-
News Car2 Min Read
เคลื่อนพลทัพตัวแรง B-Quik Thailand Super Series และ TSS The Super Series by B-Quik สู่ บางแสน สตรีท เซอร์กิต … เปิดโปรแกรมเดือด สัปดาห์มอเตอร์สปอร์ต Bangsaen Grand Prix 2025
บริษัท เรซซิ่ง สปิริต จำกัด ผู้จัดการแข่งขันกีฬารถยนต์ทางเรียบระดับนานาชาติ ภายใต้การรับรองโดยราชยานยนต์สมาคมแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ สมาคมกีฬา (ร.ย.ส.ท.) และใช้กฎของสมาพันธ์แข่งขันรถยนต์นานาชาติ หรือ International Sporting Code of FIA ซึ่งมีมาตรฐานระดับสากลที่ทั่วโลกยอมรับ เดินเกมส์ความมันส์เอาใจแฟนมอเตอร์สปอร์ตอย่างต่อเนื่อง
ส่งทัพรถแข่ง B-Quik Thailand Super Series และ TSS The Super Series by B-Quik พร้อมด้วย Support Race รายการ “Formula 4 South East Asia” (F4SEA) และ Porsche Carrera Cup Asia (PCCA) สู่เทศกาลความเร็ว ระดับนานาชาติที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประเทศไทย Bangsaen Grand Prix 2025 ภายใต้คอนเซ็ปต์ Revs the Wave … กระหึ่มเสียง “เครื่องยนต์” กลบเสียง “เกลียวคลื่น” ตลอด 5 วันเต็ม
เปิดฉากด้วยโปรแกรมการแข่งขัน B-Quik Thailand Super Series กับรุ่นเล็ก Thailand Super Eco สนาม 4 อันดุเดือดจน Safety Car ต้องปฏิบัติหน้าที่ถึง 3 รอบ ก่อนจะจบลงโดย หมายเลข 98 ชินวิช รมยานนท์ จาก PT Maxnitron Wise BRD Nexzter Venom secret koh kood by Rongpo Power Unit เป็นผู้คว้าแชมป์
ส่วนสนามที่ 5 ซึ่งดุดันไม่น้อยไปกว่ากัน และทำเอาลุ้นจนนั่งไม่ติด ตั้งแต่เริ่ม จนรับธงตาหมากรุก ก็จบลงด้วยชัยชนะของ หมายเลข 82 Aaron Haikal (อารอน ไฮคาล) จาก V-Are Pro Garage Racing Team
ขยับไปที่รุ่น Super Touring ศึก 60 นาที ในสนามที่ 3 กับ “ความสงบก่อนพายุใหญ่จะมา” ด้วยการชิงตำแหน่งผู้นำอย่างดุดันช่วงท้ายเกม ทำเอาผู้นำซึ่งรักษาอันดับมากกว่าครึ่งทาง อย่าง หมายเลข 14 จาก YK Motorsports ต้องอกหัก จากการที่ หมายเลข 18 อานนท์ รอดประเสริฐ จาก Rongpo power unit …. Original kansai เก็บชัยชนะไปอย่างสวยงาม
ส่วนสนามที่ 4 แม้ หมายเลข 14 จาก YK Motorsports จะมีโอกาสกลับมาแก้มืออีกครั้ง รวมถึง หมายเลข 18 จาก Rongpo power unit …. Original kansai ที่หวังจะเก็บไปอีกหนึ่งแชมป์ ก็ไม่สำเร็จตามคาดหมาย จากหลากหลายตัวแปร ทำให้ท้ายที่สุด หมายเลข 55 M&M Racing Team By Nexzter and Liqui Moly ที่จับคู่โดย ชนกนันท์ นันทมานพ และ ฐนภัทร สุทธิสว่าง มีโอกาสโชว์ฟอร์ม และคว้าแชมป์กลับบ้านไป
ต่อกันที่รุ่น Thailand Super Pickup D2 (Class C) สนามที่ 4 กับผลงานที่ยอดเยี่ยมของ หมายเลข 17 จักรพันธ์ วรรณรัตน์ จาก Trane Lubricant Racing Team อมรยนต์กลการ อาร์ตมอเตอร์สปอร์ตกรุ๊ป อ๊อฟการาจ รวมช่างเชียงกง ซึ่งออกสตาร์ทจากกริดที่ 2 ก่อนส่งตัวเองขึ้นนำ ม้วนเดียวจบการแข่งขัน คว้าชัยชนะไปครอง
สำหรับเกมส์ในสนามที่ 5 เรียกว่าดุเดือดสุดๆ จนต้องหยุดการแข่งขันด้วย “ธงแดง” เมื่อครบ 75% ของการแข่งขัน ภายใต้การนำของ หมายเลข 30 อิทธิศักดิ์ แก้วดี จาก SSK Factory OMC-racing ครัวบุษกร บ้านฉาง อู๊ด-อ๋องระยอง ซึ่งเป็นผู้ที่ครองแชมป์ในสนามนี้ไป
ขยับขึ้นไปรุ่น Thailand Super Pickup D1 (Class A-B) ที่เรียกได้ว่าเป็นการแก้มือของ หมายเลข 15 ธณพล ชูเจริญผล จาก Nexzter, MKSport, HYB, Speed Oil, Motul, AKANA by อู๋ดอ๋องระยอง ได้อย่างสมบูรณ์แบบ แม้ทั้ง 2 สนามจะไม่ได้สตาร์ทจากโพล โพสิชั่น แต่ก็ขึ้นออกตัวขึ้นนำได้ดีตั้งแต่ต้นการแข่งขัน ซิ่งม้วนเดียวจบรับธงตาหมากรุกเหมาแชมป์กลับบ้านไปทั้ง 2 สนาม
อัพเกรดดีกรีความเดือดด้วยโปรแกรมการแข่งขัน 60 นาทีของเหล่ารุ่นใหญ่ TSS The Super Series by B-Quik ที่ลงสนามพร้อมๆ กัน นำโดยรุ่น TSS Supercar GT4 ประกบ TSS Supercar GTC ก่อนส่งไม้ต่อให้รุ่น TSS Supercar GT3 ประกบ TSS Supercar GTM รูดม่านปิดฉาก Bangsaen Grand Prix 2025
สำหรับผลประกอบการสนามที่ 3 ของรุ่น TSS Supercar GTC ยกให้หนึ่งเดียวในรุ่น คือ หมายเลข 23 Team Supersonic by Rong Po Power Unit โดย Chong yi Kenneth Ho (เคนเนธ โฮ) / Shiyuan Shane Ang (เชน อัง) ที่จบการแข่งขัน และรับตำแหน่งแชมป์ไปครองได้สำเร็จ
รวมไปถึงแข่งขันสนามที่ 4 ซึ่งหลายทีมรถมีปัญหา ยกเว้น หมายเลข 9 Toyota Gazoo Racing Thailand โดย อัครพงศ์ อัคนีนิโรธ และ กฤษฏิ์ วสุรัตน์ ที่สามารถผ่านพ้นมาได้ และกลายเป็นผู้นำ เก็บตำแหน่งแชมป์ไปครอง
ทางด้าน TSS Supercar GT4 สนามที่ 3 เรียกได้ว่าสถานการณ์พลิกผันตลอดเวลา จนถึงช่วงไฮไลต์ไม่ถึง 15 นาทีสุดท้ายของการแข่งขัน กับฝีมือของ หมายเลข 95 INGING AUTOWERKS RACING โดย ประคุณ พรประภา และ Kazuhisa Urabe (คาซูฮิสะ อุราเบะ) ที่ใช้จังหวะปล่อยตัว หลังหมดหน้าที่ Safety Car สร้างโอกาสเฉือนเอาตำแหน่งผู้นำมาครอง และจบการแข่งขันไปอย่างสะใจ
ส่วนสนามที่ 4 ต้องเรียกว่าเป็น “ศึกล้างตา” ของ หมายเลข 1 AAS Motorsport โดย คมิก กรรณสูต และ กันตธีร์ กุศิริ ก็ว่าได้ ทั้งจากการออกสตาร์ทในตำแหน่งโพล โพสิชั่น และขึ้นเป็นผู้นำตลอดการแข่งขันโดยไม่มีข้อผิดพลาด แม้จะต้องผ่านช่วง Pit Window Open/Closed จนกระทั่งปิดเกมส์อย่างสวยงาม คว้ารับธงตาหมากรุก และตำแหน่งแชมป์กลับไปอย่างสมบูรณ์แบบ
รุ่น TSS Supercar GTM ในสนามที่ 3 เปิดศึกซิ่งฝ่าสายฝนฉ่ำ ท่ามกลางสถานการณ์ที่ต้องลุ้นตลอดเวลา ภายใต้การนำของ หมายเลข 10 Sye Wai Simon Chan (ไซม่อน ชาน) จาก Fire Monkey Motorsport จนถึงท้ายเกมส์การแข่งขัน ก่อนที่ หมายเลข 77 PSC MOTORSPORT โดย สราวุธ เสรีธรณกุล และ Afiq Yazid (อะฟิค ยาซิด) จะพลิกเกมส์ขึ้นมาเป็นผู้นำ และเก็บตำแหน่งแชมป์ไปครอง
ส่วนสนามที่ 4 สภาพอากาศสดใส เป็นใจให้เดินคันเร่งเต็มสปีด นำโดย หมายเลข 77 PSC MOTORSPORT จาก สราวุธ เสรีธรณกุล และ Afiq Yazid (อะฟิค ยาซิด) ซึ่งสตาร์ทจากตำแหน่งผู้นำรุ่น ครองหัวแถวไว้โดยไม่มีข้อผิดพลาดใดๆ จนกระทั่งเก็บชัยชนะไปครองได้อีกสนาม
ท้ายสุดกับรุ่น TSS Supercar GT3 สนาม 3 ที่ต้องโชว์ความเหนือชั้น ในการซิ่งฝ่าสายฝนเช่นกัน โดยมี หมายเลข 37 Winhere By BQAR ครองผู้นำมาถึงครึ่งทาง ก่อนจะโดน หมายเลข 18 AAS Motorsport By EBM โดย วุฒิกร อินทรภูวศักดิ์ และ Laurin Heinrich (ลอริน ไฮน์ริช) โชว์ฟอร์มเดือดเฉือนขึ้นมาเป็นผู้นำ และคว้าชัยชนะไปอย่างสวยงาม
สำหรับสนามที่ 4 หมายเลข 18 AAS Motorsport By EBM ยังคงแสดงความเหนือชั้น สตาร์ทจากโพล โพสิชั่น และครองตำแหน่งผู้นำไว้ถึงครึ่งทางการแข่งขัน ก่อนจะพลาดอย่างหนักหน่วงในแบบที่คาดไม่ถึง ทำให้ หมายเลข 37 Winhere By BQAR โดย Akash Nandy (อาคัช แนนดี้) และ Yi Deng (ยี เติ้ง) ล้างตา ด้วยการขึ้นมาครองผู้นำ และเก็บแชมป์ไปครองในท้ายที่สุด
นอกจากความเดือดของโปรแกรมการแข่งขัน B-Quik Thailand Super Series และ TSS The Super Series by B-Quik แล้ว … Bangsaen Grand Prix 2025 ในครั้งนี้ยังเป็นเจ้าบ้านต้อนรับอีก 2 โปรแกรม Support Race ระดับโลกที่เดินทางมาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของความยิ่งใหญ่ด้วยเช่นกัน
เริ่มจาก Porsche Carrera Cup Asia (PCCA) สนามที่ 8 และ 9 อีกหนึ่งรายการแบบ One Make Race ที่โด่งดัง และนักแข่งต่างชาติให้ความสนใจลงแข่งขัน หลายต่อหลายสัญชาติ รวมถึงนักแข่งไทยเพียงหนึ่งเดียว “เทอร์โบ – มั่นคง เสถียรถิระกุล” สังกัด EBM หมายเลข 76 ที่สามารถติดตามข่าวคราวความเคลื่อนไหวได้ที่ www.carreracupasia.com/en/
พร้อมด้วยอีกหนึ่งโปรแกรมการแข่งขันที่เดือดไม่แพ้กัน “Formula 4 South East Asia” (F4SEA) การแข่งขันรถล้อเปิด (Open Wheeler) ที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นโปรแกรมการแข่งขันที่พัฒนานักแข่งเยาวชนที่ดีที่สุดในโลก ซึ่งมีนักแข่งไทย ร่วมลงแข่งขันในนาม Pakelo Star Performance ถึง 2 คน คือ “ไอตั้น – อัษฎาธร” หมายเลข 51 และ “พัตเตอร์ – วรพงศ์” หมายเลข 44
ซึ่งหลังจากยกทัพไปร่วมสนุกในนัดเปิดฤดูกาล TSS The Super Series by B-Quik และ B-Quik Thailand Super Series 2025 ณ สนาม ช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จังหวัดบุรีรัมย์ เป็นที่เรียบร้อย ก็เดินทางมาร่วมเสิร์ฟความมันส์อย่างต่อเนื่องทันทีกับสนามที่ 4 และ 5 ของฤดูกาล ณ “บางแสน สตรีท เซอร์กิต จังหวัดชลบุรี” โดยแฟนๆ สามารถติดตามข่าวคราวความเคลื่อนไหวได้ที่ www.f4sea.com/
ขอบคุณทุกภาคส่วนที่ร่วมกันขับเคลื่อนความสำเร็จของ “บางแสน กรังด์ปรีซ์ 2025”
รายการบางแสน กรังด์ปรีซ์ ปีที่ 19 ได้ปิดฉากลงอย่างสมบูรณ์และน่าประทับใจ และทั้งหมดนี้เกิดขึ้นได้จากความร่วมมืออย่างเต็มกำลังจากทุกภาคส่วน
