น DNA สแกนเนีย ที่ทุกคนมั่นใจ พิเศษสุดเพราะมีระบบช่วงล่างให้เลือกทั้งแบบแหนบ และ ถุงลม ซึ่งได้รับความนิยมในยุโรปและอเมริกา เนื่องจากบำรุงรักษาง่ายใช้เวลาไม่นาน ปรับระดับความสูงต่ำได้ มีความนิ่มนวล รักษาสินค้าได้ดี ช่วยยืดอายุการใช้งานอะไหล่ส่วนอื่นๆ ได้ นอกจากนั้นยังสามารถยกเพลาตามได้มาจากโรงงานเพื่อประหยัดหน้ายาง ช่วยในการขับขี่และการขนส่งได้โดยไม่เสียสมดุลของตัวรถเพราะเป็นมาตรฐานมาจากโรงงาน นอกจากระบบต่างๆ แล้ว ยังเป็นครั้งแรกในรถสิบล้อกับจอแสดงผลดิจิทัลอัจฉริยะเต็มรูปแบบ ทั้งหน้าปัดมาตรวัดและวิทยุ (Smart Dash) ทั้งหมดนี้ถูกใส่ไว้ใน Scania Rigid Euro 5 อย่างเต็มที่ เพื่อการพัฒนาและพลิกโฉมวงการรถบรรทุก 10 ล้อไทยอย่างแท้จริง ในราคาที่เหมาะสม โดยวันนี้รถบรรทุก 10 ล้อ Scania Rigid Euro 5 พร้อมลงตลาดแล้วและถือเป็นรถบรรทุก 10 ล้อ Euro 5 เจ้าแรกของไทยอีกด้วย
ส่วนการใช้งานของรถบรรทุก 10 ล้อ Scania Rigid Euro 5 นั้น ครอบคลุมในหลายประเภทการขนส่งไม่ว่าจะเป็นขนส่งตู้ ขนส่งที่ต้องการความปลอดภัยสูง ขนส่งรถ รถติดฮุกลิฟท์ ขนส่งแท็งค์ของเหลวต่างๆ น้ำมัน อาหารสัตว์ สินค้าที่คุมอุณหภูมิ ฯลฯ โดยมุ่งเน้นทำตลาดกับทั้งกลุ่มลูกค้าเดิมที่ใช้รถสแกนเนียและมีบริการรถบรรทุก 10 ล้อ กลุ่มลูกค้าใหม่ที่เป็นผู้ให้บริการรถบรรทุก 10 ล้อ แต่ยังไม่เคยใช้รถของสแกนเนีย และกลุ่มที่ต้องการใช้รถในงานเฉพาะทาง อาทิ รถดับเพลิง รถขุดเจาะ รถที่ใช้ในกิจกรรมพิเศษ ฯลฯ
ซึ่งตั้งแต่ช่วงต้นปี สแกนเนีย ได้มีการแนะนำรถบรรทุก 10 ล้อ Scania Rigid Euro 5 แก่กลุ่มลูกค้าบางส่วนไปบ้างแล้วและได้รับผลตอบรับเป็นอย่างดีจากตลาด ดังนั้น สแกนเนีย จึงได้เปิดจอง (Pre Booking) รถบรรทุก 10 ล้อ Scania Rigid Euro 5 อย่างเป็นทางการขึ้น ด้วยราคาพิเศษเริ่มต้น 3.5 ล้านบาท พร้อมทั้งร่วมมือกับ สแกนเนีย ไฟแนนซ์ มอบข้อเสนอพิเศษดาวน์เริ่มต้นที่ 5% ดอกเบี้ยคงที่ 3.99% ผ่อนสูงสุด 72 งวด ขับฟรี 60 วัน พร้อมรับฟรี AdBlue 500 ลิตร และแพ็คเกจดูแลรักษารถ ได้แก่ ฟรีงานซ่อม 2 ปี หรือ 270,000 กม. และ บำรุงรักษาอีก 3 ปี หรือสูงสุด 380,000 กม. (แล้วแต่อย่างใดถึงก่อน) จากคุณสมบัติที่แตกต่างและราคาที่เหมาะสม ทำให้เชื่อว่ารถบรรทุก Scania Rigid Euro 5 จะสร้างปรากฏการใหม่ในการพลิกโฉมและสร้างภาพลักษณ์ให้กับวงการรถบรรทุก 10 ล้อของไทย และจะเป็นเรือธงในน่านน้ำใหม่ให้กับ สแกนเนีย ในการชิงแชร์ตลาดรถบรรทุก 10 ล้อ ได้อย่างแน่นอน
สำหรับจุดเด่นและรายละเอียดของรถบรรทุก 10 ล้อ Scania Rigid Euro 5 นั้น นายณรงค์ฤทธิ์ อิทธิสารรณชัย ผู้อำนวยการสนับสนุนการขายและโลจิสติกส์ บริษัท สแกนเนีย สยาม จำกัด เผยว่ารถบรรทุก 10 ล้อ Scania Rigid Euro 5 มีจุดเด่นที่เช่นเดียวกับรถหัวลาก สแกนเนีย โดยรุ่นที่เปิดตัวครั้งนี้ คือ P360 มีเครื่องยนต์ขนาด 360 แรงม้า กำลังแรงบิด 1,700 นิวตันเมตร เพลาเดียว มาพร้อมกับ 12 เกียร์เดินหน้า ช่วงล่างมีให้เลือกทั้งแบบแหนบและถุงลม พร้อมกับ 2 ช่วงความยาว 6.6 เมตร และ 7.7 เมตร เพื่อทางเลือกที่หลากหลายในการต่อตัวถังของลูกค้า
โดยการเป็นรถเพลาเดียวที่มีกำลังเครื่องและแรงบิดสูง มีข้อได้เปรียบกว่ารถ 2 เพลาในหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นการประหยัดน้ำมันที่มากกว่า น้ำหนักตัวรถที่น้อยกว่า สามารถยกเพลาตามได้ทำให้ประหยัดหน้ายาง อีกทั้งยังถ่ายเทน้ำหนักกดลงเพลาจักรเพื่อเพิ่มกำลังขับได้ ส่วนระบบความปลอดภัยนั้น ในระบบเบรกถ้าเป็นช่วงล่างแบบแหนบจะเป็นดรัมเบรก แต่ถ้าเป็นช่วงล่างแบบถุงลมจะเป็นดิสก์เบรก ซึ่งเวลาเบรกผ้าเบรกจะจับได้เต็มกว่าและกระจายความร้อนได้ดีกว่า ในกรณีที่ต้องมีการเบรกนานๆ อย่างต่อเนื่อง โดยทั้ง 2 ระบบ ยังคงมาตรฐานเบรก ABS และ EBS และเบรกไอเสีย
ส่วนระบบเกียร์เป็นระบบช่วยเปลี่ยนเกียร์อัตโนมัติ หัวเก๋งมีความปลอดภัยสูง ให้มุมมองวิสัยทัศน์ที่ดี ภายในห้องโดยสารควบคุมระบบต่างๆ ของรถผ่านหน้าจออัจฉริยะ เป็นเบาะลมปรับระดับ ปรับความหนืดได้ ช่วยให้การขับขี่สบายขึ้น ในด้านสิ่งแวดล้อมรถบรรทุก 10 ล้อ Scania Rigid Euro 5 สามารถลด PM2.5 ได้มากถึง 5 เท่า เมื่อเทียบกับรถยูโร 3 อีกด้วย สำหรับผู้สนใจรายละเอียดรถบรรทุก 10 ล้อ Scania Regi Euro 5 หาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.scania.co.th หรือ โทร 02 017 9200 หรือ LINE OA: Scania TH Group หรือ www.facebook.com/scaniathailandgroup
