• NEX POINT “โลจิสติกส์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม”  สนับสนุนกิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมเมืองภูเก็ต

    1 Min Read

    NEX POINT “โลจิสติกส์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม”  สนับสนุนกิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมเมืองภูเก็ต

    บริษัท เน็กซ์ พอยท์ จำกัด (มหาชน) ผู้นำอุตสาหกรรมยานยนต์เชิงพาณิชย์แบบครบวงจรเพียงหนึ่งเดียวในประเทศไทย ได้ส่งรถบัสโดยสารซึ่งเป็นรถที่ใช้พลังงานไฟฟ้า ไม่ก่อให้เกิดมลพิษทางอากาศ และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ใช้เป็นรถประกอบการขนส่งผู้โดยสาร อำนวยความสะดวกแก่ประชาชน และนักท่องเที่ยวได้ใช้บริการรถโดยสารสาธารณะที่มีคุณภาพและมีความปลอดภัย เพื่อเข้าร่วมสนับสนุนกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม และสร้างภาพลักษณ์   ที่ดีงดงามของจังหวัดภูเก็ตในเวทีระดับสากล ซึ่งงานนี้จัดโดยสมาคมเพอรานากันประเทศไทย ร่วมกับ องค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ตเทศบาลนครภูเก็ต การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวภูเก็ต และภาคีเครือข่าย  โดยกิจกรรมปีนี้ ได้ยกระดับการท่องเที่ยวทุกรูปแบบในเกาะภูเก็ตอย่างเต็มรูปแบบ

      

    อนึ่ง ทางบริษัท เน็กซ์ พอยท์ จำกัด (มหาชน)  ได้ที่มีโอกาสนำรถบัสไฟฟ้า เข้าร่วมงานดังกล่าว ซึ่งทาง เน็กซ์ พอยท์ คำนึงถึงคำว่า “โลจิสติกส์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม”  จึงมีความมุ่งมั่น พยายาม และตั้งใจในการขยายเครือข่าย สร้างความสัมพันธ์กับองค์กรธุรกิจทั้งภาครัฐ และเอกชน เพื่อพัฒนางานให้สอดคล้องกับแนวคิดเพื่อสังคมไทยที่น่าอยู่กับการทำธุรกิจยุคใหม่ ที่ห่วงใย ใส่ใจ และเป็นมิตรที่ดีต่อสิ่งแวดล้อม อีกทั้งยัง ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ช่วยให้จัดการระบบขนส่งเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่ง “Green Logistics”  คือ กุญแจทองสำคัญที่จะนำพาอุตสาหกรรม  โลจิสติกส์ และโลกของเราไปสู่อนาคตที่ยั่งยืน


    ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย

    Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
    Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
    Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
    instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
    Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
    Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
    Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine


    No Comment
  • พบกับนวัตกรรมยานยนต์ไฟฟ้าล้ำสมัย พร้อมสิทธิประโยชน์สูงสุดกว่า 1 ล้านบาท กับกิจกรรม Volvo Roadshow 2025 ระหว่างเดือนพฤษภาคม – มิถุนายน นี้

    1 Min Read

    พบกับนวัตกรรมยานยนต์ไฟฟ้าล้ำสมัย พร้อมสิทธิประโยชน์สูงสุดกว่า 1 ล้านบาท กับกิจกรรม Volvo Roadshow 2025 ระหว่างเดือนพฤษภาคม – มิถุนายน นี้

    วอลโว่ คาร์ ประเทศไทย จัดกิจกรรม Volvo Roadshow 2025 นำเสนอนวัตกรรมยานยนต์รุ่นใหม่ล่าสุดจากวอลโว่ทั้งในรุ่นรถไฟฟ้าเต็มรูปแบบ และรุ่นปลั๊กอินไฮบริด ให้ผู้สนใจได้ทดลองสัมผัสและเป็นเจ้าของ พร้อมมอบข้อเสนอสุดพิเศษหลากหลายรายการภายในงาน ระหว่างเดือนพฤษภาคม – มิถุนายน พ.ศ. 2568 ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัล ลาดพร้าว และ ศูนย์การค้าเมกาบางนา

     

    กิจกรรม Volvo Roadshow 2025 จัดแสดงรถวอลโว่รุ่นใหม่ล่าสุดทั้งในกลุ่มรถไฟฟ้าเต็มรูปแบบสำหรับผู้ที่หลงใหลในเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้าซึ่งมาพร้อมพลังการขับเคลื่อนที่ไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และกลุ่มรถปลั๊กอินไฮบริดสำหรับผู้ที่ต้องการทดลองใช้พลังการขับเคลื่อนแบบไฟฟ้าแต่ยังมีน้ำมันเป็นทางเลือกเพื่อมอบความอุ่นใจในทุกเส้นทางการขับ

     

    โดยกิจกรรม Volvo Roadshow 2025 จะจัดขึ้นที่ :

     

    • วันที่ 23 – 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2568 ณ ศูนย์การค้า เซ็นทรัล ลาดพร้าว ลานโปรโมชัน ชั้น 1

    โซน B

     

    • วันที่ 28 พฤษภาคม – 03 มิถุนายน พ.ศ. 2568 ณ ศูนย์การค้า เมกาบางนา ชั้น 1 โซน C

     

    รถไฮไลท์ที่นำมาจัดแสดงทุกรุ่น อาทิ รถไฟฟ้าเต็มรูปแบบ Volvo EX90, EC40, EX40 และ EX30  และรถปลั๊กอินไฮบริด รุ่น Volvo XC90, XC60, S90, S60 และ V60 นำเสนอจุดเด่นของแบรนด์วอลโว่ทั้งในแง่ของเทคโนโลยีความปลอดภัย ซึ่งได้รับการพัฒนาและทดสอบมาอย่างยาวนานเพื่อปกป้องและป้องกันชีวิตของทั้งผู้ขับและผู้โดยสารจากเหตุการณ์อันไม่คาดฝันที่อาจเกิดขึ้นบนท้องถนน, คุณภาพของวัสดุทั้งภายนอกและภายในที่ผ่านการเลือกสรรมาเป็นอย่างดี พร้อมการออกแบบสไตล์สแกนดิเนเวียนที่สะท้อนความเรียบหรูผ่านความความเรียบง่ายโดยคำนึงถึงการใช้งานเป็นสำคัญตามคอนเซ็ปต์ form follows function ประสิทธิภาพและสมรรถนะการขับขี่ของตัวรถที่ถูกออกแบบและพัฒนาโดยทีมวิศวกรผู้เชี่ยวชาญจากสวีเดน

     

    ภายในงาน 1รับข้อเสนอพิเศษเพื่อส่งเสริมการขายด้วยสิทธิประโยชน์รวมมูลค่าสูงสุดกว่า 1,000,000 บาท พร้อมข้อเสนออีกมากมาย อาทิ

    • ฟรีประกันภัยชั้น 1 นานสูงสุด 3 ปี
    • ฟรีแพ็คเกจรับประกันคุณภาพและบำรุงรักษา Volvo Premium Service Package – Pro ซึ่งรวมถึง บริการรับประกันคุณภาพ, บริการบำรุงรักษา และบริการให้ความช่วยเหลือ 24 ชั่วโมง
    • บริการรับประกันคุณภาพแบตเตอรี่แรงดันสูง 8 ปี หรือ 160,000 กิโลเมตร (แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน)
    • ฟรีเครื่องชาร์จไฟแบตเตอรี่แรงดันสูงแบบติดผนังและการรับประกัน และฟรีบริการตรวจสภาพระบบไฟฟ้าและติดตั้ง

     

    หมายเหตุ

    1ข้อเสนอและสิทธิประโยชน์มีรายละเอียดแตกต่างกันตามรุ่นรถที่จำหน่าย กรุณาตรวจสอบรายละเอียดเพิ่มเติ่มเกี่ยวกับข้อเสนอที่เว็บไซต์  https://www.volvocars.com/th-th/l/offers/

     

    ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติม รวมถึงข่าวสารล่าสุดเกี่ยวกับ วอลโว่ คาร์ ประเทศไทย ได้ที่

    Websitewww.volvocars.com/th

    Facebookhttps://www.facebook.com/volvocarsth

    Youtubehttps://www.youtube.com/user/VolvoCarsThailand

    LINEhttps://page.line.me/002olnns?oat_content=url&openQrModal=true

     

    เยี่ยมชม Volvo Studio ICONSIAM ได้ที่ชั้น 3 ห้างสรรพสินค้าไอคอนสยาม และ เยี่ยมชม Volvo Studio EmSphere ได้ที่ชั้น 2 ห้างสรรพสินค้า ดิ เอ็มสเฟียร์ เพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับวอลโว่ สำหรับสอบถามข้อมูลทั่วไป กรุณาโทร 02-544-0446

     

    สำหรับลูกค้าวอลโว่ปัจจุบันสามารถลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิพิเศษเฉพาะลูกค้าได้ที่ https://bit.ly/459u6HD


    ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย

    Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
    Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
    Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
    instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
    Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
    Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
    Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine

    No Comment
  • กลุ่มบริษัทในเครือไทยบริดจสโตนเดินหน้ายกระดับองค์กรสู่ความยั่งยืน ร่วมขับเคลื่อนสังคมการเดินทางสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน

    1 Min Read

    กลุ่มบริษัทในเครือไทยบริดจสโตนเดินหน้ายกระดับองค์กรสู่ความยั่งยืน ร่วมขับเคลื่อนสังคมการเดินทางสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน สะท้อนความมุ่งมั่นดำเนินงานผ่านการรับรองด้าน “คาร์บอนฟุตพริ้นท์ขององค์กร” จาก TGO

    กลุ่มบริษัทในเครือไทยบริดจสโตน ได้แก่ บริษัท ไทยบริดจสโตน จำกัด (โรงงานหนองแค และศูนย์ยางหล่อดอก บริดจสโตน-บันแดก) บริษัท บริดจสโตนเซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท บริดจสโตน เอ.ซี.ที (ประเทศไทย) จำกัด เดินหน้ายกระดับองค์กรสู่ความยั่งยืน ด้วยการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในกระบวนการผลิต (ขอบเขตที่ 1 และ 2)*1 ครอบคลุมห่วงโซ่คุณค่า (ขอบเขตที่ 3) *2 ผ่านการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานและการใช้พลังงานหมุนเวียน รวมถึงส่งเสริมแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียนทั่วทั้งองค์กร ควบคู่กับการสร้างสรรค์และพัฒนาคุณภาพความพรีเมียมสู่ผลิตภัณฑ์ บริการ และโซลูชั่นที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมให้พร้อมตอบรับสังคมการเดินทางยุคใหม่ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตการเดินทางให้สังคมไทย นับเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญในการมุ่งบรรลุวิสัยทัศน์ระยะยาวด้านสิ่งแวดล้อมของบริดจสโตนด้วยการสนับสนุนและขับเคลื่อนให้เกิดความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี พ.ศ. 2593 และสอดรับกับนโยบายสร้างการเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืนทางธุรกิจของบริดจสโตน

    คุณอะกิฮิโตะ อิชิอิ กรรมการผู้จัดการบริษัท ไทยบริดจสโตน จำกัด และบริษัท บริดจสโตนเซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวโดยรวมว่า “กลุ่มบริษัทในเครือไทยบริดจสโตนมุ่งมั่นดำเนินธุรกิจด้วยมาตรการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (Decarbonization) นับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2568 เป็นต้นไป เราได้ปรับเปลี่ยนชนิดของแหล่งพลังงานและเชื้อเพลิงด้วยการเพิ่มสัดส่วนการไฟฟ้าจากแหล่งพลังงานหมุนเวียน รวมถึงการลงทุนปรับเปลี่ยนและติดตั้งอุปกรณ์ที่ช่วยอนุรักษ์พลังงาน เช่น การขยายการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์เพื่อใช้ในกระบวนการผลิตยางรถยนต์ การใช้ระบบแสงสว่างแบบ LED อัจฉริยะ (Smart LED Lighting) และการดำเนินโครงการ Energy Efficiency Project เพื่อยกระดับประสิทธิภาพการใช้พลังงานด้วยความแม่นยำสูง นอกจากนี้ยังสร้างเครือข่ายร่วมกับพันธมิตรทางธุรกิจในการพัฒนาโซลูชั่นเพื่อลดและชดเชยการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เช่น การเข้าร่วมเวิร์กชอปนวัตกรรมคาร์บอนเครดิต การทดลองใช้พลังงานทดแทนรุ่นใหม่สำหรับอุปกรณ์และยานพาหนะไฟฟ้า (EV Fleet Integration) ตลอดจนศึกษาแนวทางการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล เช่น IoT และ AI เพื่อบริหารจัดการการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอย่างมีประสิทธิภาพและโปร่งใสในอนาคต เป็นต้น”

    นอกจากนี้เรายังตระหนักถึงความสำคัญของการส่งเสริมและกระตุ้นให้พนักงานทุกระดับภายในองค์กรมีส่วนร่วมในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เช่น การเข้าร่วมกิจกรรมวันความยั่งยืนของบริดจสโตนซึ่งจัดขึ้นในวันที่ 22 เมษายน ของทุกๆ ปี โดยในปีนี้เน้นย้ำและให้ความสำคัญเรื่องการประยุกต์ใช้พลังงานหมุนเวียนเพื่อขับเคลื่อนองค์กรสู่ความยั่งยืน ตลอดจนความสำคัญของพลังงานยั่งยืนที่จะส่งผลต่ออนาคตของโลก มนุษยชาติ สิ่งแวดล้อม ธุรกิจ และการดำเนินธุรกิจของกลุ่มบริษัทในเครือบริดจสโตนทั่วโลกด้วย รวมถึงการพาพนักงานไปศึกษาดูงานจากกองค์กรชั้นนำด้านการจัดการพลังงานเพื่อส่งเสริมความเข้าใจและนำแนวทางมาประยุกต์ใช้ในองค์กร เป็นต้น เพราะเราเชื่อมั่นว่าพนักงานนอกจากจะเป็นส่วนสำคัญ
    ที่ส่งผลให้องค์กรมีความยั่งยืนระยะยาวแล้วยังมีส่วนช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของสังคมและประเทศ” คุณอะกิฮิโตะ อิชิอิ กล่าวเพิ่มเติม

    อีกหนึ่งบทพิสูจน์ที่สะท้อนถึงการเป็นองค์กรที่ให้ความสำคัญกับความมุ่งมั่นในการดำเนินงานด้านคาร์บอนฟุตพริ้นท์อย่างต่อเนื่อง รวมถึงการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมของกลุ่มบริษัทในเครือไทยบริดจสโตน คือการได้รับ ประกาศนียบัตรรับรองด้าน “คาร์บอนฟุตพริ้นท์ขององค์กร” (Carbon Footprint for Organization: CFO) ประจำปี พ.ศ. 2567 จากองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (TGO) ซึ่งครอบคลุมการดำเนินงานขององค์กรภายใต้กลุ่มบริษัทในเครือไทยบริดจสโตน และยังครอบคลุมทั้งห่วงโซ่คุณค่าตั้งแต่กระบวนการผลิต การจัดจำหน่าย ศูนย์บริการ ตลอดจนการนำโครงยางเข้าสู่กระบวนการหล่อดอก สะท้อนถึงการตระหนักและใส่ใจในทุกกระบวนการทั้งในส่วนของการใช้เชื้อเพลิง การใช้ไฟฟ้า ไปจนถึงการควบคุมการรั่วไหลของสารที่ส่งผลต่อการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่เกิดขึ้นตลอดการดำเนินธุรกิจในปี พ.ศ. 2566 ตามข้อกำหนดของ TGO ทั้งนี้ กลุ่มบริษัทในเครือไทย บริดจสโตนจะยังคงเดินหน้าดำเนินธุรกิจตามนโยบายสร้างการเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน เพื่ออยู่ร่วมกับสังคมการเดินทางของประเทศ พร้อมผลักดันวงการยานยนต์ไทยให้ก้าวไปสู่ความยั่งยืน ด้วยเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนตามที่ได้ตั้งไว้คาร์บอนตามที่ได้ตั้งไว้


    ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย

    Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
    Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
    Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
    instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
    Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
    Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
    Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine


    No Comment
  • GWM จับมือ ORA Thailand Club รวมพลคนรักแมว ใน ‘ORA Meeting 2025’ ภาคอีสาน ต่อยอดกลยุทธ์เชื่อมโยงลูกค้า เสริมแกร่ง GWM Family ขับเคลื่อนยานยนต์พลังงานใหม่ทั่วไทย

    1 Min Read

    GWM จับมือ ORA Thailand Club รวมพลคนรักแมว ใน ‘ORA Meeting 2025’ ภาคอีสานต่อยอดกลยุทธ์เชื่อมโยงลูกค้า เสริมแกร่ง GWM Family ขับเคลื่อนยานยนต์พลังงานใหม่ทั่วไทย

    GWM (Thailand) ยกระดับสู่การเป็นแบรนด์รถยนต์ที่มีผลิตภัณฑ์ครอบคลุมทุกประเภทพลังงานที่ตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานทั่วทุกมุมโลก ด้วยแนวคิด “ครอบคลุมทุกการใช้งาน (All Scenarios) ด้วยผลิตภัณฑ์ที่ครอบคลุมทุกพลังงาน (All Powertrains) สู่การตอบสนองทุกกลุ่มผู้ใช้งานอย่างแท้จริง (All Users) ล่าสุด ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมที่จัดขึ้นโดย ORA Thailand Club” ชุมชนที่เป็นศูนย์รวมของผู้ใช้รถยนต์ GWM ORA ที่แข็งแกร่ง รวมถึงเดินหน้าสร้างความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นกับลูกค้า ผ่านแนวคิดระดับโลกอย่าง “อยู่ในท้องถิ่น เพื่อตลาดท้องถิ่น และบูรณาการกับชุมชนท้องถิ่น” (Being in the Local Market, For the Local Market, and Integrating into the Local Community) กับกิจกรรม ORA Meeting 2025 รวมพลคนรักแมว โซนภาคอีสาน” จัดขึ้น ณ จังหวัดนครราชสีมา เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2568 ที่ผ่านมา โดยกิจกรรมในครั้งนี้ ได้รวบรวมกลุ่มผู้ใช้งานรถยนต์พลังงานใหม่ GWM ORA Good Cat และ GWM ORA 07 กว่า 94 คน พร้อมขบวนรถยนต์พลังงานไฟฟ้าหลากสีสันอีกกว่า 37 คัน ที่ร่วมกันเดินทางจากศูนย์ GWM เอกสห โคราช เป็นระยะทางทั้งสิ้นกว่า 78 กิโลเมตร นอกจากจะสะท้อนความแข็งแกร่งของชุมชนผู้ใช้ใน ORA Thailand Club และ GWM Family แล้ว ยังเป็นการตอกย้ำถึงความนิยมของรถยนต์พลังงานใหม่ที่เติบโตอย่างต่อเนื่องในภูมิภาคต่าง ๆ ของประเทศไทย กิจกรรมในครั้งนี้ไม่เพียงสร้างความผูกพันระหว่างแบรนด์กับลูกค้า แต่ยังเชื่อมโยง GWM เข้ากับชีวิตของผู้ใช้งานอย่างแท้จริง ผ่านผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ การบริการที่ครอบคลุม และกิจกรรมที่สะท้อนตัวตนของผู้ใช้งานในแต่ละพื้นที่ได้อย่างลงตัว

    ตลอดการเดินทางในกิจกรรม ORA Meeting 2025 รวมพลคนรักแมว โซนภาคอีสาน” ผู้ร่วมทริปได้ร่วมสัมผัสประสบการณ์สุดประทับใจตลอดเส้นทางจากหลากหลายจุดหมายสำคัญของจังหวัดนครราชสีมา เริ่มต้นที่ “อนุสาวรีย์ท้าว
    สุรนารี (ย่าโม)”
    แลนด์มาร์กที่เปี่ยมด้วยความศรัทธาและเป็นสัญลักษณ์แห่งความกล้าหาญของชาวโคราช ก่อนจะแวะพักผ่อนในบรรยากาศสุดอบอุ่นที่ “French Kitsch Café” คาเฟ่ในสวนสไตล์ยุโรปสุดวินเทจ ที่โดดเด่นด้วยการตกแต่งสุดชิค เข้ากันได้เป็นอย่างดีกับคาราวานของเจ้าเหมียวทั้งสองรุ่น ให้ได้เก็บภาพความทรงจำร่วมกัน จากนั้นรับประทานาอาหารกลางวันและร่วมกิจกรรมสุดสนุกที่ “Patra Sweet House @Sikhio” พร้อมเสิร์ฟอาหารจานเด็ดที่หลากหลายในบรรยากาศสบาย ๆ ก่อนเดินทางต่อไปยัง “ศูนย์การเรียนรู้ กฟผ. ลำตะคอง” จุดแวะที่อัดแน่นด้วยสาระความรู้ด้านพลังงานหมุนเวียนและความยั่งยืน  ที่สอดคล้องกับการดำเนินธุรกิจของ GWM ในการขับเคลื่อนสังคมไทยสู่ระบบนิเวศยานยนต์พลังงานใหม่ สร้างสมดุลทางธรรมชาติและรักษาสิ่งแวดล้อม ปิดท้ายทริปอย่างน่าประทับใจที่ “จุดชมวิวกังหันลม ณ เขายายเที่ยง” สถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังซึ่งเป็นทั้งแหล่งเรียนรู้ด้านพลังงานสะอาด และจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นทัศนียภาพของเขื่อนลำตะคองและแนวภูเขาโดยรอบได้แบบพาโนรามา ท่ามกลางสายฝนชุ่มฉ่ำและกังหันลมขนาดยักษ์ที่ตั้งตระหง่านอย่างสง่างาม

    เวย์น โจว กรรมการผู้จัดการ GWM (Thailand) กล่าวว่า “ขอขอบคุณ ORA Thailand Club ที่จัดกิจกรรมที่น่าประทับใจนี้ขึ้น รวมถึง ลูกค้า GWM ORA Good Cat และ GWM ORA 07 ทุกท่านสำหรับความเชื่อมั่นและไว้วางใจที่มีให้กับแบรนด์และผลิตภัณฑ์ของเรา เรารู้สึกยินดีเป็นอย่างมากที่ได้มีส่วนร่วมในการสนับสนุนกิจกรรมของชุมชนผู้ใช้งาน GWM ที่มาจากทั่วประเทศ เพื่อสานสัมพันธ์และเสริมสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนของ GWM Family ในประเทศไทย GWM เชื่อว่าการสร้างความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับลูกค้าในแต่ละพื้นที่ คือหัวใจของการดำเนินธุรกิจในประเทศไทยในระยะยาว อีกทั้งยังเป็นโอกาสอันดีในการรับฟัง พูดคุย และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับลูกค้าอย่างใกล้ชิด เพื่อนำข้อมูลเชิงลึกจากผู้ใช้งานจริงมาใช้ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และการบริการ เพื่อต่อยอดสู่การสร้างสรรค์ประสบการณ์ด้านการขับขี่ที่เหนือกว่าในทุกมิติ ภายใต้แนวคิด ‘GWM GO With More’ ในอนาคต GWM จะยังคงเดินหน้าจัดกิจกรรมที่มีส่วนร่วมกับลูกค้าอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ผู้ใช้งานทุกท่านได้เป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนอนาคตของยานยนต์พลังงานใหม่ในประเทศไทย”


    ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย

    Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
    Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
    Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
    instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
    Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
    Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
    Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine


    No Comment
  • “เบนซ์ไพรม์มัส” นำสัมผัสขีดสุดแห่งยนตรกรรมระดับโลก ในงาน Mercedes-Benz SUV Driving Events จ.นครนายก

    1 Min Read

    “เบนซ์ไพรม์มัส” นำสัมผัสขีดสุดแห่งยนตรกรรมระดับโลก ในงาน Mercedes-Benz SUV Driving Events จ.นครนายก

    “เบนซ์ไพรม์มัส” นำลูกค้าคนสำคัญ สัมผัสขีดสุดแห่งยนตรกรรมระดับโลก Mercedes-Benz ตระกูล SUV กว่า 11 รุ่น พร้อมรุ่นเรือธง “Mercedes-AMG G 63” ในงาน Mercedes-Benz SUV Driving Events” ตื่นเต้นท้าทายในแบบ Off-Road ที่สนาม Spirit Adventure Ground จ.นครนายก

    นายณัฏฐวุฒิ ตั้งคารวคุณ ประธาน บริษัท ไพรม์มัส ออโต้เฮาส์ จำกัด และบริษัทในเครือ ไพรม์มัส กรุ๊ป เปิดเผยว่า “เบนซ์ไพรม์มัส” ให้ความสำคัญกับการยกระดับการเสริมสร้างประสบการณ์ใหม่ให้แก่ลูกค้าคนสำคัญ ผ่านการจัดกิจกรรมแบบลักชูรีย์รูปแบบต่างๆ ที่หลากหลาย เพื่อรองรับไลฟ์สไตล์และความพึงพอใจสูงสุดให้แก่ลูกค้าในทุกมิติ

    ล่าสุด “เบนซ์ไพรม์มัส” ได้ร่วมกับบริษัทแม่ “เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย)” จัดกิจกรรมให้แก่ลูกค้าที่ชื่นชอบความตื่นเต้นท้าทาย ในงาน Mercedes-Benz SUV Driving Events ที่สนาม Spirit Adventure Ground จ.นครนายก โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ลูกค้าได้สัมผัสประสบการณ์ที่ไร้ขีดจำกัดกับสมรรถนะและความหรูหราของยนตรกรรมระดับโลก Mercedes-Benz  ในตระกูล SUV ที่มีให้เลือกสัมผัสและทดลองขับมากกว่า 11 รุ่น พร้อมรุ่นเรือธง Mercedes-AMG G 63 ราชันแห่งออฟโรด

    พร้อมเสริมทักษะการขับขี่ เพื่อการใช้รถยนต์ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพและปลอดภัยมากยิ่งขึ้น ที่สำคัญ เพื่อเป็นการขอบคุณลูกค้าที่เชื่อมั่นและมอบความไว้วางใจให้ “เบนซ์ไพรม์มัส” ได้มีโอกาสบริการทั้งด้านการขายและบริการหลังการขายอย่างต่อเนื่อง

    นายจิระพล รุจิวิพัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไพรม์มัส ออโต้เฮาส์ จำกัด และบริษัทในเครือ “ไพรม์มัส กรุ๊ป” เปิดเผยว่า สำหรับกิจกรรม Mercedes-Benz SUV Driving Events ในครั้งนี้ ได้รับความสนใจจากลูกค้า Mercedes-Benz ที่ชื่นชอบการขับขี่รถยนต์สไตล์ออฟโรดเป็นจำนวนมาก  โดยมีผู้เข้าร่วมมากกว่า 30 ราย

    วันแรก ได้นัดพบลูกค้าคนสำคัญ ที่โชว์รูมและศูนย์บริการ “เมอร์เซเดส-เบนซ์” สาขาเลียบด่วน-เอกมัยรามอินทรา โดย “ณัฏฐวุฒิ ตั้งคารวคุณ” กับ “จิระพล รุจิวิพัฒน์” กล่าวต้อนรับพร้อมแจงวัตถุประสงค์ในการจัดกิจกรรมครั้งนี้ ก่อนเดินทางมุ่งหน้าสู่โรงแรมสยามดาษดา เขาใหญ่ จ.ปราจีนบุรี เพื่อเช็คอินน์เข้าสู่ที่พัก และร่วมกิจกรรมงานเลี้ยงต้อนรับ ที่อบอุ่นและเปี่ยมด้วยมิตรภาพ ด้วยอาหารและเครื่องดื่มชั้นเลิศ เคล้าคลอกับเสียงเพลงที่มอบความสนุกสนานเพลิดเพลินตลอดค่ำคืน

    วันที่ 2 เป็นกิจกรรมการขับขี่รถยนต์ Mercedes-Benz ในแบบออฟโรด โดยทุกท่านจะได้สัมผัสสมรรถนะที่ทรงพลังของรถยนต์ ในตระกูล SUV อย่างเต็มพิกัด โดยมีรถยนต์รุ่นต่างๆ ให้เลือกทดลองขับมากมาย ทั้งระบบขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า ไฮบริด และเครื่องยนต์เบนซินและดีเซล รวมกว่า 11 รุ่น อาทิ รุ่น EQE 350 4MATIC SUV AMG Dynamic, EQS 450 4MATIC SUV AMG Dynamic, GLC 220 d 4 MATIC Avantgarde, GLC 350 e 4MATIC Coupe AMG Dynamic, GLE 300 d 4MATIC AMG Dynamic และ GLS 450 d 4MATIC AMG Dynamic เป็นต้น พร้อมรุ่นเรือธง “Mercedes-AMG G 63” ราชันแห่งรถออฟโรด สุดยอดนวัตกรรมแห่งความแข็งแกร่ง ทรงพลังอย่างไร้ขีดจำกัด ที่ทาง “เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย)” จัดมาให้พิเศษสำหรับทริปนี้โดยเฉพาะ

    ก่อนลงสนามจริง ทางผู้บริหาร และทีม Instructor ของ “เมอร์เซเดส-เบนซ์” ได้นำเสนอข้อมูลของรถยนต์ในแต่ละรุ่น และเทคนิคการขับขี่รถยนต์ในสภาพถนนที่มีความหลากหลายของแต่ละสถานี เพื่อให้ได้สัมผัสประสิทธิภาพและเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยได้อย่างเต็มที่ ที่สำคัญ เพื่อเพิ่มความสนุกสนานในการขับขี่ หากมุ่งเน้นความปลอดภัยสูงสุดด้วยเช่นกัน

    ด้านสนาม Spirit Adventure Ground ถือเป็นสนามออฟโรดมาตรฐานและเป็นสถานที่สำหรับพัฒนาทักษะการขับขี่รถยนต์ขับเคลื่อน 4 ล้อ ของ “สื่อสากล” โดยมีการออกแบบพื้นที่สำหรับการขับขี่ในสภาพถนนและสถานการณ์ต่างๆ  แบ่งออกเป็น 7 สถานี คือ การขับขึ้น-ลงเนินชันยาว เนินสลับ เนินเฉียงขวาหักศอก เนินทรงแหลมเฉียงขวา และทางเฉียงขวายาว บนเส้นทางที่เป็นทางทราย ทางขรุขระ ทางโคลนที่ลื่นไถล รวมถึงการขับขี่ข้ามร่องน้ำยาว ทำให้เห็นสมรรถนะการขับขี่ของรถยนต์ Mercedes-Benz ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพและสมบูรณ์แบบ ทั้งความแม่นยำในการควบคุม   การทรงตัว และเกาะถนน ที่สำคัญ คือ ระบบความปลอดภัยและเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยของ Mercedes-Benz ที่ทำให้สถานการณ์การขับขี่ต่างๆ ผ่านไปได้อย่างง่ายดาย..นับเป็นการเปิดมุมมองและประสบการณ์ใหม่ในการขับขี่อย่างที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อน……


    ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย

    Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
    Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
    Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
    instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
    Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
    Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
    Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine


    No Comment
  • “ค็อกพิท บางกะดี” จัดโปรคุ้ม ยกขบวนสินค้าคุณภาพจัดเต็ม ฉลองเปิดสาขาใหม่

    1 Min Read

    ค็อกพิท บางกะดี”  จัดโปรคุ้ม ยกขบวนสินค้าคุณภาพจัดเต็ม ฉลองเปิดสาขาใหม่

    ค็อกพิท (COCKPIT) ศูนย์บริการรถยนต์ครบวงจรฟาสต์ฟิต (Fast Fit) ภายใต้การบริหารงานโดยบริษัท บริดจสโตน เอ.ซี.ที (ประเทศไทย) จำกัด ฉลองเปิดสาขาใหม่ ค็อกพิท บางกะดี สาขาที่ 260 ตั้งอยู่ในโลตัส บางกะดี มาพร้อมกับโปรโมชันสุดพิเศษตั้งแต่วันที่ 26-31 พฤษภาคม 2568 จัดเต็มเอาใจคนรักรถย่านบางกะดี ยกขบวนความคุ้มค่าด้วยสินค้าคุณภาพทั้งยางรถยนต์ น้ำมันเครื่อง แบตเตอรี่ ผ้าเบรก บริการตรวจเช็กความปลอดภัย และอื่นๆ อีกมากมาย ให้ได้เลือกใช้บริการอย่างครบครัน

    โดยเมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2568 ที่ผ่านมา คุณอะกิฮิโตะ อิชิอิ กรรมการผู้จัดการบริษัท บริดจสโตนเซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด พร้อมทีมผู้บริหารบริษัท บริดจสโตน เอ.ซี.ที (ประเทศไทย) จำกัด ร่วมงานเปิด
    ค็อกพิท บางกะดีอย่างเป็นทางการ และกล่าวแสดงความมุ่งมั่นในการบริหารงานว่า “ตลอดระยะเวลากว่า 30 ปี ค็อกพิทมุ่งมั่นบริหารงานสู่การเป็นศูนย์บริการรถยนต์ครบวงจรด้วยผลิตภัณฑ์ชั้นนำและบริการจากทีมช่างมืออาชีพ เรายังคงเดินหน้าขยายเครือข่ายสาขาการให้บริการครอบคลุมทั่วประเทศอย่างต่อเนื่อง พร้อมพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการให้มีความหลากหลายมากยิ่งขึ้นเพื่อรองรับกับการเปลี่ยนแปลงของภาคอุตสาหกรรมยานยนต์ ผมและทีมงานทุกท่านยังคงยึดมั่นในปณิธานการบริหารงานค็อกพิท บางกะดี ให้เป็นเสมือนเพื่อนรู้ใจที่พร้อมจะพาลูกค้าไปสู่จุดหมายการเดินทางได้อย่างปลอดภัยและอุ่นใจ”

    พบกับโปรโมชันสุดคุ้มมากมายฉลองเปิดสาขาใหม่ ตั้งแต่วันที่ 26-31 พฤษภาคม 2568

    ผลิตภัณฑ์ยางรถยนต์

    คุ้ม 2 ต่อเมื่อเปลี่ยนยางรถยนต์ครบ 4 เส้น

    • ต่อที่ 1: ส่วนลด 10%*1 เมื่อเปลี่ยนยางรถยนต์ครบ 4 เส้น สามารถผ่อน 0% สูงสุดได้ 10 เดือน กับบัตรเครดิตที่ร่วมรายการ
    • ต่อที่ 2: รับเพิ่มบัตรเติมน้ำมันปตท.มูลค่า 500 บาท

    ผลิตภัณฑ์อื่นๆ

    • สุดคุ้ม! ชุดน้ำมันเครื่องปตท. กึ่งสังเคราะห์ และไส้กรองเริ่มต้นที่ 750 บาท
    • ฟรี! บริการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง
    • ฟรี! ไส้กรองรุ่นที่ร่วมรายการ
    • ฟรี! บริการตรวจเช็กความปลอดภัยเบื้องต้น
    • พิเศษ! น้ำมันเครื่องแกลลอนเดี่ยว เพียง 555 บาท เฉพาะรุ่นที่ร่วมรายการ
    • PTT Performa SYNTEC Plus 5W-30 ขนาด 4 ลิตร
    • PTT Performa SYNTEC Plus 10W-40 ขนาด 4 ลิตร
    • พิเศษ! น้ำมันเกียร์ AISIN รุ่นที่ร่วมรายการ รับส่วนลดเพิ่ม 100 บาท /แกลลอน
    • AISIN GL-5 75W-90 ขนาด 4 ลิตร
    • AISIN GL-4 80W-90 ขนาด 4 ลิตร
    • AISIN GL-5 80W-90 ขนาด 4 ลิตร
    • สินค้าอื่นๆ รับส่วนลด 25%
    • เมื่อเปลี่ยนแบตยี่ห้อ GS, PUMA และ MF ทุกรุ่น
    • ผ้าเบรก Bendix และ Compact ทุกรุ่น
    • โช้คอัพ KYB และ Tokico ทุกรุ่น
    • สุดคุ้ม ล้อแม็ก Yachiyoda ซื้อ 3 แถม 1 ทุกรุ่น ทุกขนาด
    • แพ็คเกจตั้งศูนย์ถ่วงล้อ เริ่มต้นเพียง 399 บาท รวมบริการ, สลับยาง, ตั้งศูนย์ และถ่วงล้อ
    • สำหรับยางขอบไม่เกิน 17 นิ้ว ราคา 399 บาท
    • สำหรับยางขอบ 18 นิ้วขึ้นไป ราคา 499 บาท
    • แพ็คเกจตรวจเช็กระยะรถยนต์ 10,000 กิโลเมตร เริ่มต้นเพียง 950 บาท ได้ทั้งชุดน้ำมันเครื่อง พร้อมไส้กรอง, ตรวจเช็กรถยนต์ 60 รายการ และสลับยางถ่วงล้อ

    พิเศษ!  รับคูปองออนไลน์ส่วนลดเงินสดมูลค่า 500 บาท*2 เมื่อเพิ่มเพื่อนทางไลน์ Line OA ของค็อกพิท
    บางกะดี: @719ymwpt

    สามารถติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.cockpit.co.th. หรือ www.facebook.com/CockpitTH
    แผนกลูกค้าสัมพันธ์ โทร.1369


    หมายเหตุ:  
    *1 สำหรับโปรโมชั่นส่วนลดยางรถยนต์ 10% ทุกรุ่น ทุกขนาด ยกเว้นยางรถยนต์รันแฟลตและยางรถยนต์
    นำเข้า ซึ่งสามารถผ่อน 0% สูงสุดได้ 10 เดือน ตามเงื่อนไขที่ธนาคารกำหนด และไม่สามารถใช้เป็น
    ส่วนลดเพิ่มเติมร่วมกับการแลกคะแนน S4S ได้
    (สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.cockpit.co.th/login)

    *2 เมื่อมียอดชำระขั้นต่ำสำหรับการเข้ารับบริการหรือซื้อสินค้าตั้งแต่ 5,000 บาท ขึ้นไปต่อใบเสร็จ ตั้งแต่
    วันที่ 26-31 พฤษภาคม 2568 ที่ค็อกพิททุกสาขาที่ร่วมรายการ
    (สามารถตรวจสอบสาขาร่วมรายการได้ที่ https://www.cockpit.co.th/page/CPO)

    ข้อมูลค็อกพิท บางกะดี

    ที่ตั้ง: ค็อกพิท บางกะดี ตั้งอยู่ในห้างโลตัส เขตอุตสาหกรรมบางกะดี บนถนนติวานนท์ ตรงข้ามกับห้างเดอะไนน์ เซ็นเตอร์ ติวานนท์ จ.ปทุมธานี
    แผนที่: https://maps.app.goo.gl/awrWaxPxKY6EAfJG9
    เวลาเปิดทำการ: ทุกวัน เวลา 08.00 – 20.00 น.
    โทรศัพท์: 083-442-9547
    เฟซบุ๊ก: https://www.facebook.com/CockpitBangkadi


    ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย

    Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
    Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
    Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
    instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
    Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
    Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
    Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine


    No Comment
  • NEX ระดมทุน 3,300 ล้านบาท เร่งการเปลี่ยนผ่านสู่ยานยนต์ไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ของไทย

    1 Min Read

    NEX ระดมทุน 3,300 ล้านบาท เร่งการเปลี่ยนผ่านสู่ยานยนต์ไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ของไทย

    บริษัท เน็กซ์ พอยท์ จำกัด (มหาชน) หรือ NEX ผู้ให้บริการยานยนต์ไฟฟ้าแบบครบวงจรชั้นนำของไทย ประกาศความสำเร็จของการระดมทุนเพิ่ม 3,327 ล้านบาท เพื่อเร่งการเปลี่ยนผ่านสู่การขนส่งไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ของประเทศ

    การเพิ่มทุนครั้งนี้ทำให้ NEX มีทุนจดทะเบียนชำระแล้วเพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 5,989 ล้านบาท และทำให้บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA เข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ โดยเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นจาก 49.99% เป็น 77.77% ความร่วมมือนี้จะช่วยพัฒนาระบบนิเวศยานยนต์ไฟฟ้าของไทยอย่างครบครัน

    “นี่เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่จะเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานและความสามารถในการแข่งขันของเรา” นายวสุ กลมเกลี้ยง ประธานกรรมการของ NEX และประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงินของ EA กล่าว “ความร่วมมือที่ใกล้ชิดขึ้นนี้ทำให้ EA มีระบบนิเวศ EV ที่สมบูรณ์ ขณะเดียวกันก็เป็นการส่งเงินทุนเข้าไปที่ NEX เพื่อใช้สำหรับการขยายตัวอย่างก้าวกระโดด”

    กลยุทธ์การใช้เงินทุน

    เงินทุนที่ได้รับจะถูกจัดสรรอย่างมีกลยุทธ์เพื่อ:

    • ชำระหนี้เจ้าหนี้การค้าที่ค้างอยู่
    • เสริมแกร่งเงินทุนหมุนเวียนสำหรับการขยายธุรกิจอย่างรวดเร็ว
    • สนับสนุนการเติบโตอย่างต่อเนื่องในโครงการโลจิสติกส์สีเขียว
    • พัฒนาเทคโนโลยีสำหรับโซลูชันการขนส่งที่ยั่งยืน

    ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งผู้นำในตลาด

    NEX ได้ยึดตำแหน่งเป็นผู้ให้บริการยานยนต์ไฟฟ้าแบบ one-stop service ชั้นนำของไทย โดยนำเสนอ:

    • ยานยนต์ไฟฟ้าเชิงพาณิชย์: รถโดยสาร รถบรรทุก และรถหัวลาก
    • โครงสร้างพื้นฐานการชาร์จ: เครือข่ายสถานีอย่างครอบคลุม
    • บริการหลังการขาย: ความสามารถด้านการบำรุงรักษาและบริการ

    ทั้งนี้บริษัทจะให้บริการหลักแก่ผู้ประกอบการโลจิสติกส์  หน่วยงานราชการ  องค์กรขนส่งมวลชน   และธุรกิจเชิงพาณิชย์ที่ต้องการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาด โดยลูกค้าได้รับประโยชน์จากสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่เพิ่มขึ้น รวมถึงการหักค่าใช้จ่ายได้สูงสุดถึง 2 เท่าของอัตราปกติ

    วิสัยทัศน์สำหรับอนาคต EV ของไทย

    “เราขอขอบคุณผู้ถือหุ้นที่ให้ความเชื่อมั่นในภารกิจของเราอย่างต่อเนื่อง” นายธนพัชร์ สุขสุธรรมวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วมของ NEX กล่าว “การระดมทุนครั้งนี้ช่วยให้เราสามารถขับเคลื่อนภาคการขนส่งเชิงพาณิชย์ของไทยสู่การใช้ไฟฟ้า ขณะเดียวกันพัฒนาเทคโนโลยีและบริการที่พร้อมสำหรับอนาคต” รากฐานทางการเงินที่ขยายตัวของ NEX สนับสนุนความมุ่งมั่นในการเป็นผู้ให้บริการ Total Green Logistics Solution ที่สมบูรณ์แบบ สอดคล้องกับเป้าหมายความยั่งยืนที่กว้างขึ้นของไทยและการเปลี่ยนแปลงสู่การขนส่งสะอาดทั่วโลก


    ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย

    Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
    Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
    Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
    instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
    Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
    Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
    Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine

    No Comment
  • ก๊าซหุงต้ม ปตท. คว้าใบรับรองกระบวนการซ่อมบำรุงถังก๊าซปิโตรเลียวเหลวหุงต้ม ตามมาตรฐาน มอก.151 รายแรกของไทย

    1 Min Read

    ก๊าซหุงต้ม ปตท. ยกระดับมาตรฐานความปลอดภัย โรงซ่อมถังก๊าซหุงต้ม ปตท. คว้าใบรับรองกระบวนการซ่อมบำรุงถังก๊าซปิโตรเลียวเหลวหุงต้ม ตามมาตรฐาน มอก.151 รายแรกของไทย

     

    หม่อมหลวงปีกทอง ทองใหญ่ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) (OR) รับมอบใบรับรองกระบวนการซ่อมบำรุงถังก๊าซปิโตรเลียวเหลวหุงต้ม ตามมาตรฐาน มอก.151 จาก คุณจงรักษ์ โรจน์พลาเสถียร ผู้อำนวยการสถาบันรับรองมาตรฐานไอเอสโอ ตอกย้ำความมั่นใจให้ผู้บริโภคก๊าซหุงต้ม ปตท. ผ่านการยกระดับมาตรฐานด้านความปลอดภัยอย่างต่อเนื่อง โดยโรงซ่อมถังก๊าซหุงต้ม ปตท. ทั้ง 3 แห่ง ได้แก่ โรงซ่อมถังก๊าซหุงต้ม ปตท. จ.พระนครศรีอยุธยา สงขลา และ ขอนแก่น ผ่านการรับรองกระบวนการซ่อมบำรุงถังก๊าซปิโตรเลียวเหลวหุงต้ม ตามมาตรฐาน มอก.151 ซึ่งเป็นมาตรฐานกระบวนการซ่อมบำรุง การตรวจสอบ และ การทดสอบถังก๊าซปิโตรเลียมเหลวหุงต้ม ที่กำหนดโดยสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) กระทรวงอุตสาหกรรม ถือเป็นบริษัทแรกของประเทศไทยที่ผ่านการรับรองในกระบวนการนี้

    สำหรับ มอก.151 เป็นมาตรฐานที่เน้นเรื่องความปลอดภัยของถังก๊าซหุงต้มในการใช้งาน โดยกำหนดมาตรฐานหลักเกณ์ วิธีการ และ เครื่องมือที่ใช้การดำเนินการ ตั้งแต่ขั้นตอนการตรวจสอบสภาพถังภายนอก การทดสอบถังด้วยแรงดันไฮโดรลิก การตรวจสอบถังภายใน การทดสอบการรั่วซึมถัง การซ่อมบำรุงถัง และการทำเครื่องหมายรับรองการทดสอบถัง ทำให้มั่นใจว่าถังก๊าซหุงต้มที่ผ่านการซ่อมบำรุงและทดสอบจากโรงซ่อมถังก๊าซหุงต้ม ปตท. เป็นถังที่สามารถใช้งานได้อย่างปลอดภัย ซึ่ง OR ได้ยึดถือปฏิบัติมาโดยตลอด และได้นำหลักเกณฑ์ตามมาตรฐานนี้ไปสู่การรับรองอย่างเป็นทางการ เพื่อเพิ่มความมั่นใจให้กับผู้ใช้ทั่วประเทศ สะท้อนให้เห็นถึงความใส่ใจในทุกขั้นตอนของการดูแลถัง ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของความปลอดภัยในการใช้ก๊าซหุงต้ม

    ก๊าซหุงต้ม ปตท. มีมาตรการสร้างความปลอดภัยผ่านแนวคิด ก๊าซหุงต้ม ปตท. “ดูแลดีที่ 1 ดูที่
    ซีลทอง” พร้อมเน้นย้ำให้ผู้บริโภคสังเกต “ซีลทอง QR” สัญลักษณ์การันตีว่าเป็นถังก๊าซหุงต้ม ปตท. ของแท้ที่ผ่านทุกกระบวนการตรวจสอบ ทดสอบและซ่อมบำรุง ตามมาตรฐาน มอก. 151 หนึ่งเดียวในประเทศไทย    ตอกย้ำภาพลักษณ์ของก๊าซหุงต้ม ปตท. ว่าได้ส่งต่อพลังงานคุณภาพที่ “ปลอดภัย ร้อนไว ไฟแรง” สู่ทุกครัวเรือนไทยอย่างแท้จริง โดยผู้บริโภคสามารถซื้อก๊าซหุงต้ม ปตท. ของแท้ที่มีซีลทอง QR ได้ที่ร้านค้าตัวแทนจำหน่ายก๊าซหุงต้ม ปตท. ทั่วประเทศ (ค้นหาร้านค้าตัวแทนฯใกล้บ้านได้ที่ www.pttlpgshops.com) แอปพลิเคชัน OR LPG (ดาวน์โหลด https://pttor.page.link/orlpg) หรือ จุดจำหน่ายก๊าซหุงต้ม ปตท. ในสถานีบริการ พีทีที สเตชั่น

     

    ติดตามข่าวสารและกิจกรรมดี ๆ ทาง Facebook Fanpage จุดพลังความอร่อย by ก๊าซหุงต้ม ปตท. และ แอปพลิเคชัน OR LPG หรือโทร. 1365 Contact Center

     

    #ก๊าซหุงต้มปตท. #ซีลทองQR #ดูแลดีที่1ดูที่ซีลทอง #มั่นใจทุกถัง #ปลอดภัยร้อนไวไฟแรง


    ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย

    Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
    Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
    Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
    instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
    Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
    Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
    Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine


    No Comment
  • เบนท์ลีย์ มอเตอร์ส เผยโฉม The Black Rose สุดยอดแกรนด์ ทัวเรอร์รุ่นพิเศษกับที่สุดของความหรูหราด้วยการตกแต่งทองคำโรสโกลด์แบบ 3 มิติ

    1 Min Read

    เบนท์ลีย์ มอเตอร์ส เผยโฉม The Black Rose สุดยอดแกรนด์ ทัวเรอร์รุ่นพิเศษกับที่สุดของความหรูหราด้วยการตกแต่งทองคำโรสโกลด์แบบ 3 มิติ

    เบนท์ลีย์ มอเตอร์ส เผยโฉม ‘The Black Rose’ แกรนด์ ทัวเรอร์ รุ่น Batur ยนตรกรรมรุ่นพิเศษที่ออกแบบได้อย่างโดดเด่นภายใต้แนวคิดด้านความงดงามของโรสโกลด์ที่จะสร้างสรรค์การเดินการในแบบเอ็กซ์คลูซีฟให้กับผู้ครอบครอง

    Black Rose เป็น 1 ใน 18 แกรนด์ ทัวเรอร์ รุ่น Baur ที่รังสรรค์ขึ้นโดย Bespoke Studio ของ Bentley Mulliner และถือเป็นผลงานที่มาจากความร่วมมือระหว่างลูกค้าและทีมออกแบบของ Bentley Mulliner แกรนด์ ทัวเรอร์รุ่นพิเศษรังสรรค์ขึ้นด้วยเฉดสีเมทัลลิก Black Rose ที่คิดค้นโดย Bentley Mulliner หลังคาภายนอกตัวถังมาในเฉดสีดำ Beluga แบบมันวาว พร้อมกับการตกแต่งด้วยเฉดสีไฮไลท์แบบซาติน Rose Gold บริเวณกระจังหน้า บนฝากระโปรงหน้า ฝาครอบกระจกมองข้าง ชุดแต่งรอบคัน และล้ออัลลอยด์ขนาด 22 นิ้ว พร้อมด้วยเบรกคาร์บอนเซรามิกและคาลิปเปอร์สีดำ

    ห้องโดยสารรังสรรค์ด้วยหนังเฉดสีเข้ม แผงหน้าปัด และผ้าเน้นประกายของโรสโกลด์ พร้อมด้วยการผลิตโดยใช้เทคโนโลยีการพิมพ์ 3 มิติแบบ Additive Manufacturing (AM) ของเบนท์ลีย์ซึ่งเป็นครั้งแรกในอุตสาหกรรมยานยนต์ที่สามารถขึ้นรูปทองคำโรสโกลด์ 18 กะรัต น้ำหนัก 210 กรัมเพื่อใช้ตกแต่งภายในห้องโดยสารบริเวณจุดสัมผัสของผู้ขับขี่ รวมถึงแป้นตัวเลือกโหมดการขับขี่ และปุ่ม Organ Stop ที่ใช้สำหรับควบคุมช่องปรับอากาศอันเป็นเอกลักษณ์ของเบนท์ลีย์บนแผงหน้าปัด อีกทั้งยังมีการตกแต่งบริเวณพวงมาลัยที่จะสะท้อนให้เห็นถึงรายละเอียดอันพิถีพิถัน

    ห้องโดยสารงดงามไปด้วยองค์ประกอบของสีโรสโกลด์ ซึ่งประกอบด้วยวัสดุสีเข้มที่เข้ากันอย่างลงตัว อันได้แก่ หนังเฉดสีดำ Beluga สุดหรู ผ้าทวีดสีเทาชาร์โคล และวีเนียร์ในเฉดสีเมทัลลิก Black Rose เพื่อให้เข้ากับการตกแต่งภายนอกตัวถัง

    การขึ้นรูปทองคำ 3 มิติกับครั้งแรกในอุตสาหกรรมยานยนต์ 

    เบนท์ลีย์ มอเตอร์ส ได้ร่วมมือกับ Goldsmiths และ Cooksongold ช่างทองที่มีชื่อเสียง โดยเป็นรายแรกในอุตสาหกรรมยานยนต์ที่ผสมผสานเทคโนโลยีการผลิตขั้นสูงแบบใหม่เข้ากับวัสดุและเทคนิคการตกแต่งแบบดั้งเดิม โดยการใช้วัสดุที่คัดสรรอย่างยั่งยืนจากจิวเวลรี่รีไซเคิล 100 เปอร์เซ็นต์ สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการเป็นแบรนด์หรูที่ยั่งยืนของเบนท์ลีย์

    ชิ้นส่วนทั้งหมดที่ผลิตขึ้นสำหรับรุ่น Batur ได้รับการรับรองในย่านจิวเวลรี่ของเมืองเบอร์มิงแฮมเพื่อเป็นการการันตี นอกจากนี้ ชิ้นส่วนอื่นๆ ที่ผลิตขึ้นในปี 2565 ยังได้รับตราประทับจูบิลีเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองปีแห่งการครองราชย์ของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2

     

    ในปี 2565 เบนท์ลีย์ มอเตอร์ส ได้ลงทุนกว่า 3 ล้านปอนด์เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตการพิมพ์ 3 มิติ แบบ AM ณ โรงงาน เมืองครูว์เป็นสองเท่าสำหรับขั้นตอนการแปลงรูปแบบ CAD แบบ 3 มิติเพื่อขึ้นเป็นชิ้นส่วนทางกายภาพ

    ทองคำโรสโกลด์ 18 กะรัตเป็นหนึ่งในนวัตกรรมใหม่ที่ลูกค้าสามารถเลือกตกแต่งรุ่น Batur ได้ผ่านแผนก Bentley Mulliner และไม่ว่าจะเป็นไทเทเนียมที่ได้รับแรงบันดาลใจจากการผลิตเครื่องบินไปจนถึงสิ่งทอคล้ายหนังที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมที่ผลิตจากผลพลอยได้จากกระบวนการคั่วกาแฟ ตัวเลือกเหล่านี้จะช่วยเพิ่มทางเลือกให้กับการรังสรรค์ยนตรกรรมในฝันได้อย่างไร้ขีดจำกัด

    ศิลปะแห่งการออกแบบเฉพาะบุคคล

    ปี 2463 Bentley Mulliner ได้ผลิตยนตรกรรมสั่งทำพิเศษที่โดดเด่นที่สุดของโลกอย่างรุ่น R-Type Continental ที่โด่งดังอย่างมากในช่วงปี 2495

    ปัจจุบัน Bentley Mulliner ดำเนินงานในฐานะแผนกออกแบบพิเศษของเบนท์ลีย์ มอเตอร์ส โดยให้บริการทุกขั้นตอนตั้งแต่การสั่งพิเศษในแบบเฉพาะบุคคลไปจนถึงการผลิตตัวถังขึ้นใหม่ Bentley Mulliner ยังมอบบริการพิเศษแบบส่วนตัวสำหรับลูกค้าที่ต้องการยนตรกรรมที่โดดเด่นและมีเพียงคันเดียวในโลก โดยจะร่วมออกแบบคุณสมบัติและการตกแต่งให้เหมาะกับรสนิยมเฉพาะตัวของลูกค้าแต่ละคน

    แกรนด์ ทัวเรอร์ รุ่น Batur ที่มีเพียง 18 คันในโลก ถือเป็นจุดเริ่มต้นของการปฏิวัติการออกแบบของเบนท์ลีย์ และความสำเร็จดังกล่าวได้ตามมาด้วย Batur Convertible แกรนด์ ทัวเรอร์แบบเปิดประทุน ซึ่งเปิดตัวในเดือนพฤษภาคม 2567 รุ่น Batur Convertible เป็นรถยนต์รุ่นที่ 3 ในตระกูล Coachbuilt ของ Bentley Mulliner หลังจากรุ่น Bacalar และ รุ่น Batur แบบคูเป้ สำหรับรุ่น Batur Convertible ผลิตเพียง 16 คันเท่านั้น และถือเป็นแกรนด์ทัวเรอร์แบบเปิดประทุนที่ขับเคลื่อนด้วยขุมพลังเครื่องยนต์รุ่น W12 ที่ทรงพลังที่สุดในประวัติศาสตร์ของเบนท์ลีย์


    ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย

    Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
    Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
    Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
    instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
    Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
    Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
    Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine


    No Comment
  • มาสด้าส่งมอบ MX-5 รุ่นลิมิเต็ด ฉลอง 35 ปี มีเพียง 4 คัน ในประเทศไทย

    1 Min Read

    มาสด้าส่งมอบ MX-5 รุ่นลิมิเต็ด ฉลอง 35 ปี มีเพียง 4 คัน ในประเทศไทย

    มาสด้าส่งมอบรถสปอร์ตโรดสเตอร์แบรนด์ไอคอนระดับตำนานเจ้าของรถยนต์ขับสนุกที่สุดในโลก สร้างสถิติเป็นรถสปอร์ตโรดสเตอร์ที่ขายดีที่สุดในโลกกว่า 1,200,000 คัน จนได้รับการบันทึกลงใน Guinness World Record สำหรับ New Mazda MX-5 รุ่นพิเศษฉลองครบรอบ 35 ปี จำนวนสองคัน ให้กับ นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานที่ปรึกษาสโมสร และ นายเทวัญ ลิปตพัลลภ ประธานบริหารสโมสรนครราชสีมา มาสด้า เอฟซี โดยมี นายธีร์ เพิ่มพงศ์พันธ์ ประธานกรรมการบริหารและซีอีโอ พร้อมด้วย นายภพนิพิฐ จิรวัฒนานนท์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและนวัตกรรมดิจิตอล บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด เป็นตัวแทนฯ โดยรถรุ่นพิเศษนี้ผลิตขึ้นอย่างจำกัดจำนวน ทั่วโลกมีเพียง 2,559 คัน เพื่อร่วมเฉลิมฉลองเนื่องในโอกาสครบรอบ 35 ปี นับตั้งแต่รถมาสด้า MX-5 ได้เปิดตัวสู่สาธารณชนครั้งแรกเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2532 และยังคงไว้ซึ่งเอกลักษณ์ความเป็นสปอร์ตโรดสเตอร์ยอดนิยมของมาสด้าไว้อย่างเต็มเปี่ยม พร้อมความพิเศษสุดในทุกจุดสัมผัสรอบตัวรถ รวมถึงสัญลักษณ์รุ่นพิเศษ 35th Anniversary Edition พร้อม serial number บ่งบอกความพิเศษลิมิเต็ดอิดิชั่นที่ถูกผลิตขึ้นจำนวนจำกัด และในประเทศไทยมีลูกค้าที่ได้ครอบครองเพียง 4 คัน เท่านั้น ซึ่งขณะนี้ได้ถูกครอบครองเป็นเจ้าของหมดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

    นายธีร์ เพิ่มพงศ์พันธ์ ประธานกรรมการบริหารและซีอีโอ บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า มาสด้าขอขอบคุณลูกค้าชาวไทยที่ให้การตอบรับรถยนต์มาสด้าทุกรุ่นด้วยดีเสมอมา เราให้คำมั่นสัญญาว่าจะมุ่งมั่นพัฒนาเทคโนโลยีผลิตภัณฑ์ยานยนต์และการบริการที่ดีที่สุด เพื่อมอบประสบการณ์ความสุขและการใช้ชีวิตในทุกด้านให้กับลูกค้าให้ดียิ่งขึ้น เพราะมาสด้าเชื่อมั่นมาโดยตลอดว่า “ความสุขในการขับขี่รถยนต์” (Joy of Driving) จะนำไปสู่ “ความสุขในการใช้ชีวิต” (Joy of Living) เพื่อให้มั่นใจได้ว่าทุกครั้งที่ลูกค้ามีปฏิสัมพันธ์กับแบรนด์มาสด้าจะนำมาซึ่งคุณค่าและความสุขในการเป็นเจ้าของรถยนต์มาสด้า เพื่อสร้างการเติบโตไปพร้อมกับลูกค้าในทุกมิติและสร้างสรรค์สังคมไทยให้ยั่งยืนตลอดไป อย่างไรก็ตามสำหรับลูกค้าที่ครอบครองรุ่นพิเศษนี้ไม่ทัน มาสด้ายังมีรุ่นปกติ New Mazda MX-5 สปอร์ตโรดสเตอร์ที่ได้รับการพัฒนาปรับปรุงใหม่ด้วยการผสมผสานระหว่างเทคโนโลยีความปลอดภัยที่ล้ำสมัย ผนวกกับเทคโนโลยีที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการเชื่อมต่อการสื่อสารยุคดิจิตอลและเทคโนโลยี เพื่อช่วยเพิ่มสมรรถนะในการขับขี่ วางราคาจำหน่าย 3,029,000 บาท


    ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย

    Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
    Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
    Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
    instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
    Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
    Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
    Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine


    No Comment