ทั้งนี้เราขอขอบคุณอย่างยิ่งต่อกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา จังหวัดชลบุรี องค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรี เทศบาลเมืองแสนสุข การกีฬาแห่งประเทศไทย การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย รวมถึงผู้สนับสนุนจากภาคเอกชนทุกหน่วยงาน ที่สำคัญยิ่งคือแรงสนับสนุนจากพี่น้องในชุมชนท้องถิ่น ไม่ว่าจะเป็นชุมชนบ้านแหลมแท่น ชุนชนเขาสามมุข ชุมชนมุขแสนเจริญ 1 ชุมชนมุขแสนเจริญ 2 ตลอดจนผู้ประกอบการร้านค้าต่างๆ อีกทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งในพื้นที่และพื้นที่ใกล้เคียง ทุกภาคส่วนที่กล่าวมานี้มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งต่อความยั่งยืนของบางแสน กรังด์ปรีซ์ ให้สามารถเติบโตและจัดต่อเนื่องมาจนถึงปีที่ 19 ในปีนี้
ขอขอบคุณทีมงานเรซซิ่ง สปิริต ทุกท่านที่ทุ่มเทแรงกายแรงใจในการก่อสร้างและดูแลสนามแข่งระดับ FIA Grade 3 แห่งนี้ รวมถึงเจ้าหน้าที่มาร์แชล ทีมกู้ภัย และทีมแพทย์จากโรงพยาบาลสมิติเวช ที่มอบการดูแลอย่างดีที่สุดให้กับนักแข่ง ทีมงาน ผู้ชม และชุมชนในพื้นที่ตลอดช่วงการจัดงาน
เราภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของความร่วมมือครั้งยิ่งใหญ่ ที่หล่อหลอมกีฬา มอเตอร์สปอร์ต การท่องเที่ยว และชุมชนเข้าไว้ด้วยกันอย่างสมบูรณ์
สำหรับแฟนมอเตอร์สปอร์ตที่พลาดความมันส์ Bangsaen Grand Prix 2025 สามารถติดตามชมความดุเดือดย้อนหลัง ได้ผ่านช่องทาง www.thailandsuperseries.net และ www.facebook.com/ThailandSuperSeries
ก่อนจะพบกันอีกครั้งในโปรแกรมหน้า ซึ่งฝูงรถแข่งจากรายการ B-Quik Thailand Super Series และ TSS The Super Series by B-Quik จะเคลื่อนพลสู่ “ประเทศมาเลเซีย” นำร่องด้วยรุ่นใหญ่ TSS The Super Series by B-Quik กับ Event 3 ของฤดูกาล ในวันที่ 8 – 10 สิงหาคม
ก่อนเสริมทัพด้วย B-Quik Thailand Super Series กับ Event 4 ในวันที่ 19 – 21 สิงหาคม ณ “สนามเซปัง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต” โดยสามารถรับชมได้แบบ Live สด ผ่านช่องทางต่างๆ ได้ เช่น www.thailandsuperseries.net และ www.facebook.com/ThailandSuperSeries
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine
-
News Car2 Min Read
GWM เปิดสเปกจัดเต็มของ NEW GWM TANK 500 DIESEL หรูหรา สง่างาม และสะดวกสบาย มอบนิยามใหม่ของ PPV พรีเมียมอัจฉริยะ พร้อมรุ่นย่อยสุดดุดัน “Black Warrior”
GWM (Thailand) ยกระดับสู่การเป็นแบรนด์รถยนต์ที่มีผลิตภัณฑ์ครอบคลุมทุกประเภทพลังงานที่ตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานทั่วทุกมุมโลก ด้วยแนวคิด “ครอบคลุมทุกการใช้งาน (All Scenarios) ด้วยผลิตภัณฑ์ที่ครอบคลุมทุกพลังงาน (All Powertrains) สู่การตอบสนองทุกกลุ่มผู้ใช้งานอย่างแท้จริง (All Users)” ล่าสุด เผยสเปกพรีเมียมและอัจฉริยะแบบรอบด้าน รวมถึงสมรรถนะทรงพลังของเครื่องยนต์ดีเซล 2.4T เจเนอเรชันใหม่ใน NEW GWM TANK 500 DIESEL ที่ให้ประสิทธิภาพการขับขี่ที่ดีเยี่ยม สานต่อความสำเร็จต่อเนื่องจาก NEW GWM TANK 300 DIESEL ที่ได้รับการตอบรับอย่างอบอุ่นจากบรรดา TANKER ชาวไทยทั่วประเทศ นอกเหนือจากเครื่องยนต์ดีเซลใหม่และลุคพรีเมียมที่หล่อ ดุดัน ด้วยสีใหม่อย่าง Black Warrior แล้ว NEW GWM TANK 500 DIESEL คือ ยนตรกรรมที่พร้อมมอบที่สุดแห่งประสบการณ์การขับขี่อัจฉริยะแบบครอบคลุมทั้ง 4 ด้าน ได้แก่ 1.) ความพรีเมียมตั้งแต่ภายนอกสู่ภายใน 2.) ความสบายเหนือระดับด้วยฟังก์ชันอำนวยความสะดวกมากมาย 3.) เทคโนโลยีอัจฉริยะอันล้ำสมัย และ 4.) ความปลอดภัยที่อัดแน่นสร้างความมั่นใจให้ในทุกเส้นทาง เพื่อตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์การเดินทาง ทั้งเพื่อธุรกิจ การเดินทางกับครอบครัว หรือทริปผจญภัย โดย NEW GWM TANK 500 DIESEL คือ นิยามมาตรฐานใหม่ของรถ PPV 7 ที่นั่ง ระดับโลกอย่างแท้จริง
NEW GWM TANK 500 DIESEL พร้อมลบภาพจำเดิมของรถดีเซล PPV อย่างสิ้นเชิง ทั้งเสียงดัง แรงสั่นสะเทือน และการสิ้นเปลืองด้วยขุมพลังดีเซล 2.4T เจเนอเรชันใหม่ ที่ผสานเทคโนโลยีล้ำสมัย อาทิ เทอร์โบแปรผัน (VGT), หัวฉีดแรงดันสูง 2,000 บาร์, ระบบ EGR อิเล็กทรอนิกส์ และเกียร์อัตโนมัติ 9 สปีด ที่เปลี่ยนเกียร์สูงได้แม้ในความเร็วต่ำ ผลลัพธ์คือการส่งกำลังที่ลื่นไหล ตอบสนองทันใจ พร้อมให้กำลังสูงสุด 135 กิโลวัตต์ หรือ 184 แรงม้า ที่ 3,600 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 480 นิวตันเมตร ที่มาในรอบต่ำเพียง 1,500–2,500 รอบ/นาที ขับขี่คล่องตัวทั้งในเมือง นุ่มนวลเมื่อเร่งแซง และมั่นคงบนทางไกล
NEW GWM TANK 500 DIESEL มาพร้อม 3 รุ่นย่อย ได้แก่
- รุ่น NEW GWM TANK 500 DIESEL 2.4T PRO
- รุ่น NEW GWM TANK 500 DIESEL 2.4T ULTRA*
- รุ่น NEW GWM TANK 500 DIESEL 2.4T ULTRA 4WD*
(*ทั้ง ULTRA และ ULTRA 4WD มาพร้อมสีพิเศษ Black Warrior)
พร้อมตัวเลือกสีภายนอก 3 สี ได้แก่ สีขาว, สีดำ, สีเทา และรุ่นตกแต่งพิเศษ Black Warrior (เฉพาะรุ่น 2.4T ULTRA และ 2.4T ULTRA 4WD) ส่วนภายในห้องโดยสารตกแต่งด้วยสีดำสุดหรู ตอกย้ำตัวตนของยนตรกรรมที่หลอมรวมความพรีเมียมเหนือระดับไว้อย่างลงตัว เพื่อยกระดับมาตรฐานใหม่ให้กับตลาด PPV อย่างแท้จริง
นอกจากสมรรถนะที่น่าทึ่ง NEW GWM TANK 500 DIESEL ยังมาพร้อมมิติตัวถังขนาดใหญ่สะดุดตา กว้าง 1,934 มม. ยาว 4,886 มม. สูง 1,905 มม. และระยะฐานล้อ 2,850 มม. เสริมภาพลักษณ์ของรถ PPV หรูหราที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความแข็งแกร่งและมั่นคงในทุกมิติ โดยในรุ่น 2.4T PRO มาพร้อมล้ออัลลอยสีดำขนาด 18 นิ้ว จับคู่กับยาง Westlake ขนาด 265/60 R18 พร้อมยางอะไหล่ ขณะที่รุ่น 2.4T ULTRA และ 2.4T ULTRA 4WD ยกระดับขึ้นอีกขั้นด้วยล้ออัลลอยสีดำขนาด 20 นิ้ว พร้อมยาง Continental ขนาด 265/50 R20 และยางอะไหล่เช่นกัน
4 นิยามใหม่ของยนตรกรรมพรีเมียมระดับผู้นำ กับ NEW GWM TANK 500 DIESEL
- ความพรีเมียมตั้งแต่ภายนอกสู่ภายใน: NEW GWM TANK 500 DIESEL ออกแบบมาอย่างพิถีพิถันเพื่อสะท้อนถึงความหรูหราและความทันสมัย ภายในห้องโดยสารตกแต่งด้วยหนัง Nappa ที่ให้สัมผัสนุ่มนวลและหรูหราอย่างแท้จริง ขณะเดียวกันจอ 6 นิ้ว Touch screen infotainment ขนาดใหญ่ก็ถูกออกแบบมาเพื่อให้สามารถควบคุมทุกฟังก์ชันได้อย่างง่ายดายและทันสมัย การติดตั้ง Multi-color ambient lighting ช่วยเพิ่มบรรยากาศสุดพิเศษภายในห้องโดยสารที่สามารถปรับเปลี่ยนสีแสงได้ตามความต้องการ ระบบเสียงระดับพรีเมียมจากลำโพง 12 ตัว พร้อมระบบ Surround sound ให้ได้สัมผัสประสบการณ์เสียงที่ลึกซึ้งและชัดเจนที่สุด พร้อมการป้องกันเสียงรบกวนจากภายนอกด้วยกระจกสองชั้นแบบ Double Layer Laminated Glass ที่ทำให้การเดินทางเงียบสงบไร้กังวล นอกจากนี้ ระบบ Active Noise Cancellation (ANC) ยังช่วยลดเสียงรบกวนเพิ่มเติม เพื่อให้ทุกการเดินทางเป็นประสบการณ์ที่เหนือระดับ
- ความสบายเหนือระดับ: มอบความสบายเหนือระดับด้วยฟังก์ชันอำนวยความสะดวกที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการ โดยในรุ่น 4T ULTRA และ ULTRA 4WD เริ่มต้นด้วยเบาะที่นั่งสามารถปรับไฟฟ้าได้ถึง 8 ทิศทาง มาพร้อมระบบ Welcome Seat, Massage Seat และ VIP Switch ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการปรับเบาะให้เหมาะสมตามสรีระของผู้ขับขี่และผู้โดยสาร และระบบเบาะระบายอากาศทั้งในที่นั่งแถว 1 และแถว 2 (เฉพาะรุ่น ULTRA 4WD) ช่วยเพิ่มความผ่อนคลายระหว่างการเดินทาง ห้องโดยสารกว้างขวางยิ่งขึ้นด้วยระยะฐานล้อที่ยาวถึง 2,850 มม. และ พื้นที่เก็บสัมภาระขนาดใหญ่ 795 ลิตร ทำให้สามารถจัดเก็บสัมภาระได้อย่างสะดวกสบาย ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางไกลหรือท่องเที่ยว พร้อมด้วย ซันรูฟพาโนรามา ที่ช่วยเติมเต็มความโปร่งสบายให้ห้องโดยสาร นอกจากนี้ เทคโนโลยีความบันเทิงภายในรถได้รับการออกแบบให้ทันสมัยด้วยหน้าจอสัมผัสที่รองรับมัลติมีเดียได้อย่างครบครัน พร้อมระบบเสียงรอบทิศทางที่มีลำโพงถึง 12 ตำแหน่ง (รุ่น PRO 8 ตำแหน่ง) เพื่อมอบประสบการณ์การฟังที่สมจริงและเต็มอิ่ม ห้องโดยสารยังมีระบบปรับอากาศด้านหน้าแบบแยกอิสระซ้าย-ขวา และระบบปรับอากาศด้านหลัง พร้อมด้วยระบบกรองอากาศ N95 และ ระบบ ionizer ที่ช่วยฟอกอากาศและสร้างบรรยากาศที่สดชื่นภายในรถ เพิ่มความสะดวกสบายอีกระดับด้วยม่านบังแดดสำหรับผู้โดยสารด้านหลัง เพื่อเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับผู้โดยสาร
- เทคโนโลยีอัจฉริยะอันล้ำสมัย: เพื่อยกระดับประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือชั้น เริ่มจากหน้าจอแสดงผลดิจิทัลขนาด 3 นิ้ว และ หน้าจอสัมผัสขนาด 14.6 นิ้ว ที่รองรับระบบ Smart Dual Screen Interaction ช่วยให้การใช้งานทั้งสองจอมีความสะดวกและเชื่อมโยงกันอย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังมี Windshield Head-Up Display ที่แสดงข้อมูลการขับขี่บนหน้ากระจกเพื่อให้การขับขี่ปลอดภัยและสะดวกสบายยิ่งขึ้น ผู้ขับขี่ยังสามารถเพลิดเพลินกับ Wireless Charging ขนาด 50 วัตต์ ที่ด้านหน้า และระบบกล้องแสดงภาพ 540 องศา (กล้อง 360 องศา และระบบแสดงภาพใต้ท้องรถ) เพิ่มความสะดวกในการมองเห็นรอบทิศทางอย่างครบถ้วน ระบบการควบคุมรถจากทางไกลผ่านแอปพลิเคชัน GWM และระบบสั่งงานด้วยเสียง ช่วยให้การควบคุมรถง่ายและทันสมัย สำหรับรุ่น 2.4T PRO และ ULTRA มาพร้อม 3 โหมดการขับขี่ ได้แก่ โหมดปกติ โหมดสปอร์ต และโหมดประหยัด สำหรับรุ่น 2.4T ULTRA 4WD มีโหมดการขับขี่ทั้งหมด 8 โหมด ได้แก่ โหมด 2H 4H 4L โหมดพื้นหิมะ โหมดพื้นโคลน โหมดพื้นทราย โหมดพื้นหิน และโหมดผู้เชี่ยวชาญ พร้อมฟีเจอร์ออฟโรดสุดล้ำ เช่น Tank Turn ที่ช่วยให้การกลับรถในที่แคบเป็นเรื่องง่าย, Off-road Cruise Control, และ ระบบล็อกเฟืองหน้า-หลัง ให้คุณมั่นใจในทุกเส้นทาง สำหรับการจอดรถ NEW GWM TANK 500 DIESELรุ่น ULTRA และ ULTRA 4WD ยังมีระบบช่วยจอดรถอัตโนมัติ 3 รูปแบบอีกด้วย
- ความปลอดภัยที่อัดแน่นสร้างความมั่นใจให้ในทุกเส้นทาง: NEW GWM TANK 500 DIESEL มาพร้อมเทคโนโลยีช่วยขับขี่ระดับ L2+ ที่รวมระบบ ACC, Lane Change Assist, Forward Collision Warning, Lane Keeping Assist, และ Intelligent Cruise Assist/Traffic Jam Assist ช่วยให้การขับขี่ในเมือง, ทางด่วน, และการจราจรติดขัดเป็นเรื่องง่ายและปลอดภัยยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังเสริมด้วยระบบเตือนการชนและเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ RCTA + RCTB, MEB, กล้องรอบคัน 540 องศา, และเซนเซอร์ 12 จุด เพื่อเพิ่มความมั่นใจในทุกการขับขี่ ด้านโครงสร้างตัวถังของ NEW GWM TANK 500 DIESEL ถูกออกแบบให้แข็งแกร่งและทนทาน สามารถทนต่อแรงยุบ แรงชน แรงบิด และแรงกระแทกได้อย่างดีเยี่ยม ด้วยตัวถัง Cage-Type ผลิตจากเหล็กกล้าแรงดึงสูงพิเศษ รองรับแรงกดหลังคาได้ถึง 58 กิโลนิวตัน และแรงบิดสูงสุด 23,076 นิวตันเมตร พร้อมระบบปลดล็อกอัตโนมัติเมื่อเกิดอุบัติเหตุ และฟีเจอร์อื่น ๆ ที่มอบความปลอดภัยแบบครบวงจร เพื่อลดความเสี่ยงและเพิ่มความมั่นใจในทุกการเดินทาง
ขุมพลังดีเซล 2.4T เจนเนอเรชันใหม่ล่าสุด เอกสิทธิ์เดียวจาก GWM ที่มาพร้อม 4 จุดเด่น ฉีกกฏเครื่องยนต์ดีเซลแบบเดิมๆ
- แรง ประหยัด คุ้มค่า: ขุมพลัง 4T พร้อมเทอร์โบแปรผัน VGT และหัวฉีดแรงดันสูง 2,000 บาร์ ให้การเผาไหม้สมบูรณ์ ลดไอเสีย ประหยัดน้ำมันได้มากขึ้น
- นิ่ง เงียบ นุ่มนวล: เทคโนโลยี NVH ลดเสียงและแรงสั่นสะเทือนได้อย่างยอดเยี่ยม มีระดับเสียงในห้องเครื่องที่ idle time ต่ำกว่า 68 เดซิเบล
- ตอบสนองฉับไว: กำลังสูงสุด 184 แรงม้า แรงบิด 480 นิวตันเมตร ที่รอบต่ำ ขับขี่คล่องตัวในเมือง และมั่นใจทุกเส้นทาง
- ทนทาน มั่นใจ: ผ่านการทดสอบสมรรถนะกว่า 6 ล้านกิโลเมตรทั่วโลก รับประกันเครื่องยนต์นานถึง 1 ล้านกิโลเมตร หรือ 8 ปี
NEW GWM TANK 500 DIESEL สีดำ Black Warrior อัศวินรัตติกาล หล่อ เข้ม ดุดัน ลึกลับ และสง่างาม
“สีดำ (Black Warrior)” มีให้เลือกเฉพาะใน NEW GWM TANK 500 DIESEL รุ่น 2.4T ULTRA และรุ่น 2.4T ULTRA 4WD โดยถ่ายทอดอารมณ์ของความหล่อเข้ม ลึกลับ สง่างาม และทรงพลังได้อย่างมีเอกลักษณ์ ผ่านดีไซน์ภายนอกสีดำเงาเข้มขรึม กระจังหน้าสีดำพิเศษ ผสานกับล้ออัลลอยสีดำ และห้องโดยสารภายในโทนสีดำที่สะท้อนความพรีเมียมและความดุดันในทุกมุมมอง ความโดดเด่นของสีดำ (Black Warrior) ไม่ได้มีแค่รูปลักษณ์ที่ดูสง่างามและน่าเกรงขาม แต่ยังเสริมคาแรคเตอร์ให้รถดูนิ่ง สุขุม และทรงพลังในแบบที่แฝงความลึกลับไว้อย่างมีชั้นเชิง ยามโลดแล่นบนท้องถนนจะยิ่งเผยเสน่ห์เฉพาะตัวที่สะกดทุกสายตาได้อย่างไม่ค้านสายตา NEW GWM TANK 500 DIESEL สีดำ (Black Warrior) จึงเป็นทางเลือกสำหรับผู้นำหรือผู้ที่ประสบความสำเร็จในชีวิตที่มีบุคลิกชัดเจน ชอบความแตกต่างที่ไม่ตามใคร แต่ยังคงไว้ซึ่งความหรูหราในแบบพรีเมียม อัศวินรัตติกาลคันนี้พร้อมมอบประสบการณ์การขับขี่ที่เต็มไปด้วยความภูมิฐาน นุ่มลึก และเปี่ยมไปด้วยพลังอย่างแท้จริง
เหนือกว่าในทุกมิติ! สิ่งที่ NEW GWM TANK 500 DIESEL พัฒนาจากรุ่นไฮบริด
NEW GWM TANK 500 DIESEL ได้รับการพัฒนารุ่น 2WD โดยเฉพาะสำหรับตลาดไทย เพื่อให้ตอบโจทย์การใช้งานในชีวิตประจำวันของคนไทย ด้วยการปรับช่วงล่างให้เหมาะสมกับสภาพถนนและพฤติกรรมการขับขี่ของผู้ใช้ในประเทศ จึงมั่นใจได้ว่า NEW GWM TANK 500 DIESEL จะมอบความสะดวกสบายและการขับขี่ที่นุ่มนวลทั้งในเมืองและเส้นทางต่าง ๆ การออกแบบภายในห้องโดยสารยังคำนึงถึงความสะดวกสบายของผู้โดยสาร โดยเฉพาะในเบาะแถวที่ 2 ซึ่งได้รับการปรับปรุงการใส่วัสดุโฟมเพื่อเพิ่มความนุ่มสบายในการนั่ง ทำให้ผู้โดยสารสามารถเพลิดเพลินกับการเดินทางได้ยาวนานโดยไม่รู้สึกเมื่อยล้านอกจากนี้ ยังมีการย้ายตำแหน่งยางอะไหล่ไปไว้ที่ด้านใต้ตัวรถ ซึ่งช่วยเพิ่มความสะดวกในการเปิดประตูหลังและการจอดรถในพื้นที่ที่จำกัด รวมถึงช่วยให้การจัดเก็บสัมภาระภายในรถมีความสะดวกยิ่งขึ้น ด้วยการพัฒนาทั้งด้านการออกแบบและฟังก์ชันการใช้งาน NEW GWM TANK 500 DIESEL จึงพร้อมมอบประสบการณ์การขับขี่ที่สมบูรณ์แบบให้กับผู้ขับขี่และผู้โดยสารทุกคน
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine
-
มาสด้าราชาออโต้เซลส์หนึ่งเดียวในโคราชฉลองครบรอบ 58 ปี ทุ่มลงทุนกว่า 500 ล้านบาท เปิดโชว์รูมแห่งใหม่ 4 สาขา
มาสด้า เซลส์ ประเทศไทย ประสานความร่วมมือกับกลุ่มราชาออโต้เซลส์ ผู้จำหน่ายรถยนต์มาสด้าในจังหวัดนครราชสีมาที่มีประวัติความเป็นมายาวนานในประเทศไทย จัดพิธีเปิดโชว์รูมและศูนย์บริการแห่งใหม่ พร้อมเฉลิมฉลองเนื่องในโอกาสครบรอบ 58 ปี จัดกิจกรรมพิเศษมอบข้อเสนอที่ดีที่สุด รับส่วนลดพิเศษ ฟรีประกันชั้นหนึ่ง ฟรีบัตรน้ำมัน ฟรีของพรีเมี่ยม และลุ้นรับรางวัลพิเศษมากมาย เมื่อจองรถทุกรุ่นภายในงานฯ หรือที่โชว์รูมทั้งสี่สาขาในจังหวัดนครราชสีมา พร้อมเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ไฮไลท์สุดพิเศษ New Mazda CX-3 Essential มาให้ลูกค้าได้สัมผัสและจับจองเป็นเจ้าของก่อนใคร ในระหว่างวันที่ 4-6 ก.ค. 68 พร้อมกันทั้ง 4 สาขา การเปิดโชว์รูมและศูนย์บริการใหม่ครั้งนี้ยังถือเป็นการยกระดับศักยภาพของมาสด้าราชาออโต้เซลส์ เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าในจังหวัดนครราชสีมา และพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น ตามกลยุทธ์การเสริมสร้างความแข็งแกร่งของผู้จำหน่ายมาสด้าในประเทศไทย เพื่อส่งมอบการบริการอันแสนประทับใจให้กับลูกค้ามาสด้าทุกคน
นายธีร์ เพิ่มพงศ์พันธ์ ประธานกรรมการบริหารและซีอีโอ บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า การเปิดโชว์รูมครั้งนี้ เกิดขึ้นจากความร่วมมือกันระหว่าง มาสด้า เซลส์ ประเทศไทย และมาสด้าราชาออโต้เซลส์ ซึ่งเป็นผู้จำหน่ายเก่าแก่ที่สุดของแบรนด์มาสด้าในประเทศไทย โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งมอบบริการที่ครอบคลุมให้กับลูกค้าในจังหวัดนครราชสีมาและพื้นที่ใกล้เคียง ตลอดจนเพื่ออำนวยความสะดวกสบายให้กับลูกค้าเมื่อมาเข้ารับบริการ เนื่องด้วยจังหวัดนครราชสีมาเป็นจังหวัดที่ลูกค้ามาสด้าอาศัยอยู่อย่างหนาแน่น มีประชากรมากกว่า 2 ล้านคน และมีศักยภาพทางด้านเศรษฐกิจในอนาคต ดังนั้น การเปิดโชว์รูมใหม่ครั้งนี้ จึงส่งเสริมแผนธุรกิจของมาสด้าในการก้าวสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน เพื่อให้แบรนด์มาสด้าตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า ตามนโยบายการส่งเสริมเครือข่ายผู้จำหน่ายที่มีศักยภาพสูงให้สามารถขยายพื้นที่การให้บริการ เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายสำคัญของแบรนด์ นั่นคือ การเป็นแบรนด์อันดับหนึ่งด้าน Customer Retention ที่มุ่งเน้นการส่งมอบประสบการณ์ความสุขในทุกช่วงเวลาให้กับลูกค้ามาสด้าทุกคน
มาสด้าราชาออโต้เซลส์ ถือเป็นผู้จำหน่ายมาสด้าอย่างเป็นทางการแห่งเดียวในจังหวัดนครราชสีมา มีความเชี่ยวชาญและมีศักยภาพสูงในเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เป็นประตูสู่ภาคอีสาน เป็นเส้นทางสัญจรของผู้คน และมีฐานลูกค้าอยู่เป็นจำนวนมาก มีประสบการณ์การทำงานอันเป็นเลิศและมีประวัติความเป็นมายาวนานมากที่สุดในประเทศไทย โดยมาสด้าราชาออโต้เซลส์เริ่มเข้ามาเป็นผู้จำหน่ายมาสด้าอย่างเป็นทางการตั้งแต่ปี พ.ศ. 2510 ในอำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา จากประสบการณ์ที่สั่งสมมาอย่างยาวนานถึง 58 ปี จึงทำให้มาสด้าราชาออโต้เซลส์มีความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับรถยนต์มาสด้าเป็นอย่างดีทั้งด้านการขายและการบริการ พรั่งพร้อมไปด้วยทีมช่างเทคนิคและที่ปรึกษาการขายที่มีความรู้ความสามารถสูง พร้อมให้การดูแลรถยนต์ของลูกค้าอย่างเต็มประสิทธิภาพ ทำให้ลูกค้ามั่นใจอย่างยิ่งว่ามาสด้าราชาออโต้เซลส์ทุกสาขาในโคราชจะเป็นหนึ่งในกำลังสำคัญที่จะช่วยผลักดันแบรนด์มาสด้าให้เติบโตอย่างยั่งยืน และส่งมอบประสบการณ์ที่น่าจดจำให้กับลูกค้าในเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือได้เป็นอย่างดี
