-
News / News Motocycle1 Min Read
3 นักบิดดาวรุ่งไทยร้อนแรง! ทำผลงานรอบฝึกซ้อมเดือด พร้อมพิสูจน์ความท้าทาย ศึก “อิเดมิตสึ เอเชีย ทาเลนต์ คัพ” สนาม 3 ที่ เซปัง

นักบิดดาวรุ่งไทยจาก ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ นำทีมโดย “อุ้ม” นพรุธพงษ์ บุญประเวศ หมายเลข 20, “ออสติน” ธนฉรรต ประทุมทอง หมายเลข 5 และ “เฟอร์” ปัญจรุจน์ จิตวิรุฬห์ฉัตร หมายเลข 24 ควบรถ Honda NSF250R ทำผลงานรอบฝึกซ้อมได้อย่างยอดเยี่ยม

โดยในรอบฝึกซ้อมรอบแรก “ออสติน-ธนฉรรต” ทำเวลาเร็วที่สุดได้ 02:20.860 นาที รั้งอันดับที่ 1 ขณะที่ “อุ้ม-นพรุธพงษ์” ก็ทำผลงานได้ดีไม่แพ้กัน โดยทำเวลาได้ 02:21.281 นาที คว้าอันดับที่ 3 ของรอบฝึกซ้อม ขณะที่ ”เฟอร์-ปัญจรุจน์” ดาวรุ่งที่ได้ไวลด์การ์ดต่อเนื่อง 3 สนามติด คว้าอันดับที่ 18 ด้วยเวลา 02:23.762 นาที
ขณะการฝึกซ้อมรอบที่ 2 “ออสติน-ธนฉรรต” ทำเวลาเร็วที่สุดได้ 02:19.455 นาที อยู่อันดับที่ 7 ขณะที่ “อุ้ม-นพรุธพงษ์” ทำเวลาได้ 02:19.559 นาที รั้งอันดับที่ 9 ด้าน ”เฟอร์-ปัญจรุจน์” ทำผลงานได้ดีขึ้นเช่นกันโดยทำเวลาได้ 02:20.794 นาที คว้าอันดับที่ 16

3 นักบิดดาวรุ่งไทยจะลงทำการแข่งขันรอบคลอลิฟายในช่วงเย็นของวันเสาร์ที่ 2 สิงหาคม นี้ เวลา 15.00 น. และจะดวลความเร็วรอบชิงชนะเลิศในวันอาทิตย์ที่ 3 สิงหาคมนี้ เรซแรก เวลา 8.00 น. และเรซที่ 2 เวลา 12.00 น. (ตามเวลาประเทศไทย) ถ่ายทอดสดทาง https://www.youtube.com/@AsiaTalentCup
แฟนมอเตอร์สปอร์ตส่งกำลังใจเชียร์นักบิดฮอนด้า ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ : https://facebook.com/HondaRacingTeamTH
#ThaiHonda #HondaRacingThailand #RaceToTheDream #RoadToMotoGP #Motorsport #AsiaTalentCup #IATC #Austin5 #Aum20 #Fer24
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine
-
News / News Motocycle1 Min Read
Honda HRC Team ผงาดคว้าชัยชนะแชมป์ 4 ฤดูกาลติด “ซาร์โก&ทาคาฮาชิ” บิด Honda CBR1000RR-R “ชิพ-นครินทร์” นำทีมคว้าท็อป 10 ศึกสุดโหด Suzuka 8 Hours 2025 ครั้งที่ 46

“ฮอนด้า” ตอกย้ำความเหนือชั้นเอาชนะทุกอุปสรรคคว้าแชมป์มาครองได้อย่างยิ่งใหญ่ เป็นการชนะ 4 ฤดูกาลติดต่อกัน พร้อมบวกสถิติคว้าแชมป์ 31 ครั้งจากการแข่งขันทั้งหมด 46 ครั้ง ในศึก FIM Endurance World Championship 2025 รายการ Suzuka 8 Hours ครั้งที่ 46 เมื่อวันอาทิตย์ที่ 3 สิงหาคม 2568 ที่สนามซูซูกะ ประเทศญี่ปุ่น

Honda HRC Team พบกับความท้าทายอย่างมาก เมื่อการแข่งขันสุดทรหดที่ดวลกัน 8 ชั่วโมงเต็ม ต้องลงสนามแข่งด้วยนักบิดเพียง 2 คน คือ “โยฮันน์ ซาร์โก” และ “ทาคูมิ ทาคาฮาชิ” พร้อม Honda CBR1000RR-R FIREBLADE SP หมายเลข 30 แต่สามารถโชว์ทีมเวิร์กอย่างแข็งแกร่งในแถวหน้า ถึงจำนวนนักแข่งที่เป็นรองต้องต่อสู้กับอาการเหนื่อยล้ามากกว่าทีมอื่นๆ แต่สามารถรักษาอันดับผู้นำได้อย่างต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงต้นการแข่งขัน

ความท้าทายในช่วงปลายการแข่งขัน Honda HRC Team นำคู่แข่งอยู่ถึง 23 วินาที เมื่อมีอุบัติเหตุรุนแรงเกิดขึ้นต้องมาเริ่มต้นกันใหม่อีกครั้ง ซึ่ง ”ทาคูมิ ทาคาฮาชิ” นักบิดเจ้าถิ่นชาวญี่ปุ่น ฮึดบวกความเร็วพร้อมกับการรับไม้ต่อของ “โยฮันน์ ซาร์โก” ทำความเร็วในช่วงปลายการแข่งขันหนีจากคู่แข่ง เข้าเส้นชัยเป็นอันดับที่ 1 คว้าชัยชนะได้อย่างยิ่งใหญ่ ทำระยะทางจากการแข่งขันได้ 217 รอบ และทิ้งห่างคู่แข่งกว่า 34 วินาที ตอกย้ำถึงศักยภาพ Honda CBR1000RR-R FIREBLADE SP ที่มีสมรรถนะที่เหนือชั้น มีการจัดการด้านเชื้อเพลิงที่ดี บวกกับประสบการณ์และการทำงานเป็นทีมของฮอนด้าที่ยอดเยี่ยม นำมาซึ่งชัยชนะที่จะถูกบันทึกเป็นประวัติศาสตร์ในครั้งนี้

ขณะที่นักบิดไทย “ชิพ” นครินทร์ อธิรัฐภูวภัทร์ ยอดนักแข่งชาวไทย และ 2 เพื่อนร่วมทีมชาวมาเลเซียอย่าง อัซรอย ฮาคีม อานัวร์ (Azroy Hakeem Anuar) และซักฮวาน ไซดี (Zaqhwan Zaidi) ควบรถแข่ง Honda CBR1000RR-R หมายเลข 88 สังกัดทีม Honda Asia-Dream Racing with Astemo ต่อสู้ได้อย่างแข็งแกร่งตลอดการแข่งขันสุดโหดเช่นกัน ออกสตาร์ตจากอันดับที่ 16 จบการแข่งขันได้อย่างยอดเยี่ยมในตำแหน่ง ท็อป 10 ทำระยะทางการแข่งขันได้ถึง 213 รอบสนาม

แฟนมอเตอร์สปอร์ตส่งกำลังใจเชียร์นักบิดฮอนด้า ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ : https://facebook.com/HondaRacingTeamTH


#RaceToTheChampion #HondaRacingThailand #HondaBigBike #CBR1000RRRFIREBLADESP #CBR1000RRR #ExcitesTheWorld #HRCwithJapanPost #HRC #HondaAsiaDreamRacingwithAstemo
-
เอ็มจี วาง NEW MG IM6 LONG RANGE ลุยตลาดครึ่งปีหลัง ชูจุดเด่น “วิ่งไกลถึง 750 กิโลเมตร” พร้อมเปิดตัววันที่ 22 สิงหาคม นี้

บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์ – ซีพี จำกัด และ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและผู้จำหน่ายรถยนต์เอ็มจีในประเทศไทย เผยเตรียมเปิดตัว NEW MG IM6 LONG RANGE รุ่นย่อยล่าสุด ชูจุดเด่นเป็นหนึ่งในพรีเมียมอีวีรุ่นที่ “วิ่งได้ไกลและชาร์จได้ไวที่สุดในคลาส” ด้วยระยะทางวิ่งได้ไกลสูงถึง 750 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้งตามมาตรฐาน NEDC ชาร์จไวทันใจด้วยเทคโนโลยีขับเคลื่อนแรงดันไฟฟ้า 800 โวลต์ รองรับการชาร์จแบบกระแสตรงสูงสุด 396 kW ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์และลดความกังวลในการใช้รถยนต์ไฟฟ้าของคนไทยด้วยเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 10-80% เพียง 18 นาที พร้อมเตรียมเผยโฉมอย่างเป็นทางการในงาน Big Motor Sale 2025 วันที่ 22 สิงหาคมนี้
NEW MG IM6 รถยนต์ไฟฟ้าพรีเมียมรุ่นล่าสุดจาก เอ็มจี โดดเด่นด้วยการเป็น The First ever Premium Intelligent e-SUV ที่ได้รับการตอบรับอย่างดีจากตลาดเมืองไทย ภายใต้คอนเซ็ปต์ “ขับเคลื่อนตัวตน บนความเป็นตัวเอง” (I’M WHO I’M) เพียบพร้อมด้วยสมรรถนะที่ทรงพลัง ความปลอดภัยขั้นสูง และดีไซน์ที่ล้ำสมัย ผสานเทคโนโลยีอัจฉริยะ อาทิ แชสซีดิจิทัล IM Digital Chassis มอเตอร์ไฟฟ้า Permanent Magnet Synchronous Motor ระบบบังคับเลี้ยว 4 ล้ออัจฉริยะ ระบบ One Touch iAD ฟังก์ชัน Crab Mode ระบบช่วงล่างถุงลมอัจฉริยะ และระบบความปลอดภัย Advanced Synchronized Protection System ที่ผ่านการรับรองมาตรฐานระดับ 5 ดาวจาก China NCAP และดีไซน์เพื่อรองรับ EURO-NCAP ให้ความมั่นใจในการใช้งานในระยะยาวด้วยการรับประกันแบตเตอรี่แรงเคลื่อนสูง ชุดมอเตอร์ขับเคลื่อน และชุดควบคุมมอเตอร์ขับเคลื่อนตลอดอายุการใช้งาน (LIFETIME WARRANTY) ตอกย้ำการเป็นหนึ่งในตัวเลือกระดับแนวหน้าของกลุ่ม Premium Intelligent e-SUV ในเมืองไทย โดยนำร่องเปิดตลาดไปเมื่อต้นปีด้วย 2 รุ่นย่อย คือ รุ่น Premium 2WD และ รุ่น Performance AWD เพื่อขยายทางเลือกให้ครอบคลุมยิ่งขึ้น เอ็มจี ได้เตรียมเปิดตัว NEW MG IM6 LONG RANGE รุ่นย่อยใหม่ ลงสู้ศึกสมรภูมิอีวี ชูจุดเด่น e-SUV ที่ “วิ่งไกลกว่าและชาร์จไวกว่า” กับ 3 ความเด็ดเฉพาะของรุ่นนี้ประกอบด้วย วิ่งไกลกว่า ด้วยระยะทาง 750 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้งตามมาตรฐาน NEDC ชาร์จเร็วด้วยเทคโนโลยีขับเคลื่อนแรงดันไฟฟ้า 800 โวลต์ รองรับการชาร์จ Quick Charge สูงสุด 396 kW ถือเป็นยนตรกรรมที่ผสานจุดเด่น “ชาร์จไวกว่า” และ “ขับได้ไกลกว่า” ไว้ในคันเดียว ตอบโจทย์ทั้งการเดินทางในเมืองและระยะไกลได้อย่างมั่นใจ พร้อมฟีเจอร์อัจฉริยะอีกมากมาย โดยมีกำหนดเปิดตัวอย่างเป็นทางการในงาน Big Motor Sale 2025 ซึ่งจะกลายเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของรถไฟฟ้าที่มีระยะทางการขับขี่ที่ไกล และชาร์จได้ไวในตลาด
นายพงษ์ศักดิ์ เลิศฤดีวัฒนวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า
“NEW MG IM6 LONG RANGE คืออีกหนึ่งรุ่นสำคัญที่สะท้อนถึงการรับฟังเสียงลูกค้าของเอ็มจีอย่างแท้จริงเราเชื่อว่ารุ่นนี้จะเข้ามาเติมเต็มทางเลือกให้กับลูกค้าควบคู่ไปกับรุ่น Premium 2WD ซึ่งโดดเด่นด้วยระบบเลี้ยวสี่ล้อและระบบช่วยจอดอัตโนมัติที่ติดตั้งมาตั้งแต่รุ่นเริ่มต้นในราคาที่เข้าถึงง่าย รวมถึงรุ่น Performance AWD ที่ตอบโจทย์ผู้ที่มองหาสมรรถนะสูงสุดด้วยพละกำลัง 778 แรงม้า และระบบช่วงล่างแบบถุงลม สำหรับรุ่น LONG RANGE นี้ ได้รับการพัฒนาขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ที่ต้องการรถยนต์ไฟฟ้าที่ขับขี่ได้ระยะไกลถึง 750 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง ลดความกังวลเรื่องการชาร์จระหว่างเดินทาง พร้อมยกระดับมาตรฐานอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน การเปิดตัวรุ่นใหม่นี้จึงนับเป็นอีกก้าวสำคัญของเอ็มจีในการสร้างความเชื่อมั่นให้กับตลาด และเดินหน้าขับเคลื่อนตลาดรถยนต์ไฟฟ้าพรีเมียมในประเทศไทยอย่างมั่นคง”*ระยะเวลาในการชาร์จ ขึ้นอยู่กับระดับแบตเตอรี่คงเหลือและกำลังของเครื่องอัดประจุไฟฟ้า
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine -
News / News Motocycle1 Min Read
กองทุนฮอนด้าเคียงข้างไทย ผนึกกำลังผู้จำหน่ายฯ ช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมฉับพลัน ใน 3 จังหวัด น่าน แพร่ และสุโขทัย ส่งมอบข้าวกล่องและส่งถุงยังชีพ รวมมูลค่ากว่า 800,000 บาท พร้อมมอบส่วนลดค่าอะไหล่ 30% ค่าแรง 15% สำหรับลูกค้ารถยนต์ฮอนด้าทุกรุ่นที่ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่

เมื่อเร็ว ๆ นี้ กองทุนฮอนด้าเคียงข้างไทย ภายใต้มูลนิธิฮอนด้าประเทศไทย ผนึกกำลังร่วมกับตัวแทนผู้จำหน่ายรถยนต์และตัวแทนผู้จำหน่ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้าในพื้นที่ เดินหน้าส่งมอบกำลังใจและความช่วยเหลือเร่งด่วนแก่ผู้ประสบภัยน้ำท่วมฉับพลันใน 3 จังหวัดพื้นที่ภาคเหนือ ได้แก่ น่าน แพร่ และสุโขทัย โดยได้มอบอาหารกล่องจำนวน 5,000 กล่อง ให้กับผู้ประสบภัยน้ำท่วม ณ เทศบาลจังหวัดน่าน พร้อมเตรียมส่งมอบ ถุงยังชีพจำนวน 1,000 ถุง ในพื้นที่ทั้ง 3 จังหวัดอย่างต่อเนื่อง เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนเบื้องต้น รวมมูลค่างบประมาณความช่วยเหลือทั้งสิ้นกว่า 800,000 บาท

นอกจากนี้ ฮอนด้า ยังขอมอบสิทธิ์สำหรับลูกค้ารถยนต์ฮอนด้าทุกรุ่นที่ได้รับความเสียหายจากภัยธรรมชาติ โดยมอบส่วนลดค่าอะไหล่ 30%* และส่วนลดค่าแรง 15%* โดยสามารถนำรถเข้ารับบริการได้ที่ศูนย์บริการรถยนต์ฮอนด้าในพื้นที่ ฯ ได้แก่
- จังหวัดน่าน: ศูนย์บริการรถยนต์ฮอนด้า บริษัท น่าน ฮอนด้าคาร์ส์ จำกัด
- จังหวัดแพร่: ศูนย์บริการรถยนต์ฮอนด้า บริษัท แพร่มิตรประสาน ฮอนด้าคาร์ส จำกัด
- จังหวัดสุโขทัย: ศูนย์บริการรถยนต์ฮอนด้า บริษัท สุโขทัย ฮอนด้าคาร์ส์ จำกัด

กองทุนฮอนด้าเคียงข้างไทย ขอส่งมอบความห่วงใยและกำลังใจให้พี่น้องผู้ประสบภัยในพื้นที่ทุกท่าน สามารถผ่านพ้นวิกฤตอุทกภัยครั้งนี้และกลับสู่สภาวะปกติโดยเร็ววัน ดังเจตนารมณ์ของฮอนด้าในการเติบโตและเคียงข้างกับสังคมไทย
ในฐานะองค์กรที่สังคมไทยต้องการให้ดำรงอยู่ต่อไป#HondaThailand #ตอบแทนความเชื่อมั่นเคียงข้างกันตลอดไป #กองทุนฮอนด้าเคียงข้างไทย
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine -
สรุป 5 เหตุผลที่ NEW GWM TANK 500 DIESEL เป็นรถ PPV ระดับพรีเมียมที่ควรมีอยู่คู่บ้านคนไทย

GWM (Thailand) ยกระดับสู่การเป็นแบรนด์รถยนต์ที่มีผลิตภัณฑ์ครอบคลุมทุกประเภทพลังงานที่ตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานทั่วทุกมุมโลก ด้วยแนวคิด “ครอบคลุมทุกการใช้งาน (All Scenarios) ด้วยผลิตภัณฑ์ที่ครอบคลุมทุกพลังงาน (All Powertrains) สู่การตอบสนองทุกกลุ่มผู้ใช้งานอย่างแท้จริง (All Users)” ส่งมอบบทสรุป 5 ไฮไลต์สำคัญที่สะท้อนความต่างของ NEW GWM TANK 500 DIESEL ที่เป็นมากกว่ารถยนต์ PPV 7 ที่นั่ง แต่เป็นทางเลือกที่ชาญฉลาดที่มอบทั้งความพรีเมียม ความสะดวกสบาย เทคโนโลยีอันล้ำสมัย รวมถึงความปลอดภัยที่จัดเต็ม พร้อมความคุ้มค่าในราคาแนะนำช่วงเปิดตัว เริ่มตั้งแต่ 1.399 – 1.629 ล้านบาท ที่ใครได้ครอบครองจะต้องตกหลุมรัก มอบคุณค่าอันทรงพลัง สำหรับผู้นำยุคใหม่ที่มองหาทั้งสมรรถนะ ความพรีเมียมเหนือระดับ และความยืดหยุ่นในทุกบทบาทของชีวิต ตอบโจทย์ทั้งเรื่องงาน ไลฟ์สไตล์ และครอบครัว โดยหลังจากเปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อ 24 กรกฎาคม 2568 ได้สร้างกระแสเป็นที่พูดถึงในวงกว้างและได้รับความสนใจเป็นอย่างมากในไทย และถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในรถกลุ่ม PPV ที่มอบความคุ้มค่าคุ้มราคาให้กับผู้ใช้ชาวไทย จากเหตุผลหลัก 5 ข้อดังต่อไปนี้

- ดีไซน์ระดับ Flagship สะท้อนพลังผู้นำในทุกมิติของตัวตน: NEW GWM TANK 500 DIESEL ถ่ายทอดตัวตนของผู้นำผ่านดีไซน์ที่เปี่ยมด้วยพลังและจิตวิญญาณแห่งความสำเร็จ เส้นสายที่เฉียบคม รูปทรงของตัวรถที่แข็งแกร่ง และความประณีตในรายละเอียด ล้วนสะท้อนความมั่นใจของผู้เป็นเจ้าของ ไม่ว่าจะจอดอยู่ในลานจอด หรือแล่นผ่านใจกลางเมือง รถคันนี้ไม่ใช่แค่สะดุดตา แต่ยังแสดงออกถึงวิสัยทัศน์ ความหนักแน่น และภาวะผู้นำที่ชัดเจน โดยเฉพาะในรุ่นสี Black Warrior ที่มอบลุคพรีเมียม เข้มขรึม สะท้อนรสนิยมเหนือระดับและพลังอำนาจในสไตล์สุขุมนุ่มลึก ปลุกเร้าความรู้สึกมั่นใจในทุกวินาที พร้อมสื่อถึงความสงบนิ่งและเด็ดขาดในทุกการตัดสินใจ เป็นการส่งต่อข้อความที่บอกโลกว่า “นี่คือผู้นำตัวจริง”

- ห้องโดยสารเหนือระดับ ส่งมอบความพรีเมียมที่โอบรับทุกช่วงเวลา: ไม่ว่าชีวิตจะเร่งรีบเพียงใด การเดินทางกับ NEW GWM TANK 500 DIESEL คือช่วงเวลาแห่งการได้หายใจลึก ๆ ยาว ๆ หลังจากวันที่เหน็ดเหนื่อย ห้องโดยสารได้รับการออกแบบมาเพื่อเป็นโอเอซิสแห่งความเงียบสงบในโลกที่หมุนเร็ว เบาะหนัง Nappa แท้ที่นุ่มแน่นรับกับสรีระ พร้อมฟังก์ชันปรับไฟฟ้าและระบบนวดในรุ่น Ultra กระจกสองชั้นและระบบ Active Noise Cancellationป้องกันเสียงรบกวน การปรับจูนระบบช่วงล่างให้เหมาะกับถนนเมืองไทย สร้างประสบการณ์ระดับพรีเมียม พื้นที่ภายในกว้างขวางด้วยความจุสัมภาระสูงสุดถึง 795 ลิตรเมื่อพับเบาะหลัง เสริมด้วยระบบปรับอากาศแบบแยกโซนทั้งด้านหน้าและด้านหลัง และระบบฟอกอากาศ N95 ที่สามารถกรองเชื้อโรคและ 5 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้ผู้โดยสารทุกคนรู้สึกสดชื่นแม้การเดินทางยาวนาน หน้าจอแสดงผลคู่ขนาด 12.3 นิ้ว และ 14.6 นิ้ว พร้อมระบบ Smart Interaction มอบการเชื่อมต่อที่ลื่นไหลและสะดวกสบาย พร้อมด้วย ambient light แบบปรับได้หลากสี ช่วยแต่งแต้มอารมณ์ให้กลมกลืนไปกับทุกช่วงเวลา ไม่ว่าจะกำลังขับผ่านแสงอาทิตย์ยามเช้า หรือลัดเลาะกลางค่ำคืนอันเงียบสงบ ทุกแสง สี เสียง และสัมผัสในห้องโดยสาร เพราะการเดินทางไม่ใช่แค่การพาไปถึงที่หมาย แต่คือการนำพาความรู้สึกที่ดีที่สุดในทุกโมเม้นต์คืนแก่ผู้เดินทาง

- ระบบช่วยขับ L2+ เพราะความปลอดภัยคือการส่งมอบความรัก: ในส่วนสำคัญของการเดินทาง ความปลอดภัยคือสิ่งที่สำคัญสำหรับคุณและคนที่คุณรัก NEW GWM TANK 500 DIESEL มาพร้อมระบบช่วยขับขี่อัจฉริยะระดับ L2+ ที่มองเห็นสิ่งที่นักเดินทางมองไม่เห็น และคิดแทนในช่วงเวลาที่ผู้ขับขี่กำลังเหนื่อยล้า รถยนต์รุ่นนี้โดดเด่นด้วยระบบ Adaptive Cruise Control ที่ควบคุมความเร็วและระยะห่างจากรถคันหน้าอย่างนุ่มนวล ผสานกับ Lane Keeping Assist ที่ช่วยให้รถอยู่ในเลนอย่างแม่นยำ แม้ในทางโค้งหรือช่วงเร่งรีบ เหนือไปกว่านั้น ยังติดตั้งระบบความปลอดภัยรอบด้าน ไม่ว่าจะเป็นระบบเตือนและเบรกฉุกเฉินขณะถอยหลัง (Rear Cross-Traffic Alert & Braking), ระบบเตือนการชนด้านหน้า (FCW – Forward Collision Warning) รวมถึงจุดเด่นด้านโครงสร้างตัวถังแบบ Body-on-Frame ที่ได้รับการออกแบบขึ้นมาโดยเฉพาะสำหรับรถยนต์ในตระกูล GWM TANK เพื่อรองรับภารกิจหนักหน่วงและเส้นทางที่ท้าทาย ด้วยเฟรมแชสซีขนาดใหญ่ที่แยกออกจากตัวถัง เสริมด้วยเหล็กกล้าความแข็งแรงสูงในจุดสำคัญ ช่วยกระจายและดูดซับแรงกระแทกได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อปกป้องชิ้นส่วนสำคัญในทุกเส้นทาง เทคโนโลยีเหล่านี้ไม่ได้มาแทนที่การขับขี่ แต่เข้ามาเติมเต็มความรู้สึกมั่นใจ ให้ทุกกิโลเมตรคือพื้นที่ที่ปลอดภัย และทุกเส้นทางคือโอกาสให้ใช้ชีวิตอย่างเต็มที่ในแบบของตัวเอง

- หนึ่งเดียวเพื่อทุกบทบาท: NEW GWM TANK 500 DIESEL ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับทุกมิติของชีวิต ไม่ว่าจะเป็นผู้นำองค์กรที่ต้องใช้ชีวิตในเมือง หรือนักเดินทางผู้แสวงหาความหมายใหม่ ๆ ในธรรมชาติ ด้วยดีไซน์หรูหราแต่ทรงพลัง เหมาะกับทั้งนักบริหาร เจ้าของกิจการ หรือหัวหน้าครอบครัวที่ต้องการความน่าเชื่อถือ ความมั่นใจ และความสะดวกสบายในทุกเส้นทาง ภายในเงียบสงบ พร้อมฟังก์ชันเชื่อมต่อที่ช่วยให้ทุกประชุมหรือสื่อสารระหว่างเดินทางได้อย่างราบรื่นและม่านบังแดดสำหรับด้านหลัง ขณะที่ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ และโหมดการขับขี่ที่หลากหลาย พร้อมลุยได้ทุกสภาพถนน ไม่ว่าจะเป็นชายหาด ป่าเขา หรือทางลูกรัง ไม่ว่าจะทำงาน พักผ่อน หรือผจญภัย GWM TANK 500 DIESEL คือรถคันเดียวที่ตอบโจทย์ทุกบทบาทในชีวิตคุณ
- ขุมพลังที่เชื่อมั่นได้ เพราะบางเส้นทางไม่อาจย้อนกลับ: ทุกการเดินทางคือการตัดสินใจ และ NEW GWM TANK 500 DIESEL คือคำตอบของผู้ที่ต้องการพลังที่มั่นใจได้ไม่ว่าจุดหมายจะอยู่ไกลแค่ไหน ด้วยเครื่องยนต์ดีเซล 4T เจนเนอเรชั่นใหม่ล่าสุด พร้อมระบบเทอร์โบแปรผัน (VGT) ที่ให้แรงบิดสูงถึง 480 นิวตันเมตรตั้งแต่รอบต่ำ การขับขี่จึงทรงพลังตั้งแต่ออกตัว ไม่ว่าจะเร่งแซง ลุยทางชัน ทั้งการขับขี่ในเมืองและนอกเมือง พร้อมเกียร์อัตโนมัติ 9 สปีด (9AT) ที่ส่งผ่านกำลังได้อย่างลื่นไหล และช่วยประหยัดเชื้อเพลิงยิ่งกว่าเดิม และด้วยเทคโลยีเครื่องยนต์ดีเซลอันล้ำสมัย ที่ได้รับการออกแบบโดยให้ความสำคัญกับ NVH (Noise, vibration, harshness) แม้ภายนอกจะเต็มไปด้วยเสียงลมหรือถนนขรุขระ แต่การเดินทางก็ยังคงเงียบ นิ่ง และราบรื่น และเพื่อเติมเต็มความมั่นใจในระยะยาว GWM รับประกันเครื่องยนต์ดีเซลนานสูงสุดถึง 1,000,000 กิโลเมตร หรือ 8 ปี (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน) เพราะบางเส้นทางในชีวิตไม่มีโอกาสให้ย้อนกลับอีกครั้ง รถที่ไว้ใจได้จึงไม่ใช่แค่พาหนะ แต่คือพลังใจตลอดทาง
นี่คือ 5 เหตุผลที่สะท้อนทั้งสมรรถนะ ความพรีเมียม และมุมมองการใช้ชีวิตอย่างมีเป้าหมาย NEW GWM TANK 500 DIESEL ไม่เพียงเป็นยานยนต์อเนกประสงค์ PPV ระดับ Flagship แต่ยังเป็นตัวแทนของไลฟ์สไตล์ที่สมบูรณ์แบบสำหรับผู้นำยุคใหม่ที่ต้องการมากกว่าการขับขี่ทั่วไป GWM มุ่งมั่นที่จะเป็นแบรนด์ที่เข้าใจผู้ใช้ และส่งมอบนวัตกรรมที่ผสานความปลอดภัย เทคโนโลยี และอารมณ์ในการขับขี่ไว้อย่างกลมกลืน พร้อมเดินเคียงข้างผู้ใช้ในทุกเส้นทางของชีวิต
NEW GWM TANK 500 DIESEL พร้อมวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการใน 3 รุ่นย่อย ทั้งรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ และรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ พร้อมสีภายนอก 3 สี ได้แก่ สีขาว สีเทา และรุ่นตกแต่งพิเศษ Black Warrior (เฉพาะรุ่น 2.4T ULTRA และ 2.4T ULTRA 4WD) ในราคาแนะนำในช่วงการเปิดตัวอย่างเป็นทางการ ดังนี้
- NEW GWM TANK 500 DIESEL 4T PRO ราคา 1,399,000 บาท
- NEW GWM TANK 500 DIESEL 4T ULTRA* ราคา 1,499,000 บาท
- NEW GWM TANK 500 DIESEL 4T ULTRA 4WD* ราคา 1,599,000 บาท
(*ทั้ง ULTRA และ ULTRA 4WD มาพร้อมสีพิเศษ Black Warrior ซึ่งจะมีราคาเพิ่มจากรุ่นปกติ 30,000 บาท)
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine
-
News / News Motocycle1 Min Read
ดาวรุ่งไทย “ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์” ผนึกกำลัง เก็บคะแนนต่อเนื่อง !“อุ้ม-นพรุธพงษ์” ผลงานระดับเอเชีย ผ่านครึ่งฤดูกาล รั้งท็อปทรี “อิเดมิตสึ เอเชีย ทาเลนต์ คัพ” สนาม 3 ที่ เซปัง มาเลเซีย

นักบิดดาวรุ่งไทยจาก “ฮอนด้า เรซ ทู เดอะ ดรีม” ควบรถ Honda NSF250R ในรอบคลอลิฟาย “เฟอร์” ปัญจรุจน์ จิตวิรุฬห์ฉัตร หมายเลข 24 ฉายแววดาวรุ่งคว้ากริดสตาร์ตลำดับที่ 6 ตามมาด้วย “อุ้ม” นพรุธพงษ์ บุญประเวศ หมายเลข 20 คว้ากริดสตาร์ตลำดับที่ 8 ด้าน “ออสติน” ธนฉรรต ประทุมทอง หมายเลข 5 สตาร์ตลำดับที่ 15

เรซแรก “อุ้ม-นพรุธพงษ์” ยกระดับความเร็วได้อย่างยอดเยี่ยมพุ่งทะยานจากกริดสตาร์ตอันดับที่ 8 ไปจบการแข่งขันอันดับที่ 4 ขณะที่ ”เฟอร์-ปัญจรุจน์” ก็สามารถต่อกรกับนักแข่งรุ่นพี่ได้อย่างสุดความสามารถจบการแข่งขันด้วยอันดับที่ 10 ด้าน “ออสติน-ธนฉรรต” ก็เร่งแซงขยับจากอันดับที่ 15 ขึ้นไปจบการแข่งขันด้วยอันดับที่ 12 เก็บคะแนนสะสมเพิ่มเติมสำเร็จ

เรซสอง ”เฟอร์-ปัญจรุจน์” ทำผลงานได้อย่างโดดเด่นสามารถทะยานขึ้นไปถึงอันดับที่ 4 ก่อนจะจบการแข่งขันด้วยอันดับที่ 6 เป็นผลการแข่งขันที่ดีที่สุดของตัวเองในรายการนี้ ด้าน “อุ้ม-นพรุธพงษ์” สามารถรักษามาตรฐานจบการแข่งขันด้วยอันดับที่ 8 รักษาสถิติเก็บคะแนนสะสมได้ทุกเรซที่ลงแข่งขัน ขณะที่ “ออสติน-ธนฉรรต” โชว์ฟอร์มเยี่ยมยกระดับฝีมือขยับออกจากสตาร์ตที่ลำดับ 15 มาจบการแข่งขันที่อันดับ 9 ได้สำเร็จ
การแข่งขัน “อิเดมิตสึ เอเชีย ทาเลนต์ คัพ 2025” ผ่านมาแล้วครึ่งทาง 3 สนาม 6 เรซ “อุ้ม-นพรุธพงษ์” มีคะแนนสะสม 72 คะแนน รั้งอยู่อันดับที่ 3 ตามมาด้วย ”เฟอร์-ปัญจรุจน์” กับ “ออสติน-ธนฉรรต” ที่มีคะแนนสะสม 28 คะแนนเท่ากันรั้งอยู่อันดับที่ 9 และ 10 ตามลำดับ
สำหรับการแข่งขัน “อิเดมิตสึ เอเชีย ทาเลนต์ คัพ 2025” สนามที่ 4 จะแข่งขันกันที่ โมบิลิตี้ รีสอร์ท โมเตกิ ประเทศญี่ปุ่นระหว่างวันที่ 26-28 กันยายนนี้
แฟนมอเตอร์สปอร์ตส่งกำลังใจเชียร์นักบิดฮอนด้า ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ : https://facebook.com/HondaRacingTeamTH
#ThaiHonda #HondaRacingThailand #RaceToTheDream #RoadToMotoGP #Motorsport #AsiaTalentCup #IATC #Austin5 #Aum20 #Fer24
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine
-
โตโยต้า ลงนามสัญญา GR GARAGE เปิดตัวผู้แทนจำหน่ายรถยนต์ GR Performance อย่างเป็นทางการ

มร. โนริอากิ ยามาชิตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด พร้อมด้วยตัวแทนจากผู้แทนจำหน่ายโตโยต้า ประกอบด้วย คุณพิเทพ จันทรเสรีกุล บริษัท โตโยต้า กรุงไทย จำกัด คุณจิรเดช สมภพรุ่งโรจน์ บริษัท โตโยต้า เค.มอเตอร์ส ผู้จำหน่ายโตโยต้า จำกัด คุณสุชาวดี ประโยชน์อมร ภาณุประภา พร้อมด้วย คุณคาร์ล ออพเพนบอร์น บริษัท โตโยต้า ธนบุรี จำกัด คุณเรืองชัย จิตรสกุล บริษัท โตโยต้าริช จำกัด คุณกมลพงศ์ สงวนตระกูล บริษัท โตโยต้าขอนแก่น ผู้จำหน่ายโตโยต้า จำกัด และ คุณชัยภัทร ณ ระนอง บริษัท โตโยต้าเพิร์ล ผู้จำหน่าย โตโยต้า จำกัด ร่วมเป็นเกียรติในพิธีลงนามสัญญาแต่งตั้งผู้แทนจำหน่าย GR GARAGE ประจำปี 2568 เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 ณ TOYOTA ALIVE ถนนบางนา-ตราด กม.3
บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด มุ่งสร้างแบรนด์ GR ในประเทศไทยอย่างจริงจัง โดยเริ่มจากแผนการดำเนินงานที่มุ่งเน้นจากการจำหน่ายรถยนต์ตระกูล GR Series ซึ่งเป็นรถยนต์ที่ได้รับการพัฒนาจาก Toyota Gazoo Racing ในประเทศญี่ปุ่น และยังมีแผนแนะนำรถยนต์สมรรถนะสูง GR Performance อย่างต่อเนื่องในอนาคตอีกด้วย

นายศุภกร รัตนวราหะ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ เปิดเผยว่า “นับตั้งแต่การเปิดตัว GR Supra ในปี พ.ศ. 2562 โตโยต้ามีเป้าหมายมากกว่าการจำหน่ายรถยนต์ เรามุ่งมั่นในการสร้างแบรนด์ GR ให้แข็งแกร่ง ภายใต้แรงบันดาลใจจากโลกของมอเตอร์สปอร์ต และความยึดมั่นในจิตวิญญาณแห่งการขับขี่อย่างแท้จริง ทำให้ GR จึงไม่ได้เป็นเพียงแค่ตราสัญลักษณ์ แต่เป็นปรัชญาแห่งการพัฒนารถยนต์ให้ดียิ่งขึ้นผ่านการแข่งขัน ให้กับลูกค้าชาวไทย
สำหรับบทบาทและความรับผิดชอบของ GR GARAGE นั้น จะเป็นยิ่งกว่าการเป็นโชว์รูมจำหน่ายรถยนต์ แต่เป็นจุดเชื่อมโยงประสบการณ์ของแบรนด์ GR อย่างเต็มรูปแบบ โดยโตโยต้าได้ริเริ่มโครงการ GR GARAGE ผ่านการลงนามในสัญญาแต่งตั้งผู้แทนจำหน่าย GR GARAGE ประจำปี 2568 ร่วมกับ GR GARAGE เป็นครั้งแรกในประเทศไทย จำนวน 6 แห่ง ในวันนี้
ทั้งนี้ในปัจจุบัน บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย มีการจำหน่ายรถยนต์ GR จำนวน 2 รุ่น คือ GR Yaris และ GR Corolla และภายในสิ้นปีนี้ เรามีแผนที่จะขยายการจำหน่ายรถยนต์เพิ่มอีก 2 รุ่น ทำให้ภายในปี 2568 โตโยต้าจะจำหน่ายรถยนต์ GR Series รวมทั้งสิ้น 4 รุ่น”

สำหรับ GR Garage จะเป็นผู้แทนจำหน่ายรถยนต์ GR Performance อย่างเป็นทางการ โดยมีผู้แทนจำหน่ายโตโยต้าที่ให้ความสนใจสมัครหลายแห่ง ที่มีความรักในแบรนด์และผลิตภัณฑ์ GR รวมถึงกิจกรรมมอเตอร์สปอร์ตในประเทศ บริษัทฯ มีการคัดเลือก GR Garage อย่างเป็นทางการ 6 แห่งทั่วประเทศ ได้แก่
กรุงเทพฯ
- GR Garage Krungthai (บริษัท โตโยต้า กรุงไทย จำกัด)
- GR Garage K.Motors (บริษัท โตโยต้า เค.มอเตอร์ส ผู้จำหน่ายโตโยต้า จำกัด)
- GR Garage Thonburi (บริษัท โตโยต้า ธนบุรี จำกัด)
ภาคเหนือ
- GR Garage Rich (บริษัท โตโยต้าริช จำกัด)
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
- GR Garage Khonkaen (บริษัท โตโยต้าขอนแก่น ผู้จำหน่ายโตโยต้า จำกัด)
ภาคใต้
- GR Garage Pearl (บริษัท โตโยต้าเพิร์ล ผู้จำหน่ายโตโยต้า จำกัด)
เชิญทำความรู้จัก GR Garage ทั้ง 6 แห่ง
ที่งาน GR Garage Mini Press Talk ภายในงาน Bangkok Auto Salon 2025
วันที่ 29 สิงหาคม เวลา 14:00 น.
ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา กรุงเทพฯ
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine
-
Bridgestone ได้รับเลือกจาก Lamborghini ในฐานะพันธมิตรร่วมพัฒนายางสปอร์ตสมรรถนะสูง ด้วยผลิตภัณฑ์ “POTENZA SPORT” ให้ “Lamborghini Temerario” เปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ในประเทศไทย ตอกย้ำแบรนด์ยางรถยนต์คุณภาพพรีเมียมสำหรับรถซูเปอร์สปอร์ตหรูระดับโลก

เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2568 ที่ผ่านมา Bridgestone ได้เข้าร่วมงานเปิดตัว “Lamborghini Temerario” รถยนต์ซูเปอร์สปอร์ตคาร์ปลั๊กอินไฮบริด V8 ทวินเทอร์โบ
สมรรถนะสูงล่าสุด พร้อมมอเตอร์ไฟฟ้า 3 ตัว โดดเด่นด้วยนวัตกรรมเครื่องยนต์ที่เร่งรอบได้สูงถึง 10,000 รอบต่อนาที มอบสมรรถนะกว่า 920 แรงม้า พร้อมสร้างมาตรฐานใหม่ทั้งด้านประสิทธิภาพอันทรงพลัง ประสบการณ์การขับขี่ที่เร้าใจ และสุนทรีย์แห่งการเดินทางอย่างเหนือชั้น ซึ่งเปิดตัวครั้งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ประเทศไทย ณ โรงแรมโฟร์ซีซั่นส์ กรุงเทพฯ โดย Bridgestone ได้รับเลือกอีกครั้ง
ในฐานะพันธมิตรร่วมพัฒนาด้านเทคนิคอย่างเป็นทางการด้วยผลิตภัณฑ์ยางรถยนต์สปอร์ตสมรรถนะสูง “POTENZA SPORT” ด้วยนวัตกรรมที่ยกระดับความเร้าใจในการขับขี่สไตล์สปอร์ตให้รถยนต์ซูเปอร์สปอร์ต Lamborghini Temerario ได้ถึงขีดสุด
สมรรถนะเหนือชั้นของผลิตภัณฑ์ยางรถยนต์ POTENZA SPORT ช่วยปลดปล่อยศักยภาพใน
การขับขี่ให้รถยนต์ซูเปอร์สปอร์ต Lamborghini Temerario ได้เต็มพิกัด- ที่สุดแห่งนวัตกรรมกับสูตรเนื้อยางแบบใหม่: ด้วยเทคโนโลยีการผสมเนื้อยางที่แข็งแรงขึ้น
เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการยึดเกาะขั้นสุด และการขับขี่เต็มเสถียรภาพทั้งบนถนนแห้งและถนนเปียก - โครงสร้างยางออกแบบมาเพื่อรถสปอร์ต: โครงสร้างของยางได้รับการออกแบบและพัฒนาประสิทธิภาพของแรงยึดเกาะถนน จะเร็วแค่ไหนก็แม่นยำทุกการหักเลี้ยว เข้าโค้ง ตอบสนองอย่างฉับไวทุกการขับขี่
- เทคโนโลยีเสริมพลังแห่งการขับขี่: รวบรวมที่สุดแห่งเทคโนโลยีเพื่อศักยภาพขั้นสุดของยางรถสปอร์ตโดยการผสานกำลังเส้นใยเหล็กและดอกยางแบบไฮบริด ตอบสนองการควบคุมอย่างเหนือชั้นบนทุกความเร็ว
- เต็มสมรรถนะหน้าสัมผัสยางสไตล์สปอร์ต: ด้วยหน้ายางที่ออกแบบมาให้กว้างขึ้นเพื่อเพิ่ม
การยึดเกาะถนนอันทรงพลัง ในขณะเดียวกันยังเพิ่มประสิทธิภาพการขับขี่ที่สนุกและควบคุมได้ดีขึ้นบนถนนแห้ง - ลายดอกยางแบบไม่สมมาตรเพิ่มการขับขี่ขั้นสุด: เสริมความแข็งแรงของแก้มยาง ลดการบิดตัวของบล็อกดอกยาง ยึดเกาะกับพื้นถนนได้ดี และเพิ่มเสถียรภาพทุกการเข้าโค้ง
- จัดวางร่องรีดน้ำให้เหมาะสม พร้อมทุกความท้าทาย: นอกจากจะให้ประสิทธิภาพการรีดน้ำได้เร็วขึ้นแล้วยังเพิ่มพื้นที่สัมผัสกับพื้นถนน ยึดเกาะ เข้าโค้ง และเบรกบนถนนเปียกได้ดียิ่งขึ้น
- เทคโนโลยีใหม่ออกแบบร่องดอกยางแบบ 3 มิติ: พัฒนาดอกยางแบบ 3 มิติ เพื่อช่วยลดการบิดตัว เพิ่มความแข็งแรงของร่องดอกยาง ต้านทานการสึกหรอ และเพิ่มประสิทธิภาพการเบรกในย่านความเร็วสูงให้ดียิ่งขึ้น

พัฒนายางรถยนต์เสมือนจริงเพื่อส่งมอบประสิทธิภาพการใช้งานและขับเคลื่อนความยั่งยืน
ผลิตภัณฑ์ยางรถยนต์ POTENZA SPORT สำหรับรถยนต์ซูเปอร์สปอร์ต Lamborghini Temerario ได้รับการพัฒนาที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาของบริดจสโตนในประเทศอิตาลี โดยใช้เทคโนโลยี Virtual Tyre Development (VTD) ซึ่งเป็นเอกสิทธิ์เฉพาะของ Bridgestone เทคโนโลยี VTD ช่วยส่งมอบประสิทธิภาพและขับเคลื่อนความยั่งยืนในกระบวนการพัฒนายางรถยนต์ โดยสามารถลดจำนวนยางรถยนต์ต้นแบบลงได้ประมาณ 200 เส้น ลดการทดสอบยานพาหนะจริงลง 80% รวมถึงลดระยะเวลาการพัฒนายางรถยนต์
ลงได้ถึง 50% นอกจากนี้เทคโนโลยี VTD ยังช่วยลดการใช้วัตถุดิบ และลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน
ไดออกไซด์ในขั้นตอนการพัฒนายางมาตรฐานติดรถยนต์ได้ถึง 60%ซึ่งรถยนต์ซูเปอร์สปอร์ต Lamborghini Temerario ได้รับการติดตั้งด้วยผลิตภัณฑ์ยางรถยนต์ POTENZA SPORT ขนาด 255/35ZR20 สำหรับล้อหน้า และขนาด 325/30ZR21 สำหรับล้อหลัง
คุณอะกิฮิโตะ อิชิอิ กรรมการผู้จัดการบริษัท บริดจสโตนเซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด เผยว่า “Bridgestone รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับเลือกจาก Lamborghini ในฐานะพันธมิตรร่วมพัฒนาด้านเทคนิค
ด้วยการถ่ายทอดมรดกทางมอเตอร์สปอร์ตผ่านยางรถยนต์ทรงพลัง POTENZA SPORT ที่ได้รับการออกแบบมาโดยเฉพาะเพื่อเสริมสมรรถนะและยกระดับความเร้าใจในการขับขี่ให้รถยนต์ซูเปอร์สปอร์ต Lamborghini Temerario นับเป็นอีกก้าวของความร่วมมือที่สำเร็จอย่างต่อเนื่อง และตอกย้ำแบรนด์ยางรถยนต์คุณภาพพรีเมียมที่แบรนด์รถยนต์ซูเปอร์สปอร์ตหรูระดับโลกเชื่อมั่นและไว้วางใจ”
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine
- ที่สุดแห่งนวัตกรรมกับสูตรเนื้อยางแบบใหม่: ด้วยเทคโนโลยีการผสมเนื้อยางที่แข็งแรงขึ้น
-
เอ็มจี ผงาดยอดขายโตขึ้น 28% ในช่วงครึ่งปีแรก พร้อมร่วมฉลอง 50 ปีความสัมพันธ์ไทย–จีน ในงาน Yuyuan Lantern Festival 2025

บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์ – ซีพี จำกัด และ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและผู้จำหน่ายรถยนต์เอ็มจีในประเทศไทย ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการเฉลิมฉลองวาระครบรอบ 50 ปีแห่งความสัมพันธ์ทางการทูตไทย–จีน กับงาน “Yuyuan Lantern Festival 2025” ภายใต้แนวคิดแห่งความร่วมมือ “Global Experiential Destination” ถ่ายทอดมิตรภาพอันแน่นแฟ้นของสองประเทศผ่านเทคโนโลยีและนวัตกรรม ที่จับต้องได้ พร้อมจัดแสดงยนตรกรรมรุ่นสำคัญเพื่อแสดงศักยภาพจีนสมัยใหม่ ที่เชื่อมโยงวัฒนธรรม อุตสาหกรรม และอนาคตของยานยนต์อย่างกลมกลืน พร้อมตอกย้ำความแข็งแกร่งสวนตลาดด้วยยอดขายในช่วงครึ่งปีแรกกว่า 11,367 คัน เติบโตขึ้น 28% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
เอ็มจี นับเป็นแบรนด์รถยนต์จากจีนแบรนด์แรกที่เข้ามาวางรากฐานในประเทศไทย โดยเป็นการร่วมทุนระหว่าง SAIC MOTOR CORPORATION ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่จากสาธารณรัฐประชาชนจีน ที่ได้รับการจัดอันดับที่ 138 ใน Fortune Global 500 ปี 2025 ด้วยรายได้รวมมากกว่า 8 หมื่นล้านดอลลาร์ในปี 2024 และติดอันดับต่อเนื่องเป็นปีที่ 21 โดยใน 6 เดือนแรกของปี 2025 SAIC MOTOR CORPORATION มียอดขายรถยนต์แบบขายส่งเพิ่มขึ้น 12.4% และยอดส่งมอบถึงลูกค้าอยู่ที่ 2.21 ล้านคัน และเครือเจริญโภคภัณฑ์ของไทย กับความมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจสู่ทศวรรษที่ 2 ด้วยแผนงานระยะยาวและการลงทุนอย่างต่อเนื่องในประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็น โรงงานผลิตรถยนต์ที่ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมการผลิตขั้นสูงพร้อมเดินหน้าเพิ่มความคล่องตัว เร่งพัฒนารถ รุ่นใหม่ให้เร็วขึ้น และล่าสุดกับ โรงงานผลิตแบตเตอรี่สำหรับรถยนต์พลังงานไฟฟ้ารองรับทั้งตลาดในประเทศและการส่งออก รวมถึงยังมีคลังอะไหล่ โชว์รูมและศูนย์บริการกว่า 125 แห่งทั่วประเทศ ครอบคลุมแทบทุกจังหวัด และยังมีแผนขยายเพิ่มอย่างต่อเนื่อง

จากก้าวแรกในไทยสู่การเป็นแบรนด์ชั้นนำด้านยนตรกรรม
ตลอดระยะเวลาเกินกว่าทศวรรษ รถยนต์แบรนด์ เอ็มจี ปรากฏบนท้องถนนเมืองไทยมากกว่า 2 แสนคัน ไม่เพียงแค่เติบโตด้วยยอดขายที่มั่นคง หรือการขยายเครือข่ายศูนย์บริการที่ครอบคลุมทั่วประเทศเท่านั้น แต่ยังเป็นแบรนด์ที่สร้างผลงานสำคัญ โดยเฉพาะการเปลี่ยนผ่านอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยสู่อนาคตแห่งพลังงานทางเลือกอย่างแท้จริง ด้วยวิสัยทัศน์ที่กล้าท้าทาย มองเห็นโอกาสและความเป็นไปได้ ผนวกกับความมุ่งมั่นในการยกระดับประสบการณ์การขับขี่ให้สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคยุคใหม่ เอ็มจี ได้พัฒนายานยนต์อย่างต่อเนื่องและครอบคลุมทุกเซกเมนต์ โดยนำเสนอนวัตกรรมที่เป็นมากกว่าแค่ “รถ” แต่คือตัวแทนของเทคโนโลยี ดีไซน์ และ วิถีชีวิตแห่งอนาคตไว้ในทุกรุ่นอย่างแท้จริง เอ็มจี จึงเดินหน้าพัฒนาอย่างรอบด้าน ไม่เพียงแค่ผลิตภัณฑ์ แต่ยังรวมถึงการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน สู่เป้าหมายในการสร้าง MG EV ECOSYSTEM ที่แข็งแกร่งและครอบคลุม

เอ็มจี สู่บทบาทที่ภาคภูมิใจ ในฐานะ “ตัวแทนแห่งนวัตกรรมจีนยุคใหม่”
การปรากฏตัวของ เอ็มจี ในงาน Yuyuan Lantern Festival 2025 ครั้งนี้ เปรียบเสมือนการประกาศพลังของแบรนด์ในฐานะ “ตัวแทนแห่งนวัตกรรมจีนยุคใหม่” ที่ไม่ได้หยุดอยู่เพียงแค่การพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อการขับขี่ แต่ยังสะท้อนถึงบทบาทของ เอ็มจี ในฐานะ สัญลักษณ์แห่งมิตรภาพอันมั่นคงระหว่างสองแผ่นดินที่เติบโตเคียงข้างกันด้วย คุณค่าด้านความคิดสร้างสรรค์ ความก้าวหน้า และวิสัยทัศน์สู่อนาคตที่ยั่งยืน ภายในงานนี้ เอ็มจี ยังนำทัพยนตรกรรมรุ่นไฮไลท์มาจัดแสดง เพื่อให้ผู้เข้าร่วมงานได้สัมผัสนวัตกรรมอย่างใกล้ชิด เริ่มจาก NEW MG4 ELECTRIC รถแฮทช์แบ็คพลังงานไฟฟ้าที่มีระบบขับเคลื่อนล้อหลัง เสริมทัพด้วย e-SUV ระดับพรีเมียมอย่าง NEW MG IM6 รถเอสยูวีคูเป้ไฟฟ้าซึ่งเป็น The First ever Premium Intelligent e-SUV ที่มาพร้อมสมรรถนะเหนือชั้นและเทคโนโลยีอัจฉริยะตอบโจทย์ชีวิตดิจิทัล และ NEW MG S5 EV รถอีวีมหาชนรุ่นล่าสุด ที่มอบทั้งระยะทางการขับขี่ที่ไกล ดีไซน์ที่โดดเด่น ภายในกว้างขวาง และเทคโนโลยีครบครัน ภายใต้คอนเซ็ปต์ “ขับสนุก วิ่งไกล ชาร์จไว นั่งสบาย พร้อม LIFETIME WARRANTY” ทั้งหมดนี้ พร้อมให้ทุกคนได้สัมผัสจริง เพื่อพิสูจน์ว่า เอ็มจี ไม่ได้เป็นเพียงผู้ผลิตรถยนต์ แต่คือผู้นำด้านนวัตกรรมที่เข้าใจผู้คน และมุ่งมั่นสร้างสรรค์อนาคตที่ทุกคนเข้าถึงได้

นายพงษ์ศักดิ์ เลิศฤดีวัฒนวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “การเติบโตของ เอ็มจี ในประเทศไทย คือบทพิสูจน์ว่า ความร่วมมือระหว่างไทยและจีนไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในระดับนโยบาย แต่แสดงออกอย่างชัดเจนในชีวิตประจำวันของผู้คน ผ่านนวัตกรรมยานยนต์ที่ตอบโจทย์และเข้าใจผู้บริโภคชาวไทยอย่างแท้จริง การเข้าร่วมงาน Yuyuan Lantern Festival 2025 ครั้งนี้ จึงไม่ใช่แค่การจัดแสดงรถยนต์ แต่เป็นการประกาศบทบาทของ เอ็มจี ในฐานะตัวแทนของนวัตกรรมจีนยุคใหม่ ที่ไม่หยุดเพียงแค่การพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อการขับขี่ แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของมิตรภาพอันมั่นคงระหว่างสองแผ่นดิน ที่ร่วมพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ ความก้าวหน้า และวิสัยทัศน์สู่อนาคตที่ยั่งยืน สอดคล้องกับผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีแรกของ เอ็มจี ที่แสดงให้เห็นถึงความมั่นคงของแบรนด์ ด้วยยอดขายรวมกว่า 11,367 คัน เติบโตขึ้น 28% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา ซึ่งถือว่ามีอัตราการเติบโตเฉลี่ยสูงกว่าตลาดรวมของอุตสาหกรรมยานยนต์ โดยปัจจัยสำคัญที่ขับเคลื่อนความสำเร็จดังกล่าวมาจากโมเดลหลักที่ได้รับการตอบรับอย่างดีเยี่ยม ได้แก่ NEW MG4 ELECTRIC, NEW MG S5 EV, NEW MG IM6, ALL NEW MG3 HYBRID+ และ MG5 PRO ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพของแบรนด์ในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่สอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่อย่างแท้จริง และสำหรับ ครึ่งปีหลังนี้ เอ็มจี ยังคงเดินหน้ายกระดับอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยด้วยเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย และส่งมอบรถยนต์ไฟฟ้าที่คุ้มค่าและเข้าถึงง่ายให้กับผู้บริโภคคนไทยต่อไป

สำหรับผู้ที่สนใจสามารถร่วมสัมผัสประสบการณ์แห่งมิตรภาพไทย–จีน และชมยนตรกรรมรุ่นไฮไลท์จาก เอ็มจี ได้ที่ งาน Yuyuan Lantern Festival 2025 ซึ่งจะจัดขึ้นในช่วง 1 – 6 สิงหาคมนี้ ที่ ศูนย์การค้าไอคอนสยาม โซน River Park ชั้น G
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ MG CALL CENTRE โทร. 1267 และสามารถติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมของ เอ็มจี ได้ที่
Website: www.mgcars.com
Line: @MGThailand
Facebook: www.facebook.com/MGcarsThailand
Twitter: @mg_thailand
Instagram: @mgthailand
Youtube: MG Thailand
TikTok: @mgthailand
Application: MG Thailand
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine
-
SPRC ร่วมปันน้ำใจช่วยเหลือผู้ประสบภัยชายแดนไทย-กัมพูชา

เมื่อเร็ว ๆ นี้ บริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ SPRC ร่วมกับ คาลเท็กซ์ โดย บริษัท สตาร์ ฟูเอลส์ มาร์เก็ตติ้ง จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ SPRC และเป็นผู้ได้รับสิทธิแต่เพียงผู้เดียวในการประกอบธุรกิจน้ำมันเชื้อเพลิงภายใต้ชื่อคาลเท็กซ์ในประเทศไทย นำโดย นายพงษ์กรณ์ ช่อชูวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ด้านปฏิบัติการเพื่อความเป็นเลิศ SPRC (ที่ 5 จากซ้าย) พร้อมด้วยคณะผู้บริหารและพนักงาน มอบสิ่งของอุปโภคบริโภคที่จำเป็น ให้แก่ นายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง (กลาง) ณ อาคารศาลากลาง ศูนย์ราชการจังหวัดระยอง เพื่อนำไปบรรเทาความเดือดร้อนและช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา โดย SPRC หวังเป็นอย่างยิ่งว่าการส่งมอบในครั้งนี้ จะเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือสังคมไทยและสร้างขวัญกำลังใจแก่ทุกท่านให้สามารถผ่านพ้นสถานการณ์ที่ท้าทายนี้ไปได้ ซึ่งสะท้อนถึงเจตนารมณ์ของ SPRC ในการยืนหยัดเคียงข้างสังคมไทยในยามเกิดวิกฤต

ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine











































































