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine
-
PTT Station และ Café Amazon คว้ารางวัล World Branding Awards ต่อเนื่องปีที่ 8 ตอกย้ำความเป็นแบรนด์ระดับโลก
ม.ล.ปีกทอง ทองใหญ่ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) (OR) เปิดเผยว่า รางวัลนี้เป็นเครื่องยืนยันถึงความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่มีต่อ PTT Station และ Café Amazon เรามุ่งมั่นพัฒนาและยกระดับมาตรฐานสินค้าและบริการอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบโจทย์ทุกความต้องการของผู้บริโภคทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ พร้อมขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโตควบคู่ไปกับการสร้างคุณค่าให้กับลูกค้า สังคม และสิ่งแวดล้อม ซึ่งสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ “Empowering All toward Inclusive Growth” หรือ “เติมเต็มโอกาส เพื่อทุกการเติบโต ร่วมกัน”
ตลอดเวลาที่ผ่านมา PTT Station เป็นผู้นำสถานีบริการน้ำมันที่ผู้บริโภคไว้วางใจด้วยส่วนแบ่งการตลาดอันดับ 1 และมาตรฐานคุณภาพน้ำมันระดับสากลที่ผ่านการคัดสรรสารเติมแต่งจากบริษัทชั้นนำระดับโลก พร้อมตอกย้ำความเชื่อมั่นด้วยการควบคุมคุณภาพน้ำมันในทุกขั้นตอน ตั้งแต่น้ำมันออกจากโรงกลั่นจนถึงมือผู้บริโภค ทำให้ผู้บริโภคมั่นใจในคุณภาพระดับสากลและมาตรฐานเดียวกันใน PTT Station ทุกสาขาทั่วประเทศ พร้อมนำเสนอสินค้าและบริการที่ครบครันภายในสถานีบริการ เพื่อตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภค และเป็นพื้นที่ดูแลผู้คน ชุมชน และสิ่งแวดล้อมให้เติบโตไปด้วยกันอย่างยั่งยืน ขณะที่ Café Amazon แบรนด์กาแฟที่ได้รับความนิยมสูงที่สุดในประเทศไทย ด้วยยอดขายที่สูงที่สุดในตลาดกว่า 400 ล้านแก้วต่อปี พร้อมสร้างประสบการณ์การบริโภคที่ครบวงจรและตอบโจทย์วิถีชีวิตของผู้บริโภคได้อย่างรอบด้าน จากแนวคิด “กาแฟที่แฟร์กับคนทั้งโลก” โดยให้ความสำคัญกับความยั่งยืนในทุกมิติ ทั้งแฟร์กับสิ่งแวดล้อม ผ่านการคัดสรรวัตถุดิบที่เป็นมิตรต่อธรรมชาติ แฟร์กับผู้ขาดโอกาส ผ่านการสนับสนุนเกษตรกรและการจ้างงานผู้ด้อยโอกาส และแฟร์กับผู้บริโภค ด้วยเครื่องดื่มคุณภาพ
สำหรับ World Branding Awards จัดขึ้นโดย World Branding Forum องค์กรไม่แสวงหาผลกำไรระดับโลก ซึ่งพิจารณารางวัลจาก การประเมินคุณค่าของแบรนด์ (Brand Valuation) การได้รับการยอมรับจากสาธารณชน ผ่านการโหวตออนไลน์ (Public Online Voting) และการวิจัยผู้บริโภคในตลาดนั้น ๆ (Consumer Market Research) โดย PTT Station และ Café Amazon เป็นแบรนด์ไทยเพียงแบรนด์เดียว ที่ได้รับรางวัลในหมวดของตน สะท้อนถึงการเป็นแบรนด์ที่ได้รับความเชื่อมั่นจากผู้บริโภคทั่วโลก
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine
-
News Motocycle1 Min Read
ทัพนักบิดฮอนด้า บิด Honda CRF450R ระเบิดผลงาน! “นีโม่-จิรัฎฐ์” ครองชัยชนะสนามแรก Premier MX-1 ประเทศไทย
นักบิดพร้อมยอดรถแข่งทางฝุ่น “นีโม่” จิรัฎฐ์ วรรณลักษณ์ สังกัดทีม Honda Racing Thailand Idemitsu Wannalak Motorsport ทะยาน Honda CRF450R หมายเลข 177 ระเบิดผลงานสุดเหนือชั้น คว้าควอลิฟาย ครองชัยชนะ การแข่งขันรถจักรยานยนต์โมโตครอสชิงแชมป์ประเทศไทย (FMSCT Thailand Motocross 2025) สนามที่ 1 ในรุ่นท็อปสุดของรายการอย่าง Premier MX-1 บันทึกประวัติศาสตร์วินเนอร์แรกของรุ่นท็อปสุดของรายการ ที่ขยับรถแข่งขึ้นเป็นพิกัด 450 ซีซี. เทียบเท่ากับการแข่งขันระดับชิงแชมป์โลก เมื่อวันอาทิตย์ที่ 9 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ณ สนาม Silver Rock จ.เลย
การแข่งขันทางฝุ่น ในศึกโมโตครอสชิงแชมป์ประเทศไทย ทัพนักบิดทางฝุ่น จาก Honda Race to The Champion ลงแข่งขันภายใต้ทีมอิสระ กับยอดรถแข่งทางฝุ่น Honda CRF450R ประกอบด้วย กฤษฎา จำรูญจารีต สังกัดทีม Honda 17 พรนุภาพ Dritshop Idemitsu Dunlop หมายเลข 17 , ภานุพงศ์ สมสวัสดิ์ สังกัดทีม Honda ส.จ.โก๋ WRC ชาญยนต์ Idemitsu Drtc Drirtshop หมายเลข 93, จิรัฎฐ์ วรรณลักษณ์ สังกัดทีม Honda Racing Thailand Idemitsu Wannalak Motorsport หมายเลข 177 และ พัสกร ปริยวงศธร สังกัดทีม Honda Racing Thailand S Motor หมายเลข 3