พิธีเปิดโชว์รูมอย่างเป็นทางการของมาสด้าราชาออโต้เซลส์ได้รับเกียรติอย่างสูงจาก นายเทวัญ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานในพิธีฯ พร้อมด้วย นางสาวอัญรินทร์ วงศ์อัครพัฒนา รองประธานสโมสรนครราชสีมา มาสด้า เอฟซี, นายธีร์ เพิ่มพงศ์พันธ์ ประธานกรรมการบริหารและซีอีโอ มร. ทาเคชิ ซาโตะ รองประธานกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่สายงานการเงิน และคณะผู้บริหารระดับสูงจาก บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด พร้อมด้วย นางสาวทัศนียา พัฒนจิตวิไล กรรมการผู้จัดการ และทีมผู้บริหาร บริษัท ราชาออโต้เซลส์ จำกัด พร้อมด้วยทีมงานสตาฟโค้ชและนักฟุตบอลจากสวาทแคท รวมทั้งลูกค้าและผู้มีเกียรติเข้าร่วมเป็นสักขีพยานอย่างคับคั่ง
พร้อมกันนี้ ทางผู้บริหารมาสด้าราชาออโต้เซลส์ ยังได้มอบเงินบริจาคให้กับโรงพยาบาล 4 แห่ง ได้แก่ โรงพยาบาลมหาราช โรงพยาบาลเทพรัตน์ โรงพยาบาลพิมาย และโรงพยาบาลปากช่อง เพื่อให้การช่วยเหลือผู้ป่วยเนื่องในโอกาสการเปิดโชว์รูมแห่งใหม่ รวมถึงมีการจัดกิจกรรมเพื่อมอบสิทธิพิเศษให้กับลูกค้าแบบอัดแน่นตลอดทั้งวัน อาทิ การจับฉลากรางวัลพิเศษให้กับลูกค้าที่ซื้อรถมาสด้าทุกรุ่น พร้อมด้วยไฮไลท์พิเศษกับกิจกรรม Meet & Greet นักเตะจากทีมสวาทแคท อาทิ เดนนิส มูริลโล่, ธณชัย หนูราช, ณัฐวุฒิ เจริญบุตร และนักเตะดาวรุ่งอีกมากมาย ที่มาสร้างสีสันด้วยการเล่นเกมส์มอบรางวัลพิเศษให้กับลูกค้าและแฟนคลับที่มาร่วมงาน ซึ่งสร้างสีสันให้กับงานในช่วงบ่ายได้เป็นอย่างดี
นางสาวทัศนียา พัฒนจิตวิไล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ราชา ออโต้เซลส์ จำกัด กล่าวว่า มาสด้าราชาเป็นธุรกิจที่สืบทอดจากรุ่นสู่รุ่นเพื่อสานต่อธุรกิจให้เกิดความยั่งยืน โดยบริษัทฯ มุ่งมั่นดำเนินธุรกิจให้เจริญก้าวหน้าและมั่นคง โดยตั้งอยู่บนพื้นฐานของคุณธรรมและเอื้อประโยชน์ต่อสังคมตามเจตนารมณ์ของ คุณเลอพงศ์ พัฒนจิตวิไล ผู้ก่อตั้งบริษัทฯ พร้อมส่งมอบรถยนต์มาสด้าและการบริการที่ดีที่สุด เพื่อแทนคำขอบคุณลูกค้าที่ให้ความเชื่อถือและไว้วางใจต่อมาสด้าราชามาตลอดเกือบ 60 ปี จากการดำเนินธุรกิจเป็นผู้จำหน่ายรถยนต์มาสด้าเพียงยี่ห้อเดียวในจังหวัดนครราชสีมา ซึ่งการเปิดโชว์รูมแห่งใหม่ครั้งนี้ทำให้มาสด้าราชาออโต้เซลส์มีโชว์รูมและศูนย์บริการรองรับลูกค้ามาสด้าในจังหวัดรครราชสีมา ถึง 4 สาขา และเป็นผู้จำหน่ายรถยนต์มาสด้าเพียงหนึ่งเดียวในจังหวัดนครราชสีมา ประกอบด้วย สำนักงานใหญ่ในตัวเมือง ใกล้กับอนุสาวรีย์ย่าโม สาขาอำเภอพิมาย สาขาอำเภอปากช่อง และสาขาสามแยกปักธงชัย ซึ่งในปีนี้นับเป็นโอกาสอันดีที่มาสด้าราชาออโต้เซลส์ได้มีโอกาสเฉลิมฉลองครบรอบการดำเนินธุรกิจมาเป็นเวลา 58 ปี ในประเทศไทย แสดงถึงความมุ่งมั่นและมั่นคงของบริษัทฯ ในการเดินหน้าเพื่อส่งมอบงานขายและงานบริการที่มีคุณภาพให้กับลูกค้ามาสด้าทุกคนในโคราชและพื้นที่ใกล้เคียง
“การขยายการลงทุนเพิ่มเติมในครั้งนี้ ทางบริษัทได้เพิ่มเงินงบประมาณอีกกว่า 200 ล้านบาท ประกอบด้วยการเพิ่มโชว์รูมแห่งใหม่สองสาขา คือ สาขาอำเภอปากช่องและสาขาสามแยกปักธงชัย รวมทั้งสิ้น 4 สาขา รวมมูลค่าการลงทุนกว่า 500 ล้านบาท แน่นอนว่าทางบริษัทฯ เล็งเห็นถึงศักยภาพของทำเลที่ตั้งที่มีกลุ่มลูกค้ามาสด้าอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก และเชื่อมั่นในศักยภาพของแบรนด์มาสด้าที่มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร ตลอดระยะเวลากว่า 58 ปี ที่บริษัทฯ ได้เข้ามาเป็นผู้จำหน่ายรถยนต์มาสด้าทำให้เรามั่นใจในแบรนด์เป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะปรัชญาของแบรนด์มาสด้าที่ไม่ได้มุ่งเพียงแต่เป็นบริษัทที่ผลิตรถยนต์เพื่อการขับขี่ แต่ยังพัฒนาการขับขี่รถยนต์เพื่อให้ตอบโจทย์กับผู้ใช้งานในทุก ๆ ด้าน พร้อมส่งมอบความสนุกสนานในการขับขี่ และปรัชญาการพัฒนารถยนต์ที่ช่วยให้ผู้ขับขี่กับรถเป็นหนึ่งเดียวกัน รวมถึงการประกาศเข้ามาลงทุนเพิ่มเติมของ มาสด้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น ครั้งล่าสุดอีก 5,000 ล้านบาท ในประเทศไทย ทำให้ลูกค้าและผู้จำหน่ายทั่วประเทศ รวมถึงพันธมิตรทางธุรกิจของมาสด้าทุกภาคส่วนมีความมั่นใจในแบรนด์มาสด้ามากยิ่งขึ้น ดังนั้น การเปิดโชว์รูมแห่งใหม่ในครั้งนี้ จึงตอกย้ำถึงความมั่นใจอย่างเต็มเปี่ยมของมาสด้าราชาออโต้เซลส์ที่มีต่อแบรนด์มาสด้าได้เป็นอย่างดี และเชื่อว่ามาสด้ากำลังเดินหน้าตามแผนธุรกิจระยะยาวเพื่อมุ่งสู่การเติบโตอย่างยั่งยืนในประเทศไทย” นางสาวทัศนียา กล่าวเกี่ยวกับการขยายการลงทุนเพิ่มเติมในครั้งนี้
ปัจจุบัน มาสด้าราชาออโต้เซลส์ เป็นผู้จำหน่ายรถยนต์มาสด้าหนึ่งเดียวในจังหวัดนครราชสีมา โดยมีทั้งหมด 4 สาขา สามารถรองรับงานบริการได้ถึง 2,000 คันต่อเดือน ทั้งนี้ยังพร้อมให้บริการแบบครบวงจร ด้วยศูนย์ซ่อมสีและตัวถังมาตรฐาน มีช่องบริการตรวจเช็กตามระยะแบบเร่งด่วน (Fast Track) และมีรถยนต์ Mazda CPO (Certified Pre-Owned) ไว้เป็นทางเลือกเพื่อบริการลูกค้าที่กำลังมองหารถยนต์มาสด้ามือสองคุณภาพดีที่ผ่านการรับรองมาตรฐานจากมาสด้าอีกด้วย
มาสด้า เซลส์ ประเทศไทย และ มาสด้าราชาออโต้เซลส์ ขอขอบคุณลูกค้าทุกท่านที่ให้การสนับสนุนเป็นอย่างดีมาโดยตลอด เราให้คำมั่นสัญญาว่าจะเดินหน้าพัฒนาธุรกิจในทุกส่วนงาน ด้วยการมุ่งเน้นให้ความสำคัญกับลูกค้ามาเป็นอันดับหนึ่งเสมอ เพื่อให้รถยนต์มาสด้าเป็นมากกว่ายานพาหนะ และกลายเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนความสุขในการใช้ชีวิตทุกด้านให้กับลูกค้ามาสด้าทุกคน เพื่อสร้างความรัก ความผูกพัน และเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตลูกค้าและครอบครัวไปตลอดอายุการใช้งาน
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine
-
News Car1 Min Read
จับตาอินไซต์ยานยนต์ไทย! กรุงศรี ออโต้ เผยพฤติกรรมผู้ใช้รถใหม่ทั่วภูมิภาคพบคนกรุงนิยมอีวี – กระบะครองใจอีสาน – ดิจิทัลบูมภาคใต้ – เก๋งและกระบะตอบโจทย์คนเหนือ
“กรุงศรี ออโต้” ผู้นำธุรกิจสินเชื่อยานยนต์ครบวงจร เครือธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) เผยอินไซต์ผู้ใช้รถตามภูมิภาค อ้างอิงจากข้อมูลการขอสินเชื่อยานยนต์ ชี้กรุงเทพฯและปริมณฑล นำเทรนด์ใช้รถอีวี เน้นผ่อนสั้น-จบไว ภาคเหนือนิยมรถกระบะและรถเก๋งขนาดกลางเน้นความคุ้มค่าและความทนทาน ภาคอีสาน ใช้กระบะเป็นเครื่องมือสร้างรายได้ของคนทุกเจเนอเรชัน โดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่นสร้างตัว ขณะที่ภาคตะวันออกขับเคลื่อนด้วยรถเก๋งขนาดกลางและขนาดใหญ่ในเขตเมืองอุตฯ ส่วนภาคใต้ใช้กระบะฝ่าภูเขา–ชายฝั่ง พร้อมขึ้นแท่นภูมิภาคที่มีการใช้บริการสินเชื่อยานยนต์ดิจิทัลสูงเป็นอันดับสองของประเทศ
นายคงสิน คงคา ประธานเจ้าหน้าที่ด้านธุรกิจสินเชื่อยานยนต์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ประเทศไทยมีความหลากหลายในเชิงภูมิประเทศและโครงสร้างประชากร ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อแนวโน้มการเลือกซื้อและการขอสินเชื่อยานยนต์ ซึ่งจากการที่ กรุงศรี ออโต้ ได้ศึกษาพฤติกรรมของผู้ใช้รถในแต่ละภูมิภาค พร้อมนำมาวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก พบว่า รถเก๋งขนาดกลาง ถึงขนาดใหญ่ โดยเฉพาะกลุ่มไฮบริด ได้รับความนิยมมากขึ้น ในขณะที่ผู้ใช้รถ Gen X อายุระหว่าง 45-60 ปี ที่มีรายได้ตั้งแต่ 45,000 บาทขึ้นไป ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีแนวโน้มเลือกใช้รถเก๋งขนาดใหญ่และรถกระบะ เพื่อความสะดวกสบาย ใช้งานในครัวเรือนและการประกอบอาชีพด้านเกษตรกรรม”
“จากอินไซต์ความแตกต่างของผู้ใช้รถในแต่ละภูมิภาค ไม่ว่าจะเป็นประเภทรถที่ได้รับความนิยม อาชีพ รายได้ พฤติกรรมการขอสินเชื่อ หรือแม้แต่การใช้แพลตฟอร์มดิจิทัล ทำให้กรุงศรี ออโต้ ไม่หยุดนิ่งที่จะพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการที่ตอบสนองความต้องการของผู้ใช้รถทั่วประเทศ เพื่อเป้าหมายในการเป็นที่ 1 ในใจผู้ใช้รถ ที่สามารถออกแบบโซลูชันให้สามารถตอบโจทย์ได้อย่างตรงจุด ครอบคลุม และเข้าใจบริบทของผู้ใช้รถในแต่ละพื้นที่อย่างแท้จริง” นายคงสิน กล่าวเสริม
เมืองหลวงนำเทรนด์! คนกรุงนิยมรถใหม่ พร้อมเทใจให้รถอีวี
กรุงเทพมหานครยังคงเป็นหัวใจของธุรกิจยานยนต์ในประเทศไทย โดยครองอันดับหนึ่งของประเทศในด้านยอดขายรถยนต์ ด้วยสัดส่วนที่สูงกว่าภูมิภาคอื่นอย่างต่อเนื่อง โดยรถยนต์ที่ได้รับความนิยมสูงขึ้นอย่างชัดเจนคือ รถยนต์ไฟฟ้า และรถเก๋งขนาดใหญ่ โดยในกลุ่มรถยนต์ไฟฟ้า มีแบรนด์ยอดนิยม 5 อันดับแรก ได้แก่ BYD, AION, MG, Deepal (CHANGAN) และ GWM ORA ส่วนหนึ่งมาจากการติดตั้งสถานีชาร์จที่ครอบคลุมทั่วพื้นที่กว่า 1,500 แห่ง รวมถึงการติดตั้งที่ชาร์จภายในบ้านหรือที่อยู่อาศัยที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สอดคล้องกับความต้องการนวัตกรรมยานยนต์ที่ทันสมัยและประหยัดพลังงาน ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนเมืองที่ต้องเผชิญกับการจราจรหนาแน่นในชีวิตประจำวัน ขณะที่รถเก๋งขนาดใหญ่ก็ได้รับความนิยมเช่นกัน เนื่องจากมีทางเลือกที่หลากหลาย ทั้งจากแบรนด์ญี่ปุ่นและยุโรป และในหลากหลายรูปแบบขุมพลัง ไม่ว่าจะเป็นเครื่องยนต์สันดาป (ICE) ไฮบริด (HEV) หรือปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) เพื่อรองรับความต้องการที่แตกต่างกันของผู้ใช้รถ นอกจากนี้ พฤติกรรมการขอสินเชื่อของผู้ใช้รถในกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีแนวโน้มเลือกผ่อนชำระในระยะเวลาที่สั้นกว่าภูมิภาคอื่น โดยส่วนใหญ่เลือกผ่อนในช่วง 4-5 ปี สะท้อนถึงศักยภาพในการชำระหนี้และการวางแผนปิดภาระทางการเงินภายในระยะเวลาที่สามารถควบคุมได้
รถเล็ก-ใหญ่ครองใจ คนภาคกลางเลือกรถตอบโจทย์ทั้งชีวิตและธุรกิจ
นอกเหนือจากกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ความนิยมในรถเก๋งขนาดใหญ่และขนาดเล็ก เพิ่มขึ้นในเขตภาคกลางเช่นกันซึ่งรวมกันคิดได้เป็นสัดส่วนสูงถึง 43.3% ของทั้งภูมิภาค สะท้อนถึงพฤติกรรมการเลือกใช้รถที่หลากหลายและตอบโจทย์ตามลักษณะการใช้งานที่แตกต่างกัน สำหรับรถเก๋งขนาดใหญ่ ความต้องการที่เพิ่มขึ้นสอดคล้องกับการขยายตัวของเมืองและพื้นที่เศรษฐกิจ ซึ่งทำให้ผู้บริโภค โดยเฉพาะกลุ่มเจ้าของกิจการ นิยมเลือกใช้รถที่รองรับการเดินทางไกลและใช้งานในเชิงธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ ขณะที่รถเก๋งขนาดเล็กก็ยังคงเป็นทางเลือกที่ได้รับความนิยมจากกลุ่มข้าราชการและพนักงานรัฐวิสาหกิจ ด้วยขนาดที่กะทัดรัด คล่องตัว และประหยัดค่าใช้จ่าย เหมาะกับการใช้งานในชีวิตประจำวัน
คนเหนือใช้งานจริงจัง กระบะ–เก๋งขนาดกลางตอบโจทย์
ภาคเหนือเป็นภูมิภาคที่มียอดขายรถกระบะและรถยนต์นั่งส่วนบุคคลขนาดกลางสูงที่สุด เมื่อเทียบกับภูมิภาคอื่น ๆ โดยไม่นับรวมกรุงเทพฯ และปริมณฑล สะท้อนพฤติกรรมการเลือกใช้รถที่สอดคล้องกับลักษณะการใช้ชีวิตและภูมิประเทศของพื้นที่ โดยรถกระบะได้รับความนิยมสูงสุดจากความสามารถในการรองรับการใช้งานหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางข้ามจังหวัดในพื้นที่ภูเขา หรือการใช้งานในเชิงพาณิชย์และธุรกิจ ซึ่งสอดคล้องกับบทบาทของภาคเหนือในฐานะหัวเมืองท่องเที่ยวและศูนย์กลางทางเศรษฐกิจของภูมิภาค ขณะเดียวกัน รถเก๋งขนาดกลางก็ยังคงเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกหลัก จากความอเนกประสงค์ในการใช้งานที่เหมาะกับทั้งชีวิตประจำวันและการเดินทางระยะไกล นอกจากนี้ ภาคเหนือยังเป็นภูมิภาคที่มียอดขายรถยนต์ไฟฟ้าสูงที่สุดในประเทศเมื่อไม่รวมกรุงเทพฯ โดยเฉพาะในกลุ่มรถยนต์ไฟฟ้าประเภทซีดาน ซึ่งเริ่มได้รับความสนใจเพิ่มมากขึ้น
อีสเทิร์นซีบอร์ดไลฟ์สไตล์ครบครัน! รถเก๋งขนาดกลาง-ใหญ่และรถไฟฟ้ารุกตลาด
ภาคตะวันออก ประกอบด้วยจังหวัดสำคัญที่ผสานศักยภาพด้านอุตสาหกรรมขนาดใหญ่กับการท่องเที่ยวอย่างลงตัว โดยเฉพาะจังหวัดระยองที่มีโรงงานอุตสาหกรรมมากกว่า 165 แห่ง และพื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) อย่างจังหวัดชลบุรีและฉะเชิงเทรา พร้อมกับการเป็นเมืองท่องเที่ยวสำคัญ ซึ่งมีประชากรแฝงและความต้องการใช้งานรถยนต์ส่วนบุคคลในระดับสูง โดยรถเก๋งขนาดกลางและใหญ่ได้รับความนิยมและมีสัดส่วนถึง 51.7% ของยอดขายรถทั้งหมด และภาคนี้ยังมีการเติบโตของรถไฟฟ้าอเนกประสงค์ ที่มากที่สุดอยู่ที่ 62% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา
กระบะคือของมันต้องมี! อีสาน Gen Z ใช้สร้างตัว
ภาคอีสานหรือภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เป็นพื้นที่กว้างใหญ่และครอบคลุมหลายจังหวัด ทำให้ผู้ใช้รถ นิยมทั้งรถเก๋งขนาดใหญ่และรถกระบะเพื่อรองรับการเดินทางและการใช้งานที่หลากหลาย โดยรถเก๋งขนาดใหญ่ได้รับความนิยมในฐานะตัวเลือกที่สะดวกสบายสำหรับการเดินทางระยะไกล ขณะที่รถกระบะยังคงเป็นหนึ่งในตัวเลือกหลักของผู้ใช้รถในภาคอีสาน โดยมีสัดส่วนยอดขายรองลงมาจากภาคเหนือ ด้วยความเหมาะสมสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวันและประกอบอาชีพ โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ Gen Z (อายุไม่เกิน 28 ปี) ที่มักเลือกใช้รถกระบะตอนเดียวสำหรับประกอบอาชีพ และกลุ่ม Gen X (อายุ 45-60 ปี) รวมถึง Baby Boomer (อายุมากกว่า 61 ปี) ที่นิยมรถกระบะสองตอนซึ่งใช้งานได้หลากหลาย ทั้งกิจกรรมครอบครัวและการเดินทางส่วนตัว โดยทั้งสองประเภทนี้รวมกันมีสัดส่วนถึง 43.1% ของยอดขายทั้งหมด
ภาคใต้ขับกระบะลุยภูเขา–ชายฝั่ง คล่องเทคโนโลยีติดอันดับ 2 สินเชื่อยานยนต์ดิจิทัล
ภาคใต้เป็นภูมิประเทศที่มีความหลากหลายทั้งภูเขาและชายฝั่งทะเล ทำให้ผู้ใช้รถในภาคใต้นิยมใช้รถกระบะและรถอเนกประสงค์ขนาดใหญ่ (PPV) ที่ตอบโจทย์ด้านการใช้งานในพื้นที่ ทั้งในชีวิตประจำวันและในบริบทของการท่องเที่ยวในท้องถิ่น ซึ่งมีสัดส่วนถึง 40.6% ของยอดขายรถทั้งหมด สะท้อนถึงความต้องการใช้งานรถที่เน้นความทนทานและสมรรถนะ นอกจากนี้ อีกหนึ่งพฤติกรรมเด่นของผู้ใช้รถในภาคใต้ คือ การเปิดรับช่องทางดิจิทัล เห็นได้จากสัดส่วนการขอสินเชื่อยานยนต์ดิจิทัลถึง 80% เป็นอันดับสองของประเทศ รองจากกรุงเทพฯ ที่ 94% แสดงให้เห็นว่าผู้ใช้รถในภาคใต้ไม่เพียงมีความคุ้นเคยกับการใช้งานออนไลน์ แต่ยังไว้วางใจบริการทางการเงินผ่านระบบดิจิทัลเป็นอย่างมาก
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine
-
News Car1 Min Read
“TOYOTA GAZOO Racing Thailand” ฟอร์มเดือดไม่แผ่ว ขึ้นโพเดียมศึก Thailand Super Series 2025 อีเว้นท์ 2 ที่บางแสน
“TOYOTA GAZOO Racing Thailand” ทีมแข่งรถยิ่งใหญ่และประสบความสำเร็จอย่างสูงของวงการมอเตอร์สปอร์ต ภายใต้การสนับสนุนของบริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ลงสนามประกาศศักดาต่อในศึก “Thailand Super Series 2025” อีเว้นท์ที่ 2 ฟอร์มเจ๋งรับถ้วยแชมป์ GTM –GTC- Super Touring turbo นำทีมโดย สุทธิพงศ์ สมิตชาติ, ณัฐวุฒิ เจริญสุขะวัฒนะ, ณัฐพงษ์ ห่อทองคำ, มานัต กุละปาลานนท์, กรัณฑ์ ศุภพงษ์, อัครพงษ์ อัคนีนิโรธ, กฤษฎิ์ วสุรัตน์, ณ ดล วัฒนธรรม, นรรัศมิ์ อภิวาท, ทรงศักดิ์ กรศิริสืบสกุล และ ไอตั้น อัษฎาธร ในระหว่างวันที่ 2-6 กรกฎาคม 2568 ณ สนามบางแสน สตรีท เซอร์กิต จ.ชลบุรี
ทีมนักแข่ง “TOYOTA GAZOO Racing Thailand” ฟอร์มแรงต่อเนื่องเดินหน้าลงสนามเทศกาลความเร็วระดับอินเตอร์ “Bangsaen Grand Prix 2025” ในรายการ Thailand Super Series Event 2 ทั้งรถและนักแข่งพร้อมทีมงานจัดเต็มพิกัดลงสนามทั้งหมด 5 รุ่น
รุ่น Supercar GTM ลงสนาม 2 คัน ด้วยรถ TOYOTA GR Supra รถหมายเลข 24 ขับโดย แมดคาว-ณัฐวุฒิ เจริญสุขะวัฒนะ โชว์ความเก๋าเจนสนามคว้าถ้วย Supercar GTM Am อันดับ 2 และอันดับ 1 ด้านรถหมายเลข 9 ขับโดย แมน-ณัฐพงษ์ ห่อทองคำ และ ต้น-มานัต กุละปาลานนท์ ใส่เต็มที่แท็กทีมสร้างผลงานรับถ้วย Supercar GTM Pro ในอันดับ 2 ทั้ง 2 เรซ
รุ่น Supercar GTC ใช้รถ Corolla Altis GR Sport หมายเลข 9 ขับโดย เอ็กซ์-อัครพงษ์ อัคนีนิโรธ และ ต้นกล้า-กฤษฎิ์ วสุรัตน์ ฝ่าทุกอุปสรรควัดใจแกร่งจบการแข่งขันรับถ้วยอันดับ 1 ในเรซ 4
รุ่น Super Touring ทีมส่งรถลงสนาม 2 คัน โดยรถ YARIS HB Turbo หมายเลข 25 ขับโดย ณ ดล วัฒนธรรม และ เน็กซี่-นรรัศมิ์ อภิวาท จบการแข่งขันอันดับ 3 ทั้ง 2 เรซ และรับถ้วยอันดับ 1 ในรุ่น Super Touring Turbo และทำเวลา Best time 01.53.207 นาทีต่อรอบอีกด้วย ด้านรถ YARIS ATIV หมายเลข 51 ขับโดย ไอตั้น-อัษฎาธร นักแข่งน้องใหม่ จบการแข่งขันในอันดับ 5 และอันดับ 2 ในรุ่น
รุ่น Supercar GT4 ใช้รถ TOYOTA GR Supra GT4 หมายเลข 19 ขับโดย อาร์โต้-สุทธิพงศ์ สมิตชาติ และ จั้ม-กรัณฑ์ ศุภพงษ์ จบการแข่งขันในรุ่น GT4 Am อันดับ 4
รุ่น Super Pickup D1 ด้วยรถ Hilux Champ หมายเลข 92 โดยการขับของ เฮียซ้ง-ทรงศักดิ์ กรศิริสืบสกุล สนามนี้จบการแข่งขัน 2 เรซ เก็บคะแนนไปด้วยอันดับ 7 และ 8 ในคลาส A
หลังจบการแข่งขัน คุณสุทธิพงศ์ สมิตชาติ ผู้อำนวยการทีมและนักแข่ง TOYOTA GAZOO Racing Thailand กล่าวว่า “สนาม TSS ที่บางแสนปีนี้ยังคงไว้ซึ่งความท้าทายทั้งในด้านเทคนิคและสภาพแวดล้อม แต่ก็เป็นโอกาสที่ดีในการพัฒนาทั้งรถและศักยภาพของทีมต่อเนื่อง ทุกคนทำหน้าที่อย่างยอดเยี่ยมภายใต้ข้อจำกัดในสนาม ทีมยังรักษามาตรฐานมีโพเดียมในรุ่นที่ลงแข่งขัน ขอขอบคุณแฟนมอเตอร์สปอร์ตทุกท่านที่ติดตามและส่งกำลังใจให้พวกเราครับ”
ร่วมติดตามชมและเชียร์ “TOYOTA GAZOO Racing Thailand” ที่เตรียมพร้อมลุยต่อในรายการมาราธอนทางเรียบ “RAAT Thailand Endurance Championship 2025” สนามแรกของฤดูกาล ในระหว่างวันที่ 12-13 กรกฎาคม 2568 ณ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ ติดตามผลงานชมและเชียร์ทีมแข่งรถสัญชาติไทยที่มุ่งมั่นและตั้งใจพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง เพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/TOYOTAGazooRacingTeamThailand
าง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine -
ฟาสต์ ออโต โชว์ 2025 เปิดมุมมอง “เลือกคันที่ชอบ ถอยคันที่ใช่” ให้เหมาะกับตัวเอง
เพราะการซื้อรถ…ไม่ใช่เรื่องเล็ก และไม่ได้มีเงื่อนไขให้ต้องคิดแค่เรื่องของงบประมาณ หรือรูปลักษณ์ภายนอกเท่านั้น แต่การซื้อรถคือ “การลงทุนในไลฟ์สไตล์” ที่สะท้อนถึงบุคลิกและความต้องการเฉพาะของแต่ละบุคคล รถแต่ละประเภทมีจุดเด่นที่ตอบโจทย์คนแต่ละแบบแตกต่างกันไป พัฒนเดช อาสาสรรพกิจ กูรูด้านยานยนต์และประธานจัดงาน “ฟาสต์ ออโต โชว์ ไทยแลนด์ 2025” ชวนมาเปิดมุมมองในการไล่เรียงทีละขั้นตอน เพื่อให้ได้ “รถที่ใช่” ไม่ใช่แค่ “รถที่ชอบ” เพราะรถที่ดีไม่ใช่รถที่แพงที่สุด แต่คือรถที่ “ตรงกับชีวิตคุณมากที่สุด”
- รู้จักตัวเองก่อนเลือกรถ สิ่งแรกที่ต้องถามตัวเองคือ “จะใช้รถไปทำอะไรบ้าง?” เพราะรถที่เลือกควรตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ เช่น
- คนที่ใช้ชีวิตในเมืองเป็นหลัก เจอรถติดบ่อย หาที่จอดรถยาก ต้องการรถที่พอดีตัว “ใช้งานได้จริง” จ่ายน้อย พร้อมตอบโจทย์ชีวิตประจำวัน : รถซิตี้คาร์ และรถไฟฟ้า
- คนที่ใช้รถเพื่อ “ทั้งชีวิตส่วนตัวและงาน” ในคันเดียว ใช้บรรทุกหนัก รักความทนทาน ดูแลรักษาง่าย : รถปิกอัพ
- คนที่ใส่ใจภาพลักษณ์ พิถีพิถันในการใช้ชีวิต รสนิยมสูง และไม่ลังเลที่จะเลือกสิ่งที่ดีที่สุด มองรถเป็นสัญลักษณ์ของความสำเร็จ : รถซีดานหรู และรถอเนกประสงค์พรีเมียม
- คนที่ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยเวลาเดินทางกับครอบครัว ไม่ชอบมีข้อจำกัด มองหารถที่ “ทำได้หลายอย่างในคันเดียว” – รถอเนกประสงค์
- คนที่ชอบความสมดุล ต้องการความประหยัดโดยไม่ลดทอนความสะดวก พร้อมใช้งานจริงทุกสถานการณ์ : รถไฮบริด
- คนรุ่นใหม่ ก้าวทันเทคโนโลยี ใส่ใจโลก มีการวางแผนชีวิต ใส่ใจเรื่องโลกร้อน มลพิษ และพลังงานสะอาด : รถไฟฟ้า
- รู้จักดูแลงบประมาณที่ไม่ใช่แค่ค่างวดรายเดือน แต่ให้มองภาพรวม เช่น:ค่าน้ำมัน หรือค่าไฟฟ้า ค่าบำรุงรักษา ค่าประกันภัย ค่าภาษี และมูลค่าขายต่อ (Resale value) เพราะรถบางคันถูกตอนซื้อแต่แพงตอนใช้ รถบางคันดูแพงตอนซื้อแต่ประหยัดในระยะยาว
- เลือกเครื่องยนต์ให้เหมาะกับการใช้งาน เช่น รถเครื่องยนต์ดีเซลให้แรงบิดสูงเหมาะกับการบรรทุกหรือเดินทางไกล รถเครื่องยนต์เบนซิน ดูแลง่าย ให้การขับขี่นุ่มนวล เหมาะกับผู้ใช้ทั่วไป รถไฮบริดช่วยประหยัดน้ำมันยามขับในเมืองหรือรถติด รถไฟฟ้า แม้จะประหยัดสุดในระยะสั้น แต่เหมาะสำหรับเดินทางในเมืองเป็นหลัก และต้องมีจุดชาร์จไฟประจำ เป็นต้น
- ลองขับก่อนตัดสินใจ แม้สเปกจะดูดีแค่ไหน แต่ถ้า “นั่งไม่สบาย ขับไม่ถนัด” ก็คงไม่ใช่ ลองขับเพื่อเช็กความสบายของเบาะ การมองเห็นและทัศนวิสัย ระบบความปลอดภัย และเทคโนโลยีที่ตอบโจทย์ความต้องการมากที่สุด
- บริการหลังการขายสำคัญกว่าที่คิด อย่าลืมตรวจเช็คเรื่องเหล่านี้ให้ดีก่อนตัดสินใจ เช่นศูนย์บริการใกล้บ้านหรือใกล้ที่ทำงานหรือไม่ ระยะเวลารับประกัน ความน่าเชื่อถือของแบรนด์และบริการหลังการขาย
อย่าแค่เลือกด้วยใจ ต้องมีเหตุผลประกอบ ลองเปรียบเทียบรถหลายรุ่น ทดลองขับ และหาข้อมูลจากผู้ใช้จริงก่อนตัดสินใจ หากต้องการประหยัดเวลาในการเสาะหารถคุณภาพดีที่เหมาะสมและตอบโจทย์ในการใช้งาน ในงาน “ฟาสต์ ออโต โชว์ ไทยแลนด์ 2025” มีทั้ง “รถใหม่โปรโดนใจ รถมือสองไมล์แท้รับประกันซื้อคืน” ให้ได้เปรียบเทียบคุณภาพและราคา โดยเฉพาะรถมือสองที่คัดเกรดมาเป็นอย่างดีพร้อมรับประกันซื้อคืน 100% หากไม่ตรงตามเงื่อนไข 6 ข้อ คือ ไม่ไฟไหม้ ไม่จมน้ำ ไม่ตัดต่อ ไม่ชนหนัก จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย และเงื่อนไขล่าสุด เลขไมล์แท้ 2-6 กรกฎาคม ศกนี้ ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา ฮอลล์ 102-103
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine -
เบนท์ลีย์ มอเตอร์ส เผยโฉมโลโก้ใหม่ ‘New Wings’ เตรียมเปิดตัวพร้อมคอนเซปต์คาร์รุ่นใหม่ 8 กรกฎาคมนี้
เบนท์ลีย์ มอเตอร์ส เผยโฉมโลโก้ใหม่ ‘Bentley Wings’ กับก้าวแรกในการผลิกโฉมการออกแบบสู่อนาคตของแบรนด์รถยนต์สัญชาติอังกฤษ โลโก้ ‘Winged B’ ใหม่นี้ถือเป็นวิวัฒนาการการออกแบบครั้งที่ 5 ในประวัติศาสตร์ 106 ปีของแบรนด์ และจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการพร้อมกับรถยนต์ต้นแบบรุ่นใหม่ในวันที่ 8 กรกฎาคมนี้ ซึ่งเป็นช่วงเดียวกับวันเปิดสตูดิโอออกแบบแห่งใหม่ที่โรงงานเบนท์ลีย์ มอเตอร์ส เมืองครูว์ ประเทศอังกฤษ
โลโก้ ‘Winged B’ แบบดั้งเดิมนั้นออกแบบโดย F. Gordon Crosby ในปี 2462 และได้มีการปรับเปลี่ยนเรื่อยมาในปี 2474 ปี 2533 และ ปี 2545 จนกระทั้งในปี 2568 ซึ่งถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์กว่าศตวรรษที่ผ่านมา การออกแบบโดยทีมออกแบบของเบนท์ลีย์ภายใต้การกำกับดูแลอย่างใกล้ชิดของ Robin Page ผู้อำนวยการฝ่ายออกแบบ โลโก้ Winged B ใหม่นี้จะเป็นก้าวแรกสู่อนาคตของแบรนด์รถยนต์เบนท์ลีย์ โดยโลโก้ใหม่ได้รับการออกแบบด้วยความตั้งใจ ความเอาใจใส่ และความคิดสร้างสรรค์ ถือเป็นสัญลักษณ์แห่งอนาคตที่น่าตื่นเต้นของแบรนด์รถยนต์สัญญาติอังกฤษนี้
สำหรับโลโก้ใหม่จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการพร้อมกับรถยนต์ต้นแบบแห่งอนาคตรุ่นใหม่ ซึ่งถือเป็นการเริ่มต้นแนวคิดด้านการออกแบบรถยนต์เบนท์ลีย์ยุคใหม่ โดยรถยนต์ต้นแบบดังกล่าวมีกำหนดการเปิดตัวในวันที่ 8 กรกฎาคมนี้ ซึ่งถึงแม้ว่ารถยนต์ต้นแบบที่ได้รับแรงบันดาลใจจากรถยนต์เบนท์ลีย์รุ่นไอคอนนิกในอดีตจะไม่ได้มีจุดประสงค์เพื่อการผลิต แต่จะเป็นการบ่งบอกถึงทิศทางของแบรนด์รถยนต์เบนท์ลีย์ในอนาคต
Robin Page ผู้อำนวยการฝ่ายออกแบบ เบนท์ลีย์ มอเตอร์ส กล่าวว่า “หากแบรนด์หรูเป็นผลผลิตจากเรื่องราวที่สร้างสรรค์ขึ้น โลโก้ก็ถือเป็นลายเซ็นของแบรนด์นั้นเอง ในประวัติศาสตร์กว่าศตวรรษที่ผ่านมา นี่เป็นการผลิกโฉมการออกแบบครั้งที่ห้าของ Winged B อันโด่งดังของเบนท์ลีย์ การออกแบบใหม่ถือเป็นงานยากที่เราใส่ใจอย่างมาก ในโลกยุคดิจิทัลที่ซับซ้อน การทำให้เรียบง่ายและประณีตจึงเป็นสิ่งสำคัญ ดังนั้น โลโก้ใหม่จึงดูเรียบ คมชัด และสื่อสารภาพลักษณ์ได้ดีกว่ารุ่นก่อน โลโก้ Winged B และรถยนต์ต้นแบบใหม่ที่กำลังจะเปิดตัว จึงล้วนเป็นสัญลักษณ์ของอนาคตที่ทรงพลังและน่าตื่นเต้นของแบรนด์ที่จะมาพร้อมกับสุดยอดยนตรกรรมที่ถูกรังสรรค์ขึ้นด้วยงานฝีมือ”
โลโก้ Winged B ใหม่
การออกแบบ Winged B ใหม่ที่นำโดย Robin Page ได้รับการสนับสนุนจากทีมงานภายในของเบนท์ลีย์ มอเตอร์ส โดยในช่วงแรกมีการจัดการแข่งขันการออกแบบขึ้น โดยให้ทีมออกแบบทั้งหมดส่งแนวคิดและแบบร่าง สำหรับผลงานการออกแบบที่ได้รับการคัดเลือกนั้นได้รับการเสนอโดย Young Nam ซึ่งเป็นสมาชิกของทีมออกแบบภายใน จากนั้นแนวคิดนี้จึงได้รับการพัฒนาและลงรายละเอียดสู่รูปแบบล่าสุด
ภารกิจในการออกแบบโลโก้ใหม่ คือ การนำรายละเอียดอันงดงามบางส่วนจากงานออกแบบโลโก้รูปแบบก่อนมาใช้ เช่น ลวดลายเพชรของปีกด้านในและอักษรรูปตัว “B” ตรงกลางที่มีการออกแบบใหม่ให้ดูร่วมสมัยยิ่งขึ้น
การออกแบบรูปร่างของปีกใหม่จะเน้นความคมชัดและโดดเด่นกว่ารูปแบบก่อน โดยชวนให้นึกถึงปีกทรงมุมแหลมของเหยี่ยวเพเรกริน โดยขนส่วนล่างใต้ปีกอักษรรูปตัว “B” ได้ถูกนำออกทั้งหมดเพื่อให้ดูสะอาดตาขึ้น
ตรงกลางของปีกยังคงมีอักษรรูปตัว “B” ประดับอยู่ แต่ได้รับการออกแบบใหม่เพื่อให้สามารถแยกเป็นภาพกราฟิกโลโก้เดี่ยวโดยที่ไม่ต้องมีปีกได้ ซึ่งตัวอักษรรูปตัว “B” ได้รับการออกแบบเพื่อให้เก็บรายละเอียดตามที่เห็นในงานออกแบบนาฬิกาหรู เช่น ขอบกระจกและขอบโลหะกับความลึกแบบ 3 มิติของตัว “B” ใต้พื้นผิว
เรื่องราวของโลโก้ Winged B
องค์ประกอบต่างๆ ของโลโก้แบรนด์รถยนต์เบนท์ลีย์ยังคงความเป็นเอกลักษณ์เสมอมา นั่นคืออักษรรูปตัว “B” ที่โดดเด่นอยู่ตรงกลางของโลโก้ขนาบด้วยปีกนกสองข้าง ในช่วงที่ W.O. Bentley ก่อตั้งบริษัทผลิตรถยนต์ในปี 2462 เขาต้องการโลโก้ที่สะท้อนถึงการผลักดันขีดจำกัดด้านสมรรถนะ W.O. Bentley จึงได้ร่วมมือกับ F. Gordon Crosby ผู้มีชื่อเสียงในวงการสื่อด้านยานยนต์ช่วงก่อนสงครามโลก และได้นำการแข่งขันรถยนต์ทางไกลข้ามทวีปกลับมาให้ผู้อ่าน The Autocar อีกครั้ง Crosby ได้ออกแบบ Winged B แบบดั้งเดิม โดยมีอักษรรูปตัว “B” ของเบนท์ลีย์อยู่ภายในปีกคู่หนึ่งที่เลือกมาเพื่อแสดงถึงอารมณ์ความตื่นเต้นเร้าใจ หรืออีกนัยหนึ่ง คือ ภูมิหลังของ W.O. Bentley ในฐานะวิศวกรนักออกแบบเครื่องยนต์สำหรับเครื่องบินรบในช่วงสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง Crosby ให้ปีกแต่ละข้างมีขนนกจำนวนต่างกันเพื่อให้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว และเพื่อให้ยากต่อการลอกเลียนแบบ
ในช่วงเบนท์ลีย์อยู่ภายใต้การดูแลของโรลส์-รอยซ์ในปี 2474 โลโก้ใหม่จึงได้ถูกคิดค้นขึ้น โลโก้รุ่นที่สองนี้มีลักษณะสมมาตร โดยมีขนนกที่ยืดตรง 10 เส้นต่อด้าน ขนาบข้างอักษรรูปตัว “B” ที่เรียบง่ายในวงรีสีดำ โลโก้รุ่นนี้ถือเป็นรุ่นที่มีการใช้งานมายาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์ของแบรนด์รถยนต์เบนท์ลีย์ โดยยังคงใช้มาจนกระทั่งมีการแก้ไขโลโก้ครั้งที่สามในช่วงปี 2539 ซึ่งเมื่อมีการแก้ไขตัวอักษรรูปตัว “B” ตรงกลางเพื่อเป็นการยกย่อง Crosby และเพื่อให้สอดคล้องกับโลโก้แบบดั้งเดิม ตราโลโก้และส่วนโค้งของปีกจึงได้รับการเน้นให้เด่นชัดขึ้น
หลังจากที่ Volkswagen Group เข้าดูแลเบนท์ลีย์ในปี 2541 โลโก้ดังกล่าวก็ได้รับการออกแบบใหม่สำหรับรถยนต์ระดับไอคอนนิก รุ่น Continental GT รุ่นแรกที่เปิดตัวในปี 2545 สำหรับยุคใหม่ของเบนท์ลีย์ที่นำโดยรุ่นเรือธงอย่าง Continental GT ซึ่งเป็นรถยนต์เบนท์ลีย์ที่มียอดผลิตเพิ่มขึ้นจาก 1,000 คันเป็น 10,000 คันต่อปี โลโก้ Winged B จึงได้รับการออกแบบใหม่ และเพื่อเป็นการยกย่องรถยนต์รุ่นดั้งเดิมในปี 2462 โลโก้ Winged B ใหม่จึงได้กลับมาใช้งานออกแบบที่ไม่สมมาตร โดยมีขนนก 10 เส้นในปีกด้านซ้ายและ 11 เส้นในปีกด้านขวา โลโก้ Winged B รุ่นนี้จึงได้ถูกใช้เป็นโลโก้หลักของแบรนด์รถยนต์เบนท์ลีย์นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
โลโก้ Winged B ใหม่ ปี 2568 จะใช้สำหรับการเปิดตัว 2 ครั้งในสัปดาห์หน้า โดยครั้งแรกจะเป็นการเปิดตัวอย่างเป็นทางการ ณ โรงงานเบนท์ลีย์ มอเตอร์ส เมืองครูว์ ประเทศอังกฤษในวันจันทร์ที่ 7 กรกฎาคมนี้ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการเปิดตัวสตูดิโอออกแบบอันทันสมัยแห่งใหม่ของเบนท์ลีย์ โครงการพัฒนาอาคารสูง 3 ชั้นนี้สร้างขึ้นภายในอาคารสำนักงานใหญ่เดิมของโรงงานที่สร้างขึ้นครั้งแรกในปี 2481 และการเปิดตัวครั้งที่ 2 ในวันอังคารที่ 8 กรกฎาคมนี้จะเป็นการเผยโฉมพร้อมกับรถยนต์ต้นแบบรุ่นใหม่ที่จะถือเป็นรถยนต์เบนท์ลีย์รุ่นแรกที่จะมีการตกแต่งด้วยโลโก้ Winged B ใหม่นี้
ผู้สนใจครอบครองรถยนต์เบนท์ลีย์สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมและข้อเสนอพิเศษได้ที่ เบนท์ลีย์ แบงค็อก โดย บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์เบนท์ลีย์อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย โทร. 080-925-9999 หรือ 02-261-1050 LINE Official Account: @bentleybangkokaas คลิก https://lin.ee/4JOaZyE8V
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine -
“OR – พาณิชย์” ผนึกกำลังช่วยเหลือเกษตรกร เดินหน้าเชื่อมโยงการรับซื้อมังคุดใต้ เติมเต็มโอกาสสร้างรายได้สู่ชุมชนผ่าน พีทีที สเตชั่น
บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) (OR) สานต่อพันธกิจเพื่อสังคม เดินหน้าเชื่อมโยงการรับซื้อมังคุดใต้ ต่อยอดโอกาสการสร้างรายได้สู่ชุมชนผ่านสถานีบริการ พีทีที สเตชั่น สอดรับนโยบายภาครัฐฯ ที่มุ่งแก้ไขปัญหาผลไม้ล้นตลาดและสร้างช่องทางจำหน่ายให้เกษตรกรไทย
คุณจตุพร บุรุษพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ พร้อมด้วย คุณสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีช่วยว่าการฯ ร่วมลงพื้นที่พบปะเกษตรกร เชื่อมโยงซื้อขายมังคุดจากเกษตรกรสู่ช่องทางการตลาดใหม่ ๆ เพื่อกระจายผลผลิตไปสู่ห้างค้าส่ง-ค้าปลีก และสถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิง โดยมี คุณณัฐวัฒน์ รัฐวิวรรธน์ ผู้จัดการฝ่ายบริหารสถานีบริการส่วนภูมิภาค OR ร่วมลงพื้นที่ ณ กลุ่มมังคุดบ้านนากุน หมู่ที่ 6 ตำบลสระแก้ว อำเภอท่าศาลา จังหวัดนครศรีธรรมราช ในการนี้ OR ได้เข้าร่วมเป็นพันธมิตรสำคัญในการรับซื้อผลผลิตมังคุดจากเกษตรกรโดยตรง และกระจายผ่านสถานีบริการ พีทีที สเตชั่น ซึ่งเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ต่อยอดจากโครงการช่วยเหลือผลไม้ภาคตะวันออกเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา
ภารกิจนี้เกิดขึ้นเพื่อตอบสนองต่อสถานการณ์ผลผลิตมังคุดที่กำลังทยอยออกสู่ตลาด ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อราคาและรายได้ของเกษตรกรในพื้นที่ โดยกรมการค้าภายในได้บูรณาการความร่วมมือกับทั้งภาครัฐและเอกชน เพื่อเร่งกระจายผลผลิตไปยังตลาดต่าง ๆ รวมถึง สถานีบริการ พีทีที สเตชั่น ที่จะร่วมเป็นพื้นที่ปันสุขกระจายผลผลิตให้แก่ผู้ใช้บริการต่อไป
OR ยังคงดำเนินงานภายใต้วิสัยทัศน์ “เติมเต็มโอกาส เพื่อทุกการเติบโต ร่วมกัน” (Empowering All toward Inclusive Growth) พร้อมให้ความสำคัญกับเกษตรกรไทยมาอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งมุ่งมั่นให้ทุกสถานีบริการ พีทีที สเตชั่น เป็นมากกว่าสถานีบริการน้ำมัน แต่ยังเป็นพื้นที่เติมเต็มโอกาสให้กับชุมชน โดยตลอดเวลาที่ผ่านมา OR ได้สนับสนุนเกษตรกรไทยอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด ผ่านหลากหลายโครงการใน พีทีที สเตชั่น ที่พร้อมเป็นพื้นที่เติมเต็มความสุข ช่วยสร้างรายได้ให้แก่เกษตรกรไทยไปแล้วกว่า 30 ล้านบาท อาทิ โครงการพื้นที่ปันสุขในสถานีบริการ พีทีที สเตชั่น ทั่วประเทศ เพื่อเป็นช่องทางจำหน่ายสินค้าเกษตรโดยตรงจากผู้ผลิตสู่ผู้บริโภค หรือการรับซื้อผลไม้จากเกษตรกรที่ประสบปัญหาผลผลิตล้นตลาดแล้วนำมามอบให้ลูกค้าที่ใช้บริการเติมน้ำมันที่สถานีบริการ พีทีที สเตชั่น เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกร พร้อมสร้างวงจรเศรษฐกิจฐานรากที่เข้มแข็งขึ้นอย่างยั่งยืน
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine
-
“เอกนัฏ” รมว.อุตสาหกรรม เยี่ยมชมบู๊ธ Primus Group ในงาน Fast Auto Show Thailand 2025
นายณัฏฐวุฒิ ตั้งคารวคุณ (ที่ 5 จากซ้าย) ประธาน, นายจิระพล รุจิวิพัฒน์ (ที่ 4 จากขวา) กรรมการผู้จัดการ พร้อมคณะผู้บริหาร บริษัทในเครือ ไพรม์มัส กรุ๊ป ให้การต้อนรับ นายเอกนัฎ พร้อมพันธุ์ (ที่ 5 จากขวา) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะประธานพิธีเปิดงาน Fast Auto Show Thailand 2025 พร้อมนายพัฒนเดช อาสาสรรพกิจ (ที่ 3 จากซ้าย) ประธาน, นายอัษฎาวุธ อาสาสรรพกิจ (ที่ 1 จากซ้าย) รองประธาน จัดงาน Fast Auto Show Thailand 2025 ให้เกียรติเข้าเยี่ยมชมบู๊ธรถยนต์ในเครือ ไพรม์มัส กรุ๊ป ที่จัดแสดงรถยนต์ยี่ห้อ Mercedes-Benz, Zeekr, Aion, MG และ Deepal พร้อมร่วมถ่ายภาพหมู่กับผู้บริหารระดับสูงของ ไพรม์มัส กรุ๊ป
ในงานครั้งนี้ “ไพรม์มัส กรุ๊ป” ได้นำยนตรกรรมหลากหลายยี่ห้อในเครือเข้าร่วมจัดแสดงกว่า 10 รุ่น ได้แก่
1.Mercedes–Benz
-Mercedes-Benz C220d AMG Line รถซีดานสปอร์ตหรูยอดนิยม ราคาเริ่มต้น 2.88 ล้านบาท รับส่วนลดสูงสุด 250,000 บาท
– Mercedes-Benz E350 e AMG Premium รถซีดาน 4 ประตู ราคา 4.08 ล้านบาท รับส่วนลดสูงสุด 6 หมื่นบาท ฟรี! บัตรของขวัญ 1 แสนบาท
– Mercedes-Benz GLC 350 e 4MATIC AMG Dynamic รถเอสยูวีสุดลักชูรีย์ ราคา 4.18 ล้านบาท รับส่วนลดสูงสุด 3.9 แสนบาท ฟรี! บัตรของขวัญ 1 หมื่นบาท
2. Zeekr
-เปิดจองสิทธิ์! เป็นเจ้าของ Zeekr 7X รถอีวี พรีเมียม มี 2 รุ่นให้เลือก ได้แก่ รุ่นมอเตอร์เดี่ยว ล้อแม็กซ์ 19 นิ้ว และรุ่นมอเตอร์คู่ ล้อแม็กซ์ 20 นิ้ว ราคาเริ่มต้น 1.6XX ล้านบาท
-Zeekr 009 รุ่น 6 ที่นั่ง รถเอ็มพีวีสุดลักชูรี่ย์ ราคา 3.159 ล้านบาท ดอกเบี้ย 0% นาน 60 เดือน ฟรี! ประกันภัยชั้น 1 นาน 3 ปี และ บัตรชาร์จไฟ มูลค่า 1 หมื่นบาท
-Zeekr X รถคอมแพกต์เอสยูวี ราคาเริ่มต้น 1.199 ล้านบาท ฟรี! ดอกเบี้ย นาน 60 เดือน พร้อมประกันภัยชั้น
3. MG
-MG IM6 รถเอสยูวีคูเป้ ใหม่ล่าสุด มี 2 แพ็กเก็จ ราคาพิเศษ พร้อมประกันภัยชั้น 1 หรือเลือก ฟรี! ประกันภัยชั้น 1 พร้อม พรบ.นาน 2 ปี, IM Mag Hub Set ทั้ง 2 แพ็คเก็จ รับดอกเบี้ย 1.99% และประกันแบตเตอรี่ ตลอดอายุการใช้งาน
-MG S5 รถ บี-เอสยูวี ไฟฟ้า 100% เริ่มต้นที่ 7.199 แสนบาท ดอกเบี้ยพิเศษ 1.99%, ฟรี! ประกันภัยชั้น 1 และค่าจดทะเบียน
-New MG4 Electric รถแฮทช์แบค วิ่งไกล 540 กม. ราคาเริ่มต้น 5.699 แสนบาท ดาวน์ 9.999 พันบาท ฟรี! ชุดแต่งรอบคัน
4. Deepal
-Deepal S05 รถเอสยูวี ขนาดกลาง มีให้เลือกทั้ง EV และ REEV ราคาเริ่มต้น 7.99 แสนบาท ดอกเบี้ย 1.98% ฟรี! ประกันภัยชั้น 1, Home Charger พร้อมติดตั้ง และของสมนาคุณกว่า 2 หมื่นบาท เฉพาะ 3 พันคันแรกเท่านั้น
-Lumin รถซิตี้คาร์สุดคิว ราคา 4.99 แสนบาท มี 2 ข้อเสนอให้เลือก รับส่วนลด 1 หมื่นบาท ฟรี! ประกันภัยชั้น 1 หรือ ดอกเบี้ย 0% นาน 48 เดือน พร้อมช่วยผ่อน 3 พันบาท นาน 12 เดือน และรับเงินคืน 1.3 หมื่นบาท
5. Aion
-Aion UT รถแฮทช์แบ็ก 5 ประตู ราคาพิเศษเริ่มที่ 4.999 แสนบาท ฟรี! อินเทอร์เน็ตบนรถ นาน 2 ปี
-Aion Y Plus รถเอสยูวีไฟฟ้า รับโปรขับฟรี! นาน 1 ปี เฉพาะรุ่น 490 Premium
-Aion HYPTEC HT รถไฟฟ้าสุดหรู ประตูปีกนก เริ่มต้นที่ 1.449 ล้านบาท ดอกเบี้ย 0% นาน 48 เดือน ฟรี! Home Charger พร้อมติดตั้ง, ประกันภัยชั้น 1 และค่าจดทะเบียน
ผู้สนใจได้เลือกชมและเป็นเจ้าของรถยนต์ทั้ง 5 ยี่ห้อได้อย่างใกล้ชิด พร้อมรับข้อเสนอพิเศษต่างๆ มากมาย เฉพาะที่บู๊ธ A2 Primus Group ในงาน “Fast Auto Show Thailand 2025” เริ่มวันที่ 2-6 กรกฎาคม 2568 เวลา 10.00 – 21.00 น. ที่ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine
-
ส่องโปรเด็ดกลางปี “ฟาสต์ ออโต โชว์ 2025” รถใหม่-รถยนต์ใช้แล้วจัดเต็มคุ้มทุกดีล
รวมโปรโมชั่นเด็ดโดนใจในงาน “ฟาสต์ ออโต โชว์ ไทยแลนด์ 2025” ทั้งรถใหม่ป้ายแดงและรถใช้แล้วคุณภาพดี ครบทุกเซ็กเมนต์ ครอบคลุมทุกทางเลือกด้านพลังงาน ที่มาพร้อมข้อเสนอพิเศษจัดเต็มทุกดีล ดาวน์น้อย-ผ่อนสบาย ดอกเบี้ยต่ำ-ส่วนลดพิเศษ ของแถม-ของแจก และการรับประกันหลังการขายสุดคุ้ม ร่วมค้นหา “รถคันที่ใช่” ไว้ใช้งาน ภายใต้เงื่อนไขที่ดีสุดในงาน “ฟาสต์ ออโต โชว์ ไทยแลนด์ 2025” ตั้งแต่วันนี้ – 6 กรกฎาคม ณ ฮอลล์ 102-103 ไบเทค บางนา เข้าฟรี! 10.00 – 21.00 น.
- อีซูซุ (ISUZU) นำทัพรถอเนกประสงค์สุดหรู NEW! ISUZU MU-X “THE NEXT PEAK” และ NEW! ISUZU D-MAX ที่มาในคอนเซ็ปต์ “ดีแมคซ์ ดีจริง” ปิกอัพที่รวมทุกความต้องการไว้ครบ ทั้งในเรื่องความแรง ความประหยัดน้ำมัน ความทนทาน การเกาะถนน และความคุ้มค่า พร้อมแจกจริงกับแคมเปญใหญ่แห่งปี “ดีแมคซ์ ดีจริง ลุ้นทองทุกสัปดาห์” สำหรับลูกค้าที่ซื้อและรับรถอีซูซุดีแมคซ์ ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม – 31 สิงหาคม 2568 ลุ้นรับรางวัลจี้ทองคำน้ำหนัก 2 สลึง มูลค่า 26,051.39 บาท จับรางวัลทุกสัปดาห์ สัปดาห์ละ 22 รางวัล จำนวน 9 สัปดาห์ มูลค่ารวมกว่า 5 ล้านบาท
- โตโยต้า (TOYOTA) พบข้อเสนอเร้าใจ FAST สุดทุกดีล แค่แวะชมบูทในงานพร้อมลงทะเบียน รับของที่ระลึกสุดพิเศษ และโปรโมชั่นเด็ด “โตโยต้า เฟสติว้าว (FESTIWOW) โปรพรมแดง ลด ลุ้น ว้าวว” ว้าว 2 ต่อกับข้อเสนอพิเศษสำหรับลูกค้าที่จองและออกรถยนต์โตโยต้าทุกรุ่นตั้งแต่วันนี้ – 31 กรกฎาคม 2568
- ว้าวที่ 1 สแกนปั๊ป รับส่วนลด มูลค่าสูงสุด 70,000 บาท โดยมีให้เลือกตามใจทั้งส่วนลดเงินสด ส่วนลดดอกเบี้ย แพ็กเกจเช็กกระยะ หรือส่วนลดแลกเปลี่ยนรถใช้แล้ว ขึ้นอยู่กับประเภทของรางวัล
- ว้าวที่ 2 รับรถแล้ว ลุ้นทองหนัก 5 บาท โทรศัพท์มือถือ iPhone 16 Pro และบัตร Shopping Voucher รวมทั้งสิ้น 50 รางวัล
- ฮอนด้า (HONDA) ยกขบวนไลน์อัพ xEV ที่ครบครัน ทั้งรถยนต์ฮอนด้าฟูลไฮบริด e:HEV ทุกรุ่น และ Honda e:N1 รถยนต์ไฟฟ้า 100% พร้อมแคมเปญ “Honda Pro OH! MY GOOOOD ยกขบวนคุ้ม รับเลยไม่ต้องลุ้น” กับหลากหลายข้อเสนอฟีลกู้ดสุดคุ้ม
- คุ้ม 1: ทางเลือกดอกเบี้ย 0% พร้อมฟรีประกันภัย 1 ปี หรือเลือกรับดอกเบี้ยเพียง 99% พร้อมฟรี Honda Exclusive Care เซฟเงินในกระเป๋าให้ใช้รถฮอนด้าได้อย่างมั่นใจยาว ๆ รวมมูลค่าสูงสุดกว่า 200,000 บาท
- คุ้ม 2 : ชวนเพื่อนมาซื้อรถ รับ E-Coupon มูลค่า 3,000 บาท สำหรับใช้บริการที่ศูนย์ฮอนด้า ส่วนลูกค้าที่ออกรถใหม่จะได้รับบัตรน้ำมันมูลค่า 3,000 บาท
- คุ้ม 3 : รถเก่าแลกซื้อรถใหม่ Happy Trade-in รับสิทธิพิเศษเพิ่มเติม มูลค่า 15,000 บาท ถึง 100,000 บาท โดยเมื่อนำรถยนต์ฮอนด้าคันเดิมมาขายและออกรถยนต์ Honda e:N1
- คุ้ม 4 : แคมเปญสำหรับลูกค้าปัจจุบัน สบายดี Season บริการหลังการขาย ผ่อนสบาย กับหลากหลายสิทธิประโยชน์ อาทิ ดอกเบี้ย 0% สำหรับการผ่อนชำระค่าใช้จ่ายงานบริการทุกประเภท บริการตรวจเช็กสภาพรถยนต์ฟรี 25 รายการ เป็นต้น
- มิตซูบิชิ (MITSUBISHI) นำยนตรกรรมล้ำสมัย ภายใต้นิยาม Mitsubishi e:MOTION ทั้ง ออล-นิว มิตซูบิชิ เอ็กซ์ฟอร์ส เอชอีวี, มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ เอชอีวี เพลย์ และ มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ ครอส เอชอีวี เพลย์ พร้อมข้อเสนอดอกเบี้ยพิเศษ 99% และดอกเบี้ยพิเศษ 1.09% สำหรับมิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต รุ่นปี 2025 พร้อมข้อเสนออื่น ๆ อาทิ รับฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง ประกันคุณภาพนาน 5 ปี หรือ 100,000 กม. ค่าแรงเช็กระยะนาน 5 ปี ประกันแบตเตอรี่ขับเคลื่อนไฮบริด 10 ปี ไม่จำกัดระยะทาง และระบบไฮบริดทั้งระบบ รับประกัน 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง เลือกรับแพ็กเกจบำรุงรักษา 5 ปี หรือ 100,000 กม. พร้อมบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง 5 ปี
- วอลโว่ (VOLVO) ยลโฉมรถไฟฟ้ารุ่นใหม่ล่าสุด Volvo EX30 Cross Country ยนตรกรรม SUV ขนาดเล็กที่ออกแบบมาเพื่อให้ชีวิตคนเมืองเต็มไปด้วยพลังและสีสัน พร้อมตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า 100% ที่สามารถขับขี่ได้ไกลสูงสุดถึง 490 กิโลเมตร ที่เปิดตัวครั้งแรกในประเทศไทยที่งาน Fast Auto Show Thailand 2025 พร้อมนำเสนอสิทธิประโยชน์ส่วนลดสูงสุด 700,000 บาทสำหรับรุ่นอื่น ๆ และขยายการรับประกันเพิ่มจาก 3 ปี เป็น 5 ปีเพื่อเพิ่มความอุ่นใจ
- ไพรม์มัส กรุ๊ป (PRIMUS GROUP) ที่จัดทัพใหญ่ 5 แบรนด์ในเครือ ได้แก่ MERCEDES-BENZ, MG, ZEEKR, DEEPAL และ AION เปิดศึกกระตุ้นยอดขายไตรมาส 3 นำรถใหม่-รถทดลองขับ อวดโฉมกว่า 20 คัน มอบข้อเสนอที่ดีที่สุดเฉพาะงานนี้ อาทิ ข้อเสนอดอกเบี้ยพิเศษ 0% สูงสุด 60 เดือน พร้อมส่วนลดสูงสุดถึง 390,000 บาท ฟรี ประกันภัยชั้น 1 ฟรี Home Charger + ติดตั้งและของสมนาคุณ บัตรของขวัญมูลค่าสูงสุด 100,000 บาท ข้อเสนอสุดพิเศษ! ช่วยขับฟรี 1 ปี เฉพาะรุ่น Aion Y Plus 490 และเปิดจองสิทธิ์ก่อนใคร! กับ Zeekr 7X-The Next Level of Elegance รถยนต์ไฟฟ้าระดับพรีเมียมที่จะเปิดตัวในประเทศไทยเร็ว ๆ นี้
สำหรับกลุ่มรถมือสอง ผู้ประกอบการรถยนต์ใช้แล้วชั้นนำ 5 ราย ได้นำรถยนต์สภาพนางฟ้า รุ่นใหม่ เลขไมล์น้อย ครบทุกเซ็กเมนท์มานำเสนอ พร้อมราคาพิเศษที่เป็นเจ้าของได้ง่ายและยังมีการรับประกันให้ด้วย เรียกว่า คุ้มค่าเกินราคา
- DDS คาร์เซ็นเตอร์ มอบข้อเสนอดอกเบี้ยพิเศษ 99% พร้อมโปรโมชั่นอื่น ๆ อาทิ การรับประกันเครื่องและเกียร์สูงสุด 2 ปี และการรับประกันหลังการขาย 180 รายการ และซื้อเงินสดไม่เก็บ VAT เพิ่ม เป็นต้น
- ดา ศรีนครินทร์ มอบข้อเสนอฟรีดาวน์พร้อมออกรถในราคา 0 บาท รับประกันเครื่องและเกียร์สูงสุด 6 เดือน
- โย รัชดา มอบข้อเสนอดอกเบี้ยพิเศษ 99% หรือ รับประกันหลังการขายนาน 2 ปี หรือ 70,000 กิโลเมตร สามารถเข้ารับบริการซ่อมศูนย์บริการรถยนต์แบรนด์นั้น ๆ ได้ทั่วประเทศ
- Mercedes Benz Certified by Benz Keng Hong Thong (เบนซ์ เค้งหงษ์ทอง) นำเสนอเฉพาะรถทดลองขับ (Certified car) จากผู้ผลิตหรือตัวแทนจำหน่าย สภาพสวย เลขไมล์น้อย สามารถจดทะเบียนเป็นมือแรกได้โดยไม่มี VAT ได้ข้อเสนอเท่าเทียมรถใหม่ ทั้งในเรื่องดอกเบี้ยและการประกันรถ
- Volvo Selekt Approved Used Cars จัด Selekt Campaign นำรถยนต์ไฟฟ้ามือสองของผู้บริหาร รุ่น EX30 Twin Moss Yellow, EX30 Single Moss Yellow และ XC90 MY24 มานำเสนอพร้อม VPSP Pro 5/5/5 หรือแพ็กเกจบำรุงรักษารถยนต์ของ Volvo ประกันภัยชั้น 1 และ Wall box EV Charger
อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ที่ซื้อรถยนต์ใช้แล้วภายในงาน มั่นใจได้ทุกคัน เพราะมีการรับประกันภายใต้เงื่อนไข 6 ข้อ ได้แก่ ไม่ไฟไหม้ ไม่จมน้ำ ไม่ตัดต่อ ไม่ชนหนัก จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมายได้ และ การันตีไมล์แท้ หากผิดเงื่อนไขข้อใดข้อหนึ่ง ผู้จัดงานรับประกันซื้อคืน 100%
- ด้านกรุงเทพประกันภัย จัดเต็มโปรโมชันสุดพิเศษ โดยมอบส่วนลดค่าเบี้ยประกันภัยสูงสุด 23% สำหรับผู้ที่ซื้อกรมธรรม์ใหม่ภายในงาน โดยมีทีมงานรับประกันภัยพร้อมบริการให้คำปรึกษา และคำแนะนำเกี่ยวกับแผนประกันภัยที่เหมาะสมกับความคุ้มครองที่หลากหลาย โดยนอกจากประกันภัยรถยนต์แล้วยังมีประกันอัคคีภัย ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล ประกันภัยการเดินทาง ประกันภัยสุขภาพ ประกันภัยโรคมะเร็ง และประกันภัยอื่นๆ ที่ให้ความคุ้มครองรองรับไลฟ์สไตล์ของลูกค้านอกจากนี้ ยังสามารถผ่อนชำระเบี้ยประกันภัย ดอกเบี้ย 0% นาน 6 เดือน หรือ 10 เดือนผ่านบัตรเครดิตที่ร่วมรายการ พร้อมรับของที่ระลึกที่เตรียมไว้สำหรับงานนี้โดยเฉพาะ ได้ที่บูท B11
หมายเหตุ:
– โปรโมชันนี้สำหรับผู้ที่ทำประกันภัยกรมธรรม์ใหม่ ในงาน FAST Auto Show Thailand 2025 เท่านั้น
– เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด- โปรสมนาคุณจากผู้จัดงาน ลุ้นเป็นผู้โชคดีเมื่อซื้อรถในงาน “ฟาสต์ ออโต โชว์ ไทยแลนด์ 2025” กับกิจกรรม “ซื้อรถ ลุ้นรับ” สิทธิ์ลุ้นรับรางวัลใหญ่ “เก้าอี้นวดไฟฟ้ารุ่น ROBO 8989 Massage Chair” จาก เอแม็กซ์ (Amaxs) มูลค่า 279,000 บาท จำนวน 1 รางวัลหลังจบงาน สำหรับผู้จองรถในงานได้สิทธิ์ร่วมกิจกรรม “จองรถ ลุ้นรับ” เพื่อลุ้นรับรางวัลประจำวัน “สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า Segway รุ่น NinebotKickScooter D18W” มูลค่า 16,900 บาท จาก MONOWHEEL วันละ 1 รางวัล รวม 5 รางวัล และร่วมลุ้นรับบัตรของขวัญจาก Lotus’s วันละ 4 รางวัล รางวัลละ 1,000 บาท รวม 20 รางวัล หรือแค่แวะมาชมงานและร่วมสนุกกับกิจกรรม “แชร์มา รับไป” เพื่อรับของที่ระลึกจากผู้จัดงาน รวมมูลค่าทั้งสิ้นกว่า 400,000 บาท
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine