-
Lamborghini Temerario GT3 กำเนิดสายพันธุ์เพื่อสนามแข่งขันจากโรงงานซัง’อกาตา
ลัมโบร์กินี (Lamborghini) ตอกย้ำความมุ่งมั่นสู่วงการมอเตอร์สปอร์ตระดับนานาชาติ เปิดตัว “Temerario GT3” รถยนต์สำหรับแข่งขันโมเดลใหม่ล่าสุดซึ่งพัฒนาต่อยอดจากรุ่นขับบนท้องถนน โดยมีกำหนดลงสนามแข่งขันในหลายรายการทั่วโลก พร้อมสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับกลุ่มผลิตภัณฑ์รถแข่งของบริษัท และยังเป็นรถยนต์คันแรกที่ได้รับการออกแบบ พัฒนา และผลิตขึ้นที่โรงงานซัง’อกาตา โบโลนเญส ในประเทศอิตาลีทั้งหมด โปรเจ็กต์ Temerario ถือกำเนิดขึ้นด้วยจุดประสงค์หลักเพื่อการพัฒนาต่อยอดสู่วงการมอเตอร์สปอร์ต ทำให้บริษัทฯ บูรณาการเชิงกลยุทธ์ระบบวิศวกรรมเพื่อมุ่งเน้นการแข่งขันตั้งแต่ขั้นตอนแรกของการออกแบบ
ด้วยแนวทางอันสร้างสรรค์นวัตกรรมของลัมโบร์กินี ทำให้ GT3 เลือกใช้โครงสร้างอะลูมิเนียมแบบสเปซเฟรม (Spaceframe) ที่ได้รับการปรับแต่งเป็นพิเศษให้ตรงตามข้อกำหนดด้านโครงสร้างและแนวทางวิธีการซ่อมบำรุงสำหรับสนามแข่งโดยเฉพาะ ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ V8 Twin-turbo 4 ลิตร เช่นเดียวกับรุ่นที่ผลิตสำหรับผู้บริโภคทั่วไป โดยมีการออกแบบใหม่ โดยเฉพาะในส่วนของระบบอัดอากาศ พร้อมชิ้นส่วนเทอร์โบชาร์จที่ออกแบบใหม่ให้สอดคล้องตามข้อกำหนดของ GT3 และมอบสมรรถนะสูงสุดในสนามแข่ง
“Temerario GT3 คือรถต้นแบบสำหรับแข่งขันคันแรกจากโปรเจ็กต์ Temerario ซึ่งตอกย้ำความเชื่อมั่นอันแรงกล้าของลัมโบร์กินีที่มีต่อวงการมอเตอร์สปอร์ตในฐานะเครื่องมือสำคัญ เพื่อส่งเสริมรถยนต์รุ่นขับบนท้องถนนของเรา” มร.สเตฟาน วิงเคิลมันน์ ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ออโตโมบิลิ ลัมโบร์กินี กล่าว “หลังจาก ความสำเร็จทั้งในโลกกีฬาและเชิงพาณิชย์ของโปรเจ็กต์ Huracán GT3 ซึ่งเราสามารถคว้าแชมป์มาได้ถึง 96 รายการและมียอดขายมากกว่า 200 คัน เราจึงสานต่อวิสัยทัศน์ในการพัฒนารถต้นแบบสำหรับการแข่งขันในช่วงเริ่มต้นโปรเจ็กต์ Temerario โดย Temerario GT3 จะมาสร้างมาตรฐานใหม่ที่เหนือแบรนด์คู่แข่ง เช่นเดียวกับที่ Temerario รุ่นขับบนท้องถนนที่ได้สร้างปรากฏการณ์มาก่อนหน้านี้”
“Temerario GT3 ได้รับการออกแบบโดยคำนึงถึงผู้ใช้งานเป็นหลัก” มร.รูเว็น โมห์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคนิค ลัมโบร์กินี กล่าว “ทุกองค์ประกอบผ่านการพิจารณาอย่างรัดกุม ตั้งแต่ประสิทธิภาพด้านอากาศพลศาสตร์ เส้นโค้งกำลัง รวมไปถึงวิธีการทำงานกับตัวรถของทีมงาน โดยรถยนต์คันนี้มีสมรรถนะที่แตกต่างไปเล็กน้อย เพื่อสร้างสมดุลให้กับรถยนต์ที่มีรูปแบบการใช้งานแตกต่างกันเมื่อเปรียบเทียบกับรุ่นก่อนหน้า เรามั่นใจว่ารถยนต์รุ่นนี้สามารถแข่งขันได้ในแง่ของเวลาต่อรอบ พร้อมประสิทธิภาพการขับขี่ที่ยอดเยี่ยมในสถานการณ์ที่หลากหลาย รวมทั้งในยามค่ำคืนและขณะฝนตก ทีมพัฒนาได้ทำงานอย่างหนักเพื่อสร้างความมั่นใจว่ารถยนต์รุ่นนี้มีสมรรถนะที่ครอบคลุม เพื่อให้ทีมงานสามารถทำงานร่วมกับรถยนต์ในสนามแข่งขันได้ดียิ่งขึ้นได้”
ทุกองค์ประกอบของ Temerario GT3 ได้รับการปรับแต่งสำหรับสนามแข่งอย่างพิถีพิถันให้มีประสิทธิภาพสูงสุด โดยทีมงานออกแบบได้พยายามรักษาแบบฉบับของรถรุ่นผลิตจริงไว้ โปรเจ็กต์นี้ยังได้นำประสบการณ์การทำงานมาจากแผนกมอเตอร์สปอร์ตของลัมโบร์กินีในรุ่น Huracán GT3 ซึ่งประสบความสำเร็จมาแล้วในการคว้ารางวัลมากถึง 96 รายการตลอดระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมา
โครงแชสซีส์
โครงอะลูมิเนียมแบบสเปซเฟรม (Spaceframe) นำมาจากสายการผลิตของรุ่น Temerario และผ่านการดัดแปลงเพื่อการใช้งานในสนามแข่ง ทั้งการลดน้ำหนักและความซับซ้อนให้น้อยลง โดยเฉพาะการปรับรูปแบบโครงให้เรียบง่ายเพื่อให้สามารถถอดและประกอบซับเฟรมด้านหน้าและด้านหลังได้อย่างรวดเร็วเมื่อต้องทำงานในสนามแข่ง โดยซับเฟรมด้านหลังแบบถอดได้ ถูกพัฒนาขึ้นเป็นพิเศษโดย Squadra Corse เพื่อรองรับส่วนประกอบของเครื่องยนต์และระบบส่งกำลังแบบใหม่ ในขณะที่ส่วนขายึดทั้งหมดที่ไม่จำเป็น ซึ่งติดตั้งในรุ่นขับบนท้องถนนเพื่อรองรับส่วนประกอบไฮบริด ก็ได้ถูกถอดออกไป เนื่องจากไม่จำเป็นในรุ่นแข่งขัน สำหรับบริเวณส่วนกลางของโครงอะลูมิเนียม ติดตั้งโครงสร้างนิรภัยโรลเคจ (Roll cage) ให้สอดคล้องตามมาตรฐานความปลอดภัยของ FIA GT3 ส่วนซับเฟรมด้านหน้าก็มีการปรับเปลี่ยนด้วยเช่นกัน เพราะมีการนำมอเตอร์ไฟฟ้าซึ่งเคยติดตั้งในรุ่นขับบนท้องถนนออกไป
ตัวถัง
ตัวถังแบบใหม่ซึ่งถูกติดตั้งเข้ากับโครงแชสซีส์ ใช้วัสดุคาร์บอนคอมโพสิตเป็นครั้งแรกเพื่อช่วยลดน้ำหนักฐานของรถให้ได้เบาที่สุด การพัฒนาตัวถังนี้เกิดจากความร่วมมือระหว่างทีมอากาศพลศาสตร์ของ Squadra Corse และ Lamborghini Centro Stile โดยมีเป้าหมายคือการรักษาสไตล์ที่โดดเด่นของรถยนต์รุ่นขับบนท้องถนน ควบคู่ไปกับการปรับเปลี่ยนให้สอดคล้องตามข้อกำหนดด้านเครื่องยนต์และระบบระบายความร้อนเบรกแบบใหม่ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายด้านสมรรถนะตามที่ต้องการ ทั้งในด้านแรงกดและแรงต้าน ซึ่งจะสร้างความมั่นใจต่อสมดุลอากาศพลศาสตร์ที่ดีที่สุด
นอกจากนี้ ตัวถังรถยังได้รับการออกแบบทางวิศวกรรมให้สามารถถอดและประกอบชิ้นส่วนได้อย่างรวดเร็วในระหว่างการแข่งขันเพื่อลดเวลาการซ่อมรถในช่องพิท โดยตัวถังด้านหน้าและด้านหลังเชื่อมต่อเป็นชิ้นเดียวกัน ในขณะที่ ดิฟฟิวเซอร์หลัง ฝาครอบเครื่อง และฝากระโปรงหน้า ถูกออกแบบให้ถอดออกได้อย่างรวดเร็วเช่นกัน ไปจนถึงไฟหน้าซึ่งใช้ระบบการถอดประกอบที่รวดเร็ว ส่วนพื้นรถแบ่งออกเป็น 4 ส่วน ได้แก่ สองส่วนด้านหน้าเพลาหน้า หนึ่งส่วนบริเวณกลางรถ และดิฟฟิวเซอร์หลังอันทรงพลัง โดยส่วนกลางได้รับการออกแบบให้สามารถเปลี่ยนได้เมื่อจำเป็น แม้ในขณะที่รถอยู่บนแม่แรงลมในช่องพิท
ระบบเติมน้ำมันเชื้อเพลิงได้รับการปรับปรุงประสิทธิภาพเพื่อเพิ่มอัตราการไหลเข้าสู่ถังให้เร็วยิ่งขึ้น ทั้งยังเปลี่ยนดีไซน์ถังให้สามารถใช้กับเซ็นเซอร์น้ำมันเชื้อเพลิงแบบใหม่เพื่อให้ผลการวัดที่แม่นยำยิ่งขึ้นสำหรับทีมงาน ระบบอากาศพลศาสตร์ถูกยกระดับเพื่อเพิ่มเสถียรภาพของรถในขณะเบรกและลดอาการเสียสมดุลขณะเข้าโค้ง และเพื่อจัดการความร้อนให้ดีขึ้นจึงมีการปรับปรุงระบบการไหลเวียนของอากาศไปยังหม้อน้ำด้วย รวมถึงการออกแบบหม้อน้ำด้านหน้าใหม่ โดยคำนึงถึงประสิทธิภาพเป็นหลัก เพราะการนำชุดไฮบริดออกจากเครื่องยนต์ส่งผลให้ต้องใช้เครื่องเทอร์โบชาร์จเจอร์มากขึ้น ทำให้ต้องการการระบายอากาศมากขึ้นเพื่อควบคุมอุณหภูมิให้เหมาะสม
ระบบส่งกำลัง
ติดตั้งขุมพลังเครื่องยนต์ V8 Twin-turbo ขนาด 4 ลิตรที่ผลิตขึ้นในโรงงาน โดยถูกพัฒนาขึ้นโดยทีมวิศวกรของลัมโบร์กินี พร้อมด้วยเทอร์โบชาร์จเจอร์และชุดคอมเพรสเซอร์แบบใหม่ และเนื่องจากรถยนต์รุ่นนี้ต้องสอดคล้องตามข้อกำหนดสากล GT3 ซึ่งไม่อนุญาตให้ใช้ระบบไฮบริด ทำให้ลัมโบร์กินีเปลี่ยนมาใช้เครื่องยนต์ส่งกำลังขนาด 550 แรงม้า (ขึ้นอยู่กับความสมดุลของสมรรถนะ) แทนที่จะเป็น 800 แรงม้าเหมือนกับเครื่องยนต์ของรุ่นขับบนท้องถนน
ระบบส่งกำลังของรถยนต์ได้รับการพัฒนาโดยทีมวิศวกรฝ่ายวิจัยและพัฒนาของลัมโบร์กินี โดยใช้การออกแบบสถาปัตยกรรมที่เน้นการบูรณาการเข้ากับกีฬามอเตอร์สปอร์ตตั้งแต่แนวคิดตั้งต้น รวมถึงโซลูชันทางวิศวกรรมที่ทันสมัย เช่น เพลาข้อเหวี่ยงระนาบราบมุม 180° ระหว่างหมุดข้อเหวี่ยง โดยเป็นระบบเพลาข้อเหวี่ยงที่มักใช้ในเครื่องยนต์ของรถแข่ง จึงมั่นใจได้ถึงระบบพลศาสตร์ของไหลที่ดีที่สุด ทั้งยังให้ลำดับการจุดระเบิดที่สม่ำเสมอเมื่อเปรียบเทียบกับเพลาข้อเหวี่ยงแบบระนาบไขว้ รวมถึงเสียงคำรามอันน่าประทับใจ ในขณะที่ก้านสูบไทเทเนียมช่วยลดมวลการหมุนรอบแกนและยังมอบคุณสมบัติของวัสดุที่ดีเยี่ยม ทั้งในด้านความแข็งแรงและความเบา ช่วยลดน้ำหนักรถได้อีกทางหนึ่ง
เครื่องยนต์สันดาปภายในแบบทวินเทอร์โบถูกจับคู่กับเกียร์ 6 สปีด โดยออกแบบกล่องกรองอากาศใหม่เพื่อให้สอดคล้องกับข้อกำหนดใหม่ของเทอร์โบชาร์จเจอร์ขนาดเล็กที่ใช้ในรถแข่งซึ่งแตกต่างจากรุ่นขับบนท้องถนน เครื่องยนต์ได้รับการปรับจูนใหม่ทั้งหมดเพื่อมอบประสิทธิภาพสูงสุดตลอดช่วงรอบเครื่องยนต์ที่กว้างขึ้น โดยรถยนต์รุ่นนี้ถูกพัฒนาให้ใช้น้ำมันเครื่อง Pertamax Turbo สำหรับการแข่งขัน ส่วนระบบไอเสียเป็นโซลูชันเฉพาะทางที่คิดค้นขึ้นสำหรับรุ่น Temerario GT3 โดยเฉพาะ โดยมี Capristo เป็นซัพพลายเออร์
ล้อและระบบกันสะเทือน
รถยนต์รุ่นนี้มีฐานล้อที่ยาวขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับรุ่นก่อนหน้า และยังมีระยะวิ่งที่กว้างขึ้นทั้งด้านหน้าและด้านหลัง เพื่อช่วยเพิ่มเสถียรภาพเมื่อเข้าโค้ง นับเป็นครั้งแรกที่ระบบกันสะเทือนมีการใช้โช้คอัป 6 ทิศทางแบบใหม่จากทาง KW ซึ่งเป็นซัพพลายเออร์ของโปรเจ็กต์ SC63 LMDh ทำให้จุดยึดของระบบกันสะเทือนไม่จำเป็นต้องใช้แผ่นคาร์บอนกับแชสซีอีกต่อไป แต่ใช้แผ่นยึดแทน ระบบกันสะเทือนแบบใหม่นี้ยังสามารถถอดเปลี่ยนได้อย่างรวดเร็วในช่องพิท ช่วยย่นเวลาในการทำงานด้วยการเปลี่ยนอุปกรณ์พื้นฐานที่รวดเร็ว ยางติดตั้งกับล้อ 18 นิ้วที่จัดหาโดย Ronal AG โดย Temerario GT3 ยังมาพร้อมกับแร็คพวงมาลัยไฮดรอลิกที่ออกแบบเป็นพิเศษ เพื่อให้ได้รูปแบบกันสะเทือนที่เหมาะสมที่สุดและเพิ่มประสิทธิภาพสูงสุดด้วยผลิตภัณฑ์จากผู้ผลิตยางชั้นนำทุกราย เพื่อให้มั่นใจว่า Temerario GT3 จะได้เปรียบในรายการแข่งขันต่าง ๆ ทั่วโลก
การออกแบบภายใน
การออกแบบประสบการณ์การขับขี่ยังได้รับการสนับสนุนจากนักขับของโรงงานลัมโบร์กินี ทั้งมาร์โก มาเปลลี (Marco Mapelli) และแอนเดรีย คัลดาเรลลี (Andrea Caldarelli) ผู้ซึ่งมีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งในเรื่องการปรับปรุงหลักสรีรศาสตร์ รูปแบบการควบคุม และการใช้งานเมื่อขับขี่แบบสมรรถนะสูง การออกแบบภายในห้องคนขับ ระบบอิเล็กทรอนิกส์ได้รับการปรับปรุงใหม่เพื่อยกระดับประสบการณ์การขับขี่ รวมถึงการผสานรวมฮาร์ดแวร์ที่ทันสมัยให้สามารถพัฒนาซอฟต์แวร์เฉพาะทางที่ลัมโบร์กินีปรับแต่งมาโดยตรงได้ เพื่อให้มั่นใจถึงการควบคุมรถที่ดีที่สุด สวิตช์เกียร์ในห้องคนขับยังได้รับการออกแบบใหม่ พร้อมกราฟิกแบบใหม่ และระบบบันทึกข้อมูลที่สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น พวงมาลัยได้รับการออกแบบจากทางลัมโบร์กินี โดยอิงตามข้อกำหนดเฉพาะทาง บวกกับการรวบรวมความคิดเห็นจากบรรดานักขับจากโรงงานและลูกค้าของแบรนด์
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine
-
News Car1 Min Read
Café Amazon ยกระดับมาตรฐาน เปิดเวทีประชันฝีมือ เฟ้นหาสุดยอดบาริสต้า ผ่าน Cafe Amazon Barista Championship 2025
Café Amazon เดินหน้ายกระดับบาริสต้า ผ่านการแข่งขันสุดเข้มข้น “Café Amazon Barista Championship 2568” เวทีแห่งการเรียนรู้ แสดงความสามารถ และสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้ที่หลงใหลในกาแฟ ซึ่งจัดขึ้นต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 9 ภายใต้ความตั้งใจที่จะพัฒนาศักยภาพทีมงานในร้าน Café Amazon ให้เติบโตอย่างมีคุณภาพในทุกมิติ โดยปีนี้มีตัวแทนบาริสต้าจากร้าน Café Amazon ทั้งในประเทศและต่างประเทศเข้าร่วมประชันฝีมือกันอย่างคับคั่ง ผ่านกระบวนการคัดเลือกที่เข้มข้นในแต่ละภูมิภาค ซึ่งครอบคลุมทั้งการสอบภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ อาทิ ความรู้เกี่ยวกับกาแฟความเข้าใจในเมนูเครื่องดื่ม การบริการลูกค้า และเทคนิคบาริสต้า จนได้สุดยอด 50 คนสุดท้าย ร่วมประชันฝีมือในรอบชิงชนะเลิศ ณ ศูนย์ธุรกิจ Café Amazon หรือ Amazon Inspiring Campus (AICA) จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ระหว่างวันที่ 7–9 กรกฎาคม 2568
คุณไกรพิท เปรมมณี รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านธุรกิจไลฟ์สไตล์ บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR เปิดเผยว่า “ทุกแก้วจากคาเฟ่ อเมซอน ที่ผ่านมือบาริสต้าของเรา คือการส่งต่อคุณภาพ และความตั้งใจ การแข่งขันนี้ไม่ได้มีเป้าหมายเพียงเพื่อเฟ้นหาผู้ชนะ แต่เป็นเวทีสำคัญในการ ยกระดับมาตรฐานร้าน Café Amazon ผ่านการสร้างคนคุณภาพ ที่เข้าใจกาแฟ และพร้อมส่งมอบคุณภาพผ่านทุกแก้วที่ถึงมือลูกค้า เราภูมิใจที่เห็นบาริสต้าของเราใช้โอกาสนี้ในการ ท้าทายตัวเอง เรียนรู้ เติบโต และแสดงให้เห็นถึง ความใส่ใจ ความคิดสร้างสรรค์ และ หัวใจของความเป็นมืออาชีพ ที่พร้อมส่งต่อประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า ซึ่งการแข่งขัน Barista Championship ไม่ได้สะท้อนแค่ฝีมือของผู้เข้าแข่งขันเท่านั้น แต่ยังสะท้อนถึงหัวใจของแบรนด์ความใส่ใจในรายละเอียด ความคิดสร้างสรรค์ และความตั้งใจที่จะส่งมอบคุณภาพที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าทุกคน”
สำหรับการเฟ้นหาสุดยอดบาริสต้าประจำปี 2568 จากการแข่งขันอันเข้มข้นตลอด 3 วัน โดย
รางวัลชนะเลิศ ได้แก่ คุณอนัญญา ลีจันทึก จาก Café Amazon สาขา สถานีบริการ พีทีที สเตชั่น บริษัท เอส แอล พี เซอร์วิส จำกัด รับเงินรางวัลมูลค่า 15,000 บาท พร้อมถ้วยรางวัลและใบประกาศนียบัตร รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 ได้แก่ คุณชัชพงศ์ ไชยมงค์ จาก Café Amazon สาขาสามย่านมิตรทาวน์ และ รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 ได้แก่ คุณคมปกรณ์ พลอยแดงศิริ จาก Café Amazon สาขาโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ ด้วยฝีมือที่โดดเด่น มาพร้อมความคิดสร้างสรรค์ และทัศนคติที่ดี เต็มไปด้วยหัวใจของการให้บริการ ซึ่งเป็นค่านิยมสำคัญที่ Café Amazon ให้ความสำคัญอย่างต่อเนื่องการแข่งขัน Café Amazon Barista Championship 2568 ไม่เพียงแต่จะเฟ้นหาบาริสต้าที่มีทักษะยอดเยี่ยมที่สุดเท่านั้น แต่ยังย้ำให้เห็นถึงจุดยืนของแบรนด์ที่ให้ความสำคัญกับ “ผู้คน” ไม่แพ้ “กาแฟ” และพร้อมสนับสนุนศักยภาพของพนักงานในทุกขั้นตอน เพื่อส่งมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าทั่วประเทศอย่างต่อเนื่อง ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Facebook: Café Amazon แล้วคุณจะรู้ว่า ทุกแก้วใน Café Amazon มีเรื่องราว…จากความตั้งใจของบาริสต้าทุกคน!
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine -
News Car1 Min Read
เอ็มจี ส่ง NEW MG MAXUS 9 PLUS ให้คนไทยครอบครอง e-MPV ในราคาที่ “คุ้มค่า” มากขึ้น เพียง 1,799,000* บาท
บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์ – ซีพี จำกัด และ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและผู้จำหน่ายรถยนต์เอ็มจีในประเทศไทย สร้างความเคลื่อนไหวครั้งใหม่ในตลาดรถ e-MPV ด้วยการแนะนำ NEW MG MAXUS 9 PLUS รถ e-MPV ไฟฟ้า 100% แบบ 7 ที่นั่ง โดยเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ทั้งภายนอกและภายใน ผสานเทคโนโลยีเข้ากับดีไซน์ทันสมัย ตอบโจทย์กลุ่มผู้บริโภคที่มองหารถ e-MPV ที่ครบ ทั้งด้านสมรรถนะ ความปลอดภัย ความสะดวกสบาย ในราคาที่เข้าถึงได้ง่ายเพียง 1,799,000* บาท พร้อมทยอยส่งมอบให้แก่ลูกค้าภายในเดือน สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป
NEW MG MAXUS 9 คือรถพลังงานไฟฟ้า 100% ที่เข้ามาพลิกโฉมตลาดรถยนต์เมืองไทย ในฐานะรถยนต์ไฟฟ้า e-MPV แบบ 7 ที่นั่ง รุ่นแรกของ เอ็มจี ที่เข้ามาบุกเบิกตลาดรถยนต์ MPV ในประเทศไทย จนกลายเป็นหนึ่งในโมเดลยอดนิยม และในวันนี้ เอ็มจี ได้เดินหน้าพัฒนาผลิตภัณฑ์ควบคู่ไปกับการขับเคลื่อนแนวทางการนำเสนอทางเลือก
ที่หลากหลายให้เข้ากับความต้องการของผู้บริโภค โดยเพิ่ม NEW MG MAXUS 9 PLUS ชูจุดเด่น “ความคุ้มค่า”
ซึ่งได้มีการปรับรายละเอียดใหม่ทั้งภายนอกและภายใน พร้อมฟีเจอร์ที่ตอบโจทย์การใช้งานได้มากยิ่งขึ้น อาทิ
ม่านกันแดดด้านข้าง เพื่อเพิ่มความเป็นส่วนตัวภายในห้องโดยสาร ระบบเชื่อมต่อมัลติมีเดีย Apple CarPlay
และ Android Auto แบบไร้สาย เบาะนั่งแบบ VIP หุ้มหนังสังเคราะห์ พร้อมลวดลายใหม่ หลังคา Sunroof สำหรับผู้โดยสารตอนหน้า และลำโพงจำนวน 8 ตำแหน่ง พร้อมทั้งยังปรับเปลี่ยนรูปแบบของโต๊ะพับสำหรับผู้โดยสาร
แถวสอง ให้มีความคล่องตัวในการใช้งานมากขึ้นNEW MG MAXUS 9 PLUS ยังมาพร้อมการเปลี่ยนแปลงดีไซน์ภายนอกให้ล้ำสมัยยิ่งขึ้นด้วยระบบไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่เวลากลางวัน (Daytime Running Lights) ที่พาดยาวเชื่อมไฟหน้าทั้งสองข้างเข้าด้วยกัน ล้ออัลลอยด์ดีไซน์ใหม่ ขนาด 19 นิ้ว ที่มีเส้นสายก้านล้อแบบ Multi-spoke เรียงกันช่วยเสริมภาพลักษณ์ความโฉบเฉี่ยว ขณะเดียวกันยังรองรับการใช้งานนอกสถานที่ด้วยฟังก์ชัน V2L (Vehicle to Load) ที่ให้กำลังสูงถึง 6.6 kW สามารถจ่ายไฟให้กับอุปกรณ์ไฟฟ้าภายนอกได้อย่างมีประสิทธิภาพ การแนะนำ NEW MG MAXUS 9 PLUS ยังคงจุดเด่นของโมเดลต้นแบบไว้อย่างครบถ้วน ทั้งระบบขับเคลื่อนพลังงานไฟฟ้าเต็มรูปแบบ สมรรถนะการขับขี่ที่ดีเยี่ยม ห้องโดยสารที่กว้างขวางเงียบสงบ และฟีเจอร์อำนวยความสะดวกที่ครอบคลุมทุกการใช้งาน
โดย NEW MG MAXUS 9 PLUS มีสีตัวถังให้เลือก 3 สี ได้แก่ สีขาวหลังคาดำ (Pearl White / Black Top)
สีดำ (Black Knight) และสีเทาหลังคาดำ (Granite Grey / Black Top) จัดจำหน่ายในราคาพิเศษเพียง
1,799,000* บาท พร้อมข้อเสนอพิเศษ ดังนี้- ฟรี ประกันภัยชั้น 1 พร้อม พ.ร.บ. 1 ปี
- รับประกันคุณภาพตัวรถ 5 ปี หรือ 160,000 กิโลเมตร (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)
- ฟรี MG HOME CHARGER จำนวน 1 ชุด
- ฟรี ค่าติดตั้ง MG HOME CHARGER
- รับประกันแบตเตอรี่แรงเคลื่อนสูง ชุดมอเตอร์ขับเคลื่อน และชุดควบคุมมอเตอร์ขับเคลื่อน ตลอดอายุ
การใช้งาน (LIFETIME WARRANTY) - ฟรี ชุดพรมปูพื้น
- ตั้งแต่ 9 กรกฎาคม ถึง 31 กรกฎาคม 2568
*หมายเหตุ: ราคาดังกล่าวเป็นราคาคาดการณ์ เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด
นายพงษ์ศักดิ์ เลิศฤดีวัฒนวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า
“การเปิดตัว NEW MG MAXUS 9 PLUS ถือเป็นการต่อยอดความสำเร็จในกลุ่มรถ e-MPV ที่โดดเด่น
ด้านความคุ้มค่า โดยมียอดส่งมอบสะสมแล้วกว่า 2,000 คัน ทั้งจากลูกค้ารายบุคคลและองค์กรชั้นนำ ซึ่งสะท้อน
ให้เห็นถึงการตอบรับที่ดีจากตลาดไทย และตอกย้ำจุดยืนของแบรนด์ที่มุ่งมั่นนำเสนอผลิตภัณฑ์คุณภาพ
ในราคาที่เข้าถึงได้ เพื่อยกระดับประสบการณ์การใช้งานของลูกค้าให้ดียิ่งขึ้น รถรุ่นใหม่นี้ยังมีการปรับปรุงฟีเจอร์บางส่วนเพื่อเพิ่มความสะดวกสบายในการใช้งาน ผมเชื่อมั่นว่า NEW MG MAXUS 9 PLUS จะเป็น ‘คำตอบที่ใช่’ สำหรับผู้บริโภคที่มองหา e‑MPV ที่ให้ความคุ้มค่าอย่างแท้จริง”
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine
-
News Car1 Min Read
มินิ ประเทศไทย จัดเต็มยนตรกรรมโฉมใหม่และข้อเสนอสุดพิเศษในงาน MINI Expo 2025 นำทัพด้วย มินิ คูเปอร์ เอสอี ไฮทริม ใหม่ และ มินิ เอซแมน สีสันใหม่ พร้อมให้ประสบการณ์ขับขี่สุดเร้าใจ ณ เซ็นทรัล เวิลด์ 16-22 กรกฎาคมนี้
มินิ ประเทศไทย เตรียมสร้างความตื่นเต้นให้กับแฟนๆ มินิ อีกครั้ง ด้วยการนำเสนอยนตรกรรมโฉมใหม่ พร้อมสีสันใหม่ที่สะท้อนดีเอ็นเอแห่งมินิ ในงาน MINI Expo 2025 ที่จะจัดขึ้น ระหว่างวันที่
16 – 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2568 นี้ ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ไฮไลท์สำคัญของงานคือ มินิ คูเปอร์ เอสอี ไฮทริม ใหม่ ที่มาพร้อมฟังก์ชันและอุปกรณ์ครบครัน อาทิ เบาะไฟฟ้าปรับได้พร้อมฟังก์ชันจดจำตำแหน่ง ระบบเสียง Harman Kardon ระบบช่วยจอด Parking Assistant Plus และดีไซน์ล้ออัลลอยใหม่ล่าสุด พร้อมด้วยสีใหม่สุดฮิต Indigo Sunset Blue นอกจากนี้ ยังมีสีสันใหม่สุดเร้าใจมาให้เลือกเป็นเจ้าของ ไม่ว่าจะเป็น British Racing Green, Icy Sunshine Blue สำหรับ มินิ เอซแมน รวมถึง สี British Racing Green ที่สะท้อนดีเอ็นเอแห่งการแข่งขันใน มินิ จอห์น คูเปอร์ เวิร์คส และ มินิ จอห์น คูเปอร์ เวิร์คส เอซแมน
คุณประภัสรา อร่ามวงศ์สมุทร ผู้อำนวยการ มินิ ประเทศไทย กล่าวว่า “MINI Expo 2025 เป็นโอกาสสำคัญที่เราจะได้นำเสนอนวัตกรรมยานยนต์ใหม่ล่าสุดจากมินิ ให้กับแฟน ๆ ชาวไทยได้สัมผัสประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือกว่า พร้อมดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์และเทคโนโลยีล้ำสมัย เรามุ่งมั่นที่จะมอบทางเลือกที่หลากหลายและตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ได้อย่างสมบูรณ์แบบ”
ภายในงาน MINI Expo 2025 จะมีการจัดแสดงรถยนต์มินิทั้งรุ่นใหม่และรุ่นปัจจุบันในสองโซนหลักของศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ได้แก่:
- โซน Central Court ชั้น 1: พบกับ มินิ คูเปอร์ เอสอี ไฮทริม ใหม่ และ มินิ เอซแมน
สีใหม่ รวมถึงไฮไลท์รถยนต์มินิรุ่นอื่น ๆ อีกมากมาย - โซน Eden ชั้น 1: จัดแสดงรถยนต์มินิรวมกว่า 16 รุ่น พร้อมพื้นที่ MINI Lounge สำหรับพูดคุยและรับฟังข้อเสนอสุดพิเศษ
นอกจากนี้ ผู้เข้าชมงานยังสามารถสัมผัสประสบการณ์การขับขี่ในสไตล์มินิกับการทดลองขับ ไม่ว่าจะเป็น มินิ คูเปอร์ เอสอี ไฮทริม ใหม่ มินิ เอซแมน มินิ คันทรีแมน และ มินิ จอห์น คูเปอร์ เวิร์คส ที่มีให้เลือกสัมผัสภายในงาน พร้อมข้อเสนอสุดพิเศษที่เตรียมไว้สำหรับแฟน ๆ มินิ โดยเฉพาะ
ข้อเสนอพิเศษในงาน MINI Expo 2025
- ผ่อนสบาย:เริ่มต้นเพียง 9,999 บาทต่อเดือน และประกันภัยชั้นหนึ่งสูงสุด 3 ปี พร้อมรับประกันมูลค่ารถในอนาคตสูงสุด 60%
- ไม่ต้องมีเงินดาวน์:พร้อมค่าใช้จ่ายแบบเหมาจ่ายรายเดือน เริ่มต้นเพียง 24,999 24,99 บาทต่อเดือน
(รวม MSI Standard และประกันภัยชั้นหนึ่งสูงสุด 3 ปี) พร้อมรับประกันมูลค่ารถในอนาคตสูงสุด 60%
ไฮไลท์รถยนต์มินิ ในงาน MINI Expo 2025
มินิ คูเปอร์ เอสอี ไฮทริม ใหม่
ราคา: 1,799,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม และ MSI Standard Package คุ้มครองการบำรุงรักษา
4 ปี ไม่จำกัดระยะทาง)มินิ คูเปอร์ เอสอี ไฮทริม ยังคงรักษาเสน่ห์ภายนอกในแบบฉบับ มินิ คูเปอร์ เอสอี ที่มาพร้อมกับไฟหน้า LED ทรงกลมอันเป็นเอกลักษณ์ อีกทั้งยังมีการยกระดับทั้งด้านดีไซน์และการใช้งาน ไฮไลต์ของรุ่นนี้ได้แก่ ล้อแม็กซ์ Night Flash Spoke 2-Tone ขนาด 18 นิ้ว และตัวเลือกสีใหม่สุดพิเศษอย่าง Indigo Sunset Blue ซึ่งเข้ากันกับรูปทรงที่โดดเด่นของ มินิ คูเปอร์ เอสอี ได้อย่างลงตัว มีความสวยงามอันเป็นเอกลักษณ์มากยิ่งขึ้น ภายในห้องโดยสารของรุ่นไฮทริมโดดเด่นด้วยการเพิ่มอุปกรณ์ในหลากหลายด้าน โดยผู้ขับขี่จะได้สัมผัสกับระบบเครื่องเสียงเหนือระดับจาก Harman Kardon และเบาะไฟฟ้าพร้อมการ
ตั้งค่าระบบจดจำการปรับเบาะแบบไฟฟ้าและฟังก์ชันนวดสำหรับเบาะผู้ขับขี่ เติมความสะดวกสบายใน
ทุกการเดินทางในเรื่องของสมรรถนะ มินิ คูเปอร์ เอสอี ไฮทริม ยังคงผสานพลังกับประสบการณ์การขับขี่ที่เร้าใจและตอบสนองเร็ว ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าประสิทธิภาพสูงที่ปลอดมลพิษ ในด้านของความจุแบตเตอรี่ รุ่นไฮทริมสามารถเดินทางได้สูงสุด 400 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้งตามมาตรฐาน WLTP นอกจากนี้ เมื่อชาร์จที่สถานีชาร์จ DC แบตเตอรี่สามารถเพิ่มขึ้นจาก 10 เปอร์เซ็นต์ถึง 80 เปอร์เซ็นต์ได้ในเวลา
ไม่ถึง 30 นาที พร้อมระบบช่วยเหลือการจอด Parking Assistant Plus อันทันสมัย ซึ่งประกอบด้วยกล้อง 360 องศา และระบบบันทึกการถอยจอด ทำให้การควบคุมรถและการจอดรถเป็นเรื่องง่ายดาย สำหรับความสามารถในการจอดรถที่ล้ำสมัยยิ่งขึ้น ฟีเจอร์การจอดรถระยะไกลล้ำสมัยอย่าง Parking Assistant Professional ทำให้ใช้สมาร์ทโฟนสำหรับการควบคุมและจอด มินิ คูเปอร์ เอสอี ไฮทริม ได้ ซึ่งมีให้บริการผ่านระบบสมาชิก (subscription)งาน MINI Expo 2025 จะจัดขึ้น ระหว่างวันที่ 16 – 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2568 นี้ ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ โซน Central Court และ โซน Eden ชั้น 1 ผู้ที่สนใจร่วมสัมผัสประสบการณ์สุดเอ็กซ์คลูซีฟจากมินิ สามารถติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Facebook Page ของมินิ ประเทศไทย https://www.facebook.com/MINI.Thailand
#MINIExpo2025 #MINI #MINITH #MINIElectric #AllElectric
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine
- โซน Central Court ชั้น 1: พบกับ มินิ คูเปอร์ เอสอี ไฮทริม ใหม่ และ มินิ เอซแมน
-
News Car1 Min Read
BIG MOTOR SALE 2025 วันมหกรรมขายรถยนต์ &มอเตอร์ไซค์ ฉลองใหญ่ปีที่ 12 ย้ำแนวคิด “เราจะยกโชว์รูม มาขายที่นี่.!” จัดเต็มโปรโมชั่นพิเศษมากมาย สุดคุ้มค่า 22-31 สิงหาคม ไบเทค บางนา กรุงเทพฯ
บริษัท ยานยนต์สแควร์ กรุ๊ป จำกัด ประกาศพร้อมจัดงานใหญ่ BIG MOTOR SALE 2025 วันมหกรรมขายรถยนต์ &มอเตอร์ไซค์ ภายใต้คอนเซ็พท์ “เราจะยกโชว์รูม มาขายที่นี่!” โดยร่วมกับผู้ประกอบการรถยนต์ มอเตอร์ไซค์ จัดทัพผลิตภัณฑ์ล่าสุดร่วมงานเนืองแน่น จัดใหญ่.. ฉลองปีที่ 12 ของการจัดแสดงงาน พร้อมอัดโปรโมชั่นหลากหลาย ความบันเทิงครบครัน เพื่อร่วมผลักดันตลาดยานยนต์ประเทศไทยในช่วงกลางปี
นายจรวย ขันมณี ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ยานยนต์สแควร์ กรุ๊ป และ ประธานกรรมการอำนวยการจัดงาน Bangkok International Grand Motor Sale 2025 หรือ BIG MOTOR SALE 2025 เผยว่า “ยานยนต์สแควร์ กรุ๊ป จำกัด ถือเป็นสื่อกลางในการช่วยสนับสนุนแบรนด์สินค้าและผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมยานยนต์ได้เพิ่มโอกาสขายในช่วงกลางปีให้มีมากขึ้น นับตั้งแต่ปีแรก 2014 มาจนถึงปีที่ 12 นี้ ยังคงยืนยันว่าการขายรถยนต์ได้ 1 คัน สามารถสร้างมูลค่าต่อเนื่องให้ธุรกิจอื่นอีกมากมาย การจัดงานในแต่ละปีเราจึงมุ่งเน้นการสร้างบรรยากาศงานให้คึกคัก เป็นมหกรรมขายรถยนต์ &มอเตอร์ไซค์ สำหรับทุกคนในครอบครัว ด้วยผลิตภัณฑ์ยานยนต์หลากหลายทั้งที่เปิดตัวใหม่และรุ่นยอดนิยม มีการประชาสัมพันธ์เชิญชวน ทุกช่องทางอย่างเต็มที่ อาทิ
- โฆษณาผ่านป้ายบิลบอร์ดขนาดใหญ่ 35 จุดทั่วกรุงเทพฯ และปริมณฑล รวมเนื้อที่โฆษณาบนป้ายบิลบอร์ดทั้งหมดในการนี้ถึง 6,963 ตารางเมตร
- โฆษณาผ่านจอ LED ขนาดใหญ่อีก 10 จอ ในตัวกรุงเทพฯ ชั้นใน
- โฆษณาผ่านท้ายรถประจำทาง ทั้งหมด 550 คัน ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล
- โฆษณาผ่านสื่อออนไลน์ของยานยนต์สแควร์ กรุ๊ป ทั้งหมด (bigmotorsale/ยานยนต์กรุ๊ป/นักเลงรถกระบะ/นักเลงมอเตอร์ไซค์) โดยซื้อบูสท์โพสต์เต็มอัตราทั้งก่อนงานและระหว่างงาน
- จัดพิมพ์บัตรอภินันทนาการ บัตรฟรี โดยสั่งพิมพ์ที่ สยามสปอร์ต ซินดิเคท (มหาชน) ด้วยจำนวนถึง 4,000,000 ฉบับเพื่อมอบแก่ผู้สนใจเข้าชมงานอย่างทั่วถึง ผ่านพันธมิตรภาคธุรกิจ หน่วยงาน และ ผู้ประกอบการต่างๆ
- จัดให้มีการถ่ายทอดบรรยากาศในงานผ่านสถานีโทรทัศน์ 9MCOT HD ในวันเสาร์ที่ 23 สิงหาคม 2568 เวลา 00 – 15.00 น.
- เปิดให้สื่อมวลชนสายยานยนต์ สายเศรษฐกิจ และสายสังคมธุรกิจได้ลงทะเบียนเข้าร่วมชมและนำเสนอข่าวสารต่างๆ ในงาน โดยเริ่มเปิดลงทะเบียนตั้งแต่วันที่ 19 มิถุนายนที่ผ่านมา ซึ่งจากสถิติเมื่อปี 2567 มีผู้สื่อข่าวสนใจลงทะเบียนและเข้าทำข่าวในงานเป็นจำนวน 597 คนจาก 294 สำนักข่าวสารเพื่อรายงานความเคลื่อนไหวต่างๆ”
“ยิ่งไปกว่านั้นในปีที่ 12 นี้ ยานยนต์สแควร์ กรุ๊ป ได้ผนึกกำลังกับ บริษัท คอร์โนแอนด์ แนช จำกัด ในเครือ สยามสปอร์ต ซินดิเคท จำกัด ผู้จัดงาน BANGKOK AUTO SALON และ บริษัท ทีเอ็มเอฟ จำกัด มอบความคุ้มค่าให้แก่คนไทย โดยจัดงานต่อเนื่องกันถือเป็นปรากฏการณ์สำคัญของวงการยานยนต์ที่จะรวมทั้ง รถบ้าน รถไฟฟ้า มอเตอร์ไซค์ อุปกรณ์ตกแต่งรถโมดิฟายด์ระดับเวิลด์คลาสมาอยู่ร่วมกันใต้ชายคาเดียว”
โดยทั้ง 2 งานมีข้อแตกต่างและสร้างจุดสนใจให้กับผู้เข้าชมงานในแต่ละรูปแบบที่ไม่เหมือนกัน เพื่อประโยชน์ของผู้เข้าชมจะได้เลือกสรรสิ่งที่ถูกใจที่สุด นั่นคือ
- BIG MOTOR SALE 2025 เป็นมหกรรมขายรถยนต์และมอเตอร์ไซค์ในแบบ “ยกโชว์รูมมาไว้ที่นี่” เพื่อการใช้งานที่คุ้มค่าพร้อมแค็มเปญน่าสนใจ มีทั้งรถใหม่และรถยูสด์คาร์พรีเมี่ยมตลอดจนมอเตอร์ไซค์หลากหลายรูปแบบให้เลือกใช้งานอย่างจุใจ วันแสดงงาน : 22 – 31 สิงหาคม 2568
- BANGKOK AUTO SALON 2025 เป็นงานแสดงและจำหน่ายเฉพาะรถที่ผ่านการตกแต่งโมดิฟายด์เพื่อเพิ่มความสวยงามเตะตาหรือเพิ่มพลังรวมทั้งจำหน่ายอุปกรณ์การตกแต่งและอุปกรณ์ที่ใช้กับ ยานยนต์แบบเหนือมาตรฐานจากโรงงาน วันแสดงงาน : 27 – 31 สิงหาคม 2568
BIG MOTOR SALE 2025 เปิดให้เข้าชมงานตั้งแต่วันศุกร์ที่ 22 – วันอาทิตย์ที่ 31 สิงหาคม 2568 (วันธรรมดา 12.00 น. – 21.00 น. / วันเสาร์-อาทิตย์ 11.00 น. – 21.00 น.) ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา กรุงเทพฯ ผู้พิการ ผู้อาวุโส อายุ 60 ปีขึ้นไป นักเรียน นักศึกษาในเครื่องแบบ เด็กๆ ความสูงไม่เกิน 120 ซม. เข้าชมฟรี…และยินดีต้อนรับน้องหมาน้องแมวในรถเข็น
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine -
News Car1 Min Read
ชื่นมื่นถ้วนหน้า “ฟาสต์ ออโต โชว์ ไทยแลนด์ 2025” จบสวยสมศักดิ์ศรี ยันพร้อมทำหน้าที่ผลักดันตลาดรถยนต์ไทยช่วงกลางปี
“ฟาสต์ ออโต โชว์ ไทยแลนด์ 2025” (Fast Auto Show Thailand 2025) ประกาศงานจบด้วยความสำเร็จตามเป้าในการกระตุ้นกำลังซื้อของผู้บริโภคตลาดรถยนต์ไทยช่วงกลางปีแบบไม่ให้รีรอด้วยคอนเซ็ปต์ “รถใหม่โปรโดนใจ รถมือสองไมล์แท้รับประกันซื้อคืน” เติมเต็มความมั่นใจผู้บริโภคที่อยากได้รถ ส่งให้ยอดขายพุ่ง ชื่นมื่นทั้งรถใหม่ป้ายแดง และรถยนต์ใช้แล้วเกรดดีที่การันตีซื้อคืนหากผิดเงื่อนไข ตอกย้ำการเป็นพื้นที่จำหน่ายรถคุณภาพที่ตอบโจทย์ความสุข และดึงดูดความสนใจคนหลายเจนจบครบในงานเดียว กวาดเม็ดเงินสะพัดกว่า 2,000 ล้านบาท ตลอดงาน 5 วัน
นายพัฒนเดช อาสาสรรพกิจ ประธานจัดงาน “ฟาสต์ ออโต โชว์ ไทยแลนด์ 2025” เผยว่า “ด้วยแรงหนุนจากความร่วมมือของทุกฝ่ายทำให้งานในปีนี้ประสบความสำเร็จตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ ในการกระตุ้นตลาดยานยนต์ไทยช่วงโลว์ซีซั่นกลางปี กวาดเม็ดเงินสะพัดกว่า 2,000 ล้านบาทในช่วงจัดงานเพียง 5 วัน ด้วยมีรถครบครันทุกเซ็กเมนท์ ทั้งรถยนต์ใหม่ป้ายแดงและรถยนต์ใช้แล้วที่จัดโปรโมชั่นพิเศษเฉพาะในงาน ทั้งดอกเบี้ยต่ำ ผ่อนนาน ส่วนลดเงินสดและเพิ่มบริการหลังการขาย ฯลฯ จนโดนใจลูกค้า โดยเฉพาะในกลุ่มพรีเมี่ยมคาร์มือสองขายดีมาก ลูกค้าหลายรายนำเงินสดมาออกรถแบบไม่พึ่งไฟแนนซ์ ด้วยเชื่อมั่นในมาตรฐานการรับประกันของงาน “ฟาสต์ ออโต โชว์ ไทยแลนด์” จนเกิดปรากฏการณ์รถที่เตรียมไว้ไม่พอขาย ทำให้ผู้ประกอบการรถยนต์ใช้แล้วบางรายต้องปิดร้านเพื่อนำรถมาขายในงานเพียงที่เดียว นับเป็นสัญญาณที่ดีต่อภาพรวมด้านเศรษฐกิจ ซึ่งฟาสต์ ออโต โชว์ ไทยแลนด์ และ 2 พันธมิตรหลัก สื่อสากล ผู้จัดงานมอเตอร์เอ็กซ์โป และกรังด์ปรีซ์ ผู้จัดงานมอเตอร์โชว์ พร้อมจะยืนหยัดจัดงานดี ๆ เพื่อช่วยให้อุตสาหกรรมยานยนต์ไทยก้าวไปข้างหน้าด้วยความต่อเนื่องตลอดทั้งปี”
นอกจากนี้ นายอัษฎาวุธ อาสาสรรพกิจ รองประธานจัดงาน ยังได้สรุปความครบเครื่องอื่น ๆ ของงาน “ฟาสต์ ออโต โชว์ ไทยแลนด์ 2025” ที่ทำให้เป็นงานที่ดึงดูดคนทุกเจเนอเรชั่นไว้ดังนี้
- การเป็นงานแรกและงานเดียวในประเทศที่รับประกันรถยนต์ใช้แล้วที่ซื้อจากงาน ทำให้ผู้บริโภคมีความมั่นใจและตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้น แม้ว่าจะดูรถไม่เป็นเลยก็ตาม ด้วยเงื่อนไขการรับประกัน 6 ข้อ คือ ไม่ไฟไหม้ ไม่จมน้ำ ไม่ตัดต่อ ไม่ชนหนัก จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมายได้ และการันตีไมล์แท้ หากผิดเงื่อนไขข้อใดข้อหนึ่ง ผู้จัดงานพร้อมรับประกันซื้อคืน 100%
- พิเศษสุด! งานเดียวที่ให้ดอกเบี้ยรถมือสองและเงื่อนไขที่ดีที่สุด ต่ำสุดถึง 99%
- การแชร์พื้นที่แห่งความสุขให้ครอบครัวได้ร่วมสนุกด้วยกัน ด้วยการจัดแข่งขันจักรยานทรงตัว “Strider Racing @Fast Auto Show Thailand 2025” บนสนามแข่งมาตรฐานสำหรับนักซิ่งรุ่นจิ๋ววัย 2 – 4 ปี
- เปิดโซนใหม่! พื้นที่จัดแสดงรถดัดแปลงเพื่อประกอบธุรกิจอิสระหลากหลายรูปแบบ นำเสนอเป็นไอเดียให้กับผู้ที่กำลังมองหาโอกาสเริ่มต้นธุรกิจใหม่หรือต่อยอดธุรกิจเดิม ได้แก่ ธุรกิจขนส่ง ขายอาหารและเครื่องดื่ม การเกษตร รับเหมาก่อสร้าง รถพยาบาล และการดัดแปลงเป็นรถออฟฟิศเคลื่อนที่ เป็นต้น ซึ่งได้รับความสนใจอย่างมาก
- สร้างประสบการณ์ใหม่ให้ผู้เข้าชมงาน ด้วยการเปิดพื้นที่จัดแสดงให้เป็น “Pet Friendly” อย่างเต็มรูปแบบ ให้คนรักสัตว์เลี้ยงพาสมาชิกในบ้านมาชมงานในบรรยากาศเป็นมิตรและปลอดภัย โดยมีผู้นำสัตว์เลี้ยงทั้งสุนัข แมว รวมทั้งนกฮูก มาเลือกชมรถในงาน
- ครอบคลุมถึงเรื่องประกันภัย โดยภายในงาน มีบมจ.กรุงเทพประกันภัย จัดเต็มโปรโมชันสุดพิเศษ ทั้งส่วนลดเบี้ยประกันภัยใหม่ และ ของแถมสุดคุ้ม พร้อมด้วยทีมงานรับประกันภัยที่บริการให้คำปรึกษาเกี่ยวกับแผนประกันภัยที่รองรับไลฟ์สไตล์ของลูกค้าตลอดงาน
- มีบูธผลิตภัณฑ์ให้ทดลองประสิทธิภาพ ทั้งเก้าอี้นวดไฟฟ้าเพื่อผ่อนคลายจาก เอแม็กซ์ (AMAXS) สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า Segway แบรนด์สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าอันดับ 1 ของโลก ยานพาหนะไฟฟ้า 2 ล้อยุคใหม่ ใช้งานง่าย ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์จาก MONOWHEEL และผลิตภัณฑ์ดูแลความสะอาดของรถทั้งภายในและภายนอกจาก MUNWOW (มันวาว)
- จัดเต็มความพิเศษกับของรางวัลมากมาย เพียงแค่จองรถภายในงานหรือแม้แต่เดินชมบรรยากาศ ก็มีสิทธิ์รับของที่ระลึกกลับบ้าน
-
News Car1 Min Read
มาสด้าราชาออโต้เซลส์หนึ่งเดียวในโคราชฉลองครบรอบ 58 ปี ทุ่มลงทุนกว่า 500 ล้านบาท เปิดโชว์รูมแห่งใหม่ 4 สาขา
มาสด้า เซลส์ ประเทศไทย ประสานความร่วมมือกับกลุ่มราชาออโต้เซลส์ ผู้จำหน่ายรถยนต์มาสด้าในจังหวัดนครราชสีมาที่มีประวัติความเป็นมายาวนานในประเทศไทย จัดพิธีเปิดโชว์รูมและศูนย์บริการแห่งใหม่ พร้อมเฉลิมฉลองเนื่องในโอกาสครบรอบ 58 ปี จัดกิจกรรมพิเศษมอบข้อเสนอที่ดีที่สุด รับส่วนลดพิเศษ ฟรีประกันชั้นหนึ่ง ฟรีบัตรน้ำมัน ฟรีของพรีเมี่ยม และลุ้นรับรางวัลพิเศษมากมาย เมื่อจองรถทุกรุ่นภายในงานฯ หรือที่โชว์รูมทั้งสี่สาขาในจังหวัดนครราชสีมา พร้อมเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ไฮไลท์สุดพิเศษ New Mazda CX-3 Essential มาให้ลูกค้าได้สัมผัสและจับจองเป็นเจ้าของก่อนใคร ในระหว่างวันที่ 4-6 ก.ค. 68 พร้อมกันทั้ง 4 สาขา การเปิดโชว์รูมและศูนย์บริการใหม่ครั้งนี้ยังถือเป็นการยกระดับศักยภาพของมาสด้าราชาออโต้เซลส์ เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าในจังหวัดนครราชสีมา และพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น ตามกลยุทธ์การเสริมสร้างความแข็งแกร่งของผู้จำหน่ายมาสด้าในประเทศไทย เพื่อส่งมอบการบริการอันแสนประทับใจให้กับลูกค้ามาสด้าทุกคน
นายธีร์ เพิ่มพงศ์พันธ์ ประธานกรรมการบริหารและซีอีโอ บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า การเปิดโชว์รูมครั้งนี้ เกิดขึ้นจากความร่วมมือกันระหว่าง มาสด้า เซลส์ ประเทศไทย และมาสด้าราชาออโต้เซลส์ ซึ่งเป็นผู้จำหน่ายเก่าแก่ที่สุดของแบรนด์มาสด้าในประเทศไทย โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งมอบบริการที่ครอบคลุมให้กับลูกค้าในจังหวัดนครราชสีมาและพื้นที่ใกล้เคียง ตลอดจนเพื่ออำนวยความสะดวกสบายให้กับลูกค้าเมื่อมาเข้ารับบริการ เนื่องด้วยจังหวัดนครราชสีมาเป็นจังหวัดที่ลูกค้ามาสด้าอาศัยอยู่อย่างหนาแน่น มีประชากรมากกว่า 2 ล้านคน และมีศักยภาพทางด้านเศรษฐกิจในอนาคต ดังนั้น การเปิดโชว์รูมใหม่ครั้งนี้ จึงส่งเสริมแผนธุรกิจของมาสด้าในการก้าวสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน เพื่อให้แบรนด์มาสด้าตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า ตามนโยบายการส่งเสริมเครือข่ายผู้จำหน่ายที่มีศักยภาพสูงให้สามารถขยายพื้นที่การให้บริการ เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายสำคัญของแบรนด์ นั่นคือ การเป็นแบรนด์อันดับหนึ่งด้าน Customer Retention ที่มุ่งเน้นการส่งมอบประสบการณ์ความสุขในทุกช่วงเวลาให้กับลูกค้ามาสด้าทุกคน
มาสด้าราชาออโต้เซลส์ ถือเป็นผู้จำหน่ายมาสด้าอย่างเป็นทางการแห่งเดียวในจังหวัดนครราชสีมา มีความเชี่ยวชาญและมีศักยภาพสูงในเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เป็นประตูสู่ภาคอีสาน เป็นเส้นทางสัญจรของผู้คน และมีฐานลูกค้าอยู่เป็นจำนวนมาก มีประสบการณ์การทำงานอันเป็นเลิศและมีประวัติความเป็นมายาวนานมากที่สุดในประเทศไทย โดยมาสด้าราชาออโต้เซลส์เริ่มเข้ามาเป็นผู้จำหน่ายมาสด้าอย่างเป็นทางการตั้งแต่ปี พ.ศ. 2510 ในอำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา จากประสบการณ์ที่สั่งสมมาอย่างยาวนานถึง 58 ปี จึงทำให้มาสด้าราชาออโต้เซลส์มีความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับรถยนต์มาสด้าเป็นอย่างดีทั้งด้านการขายและการบริการ พรั่งพร้อมไปด้วยทีมช่างเทคนิคและที่ปรึกษาการขายที่มีความรู้ความสามารถสูง พร้อมให้การดูแลรถยนต์ของลูกค้าอย่างเต็มประสิทธิภาพ ทำให้ลูกค้ามั่นใจอย่างยิ่งว่ามาสด้าราชาออโต้เซลส์ทุกสาขาในโคราชจะเป็นหนึ่งในกำลังสำคัญที่จะช่วยผลักดันแบรนด์มาสด้าให้เติบโตอย่างยั่งยืน และส่งมอบประสบการณ์ที่น่าจดจำให้กับลูกค้าในเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือได้เป็นอย่างดี
พิธีเปิดโชว์รูมอย่างเป็นทางการของมาสด้าราชาออโต้เซลส์ได้รับเกียรติอย่างสูงจาก นายเทวัญ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานในพิธีฯ พร้อมด้วย นางสาวอัญรินทร์ วงศ์อัครพัฒนา รองประธานสโมสรนครราชสีมา มาสด้า เอฟซี, นายธีร์ เพิ่มพงศ์พันธ์ ประธานกรรมการบริหารและซีอีโอ มร. ทาเคชิ ซาโตะ รองประธานกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่สายงานการเงิน และคณะผู้บริหารระดับสูงจาก บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด พร้อมด้วย นางสาวทัศนียา พัฒนจิตวิไล กรรมการผู้จัดการ และทีมผู้บริหาร บริษัท ราชาออโต้เซลส์ จำกัด พร้อมด้วยทีมงานสตาฟโค้ชและนักฟุตบอลจากสวาทแคท รวมทั้งลูกค้าและผู้มีเกียรติเข้าร่วมเป็นสักขีพยานอย่างคับคั่ง
พร้อมกันนี้ ทางผู้บริหารมาสด้าราชาออโต้เซลส์ ยังได้มอบเงินบริจาคให้กับโรงพยาบาล 4 แห่ง ได้แก่ โรงพยาบาลมหาราช โรงพยาบาลเทพรัตน์ โรงพยาบาลพิมาย และโรงพยาบาลปากช่อง เพื่อให้การช่วยเหลือผู้ป่วยเนื่องในโอกาสการเปิดโชว์รูมแห่งใหม่ รวมถึงมีการจัดกิจกรรมเพื่อมอบสิทธิพิเศษให้กับลูกค้าแบบอัดแน่นตลอดทั้งวัน อาทิ การจับฉลากรางวัลพิเศษให้กับลูกค้าที่ซื้อรถมาสด้าทุกรุ่น พร้อมด้วยไฮไลท์พิเศษกับกิจกรรม Meet & Greet นักเตะจากทีมสวาทแคท อาทิ เดนนิส มูริลโล่, ธณชัย หนูราช, ณัฐวุฒิ เจริญบุตร และนักเตะดาวรุ่งอีกมากมาย ที่มาสร้างสีสันด้วยการเล่นเกมส์มอบรางวัลพิเศษให้กับลูกค้าและแฟนคลับที่มาร่วมงาน ซึ่งสร้างสีสันให้กับงานในช่วงบ่ายได้เป็นอย่างดี
นางสาวทัศนียา พัฒนจิตวิไล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ราชา ออโต้เซลส์ จำกัด กล่าวว่า มาสด้าราชาเป็นธุรกิจที่สืบทอดจากรุ่นสู่รุ่นเพื่อสานต่อธุรกิจให้เกิดความยั่งยืน โดยบริษัทฯ มุ่งมั่นดำเนินธุรกิจให้เจริญก้าวหน้าและมั่นคง โดยตั้งอยู่บนพื้นฐานของคุณธรรมและเอื้อประโยชน์ต่อสังคมตามเจตนารมณ์ของ คุณเลอพงศ์ พัฒนจิตวิไล ผู้ก่อตั้งบริษัทฯ พร้อมส่งมอบรถยนต์มาสด้าและการบริการที่ดีที่สุด เพื่อแทนคำขอบคุณลูกค้าที่ให้ความเชื่อถือและไว้วางใจต่อมาสด้าราชามาตลอดเกือบ 60 ปี จากการดำเนินธุรกิจเป็นผู้จำหน่ายรถยนต์มาสด้าเพียงยี่ห้อเดียวในจังหวัดนครราชสีมา ซึ่งการเปิดโชว์รูมแห่งใหม่ครั้งนี้ทำให้มาสด้าราชาออโต้เซลส์มีโชว์รูมและศูนย์บริการรองรับลูกค้ามาสด้าในจังหวัดรครราชสีมา ถึง 4 สาขา และเป็นผู้จำหน่ายรถยนต์มาสด้าเพียงหนึ่งเดียวในจังหวัดนครราชสีมา ประกอบด้วย สำนักงานใหญ่ในตัวเมือง ใกล้กับอนุสาวรีย์ย่าโม สาขาอำเภอพิมาย สาขาอำเภอปากช่อง และสาขาสามแยกปักธงชัย ซึ่งในปีนี้นับเป็นโอกาสอันดีที่มาสด้าราชาออโต้เซลส์ได้มีโอกาสเฉลิมฉลองครบรอบการดำเนินธุรกิจมาเป็นเวลา 58 ปี ในประเทศไทย แสดงถึงความมุ่งมั่นและมั่นคงของบริษัทฯ ในการเดินหน้าเพื่อส่งมอบงานขายและงานบริการที่มีคุณภาพให้กับลูกค้ามาสด้าทุกคนในโคราชและพื้นที่ใกล้เคียง
“การขยายการลงทุนเพิ่มเติมในครั้งนี้ ทางบริษัทได้เพิ่มเงินงบประมาณอีกกว่า 200 ล้านบาท ประกอบด้วยการเพิ่มโชว์รูมแห่งใหม่สองสาขา คือ สาขาอำเภอปากช่องและสาขาสามแยกปักธงชัย รวมทั้งสิ้น 4 สาขา รวมมูลค่าการลงทุนกว่า 500 ล้านบาท แน่นอนว่าทางบริษัทฯ เล็งเห็นถึงศักยภาพของทำเลที่ตั้งที่มีกลุ่มลูกค้ามาสด้าอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก และเชื่อมั่นในศักยภาพของแบรนด์มาสด้าที่มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร ตลอดระยะเวลากว่า 58 ปี ที่บริษัทฯ ได้เข้ามาเป็นผู้จำหน่ายรถยนต์มาสด้าทำให้เรามั่นใจในแบรนด์เป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะปรัชญาของแบรนด์มาสด้าที่ไม่ได้มุ่งเพียงแต่เป็นบริษัทที่ผลิตรถยนต์เพื่อการขับขี่ แต่ยังพัฒนาการขับขี่รถยนต์เพื่อให้ตอบโจทย์กับผู้ใช้งานในทุก ๆ ด้าน พร้อมส่งมอบความสนุกสนานในการขับขี่ และปรัชญาการพัฒนารถยนต์ที่ช่วยให้ผู้ขับขี่กับรถเป็นหนึ่งเดียวกัน รวมถึงการประกาศเข้ามาลงทุนเพิ่มเติมของ มาสด้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น ครั้งล่าสุดอีก 5,000 ล้านบาท ในประเทศไทย ทำให้ลูกค้าและผู้จำหน่ายทั่วประเทศ รวมถึงพันธมิตรทางธุรกิจของมาสด้าทุกภาคส่วนมีความมั่นใจในแบรนด์มาสด้ามากยิ่งขึ้น ดังนั้น การเปิดโชว์รูมแห่งใหม่ในครั้งนี้ จึงตอกย้ำถึงความมั่นใจอย่างเต็มเปี่ยมของมาสด้าราชาออโต้เซลส์ที่มีต่อแบรนด์มาสด้าได้เป็นอย่างดี และเชื่อว่ามาสด้ากำลังเดินหน้าตามแผนธุรกิจระยะยาวเพื่อมุ่งสู่การเติบโตอย่างยั่งยืนในประเทศไทย” นางสาวทัศนียา กล่าวเกี่ยวกับการขยายการลงทุนเพิ่มเติมในครั้งนี้
ปัจจุบัน มาสด้าราชาออโต้เซลส์ เป็นผู้จำหน่ายรถยนต์มาสด้าหนึ่งเดียวในจังหวัดนครราชสีมา โดยมีทั้งหมด 4 สาขา สามารถรองรับงานบริการได้ถึง 2,000 คันต่อเดือน ทั้งนี้ยังพร้อมให้บริการแบบครบวงจร ด้วยศูนย์ซ่อมสีและตัวถังมาตรฐาน มีช่องบริการตรวจเช็กตามระยะแบบเร่งด่วน (Fast Track) และมีรถยนต์ Mazda CPO (Certified Pre-Owned) ไว้เป็นทางเลือกเพื่อบริการลูกค้าที่กำลังมองหารถยนต์มาสด้ามือสองคุณภาพดีที่ผ่านการรับรองมาตรฐานจากมาสด้าอีกด้วย
มาสด้า เซลส์ ประเทศไทย และ มาสด้าราชาออโต้เซลส์ ขอขอบคุณลูกค้าทุกท่านที่ให้การสนับสนุนเป็นอย่างดีมาโดยตลอด เราให้คำมั่นสัญญาว่าจะเดินหน้าพัฒนาธุรกิจในทุกส่วนงาน ด้วยการมุ่งเน้นให้ความสำคัญกับลูกค้ามาเป็นอันดับหนึ่งเสมอ เพื่อให้รถยนต์มาสด้าเป็นมากกว่ายานพาหนะ และกลายเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนความสุขในการใช้ชีวิตทุกด้านให้กับลูกค้ามาสด้าทุกคน เพื่อสร้างความรัก ความผูกพัน และเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตลูกค้าและครอบครัวไปตลอดอายุการใช้งาน
-
ศึกวัดใจ บางแสน กรังด์ปรีซ์ 2025 ทีม ZIC พร้อมลุย
ขอแสดงความยินดี กับทีมแข่งทุกทีมและทุกท่านครับ เพราะพวกคุณคือผู้ล่าเส้นชัย
TUNE BY AOT จบการแข่งบางแสนนี้ได้ถ้วยกลับมา 5 รางวัล พร้อมรั้งคะแนนจ่าฝูงอันดับที่ 1 ประจำปี รออตัดสินสนามสุดท้ายเดือนพฤศจิกายน
ISM เปิดประสบการณ์ทั้งนักแข่งไทยและนานาชาติ ร่วมพิสูจน์ประสิทธิภาพน้ำมันเครื่อง ZIC
- Xie Boyu Jonathan ขับรถแข่งเบอร์ 17 – จบอันดับที่ 2 ใน รุ่น
- Roni Risman ขับรถเบอร์ 65 จบอันดับที่ 3 ในรุ่น
- Muhammad Hasif Zaimal ขับรถเบอร์ 74 จบอันดับที่ 15
- Super Touring #No65 HONDA CR-ZDriver : Chananchicha T. Namkhanech P.
Feeliq Innovation Motorsport ปะลองสนามด้วย เกียร์ธรรมดา เตรียมความพร้อมสู่ Endurance
- Super Touring : #No56 Mazda2 Driver : Nutchanon A. Mana P. จบอันดับ 12 overall คลาส เทอร์โบ อันดับ 6
ความสนุกที่พลาดไม่ได้ของสนามบางแสน Street Circuit ในรายการแข่งขัน Thailand Super Series 2025 เมื่อวันที่ 2 – 6 กรกฎาคม 2025 ที่ผ่านมา
ซึ่งในปีนี้ทีม ZIC ของเราได้ร่วมลงแข่งขัน โดยทีมงานมืออาชีพ ทั้งรถเก๋งและกระบะ ไม่ว่าจะเป็นทีม ISM (Insane Motorsport) ทีม Feeliq Innovation Motorsport และทีมTune by Aot
ทีม ISM (Insane Motorsport) นำโดย Chananchicha T. และ Namkhanech P.อีกทั้งทางทีมยังมีนักแข่งนานาชาติจากมาเลเซีย และสิงคโปร์ร่วมแข่งขันส่งมอบความสนุกลุ้นติดสนาม
Super Eco #No65 HONDA BRIO
Driver : Roni Risman 🇲🇾
Super Eco #No14 SUZUKI SWIFT
Driver : Ridhwan Kif 🇲🇾
Super Eco #No17 HONDA BRIO
Driver : Jonathan Xie 🇸🇬
Super Touring #No65 HONDA CR-ZDriver : Chananchicha T. Namkhanech P.
ทีม Feeliq Innovation Motorsport นำโดยนักแข่งมืออาชีพจากรายการ Rally พี่หนึ่ง มานะ พรศิริเชิด มาพร้อมคุณซุน ณัฐชนนท์ เอกสาร แชมป์ อันดับ 2 จากราการ Super Endurance 25 hrs.2024 จับคู่ลงแข่งท้าสนามบางแสนเพื่อเตรียมตัวสู่สนาม Endurance 2025 6 ชั่วโมง สนามแรกที่กำลังจะถึงนี้
Super Touring : #No56 Mazda2
Driver : Nutchanon A. Mana P.ทีมTune by Aot ดีเซลพร้อมลุย นำโดยคุณเอกสิทธิ์ งามแสงผา คุณธนวัฒน์ สุวรรณรัตน์ และคุณเก่ง วริศ อ่อนระยับงานนี้มันตั้งแต่รอบ คลอลิฟายจนจบงาน มาแบบ 3 คัน 3 สไตล์การขับขี่
Super Pickup #No2
Driver : Ekasit N.
Super Pickup #No22
Driver : Tanawat S.
Super Pickup #No22
Driver : Waris O.
มาเพื่อล่ารางวัลกันทั้งทีม จบการแข่งบางแสนนี้ได้ถ้วยกลับมา 5 รางวัล พร้อมรั้งคะแนนจ่าฝูงอันดับที่ 1 ประจำปี รอตัดสินสนามสุดท้ายเดือนพฤศจิกายน
-
นิสสันเสริมทัพนาวารา รุ่นปี 2025 เพิ่ม 3 รุ่นใหม่ ราคาเร้าใจ
นิสสันเพิ่มทางเลือกให้กับนิสสัน นาวารา คาลิเบอร์ กระบะยกสูงยอดนิยม 3 รุ่นย่อยใหม่ ได้แก่ รุ่นคิงแค็บ คาลิเบอร์ SL 7AT รุ่นดับเบิลแค็บ คาลิเบอร์ SL 6 MT และรุ่นดับเบิลแค็บ คาลิเบอร์ SL 7AT ที่มาพร้อมสมรรถนะแบบ “ทน พร้อม ลุย” กับราคาที่โดนใจ ให้ลูกค้าเป็นเจ้าของได้ง่ายยิ่งขึ้น
โทชิฮิโระ ฟูจิคิ ประธานนิสสัน ประเทศไทย และนิสสัน อาเซียน กล่าวว่า “นิสสัน นาวารา เป็นหนึ่งในรถกระบะยอดนิยมรวมถึงรถยนต์รุ่นหลักของนิสสันตลอดหลายปีที่ผ่านมา ด้วยความเชื่อถือ และวางใจได้ กับความทนทาน และมากด้วยประโยชน์ใช้สอย พร้อมดีไซน์ทันสมัย การเปิดตัวนิสสัน นาวารา คาลิเบอร์ กระบะยกสูง 3 รุ่นย่อยใหม่นี้ จะเปิดโอกาสให้ลูกค้าที่กำลังมองหารถกระบะที่ “ทน พร้อม ลุย” ได้เป็นเจ้าของรถกระบะที่สามารถใช้งานได้อเนกประสงค์ ทั้งการเดินทางสำหรับทุกคนในครอบครัว หรือการใช้งานในด้านธุรกิจ ภายใต้ราคาที่ดีมากๆ”
นิสสัน นาวารา ทั้ง 3 รุ่นย่อยใหม่ มาพร้อมราคาที่เร้าใจ ได้แก่
- คิงแค็บ คาลิเบอร์ SL 7AT ราคา 758,000 บาท
- ดับเบิลแค็บ คาลิเบอร์ SL 6MT ราคา 792,000 บาท
- ดับเบิลแค็บ คาลิเบอร์ SL 7AT ราคา 842,000 บาท
โดยทั้ง 3 รุ่น มาพร้อมสมรรถนะ และความทรงพลัง ในแบบฉบับของรถกระบะยกสูง ด้วยเครื่องยนต์ที่เรียกแรงบิดมหาศาลได้ตั้งแต่ 1,500 รอบต่อนาที โดยรุ่นคิงแค็บ คาลิเบอร์ SL 7AT และ ดับเบิลแค็บ คาลิเบอร์ SL 7AT มาพร้อมเครื่องยนต์ 2.3 ลิตร ทวินเทอร์โบ ที่ให้พละกำลัง 190 แรงม้า (PS) แรงบิดมหาศาล 450 นิวตัน-เมตร (Nm) ขณะที่รุ่น ดับเบิลแค็บ คาลิเบอร์ SL 6MT มาพร้อมเครื่องยนต์ 2.3 ลิตร เทอร์โบแปรผัน ให้พละกำลัง 160 แรงม้า (PS) แรงบิด 403 นิวตัน-เมตร (Nm) ด้วยพละกำลัง สมรรถนะการใช้งาน และความอเนกประสงค์ ทำให้นิสสัน นาวารา คาลิเบอร์ กระบะยกสูงเหมาะสำหรับการใช้งานทั้งทางธุรกิจ และการเดินทางสำหรับครอบครัว
นิสสัน นาวารา คาลิเบอร์ กระบะยกสูงทั้ง 3 รุ่นย่อยใหม่ มาพร้อมกระจังหน้าสีดำเสริมความดุดัน กันชนสีเดียวกับตัวรถ ตกแต่งด้วยขอบสีดำสุดเท่ และล้อขนาด 17 นิ้ว
นิสสัน นาวารา คาลิเบอร์ กระบะยกสูง 3 รุ่นย่อย ในเกรด SL ยังมาพร้อมความทนทาน ให้ความมั่นใจในทุกสภาพการขับขี่ด้วยสมรรถนะอันโดดเด่นอันเป็นเอกลักษณ์ของนิสสัน นาวารา ระบบกันสะเทือนหน้าแบบอิสระ ปีกนกคู่ พร้อมคอยล์สปริง และเหล็กกันโคลงด้านหลังเป็นแหนบพร้อมโช้คอัพ ระบบเบรกด้านหน้าเป็นดิสก์เบรกแบบมีช่องระบายความร้อน และดรัมเบรกด้านหลัง ช่วยหยุดรถได้อย่างมีประสิทธิภาพแม้จะบรรทุกน้ำหนักมากก็ตาม
นอกจากนี้ ยังคงให้ความอุ่นใจด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยครบครัน ไม่ว่าจะเป็น ระบบช่วยการออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน (Hill Start Assist – HSA) ที่ช่วยป้องกันไม่ให้รถไหลถอยหลังขณะออกตัวบนเนิน ระบบเบรก ABS พร้อม EBD และ BA ถุงลมนิรภัยคู่หน้า เทคโนโลยีป้องกันการลื่นไถลขณะถนนลื่น (Active Brake Limited Slip – ABLS) เทคโนโลยีควบคุมการทรงตัวอัตโนมัติ (Vehicle Dynamic Control – VDC) เทคโนโลยีป้องกันล้อหมุนฟรี (Traction Control System – TCS) เทคโนโลยีควบคุมเสถียรภาพของรถ ขณะลากจูง (Trailer Stability Assist – TSA) แผงลวดไล่ฝ้ากระจกหลัง ไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ LED ที่ให้ความปลอดภัย และมองเห็นได้ชัดเจน และเข็มขัดนิรภัย ELR 3 จุด 2 ตำแหน่ง พร้อมระบบดึงกลับ และผ่อนแรงอัตโนมัติ
นิสสัน นาวารา คาลิเบอร์ ทั้ง 3 รุ่นใหม่ เพิ่มความสะดวกสบายและปลอดภัยให้กับผู้ขับขี่ด้วยระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Cruise control) ระบบ Push Start และกุญแจรีโมทอัจฉริยะ มีสีตัวถังภายนอกให้เลือก 5 สี ได้แก่ สีดำ Black Star สีขาว White Pearl สีเงิน Brilliant Silver สีเทา Twilight Grey และสีทองแดง Forged Copper
ทั้งนี้ นิสสันมอบโปรโมชั่นพิเศษฉลองเปิดตัว* สำหรับลูกค้านิสสัน นาวาราทั้ง 3 รุ่นย่อยใหม่ เพื่อให้ลูกค้าเป็นเจ้าของได้ง่ายยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็น ผ่อนสบาย รายเดือนเริ่มต้นเพียง 4,999 บาท หรือดอกเบี้ยอัตราพิเศษเริ่มต้นที่ 0.89% พร้อมประกันภัยชั้นหนึ่ง หรือเงินดาวน์ต่ำเริ่มต้นเพียง 19,999 บาท ผ่อนนาน 84 เดือน ผู้ที่สนใจสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่โชว์รูมนิสสันทั่วประเทศ หรือ โทร. 0-2401-9600
‘*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine -
News Car1 Min Read
คาเฟ่ อเมซอน ตอกย้ำความเป็นผู้นำตลาดกาแฟไทย ดันฮีโร่ Product ใหม่ “อเมซอน พรีเมียม Selected Cup” พร้อมดึง “อิ้งค์ วรันธร” ร่วมสร้างประสบการณ์กาแฟพรีเมียมของคนรุ่นใหม่
คาเฟ่ อเมซอน (Café Amazon) เดินหน้าผลักดัน “อเมซอน พรีเมียม Selected Cup” กาแฟอาราบิก้าแท้ 100% ที่คัดสรรคุณภาพเยี่ยม ชูจุดเด่นด้านกลิ่นหอมอโรม่าและรสชาตินุ่มลึกเป็นเอกลักษณ์ ในราคาที่เข้าถึงได้ เพื่อตอบรับเทรนด์ผู้บริโภคที่มองหาประสบการณ์กาแฟระดับพรีเมียมในชีวิตประจำวัน พร้อมประเดิมกลยุทธ์พรีเซนเตอร์มาร์เก็ตติ้ง ดึงนักร้องสาว อิ้งค์ – วรันธร เปานิล เป็นพรีเซนเตอร์เป็นครั้งแรก สะท้อนรสนิยมใหม่ของคอกาแฟที่ให้ความสำคัญทั้งคุณภาพ กลิ่นหอมละมุนของเมล็ดกาแฟอาราบิก้าแท้ 100% ที่พรีเมียม ไม่เหมือนใคร เพื่อขยายฐานคอกาแฟและเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคในวงกว้าง
คุณไกรพิท เปรมมณี รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านธุรกิจไลฟ์สไตล์ บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ตลาดกาแฟในประเทศไทยกำลังอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านและเติบโตอย่างมีคุณภาพ ผู้บริโภคมีความรู้และความคาดหวังต่อประสบการณ์การดื่มกาแฟที่สูงขึ้นอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน เห็นได้จากวิวัฒนาการของตลาด ซึ่งในอดีตเป็นยุคที่ผู้บริโภคต้องการกาแฟที่เข้าถึงง่าย ดื่มได้ทุกที่ ทุกเวลาในราคาจับต้องได้ ซึ่ง คาเฟ่ อเมซอน เองก็เติบโตและเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญในการขับเคลื่อนตลาดในยุคนี้ ในปัจจุบัน เราได้เข้าสู่ยุคที่ผู้บริโภคเริ่มก้าวข้ามจากความสะดวกสบาย มาสู่การใส่ใจในรายละเอียดและคุณภาพของกาแฟมากขึ้น ทั้งในเรื่องของรสชาติที่ซับซ้อน แหล่งที่มาของเมล็ดกาแฟ กระบวนการคั่วที่พิถีพิถัน และวิธีการชงที่หลากหลาย ผู้บริโภคเริ่มมองหากาแฟที่สะท้อนรสนิยมและมอบประสบการณ์ที่เหนือกว่า ซึ่งเป็นสัญญาณที่ชัดเจนว่าตลาดกาแฟพรีเมียมที่เน้นคุณภาพของสินค้ากำลังเติบโตอย่างมีศักยภาพ
คาเฟ่ อเมซอน ได้นำเสนอฮีโร่โปรดักต์ “อเมซอน พรีเมียม Selected Cup” ซึ่งเป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มกาแฟ พรีเมียม ที่ตอบรับเทรนด์ของตลาดในปัจจุบัน ปีนี้เราจึงมุ่งเน้นกลยุทธ์ทางการตลาดสำหรับ “อเมซอน พรีเมียม Selected Cup” อย่างครบวงจร เพื่อเข้าถึงคอกาแฟและกลุ่มลูกค้าในวงกว้างยิ่งขึ้น ชูจุดเด่นในการคัดสรรเมล็ดกาแฟอาราบิก้า 100% คุณภาพเยี่ยมผ่านกระบวนการคั่วและชงอย่างพิถีพิถันโดยผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้ได้รสชาติที่พรีเมียม นุ่มลึก หอมละมุน ไม่เหมือนใครและมีมิติอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว มอบประสบการณ์การดื่มกาแฟที่แตกต่างและน่าประทับใจในทุกสัมผัส ตั้งแต่กลิ่นหอมแรกที่แตะจมูก ไปจนถึงรสชาติที่อบอวลอยู่ในปากยาวนาน มีเมนูให้เลือกหลากหลาย โดยยังคงรักษาเอกลักษณ์ของแบรนด์ คาเฟ่ อเมซอน “อเมซอน พรีเมียม Selected Cup” ไม่เพียงมอบรสชาติกาแฟพรีเมียม แต่ยังสื่อถึงความใส่ใจในคุณภาพ และรสนิยมที่เหนือระดับ แค่ถือแก้ว ก็สัมผัสได้ถึงความมีรสนิยม Selected Cup คือไอเท็มใหม่ของคนรักกาแฟที่ต้องการเติมความพรีเมียมในทุกจังหวะของชีวิตประจำวัน
นอกจากนี้ Café Amazon ยังได้เปิดตัว “อิ้งค์ – วรันธร เปานิล” เป็นพรีเซนเตอร์คนใหม่ของ Selected Cup เพื่อถ่ายทอดบุคลิกของกาแฟพรีเมียมแก้วนี้ได้อย่างมีมิติ — ทั้งความหอมละมุน รสนุ่มลึก และเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดยในแคมเปญนี้ อิ้งค์ได้ปรับลุคสู่ภาพลักษณ์ใหม่ที่ดูสมาร์ท โฉบเฉี่ยว และเต็มไปด้วยเสน่ห์ในแบบพรีเมียม สะท้อนตัวตนของ Selected Cup ได้อย่างลงตัว
ตัวเลือกที่หลากหลายเพื่อคอกาแฟพรีเมียม
“อเมซอน พรีเมียม Selected Cup” นำเสนอ 8 เมนูสุดพิเศษ ที่รังสรรค์จากเมล็ดกาแฟอาราบิก้า 100% คุณภาพเยี่ยม ที่ระดับการคั่วกลาง-เข้ม เพื่อตอบโจทย์ทุกรสนิยม ไม่ว่าจะเป็นเมนูกาแฟคลาสสิก หรือจะเพิ่มความพิเศษด้วยเมนูใหม่ Peach Americano Sparkling และ Yuzu Americano Sparkling ที่พร้อมเสิร์ฟความสดชื่นได้อย่างลงตัว
สัมผัสประสบการณ์ความหอมละมุน พรีเมียม ไม่เหมือนใคร กับ Café Amazon Selected Cup ได้แล้ววันนี้ที่ร้าน คาเฟ่ อเมซอน สาขาที่ร่วมรายการทั่วประเทศ
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine