• “ฮอนด้า” สร้างผลงานกระหึ่มมาเลย์! “เมียร์” คว้าโพเดียม “ก้อง-สมเกียรติ” เข้าป้ายที่ 15 คว้าแต้มได้อีกครั้ง โมโตจีพี “ฟูรุซาโตะ” ซิวชัย โมโตทรี

    1 Min Read

    “ฮอนด้า” สร้างผลงานกระหึ่มมาเลย์! “เมียร์” คว้าโพเดียม “ก้อง-สมเกียรติ” เข้าป้ายที่ 15 คว้าแต้มได้อีกครั้ง โมโตจีพี “ฟูรุซาโตะ” ซิวชัย โมโตทรี

    “ทัพนักบิดฮอนด้า” โชว์ผลงานกระหึ่ม โมโตจีพี 2025 สนาม 20 รายการ มาเลเซียน กรังด์ปรีซ์ โดย “โจอัน เมียร์” ควบรถแข่ง Honda RC213V ผงาดโพเดียมอันดับ  3 “ก้อง” สมเกียรติ จันทรา นักแข่งชาวไทย สตาร์ตกริด 20 ทะยานเข้าป้ายอันดับ 15 คว้าแต้มได้สำเร็จ ขณะ “ไทโยะ ฟูรุซาโตะ” ดาวรุ่งชาวญี่ปุ่นจาก ฮอนด้า ทีม เอเชีย บิดคว้าชัยในรุ่น โมโตทรี จากเรซสุดมันส์ที่ สนามเซปัง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ประเทศมาเลเซีย เมื่อวันอาทิตย์ที่ 26 ตุลาคมที่ผ่านมา

    เกมเรซนี้ดวลกันทั้งสิ้น 20 รอบสนาม โดย “โจอัน เมียร์” หมายเลข 36 นักบิดสแปนิช จาก ฮอนด้า เอชอาร์ซี ได้เริ่มเกมจากกริดที่ 7 และต่อสู้ในกลุ่มหน้าอย่างยอดเยี่ยม ไต่ขึ้นมาเข้าป้ายในอันดับ 3 ตามหลังผู้ชนะ 8.048 วินาที คัมแบ็กขึ้นโพเดียมได้อีกครั้ง โดยมี “ลูก้า มารินี” หมายเลข 10 ทีมเมทชาวอิตาเลียน ตามเข้าป้ายอันดับ 8 ตามหลัง 18.738 วินาที

    ขณะที่ “ก้อง-สมเกียรติ” นักบิดขวัญใจชาวไทยซึ่งออกตัวจากกริดที่ 20 ควบรถแข่งคู่ใจหมายเลข 35 ไล่บี้ในกลุ่มอย่างเข้นข้น ทะยานขึ้นมาจบเรซอันดับ 15 ตามหลังผู้ชนะ 34.110 วินาที คว้า 1 แต้มจากสนามนี้ได้สำเร็จ รวมเป็น 7 แต้มในฤดูกาลนี้ ส่วน “โยฮันน์ ซาร์โก” หมายเลข 5 ทีมเมทชาวฝรั่งเศส เข้าป้ายอันดับ 12 ตามหลัง 22.234 วินาที

    ด้านผลในรุ่น โมโตทรี เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ ถือเป็นผลงานระดับมาสเตอร์ของนักบิดดาวรุ่งชาวญี่ปุ่นอย่าง “ไทโยะ ฟูรุซาโตะ” หมายเลข 72 จาก ฮอนด้า ทีม เอเชีย ที่บิดคว้าชัยชนะไปครองอย่างสุดมันส์ ด้วยเวลา 22 นาที 3.888 วินาที ส่วน “ก๊องส์” ธัชกร บัวศรี นักบิดไทยหมายเลข 5 เข้าป้ายอันดับ 21 ตามหลัง 20.048 วินาที

    ทั้งนี้ ศึก โมโตจีพี 2025 สนามถัดไปจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 7-9 พฤศจิกายนนี้ ที่ อัลการ์ฟ อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต เมืองปอร์ติเมา ประเทศโปรตุเกส ในรายการ โปรตุกีส กรังด์ปรีซ์

     

    แฟนความเร็วชาวไทยสามารถส่งกำลังใจเชียร์นักบิดฮอนด้าพร้อมติดตามข่าวสารและรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ : https://facebook.com/HondaRacingTeamTH

     

    #HondaRacingThailand #RaceToTheDream #MotoGP #HondaBigBike #HondaRC213V #IdemitsuHondaLCR #SC35 #Kong #LCRHonda #JZ5 #HondaHRC #JM36 #LM10 #HondaTeamAsia #Moto3 #TB5 #Gonz #MalaysianGP


    No Comment
  • ไอคอนสยาม จับมือ สมาคมรถโบราณฯ จัดงาน “VINTAGE CAR SHOW at ICONSIAM” อวดโฉม “ดารารถ” จากหนังดัง ริมแม่น้ำเจ้าพระยา

    1 Min Read

    ไอคอนสยาม จับมือ สมาคมรถโบราณฯ จัดงาน “VINTAGE CAR SHOW at ICONSIAM” อวดโฉม “ดารารถ” จากหนังดัง ริมแม่น้ำเจ้าพระยา

    สมาคมรถโบราณฯ ร่วมกับ ไอคอนสยาม จัดงานแสดงรถโบราณสุดยิ่งใหญ่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา “VINTAGE CAR SHOW at  ICONSIAM” รวมรถโบราณ รถหาชมยาก ณ ริเวอร์ พาร์ค ไอคอนสยาม วันที่ 24 -26 ตุลาคม 2568

    ขวัญชัย ปภัสร์พงษ์ นายกสมาคมรถโบราณแห่งประเทศไทย เผยว่า “สมาคมฯ ร่วมกับ ไอคอนสยาม จัดงาน “VINTAGE CAR SHOW at ICONSIAM” ภายใต้แนวคิด “รถ…ที่โลดแล่นบนแผ่นฟิล์ม – Famous Cars that Starred in Films” เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวไทย โดยนำ “ดารารถ” ดาวเด่น จากหนังในอดีต มาให้ชมอย่างใกล้ชิด ในบรรยากาศริมแม่น้ำเจ้าพระยา”

    อนนต์ อัตถวิบูลย์  ผู้บริหารสายงานปฏิบัติการ บริษัท ไอคอนสยาม จำกัด กล่าวว่า “ไอคอนสยามให้ความสำคัญกับการเป็น ‘Experiential Destination’ ที่มอบประสบการณ์หลากหลายมิติ การจัดแสดงรถโบราณริมน้ำเจ้าพระยาครั้งนี้จึงเป็นมากกว่าแค่การโชว์รถ แต่เป็นการนำเสนอศิลปะ วัฒนธรรม และไลฟ์สไตล์แบบย้อนยุค ผสมผสานกับทัศนียภาพที่สวยงามที่สุด เพื่อสร้างความทรงจำร่วมกันที่น่าประทับใจ”

    ไฮไลต์ในงานปีนี้ ได้แก่ VOLVO P1800 ปี 1971 รถสัญชาติสวีเดน รถรุ่นนี้กลายเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง ในฐานะคู่ใจของ Simon Templar พระเอกในเรื่อง The Saint (ออกอากาศระหว่างปี 1962-1969) รับบทโดย Roger Moore ก่อนที่เขาจะกลายเป็น James Bond สายลับรหัส 007 ผู้โด่งดังในโลกภาพยนตร์

    MERCEDES-BENZ 300 SL GULLWING ปี 1955 รถสปอร์ทระดับตำนาน ที่เป็นแรงบันดาลใจให้แฟรนไชส์เกมชื่อดัง GRAND THEFT AUTO (GTA) นำดีไซจ์นไปใช้เป็นต้นแบบของรถสปอร์ทคลาสสิคหลายรุ่นในเกม เช่น “STIRLING GT” ทำให้ผู้เล่นทั่วโลกได้สัมผัสเสน่ห์ของสปอร์ทประตูปีกนกคันนี้

    FORD MUSTANG CONVERTIBLE ปี 1967 รถสปอร์ทสัญชาติอเมริกันในยุครุ่งเรืองของ MUSCLE CAR ตัวถังแบบเปิดประทุน ได้ปรากฏตัวในมิวสิควีดีโอเพลง “DREAM” ของ LISA (BLACKPINK) feat. KENTARO SAKAGUCHI เพื่อสื่อถึงอารมณ์อิสระ และโรแมนทิคในบรรยากาศย้อนยุค

    นอกจากนี้ ยังมีรถโบราณ รถคลาสสิคที่น่าสนใจอีกมากมาย ในงานยังมี มินิคอนเสิร์ตจาก สมาคมดนตรีแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ซึ่งทั้งหมดนี้ ได้รับการสนับสนุนจาก พิพิธภัณฑ์คนรักรถ AUTO RENDEZVOUS MUSEUM-BANGKOK, JOIN BOAT PLATFORM, บริษัท เมกไกวส์ (ไทยแลนด์) จำกัด และ งาน “มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 42”

    ร่วมชมดารารถโบราณในงาน “VINTAGE CAR SHOW at  ICONSIAM” ณ ริเวอร์ พาร์ค ไอคอนสยาม ระหว่างวันที่ 24 -26 ตุลาคม 2568 ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Facebook: Vintage Car Club of Thailand


    ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย

    Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
    Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
    Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
    instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
    Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
    Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
    Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine


    No Comment
  • รู้จักกับ K.I.T.T. รถไฮเทคสุดล้ำขวัญใจวัยรุ่นยุค 80 จาก “อัศวินคอมพิวเตอร์”

    2 Min Read

    รู้จักกับ K.I.T.T. รถไฮเทคสุดล้ำขวัญใจวัยรุ่นยุค 80 จาก “อัศวินคอมพิวเตอร์”

    สำหรับแฟนซีรีส์ยุค 80 “Knight Rider” ไม่ได้เป็นเพียงแค่การผจญภัยของฮีโร่ผู้ผดุงความยุติธรรมเท่านั้น แต่ยังเป็นเรื่องราวความผูกพันระหว่าง ไมเคิล ไนท์ (Michael Knight) และรถยนต์คู่ใจที่ชาญฉลาดที่สุดในโลกนามว่า K.I.T.T. (Knight Industries Two Thousand) รถยนต์สีดำเพรียวลมที่มีไฟสแกนเนอร์สีแดงอันเป็นเอกลักษณ์คันนี้ได้ก้าวข้ามขีดจำกัดของยานยนต์ธรรมดา กลายเป็น “อัศวินคอมพิวเตอร์” ผู้มีจิตวิญญาณและความคิดเป็นของตัวเอง คอลัมน์นี้จะพาทุกท่านไปเจาะลึกที่มาของ K.I.T.T. ตั้งแต่ตัวตนในซีรีส์ รถต้นแบบ ไปจนถึงการดีไซน์อันเป็นตำนาน

    “Knight Rider” (อัศวินคอมพิวเตอร์) ออกอากาศครั้งแรกในปี 1982 เป็นผลงานการสร้างสรรค์ของ เกลน เอ. ลาร์สัน (Glen A. Larson) เล่าเรื่องราวของ ไมเคิล ลอง นายตำรวจที่ถูกยิงระหว่างปฏิบัติหน้าที่ และได้รับการช่วยชีวิตโดยมหาเศรษฐีผู้ใจบุญ วิลตัน ไนท์ (Wilton Knight) หลังจากฟื้นตัว เขาได้รับใบหน้าใหม่และตัวตนใหม่ในชื่อ ไมเคิล ไนท์ พร้อมภารกิจลับในการต่อสู้กับอาชญากรรม ในฐานะส่วนหนึ่งขององค์กร Knight Foundation for Law and Government (FLAG)

    อาวุธสำคัญที่สุดของไมเคิลคือ K.I.T.T. (Knight Industries Two Thousand) รถซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่มี AI ขั้นสูง รถคันนี้สามารถคิด, พูดคุย, เรียนรู้, ขับเคลื่อนตัวเองได้ และยังมีอุปกรณ์เทคโนโลยีล้ำสมัยมากมาย (เช่น Turbo Boost, Ski Mode, Molecular Bonded Shell ที่ทำให้รถแทบไม่บุบสลาย) K.I.T.T. มีเสียงพากย์อันโดดเด่นและบุคลิกที่สุภาพแต่ขี้ประชด (พากย์โดย William Daniels) ทั้งไมเคิลและ K.I.T.T. ต้องร่วมกันเดินทางไปทั่วประเทศเพื่อช่วยเหลือผู้บริสุทธิ์และต่อสู้กับเหล่าร้าย

    Pontiac Firebird Trans-Am

    รถที่เป็นร่างต้นแบบของ K.I.T.T. คือ Pontiac Firebird Trans Am รุ่นปี 1982 ซึ่งเป็นรถยนต์สปอร์ต “มัสเซิลคาร์” (Muscle Car) ยอดนิยมของอเมริกา ในยุคที่ซีรีส์ออกอากาศ Firebird Trans Am เพิ่งเปิดตัวเจเนอเรชั่นที่ 3 ซึ่งมีรูปลักษณ์ที่ดูโฉบเฉี่ยวและมีหลักอากาศพลศาสตร์ที่ดีขึ้นอย่างมาก มีตัวเลือกเครื่องยนต์หลากหลาย แต่รถที่ใช้ในกองถ่ายมักจะเป็นรุ่นที่ติดตั้งเครื่องยนต์ V8 ขนาด 5.0 ลิตร หรือเครื่องยนต์ V6 มีจุดเด่นอยู่ที่ รูปลักษณ์ที่ดูทันสมัยในยุคนั้น โดยเฉพาะส่วนหน้าที่มีไฟหน้าแบบป๊อปอัพ และกระจกหลังขนาดใหญ่ที่ลาดลงไปถึงด้านท้าย และที่สำคัญ… มันยังสามารถใช้อะไหล่ร่วมกับ Chevrolet Camaro โฉมที่ 3 ได้อีกด้วย เนื่องจะเป็นรถที่อยู่ในเครือของ General Motors เหมือนๆ กัน และยังใช้โครงสร้าง F Body ในการออกแบบร่วมกันอีกด้วย

    การที่โปรดิวเซอร์เลือกใช้รถรุ่นนี้ ถือเป็นการตอกย้ำภาพลักษณ์ของรถยนต์แห่งอนาคตที่ขับเคลื่อนโดยเทคโนโลยีอเมริกันได้อย่างลงตัว

    เบื้องหลังการดีไซน์ตัวละคร K.I.T.T. 

    การดีไซน์ตัวรถ K.I.T.T. ส่วนใหญ่ดำเนินการโดย ไมเคิล เชฟเฟ (Michael Scheffe) เขาเป็นผู้ออกแบบส่วนหน้า (Front Nose) ที่มีลักษณะเพรียวยาวและเรียบเนียนกว่ารถ Firebird รุ่นมาตรฐาน โดยมีจุดเด่นคือ ไฟสแกนเนอร์สีแดงที่เลื่อนไปมา (Scanner Bar) ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากดวงตาของ ไซลอน (Cylon) จากซีรีส์ Battlestar Galactica (ซึ่งเป็นผลงานของ เกลน เอ. ลาร์สัน เช่นกัน) อย่างไรก็ตาม มีการเปลี่ยนแปลงการออกแบบส่วนหน้าในช่วงต้นซีซัน 1 เนื่องจากมีปัญหาด้านการผลิต

    สิ่งที่ทำให้ K.I.T.T. แตกต่างอย่างสิ้นเชิงคือแผงควบคุมภายในรถ (Dashboard) ซึ่งเต็มไปด้วยปุ่มกด ไฟกะพริบ และหน้าจอแสดงผล CRT สองจอ ถือเป็นการแสดงถึง “สมอง” ของรถยนต์อัจฉริยะอย่างชัดเจน พวงมาลัยของ K.I.T.T. ก็ถูกดัดแปลงให้มีรูปทรงแบบ Yoke หรือ “ตัววาย” ที่คล้ายกับพวงมาลัยของเครื่องบิน

    รถ Ford Mustang ต้นแบบ K.I.T.T. ฉบับภาคต่อกึ่งรีบูตปี 2008

    ในปี 2008 มีการสร้างภาพยนตร์โทรทัศน์ความยาว 2 ชั่วโมงเพื่อเป็นภาคต่อกึ่งรีบูตของซีรีส์ “Knight Rider” โดยมีการนำตัวละคร K.I.T.T. กลับมาในรูปแบบใหม่ ซึ่งคราวนี้ถูกเรียกว่า K.I.T.T. (Knight Industries Three Thousand) รถที่นำมาใช้เป็นต้นแบบคือ Ford Shelby GT500KR ปี 2008 เนื่องจาก Pontiac Firebird ยุติการผลิตไปแล้ว และเพื่อเป็นการปรับภาพลักษณ์ให้เข้ากับยุคสมัยใหม่ ทีมงานจึงเลือกใช้รถสปอร์ตที่โดดเด่นในขณะนั้นอย่าง Ford Mustang ที่ได้รับการปรับแต่งเป็นรุ่น Shelby GT500KR ซึ่งให้ภาพลักษณ์ที่ดูดุดันและทันสมัยกว่า

    K.I.T.T. เวอร์ชั่นปี 2008 ยังคงรักษาไฟสแกนเนอร์สีแดงไว้ แต่มีเส้นสายที่คมชัดและก้าวร้าวตามสไตล์ของ Mustang ยุคใหม่ ส่วนเสียงพากย์เปลี่ยนเป็น วาล คิลเมอร์ (Val Kilmer) ที่มีโทนเสียงที่นุ่มนวลและเป็นทางการกว่าเดิมมาก โดยมีการเน้นความสามารถในการแปลงร่างเป็นรถรุ่นอื่น (ส่วนใหญ่เป็นรถยนต์ของ Ford) และการใช้เทคโนโลยีนาโนในการซ่อมแซมตัวเอง

    แม้ว่าซีรีส์รีบูตจะไม่ประสบความสำเร็จและมีอายุสั้นเพียงซีซันเดียว แต่ K.I.T.T. ฉบับ Mustang ก็เป็นหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่า ตำนานของ “อัศวินคอมพิวเตอร์” ยังคงพยายามปรับตัวและมีอิทธิพลต่อวัฒนธรรมรถยนต์มาจนถึงปัจจุบัน


    ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย

    Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
    Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
    Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
    instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
    Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
    Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
    Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine

    No Comment
  • Edison EV ร่วมฉลอง 20 ปี เนื่องในโอกาสครบรอบการส่งออกรถยนต์แบรนด์ DFSK ออกต่างประเทศของ SERES Group (เซเรสกรุ๊ป) ย้ำจุดยืนผู้จัดจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าแบรนด์ DFSK แต่เพียงผู้เดียวในไทย

    1 Min Read

    Edison EV ร่วมฉลอง 20 ปี เนื่องในโอกาสครบรอบการส่งออกรถยนต์แบรนด์ DFSK ออกต่างประเทศของ SERES Group (เซเรสกรุ๊ป) ย้ำจุดยืนผู้จัดจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าแบรนด์ DFSK แต่เพียงผู้เดียวในไทย

    บริษัท เอดิสัน อีวี จำกัด (Edison EV) ผู้จัดจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้า (EV) และยานยนต์พลังงานใหม่ (New Energy Vehicle – NEV) แบรนด์ DFSK แต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย  ประกาศเข้าร่วมเฉลิมฉลองวาระครบรอบ 20 ปีแห่งการขยายตลาดระดับโลกของ DFSK ซึ่งเป็นพันธมิตรหลักภายใต้การสนับสนุนของ SERES Group องค์กรยานยนต์ชั้นนำระดับโลก ด้วยการเปิดตัวรถยนต์รุ่นยุทธศาสตร์พลังงานใหม่ (New Energy Strategic Model) คันแรกที่ส่งออกสู่ตลาดโลก นั่นคือ DFSK E5 Plus ในงาน Motor Expo 2025 (บูธ B08)  เป็นครั้งแรกในประเทศไทย พร้อมเปิดรับพรีออเดอร์สำหรับผู้ที่สนใจภายในงาน

    นางสาวธันย์จิรา ภูริชพุฒิพันธ์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เอดิสัน อีวี จำกัด ได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของความร่วมมือนี้ โดยกล่าวว่า “การที่ DFSK ประสบความสำเร็จในการขยายตลาดสู่กว่า 70 ประเทศทั่วโลกตลอดระยะเวลา 20 ปี และการที่ SERES Group มีผลงานสะสมในการผลิตและจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้ากว่า 500,000 คัน ได้สร้างความเชื่อมั่นในคุณภาพและเสถียรภาพระดับโลก  การครบรอบ 20 ปีนี้ ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ DFSK ประกาศเดินหน้าสู่ยุค ‘Green Mobility’ อย่างเต็มตัว  และประเทศไทยได้รับเลือกให้เป็นตลาดเชิงยุทธศาสตร์ในการเปิดตัว DFSK E5 Plus ซึ่งเป็น ‘โมเดลพลังงานใหม่เพื่อการส่งออกเชิงกลยุทธ์รุ่นแรก’ ของแบรนด์ แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นที่พันธมิตรมีต่อ Edison EV และศักยภาพตลาด NEV ของไทย ”

    DFSK E5 Plus: เรือธงระดับโลก PHEV ที่ตอบโจทย์การใช้งานของคนไทย

    DFSK E5 Plus จะถูกนำมาจัดแสดงครั้งแรก ณ งาน Motor Expo 2025 (บูธ B08) ระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน ถึง 10 ธันวาคม 2568 ณ อาคารชาเลนเจอร์ อิมแพ็ค เมืองทองธานี รถยนต์รุ่นนี้เป็นรถยนต์ Mid-size SUV แบบ Plug-in Hybrid Electric Vehicle (PHEV) ขนาด 7 ที่นั่ง ที่ถูกพัฒนามาเพื่อตอบโจทย์ครอบครัวและการเดินทางระยะไกลในประเทศไทยโดยเฉพาะ

    จุดแข็งของ DFSK E5 Plus คือการมอบความคุ้มค่าและความอุ่นใจในการเดินทาง ด้วยขุมพลังลูกผสม (PHEV) ที่สามารถวิ่งได้ไกลรวมสูงสุดถึง 1,300 กม. ต่อการชาร์จและเติมน้ำมันเต็มถัง  ในขณะเดียวกันก็สามารถวิ่งด้วยพลังงานไฟฟ้าล้วนได้ไกลถึง 165 กม. (มาตรฐาน CLTC) ซึ่งเพียงพอต่อการใช้งานในชีวิตประจำวันอย่างประหยัด  นอกจากนี้ ยังยกระดับประสบการณ์การขับขี่ด้วยห้องโดยสารอัจฉริยะ HUAWEI HiCar 4.0, จอควบคุม HD ขนาดใหญ่ 15.6 นิ้ว, ลำโพง 13 ตำแหน่ง, และระบบช่วยเหลือการขับขี่ ADAS เพื่อความปลอดภัยสูงสุดสำหรับทุกคนในครอบครัว  คุณสมบัติทั้งหมดนี้ผสานคุณภาพที่ได้รับการรับรองมาตรฐานยุโรป เข้ากับการออกแบบที่คำนึงถึงสภาพแวดล้อมการใช้งานในประเทศไทย

    Edison EV พร้อมเปิดลงทะเบียนจองสิทธิ์ DFSK E5 Plus ราคาพิเศษในงาน Motor Expo 2025

    เพื่อให้ผู้บริโภคชาวไทยได้สัมผัสและเป็นเจ้าของรถยนต์รุ่นยุทธศาสตร์นี้ก่อนใคร Edison EV ประกาศพร้อมเปิดให้ผู้สนใจลงทะเบียนล่วงหน้าเพื่อจองสิทธิ์รับราคาสุดพิเศษสำหรับ DFSK E5 Plus ภายในงาน Motor Expo 2025  การเปิดจองครั้งนี้ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญที่ตลาดจะได้สัมผัสกับมาตรฐานใหม่ของยานยนต์ NEV ที่เน้นความยั่งยืนและความอเนกประสงค์ เพื่อตอกย้ำวิสัยทัศน์ “Deliver Simplicity Technology for Everyone” ที่มุ่งนำเสนอเทคโนโลยีที่ทุกคนเข้าถึงได้

    เร่งเครื่องสร้างฐานรากที่ยั่งยืน: ประกาศรับดีลเลอร์-นักลงทุน ทั่วประเทศ

    Edison EV ยืนยันการเดินหน้าตามแผนงานเพื่อสร้างรากฐานทางธุรกิจที่มั่นคงและยั่งยืน โดยประกาศเร่งรัดการขยายเครือข่ายผู้จำหน่ายและศูนย์บริการทั่วประเทศ บริษัทฯ ตั้งเป้าที่จะสรุปและปิดการขยายเครือข่ายโชว์รูมและศูนย์บริการมาตรฐานให้ได้ตามแผนที่วางไว้ภายในสิ้นปี 2568 นี้ โดยบริษัทฯ เน้นย้ำว่า ปี 2568 นี้คือปีแห่งการวางรากฐานเพื่อการเติบโตอย่างมั่นคงในปี 2569-2570 และปีต่อไป

    “เราให้ความสำคัญกับการสร้างเครือข่ายที่แข็งแกร่งและมีความมุ่งมั่นในระยะยาว” นางสาวธันย์จิรากล่าว  “เราต้องการดีลเลอร์และนักลงทุนที่เข้าใจในธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้า มีวิสัยทัศน์ระยะยาว พร้อมลงทุนในการพัฒนาบุคลากร และมีศูนย์บริการที่ได้มาตรฐาน เพื่อให้การบริการลูกค้าเป็นไปอย่างมืออาชีพตลอดอายุการใช้งานของรถยนต์  Edison EV และพันธมิตรจาก SERES Group พร้อมให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ทั้งด้านการตลาด การฝึกอบรม ระบบ CRM และเทคโนโลยีต่างๆ เพื่อให้ดีลเลอร์สามารถดูแลลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ”

    โอกาสทางธุรกิจในตลาด NEV ที่กำลังเติบโต

    แผนการขยายเครือข่ายมุ่งเน้นไปยังจังหวัดเศรษฐกิจหลักและหัวเมืองใหญ่ทั่วประเทศ เพื่อให้มั่นใจในการบริการลูกค้าอย่างทั่วถึง  เฟสแรกครอบคลุมพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล ตามด้วยกลุ่มจังหวัดที่มีศักยภาพสูง ได้แก่ เชียงใหม่, พิษณุโลก, อุบลราชธานี, อุดรธานี, ขอนแก่น, นครราชสีมา, ชลบุรี, ระยอง, ภูเก็ต และสงขลา (หาดใหญ่)

    นักลงทุนและผู้ประกอบการที่มีศักยภาพ ซึ่งต้องการเป็นส่วนหนึ่งของการเติบโตอย่างยั่งยืนในอุตสาหกรรมยานยนต์พลังงานใหม่ของประเทศไทย เข้าร่วมหารือและสมัครเป็นผู้แทนจำหน่ายในเครือข่าย DFSK NEV เพื่อก้าวไปสู่ความสำเร็จในระยะยาวร่วมกัน สามารถติดต่อเพื่อสอบถามรายละเอียดคุณสมบัติและการสมัครเป็นผู้แทนจำหน่ายได้ที่ สายด่วน Dealer Network – Edison EV โทร. 064-656-2283


    ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย

    Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
    Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
    Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
    instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
    Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
    Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
    Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine

    No Comment
  • ไทยฮอนด้า รวมพลคนรักความคลาสสิก เปิดตัว All New Honda Super Cub และ FUJISAN Limited Edition เติมเสน่ห์เรโทรเหนือกาลเวลาในงาน “Super Cub THE ORIGINAL CLUB MEETING” ย่านทรงวาด

    2 Min Read

    ไทยฮอนด้า รวมพลคนรักความคลาสสิก เปิดตัว All New Honda Super Cub และ FUJISAN Limited Edition เติมเสน่ห์เรโทรเหนือกาลเวลาในงาน “Super Cub THE ORIGINAL CLUB MEETING” ย่านทรงวาด

    ไทยฮอนด้า จัดงานสุดพิเศษ “Super Cub THE ORIGINAL CLUB MEETING” รวมพลคนรักความคลาสสิกเฉลิมฉลองตำนานออริจินัลที่อยู่คู่คนไทยมากว่า 60 ปี พร้อมเปิดตัวรถจักรยานยนต์รุ่นใหม่ล่าสุด All New Honda Super Cub ที่มาพร้อม 2 สีทูโทนใหม่ สีฟ้า-ขาว และ สีเหลือง-ขาว สไตล์เรโทรสุดคลาสสิกสะท้อนความเป็นตัวตนได้เต็มที่ ภายใต้คอนเซปต์ ‘Find Your Original  ถึงเวลาออริจินัล’ และรุ่นพิเศษ All New Honda Super Cub FUJISAN Limited Edition ดีไซน์เรโทรมินิมอลสะท้อนความเป็นญี่ปุ่น ผลิตจำนวนจำกัดเพียง 500 คันเท่านั้น ท่ามกลางบรรยากาศสุดอบอุ่นที่รวบรวมเหล่าสาวก Super Cub จากทั่วประเทศที่ยกพลมาร่วมเฉลิมฉลองความคลาสสิกกว่า 200 คัน ณ Mahapho Riverview อีเวนต์สเปซริมแม่น้ำเจ้าพระยา ย่านทรงวาด

    All New Honda Super Cub มาพร้อมคอนเซปต์ Find Your Original ถึงเวลาออริจินัล’ ยังคงเอกลักษณ์ความเรโทรสุดคลาสสิกที่สะท้อนตัวตนผู้ขับขี่ไว้ครบถ้วน พร้อมเสริมความมั่นใจยิ่งขึ้นด้วยเทคโนโลยีใหม่ ระบบ Combined Brake System (CBS) ที่ช่วยกระจายแรงเบรกหน้าและหลังอย่างสมดุล พร้อม ดิสก์เบรกหน้า ช่วยให้เบรกได้แม่นยำขึ้น มอบความมั่นใจในทุกจังหวะการขับขี่ ขับเคลื่อนด้วย เครื่องยนต์ Honda Smart Engine 110 ซีซี ระบบหัวฉีด PGM-FI ที่ให้ทั้งความประหยัด สมรรถนะ และความทนทานเหนือชั้น อีกทั้งโดดเด่นด้วย ไฟหน้า LED และกระจกทรงกลมดีไซน์คลาสสิก สำหรับ All New Honda Super Cub มาพร้อม 2 สีทูโทนใหม่ สะท้อนเสน่ห์เรโทรอย่างลงตัว เลือกเผยความเป็นตัวตนได้ตามต้องการ โดยพร้อมวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการตั้งแต่วันนี้ ทั้งหมด 4 สี ได้แก่ สีฟ้า-ขาว (SBW), สีเหลือง-ขาว (Y-W), สีเขียว (GRN) และ สีเทา-ขาว (G-W) ในราคาแนะนำ 50,600 บาท

    อีกหนึ่งไฮไลต์คือการนำเสนอความโดดเด่นไม่ซ้ำใครไปกับ All New Super Cub FUJISAN Limited Edition ที่ออกแบบมาเพื่อคนรักอิสระและหลงใหลการเดินทาง ถ่ายทอดแรงบันดาลใจจากบรรยากาศเส้นทางท่องเที่ยวของภูเขาไฟฟูจิในฤดูหนาว ผ่านดีไซน์เรโทรมินิมอลสะท้อนความเป็นญี่ปุ่น ผลิตจำนวนจำกัดเพียง 500 คันทั่วประเทศ

    รุ่นพิเศษนี้มาพร้อมชุดแต่งเฉพาะที่สร้างเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร ทั้งบังลมหน้าสีฟ้าใส Blue Wind Shield ดีไซน์มินิมอลเข้ากับตัวรถ เพิ่มมิติความเท่สไตล์ญี่ปุ่นและช่วยลดแรงลมปะทะ รวมถึงสติกเกอร์ลายกราฟิกภูเขาไฟฟูจิและพระอาทิตย์ Fuji San Body Sticker โทนสีฟ้า-ขาวตัดแดง สะท้อนความเป็น Japanese Retro มาพร้อมกันลายและตะแกรงเหล็กหน้า Blue Body Protector & Front Carrier สีน้ำเงินเข้าชุด เพิ่มความสะดวกและเสริมลุคคลาสสิก อีกทั้งของพิเศษที่ออกแบบมาเข้าธีมเดียวกันคือ เสื้อแจ็กเกต Fuji San Jacket และ หมวกกันน็อกทรงคลาสสิก Fuji San Classic Helmet ที่ได้แรงบันดาลใจจากวิวภูเขาไฟฟูจิในฤดูหนาว มอบความโดดเด่นในทุกเส้นทาง ในราคาแนะนำ 54,000 บาท

     

    ภายในงาน Super Cub THE ORIGINAL CLUB MEETING เต็มไปด้วยกลิ่นอายความเรโทรสุดคลาสสิกในแบบฉบับ Super Cub โดยมีรถ Super Cub กว่า 200 คัน จากทั่วประเทศมาร่วมอวดโฉมในลานรวมรถสุดยิ่งใหญ่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา สะท้อนพลังแห่งคอมมูนิตี้คนรักความออริจินัลที่มาร่วมเฉลิมฉลองความคลาสสิกไปด้วยกัน ผู้เข้าร่วมได้เพลิดเพลินกับกิจกรรมที่จัดเต็มในสไตล์ Super Cub ไม่ว่าจะเป็นโซนอาหารและเครื่องดื่มสุดชิคให้ชิลกันฟรี กิจกรรม DIY สุดคูล การประกวดรถแต่งสวยจำกัดผู้เข้าประกวด 30 คัน การประกวดแต่งตัวออริจินัลสไตล์ รวมถึงการแสดงดนตรีสดและดีเจที่เพิ่มสีสันแห่งความสนุก พร้อมพบปะเหล่าอินฟลูเอนเซอร์สายคลาสสิกที่มาร่วมสร้างแรงบันดาลใจให้กับแฟน Super Cub ได้อบอุ่นและประทับใจตลอดงาน

    นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมพิเศษที่สะท้อนจิตวิญญาณของ Super Cub ผ่านโซนคอมมูนิตี้ซึ่งเปิดพื้นที่ให้ผู้ขับขี่ได้พบปะและแลกเปลี่ยนประสบการณ์ความประทับใจ พร้อมร่วมสนุกกับการแจกของรางวัลและเซอร์ไพรส์มากมาย โดยไทยฮอนด้ายังมอบของที่ระลึกสุดเอ็กซ์คลูซีฟ “Super Cub Original Club Bandana Limited Edition” ให้กับลูกค้า Super Cub ทุกรุ่นที่ลงทะเบียนและขี่รถมาร่วมงาน 100 ท่านแรก เพื่อเป็นสัญลักษณ์แห่งความเป็นหนึ่งเดียวของคอมมูนิตี้คนรักความออริจินัล งานนี้นับเป็นอีกก้าวสำคัญของไทยฮอนด้าในการตอกย้ำความสำเร็จของ Super Cub รถจักรยานยนต์ออริจินัลที่อยู่ในใจคนไทยมายาวนาน พร้อมส่งต่อดีไซน์คลาสสิกเหนือกาลเวลา ควบคู่กับเทคโนโลยีที่ตอบโจทย์การขับขี่ในทุกยุค

    สำหรับลูกค้าที่สนใจเป็นเจ้าของ All New Honda Super Cub และ All New Super Cub FUJISAN Limited Edition สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Honda Wing Center ทุกสาขาทั่วประเทศ

     

    สามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

    เว็บไซต์: www.thaihonda.co.th/cubhouse/
    เฟซบุ๊กรถจักรยานยนต์ฮอนด้า: www.facebook.com/hondamotorcyclethailand
    เฟซบุ๊ก CUB House: https://www.facebook.com/cubhousebyhonda
    IG: https://www.instagram.com/cubhousebyhonda/
    Tiktok: www.tiktok.com/@hondamotorcycletha
    Youtube: www.youtube.com/HondaMotorcycleTHA

    #AllNewHondaSuperCub #SuperCub #HondaSuperCub #FindYourOriginal #ถึงเวลาออริจินัล #TheOriginalClubMeeting #คนรักความออริจินัล #CUBHouse #CUBHousebyHonda
    #รถจักรยานยนต์ฮอนด้า #HondaMotorcycleThailand #ไทยฮอนด้า #ThaiHonda


    ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย

    Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
    Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
    Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
    instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
    Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
    Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
    Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine


    No Comment
  • PTG ผนึกพันธมิตรจัดศึก “PT MAXNITRON RACING SERIES 2025: SONGKHLA GRANDPRIX” สุดยิ่งใหญ่ ณ จังหวัดสงขลา

    2 Min Read

    PTG ผนึกพันธมิตรจัดศึก “PT MAXNITRON RACING SERIES 2025: SONGKHLA GRANDPRIX” สุดยิ่งใหญ่ ณ จังหวัดสงขลา

    บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ PTG บริษัท เอส 63 โปรเจค จำกัด จำกัด ร่วมกับ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จัดกิจกรรมแข่งขันรถยนต์ทางเรียบ รายการPT MAXNITRON RACING SERIES 2025” ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในรุ่น SIAM GT SIAM GROUP A และ SIAM GROUP N พร้อมรางวัลรวมมูลค่ากว่า 1,000,000 บาท โดยมีนายชูชีพ ธรรมเพชร รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา และ นายณัฐ ครุฑสูตร รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ร่วมเป็นเกียรติในพิธีเปิดการแข่งขัน ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 17 – 19 ตุลาคม 2568 ณ สนาม PT SONGKHLA GRANDPRIX 2025 จังหวัดสงขลา

    บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ PTG โดย พิทักษ์ รัชกิจประการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ กล่าวว่า “ในฐานะผู้สนับสนุนหลักของการแข่งขัน PT MAXNITRON RACING SERIES 2025 มีความยินดีที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนวงการมอเตอร์สปอร์ตไทยให้ก้าวสู่ระดับสากล และร่วมสร้างชื่อเสียงให้ประเทศไทยเป็นที่รู้จักในเวทีโลก ผ่านการจัดการแข่งขันที่ได้มาตรฐานและเต็มไปด้วยพลังแห่งความมุ่งมั่น การจัดการแข่งขันในครั้งนี้ที่จังหวัดสงขลา ยังถือเป็นโอกาสสำคัญในการส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัด และพื้นที่ใกล้เคียง สร้างการรับรู้และดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เดินทางมาสัมผัสบรรยากาศของเมืองชายทะเลใต้ที่มีเอกลักษณ์ ทั้งยังช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่นให้เติบโตอย่างยั่งยืน โดย PTG มุ่งมั่นสนับสนุนกิจกรรมมอเตอร์สปอร์ตอย่างต่อเนื่อง พร้อมพัฒนาและยกระดับการจัดงานในทุกปีให้ดียิ่งขึ้น เพื่อดึงดูดทั้งนักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างชาติให้มาสัมผัสประสบการณ์ความเร็วระดับพรีเมียมในประเทศไทย ทั้งนี้ PTG ในฐานะ “แบรนด์ของคนไทย เพื่อคนไทย” ยังคงสานต่อเจตนารมณ์ในการสร้างสังคมไทยให้ “อยู่ดี มีสุข” ในทุกมิติของการดำเนินธุรกิจ ทั้งในกลุ่มธุรกิจ Oil และ Non-Oil อย่างยั่งยืน”

    การแข่งขัน “PT MAXNITRON RACING SERIES 2025: SONGKHLA GRANDPRIX” ถือเป็นศึกชิงแชมป์สนามสุดท้ายประจำปีของ SIAM SERIES ครบทั้ง 5 รุ่น ได้แก่

    • Siam GT
    • Siam Truck
    • Siam 1500 Group A
    • Siam Group N
    • Siam Eco

    เสริมทัพด้วย Support Race จาก  Honda City Hatchback One Make Race โดย บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ที่เข้ามาร่วมสร้างสีสัน และ CLUB RACE พร้อมขนทัพกิจกรรมพิเศษสุดมันส์ตลอดทั้งวัน เพื่อมอบประสบการณ์มอเตอร์สปอร์ตพร้อมความมันเต็มรูปแบบให้กับแฟน ๆ ที่รักความเร็วทั่วประเทศ โดยกิจกรรมไฮไลท์ภายในงานที่สร้างสีสันไม่แพ้การแข่งขันรถยนต์ทางเรียบ มีดังนี้

     

    • BALANCE BIKE: เวทีแข่งขันขาไถสุดมันส์สำหรับเด็ก ๆ พร้อมพาเหรดสุดน่ารักในสนามแข่งจริง
    • PTRS EXPO: รวมสินค้า โปรโมชั่น และของแต่งรถจากแบรนด์ชั้นนำในวงการยานยนต์
    • MARKET ZONE: ตลาดของกินริมทะเล รวมเมนูเด็ดท้องถิ่นให้เลือกชิมกันแบบติดขอบสนาม
    • D1 GP Drift Show: งานโชว์ดริฟต์สุดพิเศษจาก D1 Grand Prix Thailand ที่ขนขบวนไปโชว์ดริฟต์แบบติดริมทะเล
    • LUCKY DRAW: การลุ้นรางวัลสุดเอ็กซ์คลูซีฟ “Achi Giorno PTRS Edition 2025” ที่แฟน ๆ ยังมีสิทธิ์คว้ากลับบ้านเช่นเคย
    • PADDOCK CLUB: โซนรับชมการแข่งขันแบบพรีเมียมจากโรงแรมติดทะเล พร้อมเสิร์ฟอาหาร และเครื่องดื่มตลอดทั้งวัน
    • RUN CLUB: ครั้งแรกกับประสบการณ์วิ่งรูปแบบใหม่ บนสนามแข่งรถ Songkhla Grandprix

    วิ่งไปพร้อมวิวทะเลสุดเท่ สนามจริง เสียงจริง บรรยากาศสุดมันส์

    • STREET BOXING: พบกับ Fight ที่จะยกเวทีลงนวมมาสร้างความเดือดกลางค่ำคืน ในบรรยากาศสตรีทไฟต์สไตล์ ที่ PTRS Expo
    • SPEEDTOPIA FESTIVAL 2025: มหกรรมรวมสุดยอดสายยานยนต์ทุกแขนงไว้ในที่เดียว อาทิ Classic, Rare Cars, Drift, Supercar, Rally, EV, Thai-built และ Student Formula

    สำหรับรางวัลประจำสนามของการแข่งขัน “PT MAXNITRON RACING SERIES 2025: SONGKHLA GRANDPRIX” มีดังนี้

    SIAM GT (PRO CLASS 1/2)

    • อันดับที่ 1 : เงินรางวัล 10,000 บาท
    • อันดับที่ 2 : เงินรางวัล 5,000 บาท
    • อันดับที่ 3 : เงินรางวัล 2,000 บาท

    SIAM GT (AMATEUR C)

    • อันดับที่ 1 : เงินรางวัล 5,000 บาท
    • อันดับที่ 2 : บัตรเติมน้ำมันพีที มูลค่า 2,000 บาท
    • อันดับที่ 3 : บัตรเติมน้ำมันพีที มูลค่า 1,000 บาท

    SIAM TRUCK (PRO A/B)

    • อันดับที่ 1 : เงินรางวัล 6,000 บาท
    • อันดับที่ 2 : เงินรางวัล 3,000 บาท
    • อันดับที่ 3 : เงินรางวัล 2,000 บาท

    SIAM TRUCK (AMATEUR C)

    • อันดับที่ 1 : เงินรางวัล 3,000 บาท
    • อันดับที่ 2 : บัตรเติมน้ำมันพีที มูลค่า 2,000 บาท
    • อันดับ 3 : บัตรเติมน้ำมันพีที มูลค่า 1,000 บาท

    SIAM GROUP A / SIAM GROUP N / SIAM ECO (OVERALL A/B/C)

    • อันดับที่ 1 : เงินรางวัล 5,000 บาท
    • อันดับที่ 2 : เงินรางวัล 3,000 บาท
    • อันดับที่ 3 : เงินรางวัล 2,000 บาท

    SIAM GROUP A / GROUP N / SIAM ECO (AMATEUR C)

    • อันดับที่ 1 : บัตรเติมน้ำมันพีที มูลค่า 2,000 บาท
    • อันดับที่ 2 : บัตรเติมน้ำมันพีที มูลค่า 1,500 บาท
    • อันดับที่ 3 : บัตรเติมน้ำมันพีที มูลค่า 1,000 บาท

    ทั้งนี้ผลการแข่งขันประจำปีของ “PT MAXNITRON RACING SERIES 2025” และรายชื่อผู้ที่ได้รับถ้วยพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในรุ่น SIAM GT SIAM GROUP A และ SIAM GROUP N จะประกาศในพิธีมอบรางวัลแชมป์ประจำปี PT MAXNITRON RACING SERIES 2025 ซึ่งจะจัดขึ้นในเร็ว ๆ นี้

    การแข่งขัน PT MAXNITRON RACING SERIES 2025: PT SONGKHLA GRANDPRIX ถือเป็นเทศกาลมอเตอร์สปอร์ตเลียบชายหาดที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในภาคใต้และของประเทศไทย โดยมีเป้าหมายในการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงกีฬา (Sport Tourism) กระตุ้นเศรษฐกิจในภูมิภาค และยกระดับวงการมอเตอร์สปอร์ตไทยสู่มาตรฐานสากล  โดยได้รับการสนับสนุนการจัดงานจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชน และกลุ่มพันธมิตร อาทิ การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.), จังหวัดสงขลา, องค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา, เทศบาลนครสงขลา, ราชยานยนต์สมาคมแห่งประเทศไทย (รยสท.), PT Maxnitron น้ำมันเครื่องคุณภาพสูง, Autobacs ศูนย์บริการบำรุงรักษารถยนต์ครบวงจร, กาแฟพันธุ์ไทย, Subway, Kela, Yokohama, Nexzter, KG Solar, FBT, Max Wash, Wise, BK Clutch, BRD รวมถึง บริษัท ฟอร์ด เซลส์ แอนด์ เซอร์วิส (ประเทศไทย) จำกัด ที่สนับสนุนรถ Safety Car และยังได้รับความร่วมมือจาก Media Partner ได้แก่ Mono29, Monomax, Sports1 และ TV Pool ที่ร่วมเป็นสื่อประชาสัมพันธ์ในการเผยแพร่กิจกรรมไปสู่กลุ่มเป้าหมายในวงกว้าง

    ผู้ที่สนใจสามารถติดตามความเคลื่อนไหวการแข่งขัน PT MAXNITRON RACING SERIES ได้ที่


    ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย

    Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
    Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
    Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
    instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
    Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
    Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
    Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine


    No Comment
  • สองล้อคู่ชีพ! เจาะลึกตำนาน “Cyclone” มอเตอร์ไซค์คาเมนไรเดอร์ กับวิวัฒนาการบนท้องถนน

    1 Min Read

    สองล้อคู่ชีพ! เจาะลึกตำนาน “ไซโคลน” มอเตอร์ไซค์ไอ้มดแดง กับวิวัฒนาการบนท้องถนน

    นับตั้งแต่ปี 1971 ที่ คาเมนไรเดอร์” (Kamen Rider) ได้ถือกำเนิดขึ้นมา มอเตอร์ไซค์คู่ใจที่ถูกดัดแปลงให้เป็น ไซโคลน” (Cyclone) ก็กลายเป็นสัญลักษณ์ที่แยกจากฮีโร่ผู้ผดุงความยุติธรรมคนนี้ไม่ได้เลย ไม่ว่ายุคสมัยจะเปลี่ยนไปแค่ไหน “ไซโคลน” ก็ยังคงเป็นพาหนะสำคัญที่พาคาเมนไรเดอร์ออกไปต่อสู้กับองค์กรช็อคเกอร์เสมอมา และสิ่งที่น่าสนใจยิ่งกว่าคือ ต้นกำเนิดของมอเตอร์ไซค์ในตำนานนี้ ก็มีเรื่องราวที่น่าสนใจและเต็มไปด้วยเกร็ดประวัติศาสตร์ยานยนต์ที่เราจะมาเจาะลึกกันในสกู๊ปนี้กันครับ

    Suzuki T20 (Super Six)

    Suzuki T20 หรือที่รู้จักในต่างประเทศในชื่อ Super Six เป็นรถจักรยานยนต์สปอร์ตเครื่องยนต์ 2 จังหวะ 2 สูบคู่ ขนาด 247 ซีซี (250cc) เกียร์ 6 สปีด, แรงม้าประมาณ 29 แรงม้า (PS) เปิดตัวครั้งแรกในปี 1965 และวางขายในปี 1966 โดดเด่นด้วยเกียร์ 6 สปีดและระบบหล่อลื่นอัตโนมัติ ‘Posi-Force’ ซึ่งถือเป็นเทคโนโลยีที่ล้ำหน้าในยุคนั้น ในบทบาทของไซโคลน มันถูกดัดแปลงให้มีรูปลักษณ์ที่ดุดันและสมรรถนะเหนือมนุษย์ ถูกนำมาใช้ในการออกแบบ Cyclone ในตอนที่ 1-13

    Honda SL350K1 ปี 1971

    เมื่อการถ่ายทำดำเนินต่อไป มีการเปลี่ยนรถมาใช้ Honda SL350K1 ซึ่งเป็นมอเตอร์ไซค์แบบ Scrambler หรือ Enduro ขนาด 325 ซีซี เครื่องยนต์ 4 จังหวะ 2 สูบคู่ (SOHC) ที่เน้นการขับขี่ทั้งบนถนนและทางฝุ่น ซึ่งเหมาะกับการผจญภัยของคาเมนไรเดอร์มากขึ้น ถูกนำมาใช้ในการออกแบบ Cyclone ในตอนที่ 14 เป็นต้นไป

    การกำเนิดคาเมนไรเดอร์หมายเลข 2 และท่าแปลงร่างในตำนาน

    ระหว่างการแสดง ฟุจิโอกะ ฮิโรชิ (ผู้แสดงเป็นฮอนโก ทาเคชิ) ได้ประสบอุบัติเหตุขาหักระหว่างการถ่ายทำ ทำให้ต้องมีการปรับแก้บทอย่างเร่งด่วน โดยให้ฮอนโกเดินทางไปต่างประเทศเพื่อปราบช็อคเกอร์ต่อ ทีมงานจึงดึงตัว ซาซากิ ทาเคชิ มารับบทเป็น อิจิมอนจิ ฮายาโตะ หรือคาเมนไรเดอร์หมายเลข 2 ผู้เป็นมนุษย์ดัดแปลงที่ถูกสร้างขึ้นโดยช็อคเกอร์เช่นกัน แต่ได้รับการช่วยเหลือไว้ได้ทัน และเนื่องจาก ซาซากิไม่มีใบขับขี่สำหรับมอเตอร์ไซค์ขนาดใหญ่ในเวลานั้น (และเพื่อความปลอดภัย/ควบคุมการแสดง) จึงมีการเพิ่มฉากที่คาเมนไรเดอร์หมายเลข 2 ต้อง โพสท่าตะโกนว่า “Henshin!” เพื่อรอรับพลังงานลมให้เต็มที่ก่อน ซึ่งการโพสท่านี้กลายเป็น เอกลักษณ์ และ ธรรมเนียมปฏิบัติ ที่สืบทอดมาถึงคาเมนไรเดอร์รุ่นหลังๆ เกือบทุกตัว

    Suzuki T125

    Suzuki T125 หรือ Wolf 125 เป็นมอเตอร์ไซค์ขนาด 125 ซีซี 2 จังหวะ เปิดตัวในปี 1967 ในซีรีส์ Kamen Rider (Skyrider) (1979) และยังถูกนำมาใช้ในจักรวาลหนังใหญ่ของ Toei ในชื่อ Cyclone อีกครั้งใน Kamen Rider Saber x Kikai Sentai Zenkaiger Super Heroes Senki (2021) ด้วย

    Suzuki TS250 Super Motard ปี 1978

    มอเตอร์ไซค์รุ่นนี้เป็นรถวิบาก/สแครมเบลอร์ 2 จังหวะ 250cc ถูกดัดแปลงเป็น นิว ไซโคลน” (New Cyclone) ที่มีสมรรถนะสูงขึ้นและรูปลักษณ์ที่ทันสมัยกว่าเดิมสำหรับคาเมนไรเดอร์หมายเลข 1 และ 2 ในช่วงหลังของซีรีส์แรก

    Honda CBR1000RR Fireblade ปี 2005

    Superbike ตัวท็อปของ Honda ในขณะนั้น มาพร้อม เครื่องยนต์ 4 สูบเรียง 998cc ขึ้นชื่อเรื่องความเร็วและสมรรถนะในสนามแข่ง ถูกนำมาดัดแปลงเป็น Cyclone สำหรับ คาเมนไรเดอร์หมายเลข 1 ในภาพยนตร์ Kamen Rider: The First (2005) และ The Next (2007) ที่โทนเรื่องมีความจริงจัง โหด และมืดหม่นมากกว่าเดิม

    Honda CB1300 Super Bold’Or ปี 2005

    มอเตอร์ไซค์ Naked Bike สไตล์ Big-1 ที่ทรงพลังของ Honda ในยุคนั้น มาพร้อมเครื่องยนต์ 4 สูบเรียง 1,284 cc เน้นกำลังและแรงบิดที่ดุดัน ถูกดัดแปลงเป็น ” Cyclone II” สำหรับ คาเมนไรเดอร์หมายเลข 2 (อิจิมอนจิ ฮายาโตะ) ซึ่งมีรูปลักษณ์ที่ดูบึกบึนและทรงพลัง ต่างจากรถสปอร์ตของหมายเลข 1 เล็กน้อย

    Honda Goldwing F6C

    Goldwing F6C คือมอเตอร์ไซค์ครุยเซอร์/แบกเกอร์ขนาดใหญ่ เครื่องยนต์ 6 สูบนอน 1,832cc ที่ถูกนำมาดัดแปลงเป็น “Neo Cyclone ในภาพยนตร์ Kamen Rider Ghost the movie: คาเมนไรเดอร์หมายเลขหนึ่ง ไอ้มดแดงอาละวาด (2016) ซึ่งเป็นการกลับมาของ ฟุจิโอกะ ฮิโรชิ ในบทบาทฮอนโก ทาเคชิ ฉบับดั้งเดิม ที่เน้นความบึกบึนและความน่าเกรงขาม

    Honda CBR650R

    Cyclone (ซ้าย), Honda CBR650R E-Clutch (ขวา)

    มอเตอร์ไซค์สปอร์ตขนาดกลาง 4 สูบเรียงของ Honda ที่ได้รับความนิยม ถูกนำมาเป็นพื้นฐานสำหรับ ” Cyclone ของ คาเมนไรเดอร์หมายเลข 1 (ฮอนโก ทาเคชิ) รูปลักษณ์ภายนอกถูกดัดแปลงให้มีแฟริ่งแบบคลาสสิกแต่มีความล้ำสมัย

    Honda CB250R

    มอเตอร์ไซค์ Naked Bike ในตระกูล Neo Sports Café ของ Honda ถูกนำมาเป็นพื้นฐานสำหรับ ” Shin-Cycloneของ คาเมนไรเดอร์หมายเลข 2 (อิจิมอนจิ ฮายาโตะ) แม้จะเป็นรุ่น 250cc แต่ด้วยการดัดแปลงและพลังงานจากมนุษย์ดัดแปลง ทำให้มันกลายเป็นยานพาหนะคู่ใจที่ทรงพลังไม่แพ้กัน

    มอเตอร์ไซค์ของคาเมนไรเดอร์ไม่ได้เป็นเพียงแค่ยานพาหนะ แต่เป็นสัญลักษณ์ที่เชื่อมโยงระหว่าง “พลังดัดแปลง” กับ “อิสรภาพ” ในการต่อสู้เพื่อความยุติธรรม จาก Suzuki T20 ในยุค 70s จนถึง Honda CBR650R ในยุคปัจจุบัน Cyclone” ได้พิสูจน์แล้วว่าคือ คู่หู” ที่ขาดไม่ได้ของฮีโร่ในตำนานตัวนี้อย่างแท้จริง


    ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย

    Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
    Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
    Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
    instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
    Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
    Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
    Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine

    No Comment
  • บริษัท เน็กซ์ พอยท์ จำกัด (มหาชน) เดินหน้าสานต่อภารกิจยานยนต์พลังงานสะอาด ส่งมอบรถหัวลากพลังงานไฟฟ้า NEX BEV TRACTOR ให้กับบริษัท สยามคอนเทนเนอร์ เทอร์มินอล จำกัด

    1 Min Read

    บริษัท เน็กซ์ พอยท์ จำกัด (มหาชน) เดินหน้าสานต่อภารกิจยานยนต์พลังงานสะอาด ส่งมอบรถหัวลากพลังงานไฟฟ้า NEX BEV TRACTOR ให้กับบริษัท สยามคอนเทนเนอร์ เทอร์มินอล จำกัด

    เมื่อเร็วๆนี้ บริษัท เน็กซ์ พอยท์ จำกัด (มหาชน) เดินหน้าสานต่อภารกิจยานยนต์พลังงานสะอาด ด้วยการส่งมอบรถหัวลากพลังงานไฟฟ้า NEX BEV TRACTOR 423.93 kWh  จำนวน 6 คัน ให้กับบริษัท สยามคอนเทนเนอร์ เทอร์มินอล จำกัด หนึ่งในผู้ให้บริการด้านโลจิสติกส์ชั้นนำในประเทศไทย โดยมี คุณณัฏฐสิทธิ์ เทพไพฑูรย์ ผู้อำนวยการสายการขายและการตลาด บริษัท เน็กซ์ พอยท์ จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ส่งมอบ และ คุณณรงค์ชัย อำนวยโชคหิรัญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามคอนเทนเนอร์เทอร์มินอล จำกัด เป็นผู้รับมอบ ณ บริษัท สยามคอนเทนเนอร์ เทอร์มินอล จำกัด จ.สมุทรปราการ

    การส่งมอบครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของความร่วมมือเพื่อสนับสนุนระบบขนส่งที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในภาคโลจิสติกส์ โดยรถหัวลากไฟฟ้า NEX BEV TRACTOR 423.93 kWh มีมอเตอร์กำลังสูง 410 กิโลวัตต์ ให้แรงบิดสูงสุด 2,800 นิวตันเมตร พร้อมเกียร์กึ่งอัตโนมัติ 6 สปีด รองรับการทำงานหนักได้อย่างมีประสิทธิภาพ โครงสร้างตัวถังทำจากเหล็กกล้า High Tensile Steel ที่แข็งแกร่ง ช่วยเพิ่มความทนทานในการบรรทุก ด้วยเทคโนโลยีแบตเตอรี่รุ่นใหม่ขนาดใหญ่ถึง 423.93 kWh ที่ชาร์จได้อย่างรวดเร็วด้วยระบบ DC Fast Charge ช่วยประหยัดเวลา พร้อมตอบโจทย์การใช้งานเชิงพาณิชย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพได้รับการออกแบบเพื่อรองรับงานขนส่งหนักภายในท่าเทียบตู้คอนเทนเนอร์ พร้อมด้วยสมรรถนะที่แข็งแกร่งไม่แพ้รถหัวลากที่ใช้พลังงานจากเชื้อเพลิงฟอสซิล ประหยัดพลังงาน และไม่มีการปล่อยมลพิษระหว่างการใช้งานบริษัท สยามคอนเทนเนอร์เทอร์มินอล จำกัด เป็นผู้ให้บริการด้านโลจิสติกส์ครบวงจรและท่าเทียบตู้คอนเทนเนอร์ (Container Yard – CY) ที่มีบทบาทสำคัญในระบบขนส่งสินค้าทางเรือของประเทศไทย โดยให้บริการรับฝาก–ขนย้ายตู้สินค้า บริการซ่อมบำรุง และขนส่งต่อเนื่องไปยังปลายทางทั้งในและนอกพื้นที่นิคมอุตสาหกรรม ด้วยมาตรฐานความปลอดภัยสูงและประสิทธิภาพการดำเนินงานระดับสากล

    คุณณรงค์ชัย อำนวยโชคหิรัญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามคอนเทนเนอร์ เทอร์มินอล จำกัด เปิดเผยถึงปัจจัยสำคัญที่ทำให้บริษัทฯ ตัดสินใจเปลี่ยนจากการใช้รถบรรทุกดีเซลมาเป็นรถหัวลากไฟฟ้า “NEX BEV TRACTOR 423.93 kWh”  ของบริษัท เน็กซ์ พอยท์ จำกัด (มหาชน) ว่า “การที่สยามคอนเทนเนอร์ตัดสินใจเปลี่ยนจากรถบรรทุกดีเซลมาใช้รถหัวลากพลังงานไฟฟ้า ส่วนหนึ่งมาจากความต้องการของลูกค้า SCT ซึ่งเป็นสายเรือชั้นนำของโลกที่มีนโยบายมุ่งสู่ Carbon Neutral และให้ความสำคัญกับการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก นับเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญที่ทำให้เรามองหานวัตกรรมด้านยานยนต์ไฟฟ้ามาตอบโจทย์นโยบายดังกล่าว

    พลังงานไฟฟ้าเป็นพลังงานสะอาดมากกว่าดีเซลและมีต้นทุนที่ต่ำกว่า อีกทั้งในด้านการบำรุงรักษาก็มีความสะดวกและค่าใช้จ่ายน้อยกว่า ส่งผลให้ต้นทุนการขนส่งโดยรวมลดลงอย่างมีนัยสำคัญ รถหัวลากไฟฟ้า ‘NEX BEV TRACTOR 423.93 kWh’ จึงตอบโจทย์เส้นทางการขนส่งหลักของบริษัท ซึ่งเส้นทางระหว่างศูนย์ปฏิบัติการ SCT ไปยังแหลมฉบังคิดเป็นสัดส่วนกว่า 70% ของปริมาณการขนส่งทั้งหมด”

    นอกจากนี้ คุณณรงค์ชัย ยังกล่าวถึงการสนับสนุนจากพันธมิตรว่า “บริการหลังการขายของ NEX POINT ถือเป็นอีกปัจจัยสำคัญที่สร้างความมั่นใจให้กับเรา หากผลการใช้งานในระยะยาวแสดงให้เห็นถึงความคุ้มค่าในด้านต้นทุน บริษัทก็มีแผนที่จะขยายการใช้รถหัวลากไฟฟ้าเพิ่มเติมอย่างแน่นอน”

    พร้อมกันนี้ยังได้กล่าวถึงภาพรวมของตลาดว่า “ตลาดการขนส่งคอนเทนเนอร์ในประเทศไทยมีดีมานด์สูงมาก ปีหนึ่งมีปริมาณตู้สินค้าที่เข้า–ออกประเทศกว่า 10 ล้านตู้ แต่ปัจจุบันการขนส่งด้วยรถหัวลากไฟฟ้ายังมีสัดส่วนไม่ถึง 0.01% ดังนั้นตลาดยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก เพียงแต่ต้องพิสูจน์ให้ได้ว่ารถพลังงานไฟฟ้าสามารถให้ความประหยัดและมีต้นทุนการแข่งขันที่ทัดเทียมกับรถดีเซล”

    ปัจจุบัน สยามคอนเทนเนอร์ มีการใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยในการติดตามและจัดการการขนส่ง ช่วยให้ลูกค้าสามารถติดตามสถานะของสินค้าที่ทำการขนส่งได้อย่างเรียลไทม์ นอกจากนี้ บริษัทยังมีความมุ่งมั่นในการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และสนับสนุนการใช้รถขนส่งที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งรวมถึงรถหัวลากพลังงานไฟฟ้าที่เพิ่งส่งมอบในครั้งนี้ความร่วมมือระหว่าง NEX POINT และสยามคอนเทนเนอร์เทอร์มินอล จึงนับเป็นอีกก้าวสำคัญของการยกระดับการขนส่งไทยสู่ “Green Logistics” อย่างแท้จริง สอดคล้องกับแนวทางการลด Carbon Footprint และการพัฒนาอย่างยั่งยืนในภาคอุตสาหกรรม


    ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย

    Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
    Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
    Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
    instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
    Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
    Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
    Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine


    No Comment
  • เบนท์ลีย์ แบงค็อก เปิดโชว์รูมแฟลกชิปกลางกรุง รับแขกวีไอพีร่วมงาน Bentayga Azure Hybrid Private Viewing พร้อมมอบแคมเปญรถสต็อกแห่งปี

    1 Min Read

    เบนท์ลีย์ แบงค็อก เปิดโชว์รูมแฟลกชิปกลางกรุง รับแขกวีไอพีร่วมงาน Bentayga Azure Hybrid Private Viewing พร้อมมอบแคมเปญรถสต็อกแห่งปี

    เบนท์ลีย์ แบงค็อก โดย บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์เบนท์ลีย์อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย ร่วมกับ บริษัท เลทเทอร์ส อะราวด์ จำกัด (Letters Around) ผู้เชี่ยวชาญด้านการโฆษณา การตลาด การจัดงานอีเวนต์ และที่ปรึกษาทางธุรกิจระดับสากล เชิญแขกระดับวีไอพีร่วมงาน Bentayga Azure Hybrid Private Viewing ยลโฉมยนตรกรรมแบบอเนกประสงค์ที่มีเอกลักษณ์ในแบบเฉพาะตัว รุ่น Bentayga Azure Hybrid ที่จัดขึ้นแบบเอ็กซ์คลูซีฟสำหรับแขกคนพิเศษและ Friends of Letters Around พร้อมจัดข้อเสนอพิเศษสำหรับรถยนต์เบนท์ลีย์พร้อมส่งมอบ ณ โชว์รูมรถยนต์เบนท์ลีย์ อาคาร ซีทีไอ ทาวเวอร์ กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 11-12 ตุลาคมที่ผ่านมา

    งาน Bentayga Azure Hybrid Private Viewing ได้รวมเอาเหล่าบรรดาเซเลบริตีอย่าง ขวัญ อุษามณี ไวทยานนท์ คลาวเดีย จักรพันธุ์ หนุ่ม อรรถพร ธีมากร และแขกวีไอพีในแวดวงธุรกิจเข้าไว้มากมาย โดยผู้เข้าร่วมงานมีโอกาสได้สัมผัสกับ Bentayga Azure Hybrid ยนตรกรรมแบบอเนกประสงค์ที่มีความโดดเด่นในเรื่องความสะดวกสบายและความผ่อนคลายภายในห้องโดยสารจากการผสมผสานระหว่างเทคโนโลยี การออกแบบ และงานฝีมือผ่านคุณสมบัติเบาะโดยสาร Front Seat Comfort Specification ที่สามารถปรับได้ถึง 22 แบบ พร้อมการดีไซน์เบาะโดยสารแบบ Harmony Diamond Quilting Specification ที่สามารถระบายอากาศเพื่อรักษาอุณหภูมิที่เหมาะสมของร่างกาย และฟังก์ชันพวงมาลัยแบบปรับอุณหภูมิเพื่อความสบายและการตื่นตัวขณะขับขี่ พร้อมกันนี้ เบนท์ลีย์ แบงค็อก ยังมอบโอกาสทดลองขับ Bentayga Hybrid เจ้าของขุมพลังเครื่องยนต์เบนซินรุ่น V6 แบบไฮบริดที่มาพร้อมกับประสิทธิภาพและสมรรถนะในการขับขี่ที่โดดเด่นในแบบฉบับรถยนต์เบนท์ลีย์ โดยผู้สนใจทดลองขับได้สัมผัสกับประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือชั้นจากเทคโนโลยีความสะดวกสบายภายในห้องโดยสารที่ผสานเข้ากับสมรรถนะระดับซูเปอร์คาร์ได้อย่างลงตัว อีกทั้ง เบนท์ลีย์ แบงค็อก ได้จัดแสดงยนตรกรรมรุ่น New Continental GT และ รุ่น New Flying Spur สุดยอดแกรนด์ ทัวเรอร์สมรรถนะสูงโฉมใหม่ที่ทรงสมรรถนะที่สุดด้วยเครื่องยนต์แบบ High Performance V8 Hybrid วิวัฒนาการล่าสุดที่สามารถผลิตพละกำลังกว่า 680 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 930 นิวตันเมตร พร้อมตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์การเดินทางด้วยการผสมผสานสมรรถนะในแบบซูเปอร์คาร์เข้ากับคุณสมบัติการใช้งานในชีวิตประจำวันได้อย่างสมบูรณ์แบบ

    นอกจากนี้ ผู้เข้าร่วมงานยังเพลิดเพลินไปกับกิจกรรมที่น่าสนใจมากมายที่ได้มาเติมเต็มความพิเศษในวันหยุดสุดสัปดาห์ ไม่ว่าจะเป็นพิธีเปิดงานด้วยชุดการแสดงเครื่องดนตรีไทยแนวร่วมสมัยจากคุณราชศักดิ์ เรืองใจ เจ้าของรางวัลสุพรรณหงส์ทองคำ ครั้งที่ 21 และการแสดงเดินแบบจาก Kornkanok โดย คุณกรกนก สนิทวงศ์ ณ อยุธยากับผลิตภัณฑ์ GOOD GOODS by Central Group ที่ผลิตจากวัสดุรีไซเคิล โดย คุณพิชัย จิราธิวัฒน์ แขกภายในงานฯ ยังได้เพลิดเพลินไปกับเมนูคานาเป้ที่รังสรรค์ขึ้นเป็นพิเศษจากวัตถุดิบชั้นเลิศโดยเชฟมากฝีมือจาก Your Kitchen Catering by YUU และลิ้มรสไวน์ระดับพรีเมียมจาก Penfolds ผู้นำเข้าไวน์ชั้นนำจากประเทศออสเตรเลีย สัมผัสมนต์เสน่ห์แห่งการดื่มไวน์อันเป็นศิลปะชั้นสูงในแก้ว Baccarat (บาคาร่าต์) โดย Baccarat Thailand ผู้นำเข้าเครื่องแก้วเจียระนัยชั้นสูงจากประเทศฝรั่งเศสที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนานนับศตวรรษ พร้อมสัมผัสความงดงามของคอลเลกชันเครื่องกระเบื้องพอร์ชเลน (Porcelain) ที่ละเอียดอ่อนและทรงคุณค่าจากแบรนด์ Lladró (ยาโดร) และเครื่องประดับอัญมณีสุดเลอค่าหลากหลายคอลเลกชันจาก Chateau des Gems (ชาโตว์ เดส เจมส์) อัญมณีที่สะท้อนอัตลักษณ์และเรื่องราวของผู้สวมใส่ได้อย่างงดงามและทรงคุณค่า พร้อมเพลิดเพลินไปกับกิจกรรมสาธิตการแต่งหน้าจาก UZI Cosmetic แบรนด์เครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์ดูแลผิวสำหรับผิวแพ้ง่ายของคนไทยที่พัฒนาจากสารสกัดเข้มข้นจากธรรมชาติ โดย ขวัญ อุษามณี ไวทยานนท์ และปิดท้ายงานฯ ด้วยกิจกรรม Lucky Draw กับของรางวัลมากมายจากผู้สนับสนุนชั้นนำ อาทิ APEX Signature, น้ำดื่ม Miracle Pi Water, C2 VITAMIN, Serene และ Flow Yacht Club

    วันนี้ เบนท์ลีย์ แบงค็อก มอบข้อเสนอทางการเงินสุดพิเศษสำหรับรถยนต์เบนท์ลีย์พร้อมส่งมอบ (Stock Car) พร้อมอุ่นใจไปกับการรับประกันโดยโรงงานผู้ผลิต บริการผู้ช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง นาน 3 ปีเต็ม และสิทธิ์การต่อการรับประกันโดยโรงงานผู้ผลิตสูงสุด 4 ปี เอกสิทธิ์เฉพาะเมื่อเลือกครอบครองรถยนต์เบนท์ลีย์กับผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการเท่านั้น สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมและรับข้อเสนอพิเศษ โทร. 080-925-9999 หรือ 02-261-1050 LINE Official Account: @bentleybangkokaas คลิก https://lin.ee/4JOaZyE8V


    ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย

    Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
    Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
    Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
    instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
    Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
    Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
    Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine


    No Comment
  • เทคโนโลยีจากเลอโนโวเสริมความแข็งแกร่งให้ทีม ดูคาติ คอร์เซ่ คว้าแชมป์ ทริปเปิลคราวน์ ประเภทนักแข่ง, ทีม และผู้ผลิต ในการแข่งขัน โมโตจีพี 2025

    1 Min Read

    เทคโนโลยีจากเลอโนโวเสริมความแข็งแกร่งให้ทีม ดูคาติ คอร์เซ่ คว้าแชมป์ ทริปเปิลคราวน์ ประเภทนักแข่ง, ทีม และผู้ผลิต ในการแข่งขัน โมโตจีพี 2025

    เมื่อวันเสาร์ที่ 4 ตุลาคมที่ผ่านมา ทีมดูคาติ เลอโนโว ได้สร้างประวัติศาสตร์ครั้งใหม่ด้วยการคว้าแชมป์โลกประเภททีมจากการแข่งขันโมโตจีพี ประจำปี 2025 ซึ่งการคว้าแชมป์ดังกล่าวนี้ถือเป็นการได้แชมป์แบบ “ทริปเปิลคราวน์”  ต่อเนื่องจากที่ทีมดูคาติ คอร์เซ่ (Ducati Corse) ได้ตำแหน่งแชมป์ผู้ผลิตยอดเยี่ยมจากสนามที่กรุงบาร์เซโลนา และจากที่นักแข่ง มาร์ก มาร์เกซ (Marc Márquez) คว้าแชมป์นักแข่งจากสนามโมเตกิ ซึ่งความสำเร็จในครั้งนี้เกิดจากความร่วมมือระหว่าง ดูคาติ และ เลอโนโว ที่นำนวัตกรรม และเทคโนโลยีมาใช้ในการขับเคลื่อนทีมจนเกิดเป็นความสำเร็จ และเป็นการสร้างประวัติศาสต์แชมป์ทริปเปิลคราวน์อีกครั้ง หลังจากเคยคว้าแชมป์เมื่อปี 2022 ที่ ฟรานเชสโก บาญายา

    ด้วยเทคโนโลยีสุดล้ำสมัยของเลอโนโว และความเป็นเลิศด้านวิศวกรรมของดูคาติทำให้การแข่งขันมอเตอร์สปอร์ตในฤดูกาลนี้เต็มไปด้วยความเร็วที่เหนือชั้น และความแม่นยำที่ไร้ที่ติ     ด้วยอุปกรณ์ที่ล้ำสมัย, โซลูชันที่ครอบคลุม และบริการที่เป็นเลิศของเลอโนโวต่างมีส่วนช่วยให้ทีมสามารถวางกลยุทธ์ และนำข้อมูลเชิงลึกที่ทำงานด้วยประสิทธิภาพของ AI ในแบบเรียลไทม์มาใช้เพื่อสร้างความได้เปรียบที่ในเสี้ยววินาทีเป็นผลให้ทั้งสองนักแข่งจากทีมสามารถเปลี่ยนสมรรถนะอันยอดเยี่ยมให้กลายเป็นผลงานระดับแชมป์ได้สำเร็จ

    ชัยชนะของทีมดูคาติ เลอโนโว ในปีนี้ไม่ใช่แค่เครื่องพิสูจน์มาตรฐานแห่งความสำเร็จบนสนามแข่ง โมโตจีพี ที่เหล่านักแข่งสามารถทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในทุกสนาม แต่ยังสะท้อนถึงการทำงานร่วมกันระหว่างเทคโนโลยีและโซลูชันอันล้ำสมัยของเลอโนโว และความเชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมในการแข่งรถของดูคาติ ที่ผสานกันได้อย่างลงตัว และสร้างให้เกิดเป็นผลงานระดับโลกอย่างแท้จริง

    นอกจากนี้ เลอโนโว ยังมีบทบาทสำคัญในฐานะพันธมิตรหลักด้านเทคโนโลยี และผู้สนับสนุนหลักของ ดูคาติ คอร์เซ่ ผ่านเทคโนโลยีในการประมวลผลที่สามารถวิเคราะห์ข้อมูล จำลองรูปแบบการแข่งได้อย่างแม่นยำ ช่วยให้ทีมสามารถตัดสินใจได้อย่างรวดเร็ว และชาญฉลาด ซึ่งเป็นการเปลี่ยนโฉมกระบวนการออกแบบ ทดสอบ และพัฒนารถที่นำมาใช้แข่งอย่างแท้จริง นอกจากนี้ผลิตภัณฑ์เวิร์กสเตชัน และเซิร์ฟเวอร์ของเลอโนโวยังช่วยให้แผนก R&D ของทีมดูคาติ ที่เมืองโบโลญญา สามารถเข้าถึงและใช้งานข้อมูลเชิงลึกที่ขับเคลื่อนด้วยประสิทธิภาพ AI จึงช่วยให้ทุกการตัดสินใจในวันแข่งขันสามารถทำได้แม่นยำ เทคโนโลยีของเลอโนโวจึงกลายเป็นหัวใจสำคัญของทุกชัยชนะในฤดูกาลอันยิ่งใหญ่ครั้งนี้

    ลูก้า รอสซี่, ประธานกลุ่มธุรกิจ Intelligent Devices Group กล่าวว่า “ผมขอแสดงความยินดีกับแชมป์โลก มาร์ก มาร์เกซ และทีมงานทุกคนกับชัยชนะอันยอดเยี่ยม ซึ่งถือเป็นการปิดฉากฤดูกาลที่น่าจดจำอย่างแท้จริง เป็นอีกครั้งที่ ทีมดูคาติ เลอโนโว ได้คว้าแชมป์ทริปเปิลคราวน์ซึ่งเป็นการคว้าชัยชนะครบทั้งสามประเภท ผลงานอันยอดเยี่ยมของนักแข่งทั้งสอง ถือเป็นความภาคภูมิใจอย่างยิ่งสำหรับชาวเลอโนโว และแฟน ๆ ทั่วโลก ทั้งยังเป็นการตอกย้ำถึงความสำเร็จที่เกิดขึ้นได้จากความร่วมมือเป็นพาร์ทเนอร์ของทั้งเลอโนโว และทีมดูคาติ คอร์เซ่  ความุ่งมั่นอันเต็มเปียมของทีม, นวัตกรรมที่ล้ำสมัย และสมรรถนะของตัวรถช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้คนนับล้านทั่วโลกได้อย่างแท้จริง        เพราะที่เลอโนโว เราเชื่อว่าเทคโนโลยีจะแสดงศักยภาพสูงสุดได้ก็ต่อเมื่อสามารถช่วยให้ผู้คน และทีมงานบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ได้อย่างสำเร็จ และฤดูกาลโมโตจีพีในปีนี้ก็ได้พิสูจน์ให้ทุกคนเห็นแล้ว เราภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของทีมแชมป์โลกอย่าง ดูคาติ เลอโนโว และยิ่งตื่นเต้นกับสิ่งที่เราจะร่วมกันสร้างต่อไปในอนาคต”

    คลาวดิโอ โดเมนิกาลี, ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร, ดูคาติ กล่าวว่า “การคว้าแชมป์ทริปเปิลคราวน์ของ  ดูคาติในครั้งนี้ ถือเป็นความสำเร็จของนวัตกรรมและเทคโนโลยีในโลกของมอเตอร์สปอร์ต ทั้งยังตอกย้ำความเป็นเลิศในการแข่งขันกีฬาที่เป็นดั่งความภาคภูมิใจของเราทุกคน รวมถึงแฟน ๆ ของดูคาติทั่วโลกซึ่งนักแข่งของเราอย่าง มาร์ก มาร์เกซ สามารถทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในปีนี้ ส่วนฟรานเชสโก บาญายา ก็สามารถคว้าแชมป์ประเภททีมและผู้ผลิตมาได้ ซึ่งความสำเร็จทั้งหมดนี้เกิดจากความทุ่มเทของทีมงานทุกคน และการสนับสนุนจากพันธมิตรของเรา ผมขอขอบคุณ เลอโนโว ที่นำเสนอนวัตกรรมเทคโนโลยีล้ำสมัย และช่วยยกระดับการแข่งขันให้รวดเร็ว ปลอดภัย และเร้าใจยิ่งขึ้น…เราได้ร่วมกันสร้างประวัติศาสตร์อันน่าจดจำของดูคาติในศึกโมโตจีพีอีกครั้ง”

    หลังจากคว้าแชมป์ทริปเปิลคราวน์ในการแข่งขันโมโตจีพี 2025 ได้สำเร็จ ดูคาติ คอร์เซ่ และ เลอโนโว จะยังคงมุ่งหน้าสู่เป้าหมายต่อไป เพื่อผลักดันสมรรถนะ และความก้าวหน้าให้แก่การแข่งขันโมโตจีพี ควบคู่ไปกับการพัฒนานวัตกรรมใหม่ ๆ ที่ต่อยอดสู่เทคโนโลยีอัจฉริยะ เพื่อยกระดับประสบการณ์ของผู้คน และธุรกิจทั่วโลก


    ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย

    Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
    Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
    Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
    instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
    Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
    Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
    Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine

    No Comment