กลับมาพบกันอีกเช่นเคยครับกับเกร็ดความรู้เล็กๆน้อยๆ เกี่ยวกับการใช้แอร์ในรถยนต์คันโปรดของเรา รถยนต์นับว่าเป็นปัจจัยหลักของใครหลายคนในยุคสมัยนี้ ไม่ว่าจะเดินทางไปไหนก็ต้องใช้รถยนต์เป็นยานพาหนะเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับเรา แน่นอนที่สุดครับรถยนต์ทุกประเภทที่ใช้งานกันอยู่ทุกวันนี้ จะต้องมีเครื่องทำความเย็นติดมากับรถทุกรุ่นทุกยี่ห้ออย่างแน่นอน แต่ถ้าวันนึงแอร์เกิดพังหรือใช้งานไม่ได้ขึ้นมาละจะทำยังไง เราจะมีวิธีดูแลรักษาแอร์ที่ติดในรถเรายังไงให้อยู่กับเราไปนานๆ และต้องมีความรู้พื้นฐานมากแค่ไหนถึงจะไม่โดนร้านแอร์หลอก เรามาทำความเข้าใจและ
ใช้งานอย่างถูกต้องกันตามลำดับครับ
- สตาร์ทรถเมื่อไหร่ถึงจะเปิดแอร์ได้
- เมื่อทุกท่านพร้อมที่จะเดินทางออกจากบ้านอันดับแรกก็ต้องทำการสตาร์ทก่อน แต่ก่อนสตาร์ทก็อย่างลืมปิดสวิทช์ทุกอย่างให้หมดซ้ะก่อน แล้วค่อยสตาร์ทรถ เมื่อเครื่องยนต์ติดก็อย่างพึ่งรีบเปิดแอร์กันละครับ ปล่อยให้เครื่องยนต์มีอุณภูมิเพิ่มขึ้นสักนิดก่อน(ให้เครื่องร้อน) เพื่อรักษาคอมเพรสเซอร์แอร์ไม่ให้ถูกกระชากในขณะที่รอบเครื่องยนต์สูง พอรอบเริ่มต่ำลงก็เปิดแอร์ได้ตามปกติเลยครับ
- ปุ่ม A/C ใช้งานยังไงให้เหมาะสม
- ปุ่ม A/Cนั้นมีไว้สำหรับเพิ่มและลดปริมาณน้ำยาแอร์นั่นแหละครับ ถ้าอธิบายกันแบบเข้าใจง่ายๆก็คือ ถ้าหมุนน้อยแอร์ก็จะตัดเร็ว(เย็นน้อย) ถ้าหมุนเยอะแอร์ก็จะตัดช้า(เย็นมาก) แต่จะให้ดีก็ควรปรับให้อยู่ในอุณภูมิที่เหมาะสมครับไม่ควรปรับให้มากหรือน้อยจนเกินไป ถ้าขึ้นรถมาแล้วร้อนก็ปรับเยอะได้ แต่เมื่อเริ่มเย็นแล้วก็ควรที่จะปรับลดระดับลงมา เพื่อช่วยให้คอมเพรสเซอร์แอร์ทำงานน้อยลง
- ปิด A/C ก่อนดับเครื่องยนต์
- ขั้นตอนนี้อาจฟังดูงง..งงหน่อยแต่ก็ไม่ใช่ปัญหาครับ ในขณะที่เราเปิดแอร์มาตลอดทางนั้น แผงทำความเย็นที่เป็นตัวสร้างความเย็นจะมีความชื้นอยู่ตลอดเวลาซึ่งก็จะมีทั้งไอน้ำและฝุ่นผงที่หลุดผ่านเข้ามานั่นเองครับ และเมื่อเราปิดแอร์ทันทีในขณะที่มีความชื้นพร้อมกับฝุ่นผงเมื่อเป็นแบบนี้ทุกวันเข้า ก็จะก่อให้เกิดการสะสมของคราบสกปรกหมักหมม และในที่สุดก็จะเกิดกลิ่นเหม็นนั่นเองครับ เพราะฉะนั้นก่อนที่จะถึงที่หมายสักประมาณ 200-300ม. ให้ปิดปุ่ม A/C ก่อนเลยครับ และเปิดพัดลมสักเบอร์3-4เพื่อเป่าให้แผงทำความเย็นมีความชื้นลดลง เพียงเท่านี้ก็จะช่วยให้ลดกลิ่นอับที่มาจากช่องแอร์ได้แล้วครับ
- ลมแอร์ไม่ค่อยแรงเกิดจากอะไร
- อาการแบบนี้มักจะเจอบ่อยกับรถที่ใช้งานอย่างสมบุกสมบัน หรือใช้อย่างเดียวครับไม่ค่อยดูแลรักษานั่นเอง อาการแบบนี้บอกให้รู้ว่า แอร์ตันครับ แอร์ตันคืออะไร อธิบายให้ฟังแบบง่ายๆก็คือแผงทำความเย็นสกปรกจึงไม่ทำให้ลมไม่สามารถผ่านออกมาได้นั่นเองครับ และนี่ก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งของการเกิดน้ำแข็งนั่นเองครับ วิธีแก้ไขก็ต้องเข้าทำการล้างแอร์เลยครับ แต่ก่อนที่อาการจะหนักแบบนี้เรามีวิธีบำรุงรักษาแบบง่ายๆครับ การทำงานของแอร์ในรถยนต์นั่นก็จะดูดอากาศจากภายในรถแหละครับอันดับแรกควรจะดูแลเรื่องของความสะอาดภายในรถโดยเฉพาะที่พื้นด้านหน้าฝั่งคนนั่ง พยายามอย่างให้มีฝุ่นเยอะและอีกหนึ่งอย่างก็คือตัว FILTER ที่อยู่ใต้คอนโซลด้านหน้าฝั่งคนนั่ง สามารถเปลี่ยนเองได้ไม่ยากนักโดยส่วนมากแล้วจะอยู่ด้านหลังเก๊ะด้านหน้านั่นแหละครับ
เมื่อท่านทำความเข้าใจกับสี่หัวข้อนี้ได้แล้ว ท่านก็จะสามารถยืดอายุการใช้งานของแอร์รถยนต์ของท่านได้พอสมควร และเมื่อเรารู้หลักการทำงานในรถยนต์ทำความเข้าใจกับมันได้ก็จะช่วยให้เราไม่โดนร้านแอร์ที่ไม่ซื่อสัตย์หลอกได้ครับ สำหรับเพื่อนท่านใดที่ต้องการเกร็ดความรู้เรื่องอื่นๆเกี่ยวกับรถยนต์นั้นก็สามารถอินบ๊อคกันเข้ามาได้เลยน้ะครับ สวัสดีครับ……
