มิชลิน เอนเนอจีย์ เอ็กซ์เอ็ม 2+ เปิดตัวชูจุดเด่นสุดยอดพลังเบรก มุ่งเจาะตลาดยางสําหรับรถยนต์นั่งขนาดกลาง ขนาดเล็ก และอีโค่คาร์


 

มิชลิน เอนเนอจีย์ เอ็กซ์เอ็ม 2+ เปิดตัวชูจุดเด่นสุดยอดพลังเบรก มุ่งเจาะตลาดยางสําหรับรถยนต์นั่งขนาดกลาง ขนาดเล็ก และอีโค่คาร์

          มิชลิน ผู้นําด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยียางรถยนต์ระดับโลก เผยโฉมผลิตภัณฑ์ยางรุ่นล่าสุด “มิชลิน เอนเนอจีย์ เอ็กซ์ เอ็ม 2+ (MICHELIN Energy XM2+) ที่มาพร้อมสโลแกน “มั่นใจทุกเวลา ด้วยพลังเบรก MICHELIN Energy XM24″ (Your Stopping Super-power) มุ่งเจาะกลุ่มผู้ใช้รถยนต์นั่งขนาดกลาง ขนาดเล็กและอีโค่คาร์ที่ใส่ใจเป็นพิเศษในเรื่องความ มั่นใจด้านความปลอดภัยและความคุ้มค่าในการใช้งานและสมรรถนะที่ยาวนานกว่า ยางรุ่นนี้ออกแบบมาเพื่อรถยนต์นั่งขนาด กลาง ขนาดเล็กและอีโค่คาร์โดยเฉพาะ โดยมีศักยภาพเหนือกว่ายางรุ่นก่อนหน้าในหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นสมรรถนะการเบรก บนถนนเปียกและอายุการใช้งานที่ยาวนาน ทั้งยังให้ความปลอดภัยเป็นเยี่ยมทั้งเมื่ออยู่ในสภาพใหม่และแม้ยางใกล้หมดดอก

 

          นายเอกชัย คหการบํารุง ผู้อํานวยการกลุ่มธุรกิจ B2C เปิดเผยว่ายางมิชลิน เอนเนอจีย์ เอ็กซ์เอ็ม 2+ มีพัฒนาการทาง สมรรถนะหลายด้านที่เหนือกว่า มิชลิน เอนเนอจีย์ เอ็กซ์เอ็ม 2 ซึ่งเป็นยางรุ่นก่อนหน้าที่ครองความเป็นผู้นําในตลาดยางสําหรับ ลูกค้าทั่วไป หรือ Mass Market อย่างต่อเนื่องยาวนานถึง 8 ปีเต็ม สําหรับยางรุ่นล่าสุดนี้พัฒนาขึ้นเพื่อให้สมรรถนะที่ดีเยี่ยม และ การใช้งานที่ยาวนานกว่าแม้ยางใกล้หมดดอก โดยให้ความมั่นใจในประสิทธิภาพการเบรกเต็มเปี่ยมจนเมื่อถึงเวลาเปลี่ยนยางครั้ง ต่อไป แคมเปญโฆษณาจึงเน้นจุดเด่นด้านพลังเบรกของยางรุ่นนี้ที่ช่วยให้ลูกค้ามั่นใจและปลอดภัยทุกครั้งที่ขับขี่

          ด้วยนวัตกรรมเนื้อยางผสมซิลิกาสูตรใหม่ (Full-Silica Rubber Compound) ส่งผลให้ยาง “มิชลิน เอนเนอจีย์ เอ็กซ์เอ็ม 2+ มี ค่าเฉลี่ยระยะเบรกบนถนนเปียกสั้นกว่ายางแบรนด์ชั้นนําอื่นๆ* อยู่ที่ 1.5 เมตร เมื่อเทียบระหว่างยางสภาพใหม่ด้วยกัน และ 2.6 เมตร เมื่อเทียบระหว่างอย่างใกล้หมดดอก อีกทั้งยังรองรับระยะทางการขับขี่มากกว่ายางแบรนด์ชั้นนําอื่นๆ” ถึงร้อยละ 25

          “สัญลักษณ์บวก (+) บนแก้มยางบอกให้ทราบถึงการเสริมสูตรเนื้อยางใหม่ที่ส่งผลให้ยาง “มิชลิน เอนเนอจีย์ เอ็กซ์เอ็ม 2+ มี ประสิทธิภาพเหนือกว่ายางรุ่นก่อนหน้าทั้งด้านสมรรถนะการเบรก อายุการใช้งาน และสมรรถนะที่ยาวนานกว่า นอกจากนี้ ยังคง สัญลักษณ์ Green X เอาไว้แบบเดียวกับยางรุ่นก่อนหน้า เพื่อแสดงให้เห็นว่าเป็นยางที่มีคุณสมบัติด้านการประหยัดพลังงาน การผสานคุณสมบัติด้านความปลอดภัยที่เหนือกว่าพร้อมกับให้ความมั่นใจได้ยาวนานกว่าและความคุ้มค่าสมราคาเข้าไว้ด้วยกัน เชื่อว่าจะเป็นแม่เหล็กดึงดูดผู้ขับขี่กลุ่มผู้ใช้รถยนต์นั่งขนาดกลาง ขนาดเล็ก และอีโค่คาร์ ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายของเราได้อย่าง ทรงพลัง” นายเอกชัย กล่าว

          ในประเทศไทย ยาง “มิชลิน เอนเนอจีย์ เอ็กซ์เอ็ม 2+ มีวางจําหน่ายแล้วรวมทั้งสิ้น 36 ขนาด (ขอบ 14-16 นิ้ว) ราคาเริ่มต้นที่ เส้นละ 2,290 บาท ณ เครือข่ายศูนย์บริการรถยนต์ครบวงจร ไทร์พลัส” และร้านตัวแทนจําหน่ายอย่างเป็นทางการของมิชลินทั่ว ประเทศ ผู้สนใจสามารถสอบถามข้อมูลและดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.michelin.co.th หรือ MICHELIN Hotline 02 700 3993