• มาสด้าอัปสกิลจัดแข่งขัน MAZTECH THAILAND ประจำปี 2567 ยกระดับมาตรฐานการบริการส่งมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้ลูกค้า

    1 Min Read

    มาสด้าอัปสกิลจัดแข่งขัน MAZTECH THAILAND ประจำปี 2567 ยกระดับมาตรฐานการบริการส่งมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้ลูกค้า

    มาสด้าเป็นมากกว่าแบรนด์ที่จำหน่ายรถยนต์ เป็นผู้ที่มีความรักในรถยนต์ และต้องการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับทุกคนที่รักรถ เพื่อส่งมอบความสุขในการขับขี่ให้กับลูกค้าทุกคน โดยมีเป้าหมายคือเป็นแบรนด์รถยนต์ที่ลูกค้ารักและมองหา เป็นแบรนด์ที่สร้างความเชื่อมโยงทางด้านอารมณ์ ความรู้สึก เพื่อมอบประสบการณ์ความสุขในการขับขี่จนพัฒนาเป็นความสุขในการใช้ชีวิต และกลายเป็น “ส่วนหนึ่งของชีวิตที่เติมเต็มความหมาย” มาสด้าจึงจัดการแข่งขันทักษะด้านการบริการลูกค้า หรือ MAZTECH Thailand ประจำปี 2567 เพื่อเฟ้นหาสุดยอดพนักงานฝ่ายบริการหลังการขายที่มีความเป็นเลิศใน 3 ประเภท คือ ประเภทช่างเทคนิค ที่ปรึกษาด้านการบริการ และเจ้าหน้าที่ลูกค้าสัมพันธ์ ซึ่งเป็นไปตามพันธกิจของแบรนด์มาสด้า เพื่อยกระดับมาตรฐานการบริการตามแนวทางการบริหารคุณค่าแบรนด์ (Mazda Brand Value Management) เน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นในการพัฒนาทักษะและส่งเสริมศักยภาพความแข็งแกร่งให้บุคลากรของผู้จำหน่ายมาสด้าทั่วประเทศ ด้วยปณิธานที่มุ่งมั่นในการส่งมอบประสบการณ์อันน่าประทับใจ และสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้กับลูกค้าตลอดระยะเวลาที่ครอบครองรถ โดยคัดเลือกสุดยอดบุคลากรจากทั่วประเทศด้วยการทดสอบที่เข้มข้นให้เหลือเพียง 30 คน เพื่อเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ โดยการแข่งขันจัดขึ้น ณ ศูนย์ฝึกอบรมมาสด้า

    นายศราวุฒิ บรรยงค์กุล ผู้อำนวยการฝ่ายบริการลูกค้า บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) กล่าวเปิดงาน MAZTECH Thailand ว่าเป็นกิจกรรมที่มาสด้าจัดขึ้นเป็นประจำทุกปีและต่อเนื่องมาเป็นเวลา 19 ปี โดยมีวัตถุประสงค์หลักสำคัญ คือ การยกระดับมาตรฐานการให้บริการตามแนวทางการบริหารคุณค่าแบรนด์มาสด้า Mazda Brand Value Management อันสะท้อนให้เห็นถึงปรัชญาและแนวคิด PPV ประกอบด้วย Purpose เจตนารมณ์และเหตุผลในการดำรงอยู่ของมาสด้า Promise คำมั่นสัญญาจากแบรนด์ที่มีให้กับลูกค้า และ Values การสร้างคุณค่าของแบรนด์ให้เป็นมากกว่ายานพาหนะ ทั้งสามส่วนนี้คือแกนหลักในการส่งมอบคุณค่าให้กับลูกค้า เพื่อสร้างประสบการณ์ความประทับใจและความพึงพอใจสูงสุดตลอดระยะเวลาครอบครองรถ จนกระทั่งกลับมาซื้อซ้ำหรือซื้อเพิ่มเติม อันเป็นเป้าหมายของแบรนด์ตามกลยุทธ์ Retention Business Model ที่มาสด้ามุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจโดยมีลูกค้าเป็นศูนย์กลาง (Customer Centric) ในทุกกระบวนการของการทำงาน เพื่อส่งมอบประสบการณ์อันน่าประทับใจ รวมถึงเติมเต็มคุณค่าในทุกเส้นทางและทุกการใช้ชีวิตของลูกค้า

    ปัจจุบันมาสด้ามีผู้จำหน่ายทั้งหมด 84 โชว์รูม สามารถรองรับลูกค้าเข้ารับบริการได้ถึง 700,000 คันต่อปี หรือ 57,000 คันต่อเดือน โดยในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑลมีจำนวน 19 โชว์รูม สามารถรองรับปริมาณลูกค้าเข้ารับบริการได้ถึง 250,000 คนต่อปี หรือ มากกว่า 20,000 คันต่อเดือน ส่วนต่างจังหวัดมีผู้จำหน่ายอยู่ทั้งหมด 65 แห่ง สามารถรองรับปริมาณการบริการได้สูงสุด 450,000 คันต่อปี หรือ มากกว่า 37,000 คันต่อเดือน พร้อมรองรับความต้องการของลูกค้าที่จะมาเข้ารับบริการได้เพียงพอและครอบคลุมทั่วประเทศ

    การจัดแข่งขัน MAZTECH Thailand ประจำปี 2567 จัดขึ้นเพื่อส่งเสริมให้บุคลากรฝ่ายบริการของผู้จำหน่ายทั่วประเทศ ได้มีโอกาสพัฒนาขีดความสามารถของตนเอง และเพิ่มศักยภาพในการให้บริการลูกค้าอย่างต่อเนื่อง และนำเอาองค์ความรู้ที่ได้รับจากการแข่งขันกลับไปดูแลลูกค้าให้ดีที่สุด รวมถึงให้คำแนะนำและการช่วยเหลือลูกค้าให้เกิดความสบายใจไร้ความกังวลในทุกครั้งที่กลับเข้าศูนย์ฯ ด้วยคุณภาพการบริการที่ได้มาตรฐานและใส่ใจในทุกรายละเอียด อีกทั้งสามารถแก้ไขปัญหาได้ครบจบในครั้งแรก ที่สำคัญยังเป็นการเตรียมความพร้อมในการเป็นตัวแทนจากประเทศไทย เข้าร่วมการแข่งขันทักษะด้านบริการในระดับนานาชาติต่อไป โดยในปี 2567 ที่ผ่านมา มีผู้ผ่านเข้าร่วมการแข่งขันรอบคัดเลือกทั้งหมด 188 คน จากบุคลากรของผู้จำหน่ายทั่วประเทศ โดยแบ่งออกเป็นช่างเทคนิค 66 คน ที่ปรึกษาด้านการบริการ 61 คน และเจ้าหน้าที่ลูกค้าสัมพันธ์ 61 คน ผู้ที่ได้รับคะแนนสูงสุดจำนวน 10 คน ในแต่ละประเภท จะได้เข้าร่วมการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ ณ ศูนย์ฝึกอบรมมาสด้า โดยผู้ที่ชนะเลิศในการแข่งขันแต่ละประเภทประจำปี 2567 มีดังต่อไปนี้

    ประเภท ช่างเทคนิค

    ชนะเลิศ : นาย ภาณุพงษ์ คมขำ บริษัท มาสด้า ชลบุรี จำกัด (มหาชน) – ประดิษฐ์มนูธรรม

    รองชนะเลิศ อันดับ 1: นาย ณัฐนันต์ พวงทอง บริษัท นที ยูนิตี้ มอเตอร์ จำกัด – ราชพฤกษ์

    รองชนะเลิศ อันดับ 2: นาย อนุพงษ์ มูลอ้าย บริษัท 14 ออโตโมทีฟ จำกัด

    ประเภท ที่ปรึกษาด้านบริการ

    ชนะเลิศ : นางสาว วรรนิสา นาคพลี บริษัท แอลบาทรอส ออโต้ จำกัด

    รองชนะเลิศ อันดับ 1: นางสาว สาวิตรี ไพรศรี บริษัท มาสด้าเชียงใหม่ จำกัด

    รองชนะเลิศ อันดับ 2: นางสาว วันวิสา เพ็ชรประเสริฐ บริษัท มาสด้า มหาราช จำกัด

    ประเภท เจ้าหน้าที่ลูกค้าสัมพันธ์

    ชนะเลิศ : นางสาว ฐิติมา แสงรอด บริษัท วีเอ็มดี ออโต้เซลส์ จำกัด

    รองชนะเลิศ อันดับ 1 : นางสาว ศศิธร น้อยวิไล บริษัท 14 ออโตโมชั่น จำกัด

    รองชนะเลิศ อันดับ 2 : นางสาว จุฑามาศ รักธรรม บริษัท ดุสิตออโต้เซลส์ จำกัด

    มร. ทาเคชิ มิคามิ ผู้อำนวยการฝ่ายวางแผนกลยุทธ์และพัฒนาธุรกิจ บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) กล่าวในพิธีมอบรางวัล MAZTECH Thailand ในปีนี้ว่า “มาสด้า เซลส์ ประเทศไทย ขอแสดงความยินดีกับผู้ที่ชนะเลิศและรองชนะเลิศการแข่งขัน MAZTECH Thailand ประจำปี 2567 ขอขอบคุณในความมุ่งมั่นเพื่อส่งมอบประสบการณ์บริการที่เป็นเลิศให้กับลูกค้าของเราเสมอมา รวมถึงผู้บริหารของผู้จำหน่ายฯ ที่ให้การสนับสนุนการพัฒนาบุคลากรอย่างต่อเนื่อง ตามปณิธานของมาสด้า คือ การส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่นำมาซึ่งประสบการณ์ความสุขในการขับขี่ เพื่อยกระดับประสบการณ์การใช้ชีวิตในทุกมิติ โดยมีลูกค้าเป็นศูนย์กลางในทุกบริบท สำหรับทุกท่านที่ผ่านเข้ามาสู่รอบชิงชนะเลิศครั้งนี้ ผมชื่นชมและเป็นกำลังใจให้ทุกคนมุ่งมั่นฝึกฝนพัฒนาทักษะอย่างต่อเนื่อง มุ่งมั่นไม่ย่อท้อ เชื่อว่าทุกคนล้วนมีหัวใจรักในการบริการ เพราะเราล้วนมีสปิริตเดียวกัน นั่นคือ Challenger Spirit อันเป็นสิ่งหล่อหลอมให้พวกเราชาวมาสด้าเดินหน้ามาจนถึงทุกวันนี้ ผนวกกับจิตวิญญาณการให้บริการที่เอาใส่ใจในทุกรายละเอียด ไม่เพียงแค่กระบวนการทำงานที่ได้มาตรฐานเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการขยายครอบครัวมาสด้าให้เติบโตอย่างยั่งยืน อันเกิดจากความมุ่งมั่นที่แท้จริง แล้วเราจะประสบความสำเร็จในอนาคตไปด้วยกันได้อย่างแน่นอน

    “มาสด้าขอให้คำมั่นสัญญาว่า เราจะเดินหน้าอย่างไม่หยุดยั้งเพื่อส่งมอบการบริการที่ดีที่สุดให้กับลูกค้ามาสด้าในทุก Touchpoint ยกระดับประสบการณ์ด้านการบริการให้กับลูกค้าทุกคน และมุ่งมั่นยกระดับมาตรฐานการบริการให้ดียิ่ง ๆ ขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพื่อส่งมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าแบบครบวงจร นับแต่วันแรกที่แบรนด์มาสด้าได้มีโอกาสทำความรู้จักกับลูกค้า ตั้งแต่ก่อนที่ลูกค้าจะซื้อรถ ตลอดจนการบริการหลังการขาย หรือการกลับมาซื้อซ้ำในครั้งต่อๆ ไป เพื่อแทนคำขอบคุณที่ลูกค้าไว้วางใจและเลือกใช้รถยนต์มาสด้าเป็นรถยนต์คู่ใจของทุกคนในครอบครัว” มร. ทาเคชิ มิคามิ กล่าวเพิ่มเติม


    ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย

    Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
    Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
    Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
    instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
    Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
    Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
    Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine


    No Comment
  • มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ชวนลูกค้าร่วมปลูกปะการัง กับทริปสุดพิเศษ ‘THE EXCLUSIVE STORY – EP.4 D[R]IVE FOR REVIVAL’

    1 Min Read

    มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ชวนลูกค้าร่วมปลูกปะการัง กับทริปสุดพิเศษ ‘THE EXCLUSIVE STORY – EP.4 D[R]IVE FOR REVIVAL’

     

    บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ชวนลูกค้าร่วมปลูกปะการัง กับทริปสุดพิเศษ  THE EXCLUSIVE STORY – EP.4 D[R]IVE FOR REVIVAL’ ณ ปลายแหลมแสมสาร อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ตอกย้ำแนวคิด ‘Everyday Adventure’ เปิดประสบการณ์ใหม่ให้กับลูกค้าได้สนุกกับทุกการเดินทาง พร้อมสะท้อนความมุ่งมั่นในการสร้างความยั่งยืนทางสิ่งแวดล้อมของแบรนด์

    นางสาวริสึโคะ คาเนะโคะ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส สายงานบริหารประสบการณ์ลูกค้าและนวัตกรรมการบริการ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “กิจกรรมนี้ตอกย้ำความมุ่งมั่นที่จะมอบประสบการณ์พิเศษให้กับลูกค้าได้สนุกกับทุกการเดินทาง ด้วยรถยนต์คุณภาพสูงและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมของเรา ที่เป็นเสมือนเพื่อนร่วมทาง พร้อมลุยไปกับคุณในทุกที่ มอบความปลอดภัยและความสะดวกสบายสูงสุดแก่ผู้ขับขี่และผู้โดยสาร เติมเต็มความสนุกเร้าใจให้กับการขับขี่ในทุกๆ วัน ภายใต้แนวคิด ‘Everyday Adventure’ และสอดคล้องกับแผนการดำเนินงานเพื่อสังคมของเราในด้านสิ่งแวดล้อมอีกด้วย”

    กิจกรรมครั้งนี้เริ่มจากการบรรยายพิเศษ โดยผู้เชี่ยวชาญของค่ายวิทยาศาสตร์ทางทะเลและการอนุรักษ์ เพื่อมอบความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับชีววิทยาของปะการัง ความท้าทายด้านสิ่งแวดล้อมของแนวปะการัง และแนวทางการฟื้นฟูระบบนิเวศทางทะเล พร้อมการฝึกอบรมการใช้อุปกรณ์ดำน้ำตื้นและเทคนิคการดำน้ำพื้นฐาน ก่อนออกเดินทางสู่ทะเลเพื่อร่วมกิจกรรมการปลูกและฟื้นฟูแนวปะการัง

    หลังเสร็จสิ้นกิจกรรม ผู้เข้าร่วมงานยังได้เพลิดเพลินไปกับเครื่องดื่มและของว่าง พร้อมชมวิวทะเลที่สวยงามที่ร้าน Palyn Cafe & Eatery Samaesarn คาเฟ่ชื่อดังในสัตหีบ ก่อนร่วมงานเลี้ยงรับประทานอาหารค่ำสุดพิเศษ พร้อมด้วยดนตรีสด และกิจกรรมความสนุกอีกมากมาย

    นายพีรภัทร  ศรีประมาณ เจ้าของรถยนต์ มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ ครอส เอชอีวี กล่าวว่า “ถึงแม้จะเคยร่วมกิจกรรม CSR หลายครั้ง แต่ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ได้ทำกิจกรรมร่วมกับเพื่อนชาวมิตซูบิชิ รู้สึกประทับใจและสนุกมากครับ ผมให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมอยู่แล้ว และก่อนตัดสินใจซื้อรถก็เคยเปรียบเทียบกับ EV แต่เนื่องจากไม่สะดวกที่จะติดตั้งที่ชาร์จ จึงมองว่ารถ เอ็กซ์แพนเดอร์ ครอส เอชอีวี ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ได้มากกว่า ทั้งในเรื่องความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและความประหยัดน้ำมัน ชอบที่สามารถเลือกใช้โหมดการขับขี่ได้ โดยส่วนใหญ่ผมใช้ Normal กับ EV Mode ที่ช่วยให้การขับขี่ประหยัดพลังงานมากขึ้นครับ”

    นายศุภทิน รอดแก้ว อีกหนึ่งลูกค้าที่เข้าร่วมกิจกรรม เจ้าของรถยนต์ มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต กล่าวว่า “ปกติผม  เดินทางบ่อย ทั้งกลับบ้านที่ตรังและสุราษฎร์ รวมถึงเที่ยวทะเลแถวบางแสนและพัทยา ทริปนี้เป็นครั้งแรกที่ได้ร่วมกิจกรรมกับมิตซูบิชิ มอเตอร์ส และประทับใจมาก ทีมงานดูแลดีและเป็นกันเองสุดๆ แสมสารเป็นทะเลอีกหนึ่งที่ ที่สวยงามมาก มีจุดดำน้ำและสามารถชมปะการังได้ นับเป็นประสบการณ์ใหม่สำหรับผม ส่วนตัวที่เลือกใช้รถ ปาเจโร สปอร์ต เพราะตอบโจทย์การเดินทางของครอบครัว และกำลังวางแผนจะมีลูก เลยต้องการรถที่มีพื้นที่กว้างขวางขึ้น อีกทั้งระบบขับเคลื่อน 4 ล้อแบบฟูลไทม์ ก็ช่วยให้ขับขึ้นเขาหรือเดินทางในหลากหลายสภาพถนนได้มั่นใจยิ่งขึ้น”

    ลูกค้าและผู้สนใจเข้าร่วมกิจกรรมพิเศษจากมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย เพื่อร่วมสัมผัสประสบการณ์สุดเอ็กซ์คลูซีฟ สามารถติดตามข้อมูลข่าวสารได้ที่ www.facebook.com/MitsubishiMotorsTH หรือติดต่อเพื่อขอทดลองขับได้ที่ www.mitsubishi-motors.co.th และสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมผ่าน มิตซูบิชิ คอลเซ็นเตอร์ หมายเลขโทรศัพท์ 02-079-9500 เปิดรับสายทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง


    ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย

    Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
    Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
    Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
    instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
    Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
    Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
    Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine


    No Comment
  • ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ สร้างปรากฎการณ์ยอดขายทั่วโลกในปี 2024

    1 Min Read

    ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ สร้างปรากฎการณ์ยอดขายทั่วโลกในปี 2024

    ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ เผยยอดขายรถจักรยานยนต์มากกว่า 100,000 คันทั่วโลกในปี 2024 ซึ่งเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ 122 ปีของบริษัท

    ภาพรวมรถจักรยานยนต์ไทรอัมพ์ได้ถูกจำหน่ายให้กับลูกค้าทั่วโลกเป็นจำนวน 134,635 คันในปี 2024 เป็นการเติบโตขึ้นถึง 64% จากปี 2023

    ยอดขายของไทรอัมพ์เพิ่มขึ้นในทุกภูมิภาคทั่วโลก โดยยอดขายเติบโตสูงสุดอยู่ที่ประเทศอินเดีย ซึ่งมียอดขายอยู่ที่ 29,736 คัน และในภูมิภาคอเมริกา ซึ่งรวมบราซิล แคนาดา และสหรัฐอเมริกา แสดงให้เห็นยอดขายเพิ่มขึ้น 44% เมื่อเทียบกับปี 2023 แนวคิดนี้สะท้อนให้เห็นในตลาดตัวแทนผู้จัดจำหน่ายซึ่งมีการเติบโตของยอดขายถึง 33% เช่นเดียวกับการเติบโต 30% ในเอเชีย และการเติบโต 18% ในตลาดยุโรป ซึ่งยังคงเป็นภูมิภาคที่ใหญ่ที่สุดของไทรอัมพ์

    5 ปีแห่งการเติบโตอย่างต่อเนื่อง

    บริษัท ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ จำกัด ซึ่งเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายรถจักรยานยนต์ ชิ้นส่วนที่เกี่ยวข้อง อุปกรณ์เสริม และสินค้าเครื่องแต่งกายใน 68 ประเทศทั่วโลก ได้สร้างสถิติการขายรถจักรยานยนต์สูงสุดเป็นประวัติการณ์เป็นปีที่ 5 ติดต่อกัน

    ตั้งแต่ปี 2019 ยอดขายรถจักรยานยนต์ไทรอัมพ์เพิ่มขึ้น 123% โดยมีการเติบโตในทุกตลาด และการเติบโตที่โดดเด่นเกิดขึ้นในประเทศบราซิล อิตาลี ญี่ปุ่น ตุรกี ฮังการี โปแลนด์ เม็กซิโก และอินเดีย โดยยอดขายของไทรอัมพ์เพิ่มขึ้นมากกว่าสองเท่าตั้งแต่ปี 2019

    โดยการเติบโตของยอดขายนี้ สะท้อนให้เห็นจากการขยายเครือข่ายผู้จำหน่ายทั่วโลกของไทรอัมพ์ ซึ่งเพิ่มขึ้นเป็น950 ผู้แทนจำหน่ายในปัจจุบัน และมีพันธมิตรทางธุรกิจผู้จำหน่ายรายใหม่มากกว่า 230 รายเข้าร่วมกับแบรนด์ตั้งแต่ปี 2019

    นอกจากนี้ ไทรอัมพ์ ยังได้นำเสนอแพ็คเกจหลังการขายที่ครบครันสำหรับผู้ขับขี่ อาทิ การเปิดตัว Triumph Performance Lubricants ผลิตภัณฑ์หล่อลื่นและดูแลรักษารถจักรยานยนต์ไทรอัมพ์ของคุณ ข้อเสนอด้านการเงิน การรับประกัน และการร่วมมือในการรังสรรค์กลุ่มผลิตภัณฑ์เสื้อผ้าใหม่ ๆ เมื่อรวมกันแล้วสามารถสร้างรายได้สูงสุดเป็นประวัติการณ์จากชิ้นส่วนรถจักรยานยนต์ เสื้อผ้า และอุปกรณ์เสริม

    การเปิดตัวโมเดลใหม่ในปี 2024

    ผลงานสำคัญอันน่าทึ่งสำหรับปี 2024 นี้ เกิดขึ้นจากการเปิดตัวโมเดลใหม่ที่ครอบคลุม รวมถึงการเข้าถึงกลุ่มตลาดใหม่ทั้งหมดได้สำเร็จ

    เพื่อตอบสนองต่อความต้องการในกลุ่มรถจักรยานยนต์ขนาดเล็กที่เพิ่มมากขึ้นทั่วโลก ไทรอัมพ์จึงได้เปิดตัว รถจักรยานยนต์ไทรอัมพ์รุ่น Speed ​​400 และ Scrambler 400 X ขนาดเครื่องยนต์ 400 ซีซี โดยพร้อมส่งมอบรถในช่วงต้นปี 2024 ที่ผ่านมา โดยทั้ง 2 รุ่นเป็นรถจักรยานยนต์ที่ได้รับการออกแบบใหม่ทั้งหมด โดยมีแพลตฟอร์มเครื่องยนต์สูบเดียวใหม่ล่าสุดเป็นหัวใจหลัก รถจักยานยนต์ไทรอัมพ์รุ่นใหม่นี้ได้รับการออกแบบมาเพื่อมอบการขับขี่ที่สนุกสนาน คล่องตัว และสร้างความมั่นใจให้กับผู้ขับขี่ทุกวัยและทุกระดับประสบการณ์

    พร้อมกันนี้ ไทรอัมพ์ ยังเข้าสู่ตลาดรถจักรยานยนต์โมโตครอสเป็นครั้งแรกด้วยการเปิดตัวรุ่น TF 250-X ในเดือนพฤษภาคม 2024 ด้วยอัตราส่วนกำลังต่อน้ำหนักในระดับแนวหน้าของกลุ่มและสเปคที่ครบครันที่สุดเท่าที่เคยมีมาในตลาดรถจักรยานยนต์โมโตครอส ขนาด 250 ซีซี ที่มีการแข่งขันสูง ซึ่งรถจักรยานยนต์รุ่นใหม่นี้ได้รับการยอมรับและความสนใจจากสื่อมวลชนและเหล่านักขับขี่ ในขณะที่รถจักรยานยนต์โมโตครอส 450 ซีซี รุ่นแรกจากไทรอัมพ์ ได้แก่ TF 450-RC Edition ที่ได้เปิดตัวในเดือนกันยายน 2024 ที่ผ่านมา โดยมีกำหนดวางขายที่ผู้แทนจำหน่ายไทรอัมพ์ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2025 เป็นต้นไป

    นอกจากนี้ยังมีการพัฒนารถจักรยานยนต์รุ่นใหม่ในตลาดขนาด 500 ซีซี อย่างต่อเนื่อง ซึ่งเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นอันแรงกล้าของไทรอัมพ์ รวมถึงการรังสรรค์รถจักรยานยนต์รุ่นพิเศษเพื่อกระตุ้นความต้องการของผู้บริโภค และการอัปเดตรุ่นต่าง ๆ ที่มีอยู่  เพื่อเป็นไปตามมาตรฐานการควบคุมการปล่อยมลพิษไอเสียของยานพาหนะ ตามมาตรฐาน Euro 5b

    Daytona 660 รุ่นใหม่ล่าสุด ถือเป็นรถรถจักรยานยนต์สปอร์ตรุ่นใหม่จากไทรอัมพ์ที่กำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น ซึ่งได้วางจำหน่ายในช่วงฤดูใบไม้ผลิปี 2024 ที่ผ่านมา โดยเป็นรถสปอร์ตขนาดกลางที่ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์สามสูบอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะสำหรับนักบิดรุ่นใหม่

    อัปเดตรถจักรยานยนต์ไทรอัมพ์ทั้ง 4 รุ่น ประกอบด้วย Rocket 3 Storm, Tiger 1200, Tiger 900 และ Scrambler 1200 ได้นำเสนอเทคโนโลยีเพิ่มเติม ที่มอบประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้น การควบคุมรถที่ดีขึ้น รวมไปถึงสไตล์ กราฟิกและรูปแบบสีใหม่

    รวมถึงยังมีการเปิดตัวรถจักรยานยนต์รุ่นพิเศษ และรุ่นลิมิเต็ด อิดิชัน จำนวนหลายรุ่น ไม่ว่าจะเป็น Bonneville T120 Elvis Presley Limited Edition, Speed ​​Triple 1200 RR Breitling Limited Edition, Trident Triple Tribute, Tiger 900 Aragon Editions สองรุ่น และ Thruxton Final Edition

    ขอขอบคุณลูกค้าและพันธมิตรของเรา

    มร.พอล สเตราท์ ประธานเจ้าหน้าที่การพาณิชย์ ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ กล่าวว่า “เรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งกับการเติบโตที่เราบรรลุได้ในปี 2024 ซึ่งตามมาด้วยการเติบโตอย่างต่อเนื่องอย่างน่าทึ่งตั้งแต่ปี 2019 แม้ว่าสภาพเศรษฐกิจโลกจะท้าทายอย่างมากก็ตาม ผมขอขอบคุณลูกค้าอันทรงคุณค่าทุกท่านที่ให้การสนับสนุนไทรอัมพ์ด้วยดีเสมอมา และขอต้อนรับลูกค้ารายใหม่สู่ครอบครัวไทรอัมพ์ของเรา”

    “อีกทั้งการตัดสินใจเข้าสู่ตลาดใหม่ในทั้ง 2 กลุ่มผลิตภัณฑ์ของเรา ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้แทนจำหน่ายและลูกค้าของเรา และยังช่วยให้เราสามารถดึงดูดผู้ขับขี่รายใหม่ให้มาสู่แบรนด์ไทรอัมพ์ได้อีกด้วย ซึ่งสิ่งนี้สะท้อนให้เห็นได้จากเครือข่ายผู้แทนจำหน่ายทั่วโลกที่เติบโตอย่างต่อเนื่องของเรา และโปรแกรมหลังการขายที่ขยายตัวมากขึ้น”

    “การเติบโตของเรานั้นน่าทึ่งยิ่งขึ้น เมื่อพิจารณาถึงยอดขายรถจักรยานยนต์ไทรอัมพ์ที่ทำได้โดยพันธมิตรของเรา Bajaj Automotive ในอินเดีย ซึ่งในปี 2024 พวกเขาขายรถจักรยานยนต์ไทรอัมพ์ตระกูล 400 ได้จำนวน 29,736 คัน ทำให้ยอดขายรถจักรยานยนต์ไทรอัมพ์ทั่วโลกรวมถึงอินเดียอยู่ที่ 134,635 คัน ซึ่งเพิ่มขึ้น 64% เมื่อเทียบกับปี 2023 และเพิ่มขึ้นอย่างเหลือเชื่อถึง 123% เมื่อเทียบกับปี 2019”

    ขณะที่ มร.มาร์เซโล ซิลวา ผู้อำนวยการภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกฝ่ายขาย และการตลาด ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ กล่าวเสริม “สำหรับตลาดประเทศไทย ปีที่ผ่านมาเราได้มีการเปิดตัวกลุ่มรถจักรยานยนต์รุ่นใหม่ ๆ และผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ซึ่งล้วนได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากลูกค้า ซึ่งการเปิดตัวรถจักรยานยนต์ตระกูล “TR-Series” ได้แก่ Speed 400 และ Scrambler 400 X ได้สร้างปรากฏการณ์ที่ได้รับความสนใจอย่างล้นหลามตั้งแต่เปิดตัว โดยรถทั้งสองรุ่นสามารถสร้างยอดขายในปี 2024 ได้ถึง 1,155 คัน และยังมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง”

    “แม้ว่าสภาพเศรษฐกิจทั่วโลกยังคงต้องเผชิญความท้าทาย ในขณะที่ไทรอัมพ์ได้มองไปข้างหน้า แต่เราก็มีเหตุผลมากมายที่จะมองโลกในแง่ดีต่อไป โดยเรามีกลุ่มผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ที่แข็งแกร่ง ซึ่งจะช่วยให้กลุ่มผลิตภัณฑ์ของเราพัฒนาต่อไปเพื่อดึงดูดผู้ขับขี่ได้มากขึ้น เรามีแบรนด์ที่ได้รับการยกย่องทั่วโลก และเครือข่ายพันธมิตรผู้แทนจำหน่ายมืออาชีพที่ยอดเยี่ยมทั่วโลก นั่นคือเหตุผลที่เรายังคงวางแผนอันเต็มเปี่ยมไปด้วยจิตวิญญาณความมุ่งมั่นต่อไป โดยเราคาดการณ์การเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะเห็นเราต้อนรับลูกค้าเข้าสู่แบรนด์ไทรอัมพ์มากยิ่งขึ้นในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า” มร.พอล กล่าวสรุป

    ด้าน มร. นิค บลอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ กล่าวเสริมว่า “การเติบโตทั่วโลกในระดับนี้ถือเป็นความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ที่ต้องอาศัยความพยายามอย่างยิ่งใหญ่จากทุกคนในไทรอัมพ์ และพันธมิตรทางธุรกิจของเราทั่วโลก ทุกคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องจึงภาคภูมิใจอย่างยิ่งกับส่วนที่พวกเขาได้มีส่วนช่วยให้ไทรอัมพ์ได้ขยายการเติบโตไปทั่วโลก และสามารถสร้างยอดขายสูงสุดเป็นประวัติการณ์”

    ปีแห่งการเดินหน้าอย่างไม่หยุดนิ่ง

    สำหรับปี 2025 ไทรอัมพ์ยังคงเดินหน้าผลิตรถจักรยานยนต์รุ่นพิเศษอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น Tiger Sport 800 รุ่นใหม่ที่จะเปิดตัวในใหม่กลุ่ม Sports Tourer และจะวางจำหน่ายที่ผู้แทนจำหน่ายตั้งแต่เดือนมีนาคมเป็นต้นไป รวมถึงการเปิดตัวรถรุ่นพิเศษ 4 รุ่น ได้แก่ Speed ​​Triple 1200 RS, Speed ​​Twin 900 และ 1200 รวมถึงการเปิดตัว Speed ​​Twin 1200 RS ใหม่ นอกจากนี้ยังมีการประกาศเปิดตัวรุ่นพิเศษ ได้แก่ Bobber TFC ใหม่, Bonneville Icon Editions และ Rocket 3 Evel Knievel Limited Edition

    สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมดูได้ที่เว็บไซต์ www.triumphmotorcycles.co.th   หรือติดตามข่าวสารและกิจกรรมได้ที่ www.facebook.com/TriumphMotorcyclesThailand


    ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย

    Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
    Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
    Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
    instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
    Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
    Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
    Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine


    No Comment
  • เบนท์ลีย์ แบงค็อก เชิญ Friends of Prestige ร่วมสัมผัส New Continental GT Speed กับนิยาม the First Everyday Supercar ของคนรุ่นใหม่แบบเอ็กซ์คลูซีฟ ณ AAS House

    1 Min Read

    เบนท์ลีย์ แบงค็อก เชิญ Friends of Prestige ร่วมสัมผัส New Continental GT Speed กับนิยาม the First Everyday Supercar ของคนรุ่นใหม่แบบเอ็กซ์คลูซีฟ ณ AAS House

    เบนท์ลีย์ แบงค็อก โดย บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์เบนท์ลีย์อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย จับมือ Prestige Thailand นิตยสารไลฟ์สไตล์หรูชื่อดัง เชิญ Friends of Prestige แขกผู้นำคนรุ่นใหม่จากหลากหลายแวดวงแถวหน้าของเมืองไทย ร่วมสัมผัส New Continental GT Speed สุดยอดแกรนด์ทัวเรอร์โฉมใหม่ที่นิยามความเป็น the First Everyday Supercar สำหรับผู้นำคนรุ่นใหม่แบบเอ็กซ์คลูซีฟ โดยได้รับเกียรติจาก คุณ อภิญญา ชัยสันติกุลวัฒน์ ผู้จัดการทั่วไป พร้อมด้วย คุณธนาธิป สุขพูล ผู้จัดการฝ่ายขาย เบนท์ลีย์ แบงค็อก บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด ขึ้นกล่าวต้อนรับในบรรยากาศที่แขกผู้มีเกียรติได้เพลิดเพลินไปกับกิจกรรมเวิร์คช็อปการทำพวงกุญหนังในแบบเฉพาะตัว ณ AAS House แกลเลอรีสุดหรูสำหรับชาวซิตี้ไลฟ์สไตล์ที่นำเสนอยนตรกรรมระดับพรีเมียมจากแบรนด์ชั้นนำระดับโลกภายใต้ AAS Group เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

    อภิญญา ชัยสันติกุลวัฒน์ ผู้จัดการทั่วไป เบนท์ลีย์ แบงค็อก บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด กล่าวเปิดงาน พร้อมเผยถึงจุดเด่นของ the First Everyday Supercar รุ่นนี้ว่า “New Continental GT มาพร้อมกับรูปลักษณ์ที่ดูสปอร์ต โฉบเฉี่ยว และทันสมัยยิ่งขึ้น สะท้อนความเป็น the First Everyday Supercar รถยนต์สปอร์ตสมรรถนะสูงที่สามารถตอบโจทย์การใช้งานในชีวิตประจำวันของผู้นำคนรุ่นใหม่ ผู้ที่ชื่นชอบในสมรรถนะความสปอร์ตและเสน่ห์การขับขี่ในแบบแกรนด์ ทัวเรอร์ด้วยหัวใจสำคัญอย่าง สมรรถนะระดับซูเปอร์คาร์และเทคโนโนโลยีแบบแกรนด์ ทัวเรอร์ แต่ยังคงรักษาเสน่ห์ของงานฝีมือแบบฉบับรถยนต์เบนท์ลีย์ไว้อย่างครบถ้วน”

    แขกผู้มีเกียรได้สัมผัสกับ New Continental GT Speed ที่มาพร้อมกับจุดเด่นด้านงานดีไซน์ที่ถือเป็นการปฏิวัติการออกแบบของรถยนต์เบนท์ลีย์ในรอบสองทศวรรษด้วยการออกแบบไฟหน้าเดี่ยวในลักษณะ ‘คิ้ว’ แนวนอนแบบใหม่ พร้อมด้วยเอฟเฟกต์เพชรเจียระไนด้านบนกรอบไฟ ซึ่งการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ทำให้รูปลักษณ์ของ New Continental GT มีการแสดงออกที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้นด้วยแรงบันดาลใจจากการแสดงออกของเสือนักล่า ไฟท้ายยังมาพร้อมกับการออกแบบใหม่ด้วยกราฟิกที่กว้างขึ้นทอดยาวตามแนวฝากระโปรงหลัง พร้อมกับการตกแต่งด้วยลวดลายเพชรแบบ 3 มิติตลอดรูปทรง โดยเมื่อส่องสว่าง ส่วนปลายของเพชรจะเห็นได้อย่างเด่นชัด ทำให้เกิดเอฟเฟกต์ภาพเสมือนลาวาหลอมเหลว นอกจากนี้ การตกแต่งภายในห้องโดยสารยังสะท้อนถึงความประณีตและความละเอียดอ่อนอันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์รถยนต์เบนท์ลีย์ด้วยการออกแบบภายในแบบใหม่หมดจดที่ให้ความรู้สึกที่ร่วมสมัยและสปอร์ตยิ่งขึ้น โดยมีเทคโนโลยีภายในห้องโดยสารที่ล้ำสมัยอย่างคุณสมบัติเบาะโดยสารแบบ Wellness พร้อมด้วยระบบกรองอากาศด้วยการสร้างไอออนในอากาศแบบอัจฉริยะและตัวเลือกการปรับท่าทางบนเบาะโดยสารทั้ง 4 ที่นั่งแบบอัตโนมัติ ตอกย้ำความเป็นซูเปอร์คาร์รุ่นแรกของแบรนด์ที่สามารถตอบโจทย์การใช้งานในชีวิตประจำวันของผู้นำคนรุ่นใหม่ด้วยสมรรถนะอันเหนือชั้น การออกแบบที่สปอร์ตและโฉบเฉี่ยว พร้อมด้วยเทคโนลียีการขับขี่ที่ล้ำสมัยได้อย่างสมบูรณ์แบบ

    นอกเหนือจากการสัมผัส New Continental GT Speed แขกภายในงานยังได้ประทับใจกับการต้อนรับด้วยเครื่องดื่มที่จับคู่กับเมนูคานาเป้ที่รังสรรค์ขึ้นเป็นพิเศษโดยเชฟจาก Your Kitchen Catering by YUU ด้วยวัตถุดิบชั้นเลิศที่นำเข้าโดย CTI Food Supply พร้อมเพลิดเพลินไปกับดีเจที่ได้มามิกซ์เพลงให้แขกได้เอ็นจอยตลอดทั้งงาน และกิจกรรมเวิร์คช็อปการทำพวงกุญหนังพรีเมียมที่สามารถเลือกรูปทรง เฉดสี และการตกแต่งด้วยตัวอักษรในแบบเฉพาะตัว สะท้อนความหรูหรา งานฝีมือ และการออกแบบเฉพาะบุคคลที่เป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์รถยนต์เบนท์ลีย์ได้เป็นอย่างดี

    สำหรับการเปิดรับคำสั่งจองรถยนต์เบนท์ลีย์ รุ่น New Continental GT Speed และ New Continental GTC Speed เบนท์ลีย์ แบงค็อก โดย บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์เบนท์ลีย์อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย มอบข้อเสนอที่ดีที่สุดด้วยเอกสิทธิ์การบริการหลังการขายมาตรฐานโรงงานผู้ผลิตที่มาพร้อมกับการรับประกันแบตเตอรี่ไฮบริดที่ ‘นานที่สุด’ ถึง 8 ปี หรือ 160,000 กิโลเมตร (อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน) การรับประกันโดยโรงงานผู้ผลิต บริการผู้ช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง (24-hour Bentley Roadside Assistance) และ Service Package นาน 3 ปีเต็ม พร้อมสิทธิ์การต่อการรับประกันโดยโรงงานผู้ผลิต (Bentley Extended Warranty) สูงสุด 4 ปี

    ยลโฉม New Continental GT Speed อัครยนตรกรรมสปอร์ตคูเป้ที่จะนิยาม ‘Start Something Powerful’ ด้วยสมรรถนะอันเหนือชั้นระดับซูเปอร์คาร์และการตกแต่งด้วยงานฝีมือชั้นสูง ตอกย้ำความเป็นซูเปอร์คาร์ที่ทรงสมรรถนะที่สุดของแบรนด์ เผยโฉมให้ได้สัมผัสอย่างใกล้ชิดเป็นครั้งแรกในประเทศไทย ณ AAS House บริเวณชั้น 2 ศูนย์การค้าเอ็มสเฟียร์ ทุกวัน ตั้งแต่วันนี้ ถึง วันที่ 31 มีนาคม 2568 เวลา 10:00 – 20:00 น.

    ผู้ที่สนใจสามารถนัดหมายเข้าชมหรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมและข้อเสนอพิเศษ โทร. 080-925-9999 หรือ 02-261-1050 LINE Official Account: @bentleybangkokaas คลิก https://lin.ee/4JOaZyE8V


    ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย

    Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
    Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
    Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
    instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
    Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
    Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
    Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine


    No Comment
  • OMODA & JAECOO ผนึกกำลัง BOI จัดงาน OMODA & JAECOO Sourcing Day เฟ้นหาผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ไทย มุ่งพัฒนาระบบนิเวศยานยนต์ไทยสู่ระดับโลก

    1 Min Read

    OMODA & JAECOO ผนึกกำลัง BOI จัดงาน OMODA & JAECOO Sourcing Day เฟ้นหาผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ไทย มุ่งพัฒนาระบบนิเวศยานยนต์ไทยสู่ระดับโลก

    OMODA & JAECOO (โอโมด้า แอนด์ เจคู่) ภายใต้บริษัท Chery Automobile ผู้นำเทคโนโลยียานยนต์ชั้นนำระดับโลก ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) จัดงาน “Sourcing Day” เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการไทยได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่ พร้อมรับทราบนโยบายการจัดซื้อและเข้าร่วมการเจรจาธุรกิจโดยตรงกับบริษัทฯ โดยได้รับเกียรติจากนายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) และนายฉี เจี๋ย ประธาน บริษัท โอโมดา แอนด์ เจคู (ประเทศไทย) ร่วมเป็นประธานในพิธีเปิดงาน ณ ห้อง Cattleya โรงแรม Rama Gardens Hotel Bangkok

    นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) กล่าวว่า “กิจกรรม Sourcing Day เป็นงานที่ บีโอไอให้ความสำคัญ เพื่อผลักดันการใช้ชิ้นส่วนในประเทศ ผ่านการเชื่อมโยงผู้ผลิตชิ้นส่วนไทยกับบริษัทชั้นนำจากต่างประเทศ ซึ่งจะทำให้ผู้ประกอบการไทยสามารถเข้าถึงซัพพลายเชนระดับโลก และเกิดการสร้างเครือข่ายความร่วมมือ เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลการผลิต การจัดการ การถ่ายทอดเทคโนโลยี และอาจนำไปสู่การเป็นพันธมิตรทางธุรกิจหรือการร่วมทุนกันในอนาคต การร่วมมือกับบริษัท ระดับโลกอย่าง Chery Automobile (OMODA & JAECOO) ในวันนี้ จึงเป็นก้าวสำคัญของการพัฒนาอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์ไทย และช่วยยกระดับผู้ประกอบการไทยให้สามารถแข่งขันได้ในตลาดโลก”

    ภายในงานมีผู้ผลิตชิ้นส่วนไทยให้ความสนใจเข้าร่วมงานจำนวน 370 คน จาก 200 บริษัท โดยมี 50 บริษัทที่ได้รับคัดเลือกเข้าร่วมเจรจาธุรกิจโดยตรงกับ OMODA & JAECOO ในรูปแบบ Business Matching รวมทั้งสิ้น 50 คู่เจรจา ทั้งนี้ คาดว่าการเจรจาธุรกิจในครั้งนี้จะสร้างมูลค่าการซื้อขายชิ้นส่วนในประเทศรวมกว่า 2,100 ล้านบาท

    OMODA & JAECOO ตั้งเป้าที่จะดึงดูดผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ชั้นนำในของประเทศไทย ทั้งในด้านคุณภาพและความเชี่ยวชาญ เพื่อนำเทคโนโลยียานยนต์ขั้นสูงมาสู่ประเทศไทย โดยมุ่งเน้นการสรรหาผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์สำคัญในหลากหลายกลุ่ม ได้แก่ Chassis, Electrical, Exterior, Tire repair kit, New Energy, Powertrain, Interior และ Kit set โดยตั้งเป้าอัตราการผลิตในประเทศ 45% ภายในปีนี้ และเพิ่มมากขึ้นถึง 60% ภายใน 5 ปี เพื่อให้สอดคล้องไปกับการขยายตัวของระบบนิเวศชิ้นส่วนยานยนต์ของประเทศไทย

    นายฉี เจี๋ย ประธาน บริษัท โอโมดา แอนด์ เจคู (ประเทศไทย) กล่าวว่า “OMODA & JAECOO รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้จัดงาน Sourcing day ร่วมกับ BOI ขึ้นในครั้งนี้ เรามุ่งมั่นที่จะสร้างพันธมิตรทางธุรกิจที่แข็งแกร่งผ่านการเจรจาธุรกิจในงาน Sourcing Day นี้  ด้วยผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ในประเทศไทยมีศักยภาพและนวัตกรรม ทำให้เรามองเห็นโอกาสอันยิ่งใหญ่ในการร่วมงานกับอุตสาหกรรมท้องถิ่นของไทย เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ทั้งตลาดภายในประเทศและระดับสากล ขอขอบคุณทุกท่านที่ให้ความสำคัญกับงานนี้ และเราหวังว่าวันนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นของการพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยให้ก้าวไกลสู่ระดับสากล”

    นายพิชญุตม์ วงศ์พัฒนาสิน รองประธานบริษัท โอโมดา แอนด์ เจคู (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยถึงความพร้อมในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อรองรับการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยว่า “ความคืบหน้าความพร้อมของโรงงานเรา ในตอนนี้เราได้โรงงานผลิตเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ตั้งอยู่ที่อำเภอนิคมพัฒนา จังหวัดระยอง ด้วยพื้นที่ขนาด 104 ไร่ โดยมีมูลค่าการลงทุนที่วางแผนไว้ทั้งสิ้นราว 5,000 ล้านบาท ซึ่งจะสามารถเริ่มการผลิตได้ในไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ ด้วยเป้าหมายการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า 50,000 คันในเฟสแรก และมีเป้าหมายเพิ่มเป็น 80,000 คันต่อปีภายในปี 2571 เพื่อเป็นศูนย์กลางการผลิตและส่งออกในเอเชีย”

    โรงงานแห่งนี้จะเน้นการผลิตแบบ Completely Knocked Down (CKD) โดยเริ่มจาก JAECOO 6 EV ในช่วงแรก และจะขยายไปสู่ทุกรุ่นหลังจากปี 2571 พร้อมติดตั้งหุ่นยนต์เชื่อมสำหรับการเชื่อมอลูมิเนียมที่แม่นยำ นอกจากนี้ ในอนาคตยังมีแผนลงทุนในผลิต ยานยนต์ ทั้งขยายกำลังการผลิตและโมเดลไฟฟ้าไฮบริด (HEV) รถยนต์รุ่นอื่น ๆ ของ Chery Group และการจัดตั้งโรงพ่นสีภายในปี 2570 และทางเราได้มีการวางแผนจัดตั้งศูนย์วิจัยและพัฒนาในประเทศไทยภายใน 3 ปีข้างหน้า รวมถึงการให้ความสำคัญในการจัดจ้างงานสำหรับการทำงานในโรงงานนี้โดยเริ่มต้นจะเป็นแรงงานไทย 150 คนสำหรับการทำงานกะเดียว และจะขยายโรงงานและอัตราการจ้างแรงงานไทยเพิ่มขึ้นตามการขยายตัวของตลาดรถยนต์ไฟฟ้าของประเทศไทยด้วย

    “เราเล็งเห็นถึงศักยภาพของผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ในประเทศไทย ซึ่งมีทั้งประสบการณ์และความเชี่ยวชาญ สามารถผลิตชิ้นส่วนที่มีคุณภาพสูงในระดับสากล ประกอบกับวิสัยทัศน์ของ OMODA & JAECOO ที่มุ่งมั่นให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตและส่งออกในเอเชีย เรามองว่านี่คือโอกาสสำคัญในการสนับสนุนผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ในประเทศ ให้ก้าวสู่การเป็นส่วนหนึ่งของซัปพลายเชนระดับโลก และร่วมขับเคลื่อนประเทศไทยไปสู่การเป็นผู้นำอุตสาหกรรมยานยนต์พลังงานใหม่ในภูมิภาคการส่งเสริมการพัฒนาแรงงาน ในประเทศอย่างยั่งยืน” นายพิชญุตม์ กล่าวทิ้งท้าย

    การจัดงานครั้งนี้นับเป็นก้าวสำคัญในการส่งเสริมระบบนิเวศของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการในประเทศได้มีส่วนร่วมในการพัฒนานวัตกรรมยานยนต์ที่จะมาสร้างมาตรฐานใหม่ในวงการรถยนต์


    ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย

    Website : https://www.realtimecarmagazine.com
    Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
    Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
    instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
    Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
    Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
    Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine


    No Comment
  • ปอร์เช่ ประเทศไทย ร่วมงาน Surf Paradise เปิดประสบการณ์ใหม่แห่งยนตรกรรมสปอร์ตพลังงานไฟฟ้า ผสานความเร็ว สมรรถนะ และไลฟ์สไตล์แห่งอนาคต

    1 Min Read

    ปอร์เช่ ประเทศไทย ร่วมงาน Surf Paradise เปิดประสบการณ์ใหม่แห่งยนตรกรรมสปอร์ตพลังงานไฟฟ้า ผสานความเร็ว สมรรถนะ และไลฟ์สไตล์แห่งอนาคต

    ปอร์เช่ ประเทศไทย สร้างปรากฏการณ์ครั้งใหม่ด้วยการเข้าร่วม Surf Paradise งานแข่งขันของเหล่าเซิร์ฟเวอร์ผู้หลงใหลในคลื่นและความเร็ว ที่ผสานจิตวิญญาณแห่งไลฟ์สไตล์และเทคโนโลยียานยนต์ล้ำสมัย พร้อมนำเสนอสมรรถนะอันทรงพลังตามแบบฉบับของปอร์เช่ในรูปแบบพลังงานไฟฟ้า ที่ทั้งแรง เร้าใจ และสะดวกสบายในการใช้งาน หมดกังวลเรื่องจุดชาร์จ ตอบโจทย์การเดินทางอย่างไร้ขีดจำกัด อีกทั้งยังสะท้อนแนวคิดด้านความยั่งยืนที่เข้ากับไลฟ์สไตล์ยุคใหม่อย่างลงตัว ปูทางสู่อนาคตแห่งการขับขี่ที่เต็มไปด้วยนวัตกรรมและประสบการณ์เหนือระดับ

    สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ปอร์เช่ ประเทศไทย สร้างปรากฏการณ์ครั้งใหม่ด้วยการนำยนตรกรรมสปอร์ตพลังงานไฟฟ้าร่วมจัดแสดงในงาน Surf ParadisePineapple Beach, หัวหิน งานแข่งขันเซิร์ฟระดับไอคอนิกที่รวมตัวเหล่านักโต้คลื่นผู้หลงใหลในความเร็วและธรรมชาติ โดยปอร์เช่ได้ถ่ายทอดจิตวิญญาณแห่งไลฟ์สไตล์และเทคโนโลยียานยนต์ล้ำสมัย ผ่านยนตรกรรมสปอร์ตพลังงานไฟฟ้า 2 รุ่นเด่น Macan Turbo และ Taycan 4 Cross Turismo ที่สะท้อนสมรรถนะเหนือระดับ พร้อมตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์การเดินทาง

    ปอร์เช่ตอกย้ำแนวคิด “E-Performance” ด้วยการจัดแสดงยนตรกรรมสปอร์ตพลังงานไฟฟ้า 2 รุ่นเด่น ที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์การเดินทาง ไม่ว่าจะเป็นสายลุย สายสปอร์ต หรือผู้ที่มองหาความหรูหราและความยั่งยืน

    มาคันน์ เทอร์โบ (Macan Turbo) มอบพิสัยการขับขี่ไกลถึง 590 กิโลเมตร (WLTP) พร้อมพื้นที่เก็บสัมภาระกว้างขวาง เหมาะสำหรับการเดินทางไลฟ์สไตล์แอ็กทีฟทั้งครอบครัว ไทคานน์ 4 ครอส ทัวริสโม่ (Taycan 4 Cross Turismo) มาพร้อมเทคโนโลยีขับเคลื่อนใหม่ แบตเตอรี่ Performance Battery Plus ที่พัฒนาขึ้นให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น เพิ่มพลังขับเคลื่อนถึง 80 กิโลวัตต์ ขณะเดียวกันยังมีน้ำหนักเบาลง 10.4 กิโลกรัม ส่งผลให้ Taycan ใหม่ เร่งความเร็วได้เร็วยิ่งขึ้น และรองรับระยะทางขับขี่สูงสุดถึง 678 กิโลเมตร (WLTP)

    เพื่อการเดินทางที่สะดวกสบาย ปอร์เช่ ประเทศไทย พร้อมรองรับการชาร์จด้วยเครือข่าย Porsche Destination Charging ในพื้นที่แหล่งท่องเที่ยวสำคัญ และ Shell Recharge พาร์ทเนอร์ด้านพลังงานที่ให้บริการสถานีชาร์จพลังงานไฟฟ้าแบบครบวงจร ทำให้เจ้าของปอร์เช่สามารถเดินทางได้อย่างมั่นใจไร้กังวล

    การเข้าร่วมงาน Surf Paradise ในครั้งนี้ สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของปอร์เช่ ประเทศไทย ในการนำเสนอยนตรกรรมสมรรถนะสูงที่ผสานสมรรถนะอันทรงพลัง ความสะดวกสบาย และความยั่งยืน เข้าด้วยกัน พร้อมขับเคลื่อนอนาคตแห่งการเดินทางด้วย เทคโนโลยีล้ำสมัย และประสบการณ์การขับขี่ที่ไร้ขีดจำกัด ค้นพบความเป็นไปได้ใหม่ของยนตรกรรมสปอร์ตพลังงานไฟฟ้าปอร์เช่ แล้วร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการเดินทางสู่อนาคตได้แล้ววันนี้ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือนัดหมายทดลองขับ ได้ที่ศูนย์บริการปอร์เช่ทุกสาขา


    ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย

    Website : https://www.realtimecarmagazine.com
    Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
    Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
    instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
    Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
    Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
    Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine


    No Comment
  • เตรียมพบความเร็วแรงถึงใจ! ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ พร้อมลุย PT Grand Prix of Thailand 2025 ชวนลุ้นการสร้างสถิติใหม่ของเครื่องยนต์ Moto2™ และสนุกไปกับกิจกรรมที่บูธไทรอัมพ์

    1 Min Read

    เตรียมพบความเร็วแรงถึงใจ! ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ พร้อมลุย PT Grand Prix of Thailand 2025 ชวนลุ้นการสร้างสถิติใหม่ของเครื่องยนต์ Moto2™ และสนุกไปกับกิจกรรมที่บูธไทรอัมพ์

    ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ ในฐานะซัพพลายเออร์การผลิตและพัฒนาเครื่องยนต์แต่เพียงรายเดียวของการแข่งขัน Moto2™ เตรียมโชว์ศักยภาพสุดตื่นตาตื่นใจของขุมพลังและความเร็ว รวมถึงเสียงเครื่องยนต์อันทรงพลังของเครื่องยนต์สามสูบไทรอัมพ์ Moto2™ 765 ซีซี ในงาน PT Grand Prix of Thailand 2025 พร้อมทั้งเชิญชวนแฟน ๆ มาร่วมกิจกรรมภายในบูธไทรอัมพ์ที่ให้ได้มาร่วมสนุกและลุ้นรับของรางวัล รวมถึงใกล้ชิดกับต้นแบบเครื่องยนต์ไทรอัมพ์ Moto2™ และรถจักรยานยนต์รุ่น Street Triple 765 RS ที่ได้รับการคัสตอมสุดพิเศษ ซึ่งเป็นของรางวัลที่เตรียมมอบให้แก่นักแข่งผู้ที่คว้ารางวัล Triumph Triple Trophy ในฤดูกาล 2025 นี้อีกด้วย

    มร.มาร์เซโล ซิลวา ผู้อำนวยการภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกฝ่ายขาย และการตลาด บริษัท ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ จำกัด เผยว่า “งาน PT Grand Prix of Thailand 2025 ถือเป็นสนามแรกของการแข่งขัน Moto2™ ฤดูกาล 2025 ที่ในครั้งนี้ไทรอัมพ์ได้เตรียมความสนุกและความประทับใจแบบอัดแน่นเต็มอิ่มให้แฟน ๆ ตลอดการจัดงานเช่นเดิม ไม่ว่าจะเป็น การเพลิดเพลินไปกับพละกำลังและความเร็วของเครื่องยนต์สามสูบไทรอัมพ์ Moto2™ 765 ซีซี พร้อมลุ้นและจับตาการทำสถิติในการแข่งขันใหม่ ๆ ที่จะเกิดขึ้น นอกจากนี้ยังสามารถมาร่วมสนุกเล่นเกมชิงของรางวัลได้ที่บูธไทรอัมพ์ที่จัดขึ้นภายในงาน รวมทั้งช้อปปิ้งคอลเลคชันเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายลดสูงสุดถึง 50% ไม่พอ! ยังใกล้ชิดเครื่องยนต์ต้นแบบไทรอัมพ์ Moto2™  ตลอดจนครั้งแรกของการยลโฉมรถจักรยานยนต์ Street Triple 765 RS ที่ได้รับการคัสตอมสุดพิเศษ ซึ่งเป็นของรางวัลที่จะมอบให้กับนักแข่ง Moto2™ ที่คว้ารางวัล Triumph Triple Trophy 2025

    สำหรับการแข่งขันรายการชิงแชมป์โลก Moto2™ ฤดูกาล 2025 ที่กำลังจะจัดขึ้นในประเทศไทย ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ ขอเชิญชวนแฟนนักบิดทุกคนร่วมสัมผัสความน่าตื่นเต้นเร้าใจตลอดทั้งการแข่งขัน พร้อมร่วมกิจกรรมเพื่อรับของที่ระลึกมากมายที่บูธไทรอัมพ์ภายในงานแบบง่าย ๆ ระหว่างวันที่ 28 กุมภาพันธ์ ถึงวันที่ 2 มีนาคม 2568 ณ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จังหวัดบุรีรัมย์ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ตลอดจนติดตามข่าวสารและกิจกรรมได้ที่ www.facebook.com/TriumphMotorcyclesThailand


     

    ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย

    Website : https://www.realtimecarmagazine.com
    Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
    Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
    instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
    Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
    Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
    Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine

    No Comment
  • อย่าให้โซเชียลตัดสินแทนคุณ! PTT Station ชวนรับชมโฆษณาชุดใหม่กระตุ้นผู้บริโภค “อย่าเชื่อเพียงแค่เสียงในโซเชียล จนกว่าจะได้พิสูจน์ด้วยตัวเอง”

    1 Min Read

    อย่าให้โซเชียลตัดสินแทนคุณ! PTT Station ชวนรับชมโฆษณาชุดใหม่กระตุ้นผู้บริโภค “อย่าเชื่อเพียงแค่เสียงในโซเชียล จนกว่าจะได้พิสูจน์ด้วยตัวเอง”

    พีทีที สเตชั่น เปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่ชวนคิด ภายใต้การตั้งคำถาม “คุณจะเลือกเชื่อโซเชียล หรือพิสูจน์ด้วยตัวเอง?” ตอกย้ำด้วยเนื้อหา “เต็มแน่นอนครับพี่ เพราะหัวจ่ายของเราเข้าร่วมโครงการหัวจ่ายเชื้อเพลิงมาตรฐานกรมการค้าภายใน ตรวจสอบทุกเดือน” นำเสนอแนวคิดการบริโภคอย่างมีวิจารณญาณในยุคที่ความคิดเห็นบนโซเชียลมีเดียสามารถกำหนดทิศทางของผู้บริโภคได้อย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะในประเด็นเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และบริการ ซึ่งทำให้เกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อนส่งผลต่อการตัดสินใจของผู้บริโภค และอาจทำให้เกิดความเข้าใจผิดเกี่ยวกับคุณภาพของสินค้าและบริการ ทั้งที่ยังไม่ได้รับการพิสูจน์ด้วยตนเอง

    ภาพยนตร์โฆษณาชุดนี้นำเสนอในมุมมองที่แตกต่าง โดยจำลองให้ “เสียงในโซเชียล” กลายเป็นตัวละครที่ออกมาแสดงความคิดเห็น ถกเถียง และตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ พีทีที สเตชั่น แม้ยังไม่เคยมีประสบการณ์ใช้งานจริง ซึ่งสะท้อนถึงพฤติกรรมของผู้บริโภคในยุคปัจจุบันที่อาจเชื่อข้อมูลจากแพลตฟอร์มออนไลน์มากกว่าการทดลองและพิสูจน์ด้วยตัวเอง และเพื่อเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภคมากขึ้น                 พีทีที สเตชั่น จึงเน้นย้ำถึงมาตรฐานของสถานีบริการน้ำมัน ด้วยข้อมูลที่ตรวจสอบได้จริง อาทิ “เติมไม่เต็มลิตร?” ไม่เป็นความจริง เนื่องจากหัวจ่ายของ พีทีที สเตชั่น เข้าร่วมโครงการหัวจ่ายเชื้อเพลิงมาตรฐานของกรมการค้าภายใน และผ่านการตรวจสอบทุกเดือน และถึงแม้จะมีข้อมูลที่ถูกต้อง แต่ยังมีบางส่วนในสังคมออนไลน์ที่พยายามหาข้อมูลมาสนับสนุนความเชื่อของตน สะท้อนผ่านฉากที่มีผู้เชี่ยวชาญด้านยานยนต์อย่าง คุณอู๋ Spin9 ออกมายืนยันข้อเท็จจริง แต่กลับถูกตั้งคำถามว่าเป็น บัญชีปลอม หรือแม้กระทั่ง AI

    พร้อมกันนี้ทาง พีทีที สเตชั่น ยังสอดแทรกการนำเสนอน้ำมันทั้ง 2 สูตร ที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างครอบคลุม สายประหยัด ต้องลอง XTRA SAVE สูตรใหม่ ไปได้ไกลกว่าถึง 35 กิโลเมตร/ถัง (จากผลการทดสอบโดยสถาบันนวัตกรรมปตท.และสถาบันยานยนต์) ส่วนสายแรง ต้องโดน SUPER POWER น้ำมันเกรดพรีเมียม สำหรับผู้ที่ต้องการสมรรถนะสูง พร้อมช่วยทำความสะอาดเครื่องยนต์ ไปได้แรงกว่า ด้วยสารเติมแต่งระดับโลก

    สุดท้ายนี้ อย่าให้เพียงแค่คอมเมนต์หรือความเห็นในโซเชียลมีเดีย ตัดสินทุกอย่างแทนคุณ แต่ควรทดลองและพิสูจน์ด้วยตัวเอง ดูโฆษณาสุดแสบที่กระแทกใจคนยุคนี้ได้ที่: https://youtu.be/Mg8NZZASVVM?si=QLpCSnCfdNPedRUk

    ติดตามโปรโมชันและกิจกรรมอื่น ๆ ได้ที่ Facebook Fanpage: PTT Station หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร. 1365 Contact Center

    #เติมเต็มทุกความสุข #พีทีทีสเตชั่น #PTTStation #XTRASAVE #SUPERPOWER


    ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย

    Website : https://www.realtimecarmagazine.com
    Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
    Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
    instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
    Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
    Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
    Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine


    No Comment
  • ไทยฮอนด้า เติมฝัน สู่อนาคต มอบทุนการศึกษากว่า 1.3 ล้านบาท ส่งเสริมการศึกษาเยาวชนไทยสร้างอนาคตที่มั่นคงและยั่งยืน

    1 Min Read

    ไทยฮอนด้า เติมฝัน สู่อนาคต มอบทุนการศึกษากว่า 1.3 ล้านบาท ส่งเสริมการศึกษาเยาวชนไทยสร้างอนาคตที่มั่นคงและยั่งยืน

    ไทยฮอนด้า ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายรถจักรยานยนต์และเครื่องยนต์อเนกประสงค์ฮอนด้าในประเทศไทย สนับสนุนการศึกษาและพัฒนาเยาวชนไทย ด้วยการมอบทุนการศึกษามูลค่ารวม 1.3 ล้านบาท ภายใต้โครงการ ‘ไทยฮอนด้า เติมฝัน สู่อนาคต’ ให้กับนักเรียนและนักศึกษาที่มีผลการเรียนดีและขาดแคลนทุนทรัพย์ โดยได้มอบให้แก่สำนักงานคณะกรรมการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ จำนวน 150 ทุน ในระดับมัธยมศึกษา มูลค่า 600,000 บาท และมอบทุนการศึกษาให้แก่นักศึกษาที่เรียนดี ณ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ในระดับอุดมศึกษา จำนวน 23 ทุน มูลค่า 730,000 บาท เพื่อเป็นกำลังสำคัญในการสร้างอนาคตที่มั่นคงและยั่งยืน

    ดร.อารักษ์ พรประภา ประธาน บริษัท ไทยฮอนด้า จำกัด กล่าวว่า “ไทยฮอนด้า ตระหนักถึงความสำคัญของการศึกษาในการพัฒนาอนาคตของชาติ การมอบทุนการศึกษาครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของความตั้งใจของบริษัทฯ ในการสร้างโอกาสให้เยาวชนไทยได้พัฒนาตนเองและนำความรู้ไปใช้ในการพัฒนาสังคมและประเทศต่อไป ทั้งนี้ ไทยฮอนด้ายังคงมุ่งมั่นในการดำเนินโครงการไทยฮอนด้าเพื่อสังคมไทยอย่างต่อเนื่อง และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการสนับสนุนทางการศึกษานี้จะเป็นแรงผลักดันให้เยาวชนไทยสามารถก้าวสู่อนาคตที่สดใสและประสบความสำเร็จในชีวิต”

    สำหรับโครงการ ‘ไทยฮอนด้า เติมฝัน สู่อนาคต’ ได้จัดพิธีมอบทุนการศึกษา ณ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ โดยมีว่าที่ร้อยตรีธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการฯคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานและคณะพร้อมทั้งตัวแทนนักเรียนผู้ได้รับทุนเข้ารับมอบจำนวน 150 ทุน และในระดับอุดมศึกษาได้จัดพิธีมอบทุนการศึกษา ณ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง จำนวน 23 ทุน เป็นการมอบทุนการศึกษาแบบต่อเนื่องจนจบการศึกษา เพื่อช่วยเหลือเยาวชนที่มีศักยภาพแต่ขาดโอกาสทางการศึกษาให้ได้นำความรู้ไปใช้ในการพัฒนาสังคมและประเทศต่อไป

    ติดตามโครงการต่างๆ ของไทยฮอนด้าเพิ่มเติมได้ที่
    เฟซบุ๊กรถจักรยานยนต์ฮอนด้า : https://facebook.com/hondamotorcyclethailand
    เฟซบุ๊กฮอนด้าบิ๊กไบค์ : https://facebook.com/HondaBigBikeTH
    เฟซบุ๊กฮอนด้าเรซทูเดอะดรีม : https://facebook.com/HondaRacingTeamTH

    #รถจักรยานยนต์ฮอนด้า #มอเตอร์ไซค์ฮอนด้า #HondaMotorcycle #ThaiHonda #ไทยฮอนด้า #HowWeMoveYou


    ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย

    Website : https://www.realtimecarmagazine.com
    Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
    Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
    instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
    Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
    Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
    Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine


    No Comment
  • RIDDARA เตรียมเปิดโชว์รูมและศูนย์บริการมาตรฐานเพิ่ม 4 แห่ง ในไตรมาสแรก พร้อมหาพันธมิตรทางธุรกิจขยายเครือข่ายผู้จำหน่าย ตั้งเป้า 50 แห่งทั่วประเทศภายในปีนี้

    1 Min Read

    RIDDARA เตรียมเปิดโชว์รูมและศูนย์บริการมาตรฐานเพิ่ม 4 แห่ง ในไตรมาสแรก พร้อมหาพันธมิตรทางธุรกิจขยายเครือข่ายผู้จำหน่าย ตั้งเป้า 50 แห่งทั่วประเทศภายในปีนี้

    RIDDARA (ริดดารา) เดินหน้าตามแผนกลยุทธ์การขยายเครือข่ายผู้จำหน่ายให้ครอบคลุมทั่วประเทศ จับมือพันธมิตรทางธุรกิจลุยเปิดตัวโชว์รูมและศูนย์บริการมาตรฐานแบบครบวงจรอย่างต่อเนื่อง 4 แห่ง ภายในไตรมาสแรก ประเดิมเปิด RIDDARA AKAYAR (ริดดารา เอคยาร์) เพื่อให้บริการลูกค้าย่านลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี  โดยตั้งเป้า 50 แห่งทั่วประเทศภายในปีนี้

    RIDDARA AKAYAR โชว์รูมและศูนย์บริการทันสมัยย่านลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี

     การเปิดโชว์รูมและศูนย์บริการมาตรฐาน RIDDARA AKAYAR ถือเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของ RIDDARA ในการยกระดับมาตรฐานทั้งด้านการขายและการบริการหลังการขายของบริษัทฯ ให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น สำหรับ RIDDARA AKAYAR เป็นโชว์รูมและศูนย์บริการลูกค้า ที่ตั้งอยู่ในย่านลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี ถูกออกแบบให้สอดคล้องกับ     อัตลักษณ์ของแบรนด์ RIDDARA โดยเน้นความทันสมัยและให้ความสำคัญกับลูกค้าเป็นหลัก โดยโชว์รูมและศูนย์บริการแห่งนี้พร้อมให้บริการแบบครบวงจร ทั้งด้านการจัดแสดงรถ รถทดลองขับ การให้คำปรึกษาด้านการขายโดยเจ้าหน้าที่ ที่ผ่านการอบรมตามมาตฐานของบริษัท รวมไปถึงศูนย์บริการที่พร้อมให้บริการตรวจเช็คสภาพรถ บริการบำรุงรักษาและ และการซ่อมบำรุงจากช่างผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ที่ดีในทุกครั้งที่เข้ารับบริการ

    มร. หลิว ไห่โจว (Mr.Liu Haizhou) ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ริดดารา ออโต้โมบาย (ประเทศไทย) จำกัด  ย้ำถึงความมุ่งมั่นของ  RIDDARA ในการดำเนินงานในประเทศไทยว่า “RIDDARA ให้ความสำคัญกับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการขายและการบริการหลังการขายเป็นหัวใจสำคัญเพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ลูกค้า โดยในไตรมาสแรกของปีนี้เราจะเปิดโชว์รูมและศูนย์บริการที่ได้มาตรฐานเพิ่ม 4 แห่ง ครอบคลุมพื้นที่กรุงเทพฯ ปทุมธานี และเชียงใหม่  ยิ่งไปกว่านั้น RIDDARA ยังมีแผนงานในระยะยาวเพื่อยกระดับโชว์รูมและศูนย์บริการให้ทันสมัย มุ่งมั่นที่จะเพิ่มจำนวนช่างผู้เชี่ยวชาญที่ผ่านการอบรมตามมาตรฐานของ RIDDARA และเตรียมสำรองอะไหล่ให้พร้อม ตลอดจนการบริการหลังการขายที่ได้มาตรฐานสากล เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ลูกค้าของเราและรองรับการเติบโตของตลาดยานยนต์พลังงานไฟฟ้าในประเทศไทย

    เปิดรับนักลงทุนรองรับแผนการขยายเครือข่ายผู้จำหน่ายให้ครอบคลุมทั่วประเทศ

    มร. หลิว ไห่โจว  กล่าวเสริมว่า RIDDARA ยังคงเปิดรับพันธมิตรทางธุรกิจที่สนใจเข้าร่วมเป็นผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการเพื่อรองรับแผนขยายเครือข่ายโชว์รูมและศูนย์บริการเพิ่มเติมในทุกภูมิภาคด้วยเป้าหมาย 50 แห่งทั่วประเทศภายในปีนี้ สำหรับผู้ที่สนใจสามารถสอบถามข้อมูลได้ที่ ฝ่าย Network Development  หมายเลขโทรศัพท์ 091-495-5522 หรือ  อีเมล riddara.th.business@geely.com

    สัมผัสนวัตกรรมยานยนต์ไฟฟ้า ของ RIDDARA ได้แล้ววันนี้ที่โชว์รูมทุกสาขาทั่วประเทศหรือ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์บริการข้อมูลลูกค้า RIDDARA Call Center ที่หมายเลข 02-039-5777
    ติดตามข้อมูลข่าวสารและความเคลื่อนไหวต่างๆ ของ RIDDARA ได้ที่

    Website : http://th.riddara.com/

    Facebook : Riddara Thailand


    ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย

    Website : https://www.realtimecarmagazine.com
    Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
    Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
    instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
    Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
    Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
    Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine


    No Comment