ผลการควอลิฟายเพื่อหาอันดับการออกสตาร์ต “นีโม่-จิรัฎฐ์” ทำเวลาอันดับที่ 1 แชมป์ประเทศไทย 4 สมัย ”แซงค์-กฤษฎา” ทำเวลาอันดับที่ 3 “โยอิชิ-พัสกร” ทำเวลาอันดับที่ 4 และ “ยศ-ภานุพงศ์” ทำเวลาอันดับที่ 9
การแข่งขันเริ่มต้นขึ้น “โออิชิ” พัสกร ปริยวงศธร ทะยานตัวแข่ง Honda CRF450R คว้าโฮลช็อตได้ทันที พร้อมไล่ล่าหัวแถวของนักแข่งฮอนด้าด้วยกัน ขณะที่ “นีโม่-จิรัฎฐ์” เริ่มต้นเกมได้ไม่ดีนัก แต่บิดไล่แซงคู่แข่งขึ้นมาจากด้านหลังขึ้นเป็นผู้นำได้สำเร็จ และทะยาน Honda CRF450R เข้าเส้นชัยคว้าชัยชนะในการแข่งขันรุ่น Premier MX-1 มาครอง ขณะที่ ”ยศ-ภานุพงศ์” รั้งอันดับที่ 7 ตามด้วย ”แซงค์-กฤษฎา” รั้งอันดับที่ 8 และ “โออิชิ-พัสกร” รั้งอันดับที่ 11
ทั้งนี้ ศึกโมโตครอสชิงแชมป์ประเทศไทย สนาม 2 และ 3 จะดวลกันในระหว่างวันที่ 15-16 มีนาคมนี้ ที่สนามขนอมโมโตครอส (บ้านน้ำโฉ) จ.นครศรีธรรมราช
#ThaiHonda #Motorsport #RaceToTheChampion #ThailandMotocross
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine
-
News Car1 Min Read
มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย มุ่งสนับสนุนความเป็นกลางทางคาร์บอน
ติดตั้งระบบไฟฟ้าจากโซล่าร์เซลล์ให้แก่ โรงพยาบาลพรเจริญ และ โรงพยาบาลสระใคร
ภายใต้โครงการ ‘Solar For Lives: พลังงานแสงอาทิตย์ เพื่อชีวิตที่ดีกว่า’บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด เดินหน้า โครงการ ‘Solar For Lives: พลังงานแสงอาทิตย์ เพื่อชีวิตที่ดีกว่า’ ส่งมอบระบบไฟฟ้าจากโซล่าร์เซลล์ให้แก่โรงพยาบาลชุมชนเพิ่มอีก 2 แห่ง ได้แก่โรงพยาบาลพรเจริญ จังหวัดบึงกาฬ และโรงพยาบาลสระใคร จังหวัดหนองคาย ซึ่งช่วยให้จำนวนโรงพยาบาลชุมชนที่ได้รับประโยชน์จากโครงการนี้เพิ่มขึ้นเป็น 12 แห่ง รวมกำลังไฟฟ้าทั้งหมด 600 กิโลวัตต์ และช่วยลดปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์ได้มากกว่า 360 ตันต่อปี สอดคล้องกับเป้าหมายและความมุ่งมั่นของบริษัทฯ ที่จะติดตั้งระบบไฟฟ้าจากโซล่าร์เซลล์ให้แก่โรงพยาบาลชุมชน 40 แห่งทั่วประเทศภายใน 10 ปี นับตั้งแต่เริ่มโครงการนี้ในปี 2564 จนถึงปัจจุบัน
มร. ชิน คุโบะ กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ สายงานบริหารองค์กรและการเงิน บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “โครงการ ‘Solar For Lives: พลังงานแสงอาทิตย์ เพื่อชีวิตที่ดีกว่า’ แสดงถึงความมุ่งมั่นในการสนับสนุน
การใช้พลังงานอย่างยั่งยืนในประเทศไทย การติดตั้งระบบไฟฟ้าจากโซล่าร์เซลล์ให้กับโรงพยาบาลชุมชน จะช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน พร้อมยกระดับบริการด้านการแพทย์สำหรับชุมชนท้องถิ่น เพื่อให้คนไทยสามารถเข้าถึงบริการด้านสุขภาพที่ดีได้มากขึ้น เราคาดว่าจะลงทุนจำนวน 60 ล้านบาท ในการติดตั้ง และบำรุงรักษาระบบไฟฟ้าจากโซล่าร์เซลล์ในโรงพยาบาลชุมชนจำนวน 40 แห่ง ภายในระยะเวลา 10 ปี นอกจากนี้ยังเป็นการสนับสนุนแหล่งพลังงานที่ยั่งยืนสำหรับโรงพยาบาล ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายของรัฐบาลในการขับเคลื่อนประเทศไทยสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนอีกด้วย”นายแพทย์ ตฤณกฤต สิทธิศร ผู้อำนวยการโรงพยาบาลพรเจริญ จังหวัดบึงกาฬ กล่าวแสดงความขอบคุณว่า “เรารู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ ‘Solar for Lives: พลังงานแสงอาทิตย์ เพื่อชีวิตที่ดีกว่า’ ระบบไฟฟ้าจากโซล่าร์เซลล์นี้ จะช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านไฟฟ้าของเราได้อย่างมาก ทำให้เราสามารถจัดสรรทรัพยากรเพิ่มเติมเพื่อยกระดับบริการทางการแพทย์สำหรับชุมชนของเรา โครงการนี้ยังช่วยผลักดันเรา
สู่เป้าหมายความยั่งยืน โดยมุ่งสู่สังคมคาร์บอนต่ำในอนาคต พร้อมนำพลังงานสะอาด
มาสู่ชุมชนท้องถิ่นของเรา”นายแพทย์ อลงกฏ ดอนละ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสระใคร จังหวัดหนองคาย กล่าวเพิ่มเติมว่า “โครงการนี้แสดงให้เห็นถึงบทบาทสำคัญของพลังงานสะอาดในการพัฒนาบริการด้านการแพทย์ ระบบไฟฟ้าจากโซล่าร์เซลล์จะช่วยลดค่าไฟฟ้าของเราได้อย่างมาก ทำให้เราสามารถนำทรัพยากรไปลงทุนเพิ่มเติมในด้านการดูแลผู้ป่วยและโครงการด้านสุขภาพ การสนับสนุนจาก มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ไม่เพียงช่วยเสริมสร้างความสามารถของโรงพยาบาลของเรา แต่ยังช่วยสนับสนุนวิสัยทัศน์ของประเทศไทยในการก้าวสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนอีกด้วย”
โครงการ ‘Solar for Lives: พลังงานแสงอาทิตย์ เพื่อชีวิตที่ดีกว่า’ เป็นหนึ่งในแผนการดำเนินงานเพื่อสังคมของ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ภายใต้วิสัยทัศน์ ‘สรรค์สร้าง เคียงข้าง สังคมไทย’ และหลักสำคัญ 3 ด้าน ได้แก่ การศึกษา สิ่งแวดล้อม และสุขภาพ ภายใต้ความร่วมมือกับหน่วยงานพันธมิตรต่าง ๆ ได้แก่ กระทรวงสาธารณสุข การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) โดยได้ทำการติดตั้งระบบไฟฟ้าจากโซล่าร์เซลล์ในโรงพยาบาลชุมชนแล้วทั้งหมด 12 แห่ง ประกอบด้วย
1. โรงพยาบาลน้ำพอง จังหวัดขอนแก่น
2. โรงพยาบาลพญาเม็งราย จังหวัดเชียงราย
3. โรงพยาบาลเขาชัยสน จังหวัดพัทลุง
4. โรงพยาบาลวิภาวดี จังหวัดสุราษฎร์ธานี
5. โรงพยาบาลปง จังหวัดพะเยา
6. โรงพยาบาลชานุมาน จังหวัดอำนาจเจริญ
7. โรงพยาบาลด่านมะขามเตี้ย จังหวัดกาญจนบุรี
8. โรงพยาบาลบ้านไร่ จังหวัดอุทัยธานี
9. โรงพยาบาลนาดี จังหวัดปราจีนบุรี
10. โรงพยาบาลนายายอาม จังหวัดจันทบุรี
11. โรงพยาบาลพรเจริญ จังหวัดบึงกาฬ
12. โรงพยาบาลสระใคร จังหวัดหนองคายมร. ชิน คุโบะ (ที่ 3 จากขวา) กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ สายงานบริหารองค์กรและการเงิน บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ส่งมอบระบบไฟฟ้าจากโซล่าร์เซลล์ของ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ให้แก่ นายแพทย์ตฤณกฤต สิทธิศร (ที่ 3 จากซ้าย) ผู้อำนวยการโรงพยาบาลพรเจริญ จังหวัดบึงกาฬ เพื่อส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาดอย่างยั่งยืนในภาคสาธารณสุข และช่วยขับเคลื่อนประเทศไทยสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน โดยได้รับเกียรติจาก นายดนุเดช ใจศรี
(ที่ 4 จากขวา) ปลัดอาวุโส อำเภอพรเจริญ จังหวัดบึงกาฬ และ พันธมิตรร่วมโครงการ นายแพทย์ภมร ดรุณ (ที่ 4 จากซ้าย) นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดบึงกาฬ นางธิดาวรรณ แสวงการ (ที่ 2 จากซ้าย) ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์ความยั่งยืน-2 ฝ่ายกลยุทธ์ความยั่งยืน และ นายสไกร คงธรรม (ซ้ายสุด) ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายจัดการด้านการใช้พลังงานและสิ่งแวดล้อม-1 ฝ่ายจัดการด้านการใช้พลังงานและสิ่งแวดล้อม การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย พร้อมด้วยผู้แทนจำหน่ายรถยนต์มิตซูบิชิในจังหวัดบึงกาฬ ดร. พงษ์ศักดิ์ สกุลคู (ที่ 2 จากขวา) ประธานกรรมการบริหาร และ ดร. กิตติพงษ์ สกุลคู (ขวาสุด) กรรมการบริหาร บริษัท มิตซูเจียงหนองคาย จำกัด ร่วมเป็นสักขีพยานการรับมอบภาพข่าว (โรงพยาบาลสระใคร จังหวัดหนองคาย)
มร. ชิน คุโบะ (ที่ 3 จากขวา) กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ สายงานบริหารองค์กรและการเงิน บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ส่งมอบระบบไฟฟ้าจากโซล่าร์เซลล์ของ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ให้แก่ นายแพทย์ อลงกฏ ดอนละ (ที่ 3 จากซ้าย) ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสระใคร จังหวัดหนองคาย เพื่อส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาดอย่างยั่งยืนในภาคสาธารณสุข และช่วยขับเคลื่อนประเทศไทยสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน โดยได้รับเกียรติจาก นายทวีป ไทยสวี
(ที่ 4 จากขวา) นายอำเภอสระใคร จังหวัดหนองคาย และ พันธมิตรร่วมโครงการ นายแพทย์ บรรจบ อุบลแสน (ที่ 4 จากซ้าย) รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดหนองคาย นางธิดาวรรณ แสวงการ (ที่ 2 จากซ้าย) ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่าย
กลยุทธ์ความยั่งยืน-2 ฝ่ายกลยุทธ์ความยั่งยืน และ นายสไกร คงธรรม (ซ้ายสุด) ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายจัดการ
ด้านการใช้พลังงานและสิ่งแวดล้อม-1 ฝ่ายจัดการด้านการใช้พลังงานและสิ่งแวดล้อม การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่ง
ประเทศไทย พร้อมด้วยผู้แทนจำหน่ายรถยนต์มิตซูบิชิในจังหวัดหนองคาย ดร. พงษ์ศักดิ์ สกุลคู (ที่ 2 จากขวา)
ประธานกรรมการบริหาร และ ดร. กิตติพงษ์ สกุลคู (ขวาสุด) กรรมการบริหาร บริษัท มิตซูเจียงหนองคาย จำกัด ร่วมเป็นสักขีพยานการรับมอบ
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine -
News Car1 Min Read
‘ไทร์พลัส’ จัดโปรแรงร่วมแคมเปญ ‘Easy E-Receipt 2.0’
ลุ้นรับส่วนลด 2,568 บาท พร้อมรับสิทธิ์ลดหย่อนภาษีสูงสุด 30,000 บาทไทร์พลัส ศูนย์บริการรถยนต์ครบวงจร จัดโปรโมชั่นร่วมแคมเปญ ‘Easy E-Receipt 2.0’ ให้ลูกค้าคนพิเศษ เพียงซื้อยางมิชลินรุ่นใดก็ได้ (ยกเว้น MICHELIN XCD2) จำนวน 4 เส้น ลุ้นรับส่วนลดมูลค่า 2,568 บาท และ 800 บาท พร้อมรับสิทธิ์ลดหย่อนภาษีสูงสุด 30,000 บาท ตั้งแต่วันนี้ถึง 28 กุมภาพันธ์ 2568 ที่ศูนย์บริการไทร์พลัสทั่วประเทศ
‘ไทร์พลัส’ จัดโปรแรงร่วมแคมเปญ ‘Easy E-Receipt 2.0’
ลุ้นรับส่วนลด 2,568 บาท พร้อมรับสิทธิ์ลดหย่อนภาษีสูงสุด 30,000 บาท
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine -
News Motocycle1 Min Read
“ก้อง-สมเกียรติ” ปรับตัวดีขึ้น เทสต์วันสุดท้ายที่ “บุรีรัมย์” ก่อนดวลโมโตจีพี สนามแรก
“ก้อง” สมเกียรติ จันทรา ยอดนักบิดโมโตจีพีชาวไทยคนแรกในประวัติศาสตร์ เจ้าของหมายเลข 35 ผลผลิตจากโครงการ “ฮอนด้า เรซ ทู เดอะ ดรีม” จบภารกิจทดสอบรถแข่ง Honda RC213V อย่างเข้มข้นใน พรีซีซั่น เทสต์ (ThaiGP Pre-season Test) ครั้งสุดท้ายของ โมโตจีพี 2025 ด้วยพัฒนาการที่ยอดเยี่ยมในการปรับตัวกับรุ่นใหญ่ที่คืบหน้าไปมากในการการทดสอบ “ไทยจีพี พรี-ซีซั่น เทสต์” (ThaiGP Pre-season Test) มีขึ้นเมื่อวันที่ 12-13 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นช่วงเวลาสำคัญอย่างมากในการทำงานของทุกทีม ในการพัฒนารถแข่งและหาเซ็ตติ้งที่ลงตัวที่สุดร่วมกับนักบิด โดยเฉพาะบรรดา “รุกกี้” ที่ต้องเจอโปรแกรมสุดโหดในการลงเทสต์ รวมถึง “ก้อง-สมเกียรติ” ที่ได้ลงบิดรถแข่ง โมโตจีพี ครั้งแรกที่ บุรีรัมย์
“ก้อง-สมเกียรติ“ ทำงานกับทีมอย่างหนักตลอด 2 วันนี้ จบการทดสอบครั้งนี้ด้วยอันดับ 20 ด้วยเวลาต่อรอบ 1 นาที 30.465 วินาที ตามหลังจ่าฝูง 1.610 วินาที หลังจากที่ลงบิดไปทั้งสิ้น 131 รอบสนาม
นักบิดชาวไทยเผยว่า “ในการทดสอบ 2 วันนี้ที่ บุรีรัมย์ เราทำงานกันอย่างหนัก โดยเน้นไปที่การปรับแต่งรถให้พร้อมที่สุดสำหรับสนามแรกใน 2 สัปดาห์ข้างหน้า ซึ่งผมปรับเข้ากับรถแข่ง โมโตจีพี ได้แล้วราว 99 เปอร์เซ็นต์ แต่ก็ต้องทำความเข้าใจกันแบบสนามต่อสนาม”
“ในวันนี้ซึ่งเป็นวันสุดท้าย ได้ลงวิ่งแบบระยะยาวเพื่อทดสอบหลายๆ อย่าง ทั้งการขับขี่ของตัวผมเอง การทำงานกับรถและยาง โดยรวมแล้วได้ข้อมูลที่ดีมาก ได้ลองการปรับใช้น้ำมันในรูปแบบต่างๆ การเซ็ตติ้งรถแข่งถือว่าดีมากๆ แล้วโมโตจีพีจะต่างกับโมโตทูมาก ผมก็ยังคงต้องเพิ่มความแข็งแกร่งของร่างกายในบางส่วนที่ล้าอยู่บ้าง เพื่อให้พร้อมสำหรับวันแข่ง ฝากพี่น้องชาวไทยส่งแรงใจเชียร์ในสนามแรกด้วยนะครับ ผมจะสู้และทำอย่างเต็มที่ ส่วนใครที่ยังไม่มีบัตร สามารถมาร่วมชมแบบติดขอบสนามใน จันทราสแตนด์ ได้ด้วยเช่นกัน”
สำหรับ “ก้อง-สมเกียรติ” จะมีเวลาพัก 2 สัปดาห์เพื่อเตรียมร่างกายให้พร้อม ก่อนดวลความเร็วสนามแรกของฤดูกาล 2025 ระหว่างวันที่ 28 กุมภาพันธ์ – 2 มีนาคมนี้ ในศึก “พีที กรังด์ปรีซ์ออฟ ไทยแลนด์” ซึ่งนับเป็นนาทีสำคัญของการลงบิดในฐานะนักบิด “พรีเมียร์คลาส” ชาวไทยคนแรกในประวัติศาสตร์ ต่อหน้าแฟนๆ ชาวไทย ที่ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์
แฟนความเร็วชาวไทยติดตามข่าวสาร พร้อมส่งกำลังใจเชียร์ “ก้อง” สมเกียรติ จันทรา นักบิดโมโตจีพีชาวไทยคนแรกในประวัติศาสตร์ และนักบิดฮอนด้า ได้ที่เฟซบุ๊กแฟนเพจ เรซ ทู เดอะ ดรีม : Race to The Dream
#ThaiHonda #HondaRacingThailand #RaceToTheDream #RoadToMotoGP #MotoGP #LCRHondaTeam #LCRHonda #IdemitsuHondaLCR #SC35 #Kong #TheFirstThaiRiderInMotoGP
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine -
News Car1 Min Read
อีซูซุจัดงานเลี้ยงขอบคุณสื่อมวลชน “Journey to the Universe” ทะยานสู่จักรวาล
แห่งความสุขบริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด จัดงานเลี้ยงขอบคุณสื่อมวลชนอย่างอบอุ่น ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Journey to the Universe” การเดินทางสู่จักรวาลแห่งความสุข ปาร์ตี้สุดฉ่ำ เล่นเกมสนุก ดื่มด่ำกับความบันเทิงตลอดงาน ณ ห้องวิภาวดีบอลรูม เซ็นทาราแกรนด์ เซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว
กลุ่มตรีเพชรโดย มร. ทาคาชิ ฮาตะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด เผยว่า “เมื่อปีที่ผ่านมา ประเทศไทยมียอดจำหน่ายรถยนต์รวมทั้งหมด 575,065 คัน นับเป็นปีที่สองติดต่อกันที่ตลาดมีการหดตัวลง สาเหตุหลักของการที่ยอดจำหน่ายลดลงอย่างมากเช่นนี้เกิดจากมาตรการคัดกรองสินเชื่อที่เข้มงวดของบริษัทไฟแนนซ์ เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของหนี้เสีย หรือ NPL ที่เกิดจากปัญหาหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง ในส่วนของรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ ความต้องการในภาคธุรกิจก่อสร้างและอื่น ๆ ลดลงตั้งแต่ครึ่งหลังของปีที่แล้ว เนื่องจากมาตรการการปล่อยสินเชื่อที่เข้มงวดมากขึ้นของบริษัทไฟแนนซ์ ยอดขายรถปิกอัพอีซูซุคือ 61,580 คัน มีส่วนแบ่งตลาด 37.7% เป็นอันดับ 2 ของตลาด ในส่วนของรถยนต์ PPV ยอดขาย “Isuzu MU-X” คือ 13,014 คัน ครองอันดับ 1 ด้วยส่วนแบ่งตลาดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 35.3% สำหรับรถยนต์บรรทุกขนาดกลางและใหญ่ ยอดขายของอีซูซุคือ 10,988 คัน โดยมีส่วนแบ่งตลาดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 60.6% และยังคงเป็นอันดับ 1 ในตลาดเป็นปีที่ 51 นอกจากนี้ในปีที่แล้ว อีซูซุยังได้เปิดตัวรถรุ่นใหม่หลายรุ่นและจัดกิจกรรมต่าง ๆ มากมาย ด้วยการสนับสนุนอย่างเต็มที่จากผู้แทนสื่อมวลชนทุกท่าน ทำให้กิจกรรมต่าง ๆ ของเราในปีที่ผ่านมาได้รับการตอบรับอย่างดียิ่งจากผู้ใช้รถชาวไทย ถึงแม้ในสภาวะธุรกิจที่ไม่เอื้ออำนวยก็ตาม อีซูซุยังคงมุ่งมั่นทำธุรกิจในประเทศไทยอย่างไม่หยุดยั้ง และขอขอบคุณแรงสนับสนุนที่ดี และ “มิตรภาพ” อันมีค่ายิ่งที่ให้พวกเราด้วยดีเสมอมา”
ภายในจักรวาลแห่งความสุข… อีซูซุจัดความสนุกชุดใหญ่พร้อมเสิร์ฟ ตั้งแต่ก้าวแรกหมุนกาชาปอง ลุ้นโชค ต่อด้วยโฟโต้บูธ และ Workshop ครีเอท ID Card เตรียมท่องจักรวาลกันอย่างเก๋ ๆ และควิซเกมสุดมันส์ค้นหา “Isuzu Super Fan” ตัวจริง พร้อมรางวัล Lucky Draw ให้ได้ร่วมสนุกอีกมากมาย พร้อมเซอร์ไพรส์พิเศษกับมินิคอนเสิร์ตจากนักแสดงสาวมากความสามารถ “โบว์ – เมลดา สุศรี” ชวนสื่อมวลชนร้อง เต้น สร้างสีสันและรอยยิ้มตลอดงาน เรียกได้ว่าเป็นปาร์ตี้ความสุขที่อีซูซุตั้งใจจัดเพื่อขอบคุณทุกการสนับสนุนของสื่อมวลชนที่มีให้อีซูซุด้วยดีเสมอมา
ร่วมติดตามข่าวสารของอีซูซุเพิ่มเติมได้ที่ www.isuzu-tis.com หรือ LINE: @isuzuthai
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine -
News Car1 Min Read
โตโยต้า ร่วมลงนามความร่วมมือกับกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัย ภายใต้แนวคิด “Safety Culture Together”
นายสมคิด ประดิษฐกำจรชัย รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) กับกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน เพื่อส่งเสริมวัฒนธรรม ความปลอดภัยภายใต้แนวคิด “Safety Culture Together” โดยมี นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นประธานและสักขีพยานในพิธีลงนามปฏิญญาความปลอดภัย เพื่อร่วมขับเคลื่อนแคมเปญ “Safety Culture Together” ตั้งเป้าลดอัตราการประสบอันตรายจากการทำงาน ณ ห้องประชุมกระทรวงแรงงาน ชั้น 5 เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2568 ที่ผ่านมา
ตลอดระยะเวลาที่ดำเนินธุรกิจในประเทศไทย โตโยต้าให้ความสำคัญกับความปลอดภัยเป็นอันดับแรก (Safety First) และกำหนดเป็นหนึ่งในตัวชี้วัดหลัก (KPI) ขององค์กร โดยมุ่งมั่นในการส่งเสริมความปลอดภัย ตลอดจนพัฒนาระบบการจัดการ ด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัย เพื่อให้สอดคล้องกับข้อกำหนดของกฎหมายและมาตรฐานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงขยายความร่วมมือไปยังผู้ผลิตชิ้นส่วน (Supplier) เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของทรัพยากรบุคคลตลอดทั้งห่วงโซ่ธุรกิจ
บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ได้รับรางวัล “สถานประกอบการดีเด่นด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน” จากสำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานมาโดยตลอดเป็นระยะเวลาต่อเนื่องกันในทุกโรงงาน ซึ่งในปี 2567 ที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้รับรางวัลเกียรติยศ ดังต่อไปนี้
- โรงงานสำโรง ได้รับรางวัลเกียรติยศ “ระดับเพชร” (ติดต่อกันเป็นปีที่ 8)
- โรงงานบ้านโพธิ์ ได้รับรางวัลเกียรติยศ “ระดับแพลทินัม” (ติดต่อกันเป็นปีที่ 11)
- โรงงานเกตเวย์ ได้รับรางวัลเกียรติยศ “ระดับแพลทินัม” (ติดต่อกันเป็นปีที่ 17)
สำหรับความร่วมมือในครั้งนี้ เป็นอีกหนึ่งความมุ่งมั่นของบริษัทฯ ในการยกระดับมาตรฐานการดำเนินงานภายในองค์กร ผ่านความร่วมมือกับพันธมิตรภาครัฐ และภาคเอกชนชั้นนำ เพื่อลดอัตราการประสบอันตรายจากการทำงาน และส่งเสริมวัฒนธรรมความปลอดภัยอย่างยั่งยืนแก่ประเทศไทยต่อไป
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine -
News Motocycle1 Min Read
ปิดฉากประทับใจ! “โมโตจีพี” เทสต์สนั่นโลก “มาร์เกซ” เร็วที่สุด “สมเกียรติ” ยกระดับก่อน ThaiGP
“ซูเปอร์สตาร์นักบิดโมโตจีพี” ดวลความเร็ว “ThaiGP Pre-Season Test”เข้มข้น ผลปรากฏว่า มาร์ค มาร์เกซ แชมป์โลกจาก ดูคาติ ผงาดรั้งจ่าฝูงเหนือน้องชายอย่าง อเล็กซ์ มาร์เกซ ขณะที่ “ก้อง” สมเกียรติ จันทรา นักบิดชาวไทยจาก ฮอนด้า ทำงานอย่างหนักหลังบิดทั้งสิ้น 131 รอบสนาม ยกระดับได้ยอดเยี่ยม ก่อนเปิดฤดูกาล โมโตจีพี 2025 ที่ประเทศไทย ในศึก “พีที กรังด์ปรีซ์ ออฟ ไทยแลนด์” 28 กุมภาพันธ์-2 มีนาคมนี้
การทดสอบพรีซีซั่นอย่างเป็นทางการของศึก โมโตจีพี 2025 “ThaiGP Pre-Season Test” จบลงอย่างเป็นทางการ หลังผ่านการทำงานอย่างหนักของทีมแข่ง วิศวกร และนักบิดทุกคน ระหว่างวันที่ 12-13 กุมภาพันธ์ 2568 ที่ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์
ผลการทดสอบปรากฏว่า “มาร์ค มาร์เกซ” แชมป์โลกชาวสแปนิชจาก ดูคาติ เลอโนโว ทีม ด้วยเวลาต่อรอบ 1 นาที 28.855 วินาที หลังวิ่งไปทั้งสิ้น 156 รอบสนาม ในช่วง 2 วันที่ผ่านมา โดยยังไม่สามารถทำลายสถิติเดิม 1 นาที 28.700 วินาที ของทีมเมทอย่าง ฟรานเชสโก้ บันยาญ่า ลงได้ ส่วนอันดับ 2 เป็นของ “อเล็กซ์ มาร์เกซ” นักบิดสแปนิชจาก เกรซินี เรซซิ่ง ตามหลัง 0.179 วินาที ขณะที่อันดับ 3 เป็นของ “มาร์โก เบซเซ็คคี” นักบิดอิตาเลียนจาก อพริเลีย เรซซิ่ง ตามหลัง 0.205 วินาที
ส่วน “เปโดร อคอสต้า” นักบิดดาวโรจน์ชาวสแปนิชจาก เรดบูล เคทีเอ็ม แฟ็คตอรี เรซซิ่ง จบการทดสอบครั้งนี้ในอันดับ 4 ด้วยเวลาต่อรอบ 1 นาที 29.133 วินาที ตามหลังจ่าฝูง 0.278 วินาที ด้าน “ฟรานเชสโก้ บันยาญ่า” แชมป์โลก 2 สมัย ยังไม่ลงตัวมากนัก รั้งอันดับ 5 ด้วยเวลาสต่อรอบ 1 นาที 29.378 วินาที ตามหลังทีมเมทอย่าง มาร์ค มาร์เกซ 0.523 วินาที
ขณะที่ “โจอัน เมียร์” ชาวสแปนิชจาก ฮอนด้า เอชอาร์ซี คาสตรอล ส่งสัญญาณยอดเยี่ยม ขยับขึ้นมารั้งท็อป 6 ด้วยเวลาต่อรอบ 1 นาที 29.399 วินาที บีบระยะเข้าไปหาหัวแถวเหลือ 0.544 วินาที ตามด้วย “ฟรานโก้ มอร์บิเดลลี” นักบิดอิตาเลียนจาก เปอร์ตามิน่า เอ็นดูโร วีอาร์46 เรซซิ่ง ในอันดับ 7 ตามหลัง 0.599 วินาที
ส่วน “ฟาบิโอ กวาร์ตาราโร” แชมป์โลก 1 สมัยชาวฝรั่งเศสจาก มอนสเตอร์ อีเนอร์จี้ ยามาฮ่า โมโตจีพี จบการทดสอบครั้งนี้ในอันดับ 8 ด้วยเวลาต่อรอบ 1 นาที 29.586 วินาที ตามหลังจ่าฝูง 0.731 วินาที ตามด้วย “มาเวริค บีญาเลส” นักบิดสแปนิชจาก เรดบูล เคทีเอ็ม เทคทรี ตามหลัง 0.751 วินาที และอันดับ 10 เป็นของ “แจ็ค มิลเลอร์” นักบิดออสเตรเลียนจาก พรีม่า พรามัค ยามาฮ่า โมโตจีพี ตามหลังหัวแถว 0.762 วินาที
สำหรับนักบิดโมโตจีพีชาวไทยคนแรกในประวัติศาสตร์อย่าง “ก้อง” สมเกียรติ จันทรา จาก อิเดมิตสึ ฮอนด้า แอลซีอาร์ ทำงานกับทีมและวิศวกรของ ฮอนด้า อย่างหนัก จบการทดสอบครั้งนี้ด้วยอันดับ 20 ด้วยเวลาต่อรอบ 1 นาที 30.465 วินาที ตามหลังจ่าฝูง 1.610 วินาที หลังจากที่ลงบิดไปทั้งสิ้น 131 รอบสนาม
ด้านรุกกี้ที่ผลงานดีที่สุดในการทดสอบครั้งนี้ได้แก่ “ไอ โอกูระ” นักบิดชาวญี่ปุ่นจาก แทร็คเฮาส์ เรซซิ่ง ภายใต้รถแข่งอพริเลีย รั้งอันดับ 11 ด้วยเวลาต่อรอบ 1 นาที 29.636 วินาที ตามหลังจ่าฝูง 0.781 วินาที ตามด้วย “เฟร์มิน อัลเดเกร์” นักบิดดาวรุ่งชาวสแปนิชจาก เกรซินี เรซซิ่ง ในอันดับ 18 ตามหลัง 1.230 วินาที
ทั้งนี้ หลังจบภารกิจการทดสอบ “ThaiGP Pre-Season Test”อย่างเป็นทางการของ โมโตจีพี 2025 บรรดานักบิดพรีเมียร์คลาสทุกคน จะมีเวลาพักราว 2 สัปดาห์ ก่อนเข้าสู่การแข่งขันสนามแรกของฤดูกาล ระหว่างวันที่ 28 กุมภาพันธ์-2 มีนาคมนี้ ในศึก “พีที กรังด์ปรีซ์ ออฟ ไทยแลนด์” ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ที่ประเทศไทยรองรับการแข่งขันสนามแรกของศึกจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลก
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine -
News Car1 Min Read
โตโยต้ามอบโอกาสทางการศึกษาอย่างยั่งยืน ผ่านการมอบทุนแก่นิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ประจำปีการศึกษา 2567 ต่อเนื่องเป็นปีที่ 52
นายนินนาท ไชยธีรภิญโญ ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ และ นายสุรภูมิ อุดมวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ร่วมเป็นเกียรติในพิธีมอบทุนการศึกษาแก่นิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ประจำปีการศึกษา 2567 ต่อเนื่องเป็นปีที่ 52 โดยมีศาสตราจารย์ ดร. วิเลิศ ภูริวัชร อธิการบดีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พร้อมด้วยคณาจารย์ และคณะผู้บริหารระดับสูง ร่วมแสดงความยินดี เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2568 ณ อาคารจามจุรี 4 จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ตระหนักถึงความสำคัญของการศึกษาอันเป็นรากฐานที่สำคัญยิ่งต่อการพัฒนาศักยภาพของเยาวชนไทยให้มีความรู้ความสามารถ และทักษะขั้นพื้นฐานที่จำเป็น เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตผ่านการมอบทุนการศึกษาภายใต้โครงการ “TOYOTA GIVING ขับเคลื่อนไทยให้ยั่งยืน”ด้วยการแบ่งปันโอกาสทางการศึกษาให้แก่นิสิตที่มีผลการเรียนดี ความประพฤติดี แต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ อย่างต่อเนื่องมาเป็นเวลากว่า 52 ปี
โดยโตโยต้า ได้ให้การสนับสนุนทุนการศึกษาแก่นิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2516จนถึงปัจจุบัน รวมทั้งสิ้น 1,627 ทุน คิดเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 22,482,000 บาท ซึ่งในปีนี้ มีนิสิตเข้ารับทุนดังกล่าว จำนวน 12 ทุน รวมเป็นมูลค่า 960,000 บาท ดังนี้
- คณะวิศวกรรมศาสตร์ จำนวน 4 ทุน
- คณะอักษรศาสตร์ จำนวน 2 ทุน
- คณะเศรษฐศาสตร์ จำนวน 2 ทุน
- คณะทันตแพทยศาสตร์ จำนวน 1 ทุน
- คณะรัฐศาสตร์ จำนวน 1 ทุน
- คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จำนวน 1 ทุน
- คณะศิลปกรรมศาสตร์ จำนวน 1 ทุน
โตโยต้ายังคงมุ่งมั่นสานต่อเจตนารมณ์ในการสนับสนุนด้านการศึกษาอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งการพัฒนาเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตผู้คนในสังคมไทยให้เติบโตไปด้วยกัน ภายใต้แนวคิด “TOYOTA GIVING ขับเคลื่อนไทยให้ยั่งยืน” ผ่านการให้ในทุกมิติ ได้แก่
ให้…สุขภาพที่ยั่งยืน
ให้…ความเป็นอยู่ที่ยั่งยืน
ให้…ภูมิปัญญาที่ยั่งยืน
ให้…การศึกษาที่ยั่งยืน
ซึ่งถือเป็นพันธกิจสำคัญของโตโยต้า เพื่อร่วมผลักดันสังคมไทยสู่เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals) ต่อไป
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine