• NEX ระดมทุน 3,300 ล้านบาท เร่งการเปลี่ยนผ่านสู่ยานยนต์ไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ของไทย

    1 Min Read

    NEX ระดมทุน 3,300 ล้านบาท เร่งการเปลี่ยนผ่านสู่ยานยนต์ไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ของไทย

    บริษัท เน็กซ์ พอยท์ จำกัด (มหาชน) หรือ NEX ผู้ให้บริการยานยนต์ไฟฟ้าแบบครบวงจรชั้นนำของไทย ประกาศความสำเร็จของการระดมทุนเพิ่ม 3,327 ล้านบาท เพื่อเร่งการเปลี่ยนผ่านสู่การขนส่งไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ของประเทศ

    การเพิ่มทุนครั้งนี้ทำให้ NEX มีทุนจดทะเบียนชำระแล้วเพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 5,989 ล้านบาท และทำให้บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA เข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ โดยเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นจาก 49.99% เป็น 77.77% ความร่วมมือนี้จะช่วยพัฒนาระบบนิเวศยานยนต์ไฟฟ้าของไทยอย่างครบครัน

    “นี่เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่จะเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานและความสามารถในการแข่งขันของเรา” นายวสุ กลมเกลี้ยง ประธานกรรมการของ NEX และประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงินของ EA กล่าว “ความร่วมมือที่ใกล้ชิดขึ้นนี้ทำให้ EA มีระบบนิเวศ EV ที่สมบูรณ์ ขณะเดียวกันก็เป็นการส่งเงินทุนเข้าไปที่ NEX เพื่อใช้สำหรับการขยายตัวอย่างก้าวกระโดด”

    กลยุทธ์การใช้เงินทุน

    เงินทุนที่ได้รับจะถูกจัดสรรอย่างมีกลยุทธ์เพื่อ:

    • ชำระหนี้เจ้าหนี้การค้าที่ค้างอยู่
    • เสริมแกร่งเงินทุนหมุนเวียนสำหรับการขยายธุรกิจอย่างรวดเร็ว
    • สนับสนุนการเติบโตอย่างต่อเนื่องในโครงการโลจิสติกส์สีเขียว
    • พัฒนาเทคโนโลยีสำหรับโซลูชันการขนส่งที่ยั่งยืน

    ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งผู้นำในตลาด

    NEX ได้ยึดตำแหน่งเป็นผู้ให้บริการยานยนต์ไฟฟ้าแบบ one-stop service ชั้นนำของไทย โดยนำเสนอ:

    • ยานยนต์ไฟฟ้าเชิงพาณิชย์: รถโดยสาร รถบรรทุก และรถหัวลาก
    • โครงสร้างพื้นฐานการชาร์จ: เครือข่ายสถานีอย่างครอบคลุม
    • บริการหลังการขาย: ความสามารถด้านการบำรุงรักษาและบริการ

    ทั้งนี้บริษัทจะให้บริการหลักแก่ผู้ประกอบการโลจิสติกส์  หน่วยงานราชการ  องค์กรขนส่งมวลชน   และธุรกิจเชิงพาณิชย์ที่ต้องการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาด โดยลูกค้าได้รับประโยชน์จากสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่เพิ่มขึ้น รวมถึงการหักค่าใช้จ่ายได้สูงสุดถึง 2 เท่าของอัตราปกติ

    วิสัยทัศน์สำหรับอนาคต EV ของไทย

    “เราขอขอบคุณผู้ถือหุ้นที่ให้ความเชื่อมั่นในภารกิจของเราอย่างต่อเนื่อง” นายธนพัชร์ สุขสุธรรมวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วมของ NEX กล่าว “การระดมทุนครั้งนี้ช่วยให้เราสามารถขับเคลื่อนภาคการขนส่งเชิงพาณิชย์ของไทยสู่การใช้ไฟฟ้า ขณะเดียวกันพัฒนาเทคโนโลยีและบริการที่พร้อมสำหรับอนาคต” รากฐานทางการเงินที่ขยายตัวของ NEX สนับสนุนความมุ่งมั่นในการเป็นผู้ให้บริการ Total Green Logistics Solution ที่สมบูรณ์แบบ สอดคล้องกับเป้าหมายความยั่งยืนที่กว้างขึ้นของไทยและการเปลี่ยนแปลงสู่การขนส่งสะอาดทั่วโลก


    ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย

    Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
    Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
    Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
    instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
    Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
    Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
    Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine

    No Comment
  • ก๊าซหุงต้ม ปตท. คว้าใบรับรองกระบวนการซ่อมบำรุงถังก๊าซปิโตรเลียวเหลวหุงต้ม ตามมาตรฐาน มอก.151 รายแรกของไทย

    1 Min Read

    ก๊าซหุงต้ม ปตท. ยกระดับมาตรฐานความปลอดภัย โรงซ่อมถังก๊าซหุงต้ม ปตท. คว้าใบรับรองกระบวนการซ่อมบำรุงถังก๊าซปิโตรเลียวเหลวหุงต้ม ตามมาตรฐาน มอก.151 รายแรกของไทย

     

    หม่อมหลวงปีกทอง ทองใหญ่ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) (OR) รับมอบใบรับรองกระบวนการซ่อมบำรุงถังก๊าซปิโตรเลียวเหลวหุงต้ม ตามมาตรฐาน มอก.151 จาก คุณจงรักษ์ โรจน์พลาเสถียร ผู้อำนวยการสถาบันรับรองมาตรฐานไอเอสโอ ตอกย้ำความมั่นใจให้ผู้บริโภคก๊าซหุงต้ม ปตท. ผ่านการยกระดับมาตรฐานด้านความปลอดภัยอย่างต่อเนื่อง โดยโรงซ่อมถังก๊าซหุงต้ม ปตท. ทั้ง 3 แห่ง ได้แก่ โรงซ่อมถังก๊าซหุงต้ม ปตท. จ.พระนครศรีอยุธยา สงขลา และ ขอนแก่น ผ่านการรับรองกระบวนการซ่อมบำรุงถังก๊าซปิโตรเลียวเหลวหุงต้ม ตามมาตรฐาน มอก.151 ซึ่งเป็นมาตรฐานกระบวนการซ่อมบำรุง การตรวจสอบ และ การทดสอบถังก๊าซปิโตรเลียมเหลวหุงต้ม ที่กำหนดโดยสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) กระทรวงอุตสาหกรรม ถือเป็นบริษัทแรกของประเทศไทยที่ผ่านการรับรองในกระบวนการนี้

    สำหรับ มอก.151 เป็นมาตรฐานที่เน้นเรื่องความปลอดภัยของถังก๊าซหุงต้มในการใช้งาน โดยกำหนดมาตรฐานหลักเกณ์ วิธีการ และ เครื่องมือที่ใช้การดำเนินการ ตั้งแต่ขั้นตอนการตรวจสอบสภาพถังภายนอก การทดสอบถังด้วยแรงดันไฮโดรลิก การตรวจสอบถังภายใน การทดสอบการรั่วซึมถัง การซ่อมบำรุงถัง และการทำเครื่องหมายรับรองการทดสอบถัง ทำให้มั่นใจว่าถังก๊าซหุงต้มที่ผ่านการซ่อมบำรุงและทดสอบจากโรงซ่อมถังก๊าซหุงต้ม ปตท. เป็นถังที่สามารถใช้งานได้อย่างปลอดภัย ซึ่ง OR ได้ยึดถือปฏิบัติมาโดยตลอด และได้นำหลักเกณฑ์ตามมาตรฐานนี้ไปสู่การรับรองอย่างเป็นทางการ เพื่อเพิ่มความมั่นใจให้กับผู้ใช้ทั่วประเทศ สะท้อนให้เห็นถึงความใส่ใจในทุกขั้นตอนของการดูแลถัง ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของความปลอดภัยในการใช้ก๊าซหุงต้ม

    ก๊าซหุงต้ม ปตท. มีมาตรการสร้างความปลอดภัยผ่านแนวคิด ก๊าซหุงต้ม ปตท. “ดูแลดีที่ 1 ดูที่
    ซีลทอง” พร้อมเน้นย้ำให้ผู้บริโภคสังเกต “ซีลทอง QR” สัญลักษณ์การันตีว่าเป็นถังก๊าซหุงต้ม ปตท. ของแท้ที่ผ่านทุกกระบวนการตรวจสอบ ทดสอบและซ่อมบำรุง ตามมาตรฐาน มอก. 151 หนึ่งเดียวในประเทศไทย    ตอกย้ำภาพลักษณ์ของก๊าซหุงต้ม ปตท. ว่าได้ส่งต่อพลังงานคุณภาพที่ “ปลอดภัย ร้อนไว ไฟแรง” สู่ทุกครัวเรือนไทยอย่างแท้จริง โดยผู้บริโภคสามารถซื้อก๊าซหุงต้ม ปตท. ของแท้ที่มีซีลทอง QR ได้ที่ร้านค้าตัวแทนจำหน่ายก๊าซหุงต้ม ปตท. ทั่วประเทศ (ค้นหาร้านค้าตัวแทนฯใกล้บ้านได้ที่ www.pttlpgshops.com) แอปพลิเคชัน OR LPG (ดาวน์โหลด https://pttor.page.link/orlpg) หรือ จุดจำหน่ายก๊าซหุงต้ม ปตท. ในสถานีบริการ พีทีที สเตชั่น

     

    ติดตามข่าวสารและกิจกรรมดี ๆ ทาง Facebook Fanpage จุดพลังความอร่อย by ก๊าซหุงต้ม ปตท. และ แอปพลิเคชัน OR LPG หรือโทร. 1365 Contact Center

     

    #ก๊าซหุงต้มปตท. #ซีลทองQR #ดูแลดีที่1ดูที่ซีลทอง #มั่นใจทุกถัง #ปลอดภัยร้อนไวไฟแรง


    ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย

    Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
    Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
    Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
    instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
    Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
    Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
    Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine


    No Comment
  • เบนท์ลีย์ มอเตอร์ส เผยโฉม The Black Rose สุดยอดแกรนด์ ทัวเรอร์รุ่นพิเศษกับที่สุดของความหรูหราด้วยการตกแต่งทองคำโรสโกลด์แบบ 3 มิติ

    1 Min Read

    เบนท์ลีย์ มอเตอร์ส เผยโฉม The Black Rose สุดยอดแกรนด์ ทัวเรอร์รุ่นพิเศษกับที่สุดของความหรูหราด้วยการตกแต่งทองคำโรสโกลด์แบบ 3 มิติ

    เบนท์ลีย์ มอเตอร์ส เผยโฉม ‘The Black Rose’ แกรนด์ ทัวเรอร์ รุ่น Batur ยนตรกรรมรุ่นพิเศษที่ออกแบบได้อย่างโดดเด่นภายใต้แนวคิดด้านความงดงามของโรสโกลด์ที่จะสร้างสรรค์การเดินการในแบบเอ็กซ์คลูซีฟให้กับผู้ครอบครอง

    Black Rose เป็น 1 ใน 18 แกรนด์ ทัวเรอร์ รุ่น Baur ที่รังสรรค์ขึ้นโดย Bespoke Studio ของ Bentley Mulliner และถือเป็นผลงานที่มาจากความร่วมมือระหว่างลูกค้าและทีมออกแบบของ Bentley Mulliner แกรนด์ ทัวเรอร์รุ่นพิเศษรังสรรค์ขึ้นด้วยเฉดสีเมทัลลิก Black Rose ที่คิดค้นโดย Bentley Mulliner หลังคาภายนอกตัวถังมาในเฉดสีดำ Beluga แบบมันวาว พร้อมกับการตกแต่งด้วยเฉดสีไฮไลท์แบบซาติน Rose Gold บริเวณกระจังหน้า บนฝากระโปรงหน้า ฝาครอบกระจกมองข้าง ชุดแต่งรอบคัน และล้ออัลลอยด์ขนาด 22 นิ้ว พร้อมด้วยเบรกคาร์บอนเซรามิกและคาลิปเปอร์สีดำ

    ห้องโดยสารรังสรรค์ด้วยหนังเฉดสีเข้ม แผงหน้าปัด และผ้าเน้นประกายของโรสโกลด์ พร้อมด้วยการผลิตโดยใช้เทคโนโลยีการพิมพ์ 3 มิติแบบ Additive Manufacturing (AM) ของเบนท์ลีย์ซึ่งเป็นครั้งแรกในอุตสาหกรรมยานยนต์ที่สามารถขึ้นรูปทองคำโรสโกลด์ 18 กะรัต น้ำหนัก 210 กรัมเพื่อใช้ตกแต่งภายในห้องโดยสารบริเวณจุดสัมผัสของผู้ขับขี่ รวมถึงแป้นตัวเลือกโหมดการขับขี่ และปุ่ม Organ Stop ที่ใช้สำหรับควบคุมช่องปรับอากาศอันเป็นเอกลักษณ์ของเบนท์ลีย์บนแผงหน้าปัด อีกทั้งยังมีการตกแต่งบริเวณพวงมาลัยที่จะสะท้อนให้เห็นถึงรายละเอียดอันพิถีพิถัน

    ห้องโดยสารงดงามไปด้วยองค์ประกอบของสีโรสโกลด์ ซึ่งประกอบด้วยวัสดุสีเข้มที่เข้ากันอย่างลงตัว อันได้แก่ หนังเฉดสีดำ Beluga สุดหรู ผ้าทวีดสีเทาชาร์โคล และวีเนียร์ในเฉดสีเมทัลลิก Black Rose เพื่อให้เข้ากับการตกแต่งภายนอกตัวถัง

    การขึ้นรูปทองคำ 3 มิติกับครั้งแรกในอุตสาหกรรมยานยนต์ 

    เบนท์ลีย์ มอเตอร์ส ได้ร่วมมือกับ Goldsmiths และ Cooksongold ช่างทองที่มีชื่อเสียง โดยเป็นรายแรกในอุตสาหกรรมยานยนต์ที่ผสมผสานเทคโนโลยีการผลิตขั้นสูงแบบใหม่เข้ากับวัสดุและเทคนิคการตกแต่งแบบดั้งเดิม โดยการใช้วัสดุที่คัดสรรอย่างยั่งยืนจากจิวเวลรี่รีไซเคิล 100 เปอร์เซ็นต์ สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการเป็นแบรนด์หรูที่ยั่งยืนของเบนท์ลีย์

    ชิ้นส่วนทั้งหมดที่ผลิตขึ้นสำหรับรุ่น Batur ได้รับการรับรองในย่านจิวเวลรี่ของเมืองเบอร์มิงแฮมเพื่อเป็นการการันตี นอกจากนี้ ชิ้นส่วนอื่นๆ ที่ผลิตขึ้นในปี 2565 ยังได้รับตราประทับจูบิลีเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองปีแห่งการครองราชย์ของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2

     

    ในปี 2565 เบนท์ลีย์ มอเตอร์ส ได้ลงทุนกว่า 3 ล้านปอนด์เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตการพิมพ์ 3 มิติ แบบ AM ณ โรงงาน เมืองครูว์เป็นสองเท่าสำหรับขั้นตอนการแปลงรูปแบบ CAD แบบ 3 มิติเพื่อขึ้นเป็นชิ้นส่วนทางกายภาพ

    ทองคำโรสโกลด์ 18 กะรัตเป็นหนึ่งในนวัตกรรมใหม่ที่ลูกค้าสามารถเลือกตกแต่งรุ่น Batur ได้ผ่านแผนก Bentley Mulliner และไม่ว่าจะเป็นไทเทเนียมที่ได้รับแรงบันดาลใจจากการผลิตเครื่องบินไปจนถึงสิ่งทอคล้ายหนังที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมที่ผลิตจากผลพลอยได้จากกระบวนการคั่วกาแฟ ตัวเลือกเหล่านี้จะช่วยเพิ่มทางเลือกให้กับการรังสรรค์ยนตรกรรมในฝันได้อย่างไร้ขีดจำกัด

    ศิลปะแห่งการออกแบบเฉพาะบุคคล

    ปี 2463 Bentley Mulliner ได้ผลิตยนตรกรรมสั่งทำพิเศษที่โดดเด่นที่สุดของโลกอย่างรุ่น R-Type Continental ที่โด่งดังอย่างมากในช่วงปี 2495

    ปัจจุบัน Bentley Mulliner ดำเนินงานในฐานะแผนกออกแบบพิเศษของเบนท์ลีย์ มอเตอร์ส โดยให้บริการทุกขั้นตอนตั้งแต่การสั่งพิเศษในแบบเฉพาะบุคคลไปจนถึงการผลิตตัวถังขึ้นใหม่ Bentley Mulliner ยังมอบบริการพิเศษแบบส่วนตัวสำหรับลูกค้าที่ต้องการยนตรกรรมที่โดดเด่นและมีเพียงคันเดียวในโลก โดยจะร่วมออกแบบคุณสมบัติและการตกแต่งให้เหมาะกับรสนิยมเฉพาะตัวของลูกค้าแต่ละคน

    แกรนด์ ทัวเรอร์ รุ่น Batur ที่มีเพียง 18 คันในโลก ถือเป็นจุดเริ่มต้นของการปฏิวัติการออกแบบของเบนท์ลีย์ และความสำเร็จดังกล่าวได้ตามมาด้วย Batur Convertible แกรนด์ ทัวเรอร์แบบเปิดประทุน ซึ่งเปิดตัวในเดือนพฤษภาคม 2567 รุ่น Batur Convertible เป็นรถยนต์รุ่นที่ 3 ในตระกูล Coachbuilt ของ Bentley Mulliner หลังจากรุ่น Bacalar และ รุ่น Batur แบบคูเป้ สำหรับรุ่น Batur Convertible ผลิตเพียง 16 คันเท่านั้น และถือเป็นแกรนด์ทัวเรอร์แบบเปิดประทุนที่ขับเคลื่อนด้วยขุมพลังเครื่องยนต์รุ่น W12 ที่ทรงพลังที่สุดในประวัติศาสตร์ของเบนท์ลีย์


    ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย

    Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
    Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
    Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
    instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
    Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
    Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
    Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine


    No Comment
  • มาสด้าส่งมอบ MX-5 รุ่นลิมิเต็ด ฉลอง 35 ปี มีเพียง 4 คัน ในประเทศไทย

    1 Min Read

    มาสด้าส่งมอบ MX-5 รุ่นลิมิเต็ด ฉลอง 35 ปี มีเพียง 4 คัน ในประเทศไทย

    มาสด้าส่งมอบรถสปอร์ตโรดสเตอร์แบรนด์ไอคอนระดับตำนานเจ้าของรถยนต์ขับสนุกที่สุดในโลก สร้างสถิติเป็นรถสปอร์ตโรดสเตอร์ที่ขายดีที่สุดในโลกกว่า 1,200,000 คัน จนได้รับการบันทึกลงใน Guinness World Record สำหรับ New Mazda MX-5 รุ่นพิเศษฉลองครบรอบ 35 ปี จำนวนสองคัน ให้กับ นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานที่ปรึกษาสโมสร และ นายเทวัญ ลิปตพัลลภ ประธานบริหารสโมสรนครราชสีมา มาสด้า เอฟซี โดยมี นายธีร์ เพิ่มพงศ์พันธ์ ประธานกรรมการบริหารและซีอีโอ พร้อมด้วย นายภพนิพิฐ จิรวัฒนานนท์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและนวัตกรรมดิจิตอล บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด เป็นตัวแทนฯ โดยรถรุ่นพิเศษนี้ผลิตขึ้นอย่างจำกัดจำนวน ทั่วโลกมีเพียง 2,559 คัน เพื่อร่วมเฉลิมฉลองเนื่องในโอกาสครบรอบ 35 ปี นับตั้งแต่รถมาสด้า MX-5 ได้เปิดตัวสู่สาธารณชนครั้งแรกเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2532 และยังคงไว้ซึ่งเอกลักษณ์ความเป็นสปอร์ตโรดสเตอร์ยอดนิยมของมาสด้าไว้อย่างเต็มเปี่ยม พร้อมความพิเศษสุดในทุกจุดสัมผัสรอบตัวรถ รวมถึงสัญลักษณ์รุ่นพิเศษ 35th Anniversary Edition พร้อม serial number บ่งบอกความพิเศษลิมิเต็ดอิดิชั่นที่ถูกผลิตขึ้นจำนวนจำกัด และในประเทศไทยมีลูกค้าที่ได้ครอบครองเพียง 4 คัน เท่านั้น ซึ่งขณะนี้ได้ถูกครอบครองเป็นเจ้าของหมดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

    นายธีร์ เพิ่มพงศ์พันธ์ ประธานกรรมการบริหารและซีอีโอ บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า มาสด้าขอขอบคุณลูกค้าชาวไทยที่ให้การตอบรับรถยนต์มาสด้าทุกรุ่นด้วยดีเสมอมา เราให้คำมั่นสัญญาว่าจะมุ่งมั่นพัฒนาเทคโนโลยีผลิตภัณฑ์ยานยนต์และการบริการที่ดีที่สุด เพื่อมอบประสบการณ์ความสุขและการใช้ชีวิตในทุกด้านให้กับลูกค้าให้ดียิ่งขึ้น เพราะมาสด้าเชื่อมั่นมาโดยตลอดว่า “ความสุขในการขับขี่รถยนต์” (Joy of Driving) จะนำไปสู่ “ความสุขในการใช้ชีวิต” (Joy of Living) เพื่อให้มั่นใจได้ว่าทุกครั้งที่ลูกค้ามีปฏิสัมพันธ์กับแบรนด์มาสด้าจะนำมาซึ่งคุณค่าและความสุขในการเป็นเจ้าของรถยนต์มาสด้า เพื่อสร้างการเติบโตไปพร้อมกับลูกค้าในทุกมิติและสร้างสรรค์สังคมไทยให้ยั่งยืนตลอดไป อย่างไรก็ตามสำหรับลูกค้าที่ครอบครองรุ่นพิเศษนี้ไม่ทัน มาสด้ายังมีรุ่นปกติ New Mazda MX-5 สปอร์ตโรดสเตอร์ที่ได้รับการพัฒนาปรับปรุงใหม่ด้วยการผสมผสานระหว่างเทคโนโลยีความปลอดภัยที่ล้ำสมัย ผนวกกับเทคโนโลยีที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการเชื่อมต่อการสื่อสารยุคดิจิตอลและเทคโนโลยี เพื่อช่วยเพิ่มสมรรถนะในการขับขี่ วางราคาจำหน่าย 3,029,000 บาท


    ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย

    Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
    Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
    Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
    instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
    Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
    Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
    Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine


    No Comment
  • OMODA & JAECOO ชวนสมาชิก OJ Club ร่วมทริปเดินทางสายธรรมชาติ สะท้อนวิสัยทัศน์แห่งการขับเคลื่อนอย่างยั่งยืน

    1 Min Read

    OMODA & JAECOO ชวนสมาชิก OJ Club ร่วมทริปเดินทางสายธรรมชาติ สะท้อนวิสัยทัศน์แห่งการขับเคลื่อนอย่างยั่งยืน

    OMODA & JAECOO ภายใต้บริษัท Chery Automobile ผู้นำเทคโนโลยียานยนต์ชั้นนำระดับโลก มุ่งมั่นสร้างความแข็งแรงให้กับคอมมูนิตี้ OJ CLUB ด้วยการวางแผนจัดกิจกรรมให้กับลูกค้าตลอดทั้งปี ครั้งนี้ OJ Club ครั้งที่ 4 นำเสนอประสบการณ์การเดินทางสุดพิเศษผ่านทริป “FROM RIVER TO SKY” ทริปพิเศษที่เชิญชวนเจ้าของรถไฟฟ้า OMODA & JAECOO ร่วมสัมผัสประสบการณ์ Soft Adventure บนเส้นทาง เพชรบุรี – แก่งกระจาน ที่ออกแบบมาเพื่อสะท้อนไลฟ์สไตล์ของผู้ใช้รถไฟฟ้ายุคใหม่ ด้วยเส้นทางระยะไกลที่ผสานระหว่างการเดินทางเชิงอนุรักษ์ ธรรมชาติ และการเชื่อมโยงกับชุมชนอย่างยั่งยืน 

    ภายใต้การสนับสนุนจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ทริปในครั้งนี้เริ่มต้นจากกรุงเทพฯ มุ่งหน้าสู่จังหวัดเพชรบุรี ก่อนเข้าสู่เขตอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน แหล่งมรดกธรรมชาติที่มีความอุดมสมบูรณ์ที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศ โดยผู้ร่วมเดินทางได้สัมผัสความสวยงามของเส้นทางธรรมชาติที่แวดล้อมด้วยป่าเขา และทะเลหมอก พร้อมกิจกรรมหลากหลายที่ผสานทั้งความสนุกสนาน การเรียนรู้ และความยั่งยืน

    ตลอดเส้นทาง รถ OMODA & JAECOO ได้แสดงศักยภาพอย่างเต็มเปี่ยมในการเดินทางระยะไกล ทั้งบนถนนเรียบ และเส้นทางที่มีอุปสรรค พร้อมด้วยระบบขับเคลื่อน 4WD ที่ลุยขึ้นเขาสู่จุดชมทะเลหมอกเขาพะเนินทุ่งได้อย่างไร้กังวล เทคโนโลยีอัจฉริยะภายในรถ เช่น ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ กล้องรอบคัน และระบบความปลอดภัยขั้นสูง ยังช่วยให้การเดินทางเป็นไปอย่างราบรื่นแม้ในเส้นทางธรรมชาติ ที่ท้าทาย

    นอกจากเสน่ห์ของการเดินทางแล้ว “FROM RIVER TO SKY” ยังมุ่งเน้นเรื่องความยั่งยืน และการมีส่วนร่วมกับชุมชน ผ่านกิจกรรมอนุรักษ์ธรรมชาติ “ปั้นเมล็ดพันธุ์” ซึ่งใช้หนังสติ๊กยิงเมล็ดพันธุ์เข้าไปในพื้นที่ป่า เพื่อเพิ่มความหลากหลายของพืชพรรณ และฟื้นฟูผืนป่าให้กลับมาอุดมสมบูรณ์ รวมถึงกิจกรรมเรียนรู้วิถีชุมชนที่บ้านถ้ำเสือ หนึ่งในชุมชนท่องเที่ยวที่ได้รับการประเมินจาก Green Destinations ตามมาตรฐานการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนโลก (GSTC) ที่ผสมผสานภูมิปัญญาท้องถิ่นเข้ากับการดูแลสิ่งแวดล้อมอย่างสมดุล อีกทั้งผู้เข้าร่วมยังได้พักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติที่ VILLA DE LEAF รีสอร์ทแนวอนุรักษ์ซึ่งโอบล้อมด้วยภูเขา และบรรยากาศอันเงียบสงบ พร้อมกิจกรรมเดินป่าชมทะเลหมอกยามเช้า ณ เขาพะเนินทุ่ง จุดหมายที่เข้าถึงได้เฉพาะยานยนต์สมรรถนะสูงเท่านั้น

    “FROM RIVER TO SKY” จึงไม่ใช่เพียงการเดินทาง หากแต่เป็นนิยามใหม่ของการใช้รถยนต์พลังงานใหม่ที่เชื่อมโยงเทคโนโลยีกับวิถีชีวิตอย่างมีจิตสำนึก ทั้งในมิติของสิ่งแวดล้อม ชุมชน และคุณภาพชีวิต สะท้อนวิสัยทัศน์ของ OMODA & JAECOO ในการเป็นผู้นำด้านไลฟ์สไตล์แห่งอนาคตที่ขับเคลื่อนด้วยความรับผิดชอบ

    ทริป OMODA & JAECOO Travel Experience ครั้งนี้ จึงตอกย้ำแนวคิดของแบรนด์ในการสร้างสรรค์ยานยนต์ที่ไม่ได้ตอบโจทย์แค่ การเดินทาง แต่ยังเป็นส่วนหนึ่งของการใช้ชีวิตอย่างยั่งยืน พร้อมขับเคลื่อนทุกการเดินทางของผู้ใช้ยุคใหม่ให้ก้าวไปสู่จุดหมาย ได้อย่างมั่นใจ ด้วยพลัง เทคโนโลยี และความหมายของการเดินทางอย่างแท้จริง

    ลูกค้า OMODA & JAECOO สามารถติดตามข่าวสาร กิจกรรม และสิทธิพิเศษจาก OJ Club ได้ที่ Facebook Official Page: Omoda & Jaecoo Thailand และ LINE OA @omodajaecoo


    ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย

    Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
    Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
    Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
    instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
    Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
    Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
    Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine


    No Comment
  • Idemitsu Super Turbo Thailand 2025 สนาม 3-4 ดวลเดือดโค้งสำคัญลุ้นแชมป์ประจำปี “ณัฐพงษ์-เตชิษฐ์” แบ่งแชมป์รุ่นใหญ่

    2 Min Read

    Idemitsu Super Turbo Thailand 2025 สนาม 3-4 ดวลเดือดโค้งสำคัญลุ้นแชมป์ประจำปี “ณัฐพงษ์-เตชิษฐ์” แบ่งแชมป์รุ่นใหญ่

    ศึกรถยนต์ทางเรียบชั้นนำของไทย รายการ Idemitsu Super Turbo Thailand 2025 สนาม 3-4 ดวลความเร็วเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ที่ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ ท่ามกลางการติดตามของแฟนมอเตอร์สปอร์ตทั่วประเทศ โดยนับเป็นช่วงเวลาสำคัญอย่างมากต่อการลุ้นแชมป์ประจำปี จากการต่อสู้ที่เข้มข้น

    ไฮไลต์ยังคงอยู่ที่รุ่นใหญ่ที่สุดของรายการอย่าง SUPER TURBO THA, SUPER TURBO D1 และ JAPAN 20+ ที่ลงแข่งขันพร้อมกัน ซึ่งมีความหมายอย่างยิ่งต่อการลุ้นแชมป์ เรซแรกในวันเสาร์ดวลกันทั้งสิ้น 12 รอบสนาม โดย สรัญ เสรีธรณกุล จาก PSC MOTORSPORT เจ้าของโพลทะยานออกนำอย่างรวดเร็ว ทว่ารถแข่งที่มีปัญหาทำให้อันดับรูดลงมา

    ชัยชนะสนาม 3 ในรุ่น Super Turbo THA ตกเป็นของ ณัฐพงษ์ เลิศล้ำประเสริฐกุล จาก Star Performance ที่ขยับขึ้นนำและทะยานเข้าป้ายเป็นคันแรกด้วยเวลา 21 นาที 31.221 วินาที เฉือนอันดับ 2 อย่าง เตชิษฐ์ ธนาพรสังสุทธิ์ จาก K-SPORT K1 RACING TEAM เพียง 0.943 วินาที ส่วน สรัญ ประคองเข้าป้ายในอันดับ 3 ตามหลัง 25.933 วินาที

    อันดับ 4 เป็นของ วิศวชิต มณีพันธุ์ จาก VOLTRONIC RACING TEAM ที่คว้าชัยชนะในรุ่น Japan 20+ ไปครองด้วย โดยมี พีรเพชร บุรพรัตน์ จาก AIM – MAXIMA ตามเข้าป้ายในอันดับ 5 และเป็นรองแชมป์ในรุ่น Japan 20+ ด้วยเช่นกัน ขณะที่ ศิราเมษฐ์ นำรถแข่งเข้าป้ายในอันดับ 6 แต่ก็เพียงพอให้เขาคว้าชัยชนะในรุ่น SUPER TURBO D1 ได้อีกครั้ง

    เกมสนาม 4 ในวันอาทิตย์ จบ 11 รอบสนาม ชัยชนะโอเวอร์ออลล์ตกเป็นของ เตชิษฐ์ เข้าป้ายด้วยเวลา 20 นาที 7.312 วินาที กลับมาคว้าชัยคลาส SUPER TURBO THA ขณะที่อันดับ 2 โอเวอร์ออลล์ และแชมป์ในรุ่น SUPER TURBO D1 ตกเป็นของ ศิราเมษฐ์ ตามหลังหัวแถว 52.940 วินาที

    ผู้ชนะในรุ่น JAPAN 20+ ได้แก่ ชนินทร หัตถกี จาก WINZER MOTORSPORT X GARAGE 88 ตามด้วย วิศวชิต มณีพันธุ์ จาก VOLTRONIC RACING TEAM และ พีรเพชร บุรพรัตน์ จาก AIM – MAXIMA ตามเข้าป้ายในอันดับ 2 และ 3 ของรุ่นนี้

    ผลในรุ่น Super Turbo D2 และ Super Turbo D3 ที่ลงดวลพร้อมกัน “ท็อป” ธนาตย์ เสถียรถิระกุล นักขับดีกรีเวทียุโรปสร้างเซอร์ไพร์ส ลงขับให้ สิทธิผล กรุ๊ป – KI SUGAR  เริ่มเกมจากท้ายแถว แซงเดือดเข้าคว้าชัยเหนือทีมเมทจอมเก๋าอย่าง เอกประวัติ เพ็ชรรักษ์ เพียง 1.382 วินาที ส่วนอันดับ 3 และแชมป์ในรุ่น D3 เป็นของ ธนานนท์ ตามด้วย สรรพร เชาวน์ชวานิล จาก STAR PERFORMANCE ในอันดับ 4 และ วรัญญู แสงกล้า จาก UWASH NEXZTER ตามเข้าป้ายในอันดับ 5

    สนาม 4 สถานการณ์พลิกมาเข้าทาง เอกประวัติ ที่เข้าวินด้วยเวลา 20 นาที 44.739 วินาที อันดับ 2 เป็นของ สรรพร ตามหลัง 30.037 วินาที และคว้าชัย D2 ได้สำเร็จ เหนืออันดับ 2 อย่าง ธิรุตม์ สุวรรณมาศ จาก GS RACING TEAM ขณะที่อันดับ 3 เป็นของ ธนวิทย์  อภิปุญญา จาก IDEMITSU RACING TEAM THAILAND BY AP ในอันดับ 3 ด้าน “ท็อป-ธนาตย์” รถแข่งมีปัญหา จบเรซในอันดับ 7 โอเวอร์ออลล์

    ขยับมาดูเกมรุ่น Super Turbo D4 และ Super NZ สนาม 3 ขจรศักดิ์ ณ สงขลา จาก OR V.C.MEAT BUONO NEXZTER WISE คว้าชัยโอเวอร์ออลล์ และ D4 ด้วยเวลา 21 นาที 54.803 วินาที เหนือ หทัย ไชยวัณณ์ จาก SINGHA ELF MASTER MEAT NEXZTER อันดับ 2 เพียง 0.441 วินาที อันดับ 3 ASLAN ABDUEV จาก ERAWADEE BY THE HUB ตามหลัง 11.029 วินาที ตามด้วยนักขับสาว “นีเน่” เมฆรัชคีฏาก์ กะลันตานนท์ จาก RUK TEAM PMC52 WING HIN MOTORSPORTS ในอันดับ 4 ตามหลัง 21.288 วินาที ขณะที่อันดับ 5 ได้แก่ พีรเพชร บุรพรัตน์ ตามหลัง 37.249 วินาที

    ด้านผู้ชนะในรุ่น Super NZ ได้แก่ สรัล ดาเก็ง จาก RUK TEAM NEXZTER ตามด้วย อายูมิ อาน จาก AYUMI RACING TEAM และ ปารีณา ศุภธาดารัตน์ จาก TOTACHI DYNO DYNAMICS TKF RACING TORNTO R NEXZTER ในอันดับ 2-3

    สนาม 4 ขจรศักดิ์ ออกตัวจากโพลนำม้วนเดียวคว้าชัยชนะไปครอง อันดับ 2 เป็นของ ประธาน มาพบสุข จาก บ้านเรือเล็ก NAILFIE STUDIO WISE BY THE HUB ตามหลัง 2.680 วินาที ตามด้วย ASLAN  ในอันดับ 3 ตามหลัง 3.980 วินาที ด้าน หทัย จบอันดับ 4 ตามหลัง 12.610 วินาที ส่วนอันดับ 5 เป็นของ ธีศิษฏ์ ตามหลังหัวแถว 19.685 วินาที ส่วนชัยชนะในรุ่น Super NZ ตกเป็นของ สรัล ตามด้วย อายูมิ อาน จาก AYUMI RACING TEAM ในอันดับ 2 และอันดับ 3 เป็นของ ปารีณา

    ปิดท้ายด้วย PICKUP TURBO THA สนาม 3 ในวันเสาร์ ศุภทัศน์ บุญเรือง นักขับหนุ่มจาก PHC RACING PERFORMANCE SKS TURBO สตาร์ตจากโพลนำม้วนเดียวคว้าชัยชนะครั้งแรก โดยมี สมร มะปะเข นักขับเจ้าถิ่นจาก ไทวัสดุ NEXZTER MOBIL1 VENOM รวมช่างเชียงกง GT RESIDENCEเป็นอันดับ 2 ตามหลัง 4.368 วินาที อันดับ 3 ได้แก่ เอกสิทธิ์ นามแสงผา จาก MAXPEEDINGRODS ZIC TUNE BY AOT BRC VENOM ตามหลัง 34.609 วินาที ตามด้วย ศุภมงคล เดชเพชร จาก ชาบูเถ้าแก่น้อย, TUM CLUTCH, MK SPORT, AKANA CNC รักกัญ BY อู๊ดอ๋อง ระยอง ในอันดับ 4 ตามหลัง 45.697 วินาที ขณะที่อันดับ 5 ได้แก่ เกริกพงษ์

    ก่อนที่ ศุภทัศน์ จะปิดจ็อบเข้าวินไปครอง 2 เรซติดต่อกัน ในสนาม 4 แบบม้วนเดียวจบเช่นกัน เหนือ ชินวุฒิ หล่าชินชาติ จาก ALPHA FACTORY RACING TEAM BY PULZAR อันดับ 2 ถึง 6.701 วินาที ตาม เอกสิทธิ์ ในอันดับ 3 ห่างออกไป 33.106 วินาที ส่วน สมร มะปะเข จบเรซนี้ในอันดับ 4 ตามหลัง 44.602 วินาที และอันดับ 5 ได้แก่ เกริกพงษ์ ตามหลัง 55.750 วินาที

    ทั้งนี้ภายหลังจบ 2 สนามล่าสุด สถานการ์ลุ้นแชมป์กลับมาเข้มข้นอย่างมาก โดยต้องไปตัดสินแชมป์ประจำปีกันในสนาม 5-6 ซึ่งเป็น 2 เรซสุดท้ายของฤดูกาลระหว่างวันที่ 27-29 มิถุนายนนี้ ที่ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ เช่นเคย


    ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย

    Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
    Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
    Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
    instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
    Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
    Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
    Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine


    No Comment
  • PT MAXNITRON RACING SERIES 2025 เตรียมจัดยิ่งใหญ่ ณ จังหวัดสงขลา พร้อมผลักดันสู่เวทีมอเตอร์สปอร์ตระดับประเทศ

    1 Min Read

    PT MAXNITRON RACING SERIES 2025 เตรียมจัดยิ่งใหญ่ ณ จังหวัดสงขลา พร้อมผลักดันสู่เวทีมอเตอร์สปอร์ตระดับประเทศ

     

    บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ PTG จับมือ บริษัท เอส63 โปรเจค จำกัด และหน่วย งานภาครัฐ พร้อมกลุ่มพันธมิตร ประกาศจัดการแข่งขันรถยนต์ทางเรียบรายการใหญ่ระดับประเทศ “PT MAXNITRON RACING SERIES 2025” (พีที แมกซ์นิตรอน เรซซิ่ง ซีรี่ย์ 2025) อย่างยิ่งใหญ่ ณ สนาม PT SONGKHLA GRANDPRIX 2025 จังหวัดสงขลา โดยมีเป้าหมายในการส่ง เสริมการท่อง เที่ยวเชิงกีฬา และสนับสนุนเศรษฐกิจในภูมิภาค พร้อมยกระดับวงการ มอเตอร์สปอร์ตไทยสู่ มาตรฐานสากล

    นายฉลอง ติรไตรภูษิต ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กร บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) เผยว่า   “การจัดการแข่งขัน PT MAXNITRON RACING SERIES 2025 สนามที่ 3: PT SONGKHLA GRAND PRIX สะท้อนถึงเจตนารมณ์ของ PTG ในการยกระดับกีฬามอเตอร์สปอร์ตให้เข้าถึงคนไทยทั่วประเทศ ไม่จำกัดอยู่ เฉพาะเมืองใหญ่ การเลือกจังหวัดสงขลาเป็นสนามหลักในครั้งนี้ ไม่เพียงสร้างโอกาสให้กับคนในพื้นที่ภาคใต้ แต่ยังมีส่วนช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจท้องถิ่น ส่งเสริมการท่องเที่ยว และสร้างการมีส่วนร่วม ของชุมชนในระดับ ภูมิภาค เรามีความภูมิใจอย่างยิ่งที่ได้ร่วมเป็นผู้สนับสนุนหลัก และเป็นส่วนหนึ่งที่ร่วมผลัก ดันชื่อเสียงของ ประเทศไทยบนเวทีมอเตอร์สปอร์ตระดับโลกในครั้งนี้ ทั้งนี้เราให้คำมั่นว่าจะจัดงานให้ดียิ่งขึ้น เพื่อดึงดูดทั้งชาว ไทยและชาวต่างชาติให้เข้าชมเพิ่มมากขึ้นในทุก ๆ ปี PTG ในฐานะแบรนด์ธุรกิจของคนไทย เพื่อคนไทย พร้อม สานต่อเจตนารมณ์ในการสร้างสังคมไทยให้ “อยู่ดี มีสุข” ในทุกมิติของการดำเนินธุรกิจ ทั้งในกลุ่มธุรกิจ Oil และ Non-Oil อย่างยั่งยืน”

    นายจิรวัตร์ มณีโชติ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เผยว่า “การแข่งขันครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญของ จังหวัดสงขลาในการแสดงศักยภาพการเป็นเจ้าภาพระดับประเทศ ทั้งในด้านโครงสร้างพื้นฐาน การคมนาคม ที่สะดวก รวมถึงแหล่งท่องเที่ยว วัฒนธรรม และอาหารท้องถิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ ทั้งยังเป็นหนึ่งในกลยุทธ์การ พัฒนาเศรษฐกิจด้วยการกระตุ้นการเดินทาง การใช้จ่าย และการสร้างงานในพื้นที่อย่างเป็นรูปธรรม ที่ภาครัฐ และเอกชนในจังหวัดสงขลาจะได้ร่วมมือกันอย่างใกล้ชิด โดยเตรียมแผนรองรับครอบคลุมทุกด้าน ทั้งความ ปลอดภัย การจราจร การแพทย์ฉุกเฉิน และสิ่งแวดล้อม เพื่อให้งานครั้งนี้เป็นประสบ การณ์ที่น่าประทับใจสูง สุดสำหรับผู้ร่วมงานทุกคน จังหวัดสงขลาพร้อมต้อนรับทุกท่าน และพร้อมก้าวสู่การเป็น เมืองหลวงมอเตอร์ สปอร์ตของภาคใต้ในอนาคต”

    ด้านคุณศิลป์ ธีรนิติ ประธานการจัดการแข่งขัน PT MAXNITRON RACING SERIES 2025 กล่าวถึง ความพิเศษของการแข่งขันว่า “การแข่งขัน PT MAXNITRON RACING SERIES ในปีนี้เป็นปีที่ 7 ซึ่งเราได้เริ่ม จัดครั้งแรกในปี 2018 ได้กลายเป็นปรากฏการณ์ที่สร้างความคึกคักให้กับวงการมอเตอร์สปอร์ตไทย และเป็น ที่จับตามองในระดับนานาชาติ สำหรับสนาม PT SONGKHLA GRAND PRIX ในปี 2024 ที่ผ่านมา เมืองสง ขลาได้ต้อนรับผู้ชมมากกว่า 200,000 คน ตลอด 4 วันของการแข่งขัน ส่งผลให้เศรษฐกิจหมุนเวียน ในพื้นที่ เติบโตขึ้น ความสำเร็จนี้สะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพของจังหวัดสงขลา และรายการ PT MAXNITRON RACING SERIES ในฐานะเวทีสำคัญที่สามารถก้าวข้ามขอบเขตของการแข่งขันแบบเดิม ดึงดูดทั้งนักแข่งทีม แข่ง ผู้เข้าชม และสื่อมวลชน ซึ่งในปีนี้ เราพร้อมยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยในการแข่งขัน พร้อม กิจกรรมเสริมที่จะตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ของผู้ชมและนักท่องเที่ยว”

    พบกับกิจกรรมไฮไลต์ภายในงาน PT MAXNITRON RACING SERIES 2025 สนามที่ 3: PT SONGKHLA GRAND PRIX อาทิ

    • PTRS Expo: งานแสดงยนตรกรรมและแบรนด์รถชั้นนำกว่า
    • Drag Show: โชว์รถแดรก
    • D1 Drift Show: จากรายการ D1 GP Thailand พร้อมพาผู้โชคดีนั่งรถดริฟต์รอบสนาม
    • Balance Bike: การแข่งขันจักรยานขาไถ สำหรับเด็กเล็ก
    • Slum Fight: การแข่งขันมวยสลัมไฟท์
    • Paddock Club: โซนรับชมการแข่งขันสุดเอ็กซ์คลูซีฟ ณ โรงแรม บีพี สมิหลา บีช
    • Market Zone: มหกรรมฟู้ดทรัคริมเล พร้อมสินค้าและของดีท้องถิ่น

    PTG ขอเชิญชวนผู้ที่สนใจกีฬามอเตอร์สปอร์ต และนักท่องเที่ยวทุกท่าน เข้าร่วมชมการแข่งขัน PT MAXNITRON RACING SERIES 2025 สนามที่ 3: PT SONGKHLA GRAND PRIX ระหว่างวันที่ 16-19 ตุลาคม 2568 ณ สนาม PT SONGKHLA GRAND PRIX จังหวัดสงขลา เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่ง ของปรากฏ การณ์ความเร็วสุดยิ่งใหญ่แห่งปี พร้อมสัมผัสบรรยากาศการแข่งขันระดับประเทศ ท่ามกลางวิวทะเลสวย และกิจกรรมความบันเทิงครบครันตลอดทั้งงาน ผู้สนใจสามารถติดตามความเคลื่อนไหวของการแข่งขันได้ที่ www.facebook.com/ptmaxnitronmotorsport


    ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย

    Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
    Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
    Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
    instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
    Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
    Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
    Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine

    No Comment
  • GWM (Thailand) คว้ารางวัล “บริการหลังการขายยอดเยี่ยม” จากเวที GWM Global ตอกย้ำมาตรฐานการบริการหลังการขายระดับสากล

    1 Min Read

    GWM (Thailand) คว้ารางวัล “บริการหลังการขายยอดเยี่ยม” จากเวที GWM Global ตอกย้ำมาตรฐานการบริการหลังการขายระดับสากล

     

     GWM (Thailand) ยกระดับสู่การเป็นแบรนด์รถยนต์ที่มีผลิตภัณฑ์ครอบคลุมทุกประเภทพลังงานที่ตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานทั่วทุกมุมโลก ด้วยแนวคิด “ครอบคลุมทุกการใช้งาน (All Scenarios) ด้วยผลิตภัณฑ์ที่ครอบคลุมทุกพลังงาน (All Powertrains) สู่การตอบสนองทุกกลุ่มผู้ใช้งานอย่างแท้จริง (All Users)” ล่าสุด GWM (Thailand) คว้ารางวัลบริการหลังการขายยอดเยี่ยม (Service Excellence Award) จากเวที Annual GWM Awards 2025 ซึ่งจัดขึ้นที่นครเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน โดยรางวัลนี้มอบให้กับประเทศที่มีผลงานด้านการให้บริการหลังการขายที่โดดเด่นในกลุ่มเครือข่าย GWM ทั่วโลก สะท้อนถึงมาตรฐานการบริการที่เป็นเลิศของ GWM (Thailand) และความมุ่งมั่นในการดูแลลูกค้าชาวไทยเพื่อยกระดับประสบการณ์การบริการที่มีคุณภาพที่มากกว่าและเหนือกว่าในทุกมิติ ตามแนวคิด GWM Go With More

     

    เวย์น โจว กรรมการผู้จัดการ GWM (Thailand) กล่าวว่า “GWM ให้ความสำคัญกับบริการหลังการขายมาโดยตลอด เพราะเราเชื่อว่า ‘การขายรถ’ เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์กับลูกค้า แต่ ‘การบริการหลังการขาย’ คือสิ่งที่จะรักษาความสัมพันธ์นั้นให้ยั่งยืน GWM (Thailand) ไม่เคยมองว่าบริการหลังการขายเป็นแค่ส่วนเล็ก ๆ ของการดำเนินธุรกิจ แต่เป็นหัวใจหลักของการสร้างความพึงพอใจและความไว้วางใจระยะยาวของลูกค้าที่มีต่อแบรนด์ ซึ่งเป็นรากฐานของการเติบโตอย่างยั่งยืนในตลาดประเทศไทย”

    แม้ว่ารางวัลนี้จะมาจากภายในองค์กร GWM Global แต่กระบวนการคัดเลือกอิงจากเกณฑ์การประเมินผลการดำเนินงานจริงอย่างเข้มงวด และเทียบเคียงกันระหว่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นระดับความพึงพอใจของลูกค้า การให้บริการตามมาตรฐานที่กำหนด การบริหารจัดการอะไหล่ การตอบสนองต่อข้อร้องเรียน และนวัตกรรมด้านบริการลูกค้า GWM (Thailand) ได้แสดงศักยภาพได้อย่างโดดเด่น ทั้งด้านการให้บริการลูกค้าผ่าน GWM SMART Service การบริหารจัดการอะไหล่ที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ การดูแลแก้ปัญหาลูกค้าด้วยความใส่ใจและโปร่งใส การรับฟังความคิดเห็นของลูกค้าอย่างต่อเนื่อง คุณภาพการบริการของพาร์ทเนอร์ สโตร์ ฯลฯ นอกจากนี้ รางวัลอันทรงเกียรตินี้ยังถือเป็นการต่อยอดความสำเร็จจากการที่ GWM (Thailand) เคยสร้างผลงานโดดเด่นในการเป็นแบรนด์รถยนต์สัญชาติจีนเพียงรายเดียวที่ติด Top 3 ในด้านความพึงพอใจบริการหลังการขาย ประจำปี 2567 จากผลการประเมินของ Differential บริษัทที่ปรึกษาและวิจัยตลาดชั้นนำ ซึ่งเก็บข้อมูลจากผู้ใช้รถยนต์จริงทั่วประเทศตลอดทั้งปีที่ผ่านมา โดยการประเมินครอบคลุมใน 5 มิติหลัก ได้แก่ 1) คุณภาพงานบริการ 2) ราคาและความคุ้มค่า 3) การบริการจากพนักงานและสิ่งอำนวยความสะดวกในศูนย์บริการ 4) การสื่อสารและความชัดเจน และ 5) ความสะดวก และความง่ายในการเข้าถึงบริการ ซึ่งล้วนเป็นปัจจัยสำคัญที่สะท้อนถึงคุณภาพของ GWM ในการดูแลลูกค้าหลังการขายอย่างรอบด้าน โดยรางวัลบริการหลังการขายยอดเยี่ยม จากเวที Annual GWM Awards 2025 ในครั้งนี้จึงเป็นอีกหนึ่งเครื่องพิสูจน์ที่ตอกย้ำถึงความสำเร็จของ GWM (Thailand) ในการยกระดับประสบการณ์ของลูกค้าในทุกมิติ

    หนึ่งในจุดแข็งของ GWM (Thailand) คือเครือข่ายบริการ GWM พาร์ทเนอร์ สโตร์ ที่มีมากถึง 69 แห่งทั่วประเทศ และยังเดินหน้าขยายเพิ่มทั่วประเทศอย่างไม่หยุดยั้งเพื่อมอบความอุ่นใจให้แก่ผู้ใช้งานรถยนต์ GWM โดยศูนย์บริการเหล่านี้ได้รับเสียงตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้ใช้งานทั่วประเทศ ถึงการบริการที่รวดเร็ว สะดวกสบาย และเป็นมากกว่าศูนย์บริการรถยนต์ทั่วไป

    “เราไม่ได้มองแค่ยอดขายในแต่ละปี แต่เรามองภาพรวมของความเชื่อมั่นและความพึงพอใจที่ลูกค้ามีต่อแบรนด์ และประสบการณ์ที่พวกเขาได้รับในทุกครั้งที่เข้ารับบริการ GWM (Thailand) จะเดินหน้าพัฒนาบริการอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ลูกค้าทุกคนสัมผัสได้ถึงคุณค่าที่มากกว่า ไม่ว่าจะเป็นก่อนการขาย ระหว่างการขาย และที่สำคัญที่สุด คือ ‘หลังการขาย’ ซึ่งเป็นจุดที่สร้างคุณค่าและสร้างความแตกต่างให้แบรนด์และผลิตภัณฑ์ของเราอย่างแท้จริงและเป็นรูปธรรม รางวัลนี้คือกำลังใจสำคัญในการเดินหน้าพัฒนาคุณภาพการให้บริการอย่างไม่หยุดยั้ง เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าชาวไทยให้เหนือความคาดหมาย ตามแนวคิด GWM Go With More” เวยน์ โจว กล่าวเสริม


    ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย

    Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
    Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
    Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
    instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
    Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
    Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
    Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine


    No Comment
  • โตโยต้าร่วมแสดงความยินดี “วิว กุลวุฒิ” คว้าแชมป์ชายเดี่ยว สมัยที่ 2 พร้อมถ้วยพระราชทาน ในการแข่งขันแบดมินตันรายการ “TOYOTA Thailand Open 2025”

    1 Min Read

    โตโยต้าร่วมแสดงความยินดี “วิว กุลวุฒิ” คว้าแชมป์ชายเดี่ยว สมัยที่ 2 พร้อมถ้วยพระราชทาน ในการแข่งขันแบดมินตันรายการ “TOYOTA Thailand Open 2025”

    สิ้นสุดการแข่งขันแบดมินตันระดับนานาชาติ รายการ “TOYOTA Thailand Open 2025”  การแข่งขันในระดับ “HSBC BWF World Tour Super 500” ชิงถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และเงินรางวัลรวม 475,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 16,150,000 บาท เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2568 ที่อาคารนิมิบุตร สนามกีฬาแห่งชาติ ท่ามกลางเสียงเชียร์กึกก้องตลอดการแข่งขัน โดยผลการแข่งขันประเภทชายเดี่ยว “วิว” กุลวุฒิ วิทิตศานต์ คว้าแชมป์ชายเดี่ยว สมัยที่ 2 ชนะ        แอนเดอร์ส แอนทอนเซ่น 2-1 เกม ด้วยสกอร์ 21-16 / 17-21 และ 21-9 หลังจากจบการแข่งขัน        นายศุภกร รัตนวราหะ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด      พร้อมด้วย คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล ประธานสหพันธ์แบดมินตันโลก และกรรมการคณะกรรมการโอลิมปิกสากล และเจ้าหน้าที่ผู้มีส่วนร่วมในการจัดการแข่งขัน ร่วมกันมอบรางวัล

    การแข่งขันรายการนี้จัดขึ้นภายใต้ความร่วมมือระหว่าง กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา / การกีฬาแห่งประเทศไทย / สมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ และบริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เพื่อให้แฟนกีฬาแบดมินตันได้ชม และเชียร์นักกีฬาไทย ให้สร้างผลงานในเวทีระดับโลก ทำการแข่งขันระหว่างวันที่ 13 – 18 พฤษภาคม 2568 ที่ผ่านมา

    โดยมีผลการแข่งขันประเภทชายเดี่ยว รอบชิงชนะเลิศ “วิว” กุลวุฒิ วิทิตศานต์ มือวางอันดับ 1 ของรายการ มืออันดับ 2 ของโลก พบกับ แอนเดอร์ส แอนทอนเซ่น มือวางอันดับ 2 ของรายการ มืออันดับ 3 ของโลกจากเดนมาร์ก เกมนี้ วิว กุลวุฒิ เล่นได้อย่างสะใจแฟนๆในสนาม ก่อนจะเอาชนะไปอย่างสุดมันส์ 2-1 เกม         21-16,17-21,21-9 คว้าแชมป์แบดมินตัน โตโยต้า ไทยแลนด์ โอเพ่น 2025 เวิลด์ทัวร์ ซูเปอรฺ์ 500 ไปครองเป็น สมัยที่ 2 ต่อจากปี 2023 ครองถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมรับเงินรางวัลแชมป์ 35,625 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 1,175,625 บาท  ส่วนรองแชมป์  แอนเดอร์ส แอนทอนเซ่น รับเงินรางวัล 18,050 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 595,650 บาท

    ประเภทหญิงเดี่ยว รอบชิงชนะเลิศ “หมิว” พรปวีณ์ ช่อชูวงศ์ มือวางอันดับ 1 ของรายการ มืออันดับ 6 ของโลก พ่ายให้กับ เฉิน ยู่เฟย มือวางอันดับ 2 ของรายการ มืออันดับ 8 ของโลกจากจีน ไป 0-2 เกม 16-21,12-21

    เฉิน ยู่เฟย คว้าแชมป์พร้อมครองถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมรับเงินรางวัลแชมป์ 35,625 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 1,175,625 บาท  ส่วนรองแชมป์  “หมิว” พรปวีณ์ ช่อชูวงศ์ รับเงินรางวัล 18,050 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 595,650 บาท

    ประเภทชายคู่ อารอน เชี๊ยะ กับ โซ วุยยิค คู่มือวางอันดับ 2 ของรายการ คู่มืออันดับ 5 ของโลกจากมาเลเซีย ชนะ  วิลเลี่ยม ไครเจอร์ โบเอ้ กับ คริสเตียน ฟาร์ส เคียร์ คู่มืออันดับ 75 ของโลกจากเดนมาร์ก 2-1 เกม 20-22 , 21-17 , 21-12

    อารอน เชี๊ยะ กับ โซ วุยยิค คว้าแชมป์ ครองถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมรับเงินรางวัลแชมป์ 37,525 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 1,238,325 บาท  ส่วนรองแชมป์  วิลเลี่ยม ไครเจอร์ โบเอ้ กับ คริสเตียน ฟาร์ส เคียร์ รับเงินรางวัล 18,050 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 595,650 บาท

    ประเภทหญิงคู่  รอบชิงชนะเลิศ เพอรี่ ตัน กับ เทียน่า มูลาริทาราน คู่มือวางอันดับ 1 ของรายการ คู่มืออันดับ 4 ของโลกจากมาเลเซีย ชนะ จอง นาอึน กับ ลี ยอนวู คู่มืออันดับ 105 ของโลกจากเกาหลีใต้ 2-0 เกม 21-16 , 21-17

    เพอรี่ ตัน กับ เทียน่า มูลาริทาราน คว้าแชมป์ ครองถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมรับเงินรางวัลแชมป์ 37,525 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 1,238,325 บาท  ส่วนรองแชมป์  จอง นาอึน กับ ลี ยอนวู  รับเงินรางวัล 18,050 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 595,650 บาท

    ประเภทคู่ผสม เฟิง หยางเจ๋อ กับ หวง ตงปิง คู่มือวางอันดับ 2 ของรายการ คู่มืออันดับ 2 ของโลกจากจีน ชนะ เกา เจียซวน กับ หวู เหม็งหยิง คู่มืออันดับ 79 ของโลกจากจีน 24-22,21-16

    เฟิง หยางเจ๋อ กับ หวง ตงปิง คว้าแชมป์ ครองถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมรับเงินรางวัลแชมป์ 37,525 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 1,238,325 บาท  ส่วนรองแชมป์ เกา เจียซวน กับ หวู เหม็งหยิง  รับเงินรางวัล 18,050 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 595,650 บาท


    ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย

    Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
    Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
    Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
    instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
    Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
    Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
    Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine


    No Comment
  • มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย มอบรางวัล “ผู้จำหน่ายยอดเยี่ยม ปี 2567” ยกย่องความเป็นเลิศด้านการขาย บริการหลังการขาย และการสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้า

    1 Min Read

    มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย มอบรางวัล “ผู้จำหน่ายยอดเยี่ยม ปี 2567” ยกย่องความเป็นเลิศด้านการขาย บริการหลังการขาย และการสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้า

    บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศผลรางวัลอันทรงเกียรติ “ผู้จำหน่ายยอดเยี่ยม ประจำปี 2567 (Mitsubishi Excellence Awards 2024) เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม 2568 ที่ผ่านมา เพื่อยกย่องและแสดงความยินดีแก่ผู้จำหน่ายที่มีผลการดำเนินงานโดดเด่นและเป็นเลิศทั้งในด้านการขาย และบริการหลังการขาย ในปีงบประมาณ 2567 ตอกย้ำความมุ่งมั่นของบริษัทฯ ที่เน้นการให้ความสำคัญกับลูกค้า เพื่อมอบความพึงพอใจสูงสุด พร้อมกับการพัฒนาคุณภาพการขายและการบริการหลังการขายอย่างต่อเนื่อง

    ผู้จำหน่ายที่ได้รับรางวัล “ผู้จำหน่ายยอดเยี่ยม ปี 2567” ได้แก่:

    1. บริษัท เอเบิล มอเตอร์ส ปากเกร็ด จำกัด (สำนักงานใหญ่) เขตกรุงเทพฯ
    2. บริษัท แสงชัยมอเตอร์เซลส์ จํากัด เขตต่างจังหวัด กลุ่มจังหวัดขนาดใหญ่
    3. บริษัท มิตซู ชูเกียรติยนต์ กระบี่ จำกัด เขตต่างจังหวัด กลุ่มจังหวัดขนาดกลาง
    4. บริษัท มิตซูไทยยนต์กลการ จำกัด เขตต่างจังหวัด กลุ่มจังหวัดขนาดเล็ก
    5. บริษัท เอเบิล มอเตอร์ส ปากเกร็ด จำกัด (สาขานวนคร) ผู้จำหน่ายใหม่ยอดเยี่ยม เขตกรุงเทพฯ
    6. บริษัท มิตซูไทยยนต์ นครศรี จํากัด (สํานักงานใหญ่) ผู้จำหน่ายใหม่ยอดเยี่ยม เขตต่างจังหวัด

    นอกจากรางวัล “ผู้จำหน่ายยอดเยี่ยม ประจำปี 2567” มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ยังมอบรางวัลพิเศษจากการดำเนินงานที่มีประสิทธิภาพในด้านต่าง ๆ ให้กับผู้จำหน่าย ได้แก่

    1. รางวัลยอดขายสูงสุด เขตกรุงเทพฯ อันดับที่ 1 ได้แก่ บริษัท มิตซูรุ่งเจริญ จำกัด
    2. รางวัลส่วนแบ่งการตลาดสูงสุด เขตต่างจังหวัด กลุ่มจังหวัดขนาดใหญ่ อันดับที่ 1 ได้แก่

    บริษัท มิตซูอยุธยา (ไทยธาดา) จำกัด

    1. รางวัลส่วนแบ่งการตลาดสูงสุด เขตต่างจังหวัด กลุ่มจังหวัดขนาดกลาง อันดับที่ 1 ได้แก่

    บริษัท ชูเกียรติยนต์ กระบี่ จำกัด

    1. รางวัลส่วนแบ่งการตลาดสูงสุด เขตต่างจังหวัด กลุ่มจังหวัดขนาดเล็ก อันดับที่ 1 ได้แก่

    บริษัท มิตซูไทยยนต์กลการ จำกัด

    1. รางวัลส่งเสริมการขายโครงการพิเศษ อันดับที่ 1 ได้แก่ บริษัท มิตซู พระนคร ออโต้ จำกัด

     

     

    มร. เรียวอิจิ อินาบะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “การแข่งขันในปีนี้มีความสูสีและเข้มข้นเป็นอย่างมาก ทำให้การคัดเลือกผู้จำหน่ายที่ได้รับรางวัลไม่ใช่เรื่องง่าย ซึ่งถือเป็นสัญญาณที่ดีเพราะแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของผู้จำหน่ายของเรา ในการพัฒนาและยกระดับการขายและการให้บริการอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการดูแลลูกค้า ที่จะส่งมอบความพึงพอใจสูงสุดและสร้างประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้แก่ลูกค้าของเราทุกคน ขอแสดงความยินดีกับผู้จำหน่ายที่ได้รับรางวัลต่าง ๆ ในครั้งนี้”

     

    “เกณฑ์การประเมินผลในปี 2567 มุ่งเน้นที่ความเป็นเลิศด้านการบริการ ซึ่งครอบคลุมทั้งด้านการขายและบริการหลังการขาย รวมถึงความสามารถในการรักษาและขยายส่วนแบ่งทางการตลาดในแต่ละพื้นที่ โดยให้ความสำคัญสูงสุดกับความพึงพอใจของลูกค้า ผ่านการส่งมอบรถยนต์ที่มีคุณภาพ และการยกระดับมาตรฐานการให้บริการอย่างต่อเนื่อง เป้าหมายของเราคือการเสริมสร้างความไว้วางใจในแบรนด์ให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น เพื่อต่อยอดความสำเร็จร่วมกับผู้จำหน่ายทุกราย นำไปสู่การเติบโตร่วมกันอย่างมั่นคง และความสำเร็จที่ยั่งยืนในระยะยาว” มร. อินาบะ กล่าวเพิ่มเติม

    นางสาว ชัญญาภัค ธนะคุณธนิน กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอเบิล มอเตอร์ส ปากเกร็ด จำกัด (สำนักงานใหญ่) กล่าวว่า “ขอขอบคุณลูกค้าคนสำคัญทุกท่านที่ให้การสนับสนุน เอเบิล มอเตอร์ส ตลอด 20 ปี ที่ผ่านมา และ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย สำหรับรางวัลอันทรงเกียรติ รางวัลผู้จำหน่ายยอดเยี่ยม เขตกรุงเทพฯ อันดับที่ 1 ที่ได้รับในวันนี้ ความสำเร็จนี้เกิดขึ้นได้ เพราะครอบครัว

    เอเบิล มอเตอร์ส ทุกคนที่ให้ความทุ่มเท และคอยสนับสนุนอยู่เบื้องหลังความสำเร็จนี้ และขอขอบคุณครอบครัวและบุคคลสำคัญทุกท่าน ที่เป็นกำลังใจและแรงบันดาลใจให้กันในตลอดหลายปีที่ผ่านมา พวกเราทุกคนที่ เอเบิล มอเตอร์ส ยึดมั่นในการให้บริการด้วยความเป็นมืออาชีพ อย่างมีมาตราฐานและเต็มเปี่ยมด้วยคุณภาพ และเราจะยังคงพัฒนาด้านกระบวนการขายอย่างต่อเนื่อง และมุ่งมั่นสร้างผลการดำเนินงานที่ดียิ่งขึ้นต่อไปค่ะ”

    นางสาว เกษสุดา ปิติเจริญกิจ กรรมการผู้จัดการ บริษัท มิตซู ชูเกียรติยนต์ กระบี่ จำกัด กล่าวว่า “ขอขอบคุณมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ที่มอบรางวัลผู้จำหน่ายยอดเยี่ยม (กลุ่มจังหวัดขนาดกลาง) อันดับที่ 1 ให้กับ มิตซู ชูเกียรติยนต์ กระบี่ และจัดงานมอบรางวัลอันทรงเกียรตินี้ให้กับพวกเราค่ะ และขอบคุณทีมงาน
    มิตซู ชูเกียรติยนต์ กระบี่ ที่ส่งกำลังใจมาร่วมลุ้นรางวัลไปด้วยกัน เพราะเราได้ร่วมกันก้าวผ่านทุกความท้าทายตลอดปีที่ผ่านมา รางวัลนี้ถือเป็นสิ่งย้ำเตือนถึงความสำเร็จและจุดแข็งที่พวกเราไม่เพียงมุ่งมั่นทำงานร่วมกันเป็นทีม แต่ยังติดตามการให้บริการหลังการขายอยู่เสมอ ทำให้เราได้รับความไว้วางใจจากลูกค้า เราจะรักษามาตรฐานและพัฒนาการบริการให้ดียิ่งขึ้นต่อไปค่ะ”

    นอกจากรางวัลข้างต้น ยังมีรางวัลพิเศษอีก 2 รางวัล ที่มอบให้แก่ผู้จำหน่ายที่มีผลงานโดดเด่น และความสำเร็จอย่างต่อเนื่องในการดำเนินธุรกิจ ได้แก่

    1. รางวัลยอดขายสูงสุดระดับประเทศ ปี 2567 ได้แก่ บริษัท มิตซูรุ่งเจริญ จำกัด
    2. รางวัลยอดขายสูงสุดระดับประเทศติดต่อกันมากกว่า 3 ปี ได้แก่ บริษัท มิตซูรุ่งเจริญ จำกัด

     

    นาย จักรพงษ์ ชัยตระกูลทอง กรรมการผู้จัดการ บริษัท มิตซูรุ่งเจริญ จำกัด กล่าวว่า “นับเป็นความภาคภูมิใจอย่างยิ่ง ที่มิตซูรุ่งเจริญได้รับเกียรติ คว้ารางวัลอันทรงคุณค่าหลายรางวัลในปีนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง รางวัลยอดขายสูงสุดในเขตกรุงเทพฯ อันดับที่ 1  รางวัลยอดขายสูงสุดระดับประเทศ  และ รางวัลยอดขายสูงสุดระดับประเทศติดต่อกันมากกว่า 3 ปี ความสำเร็จนี้เกิดจากการสนับสนุนที่ดีของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย พร้อมด้วยความทุ่มเทของทีมงานมิตซูรุ่งเจริญ และที่สำคัญขอขอบคุณลูกค้าทุกท่านที่ไว้วางใจมิตซูรุ่งเจริญ เราจะไม่หยุดพัฒนาเพื่อตอบแทนความไว้วางใจของทุกท่าน เรายึดมั่นในปณิธานการส่งมอบบริการที่เหนือความคาดหมาย ด้วยความเชื่อว่า หัวใจแห่งความสำเร็จคือการสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้า เพื่อให้ลูกค้ากลับมาใช้บริการอย่างต่อเนื่องด้วยความเชื่อมั่น”


    ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย

    Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
    Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
    Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
    instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
    Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
    Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
    Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine


    No Comment