รู้หรือไม่ ความแตกต่างของจานดิสเบรกมอไซค์ มีข้อดีข้อเสียอะไรบ้าง

รู้หรือไม่ ความแตกต่างของจานดิสเบรกมอไซค์ มีข้อดีข้อเสียอะไรบ้าง

เพื่อนๆเคยเข้าไปในร้านขายอะไหล่แต่งมอไซค์กันใช่ไหมครับ เคยสงสัยกันไหม ทำไมจานเบรกมอไซค์มันมีหลายแบบจัง ทั้งจานเบรกเหล็กที่หนักมากๆ  จานแบบอลูมิเนียมน้ำหนักเบา  จานเบรกแบบสแตนเลส จานเบรกสองชั้น และร้านอะไหล่แต่งบิ๊กไบค์จะมี จานเบรกที่ทำมาจากคาร์บอน ใครที่เข้าไปแล้วเลือกไม่ถูกเหมือนกันว่าจะเอาแบบไหนนี้ มานั่งรวมกันตรงนี้เลยครับ

            1.จานดิสเบรกที่ทำมาจากเหล็ก  จะมีข้อดี คือมีความทนทานที่สูง ระยะการใช้งานที่ยาวนาน ถึง 50,000 กิโลเมตร ทนความร้อนได้ดี สามารถทนอุณหภูมิ ได้ตั้งแต่ -50 ถึง 600 องศา

ข้อเสียคือ มีน้ำหนักมาก 1 – 2 กิโลกรัม ราคาสูงพอสมควร สำหรับบางรุ่นที่ไม่ได้ผ่านการชุบซิ้งค์กันสนิม ก็เสี่ยงที่จานเบรกจะเป็นสนิมได้ และเมื่ออุณหภูมิสูงมากๆ จานเบรกเหล็กธรรมดาก็อาจจะเกิดอาการคดหรือเสียรูปทำให้เกิดอันตรายได้

แนะนำสำหรับคนที่เลือก จานดิสเบรกที่ทำมาจากเหล็ก ก็คือใช้งานในชีวิตประจำวันและต้องคอยดูแลทำความตลอด ไม่จอดทิ้งนานๆให้สนิทกิน  ไม่ต้องเปลี่ยนบ่อยประหยัดงบไปได้

2.จานดิสเบรกที่ทำมาจากอลูมิเนียม ทำมาจากอลูมิเนียมผสมกับเหล็ก ข้อดีคือ น้ำหนักเบา ราคาถูก ระยะการใช้งานอยู่ที่ ประมาณ 20,000 กิโลเมตร ระบายความร้อนได้ดี  ไม่เป็นสนิม ระยะเบรกจะสั้นกว่าเนื่องจากผิวสัมผัสดิสเบรกกับผ้าเบรกทำได้ดีกว่าแบบเหล็ก

ข้อเสียคือ ระยะการใช้งานที่สั้น  หากเกิดความร้อนสูงเกินจานเบรกจะเกิดการผิดรูป กินผ้าเบรกทำให้ผ้าเบรกหมดอายุเร็วกว่าแบบเหล็ก

เหมาะสำหรับผู้ที่ใช้งานรถไม่บ่อยมาก สายจอดที่รอแค่ไว้ขับไปเที่ยว หรือสำหรับคนที่ต้องการระยะเบรกสั้นเพิ่มความปลอดภัยแต่ต้องงบเยอะเปลี่ยนทั้งดิสเบรกและผ้าเบรกบ่อยๆได้

            3.จานดิสเบรกที่ทำมาจากสแตนเลส ข้อดีคือ พื้นผิวสวย วาววับ สะท้อนแสงแบบตาแตก มีลวดลายบนพื้นผิวที่สวยงานเพราะผิวมันเรียบมัน จึงต้องทำลวดลายเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการเบรก  ระบายความร้อนเร็วมาก แต่ก็ร้อนเร็วเหลือเกิน  อายุการใช้งาน 20,000 –  30,000 กิโลเมตร  ไม่เป็นสนิทด้วยนะ

ข้อเสียคือ ระยะเบรกที่ยาวขึ้น หรือเบรกไม่ค่อยอยู่ เพราะพื้นพิวที่เรียบ จนมันวาว  ราคาสูงกว่าแบบทั้งสองแบบข้างต้น

เหมาะสำหรับ สายโชว์ และสายจอดยาวๆ  หากใช้งานเบรกหนักๆไม่แนะนำนะ เพราะสแตนเลสหากเกิดความร้อนมากๆ จะไม่สวยเอา

4.จานดิสเบรกที่มีสองส่วน หรือ Floating Disk Brake อันนี้จะเห็นได้ทั่วไปในรถจำพวก บิ๊กไบค์ เลยก็ว่าได้เพราะว่ามันคือรูปแบบดิสเบรกที่เป็นมาตรฐานสำหรับเจ้าพวกแรงม้าเยอะๆ แต่ในปัจจุบันก็ได้มีการพัฒนา เอามาใส่รถมอเตอร์ไซค์รุ่นย่อมเยาว์ เพราะว่า มีอะไหล่แต่งให้สามารถเปลี่ยนหรือดัดแปลงมาใช้จานเบรกแบบนี้ได้มากขึ้น เพิ่มความสวยงาม หลากสีสันสะดุดตาดี แต่ข้อดีจริงของเบรกชนิดนี้คือ Floating disk brake หรือจานเบรกแบบสองส่วนมีข้อดีคือช่วยให้การเบรกมีการตอบสนองได้เหมาะสม ผ้าเบรกจับกับหน้าสัมผัสจานเบรกได้อย่างเต็มที่ในแนวระนาบ เหตุผลมาจากตัวจานเบรกแบบ Floating นั้นตัวหมุดที่เชื่อมต่อระหว่างส่วนด้านในของจาน เบรกที่ยึดกับชุดล้อและด้านนอกหรือด้านบนของจานเบรก ที่เป็นส่วนสัมผัสกับผ้าเบรกมัน   สามารถที่จะมีระยะขยับได้เล็กน้อย ทำให้ทุกการเบรกมีประสิทธิภาพที่สูงมากๆ

ข้อเสียคือ ราคาที่แพงมากกว่าแบบอื่นๆ เพราะได้ทั้งประสิทธิภาพ และความสวยงาม เรื่องราคาเลยต้องทำใจนะเหล่าไบค์เกอร์ทั้งหลาย

             และสุดท้าย  5.จานดิสเบรกที่ทำมาจากคาร์บอน จานดิสเบรกชนิดนี้ ส่วนมากจะเห็นได้เฉพาะในสนามแข่งรถเท่านั้น เพราะด้วยข้อจำกัดที่ใหญ่หลวง แต่ประสิทธิภาพเหนือคำบรรยาย และค่าตัวที่เกินกว่าที่จำจับต้องกันได้ง่ายๆ

ด้วยวัสดุพิเศษอย่างคาร์บอนที่ทนทานแม้อุณหภูมิสูงถึง 800 องศา น้ำหนักเบากว่าวัสดุชนิดอื่นๆ  สามารถช่วยให้นักแข่งทุกคนไม่ว่าจะบิดเร็วแค่ไหน ใช้งานเบรกหนักแค่ไหน ความร้อนจะสูงสักแค่ไหน เจ้าจานดิสเบรกคาร์บอนตัวนี้ก็จะช่วยเหลือพวกเค้าให้ผ่านทุกอุปสรรคและคว้าแชมป์ไปได้

แต่ด้วยข้อเสียที่เป็นอุปสรรคในการนำมาใช้งานในชีวิตประจำวันเลย ก็คือ เจ้าจานดิสเบรกนี้ไม่สามารถใช้งานที่อุณหภูมิต่ำได้ อย่างเช่นฝนตก เพราะหากเจ้าจานดิสเบรกมันไม่ร้อน ถึง 200 องศาขึ้นไป จะเบรกไม่อยู่ และอายุการใช้งานที่สั้นมากๆ แค่เพียง 800 – 1000 กิโลเมตรเท่านั้น

แอดก็หวังว่าข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์ช่วยให้เพื่อนๆทุกคนได้หมดปัญหากับการเลือกซื้อจานดิสเบรก ให้ตรงกับความต้องการของเพื่อนๆเองนะครับ


Leave a Reply

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องที่ต้องการถูกทำเครื่องหมาย *