• โตโยต้าร่วมสนับสนุนการแข่งขันซูโม่ชิงแชมป์โลก ประจำปี 2568 ที่ประเทศไทย ตอกย้ำมิตรภาพ ไทย – ญี่ปุ่น พร้อมส่งเสริมวัฒนธรรมกีฬาซูโม่ในระดับนานาชาติ

    1 Min Read

    โตโยต้าร่วมสนับสนุนการแข่งขันซูโม่ชิงแชมป์โลก ประจำปี 2568 ที่ประเทศไทย ตอกย้ำมิตรภาพ ไทย – ญี่ปุ่น พร้อมส่งเสริมวัฒนธรรมกีฬาซูโม่ในระดับนานาชาติ

    มร.คิมิโอ มินามิ ผู้อำนวยการ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น และ มร.โนริอากิ ยามาชิตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด พร้อมด้วยคณะผู้บริหารเข้าร่วมเป็นเกียรติในพิธีมอบรางวัลการแข่งขันซูโม่ชิงแชมป์โลก ประจำปี 2568 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 13 – 14 กันยายน 2568  ณ อาคารนันทนาการ มหาวิทยาลัยรังสิต จังหวัดปทุมธานี โดยการแข่งขันในครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่ประเทศไทยได้รับเกียรติให้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันระดับโลกดังกล่าว

     

    การแข่งขันซูโม่ชิงแชมป์โลกครั้งนี้เป็นเวทีรวมตัวของนักกีฬาซูโม่ชั้นนำจากทั่วโลก สะท้อนถึงความสำคัญของการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมผ่านกีฬาในระดับนานาชาติ โดยโตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทยในฐานะหนึ่งในผู้สนับสนุนหลัก ได้แสดงเจตนารมณ์ในการส่งเสริมกีฬาซูโม่ ซึ่งเป็นกีฬาประจำชาติของญี่ปุ่น และเป็นสัญลักษณ์ของความมีวินัย ความอดทน และจิตวิญญาณนักกีฬา

     

    นอกจากการสนับสนุนด้านการแข่งขัน โตโยต้ายังได้มอบ “ผลิตภัณฑ์ข้าวรัชมงคล” แก่ผู้ที่ได้รับรางวัลทุกคน เพื่อเป็นการแบ่งปันวัฒนธรรมการเกษตรของไทยให้กับนักกีฬาจากนานาประเทศ โดยผลิตภัณฑ์ข้าวรัชมงคลเป็นผลผลิตจากโครงการ “ข้าวรัชมงคล” ซึ่งเกิดจากการถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านเกษตรกรรมของโตโยต้าแก่เกษตรกรไทย โดยยึดแนวทางจากแนวพระราชดำริ โดยมุ่งเน้นการพัฒนาคุณภาพชีวิตเกษตรกรเพื่อสร้างความยั่งยืนให้กับชุมชน

    โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย ยังคงมุ่งมั่นในการสนับสนุนกิจกรรมที่ส่งเสริมวัฒนธรรม ความยั่งยืน และความสัมพันธ์อันดีระหว่างประเทศ ผ่านการดำเนินงานที่สอดคล้องกับพันธกิจขององค์กรในการ“ขับเคลื่อนอนาคต” ให้กับสังคมไทยและประชาคมโลก


    ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย

    Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
    Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
    Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
    instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
    Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
    Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
    Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine


    No Comment
  • อีซูซุเดินหน้าสานต่อโครงการ “อีซูซุให้น้ำ…เพื่อชีวิต” แห่งที่ 45 แก่โรงเรียนบ้านดินโส จ.กาญจนบุรี

    1 Min Read

    อีซูซุเดินหน้าสานต่อโครงการ “อีซูซุให้น้ำ…เพื่อชีวิต” แห่งที่ 45 แก่โรงเรียนบ้านดินโส จ.กาญจนบุรี

    กลุ่มอีซูซุในประเทศไทย โดย มร. ทาคาชิ  ฮาตะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด และคุณณัฐ โก่งเกษร รองอธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาลมุ่งมั่นเดินหน้าพัฒนาสิ่งที่ดีให้สังคมและชุมชนอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดส่งมอบระบบน้ำดื่มสะอาดในโครงการ “อีซูซุให้น้ำ…เพื่อชีวิต” เป็นปีที่ 12 แห่งที่ 45 ให้แก่ โรงเรียนบ้านดินโส อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของนักเรียนและครูในโรงเรียนรวมถึงคนในชุมชนตอกย้ำปรัชญาการดำเนินธุรกิจ หรือ “วิถีอีซูซุ” นั่นคือ “ผู้ใช้สุขใจ เพิ่มพูนรายได้ ช่วยให้สังคมพัฒนา”

     

    มร. ทาคาชิ  ฮาตะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด กล่าวว่า “เป็นที่ทราบกันดีว่าวิกฤตเศรษฐกิจโลกได้ส่งผลกระทบอย่างหนักมากต่อเกือบทุกธุรกิจ ยิ่งไปกว่านั้นตลาดรถยนต์เมืองไทยก็กำลังเผชิญภาวะหดตัวอย่างรุนแรงอย่างต่อเนื่องเช่นกัน ซึ่งส่งผลกระทบต่อธุรกิจของกลุ่มอีซูซุด้วย ถึงแม้จะต้องเผชิญกับความท้าทายเหล่านี้ก็ตาม เรายังคงมุ่งมั่นอย่างเต็มที่ในการดำเนินกิจกรรมเพื่อสังคม รวมถึงโครงการ “อีซูซุให้น้ำ…เพื่อชีวิต” ตามที่ได้ตั้งปณิธานไว้  เรายังได้ติดตั้งระบบพลังงานแสงอาทิตย์หรือโซลาร์เซลล์ให้แก่ทุกโรงเรียนของโครงการ “อีซูซุให้น้ำ…เพื่อชีวิต” นับตั้งแต่โรงเรียนที่ 44 เป็นต้นไป เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายหลักของ        อีซูซุเรื่องความเป็นกลางทางคาร์บอน ซึ่งเป็นนโยบายหลักของอีซูซุ รวมทั้งการสนับสนุนนโยบายของรัฐบาลไทยในการใช้พลังงานทดแทนอีกด้วย”

     

    สำหรับโรงเรียนบ้านดินโส เป็นโรงเรียนขนาดกลาง ตั้งอยู่ในอำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี เปิดสอนตั้งแต่อนุบาล 2 ถึงมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีนักเรียน คุณครู และบุคลากรทั้งสิ้นกว่า 413 คน โรงเรียนดังกล่าวประสบปัญหาการขาดแคลนแหล่งน้ำสะอาดเพื่อการอุปโภคบริโภค แม้ว่าโรงเรียนบ้านดินโสจะมีบ่อน้ำใช้เพื่ออุปโภค   แต่น้ำสำหรับบริโภคต้องแบ่งใช้กับชาวบ้านจากบ่อน้ำของชุมชน ซึ่งมีปริมาณจำกัด และยังต้องผ่านเครื่องกรองน้ำที่มีการชำรุดบ่อยครั้ง ทำให้โรงเรียนต้องมีการจัดซื้อน้ำดื่มสะอาดเพื่อการบริโภคเพิ่มเติม อีซูซุจึงส่งทีมงาน        ลงพื้นที่พร้อมเจ้าหน้าที่กรมทรัพยากรน้ำบาดาลสำรวจปัญหาและติดตั้งระบบน้ำดื่มสะอาดที่ประกอบด้วย ระบบบ่อน้ำบาดาลครบวงจร ระบบกรองน้ำดื่มสะอาดตามมาตรฐาน อาคารผลิตน้ำดื่ม พร้อมจัดอบรมวิธีการใช้งาน การทำความสะอาด และการบำรุงรักษาให้แก่บุคลากรที่รับผิดชอบ รวมทั้งการเข้าไปตรวจสอบคุณภาพน้ำให้ได้มาตรฐานอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้นักเรียนและบุคลากรในโรงเรียนรวมถึงชุมชนบริเวณใกล้เคียงที่ได้ประโยชน์จากน้ำสะอาด กว่า 650 ครัวเรือน 1,500 คน ได้มีน้ำดื่มสะอาดถูกหลักอนามัยบริโภคอย่างต่อเนื่องเพื่อแก้ปัญหาน้ำดื่มอย่างยั่งยืน นอกจากนี้ โครงการ “อีซูซุให้น้ำ…เพื่อชีวิต” ในปีนี้ ได้เพิ่มอุปกรณ์พิเศษในกระบวนการผลิต    น้ำดื่มสะอาด นั่นคือ การติดตั้งระบบพลังงานแสงอาทิตย์ เพื่อให้สอดคล้องกับความมุ่งมั่นของอีซูซุในเรื่องความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ซึ่งเป็นนโยบายหลักของอีซูซุ รวมทั้งการสนับสนุนนโยบายของรัฐบาลไทยในการใช้พลังงานจากทรัพยากรทดแทน และยังช่วยลดค่าไฟฟ้าของโรงเรียนได้กว่า 3,000 บาทต่อเดือนอีกด้วย

     

    คุณณัฐ โก่งเกษร รองอธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล กล่าวถึงโครงการว่า “โครงการ อีซูซุให้น้ำ..เพื่อชีวิต เป็นโครงการที่กรมทรัพยากรน้ำบาดาลกับอีซูซุร่วมทำมาแล้วกว่า 44 ครั้ง ซึ่งครั้งนี้เป็นครั้งที่ 45 สะท้อนให้เห็นว่าโครงการนี้เป็นโครงการที่ดีและมีความสำคัญ เราได้มอบโอกาสให้กับเด็กนักเรียนในถิ่นทุรกันดารที่ไม่มีน้ำสะอาดไว้เพื่อบริโภคซึ่งเป็นสิ่งที่มีความจำเป็นอย่างยิ่งในการดำเนินชีวิต สำหรับโครงการอีซูซุให้น้ำ…เพื่อชีวิตครั้งต่อไป เราก็จะร่วมมือกับอีซูซุเหมือนเดิม เพื่อหาว่าตรงไหนที่ยังมีถิ่นทุรกันดาร เราจะหาน้ำให้เด็ก ๆ จนกว่าจะครบ”

     

    คุณลิขิต โคกแก้ว ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านดินโส กล่าวถึงปัญหาน้ำที่โรงเรียนว่า ปัญหาน้ำของโรงเรียนที่เกิดขึ้นคือเราไม่มีน้ำจากแหล่งน้ำใต้ดิน น้ำที่ใช้ทุกวันนี้เป็นน้ำในสระที่มีอยู่แล้ว เมื่อถึงช่วงหน้าแล้ง น้ำในสระก็จะเหือดแห้งไป นอกจากนี้น้ำในสระไม่ได้ไว้ใช้แค่ในโรงเรียนเท่านั้นแต่ชุมชนเอง ก็ต้องใช้น้ำจากตรงนี้ด้วย โครงการ อีซูซุให้น้ำ…เพื่อชีวิต ได้เข้ามาช่วยเหลือ โดยมีการเจาะน้ำบาดาล และสร้างเครื่องกรองน้ำให้ ช่วยลดปัญหาการขาดแคลนน้ำที่ผ่านมาได้เป็นอย่างดี และได้ช่วยให้คุณภาพชีวิตของเด็ก ๆ และชุมชนดีขึ้นตามลำดับ สุดท้ายนี้ขอขอบคุณกลุ่มอีซูซุที่ได้มอบโอกาสดี ๆ ให้กับพวกเรา

     

    โครงการ “อีซูซุให้น้ำ…เพื่อชีวิต” เป็นโครงการระยะยาวที่กลุ่มอีซูซุมุ่งมั่นตามปณิธานที่ได้ตั้งไว้ว่า จะดำเนินโครงการนี้จนกว่าจะไม่มีโรงเรียนในประเทศไทยประสบปัญหาเรื่องน้ำดื่มสะอาดอีกต่อไป เพื่อตอบแทนสังคมโดยมีเป้าหมายที่จะบรรเทาความเดือดร้อนปัญหาการขาดแคลนน้ำดื่มสะอาดให้หมดไป อีซูซุยังมุ่งเน้นแนวคิด Isuzu Trusted Buddy…อีซูซุเคียงข้างคุณ เคียงคู่ไทย” ตอกย้ำคุณค่าแบรนด์อีซูซุที่อยู่เคียงข้างคนไทย และเติบโตคู่สังคมไทย ที่ไม่เพียงแต่มุ่งเน้นการทำธุรกิจในประเทศไทยเท่านั้น แต่ยังมุ่งมั่นที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนประเทศไทยต่อในอนาคตอย่างยั่งยืน


    ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย

    Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
    Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
    Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
    instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
    Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
    Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
    Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine


    No Comment
  • มาสด้าเสริมศักยภาพความแข็งแกร่งให้บุคลากรระดับผู้นำองค์กร

    1 Min Read

    มาสด้าเสริมศักยภาพความแข็งแกร่งให้บุคลากรระดับผู้นำองค์กร

    มาสด้าประกาศรวมพลคนแถวหน้าส่งมอบนโยบายการดำเนินธุรกิจให้เติบโตแบบยั่งยืน ด้วยการยกระดับประสบการณ์และถ่ายทอดคุณค่าแบรนด์อันเป็นเอกลักษณ์ไปสู่ลูกค้า เดินหน้าพัฒนาทีมเวิร์คให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น จัดสัมมนาเพื่อพัฒนาบุคลากรของผู้จำหน่ายมาสด้าในระดับผู้นำ ประจำปี 2568 หรือ Mazda National Dealer Leadership Seminar ภายใต้ธีม “Drive Customer Experience Forward” ผู้นำยุคใหม่พร้อมพลิกโฉมเพื่อขับเคลื่อนประสบการณ์ลูกค้าที่เหนือกว่า โดยถ่ายทอดวิสัยทัศน์และยกระดับคุณค่าแบรนด์มาสด้าอย่างต่อเนื่อง

    พร้อมขับเคลื่อนวิถีการทำงานตามแนวทางการปฏิรูปองค์กร (Business Transformation) ด้วยคุณค่าหลัก 3 ประการ คือ Brand & Culture, People และ Mazda Experience Touchpoint เพื่อสร้างสรรค์ประสบการณ์ใหม่ให้ลูกค้าได้สัมผัสแบบไร้รอยต่อ โดยเฉพาะการเชื่อมโยงเทคโนโลยีดิจิทัลมาสร้างประสบการณ์ ณ จุดขาย พร้อมส่งมอบความสุขและยกระดับประสบการณ์ให้กับลูกค้ามาสด้าทั่วประเทศ โดยมีบุคลากรระดับผู้นำทีมของผู้จำหน่ายมาสด้า ทั้งฝ่ายขาย ฝ่ายบริการลูกค้า ฝ่ายซ่อมตัวถังและสี และฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์ เข้าร่วมกิจกรรมกว่า 350 คน โดยจัดขึ้น ณ โรงแรม Grand Richmond ระหว่างวันที่ 8-9 กันยายน 2568 ที่ผ่านมา

    นายธีร์ เพิ่มพงศ์พันธ์ ประธานกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า การพัฒนาและยกระดับศักยภาพบุคลากรให้มีความพร้อมอยู่เสมอ คือ หัวใจสำคัญในการดำเนินธุรกิจ เพื่อส่งมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดและมีความหมายให้กับลูกค้า ตามที่มาสด้าได้ประกาศนโยบายใหม่ในการปรับเปลี่ยนองค์กรสู่ความยั่งยืน ทั้งนี้ มาสด้าได้ขับเคลื่อนกลยุทธ์ต่าง ๆ อย่างเต็มกำลัง เพื่อเสริมประสิทธิภาพในทุกภาคส่วนของการทำงาน โดยผสานความร่วมมือกับผู้จำหน่ายทั่วประเทศ เพื่อนำนโยบายเหล่านี้ไปเป็นหลักปฏิบัติในการทำงานให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับลูกค้า มุ่งสู่เป้าหมายสูงสุดของแบรนด์ นั่นคือ Top Customer Retention Brand อันส่งผลต่อการสร้างแบรนด์และธุรกิจที่ยั่งยืนอย่างแท้จริง

    งานสัมมนาจัดขึ้นเพื่อเสริมสร้างศักยภาพบุคลากรของผู้จำหน่ายมาสด้าในระดับผู้นำ ประจำปี 2568 มีวัตถุประสงค์หลักคือการถ่ายทอดนโยบายการทำงานประจำปี และต่อยอดไปสู่การยกระดับคุณค่าแบรนด์ให้กับบุคลากรระดับผู้นำองค์กรของผู้จำหน่าย ทั้งฝ่ายขาย ฝ่ายบริการลูกค้า ฝ่ายซ่อมตัวถังและสี และฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์ ซึ่งเป็นบุคลากรแถวหน้าที่ลูกค้าได้สัมผัสโดยตรงให้มีความพร้อมและเข้าใจถึงแนวทางการปฏิบัติในทิศทางเดียวกัน รวมถึงการถ่ายทอดและผลักดันนโนบายต่าง ๆ สู่บุคลากรมาสด้าทั่วประเทศ ให้สามารถส่งมอบประสบการณ์ที่มีความหมายให้กับลูกค้าด้วยคุณค่าแบรนด์มาสด้าที่มีเอกลักษณ์ รวมถึงการนำเครื่องมือใหม่ ๆ และข้อมูลต่าง ๆ มาสร้างสรรค์ประสบการณ์รูปแบบใหม่ให้กับลูกค้าแบบไร้รอยต่อ พร้อมเชื่อมโยงทั้งด้านออนไลน์และออฟไลน์ โดยมีองค์ประกอบหลัก 3 ประการ ดังนี้

    • Brand & Culture: การถ่ายทอดคุณค่าและดีเอ็นเอของแบรนด์มาสด้า เพื่อยึดถือเป็นหลักเดียวกันในการปฏิบัติงานของผู้จำหน่ายทั่วประเทศ
    • People: การปรับกระบวนการทำงาน เพื่อเพิ่มศักยภาพ ทักษะ และความรู้ เพื่อส่งมอบประสบการณ์ใหม่ให้กับลูกค้าอย่างสร้างสรรค์ และมุ่งขับเคลื่อนการทำงานโดยมีลูกค้าเป็นศูนย์กลางในทุกบริบท
    • Mazda Experience Touchpoint: การส่งมอบประสบการณ์ใหม่ ๆ ผ่านการรับฟังเสียงของลูกค้าและแฟนมาสด้า หรือ Voice of Fans เพื่อนำมาพัฒนาปรับปรุงให้เกิดประสบการณ์ที่ดีอย่างต่อเนื่องและไร้รอยต่อ ด้วยคุณค่าที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของแบรนด์มาสด้าผ่านเครื่องมือดิจิทัลและเทคโนโลยีต่างๆ

    ทั้งนี้ เพื่อให้เข้าถึงประสบการณ์ลูกค้าได้ครบทุกมิติ มาสด้ายังได้รวบรวมทีมบุคลากรมาสด้าชั้นเลิศที่ใกล้ชิดกับลูกค้าและมีผลงานโดดเด่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการดูแลและส่งมอบประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้าอย่างต่อเนื่อง มาร่วมออกแบบการทำงานและยกระดับประสบการณ์ลูกค้าทั่วประเทศให้ราบรื่นต่อเนื่อง

    งานสัมมนาครั้งนี้ บุคลากรมาสด้าทั่วประเทศยังได้แสดงพลังกันส่งมอบคำมั่นสัญญา เพื่อมุ่งมั่นและตั้งใจส่งมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า โดยร่วมกันเขียนข้อความที่เป็นคำมั่นสัญญาพร้อมเติมเต็มรอยยิ้มให้ลูกค้ามาสด้าของเรา นำโดย นายธีร์ เพิ่มพงศ์พันธ์ ประธานกรรมการบริหารและซีอีโอ ด้วยการเขียนข้อความ คอมมิสเม้นต์ “Your Happiness is My Happiness – ความสุขของลูกค้า คือความสุขของเรา” ซึ่งไม่ได้เป็นแค่คำมั่นสัญญาส่วนตัวเท่านั้น หากแต่ยังสะท้อนถึงความรู้สึกในใจของบุคลากรมาสด้าทั่วประเทศด้วยเช่นกัน เพื่อมุ่งมั่นและทุ่มเทในการยกระดับประสบการณ์ของลูกค้าให้ดียิ่งขึ้น   ซึ่งคำมั่นที่ร่วมกันนี้สะท้อนให้เห็นถึงคุณค่าหลักและแก่นแท้ของแบรนด์มาสด้าที่ทุกคนยึดถือมาโดยตลอด และพร้อมส่งมอบให้แก่ลูกค้าทุกคน

    บุคลากรระดับผู้นำของผู้จำหน่าย ถือเป็นหัวใจสำคัญในการถ่ายทอดและส่งต่อคุณค่าหลักของแบรนด์ และนำนโยบายต่าง ๆ ไปประยุกต์ใช้ในการสร้างสรรค์ปรับเปลี่ยนประสบการณ์ลูกค้ารูปแบบใหม่ ๆ  และนำมาพัฒนาประสบการณ์ของลูกค้าในทุก ๆ ขั้นตอน เพื่อให้มั่นใจได้ว่าทุกครั้งที่ลูกค้ามีปฏิสัมพันธ์กับแบรนด์มาสด้า จะนำมาซึ่งคุณค่าและประสบการณ์ความสุขจากการเป็นเจ้าของรถยนต์มาสด้า เพื่อให้มาสด้ากลายเป็น Top Customer Retention Brand อันเป็นเป้าหมายสูงสุด มุ่งสู่อนาคตที่ยั่งยืน ทั้งนี้ มาสด้าจะยังคงมุ่งมั่นเดินหน้าผลักดันกลยุทธ์ในด้านต่าง ๆ อย่างเต็มกำลัง เพื่อให้มั่นใจว่าลูกค้าจะได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุดและได้รับความสุขจากการเป็นเจ้าของรถยนต์มาสด้าตลอดไป ภายใต้ปรัชญา Joy Drives Lives ความสุขขับเคลื่อนชีวิต


    ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย

    Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
    Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
    Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
    instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
    Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
    Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
    Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine


    No Comment
  • MICHELIN PASSION EXPERIENCE 2025 นำเสนอประสบการณ์ขับรถมาราธอนประเภท Endurance เต็มรูปแบบ ณ ประเทศจีน

    1 Min Read

    MICHELIN PASSION EXPERIENCE 2025 นำเสนอประสบการณ์ขับรถมาราธอนประเภท Endurance เต็มรูปแบบ ณ ประเทศจีน

    ในปีนี้ มิชลิน แพสชั่น เอ็กซ์พีเรียนซ์ (Michelin Passion Experience) งานสุดเอ็กซ์คลูซีฟที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี ได้เลือกเมืองเส้าซิง ในมณฑลเจ้อเจียง ประเทศจีน เป็นที่จัดงานและต้อนรับแขกคนสำคัญกว่า 200 คน จาก 8 ประเทศ เช่น ประเทศไทย, ออสเตรเลีย, เกาหลี, มาเลเซีย, ฟิลิปปินส์, และเวียดนาม เข้าร่วมสัมผัสประสบการณ์สุดพิเศษ ณ สนามแข่งรถนานาชาติ เจ้อเจียง (Zhejiang International Circuit) ซึ่งได้รับการรับรองมาตรฐานสากล FIA Grade 2 จากสมาพันธ์ยานยนต์นานาชาติ (FIA) โดยมีความยาว 3,200 กิโลเมตร และมีโค้งหลากรูปแบบเพื่อพิสูจน์ทักษะความแม่นยำในการขับขี่รวม 16 โค้ง

     

    งานในปีนี้เปลี่ยนรูปแบบโดยมุ่งนำเสนอประสบการณ์ขับรถมาราธอนประเภท Endurance แทนการ แข่งรถประลองความเร็วทั่วไป เปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมต้องทำรอบให้ได้มากที่สุดภายในเวลาที่กำหนด โดยแบ่งออกเป็นทีม แต่ละทีมใช้รถคันเดียวและผลัดกันขับ จึงเป็นประสบการณ์สุดท้าทายร่วมกันซึ่งความสำเร็จจะเกิดขึ้นได้จากการทำงานเป็นทีม การวางแผนเชิงกลยุทธ์ และสมรรถนะที่ดีเยี่ยมสม่ำเสมอของรถ…ไม่ใช่เรื่องความเร็วเพียงอย่างเดียว

    นอกจากนี้ ยังเป็นโอกาสพิเศษครั้งหนึ่งในชีวิตที่ผู้เข้าร่วมจะได้สัมผัสประสบการณ์ตรงจากการขับรถมาราธอน ด้วย Hyundai Avante N1 Cup รถแข่งรุ่นล่าสุดที่ติดตั้งยาง ‘มิชลิน ไพลอต ซูเปอร์ สปอร์ต(MICHELIN Pilot Super Sport) ยางสปอร์ตสมรรถนะสูงพิเศษที่พัฒนาจากสนามแข่งรถมาราธอน เพื่อความเร้าใจในการขับขี่ ยางรุ่นนี้ไม่เพียงมอบสมรรถนะการควบคุมบนถนนแห้งและการยึดเกาะบนถนนเปียกที่เป็นเยี่ยม แต่ยังให้ความมั่นใจเหนือระดับในการเข้าโค้งและเร่งความเร็วบนทางตรง

     

    นอกจากลงสนามแข่งจริงแล้ว ผู้ที่ได้รับเชิญเข้าร่วมงานยังจะได้ซึมซับจิตวิญญาณการขับรถมาราธอนประเภท Endurance ของมิชลินที่สืบทอดมายาวนาน ผ่านนิทรรศการที่เต็มไปด้วยเรื่องราวน่าสนใจและกิจกรรมเชิงปฏิสัมพันธ์หลายรูปแบบเกี่ยวกับทักษะความรู้ด้านการขับรถมาราธอน โดยทุกกิจกรรมภายในงานล้วนตอกย้ำแนวคิด “มิชลิน…ยางที่ให้ความมั่นใจได้ยาวนานเหนือกว่า” (Trust Michelin Tire for Longer) ซึ่งชี้ให้เห็นจุดเด่นของยางมิชลินในเรื่องสมรรถนะที่ดีเยี่ยมยาวนานและความปลอดภัยที่เชื่อถือได้

     

    คลิกดาวน์โหลดภาพจากงานมิชลิน แพสชั่น เอ็กซ์พีเรียนซ์ประจำปี 2568 เพื่อชมสีสันและบรรยากาศของกิจกรรมต่างๆ ซึ่งสะท้อนความหลงใหลในกีฬามอเตอร์สปอร์ตอย่างลึกซึ้ง


    ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย

    Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
    Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
    Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
    instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
    Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
    Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
    Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine


    No Comment
  • GWM ไขข้อสงสัย การรับประกันเครื่องยนต์ดีเซลสูงสุดในไทย 1 ล้านกิโลเมตร

    1 Min Read

     GWM ไขข้อสงสัย การรับประกันเครื่องยนต์ดีเซลสูงสุดในไทย 1 ล้านกิโลเมตร

    GWM (Thailand) ยกระดับสู่การเป็นแบรนด์รถยนต์ที่มีผลิตภัณฑ์ครอบคลุมทุกประเภทพลังงานที่ตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานทั่วทุกมุมโลก ด้วยแนวคิด “ครอบคลุมทุกการใช้งาน (All Scenarios) ด้วยผลิตภัณฑ์ที่ครอบคลุมทุกพลังงาน (All Powertrains) สู่การตอบสนองทุกกลุ่มผู้ใช้งานอย่างแท้จริง (All Users)” ล่าสุด GWM (Thailand) เผยถึงข้อกังวลของผู้ใช้งานรถยนต์ดีเซลในไทยที่ตั้งคำถามเกี่ยวกับความมั่นใจในการใช้รถยนต์ดีเซล โดยเฉพาะเมื่อระยะการใช้งานเกินกว่าระยะเวลารับประกัน 150,000 กิโลเมตร หรือรถมีอายุการใช้งานเกิน 5 ปี ซึ่งมักเป็นมาตรฐานที่ค่ายรถในวงการรถยนต์ดีเซลได้กำหนดไว้ หลังจากถึง ‘ระยะวิกฤต’ ดังกล่าวแล้วนั้น ผู้ใช้งานจะรู้สึกกังวลและไม่มั่นใจเนื่องจากการบำรุงรักษาและซ่อมแซมที่จะตามมาในจำนวนมาก เพื่อแก้ปัญหาและคลายความกังวลใจนี้  GWM (Thailand) ชูจุดแข็งของนวัตกรรมเครื่องยนต์ดีเซล 2.4T ที่พัฒนาและคิดค้นขึ้นเอง โดยอยู่ในรถยนต์ SUV ทั้ง 2 รุ่น ได้แก่ GWM TANK 300 DIESEL และ NEW GWM TANK 500 DIESEL เพื่อมอบความมั่นใจแม้จะใช้งานเกินระยะรับประกันที่รถยนต์ดีเซลในตลาดทั่วไปมักกำหนดไว้ กับระยะเวลาการรับประกันเครื่องยนต์ดีเซลถึง 1,000,000 กิโลเมตร หรือ 8 ปี* (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน) ตอบโจทย์ผู้ใช้งานหนักและสายลุยที่ต้องการความอุ่นใจและเชื่อมั่นในการใช้งานในระยะยาว

    เครื่องยนต์ดีเซล 2.4T เจนเนอเรชั่นใหม่ล่าสุด คำตอบที่ใช่ด้านคุณภาพและความทนทาน

    หนึ่งความกังวลใจของผู้ใช้งานในไทย คือ ความไม่มั่นใจในเทคโนโลยีดีเซลจากประเทศจีน ทั้งนี้ GWM เป็นแบรนด์ที่เกิด
    และเติบโตมาจากเครื่องยนต์ดีเซล ด้วยรากฐานอันแข็งแกร่งในประเทศจีนกว่า 30 ปี การันตีด้วยผู้ใช้เครื่องยนต์ดีเซลเกือบ
    2 ล้านคน ใน 170 ประเทศและทุกภูมิภาคทั่วโลก โดยเฉพาะประเทศแอฟริกาใต้ ละตินอเมริกา สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
    และรัสเซีย ซึ่งเป็นเครื่องยืนยันถึงความนิยมและความน่าเชื่อถือของเครื่องยนต์ดีเซลของ GWM ในระดับโลก

     

    สำหรับเครื่องยนต์ดีเซล 2.4T เจนเนอเรชันใหม่ล่าสุด มาพร้อมระบบเทอร์โบแปรผัน มอบพละกำลังสูงสุดถึง 184 แรงม้า
    ที่ 3,600 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุด 480 นิวตันเมตรแบบต่อเนื่องหรือแฟตทอร์คที่ 1,500-2,500 รอบต่อนาที  ทำให้การออกตัวและการขับขี่ในพื้นที่ที่มีความท้าทายเป็นไปได้อย่างง่ายดาย นอกจากนั้นเกียร์อัตโนมัติ 9 สปีดที่มีช่วงอัตราทดเกียร์ที่กว้างถึง 8.843 ทำให้รถสามารถเปลี่ยนเป็นเกียร์ 9 ได้ที่ความเร็วเพียง 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ช่วยให้เครื่องยนต์สามารถปรับอัตราการเปลี่ยนเกียร์ให้เหมาะสมกับการขับขี่ในแต่ละสภาพถนน และสอดคล้องกับการทำงานของเครื่องยนต์เพื่อลดการใช้พลังงานที่ไม่จำเป็นออกไป เครื่องยนต์ดีเซล 2.4T ใหม่ของ GWM มาพร้อมกับเทคโนโลยีลดการสั่นสะเทือนของเครื่องยนต์และลดเสียงรบกวน NVH (Noise, Vibration, Harshness) ที่ยอดเยี่ยม ด้วยการออกแบบใหม่ของท่อไอเสีย เพลาลูกเบี้ยว
    ปั๊มน้ำมันเครื่อง ท่อน้ำมันแรงดันสูง สายพาน Timing และ Balance Shaft จึงทำให้ห้องเครื่องยนต์มีระดับเสียงต่ำกว่า 68 เดซิเบลในช่วง idle speed ให้ประสบการณ์การขับขี่ที่เงียบสงบ นิ่ง ไม่สั่น ช่วยให้การเดินทางเป็นไปอย่างราบรื่นและสะดวกสบาย

     

    และเพื่อยืนยันประสิทธิภาพดังกล่าว เครื่องยนต์ดีเซล 2.4T ยังผ่านการทดสอบในสภาพอากาศหนาวและร้อนสุดขั้ว 300 ชั่วโมง ทดสอบการทำงานที่ความเร็วรอบสูงสุด 500 ชั่วโมง ทดสอบการรับน้ำหนักในสภาวะต่าง ๆ 650 ชั่วโมง รวมถึงการทดสอบในสภาพถนนและสภาพแวดล้อมที่แตกต่างกันถึง 76 รูปแบบทั่วโลก โดยมีระยะทางรวม 6 ล้านกิโลเมตร ซึ่งการทดสอบเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงคุณภาพและความทนทานเพื่อรองรับการใช้งานหนักในระยะยาว ภายใต้สภาพถนน
    ที่หลากหลายและท้าทายของประเทศไทย ไม่ว่าจะขับขี่ในเมืองหรือออกทริปต่างจังหวัดแบบสมบุกสมบัน

    เหนือกว่าเครื่องยนต์ดีเซลในตลาด GWM กล้ารับประกันเครื่องยนต์ดีเซลยาวนานที่สุดในไทย

    GWM TANK 300 DIESEL และ NEW GWM TANK 500 DIESEL มีการรับประกันเครื่องยนต์ที่ยาวนานที่สุดในไทย โดยกล้ารับประกันเครื่องยนต์ดีเซลถึง 1 ล้านกิโลเมตร หรือ 8 ปี (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน) โดยครอบคลุมชิ้นส่วนหลักของเครื่องยนต์ 5 ส่วน ได้แก่

    1. ฝาครอบฝาสูบเครื่องยนต์และชิ้นส่วนภายใน
    2. ฝาสูบเครื่องยนต์และชิ้นส่วนภายใน
    3. เสื้อสูบเครื่องยนต์ส่วนบนและชิ้นส่วนภายใน
    4. เสื้อสูบเครื่องยนต์ส่วนล่างและชิ้นส่วนภายใน
    5. อ่างน้ำมันเครื่องยนต์และชิ้นส่วนภายใน

     

    การกล้ารับประกันเครื่องยนต์ดีเซลในระยะทางยาวนานถึง 1 ล้านกิโลเมตร หรือ 8 ปี* คือการตอกย้ำถึงความมั่นใจในคุณภาพและความทนทานของเครื่องยนต์ และเป็นการสะท้อนความจริงใจของ GWM (Thailand) ที่ต้องการดูแลลูกค้าในระยะยาว
    และสร้างความมั่นใจสูงสุดให้แก่ผู้ใช้งาน ว่าการเลือก GWM TANK Series คือการลงทุนในการใช้ชีวิตและการเดินทางที่ชาญฉลาดและยั่งยืน สำหรับผู้ที่สนใจ GWM TANK 300 DIESEL และ NEW GWM TANK 500 DIESEL สามารถทดลองขับได้ที่ GWM Partner Store ทั้ง 72 แห่งทั่วประเทศ หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ GWM Application, www.gwm.co.th หรือ GWM Contact Center 02-668-8888

     

    #GWMTANK300DIESEL #NEWGWMTANK500DIESEL #GWMTANK #GWMThailand


    ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย

    Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
    Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
    Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
    instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
    Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
    Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
    Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine


    No Comment
  • ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ ผนึกกรมการขนส่งฯ จัดศึกคิงออฟแชมป์ ISUZU EURO 5 MAX รอบชิงชนะเลิศ ชิงรางวัลรวม 1 ล้านบาท

    1 Min Read

    ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ ผนึกกรมการขนส่งฯ จัดศึกคิงออฟแชมป์ ISUZU EURO 5 MAX รอบชิงชนะเลิศ ชิงรางวัลรวม 1 ล้านบาท

    บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด โดยการสนับสนุนอย่างเป็นทางการจาก กรมการขนส่งทางบก จัดการแข่งขัน “อีซูซุยอดนักขับมือทอง” ครั้งที่ 18 รอบชิงชนะเลิศ หรือ “ศึกคิงออฟแชมป์ ISUZU EURO 5 MAX” ประจำปี 2568 ชิงเงินรางวัลรวมมูลค่า 1 ล้านบาท พร้อมโล่เกียรติยศ ณ สนามทดสอบไทย        บริดจสโตน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

    กลุ่มตรีเพชร โดย มร. ทาคาชิ ฮาตะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด เผยว่า “อีซูซุมีความภาคภูมิใจที่ได้จัดการแข่งขัน ‘อีซูซุยอดนักขับมือทอง รอบชิงชนะเลิศ’ หรือ ‘ศึกคิงออฟแชมป์ ISUZU EURO 5 MAX’ ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งเวทีสำคัญที่สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของอีซูซุในการพัฒนามาตรฐานผู้ขับขี่รถบรรทุกไทยให้มีทั้งความเชี่ยวชาญ ความปลอดภัย และความเป็นมืออาชีพ อันจะนำไปสู่การยกระดับวงการโลจิสติกส์ของประเทศไทยให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น การแข่งขันในปีนี้จัดขึ้นโดยได้นำรถบรรทุก ISUZU King of Trucks EURO 5 MAX ที่ครองความนิยมสูงสุดในประเทศไทยมาใช้ในการชิงชัย รถรุ่นนี้เป็นนวัตกรรมที่ตอบโจทย์ผู้ประกอบการยุคใหม่ได้อย่างแท้จริง ด้วยสมรรถนะที่ทรงพลัง ประหยัดน้ำมันสูงสุด และผ่านมาตรฐานไอเสีย Euro 5 โดยไม่จำเป็นต้องใช้น้ำยาบำบัดไอเสีย (AdBlue) ช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ขณะเดียวกันยังคงคุณภาพและความทนทานที่ผู้ใช้รถบรรทุกอีซูซุไว้วางใจมาอย่างยาวนาน พร้อมกันนี้อีซูซุยังได้นำเสนอ Isuzu Life Cycle Solutions โซลูชันส์ที่สนับสนุนผู้ใช้รถอีซูซุตลอดการใช้งานให้ดำเนินธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ครอบคลุมตั้งแต่การเลือกซื้อรถ กระบวนการลดต้นทุน พร้อมให้คำแนะนำด้านบริการหลังการขายที่มีมาตรฐาน ซึ่งถือเป็นกลยุทธ์ควมคุมค่าใช้จ่ายจากต้นน้ำสู่ปลายน้ำ ให้ผู้ประกอบการได้อย่างแท้จริง

              อีซูซุเชื่อมั่นว่าการแข่งขันครั้งนี้ จะไม่เพียงค้นหาสุดยอดนักขับมือทอง แต่ยังเป็นอีกหนึ่งแรงผลักดันที่ช่วยตอกย้ำความแข็งแกร่งของวงการขนส่งไทย และตอกย้ำบทบาทของอีซูซุในฐานะผู้นำตลาดรถบรรทุกที่พร้อมเคียงข้างผู้ประกอบการไทยไปทุกเส้นทางอีกด้วย”

    การแข่งขัน “อีซูซุยอดนักขับมือทอง 2568” แบ่งออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่ ประเภทรถหัวลาก  และประเภทรถสิบล้อลากพ่วง โดยเปิดรับสมัครนักขับฝีมือดี และทำการแข่งขันรอบคัดเลือก ตั้งแต่ 28 มิถุนายน –  สิงหาคมที่ผ่านมา รวม 4 สนามระดับภูมิภาค ได้แก่ จ.นครศรีธรรมราช จ.อุดรธานี จ.เชียงใหม่ และ           จ.ชลบุรี ซึ่งผู้เข้าแข่งขันจะต้องผ่านบททดสอบทั้งภาคทฤษฎีอันเข้มข้น ได้แก่ ความรู้เกี่ยวกับกฎหมายด้านการขนส่งและจราจร จิตวิทยา ทักษะการตัดสินใจ รวมถึงความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับการใช้และบำรุงรักษารถประจำวัน และภาคปฏิบัติ ซึ่งจะเป็นการแข่งขันในสถานีทดสอบต่าง ๆ ที่มีความท้าทายเฉพาะทาง อาทิ สถานีการแข่งทักษะการขับเดินหน้า สถานีการแข่งขันทักษะการบังคับเลี้ยว สถานีการแข่งขันทักษะการขับถอยหลัง และสถานีการแข่งขันทักษะการจอด โดยผลการแข่งขัน “อีซูซุยอดนักขับมือทอง” ประจำปี 2568 รอบชิงชนะเลิศ มีดังนี้

    ประเภทรถบรรทุกสิบล้อลากพ่วง

    • ชนะเลิศ : นายสุรศักดิ์ ศิริสาร จาก ห้างหุ้นส่วนจำกัด สยามเค สหขนส่ง

    รับรางวัลเงินสด 100,000 บาท พร้อมโล่เกียรติยศจากอธิบดีกรมการขนส่งทางบก

    • รองชนะเลิศอันดับ 1 : นายสุธี ศิริปรุ จาก ห้างหุ้นส่วนจำกัด จิรพรรุ่งเรือง

    รับรางวัลเงินสด 50,000 บาท พร้อมโล่เกียรติยศจากอธิบดีกรมการขนส่งทางบก

    • รองชนะเลิศอันดับ 2 : นายบุญสาย อันนอก จาก บริษัท เกียรติธนาขนส่ง จำกัด (มหาชน)

    รับรางวัลเงินสด 30,000 บาท พร้อมโล่เกียรติยศจากอธิบดีกรมการขนส่งทางบก

    ประเภทรถบรรทุกหัวลาก

    • ชนะเลิศ : นายธีรพล ไชยรัตน์ จาก บริษัท เตียงน้ำทรานสปอร์ต (ประเทศไทย) จำกัด

    รับรางวัลเงินสด 100,000 บาท พร้อมโล่เกียรติยศจากอธิบดีกรมการขนส่งทางบก

    • รองชนะเลิศอันดับ 1 : นายสมใจ เรืองศิระการกุล จาก บริษัท เจดับเบิ้ลยูดี ทรานสปอร์ค

    (ประเทศไทย) จำกัด

    รับรางวัลเงินสด 50,000 บาท พร้อมโล่เกียรติยศจากอธิบดีกรมการขนส่งทางบก

    • รองชนะเลิศอันดับ 2 : นายยอดรัก นิลคำเมือง จาก ห้างหุ้นส่วนจำกัด ส.เพิ่มทรัพย์ 168

    รับรางวัลเงินสด 30,000 บาท พร้อมโล่เกียรติยศจากอธิบดีกรมการขนส่งทางบก

     

    พร้อมกันนี้อีซูซุได้มอบรางวัลบัตรกำนัลอีซูซุมูลค่า 20,000 บาท ให้แก่เจ้าของกิจการของผู้ชนะเลิศ รองชนะเลิศอันดับ 1 และ 2 ของทั้ง 2 ประเภท อีกด้วย

    นายสุรศักดิ์ ศิริสาร จากห้างหุ้นส่วนจำกัด สยามเค สหขนส่ง เจ้าของตำแหน่งคิงออฟแชมป์ประเภทรถบรรทุกสิบล้อลากพ่วง เผยว่า “การแข่งครั้งนี้ท้าทายมากครับ สถานีที่ยากสำหรับผมที่สุดน่าจะเป็นสถานีสลับช่องจอดเพราะมีจุดบังคับทางมาก ทางแคบ ผมหักเลี้ยวหลายที แต่ผมก็ตั้งใจมากครับแม้จะเคยเข้าร่วมการแข่งขันมา 4-5 ปี ปีนี้ทำสำเร็จคว้ารางวัลชนะเลิศได้แล้วครับ อยากเชิญชวนให้เพื่อน ๆ นักขับรถบรรทุกที่สนใจมาสมัครโครงการอีซูซุยอดนักขับมือทองกันเยอะ ๆ ครับ”

     

    ด้านนายธีรพล ไชยรัตน์ จากบริษัท เตียงน้ำทรานสปอร์ต (ประเทศไทย) จำกัด คิงออฟแชมป์ประเภทรถบรรทุกหัวลาก คนล่าสุด กล่าวถึงการแข่งขันครั้งนี้ว่า “ปีที่แล้วผมก็ร่วมแข่งขันโครงการอีซูซุยอดนักขับมือทอง แต่พลาดไม่ได้แชมป์ ปีนี้จึงไม่พลาดกลับมาแข่งอีกครั้ง และก็คว้าแชมป์ได้สำเร็จ ตั้งใจมาจากบ้านเลยปีนี้ผมเต็มที่มากครับ”

     

              โดยคุณพัฒน์เทพ จันทร์ประภานนท์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอคเซลเล็นซี ออโต้ บิซิเนส จำกัด ได้ร่วมเผยความรู้สึกในฐานะเจ้าของกิจการที่สนับสนุนให้พนักงานเข้าร่วมแข่งขันว่า “อีซูซุยอดนักขับมือทองเป็นโครงการที่ช่วยให้พนักงานที่เข้าร่วมการแข่งขันมีโอกาสได้ฝึกและพัฒนาทักษะการขับขี่ของตัวเองได้ดีขึ้น และยังเป็นแรงบันดาลใจที่ดีพร้อมส่งต่อความรู้ที่ได้จากการแข่งขันให้แก่เพื่อนพนักงานคนอื่น ๆ ด้วย โดยส่วนตัวผมประทับใจอีซูซุอยู่แล้ว โดยเฉพาะโปรแกรมอีซูซุแคร์ โซลูชันส์ดูแลรถครบวงจร ที่ทำให้เราวางใจจนสามารถไปบริหารจัดการด้านการตลาดอื่น ๆ ได้เต็มที่ นอกจากนี้อีซูซุยังสนับสนุนผู้ประกอบการให้เข้าร่วมกิจกรรมที่มีประโยชน์ต่อธุรกิจสม่ำเสมอทุกปีอีกด้วย”

    เช่นเดียวกับคุณนพพล ธนธีระบรรจง และคุณจินตนา สอนคำมูล CEO ห้างหุ้นส่วนจำกัด โชคบรรจงขนส่ง เผยว่า “กิจกรรมแข่งขันอีซูซุยอดนักขับมือทองถือเป็นกิจกรรมที่ดีที่สุดของวงการคนขับรถบรรทุกเมืองไทย เพราะเจ้าของกิจการมีโอกาสได้ส่งพนักงานเข้าฝึกอบรมทักษะและทดสอบ เพื่อการขับขี่ที่ปลอดภัยและมีความรับผิดชอบต่อสังคม พนักงานที่มาแข่งได้รับการอบรม เรื่องการขับขี่ปลอดภัย การขับแบบประหยัดน้ำมัน แล้วยังนำความรู้เหล่านี้ไปบอกต่อกับเพื่อนพนักงานที่บริษัทได้อีก สำหรับผมยังชื่นชอบโซลูชันส์     เทเลเทค ซึ่งเป็น GPS ที่ช่วยส่งเสริมและเตือนการขับขี่ดีให้แก่พนักงาน พร้อมทั้งสามารถวัดผลการขับขี่ด้านต่าง ๆ เป็นคะแนนออกมาเพื่อให้บริษัทใช้ประเมินและปรับปรุงการทำงานของพนักงานขับรถได้ด้วยครับ”

     

    ร่วมติดตามข่าวสารต่าง ๆ ของอีซูซุได้ที่ www.isuzu-tis.com  และ Facebook : Isuzu Trucks Thailand


    ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย

    Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
    Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
    Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
    instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
    Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
    Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
    Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine


    No Comment
  • ฮอนด้า รวมพลังสร้างพื้นที่สีเขียว ผ่านโครงการ ฮอนด้าปลูก “รักษ์” เพื่อโลก พาพนักงานอาสาสมัครร่วมกับชุมชน กว่า 200 คน ปลูกต้นไม้ 3,000 ต้น คืนความสมบูรณ์ให้ป่าชุมชนบ้านหว้าเอน จังหวัดปราจีนบุรี

    1 Min Read

    ฮอนด้า รวมพลังสร้างพื้นที่สีเขียว ผ่านโครงการ ฮอนด้าปลูก “รักษ์” เพื่อโลก พาพนักงานอาสาสมัครร่วมกับชุมชน กว่า 200 คน ปลูกต้นไม้ 3,000 ต้น คืนความสมบูรณ์ให้ป่าชุมชนบ้านหว้าเอน จังหวัดปราจีนบุรี

    บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด สานต่อพันธกิจเพื่อสังคม ร่วมกันสร้างพื้นที่สีเขียวสู่สิ่งแวดล้อม ภายใต้โครงการ ฮอนด้า ปลูก “รักษ์” เพื่อโลก ณ ป่าชุมชนบ้านหว้าเอน จังหวัดปราจีนบุรี ด้วยการปลูกต้นไม้รวมกว่า 3,000 ต้น บนพื้นที่กว่า 13 ไร่ นำโดยนายโคจิ อิวานามิ ประธานกรรมการบริหารและซีอีโอ บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด ร่วมกับสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 9 สาขาปราจีนบุรี และคณะกรรมการป่าชุมชนบ้านหว้าเอน พร้อมด้วยชาวบ้านและอาสาสมัครกว่า 200 คน ร่วมกันปลูกป่า เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คนในชุมชนและสิ่งแวดล้อมที่ดีอย่างยั่งยืนในระยะยาว

    นายโคจิ อิวานามิ ประธานกรรมการบริหารและซีอีโอ บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ฮอนด้ามุ่งมั่นดำเนินธุรกิจตามเป้าหมายฮอนด้าปี พ.ศ. 2593 (Honda Target 2050) ภายใต้ 2 ทิศทาง ทั้งด้านสิ่งแวดล้อมและด้านความปลอดภัย ซึ่งกิจกรรมนี้สะท้อนให้เห็นความยึดมั่นในวิสัยทัศน์ด้านสิ่งแวดล้อม ลดการเกิดคาร์บอนไดออกไซด์ สร้างพื้นที่สีเขียวให้แก่ผืนป่าของชุมชนบ้านหว้าเอน ฮอนด้าหวังเป็นอย่างยิ่งว่าความร่วมมือนี้จะเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนให้สังคมไทยเติบโตอย่างยั่งยืน และเป็นส่วนหนึ่งในการเปลี่ยนผ่านสู่สังคมปลอดมลพิษ (Carbon Neutrality) ให้เกิดขึ้นในอนาคต”

    โครงการ ฮอนด้า ปลูก “รักษ์” เพื่อโลก จัดขึ้นเป็นครั้งแรกในปี 2568 ณ ป่าชุมชนบ้านหว้าเอน จังหวัดปราจีนบุรี ซึ่งเป็นชุมชนใกล้เคียงที่อยู่ในพื้นที่ที่ บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) ส่วนการผลิตดำเนินการอยู่ ซึ่งได้คัดสรรพันธุ์ไม้ท้องถิ่นที่มีคุณค่าทางเศรษฐกิจและสามารถใช้ประโยชน์ได้จริง อาทิเช่น ต้นสัก พะยูง ตะเคียน มะค่าโมง มะขามยักษ์ และขี้เหล็ก ซึ่งเหมาะสมกับสภาพดินและอากาศของป่าเบญจพรรณในพื้นที่ การปลูกป่ามีเป้าหมายเพื่อฟื้นฟูระบบนิเวศให้มีความสมบูรณ์ เพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กับชุมชน ช่วยกักเก็บคาร์บอนไดออกไซด์ รวมถึงลดปัญหาความขัดแย้งระหว่างคนกับสัตว์ป่า  และสร้างแหล่งอาหารที่ยั่งยืน ให้ชุมชนได้พึ่งพิงป่าในการดำรงชีวิตในอนาคต

    นายวีระพันธ์ ดีอ่อน ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี กล่าวว่า “ทางจังหวัดปราจีนบุรี ต้องขอขอบคุณการสนับสนุนจากฮอนด้า ที่เข้ามาเป็นส่วนสำคัญในการสร้างพื้นที่สีเขียวและขับเคลื่อนให้พื้นที่ป่าของจังหวัดปราจีนบุรีมีความยั่งยืน โครงการนี้ไม่เพียงช่วยสร้างระบบนิเวศที่สมบูรณ์ให้กับป่าบ้านหว้าเอน แต่ยังช่วยสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และชุมชน ช่วยลดผลกระทบจากสัตว์ป่า และยกระดับเศรษฐกิจของชุมชนไปพร้อมกัน”

     

    นายมนตรี  ชาญกิจ  ประธานป่าชุมชนบ้านหว้าเอน กล่าวว่า “ชุมชนบ้านหว้าเอนรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ทางภาครัฐและฮอนด้าได้เข้ามาให้การสนับสนุน การร่วมแรงร่วมใจปลูกต้นไม้ในวันนี้ไม่เพียงแต่ช่วยให้ป่ากลับมาอุดมสมบูรณ์ แต่ยังสร้างโอกาสใหม่ๆ ในการสร้างรายได้ที่มั่นคงและยั่งยืนให้กับชุมชนของเราอีกด้วย”

    โดยกิจกรรมนี้ถือเป็นกิจกรรมนำร่องในระยะแรก และมีแผนที่จะสนับสนุนโครงการตามแผนการจัดการ เพื่อสนับสนุนในการปลูก การบำรุง และการดูแลรักษาเพื่อให้กล้าไม้ได้เจริญเติบโตอย่างสมบูรณ์ในระยะยาวอีกด้วย

    ฮอนด้ายังคงยืนหยัดการดำเนินธุรกิจในประเทศไทยและพร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างสังคมที่น่าอยู่ เพื่อเปลี่ยนผ่านสู่สังคมปลอดมลพิษ (Carbon Neutrality) รวมถึงมุ่งมั่นที่จะสร้างสังคมปลอดอุบัติเหตุ (Zero Traffic Collision Fatalities)  ให้เกิดขึ้นในอนาคต โดยพร้อมเติบโตเคียงข้างสังคมไทย เพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืนและสานต่อพันธกิจในฐานะองค์กรที่สังคมต้องการให้ดำรงอยู่ต่อไป


    ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย

    Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
    Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
    Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
    instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
    Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
    Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
    Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine


    No Comment
  • มาสด้าเสริมศักยภาพความแข็งแกร่งให้บุคลากรระดับผู้นำองค์กร จัดสัมมนาถ่ายทอดวิสัยทัศน์และมอบนโยบายส่งมอบความสุขให้ลูกค้า

    1 Min Read

    มาสด้าเสริมศักยภาพความแข็งแกร่งให้บุคลากรระดับผู้นำองค์กร จัดสัมมนาถ่ายทอดวิสัยทัศน์และมอบนโยบายส่งมอบความสุขให้ลูกค้า

    มาสด้าประกาศรวมพลคนแถวหน้าส่งมอบนโยบายการดำเนินธุรกิจให้เติบโตแบบยั่งยืน ด้วยการยกระดับประสบการณ์และถ่ายทอดคุณค่าแบรนด์อันเป็นเอกลักษณ์ไปสู่ลูกค้า เดินหน้าพัฒนาทีมเวิร์คให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น จัดสัมมนาเพื่อพัฒนาบุคลากรของผู้จำหน่ายมาสด้าในระดับผู้นำ ประจำปี 2568 หรือ Mazda National Dealer Leadership Seminar ภายใต้ธีม “Drive Customer Experience Forward” ผู้นำยุคใหม่พร้อมพลิกโฉมเพื่อขับเคลื่อนประสบการณ์ลูกค้าที่เหนือกว่า โดยถ่ายทอดวิสัยทัศน์และยกระดับคุณค่าแบรนด์มาสด้าอย่างต่อเนื่อง

    พร้อมขับเคลื่อนวิถีการทำงานตามแนวทางการปฏิรูปองค์กร (Business Transformation) ด้วยคุณค่าหลัก 3 ประการ คือ Brand & Culture, People และ Mazda Experience Touchpoint เพื่อสร้างสรรค์ประสบการณ์ใหม่ให้ลูกค้าได้สัมผัสแบบไร้รอยต่อ โดยเฉพาะการเชื่อมโยงเทคโนโลยีดิจิทัลมาสร้างประสบการณ์ ณ จุดขาย พร้อมส่งมอบความสุขและยกระดับประสบการณ์ให้กับลูกค้ามาสด้าทั่วประเทศ โดยมีบุคลากรระดับผู้นำทีมของผู้จำหน่ายมาสด้า ทั้งฝ่ายขาย ฝ่ายบริการลูกค้า ฝ่ายซ่อมตัวถังและสี และฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์ เข้าร่วมกิจกรรมกว่า 350 คน โดยจัดขึ้น ณ โรงแรม Grand Richmond ระหว่างวันที่ 8-9 กันยายน 2568 ที่ผ่านมา

    นายธีร์ เพิ่มพงศ์พันธ์ ประธานกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า การพัฒนาและยกระดับศักยภาพบุคลากรให้มีความพร้อมอยู่เสมอ คือ หัวใจสำคัญในการดำเนินธุรกิจ เพื่อส่งมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดและมีความหมายให้กับลูกค้า ตามที่มาสด้าได้ประกาศนโยบายใหม่ในการปรับเปลี่ยนองค์กรสู่ความยั่งยืน ทั้งนี้ มาสด้าได้ขับเคลื่อนกลยุทธ์ต่าง ๆ อย่างเต็มกำลัง เพื่อเสริมประสิทธิภาพในทุกภาคส่วนของการทำงาน โดยผสานความร่วมมือกับผู้จำหน่ายทั่วประเทศ เพื่อนำนโยบายเหล่านี้ไปเป็นหลักปฏิบัติในการทำงานให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับลูกค้า มุ่งสู่เป้าหมายสูงสุดของแบรนด์ นั่นคือ Top Customer Retention Brand อันส่งผลต่อการสร้างแบรนด์และธุรกิจที่ยั่งยืนอย่างแท้จริง

    งานสัมมนาจัดขึ้นเพื่อเสริมสร้างศักยภาพบุคลากรของผู้จำหน่ายมาสด้าในระดับผู้นำ ประจำปี 2568 มีวัตถุประสงค์หลักคือการถ่ายทอดนโยบายการทำงานประจำปี และต่อยอดไปสู่การยกระดับคุณค่าแบรนด์ให้กับบุคลากรระดับผู้นำองค์กรของผู้จำหน่าย ทั้งฝ่ายขาย ฝ่ายบริการลูกค้า ฝ่ายซ่อมตัวถังและสี และฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์ ซึ่งเป็นบุคลากรแถวหน้าที่ลูกค้าได้สัมผัสโดยตรงให้มีความพร้อมและเข้าใจถึงแนวทางการปฏิบัติในทิศทางเดียวกัน รวมถึงการถ่ายทอดและผลักดันนโนบายต่าง ๆ สู่บุคลากรมาสด้าทั่วประเทศ ให้สามารถส่งมอบประสบการณ์ที่มีความหมายให้กับลูกค้าด้วยคุณค่าแบรนด์มาสด้าที่มีเอกลักษณ์ รวมถึงการนำเครื่องมือใหม่ ๆ และข้อมูลต่าง ๆ มาสร้างสรรค์ประสบการณ์รูปแบบใหม่ให้กับลูกค้าแบบไร้รอยต่อ พร้อมเชื่อมโยงทั้งด้านออนไลน์และออฟไลน์ โดยมีองค์ประกอบหลัก 3 ประการ ดังนี้

    • Brand & Culture: การถ่ายทอดคุณค่าและดีเอ็นเอของแบรนด์มาสด้า เพื่อยึดถือเป็นหลักเดียวกันในการปฏิบัติงานของผู้จำหน่ายทั่วประเทศ
    • People: การปรับกระบวนการทำงาน เพื่อเพิ่มศักยภาพ ทักษะ และความรู้ เพื่อส่งมอบประสบการณ์ใหม่ให้กับลูกค้าอย่างสร้างสรรค์ และมุ่งขับเคลื่อนการทำงานโดยมีลูกค้าเป็นศูนย์กลางในทุกบริบท
    • Mazda Experience Touchpoint: การส่งมอบประสบการณ์ใหม่ ๆ ผ่านการรับฟังเสียงของลูกค้าและแฟนมาสด้า หรือ Voice of Fans เพื่อนำมาพัฒนาปรับปรุงให้เกิดประสบการณ์ที่ดีอย่างต่อเนื่องและไร้รอยต่อ ด้วยคุณค่าที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของแบรนด์มาสด้าผ่านเครื่องมือดิจิทัลและเทคโนโลยีต่างๆ

    ทั้งนี้ เพื่อให้เข้าถึงประสบการณ์ลูกค้าได้ครบทุกมิติ มาสด้ายังได้รวบรวมทีมบุคลากรมาสด้าชั้นเลิศที่ใกล้ชิดกับลูกค้าและมีผลงานโดดเด่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการดูแลและส่งมอบประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้าอย่างต่อเนื่อง มาร่วมออกแบบการทำงานและยกระดับประสบการณ์ลูกค้าทั่วประเทศให้ราบรื่นต่อเนื่อง

    งานสัมมนาครั้งนี้ บุคลากรมาสด้าทั่วประเทศยังได้แสดงพลังกันส่งมอบคำมั่นสัญญา เพื่อมุ่งมั่นและตั้งใจส่งมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า โดยร่วมกันเขียนข้อความที่เป็นคำมั่นสัญญาพร้อมเติมเต็มรอยยิ้มให้ลูกค้ามาสด้าของเรา นำโดย นายธีร์ เพิ่มพงศ์พันธ์ ประธานกรรมการบริหารและซีอีโอ ด้วยการเขียนข้อความ คอมมิสเม้นต์ “Your Happiness is My Happiness – ความสุขของลูกค้า คือความสุขของเรา” ซึ่งไม่ได้เป็นแค่คำมั่นสัญญาส่วนตัวเท่านั้น หากแต่ยังสะท้อนถึงความรู้สึกในใจของบุคลากรมาสด้าทั่วประเทศด้วยเช่นกัน เพื่อมุ่งมั่นและทุ่มเทในการยกระดับประสบการณ์ของลูกค้าให้ดียิ่งขึ้น   ซึ่งคำมั่นที่ร่วมกันนี้สะท้อนให้เห็นถึงคุณค่าหลักและแก่นแท้ของแบรนด์มาสด้าที่ทุกคนยึดถือมาโดยตลอด และพร้อมส่งมอบให้แก่ลูกค้าทุกคน

    บุคลากรระดับผู้นำของผู้จำหน่าย ถือเป็นหัวใจสำคัญในการถ่ายทอดและส่งต่อคุณค่าหลักของแบรนด์ และนำนโยบายต่าง ๆ ไปประยุกต์ใช้ในการสร้างสรรค์ปรับเปลี่ยนประสบการณ์ลูกค้ารูปแบบใหม่ ๆ  และนำมาพัฒนาประสบการณ์ของลูกค้าในทุก ๆ ขั้นตอน เพื่อให้มั่นใจได้ว่าทุกครั้งที่ลูกค้ามีปฏิสัมพันธ์กับแบรนด์มาสด้า จะนำมาซึ่งคุณค่าและประสบการณ์ความสุขจากการเป็นเจ้าของรถยนต์มาสด้า เพื่อให้มาสด้ากลายเป็น Top Customer Retention Brand อันเป็นเป้าหมายสูงสุด มุ่งสู่อนาคตที่ยั่งยืน ทั้งนี้ มาสด้าจะยังคงมุ่งมั่นเดินหน้าผลักดันกลยุทธ์ในด้านต่าง ๆ อย่างเต็มกำลัง เพื่อให้มั่นใจว่าลูกค้าจะได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุดและได้รับความสุขจากการเป็นเจ้าของรถยนต์มาสด้าตลอดไป ภายใต้ปรัชญา Joy Drives Lives ความสุขขับเคลื่อนชีวิต


    ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย

    Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
    Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
    Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
    instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
    Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
    Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
    Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine


    No Comment
  • เชฟรอนผงาดผู้นำ โชว์ศักยภาพน้ำมันหล่อลื่น หนุนอุตสาหกรรมน้ำตาลไทย

    1 Min Read

    เชฟรอนผงาดผู้นำ โชว์ศักยภาพน้ำมันหล่อลื่น หนุนอุตสาหกรรมน้ำตาลไทย

    บริษัท เชฟรอน (ไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์น้ำมันหล่อลื่นคาลเท็กซ์ ฮาโวลีน และคาลเท็กซ์   เดโล่ ตอกย้ำพันธกิจในการเป็นพันธมิตรที่เข้าใจและพร้อมตอบโจทย์ความต้องการของอุตสาหกรรมน้ำตาลไทยอย่างแท้จริง โชว์ศักยภาพผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีสารหล่อลื่น นำเสนอผลิตภัณฑ์คุณภาพสูงและ โซลูชันที่ออกแบบมาโดยเฉพาะ สำหรับรถบรรทุกอ้อย เครื่องจักรกลเกษตร และเครื่องจักรในโรงงานผลิตน้ำตาล ที่ต้องทำงานหนักต่อเนื่องท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่ท้าทาย คงคอนเซ็ปต์พลังแห่งการปกป้องครบวงจรตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำของอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาล ภายใต้แนวคิด “Caltex Business: Getting Closer to your business พันธมิตรใกล้ชิดธุรกิจคุณ” ในงาน Sugarex Thailand 2025 งานแสดงสินค้าและการประชุมที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียที่ผ่านมา

    ภาพรวมในปี 2568 อุตสาหกรรมน้ำตาลยังคงแสดงศักยภาพการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ จากข้อมูลอุตสาหกรรมปริมาณอ้อยเข้าหีบที่ฟื้นตัวแตะ 92 ล้านตัน ส่งผลให้การผลิตน้ำตาลเพิ่มขึ้นกว่า 14% จากการผลิตปี 2566-2567 ขณะที่การส่งออกปีนี้คาดว่าจะขยายตัวมากกว่า 30% ทั้งด้านปริมาณและมูลค่า ปัจจัยเหล่านี้สะท้อนถึงบทบาทสำคัญของภาคเกษตรและอุตสาหกรรมในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของไทยแม้ในภาวะเศรษฐกิจโลกผันผวน

    การเข้าร่วมงาน Sugarex Thailand 2025 ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้เยี่ยมชม ทั้งในส่วนของผู้ประกอบการโรงงานน้ำตาล เกษตรกรผู้ปลูกอ้อย วิศวกร และผู้ใช้งานเครื่องจักรกลหนัก โดยบูธน้ำมันเครื่องคาลเท็กซ์ในปีนี้มาในธีม Caltex Business: Getting Closer to your business พันธมิตรใกล้ชิดธุรกิจคุณ” พร้อมไฮไลท์ผลิตภัณฑ์เฉพาะทางที่เป็นตัวช่วยสำคัญสำหรับอุตสาหกรรมน้ำตาลไทย อาทิ น้ำมันหล่อลื่นคาลเท็กซ์ เดโล่ สำหรับเครื่องจักรเก็บเกี่ยวอ้อย รถบรรทุก และน้ำมันหล่อลื่นอุตสาหกรรมพิเศษไม่ว่าจะเป็น น้ำมันไฮดรอลิกแรนโด้ น้ำมันเกียร์เมโรป้า น้ำมันเทอร์ไบน์จีเอสที แอดแวนเทจ รวมถึงจาระบีพิเศษ อย่าง Talcor™ Mill Brass Compound ที่มีคุณสมบัติพิเศษไม่กัดกร่อนโลหะผสมทองแดง รับแรงโหลดสูง ยึดเกาะได้ดี ทนต่อการปนเปื้อนและการชะล้างของน้ำอ้อย ออกแบบสำหรับแบริ่งลูกหีบในโรงงานน้ำตาลโดยเฉพาะ

    ในบริบทที่อุตสาหกรรมต้องการเสริมความสามารถในการแข่งขันและบริหารต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ เชฟรอนในฐานะพันธมิตรด้านเทคโนโลยีสารหล่อลื่น ได้เข้าร่วมงาน Sugarex Thailand 2025 งานแสดงสินค้าและการประชุมที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียสำหรับอุตสาหกรรมอ้อย น้ำตาล และไบโอเอทานอล ครั้งที่ 11 เพื่อแสดงศักยภาพของผลิตภัณฑ์ และบริการที่ครอบคลุมตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำของกระบวนการผลิตน้ำตาล โดยเริ่มจากส่วนของยานยนต์ อาทิ รถบรรทุกอ้อย เครื่องจักรทางการเกษตร จนถึงโรงงานผลิตน้ำตาลทั้งในส่วนการลำเลียงอ้อย การหีบอ้อย จนกว่าจะได้เป็นน้ำตาล รวมถึงกิจกรรมอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง

    นอกจากนี้ เชฟรอนยังได้มีโอกาสแลกเปลี่ยนความรู้ และประสบการณ์กับผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมเพื่อทำความเข้าใจถึงความต้องการที่แท้จริงของผู้ใช้งาน เพื่อนำข้อมูลเหล่านั้นไปพัฒนาให้ตอบโจทย์ได้อย่างตรงจุดยิ่งขึ้นในอนาคต ซึ่งสิ่งนี้จะช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับอุตสาหกรรมน้ำตาลไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน โดย นายสันติศักดิ์ ไทยพัฒน์ ประธานกรรมการและผู้จัดการใหญ่ บริษัท เชฟรอน (ไทย) จำกัด ได้เปิดเผยว่า “เชฟรอนเข้าใจถึงความท้าทายที่อุตสาหกรรมน้ำตาลต้องเผชิญ ทั้งด้านการแข่งขัน ต้นทุน และมาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อม ประกอบกับแรงกดดันจากราคาส่งออกที่อ่อนตัวลง เราจึงมุ่งเน้นนำเสนอโซลูชันด้านสารหล่อลื่นที่ช่วยการหยุดชะงักของเครื่องจักร ยืดอายุการใช้งาน และลดการใช้จ่ายด้านการบำรุงรักษา ควบคู่ไปกับการมอบบริการวิเคราะห์และให้คำปรึกษาอย่างครบวงจร เพื่อสนับสนุนให้ผู้ประกอบการสามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างยั่งยืนและแข่งขันได้ในเวทีโลก การเข้าร่วมงานในครั้งนี้ของเชฟรอนไม่เพียงตอกย้ำบทบาทในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านสารหล่อลื่น แต่ยังสะท้อนถึงความตั้งใจที่จะเป็นพันธมิตรที่ใกล้ชิดกับภาคการผลิตไทย เพื่อร่วมสร้างความแข็งแกร่งและการเติบโตในระยะยาว”

    ติดตามข่าวสารและกิจกรรมที่น่าสนใจจากเชฟรอน รวมถึงข้อมูลผลิตภัณฑ์และนวัตกรรมใหม่ ๆ ที่จะช่วยยกระดับการทำงานของเครื่องจักรในทุกอุตสาหกรรม ได้ทาง Facebook: Caltex Lubricants Thailand LINE Official: @CaltexLubricants TikTok: tiktok.com/@caltexlubricants.th และ Website: www.caltex.com/th/business-solutions หรือติดต่อผ่านตัวแทนจัดจำหน่ายในพื้นที่ของลูกค้า


    ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย

    Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
    Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
    Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
    instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
    Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
    Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
    Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine


    No Comment
  • พิพิธภัณฑ์คนรักรถ ต้อนรับ อนุบาลบ้านสนุกคิด

    1 Min Read

    พิพิธภัณฑ์คนรักรถ ต้อนรับ อนุบาลบ้านสนุกคิด

    พิพิธภัณฑ์คนรักรถ Auto Rendezvous Museum-Bangkok เปิดบ้านต้อนรับ น้องๆ โรงเรียนอนุบาลบ้านสนุกคิด พร้อมครู และผู้ปกครอง จำนวน 23 คน สัมผัสประสบการณ์การเรียนรู้ผ่านประวัติศาสตร์ยานยนต์ ทั้ง 7 ยุค อย่างใกล้ชิด เพื่อเป็นแรงบันดาลใจ จุดประกาย ให้น้องๆ เรียนรู้วิวัฒนาการยานยนต์ อย่างสนุกสนาน เมื่อวันที่ 15 กันยายน 2568

    หน่วยงานที่สนใจเข้าชมพิพิธภัณฑ์คนรักรถ Auto Rendezvous Museum-Bangkok สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่ โทรศัพท์ 0-2055-8444


    ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย

    Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
    Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
    Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
    instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
    Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
    Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
    Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine


    No Comment