-
ฮอนด้า มอบความสุขจัดใหญ่เต็ม MAX ผ่านกิจกรรม Honda Day 2025 1 พ.ย. 2568 นี้ เข้าสวนน้ำ วานา นาวา หัวหิน ฟรี ! เฉพาะครอบครัวฮอนด้า วันเดียวเท่านั้น !!! เพียงโชว์กุญแจรถยนต์ฮอนด้า 1 กุญแจ สนุกได้สูงสุดถึง 4 ท่าน

ครอบครัวฮอนด้า เตรียมตัวให้พร้อม! กับกิจกรรม Honda Day 2025 มอบสิทธิพิเศษ เข้าสวนน้ำ วานา นาวา หัวหิน (Vana Nava Hua Hin) ฟรี ! ในวันเสาร์ที่
1 พฤศจิกายน 2568 เพียงโชว์กุญแจรถยนต์ฮอนด้ารุ่นใดก็ได้ ที่จุดจำหน่ายบัตรหน้าสวนน้ำ
1 กุญแจ สนุกได้ทั้งครอบครัวสูงสุด 4 ท่าน พร้อมรับฟรี ! คูปองแลกของที่ระลึก และสนุกกับกิจกรรม
สุดพิเศษอีกมากมายที่บูทฮอนด้าในงาน จำกัดสิทธิ์เพียง 250 สิทธิ์ หรือ 1,000 ท่าน เท่านั้น !ฮอนด้า จัดใหญ่แบบเต็ม Max ให้ครอบครัวฮอนด้าได้สนุกสุดมันส์ใน Honda Day 2025 ในวันที่
1 พฤศจิกายน 2568 ที่สวนน้ำ วานา นาวา หัวหิน กับเครื่องเล่นสวนน้ำมาตรฐานโลกกว่า 19 เครื่องเล่น และสไลเดอร์มากมาย ในบรรยากาศสวนน้ำสไตล์ป่าเขตร้อนแห่งแรกของเอเชียรับสิทธิพิเศษแบบเอ็กซ์คลูซีฟสำหรับครอบครัวฮอนด้า พร้อมอัปเดตทุกข่าวสาร ข้อมูลผลิตภัณฑ์ และกิจกรรมล่าสุด เพื่อให้คุณไม่พลาดทุกความเคลื่อนไหวได้ที่
- เว็บไซต์: honda.co.th
- Facebook Official Account: Honda Thailand
- LINE Official Account: @honda-thailand
*เงื่อนไขและข้อกำหนด
– โปรโมชันนี้เฉพาะลูกค้ารถยนต์ฮอนด้าเท่านั้น
– สามารถใช้โปรโมชันนี้ที่จุดจำหน่ายบัตรหน้าสวนน้ำ วานา นาวา หัวหิน รับสิทธิ์โดยการแสดงกุญแจรถยนต์ฮอนด้ารุ่นใดก็ได้ (1 กุญแจ ต่อ 1 สิทธิ์ และ 1 สิทธิ์ได้ 4 ท่าน) จำกัดจำนวน 250 สิทธิ์ ตลอดระยะเวลาโครงการ
– โปรโมชันไม่สามารถใช้ร่วมกับโปรโมชันอื่นได้
– โปรโมชันนี้ไม่สามารถแจ้งยกเลิกหรือคืนเงินได้ทุกจำนวน ไม่ว่ากรณีใด ๆ ทั้งสิ้น
– ลูกค้าจะต้องปฏิบัติตามกฎของสวนน้ำฯ อย่างเคร่งครัด
– สวนน้ำขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขและข้อกำหนดใดๆ โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine -
FIT Auto จัดโปรโมชันใหญ่ส่งท้ายปี “ฟิตรถให้พร้อม มั่นใจทุกการเดินทาง” ยาง 3 แถม 1 น้ำมันเครื่องเริ่มต้น 690 บาท พร้อมโครงการประกันภัยใหม่ “FIT KUB TIP”

คุณรชา อุทัยจันทร์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านธุรกิจหล่อลื่น บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) (OR) พร้อมด้วย คุณสุภาพ ประดับการ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ร่วมเปิดตัวแคมเปญใหญ่ก่อนเดินทางส่งท้ายปีของศูนย์บริการยานยนต์ FIT Auto มอบสิทธิพิเศษแก่ลูกค้าทั่วประเทศ เพื่อตอบโจทย์คนรักรถ และนักเดินทางทุกคน ให้ทุกการเดินทางเต็มไปด้วยความอุ่นใจ ไม่ว่าจะเป็นทริปสั้น ๆ ในเมือง วันหยุดกับครอบครัว หรือ
ทริปทางไกลในช่วงเทศกาล ก็พร้อมออกเดินทางได้อย่างมั่นใจไร้กังวล ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2568 – 15 มกราคม 2569รับโปรโมชันพิเศษ:
- ยาง 3 แถม 1 + ฟรี! โปรแกรมดูแลยาง FIT Care มูลค่า 4,000 บาท
ยางซื้อ 3 แถม 1 จากแบรนด์ที่ร่วมรายการ (Goodyear, Yokohama รุ่น AE51 และ G056, Deestone และ Westlake) และรับโปรแกรมดูแลยาง FIT Care ครอบคลุมตลอด 2 ปี หรือ 50,000 กม. รวมบริการตั้งศูนย์ 2 ครั้ง, สลับยาง-ถ่วงล้อ 5 ครั้ง, เติมลมไนโตรเจนไม่จำกัด, และปะยางแบบแทงไหมฟรี เมื่อเปลี่ยนยางครบ 4 เส้นที่ FIT Auto - เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง PTT Lubricants เริ่มต้น 690 บาท ฟรี! ไส้กรองน้ำมันเครื่องและค่าแรง
- น้ำมันเครื่องเกรดหมื่นโล เบนซิน เริ่มต้น 690 บาท ดีเซล เริ่มต้น 1,020 บาท
- น้ำมันเครื่องสังเคราะห์ 100% เบนซิน เริ่มต้น 750 บาท ดีเซล เริ่มต้น 1,490 บาท
- เมื่อซื้อน้ำมันเครื่องขนาด 3 ลิตรขึ้นไป ฟรี! ค่าแรงเปลี่ยนถ่าย มูลค่า 200 บาท และไส้กรองยี่ห้อ FIT Auto มูลค่าสูงสุด 260 บาท หรือส่วนลดมูลค่า 100 บาท สำหรับซื้อไส้กรองยี่ห้ออื่นที่ FIT Auto ในกรณีที่รถลูกค้าไม่สามารถใช้ไส้กรองยี่ห้อ FIT Auto ได้
- อะไหล่ลด 5%
ครอบคลุมผ้าเบรก, จานเบรก, โช้คอัพ, แบตเตอรี่ และอะไหล่ช่วงล่างที่ร่วมรายการ พร้อมแพ็กเกจทำความสะอาดและหล่อลื่นระบบเบรก ราคาพิเศษ 249 บาท - บริการล้างแอร์และอบโอโซน 1,990 บาท ฟรี! กรองแอร์ 5 มูลค่า 380 บาท
ด้วยเทคโนโลยี Micro Cam สำหรับรถญี่ปุ่นเท่านั้น (เฉพาะสาขาที่ร่วมรายการ)
นอกจากนี้ FIT Auto ยังจับมือกับ บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ “FIT KUB TIP คุ้มทุกคัน ประกันทุกยาง” ที่ครอบคลุมประกันภัยรถยนต์ประเภท 1, 2+ และ 3+ พร้อมขยายความคุ้มครองด้านยางรถยนต์ และบริการช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง ยกระดับประสบการณ์ One Stop Service ให้ลูกค้ามั่นใจได้มากขึ้น สามารถสมัครได้ง่าย ๆ เพียงสแกน QR Code ณ จุดบริการ FIT Auto ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Call Center โทร. 1736
“ฟิตรถให้พร้อม มั่นใจทุกการเดินทาง” ที่ FIT Auto ด้วยโปรโมชันพิเศษสุดคุ้ม คนรักรถห้ามพลาด!! มาดูแลรถของคุณที่FIT Auto ทุกสาขาทั่วประเทศ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.pttfitauto.com/th/promotion หรือโทร 1365 Contact Center ติดตามข่าวสารทาง หรือเช็ก FIT Auto ใกล้บ้าน ได้ที่ https://www.pttfitauto.com/th/branches
*หมายเหตุ: เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไข ยกเลิก โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
#FITAuto #เชี่ยวชาญบริการจากใจ
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine
- ยาง 3 แถม 1 + ฟรี! โปรแกรมดูแลยาง FIT Care มูลค่า 4,000 บาท
-
‘มิชลิน ไกด์’ พลิกโฉมสร้างตำนานบทใหม่ ขยายบทบาทจากคู่มือในรูปแบบสิ่งพิมพ์ สู่การเป็นแหล่งอ้างอิงระดับโลก

มิชลิน ไกด์’ จัดกิจกรรมสื่อมวลชนสัมพันธ์ (Media Day) ขึ้นเป็นครั้งแรก โดยเป็นส่วนหนึ่งของงานประกาศรายชื่อโรงแรมที่พักทั่วโลกซึ่งคว้ารางวัล ‘กุญแจมิชลิน’ หรือ MICHELIN Key ณ พิพิธภัณฑ์ศิลปะการออกแบบตกแต่งแห่งกรุงปารีส (Paris Decorative Arts Museum) กิจกรรมดังกล่าวไม่เพียงเปิดพื้นที่ให้สื่อมวลชนในประเทศฝรั่งเศสและนานาประเทศได้พบปะแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างกัน แต่ยังเปิดโอกาสให้ ‘มิชลิน ไกด์’ ได้ถ่ายทอดเรื่องราวความเป็นมา กลยุทธ์การดำเนินงาน และเป้าหมายที่วางไว้
จากคู่มือในรูปแบบสิ่งพิมพ์ สู่การเป็นแหล่งอ้างอิงระดับโลกด้านศิลปะการใช้ชีวิต
นับตั้งแต่ถือกำเนิดขึ้นเมื่อปี 2443 คู่มือ ‘มิชลิน ไกด์’ ได้พัฒนาไปตามยุคสมัยและวิถีชีวิตของผู้คน โดยยังคงยึดมั่นในพันธกิจดั้งเดิม นั่นคือ การแนะนำร้านอาหารและโรงแรมที่พักอย่างเป็นอิสระด้วยมาตรฐานที่เข้มงวด เพื่อให้นักเดินทางได้รับประสบการณ์ที่น่าประทับใจมากที่สุด แนวคิดในการจัดทำคู่มือ ‘มิชลิน ไกด์’ เริ่มจากต้องการให้เป็นคู่มือที่ใช้งานได้จริงและช่วยให้การเดินทางด้วยรถยนต์สะดวกง่ายดายขึ้น ในช่วงปี 2463-2472 คู่มือฉบับดังกล่าวได้กลายเป็นบรรทัดฐานด้านอาหารด้วยการเปิดตัวสัญลักษณ์ ‘ดาวมิชลิน’ (MICHELIN Stars) และต่อมาในปี 2540 ได้เปิดตัวรางวัล ‘บิบ กูร์มองด์’ (Bib Gourmand) เพื่อมอบให้กับร้านอาหารคุณภาพดีราคาย่อมเยา
ต้นศตวรรษที่ 21 พื้นที่การจัดทำคู่มือ ‘มิชลิน ไกด์’ ครอบคลุมจุดหมายปลายทางราว 20 แห่ง ซึ่งส่วนใหญ่ตั้งอยู่ในทวีปยุโรป ในช่วงเวลานี้เองมีการเปลี่ยนแปลงเชิงกลยุทธ์ครั้งสำคัญโดยมุ่งเน้นไปที่การขยายฐานสู่ตลาดนานาชาติ (Internationalization), การปรับกระบวนการทำงานเข้าสู่ระบบดิจิทัล (Digitalization) และการสร้างความหลากหลาย (Diversification)
การเร่งขยายฐานการดำเนินงานทั่วโลกเริ่มขึ้นอย่างจริงจังในช่วงปี 2543-2552 โดยการเปิดตัวคู่มือ ‘มิชลิน ไกด์’ ในประเทศญี่ปุ่นเมื่อปี 2550 ถือเป็นก้าวสำคัญที่พิสูจน์ให้เห็นถึงศักยภาพในการเปิดรับและส่งเสริมวัฒนธรรมอาหารทั่วทุกมุมโลก ในปี 2568 ซึ่ง ‘มิชลิน ไกด์’ ดำเนินงานครอบคลุมจุดหมายมากกว่า 70 แห่ง ทั้งในยุโรป, เอเชีย, อเมริกาเหนือ, อเมริกาใต้ และตะวันออกกลาง จึงได้ประกาศเจตนารมณ์ที่จะเผยแพร่บรรยากาศที่มีเสน่ห์เฉพาะตัวของแวดวงอาหารในทุกดินแดนทั่วโลก
ในช่วงปี 2543-2552 คู่มือ ‘มิชลิน ไกด์’ ได้เริ่มดำเนินการปรับโฉมครั้งใหญ่เพื่อรองรับการเปลี่ยนผ่านเข้าสู่ยุคดิจิทัล ซึ่งส่งผลให้รูปแบบการเข้าถึงข้อมูลของผู้คนเปลี่ยนแปลงไปและการใช้สื่อสิ่งพิมพ์ลดลง โดยได้เปิดตัวเว็บไซต์ให้ผู้สนใจเข้าถึงข้อมูลร้านอาหารและโรงแรมที่พักทั่วโลกซึ่งผ่านการคัดสรรและจัดอันดับโดยไม่มีค่าใช้จ่าย ทั้งยังสามารถเลือกแสดงผลเป็นภาษาต่างๆ ได้มากกว่า 25 ภาษา พัฒนาการดังกล่าวส่งเสริมพันธกิจดั้งเดิมของคู่มือ ‘มิชลิน ไกด์’ ที่ต้องการเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นประโยชน์แก่นักเดินทางจำนวนมากที่สุด ขณะเดียวกันยังช่วยให้สามารถพัฒนาเนื้อหาให้ครบถ้วนสมบูรณ์และปรับข้อมูลให้ทันสมัยได้ตลอดเวลา ต่อมาในปี 2563 ระบบนิเวศทางดิจิทัลดังกล่าวได้นำไปสู่การพัฒนาโปรแกรมสำหรับใช้งานบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ (Mobile Application) ซึ่งได้พลิกโฉม ‘มิชลิน ไกด์’ จากคู่มือแบบรูปเล่มที่ผู้ขับขี่มักใส่ไว้ในช่องเก็บของประจำรถ…ให้กลายเป็นสื่อคู่กายที่นักชิมและนักเดินทางทั่วโลกพกพาติดตัวไปด้วยทุกที่
ในปี 2566 การปรับโฉมดังกล่าวได้ขยายสู่แวดวงโรงแรมที่พักด้วยการเปิดตัวรางวัล ‘กุญแจมิชลิน’ หรือ MICHELIN Key ซึ่งเปรียบเสมือนการพลิกโฉมคู่มือ ‘มิชลิน ไกด์’ ด้วยการยกระดับบทบาทในฐานะผู้คัดสรรและแนะนำโรงแรมที่พัก การประกาศรายชื่อโรงแรมที่พักทั่วโลกซึ่งได้รับรางวัล ‘กุญแจมิชลิน’ อย่างเป็นทางการครั้งแรกในปีนี้เปรียบเสมือนการมอบรางวัล ‘ดาวมิชลิน’ ให้กับร้านอาหารหรูประเภท “ไฟน์ ไดน์นิ่ง” (Fine Dining)โดย ‘กุญแจมิชลิน’ เป็นรางวัลที่มอบให้กับโรงแรมที่พักซึ่งมีความโดดเด่นเป็นพิเศษและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่สร้างมาตรฐานความเป็นเลิศใหม่ให้กับอุตสาหกรรมบริการ
พัฒนาการดังกล่าวข้างต้นล้วนอยู่ภายใต้หลักการสำคัญที่เป็นจิตวิญญาณของคู่มือ ‘มิชลิน ไกด์’ นั่นคือ การคัดสรรอย่างเป็นอิสระ, กระบวนการคัดสรรที่เข้มงวด และการรักษามาตรฐานสูงอย่างต่อเนื่อง การประกาศรายชื่อโรงแรมที่พักทั่วโลกซึ่งได้รับรางวัล ‘กุญแจมิชลิน’ ในครั้งนี้เป็นการตอกย้ำจุดยืนใหม่ของคู่มือ ‘มิชลิน ไกด์’ ในฐานะแหล่งอ้างอิงระดับโลกด้านศิลปะการใช้ชีวิตที่นำเสนอ…
- ความเฉพาะตัว (Singularity): รูปแบบวิธีการคัดสรรมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวและทีมผู้ตรวจสอบมีความเชี่ยวชาญเป็นพิเศษ
- ความดึงดูดใจ (Affinity): มีกิจกรรมร่วมกับชุมชน มีเนื้อหาที่โดดเด่นและปรับข้อมูลให้เป็นปัจจุบันอยู่เสมอ
- การนำไปใช้ได้จริง (Practicality): ด้วยบริการที่มุ่งตอบโจทย์ความต้องการรายบุคคล ส่งผลให้การทานอาหารหรือพักแรมเป็นเรื่องสะดวกง่ายดายมากขึ้นและให้ประสบการณ์ที่เหนือกว่า
เป็นมากกว่าแพลตฟอร์มดิจิทัล ด้วยบริการที่หลากหลายและแตกต่าง
ด้วยระบบนิเวศทางดิจิทัลที่ได้รับการออกแบบใหม่ ‘มิชลิน ไกด์’ จึงสามารถใช้ฟังก์ชั่นพิเศษของตนเองสนับสนุนทุกมิติของการเดินทาง ตั้งแต่สร้างแรงบันดาลใจ…ไปจนถึงอำนวยความสะดวกในการจองโต๊ะที่ร้านอาหารหรือการสำรองห้องพัก ยิ่งกว่านั้นยังทำให้เกิดการรวมกลุ่มเป็นชุมชนผู้ใช้งานรูปแบบใหม่ที่มีความหลากหลายทางเชื้อชาติและวัฒนธรรมมากขึ้น อายุน้อยลง และมีคุณวุฒิสูงกว่าเดิม
ระบบนิเวศทางดิจิทัลที่ได้รับการปรับปรุงครั้งใหญ่
เว็บไซต์และโปรแกรมสำหรับใช้งานบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ (Mobile Application) ของ ‘มิชลิน ไกด์’ นำเสนอ…
- ข้อมูลเกี่ยวกับร้านอาหารและโรงแรมที่พักซึ่งผ่านการคัดสรรอย่างอิสระและมีมาตรฐานสูงโดยทีมผู้ตรวจสอบที่ประกอบด้วยบุคลากรจากกว่า 30 ประเทศทั่วโลก ข้อมูลดังกล่าวสามารถเข้าถึงได้ทั่วโลกโดยไม่มีค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด
- เนื้อหาที่โดดเด่น ทั้งบทความ, ข้อมูลแนะนำการท่องเที่ยว, วิดีโอ, พอดแคสต์, ข่าวสารและเรื่องราวต่อเนื่องเป็นตอนทางสื่อสังคมออนไลน์ต่าง ๆ ล้วนมีบทบาทในการส่งเสริมศาสตร์การทำอาหารและการเดินทางท่องเที่ยวในมุมมองที่มีเอกลักษณ์และร่วมสมัย
- แพลตฟอร์มสำหรับให้บริการซึ่งตอบโจทย์การใช้งานและพฤติกรรมของผู้คนยุคปัจจุบัน โดยมีฟังก์ชั่นการกรองข้อมูล (Filters), ระบบระบุตำแหน่งทางภูมิศาสตร์(Geolocalization), การสร้างรายการส่วนตัว, การจัดทำแผนการเดินทางเฉพาะบุคคล, ระบบการจองแบบครบวงจร และการดูแลช่วยเหลือเฉพาะบุคคลโดยผู้เชี่ยวชาญด้านการเดินทางท่องเที่ยว
จากแพลตฟอร์ม…สู่ประสบการณ์: ตัวอย่างเรื่องการสำรองห้องพัก
เมื่อเข้าสู่ฐานข้อมูลสำหรับให้บริการที่พัฒนาล่าสุดของคู่มือ ‘มิชลิน ไกด์’ ผู้ใช้งานสามารถจองห้องพักได้โดยตรงกับโรงแรมที่พักในราคาที่ดีที่สุด ทั้งยังได้รับสิทธิประโยชน์พิเศษ อาทิ การอัปเกรดห้องพัก, ค่าห้องพักอัตราพิเศษ และประสบการณ์สุดพิเศษที่ตอบโจทย์เฉพาะบุคคล นอกจากนี้ ยังสามารถขอรับบริการเสริมพิเศษเฉพาะด้านจากทีมผู้เชี่ยวชาญได้ทุกวันตลอด 24 ชั่วโมงโดยไม่มีค่าใช้จ่าย บริการที่มีความเป็นส่วนตัวและใส่ใจในรายละเอียดดังกล่าวต่อยอดมาจากเนื้อหาที่มีคุณภาพมาตรฐานสูงของคู่มือ ‘มิชลิน ไกด์’ เพื่อให้คู่มือดังกล่าวเป็นมากกว่าการให้คำแนะนำเพียงอย่างเดียว
ปัจจุบัน ร้อยละ 92 ของผู้ใช้คู่มือ ‘มิชลิน ไกด์’* แสดงความเห็นว่าบริการดังกล่าว “น่าประทับใจ” หรือ “ดีกว่าผู้ให้บริการรายอื่น”
ชุมชนผู้ใช้งานรูปแบบใหม่
แม้ ‘ดาวมิชลิน’ ยังคงเป็นสัญลักษณ์ที่สำคัญของคู่มือ ‘มิชลิน ไกด์’ แต่ความหลากหลายและการเข้าถึงรายชื่อร้านอาหารที่ผ่านการคัดสรรได้สะดวกง่ายดายคือปัจจัยหลักที่ทำให้คู่มือ ‘มิชลิน ไกด์’ ได้รับความนิยมในกลุ่มนักเดินทางและผู้หลงใหลในอาหารหลายล้านคนทั่วโลก โดยคู่มือฉบับนี้เป็นมากกว่าแหล่งรวบรวมรายชื่อและที่อยู่ของร้านอาหารแนะนำเท่านั้น แต่ยังบรรจุเนื้อหาที่มีคุณค่าอย่างแท้จริงและจุดประกายให้ผู้คนออกเดินทางค้นหาประสบการณ์ใหม่ ๆ ปัจจุบัน ‘มิชลิน ไกด์’ มีชุมชนผู้ติดตามราว 7 ล้านรายบนเครือข่ายสังคมออนไลน์ และมีผู้ใช้งานแอปพลิเคชั่นราว 3.5 ล้านรายทั่วโลก
ร้อยละ 60 ของนักเดินทางท่องเที่ยวนานาชาติที่มีอายุต่ำกว่า 34 ปี ระบุว่าใช้คู่มือ ‘มิชลิน ไกด์’ ในการเลือกร้านอาหาร
คู่มือ ‘มิชลิน ไกด์’: ต้นแบบระดับโลกที่ช่วยเสริมสร้างคุณค่าให้กับจุดหมายปลายทาง
‘มิชลิน ไกด์’ ยังคงเดินหน้าขยายฐานการดำเนินงานทางภูมิศาสตร์ด้วยความมุ่งมั่นที่จะส่งเสริมวงการอาหารทั่วโลกผ่านการคัดสรรและแนะนำร้านอาหาร ผลจากการคัดสรรร้านอาหารได้สร้างแรงขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจ, การท่องเที่ยว, ศิลปะการทำอาหาร และวัฒนธรรม ทั้งยังช่วยให้ ‘มิชลิน ไกด์’ พัฒนารูปแบบการดำเนินงานจนมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวบนฐานของความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์กับหน่วยงานส่งเสริมการท่องเที่ยวท้องถิ่น ขณะเดียวกันการสนับสนุนที่ได้รับซึ่งสำคัญอย่างยิ่งต่อการพัฒนาคู่มือ ‘มิชลิน ไกด์’ สู่ระดับสากล ยังก่อให้เกิดประโยชน์ที่เป็นรูปธรรมและยั่งยืนอีกด้วย
การศึกษาซึ่งจัดทำเมื่อไม่นานมานี้* ยืนยันถึงอิทธิพลที่เพิ่มขึ้นของคู่มือ ‘มิชลิน ไกด์’ ต่อการตัดสินใจของนักเดินทาง
- ร้อยละ 74 ระบุว่าคู่มือ ‘มิชลิน ไกด์’ เป็นปัจจัยสำคัญในการเลือกจุดหมายปลายทาง
- ร้อยละ 76 ยินดีที่จะขยายระยะเวลาการท่องเที่ยวเพื่อสัมผัสประสบการณ์ในร้านอาหารที่ ‘มิชลิน ไกด์’ แนะนำ
- ร้อยละ 80 ยินดีจ่ายเงินเพิ่มเพื่อสัมผัสประสบการณ์ความเป็นเลิศระดับ ‘มิชลิน ไกด์’
นอกจากจะส่งผลต่อการท่องเที่ยวแล้ว ‘มิชลิน ไกด์’ ยังมีบทบาทในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ
- ร้อยละ 82 ของเชฟระบุว่าผลประกอบการเพิ่มขึ้นหลังจากได้รับรางวัล
- ร้อยละ 60 ระบุว่ามีการรับสมัครบุคลากรใหม่
- ร้อยละ 58 ระบุว่า ‘มิชลิน ไกด์’ ส่งผลเชิงบวกต่อความภาคภูมิใจและแรงจูงใจของพนักงาน
การขยายฐานการดำเนินงานแต่ละครั้งมีกระบวนการที่เข้มงวด โดยมุ่งประเมินภาพรวมของวงการอาหารท้องถิ่น และยืนยันให้มั่นใจว่าการคัดสรรจะเป็นไปอย่างยั่งยืนภายใต้ความรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียวของ ‘มิชลิน ไกด์’ ความร่วมมือในเชิงยุทธศาสตร์ซึ่งกำหนดเป้าหมายไว้สูงเหล่านี้ต้องอยู่บนฐานของการดำเนินงานอย่างเป็นอิสระของ ‘มิชลิน ไกด์’ เพื่อให้มั่นใจว่าการคัดสรรและจัดอันดับเป็นไปอย่างมีคุณภาพและโปร่งใส
แรงขับเคลื่อนนี้ยังส่งผลต่อเนื่องไปสู่อุตสาหกรรมโรงแรม ทั้งนี้ การขยายขอบเขตการคัดสรรโรงแรมที่พัก, การเปิดตัวรางวัลใหม่ ‘กุญแจมิชลิน’ หรือ MICHELIN Key และการพัฒนาระบบการจองห้องพักที่มีประสิทธิภาพ ช่วยให้โรงแรมเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้ตรงเป้าหมายขึ้น
ภายในระยะเวลาเพียง 2 ปี และเมื่อเทียบกับช่องทางอื่น ๆ โรงแรมที่แนะนำบางส่วนซึ่งสามารถจองผ่านแพลตฟอร์มของ ‘มิชลิน ไกด์’ มีอัตราการจองห้องพักเพิ่มขึ้นถึง 4 เท่า บริการสำรองห้องพักซึ่งเปิดตัวในปี 2567 มีการเติบโตสูง โดยเฉพาะในกลุ่มโรงแรมที่พักซึ่งมอบสิทธิประโยชน์พิเศษให้กับผู้ใช้ ‘มิชลิน ไกด์’ ปัจจุบัน ‘มิชลิน ไกด์’ จึงมีบทบาทในการดึงดูดลูกค้าที่มองหาประสบการณ์ที่เหนือกว่าให้กับทั้งโรงแรมที่พักและดินแดนที่เป็นจุดหมายปลายทาง
ด้วยแนวทางดังกล่าว ‘มิชลิน ไกด์’ จึงทำหน้าที่เป็นบรรทัดฐานระดับสากลด้านอาหารและงานบริการ ทั้งยังมีส่วนช่วยให้ดินแดนที่เป็นจุดหมายปลายทางเติบโตอย่างยั่งยืน มีคุณภาพ และสร้างแรงบันดาลใจ
เดิมที คู่มือ ‘มิชลิน ไกด์’ ได้รับการจัดทำขึ้นเพื่อช่วยเหลือผู้ขับขี่ยานยนต์ แต่ปัจจุบันมีบทบาทเต็มตัวในการสนับสนุนนักชิมและนักเดินทางทั่วโลก โดยได้รับการปรับเปลี่ยนให้เหมาะกับรูปแบบการใช้งานยุคใหม่ ขณะเดียวกันยังคงยึดมั่นในคุณค่าดั้งเดิมของการดำเนินงานอย่างเป็นอิสระและมีมาตรฐานระดับสูง ในโลกที่เต็มไปด้วยข้อมูลมากมาย แนวทางการดำเนินงานที่เน้น “มนุษย์” และ “การลงพื้นที่จริง” ทำให้คู่มือ ‘มิชลิน ไกด์’ ยังคงเป็นแหล่งอ้างอิงที่เชื่อถือได้
‘มิชลิน ไกด์’ ยกย่องการมีอัตลักษณ์เฉพาะตัว บุคลากรผู้มีความสามารถในท้องถิ่น ตลอดจนเอกลักษณ์ที่โดดเด่นของวงการอาหารและโรงแรมที่พักในแต่ละพื้นที่ ด้วยจุดยืนปัจจุบันในฐานะแหล่งอ้างอิงด้านไลฟ์สไตล์ระดับโลก ‘มิชลิน ไกด์’ ไม่เพียงเติมเต็มประสบการณ์การเดินทางท่องเที่ยวให้สมบูรณ์ แต่ยังเสริมสร้างคุณค่าให้กับจุดหมายปลายทางอย่างยั่งยืน นอกจากนี้ ยังมีบทบาทมากขึ้นกว่าเดิม โดยรายชื่อร้านอาหารและโรงแรมที่พัก ประกอบกับบริการทางดิจิทัลใหม่ที่ตอบโจทย์เฉพาะบุคคล ช่วยให้ผู้คนจำนวนมากได้สัมผัสกับประสบการณ์ที่น่าจดจำอย่างแท้จริง
- เกว็นดัล ปูลเล็นเนค ผู้อำนวยการฝ่ายจัดทำคู่มือ ‘มิชลิน ไกด์’ ทั่วโลก
*ตัวเลขที่ระบุมาจากผลการศึกษาโดย EY ที่ใช้ชื่อว่า Beyond the MICHELIN Stars ซึ่งตีพิมพ์ในปี 2568
สามารถดาวน์โหลด รูปภาพ และ/หรือ ไฟล์ข้อมูลที่เกี่ยวข้อง ได้ที่:
https://contentcenter.michelin.com/dam/wedia/shared-board/ee8660d2-67b1-41a4-a2f0-cdf1a9191e20
ติดตามข่าวความเคลื่อนไหวจาก ‘มิชลิน ไกด์’ ได้ทาง X

ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine
-
เอ็มจี ชู 4 จุดเด่น ‘ใหญ่ – เย็น – ยาว – เยอะ’ กับ NEW MG S5 EV PLUS พร้อม LIFETIME WARRANTY

เบาะที่นั่งระบบเป่าลมคู่หน้า ใช้งานยาว ๆ ได้อย่างมั่นใจ ทั้งวิ่งไกลและชาร์จไว พร้อม LIFETIME WARRANTY และเป็นอีวีที่ให้ผู้ใช้ เยอะกว่าด้วยฟีเจอร์ล้ำสมัยครบครัน ตอกย้ำการเป็น “อีวีมหาชน” ที่เข้าถึงง่าย พร้อมมอบความคุ้มค่าแท้จริงให้กับผู้บริโภคชาวไทย
NEW MG S5 EV คือยนตรกรรมไฟฟ้าที่พัฒนาบนแพลตฟอร์ม NEBULA PURE ELECTRIC PLATFORM เพื่อรองรับทุกไลฟ์สไตล์การขับขี่ที่สนุกด้วยระบบขับเคลื่อนล้อหลัง (Rear-Wheel Drive) และช่วงล่าง 5-Link Suspension พร้อมระบบ One Pedal ที่ช่วยควบคุมความเร็วได้อย่างง่ายดาย โดยครั้งนี้ได้เสริมรุ่นย่อยใหม่ 3 รุ่นได้แก่ รุ่น D+ ที่เน้นเรื่องความคุ้มค่า พร้อมฟังก์ชันที่เพียงพอต่อการใช้งานจริง รุ่น X+ กับฟังก์ชันที่เพิ่มมากขึ้นพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน และรุ่น V+ ที่เพิ่มสมรรถนะดีเยี่ยม พร้อมระยะทางที่วิ่งไกลสูงสุดถึง 550 กิโลเมตร พร้อมชาร์จไวได้สูงสุดถึง 150 กิโลวัตต์ พร้อมจุดเด่นที่เป็นเอกลักษณ์ของรุ่นนี้ อย่าง “ขับสนุก วิ่งไกล ชาร์จไว นั่งสบาย พร้อม LIFETIME WARRANTY” และมาตรฐานความปลอดภัยระดับ 5 ดาวจาก Euro NCAP ที่ทำให้ NEW MG S5 EV กลายเป็นตัวเลือกยอดนิยมในตลาด B-SUV ของไทย
สำหรับ NEW MG S5 EV PLUS พร้อมมอบสมรรถนะการขับขี่ด้วยกำลังสูงสุด 245 แรงม้า (180 กิโลวัตต์) แรงบิดสูงสุด 350 นิวตัน-เมตร พร้อมอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เพียง 6.1 วินาที เท่านั้น มาพร้อมแบตเตอรี่ความจุ 62.2 kWh (LFP) วิ่งได้ไกลสูงสุดถึง 550 กิโลเมตรต่อการชาร์จ 1 ครั้ง ตามมาตรฐาน NEDC ถือเป็นรถ B-SUV ไฟฟ้า 100% ที่วิ่งได้ไกลที่สุดในคลาส และชาร์จไวทันใจจาก 10-80% ใช้เวลาน้อยกว่า 30 นาที โดยรุ่นนี้มีการปรับคอนโซลกลางดีไซน์ใหม่ช่วยเพิ่มพื้นที่ใช้สอย รองรับการใช้งานในชีวิตประจำวันได้อย่างลงตัว พร้อมล้ออัลลอยด์ขนาด 18 นิ้ว และระบบเกียร์แบบก้านเปลี่ยนหลังพวงมาลัย ที่ช่วยให้ผู้ขับเปลี่ยนเกียร์ได้อย่างสะดวกโดยไม่ต้องละมือจากพวงมาลัย เสริมทั้งความปลอดภัยและความคล่องตัวในทุกเส้นทาง

NEW MG S5 EV PLUS ถือเป็นรุ่นที่เติมเต็มฟังก์ชันที่อำนวยความสะดวก และมอบความสบายให้ลูกค้าในทุกการเดินทางอย่างแท้จริงด้วย 4 จุดเด่นสำคัญ “ใหญ่ – เย็น – ยาว – เยอะ” ที่สามารถตอบโจทย์ผู้บริโภคอย่างรอบด้าน ทั้งในแง่ของความคุ้มค่า ครอบคลุมทุกไลฟ์สไตล์ ไม่ว่าจะเป็น
- ใหญ่: พื้นที่ห้องโดยสารกว้างขวาง พร้อมหน้าจอกลางที่ใหญ่ขึ้น ขนาด 15.6 นิ้ว เชื่อมต่อระบบความบันเทิงข้อมูล และฟังก์ชันต่าง ๆ ได้อย่างลื่นไหล
- เย็น: เย็นฉ่ำทั่วคันด้วยระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ และช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารด้านหลัง พร้อมเพิ่มเติมเบาะหนังระบบเป่าลมเย็น (Cooling seat) ในตำแหน่งคนขับ และผู้โดยสารด้านหน้า ให้ทุกการเดินทางเย็นสบายมากขึ้น
- ยาว: ขับขี่ได้มั่นใจยิ่งขึ้นกับมอเตอร์ประสิทธิภาพสูง และแบตเตอรี่ที่รองรับการชาร์จแบบกระแสตรงสูงสุด 150 kW (ในรุ่น V+) รองรับการใช้งานระยะทางไกล พร้อมอุ่นใจกับการใช้งานระยะยาวด้วยการรับประกันแบตเตอรี่แรงเคลื่อนสูง ชุดมอเตอร์ขับเคลื่อน และชุดควบคุมมอเตอร์ขับเคลื่อนตลอดอายุการใช้งาน (LIFETIME WARRANTY)
- เยอะ: อัดแน่นด้วยฟีเจอร์ล้ำสมัยครบครัน ทั้งระบบปฏิบัติการอัจฉริยะ i–SMART 3.0 ระบบความปลอดภัยที่ครอบคลุม มอบความสะดวกสบายและความมั่นใจในทุกเส้นทาง มั่นใจไร้กังวลด้วยอะไหล่ที่เพียงพอพร้อมส่งให้กับศูนย์บริการกว่า 125 แห่งทั่วประเทศไทย
โดย NEW MG S5 EV PLUS จัดจำหน่าย สามรุ่นย่อยในราคาพิเศษเริ่มต้น เพียง 669,900 บาท พร้อมส่งมอบตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
- รุ่น D+ ราคาพิเศษ 669,900 บาท (จากราคาปกติ 749,900 บาท)
- รุ่น X+ ราคาพิเศษ 789,900 จาก (จากราคาปกติ 839,900 บาท)
- รุ่น V+ ราคาพิเศษ 909,900 จาก (จากราคาคาดการณ์ 959,900 บาท)
- ดอกเบี้ยพิเศษเริ่มต้น 99% ระยะเวลาผ่อนชำระนาน 48 เดือน
- ฟรี ประกันภัยชั้น 1 พร้อม พ.ร.บ. นาน 1 ปี
- ฟรี ค่าจดทะเบียน กรอบป้ายทะเบียน และชุดพรมปูพื้น
- ฟรี บริการช่วยเหลือฉุกเฉินบนท้องถนนนาน 5 ปี
- รับประกันคุณภาพตัวรถ 5 ปี หรือ 140,000 กิโลเมตร (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)
- รับประกันแบตเตอรี่แรงเคลื่อนสูง ชุดมอเตอร์ขับเคลื่อน และชุดควบคุมมอเตอร์ขับเคลื่อน ตลอดอายุการใช้งาน (LIFETIME WARRANTY)
- ฟรี MG HOME CHARGER จำนวน 1 ชุด พร้อมค่าติดตั้ง
นายพงษ์ศักดิ์ เลิศฤดีวัฒนวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “สำหรับ ตลาด B-SUV ถือเป็นตลาดที่มีการแข่งขันสูง การพัฒนารถยนต์ต้องไม่หยุดอยู่แค่เรื่องสมรรถนะ แต่คือการมองให้ลึกถึงสิ่งที่ผู้บริโภคต้องการจริง ๆ ในวันนี้และในระยะยาว เราเชื่อว่ารถยนต์ไฟฟ้าที่ดี ต้องเข้าถึงง่าย ใช้งานได้จริง และพร้อมมอบความมั่นใจในทุกด้าน การเพิ่มรุ่นย่อยใหม่อย่าง รุ่น D+ X+ และ V+ จึงไม่ใช่แค่การเพิ่มทางเลือก แต่คือการตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า ทั้งในแง่ของสมรรถนะ เทคโนโลยี ความสะดวกสบาย และความคุ้มค่าที่จับต้องได้ เพื่อให้ผู้บริโภคสัมผัสได้ถึงประสบการณ์ที่ดียิ่งกว่า ได้สัมผัสกับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องและตรงจุด พร้อมการดูแลหลังการขายที่ครอบคลุม เพื่อให้ผู้ใช้มั่นใจได้ในทุกการเดินทางกับแบรนด์ เอ็มจี”
NEW MG S5 EV PLUS พร้อมส่งมอบประสบการณ์ขับขี่ครั้งใหม่ ให้ผู้สนใจเป็นเจ้าของและทดลองขับได้แล้ววันนี้ที่โชว์รูม เอ็มจี ทั่วประเทศ
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ MG CALL CENTRE โทร. 1267 และสามารถติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมของเอ็มจี ได้ที่
Website: www.mgcars.com
Line: @MGThailand
Facebook: www.facebook.com/MGcarsThailand
Twitter: @mg_thailand
Instagram: @mgthailand
Youtube: MG Thailand
TikTok: @mgthailand
Application: MG Thailand
Hashtag #MGThailand #MGCarsTH #PassionDrives #EVPIONEER
#NEWMGS5EV #NEWMGS5EVPLUS
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine
-
GWM จุดกระแสดีเซลอีกครั้ง เตรียมเผยโฉม NEW GWM POER SAHAR DIESEL ครั้งแรกในไทย! ในงาน TANK FEST 2025 and TOP RANK TANK MOD พร้อมกัน 18 ตุลาคม 2568 นี้

GWM (Thailand) ยกระดับสู่การเป็นแบรนด์รถยนต์ที่มีผลิตภัณฑ์ครอบคลุมทุกประเภทพลังงานที่ตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานทั่วทุกมุมโลก ด้วยแนวคิด “ครอบคลุมทุกการใช้งาน (All Scenarios) ด้วยผลิตภัณฑ์ที่ครอบคลุมทุกพลังงาน (All Powertrains) สู่การตอบสนองทุกกลุ่มผู้ใช้งานอย่างแท้จริง (All Users)” ล่าสุด เตรียมสร้างความตื่นเต้นให้กับแฟน ๆ สายลุยและสายปรับแต่งรถ สำหรับผู้ที่กำลังมองหารถกระบะพรีเมียมทางเลือกใหม่ด้วยขุมพลังดีเซล 2.4T กับการเผยโฉม “NEW GWM POER SAHAR DIESEL” ครั้งแรกในประเทศไทย พร้อมแนวทางการตกแต่งใน 3 สไตล์เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่หลากหลาย พลิกโฉมวงการกระบะในไทยด้วยการมอบความสะดวกสบายระดับพรีเมียม และความล้ำหน้าทางเทคโนโลยีเพื่อประสิทธิภาพการขับขี่ที่เกินคาด พร้อมเผยให้คนไทยได้ยลโฉมและสัมผัสตัวจริงในงาน TANK FEST 2025 and TOP RANK TANK MOD ระหว่างวันที่ 18 – 19 ตุลาคม 2568 นี้ ที่ ESC PARK รังสิต จังหวัดปทุมธานี ตั้งแต่เวลา 10.00 น. เป็นต้นไป
การปรากฏตัวครั้งแรกของ NEW GWM POER SAHAR DIESEL ในงาน TANK FEST 2025 and TOP RANK TANK MOD ครั้งนี้ GWM เตรียมขนความเร้าใจพร้อมท้าทายความเชื่อเดิม ๆ ทั้งรุ่นมาตรฐาน และรถที่มีการปรับแต่งใน 3 สไตล์ที่แตกต่าง เพื่อตอบโจทย์การเป็นรถสายลุยในฝันตัวจริงที่ให้ทั้งพละกำลัง ความสนุก เท่ ความสะดวกสบาย และที่สำคัญสามารถใช้งานได้จริง ตอบสนองความต้องการของคนไทยที่ต้องการรถกระบะพรีเมียมทางเลือกใหม่ที่มีความโดดเด่นแบบรอบด้านอย่างแท้จริง ทั้งขุมพลังจากเครื่องยนต์ดีเซลใหม่ 2.4T เจนเนอเรชันใหม่ล่าสุด ที่คิดค้นโดย GWM ที่จะมอบประสบการณ์ที่เหนือกว่า ไม่ว่าจะเป็นสมรรถนะการขับขี่ที่ทรงพลังด้วยแรงม้าแรงบิดที่เร้าใจ แต่ยังคงความนิ่ง เงียบ และนุ่มนวล และการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมห้องโดยสารที่กว้างขวางและเทคโนโลยีเพื่อความสะดวกสบายระดับพรีเมียม รวมถึงนวัตกรรมอัจฉริยะด้านความปลอดภัยเพื่อการขับขี่ที่เหนือกว่า
GWM ผู้นำตลาดรถกระบะระดับโลก
GWM ตอกย้ำความเป็นผู้นำในตลาดรถกระบะด้วยสถิติยอดขายอันดับ 1 ในประเทศจีนยาวนานถึง 27 ปีติดต่อกันด้วยส่วนแบ่งตลาดประมาณ 50% หรือในทุก ๆ การขายรถกระบะ 2 คันในประเทศจีน หนึ่งในนั้นจะเป็นแบรนด์ GWM พร้อมสร้างมาตรฐานใหม่ในฐานะแบรนด์รถกระบะระดับพรีเมียมสัญชาติจีนรายแรกที่มียอดขายทะลุ 500,000 คัน ด้วยเทคโนโลยีเครื่องยนต์สมรรถนะสูงที่หลากหลายและแพลตฟอร์มออฟโรดที่พัฒนาอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบัน GWM ขยายตลาดครอบคลุมกว่า 60 ประเทศใน 6 ทวีป มียอดขายสะสมทั่วโลกกว่า 2.78 ล้านคัน และคว้ารางวัล “Pickup of the Year” จากหลายภูมิภาค ไม่ว่าจะเป็นออสเตรเลีย อเมริกาใต้ หรือแอฟริกาใต้ ตอกย้ำความแข็งแกร่ง ความน่าเชื่อถือ และขีดความสามารถในการแข่งขันของยานยนต์ “Made in China” บนเวทีโลกอย่างแท้จริง
นอกจากนี้ ในงาน TANK FEST 2025 and TOP RANK TANK MOD ท่านจะได้พบกับมหกรรมสำหรับแฟนพันธุ์แท้ GWM TANK เป็นครั้งแรกในประเทศไทย ภายในงาน เต็มไปด้วยกิจกรรมสุดเร้าใจ ไม่ว่าจะเป็นการประกวดและจัดแสดงรถแต่งสุดครีเอทีฟ การแข่งขันขับขี่ออฟโรดสุดมันส์ สนามทดสอบสมรรถนะ กิจกรรมสำหรับทุกเพศทุกวัย โซนสตรีทฟู้ด และคอนเสิร์ตจากศิลปินชื่อดัง ซึ่งผู้เข้าร่วมงานทุกคนสามารถเข้าชมได้ฟรีตลอดงาน แฟน ๆ GWM TANK และผู้ที่รักการผจญภัย ห้ามพลาด!
เตรียมพบกับ NEW GWM POER SAHAR DIESEL ที่จะมาสร้างมาตรฐานใหม่และพลิกโฉมวงการรถกระบะในไทย รับประสบการณ์ใหม่กับรถกระบะหนึ่งเดียวของ GWM ที่ผสมผสานความต่างที่สุดขั้วแต่ลงตัว และความคิดสร้างสรรค์อันไร้ขีดจำกัดในการปรับแต่งเพื่อคนสายลุย ปักหมุดวันที่ 18–19 ตุลาคมนี้ มาร่วมสัมผัสบรรยากาศงานสุดยิ่งใหญ่ที่ ESC Park รังสิต แล้วพบกัน!
#GWM #GWMThailand #POERSAHARDIESEL #TANKFEST2025 #TOPRANKTANKMODCONTEST
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine -
NEW MAZDA CX-30 ESSENTIAL ครอสโอเวอร์เอสยูวีขวัญใจมหาชน คว้ารางวัลสุดยอดสินค้าและบริการแห่งปี 2568

ครอสโอเวอร์เอสยูวีระดับพรีเมี่ยม New Mazda CX-30 Essential คว้ารางวัล Product of the Year Awards 2025 หรือรางวัลสุดยอดสินค้าและบริการแห่งปี จากนิตยสาร Business+ ที่จัดขึ้นเพื่อคัดเลือกสุดยอดสินค้าและบริการแห่งปี ที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้า มีความโดดเด่น และสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้า ตอกย้ำถึงแนวทางของบริษัทฯ ต่อการมุ่งมั่นพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยียานยนต์อันล้ำสมัย ตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่มีไลฟ์สไตล์หลากหลาย และส่งมอบประสบการณ์ความสุขในการขับขี่ให้กับลูกค้าได้เป็นอย่างดี โดยพิธีมอบรางวัลครั้งนี้ ได้รับเกียรติจาก ฯพณฯ นุรักษ์ มาประณีต องคมนตรี เป็นประธานมอบรางวัล โดยมี นายภพนิพิฐ จิรวัฒนานนท์ ผู้อำนวยการ ฝ่ายการตลาดและนวัตกรรมดิจิทัล บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด เป็นตัวแทนรับมอบฯ ณ ห้องบอลรูม โรงแรมสวิสโฮเต็ล รัชดา กรุงเทพฯ
นายภพนิพิฐ จิรวัฒนานนท์ ผู้อำนวยการ ฝ่ายการตลาดและนวัตกรรมดิจิทัล บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า New Mazda CX-30 Essential เปิดตัวสู่ตลาดในประเทศไทยเมื่อเดือนกรกฎาคม 2568 ที่ผ่านมา พร้อมแนวคิด “LIVE A LIFE OF VALUE” เติมเต็มชีวิตให้คุ้มค่ากับเอสยูวีที่ใช่ ด้วยการปรับรุ่นย่อยใหม่และปรับราคาให้เกิดความคุ้มค่าคุ้มราคามากยิ่งขึ้น ในขณะเดียวกันยังคงรักษาเอกลักษณ์ของมาสด้าที่ครบครัน ไม่ว่าจะเป็น การออกแบบที่สง่างาม ตามแนวคิด โคโดะ ดีไซน์ ที่เรียบง่ายแต่งดงาม ความพิถีพิถันใส่ใจในทุกรายละเอียด คัดสรรด้วยวัสดุคุณภาพระดับพรีเมี่ยม ภายในออกแบบอย่างประณีตดุจงานทำมือ ออกแบบโดยมุ่งเน้นมนุษย์เป็นศูนย์กลาง มอบเอกลักษณ์ประสบการณ์ความสนุกสนานในการขับขี่ตามสไตล์มาสด้า มาพร้อมเทคโนโลยีและนวัตกรรมอัจฉริยะขั้นสูง เรียกได้ว่าเป็นแบรนด์ดีเอ็นเอของมาสด้าที่ถ่ายทอดลงในทุกผลิตภัณฑ์ และได้รับการยอมรับจากลูกค้ามาแล้วทั่วโลก

New Mazda CX-30 Essential มาพร้อมรุ่นเริ่มต้นใหม่ และได้รับการออกแบบรุ่นย่อยใหม่ โดยคัดสรรอุปกรณ์ให้เหมาะสมต่อการใช้งานในชีวิตประจำวันทุกรูปแบบ พร้อมราคาใหม่ที่ให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ง่ายขึ้น เริ่มต้นเพียง 899,000 บาท สง่างามดุจงานศิลปะชิ้นเอกจาก โคโดะ ดีไซน์ ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Less is More” เรียบง่ายแต่งดงาม คงไว้ซึ่งความสปอร์ตโฉบเฉี่ยวและทรงพลัง พร้อมระบบควบคุมสมรรถนะการขับขี่อัจฉริยะขั้นสูง GVC Plus เหนือระดับด้วยเครื่องยนต์สกายแอคทีฟเบนซิน 2.0 ลิตร ทั้งแรงและประหยัดน้ำมัน ให้กำลังสูงสุด 165 แรงม้า พร้อมการควบคุมการขับขี่ที่แม่นยำและสมดุล ด้วยสกายแอคทีฟแพลตฟอร์มเจเนอเรชั่นใหม่ อัดแน่นด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยรอบคัน และฟังก์ชั่นความปลอดภัยและความสะดวกสบายครบครัน ที่พร้อมตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายในยุคใหม่ได้อย่างลงตัว

“มาสด้ารู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ New Mazda CX-30 Essential ได้รับการยอมรับจากมหาชน จนได้รับรางวัล Business+ Product of the Year Awards 2025 ในครั้งนี้ ขอขอบคุณลูกค้าที่ให้การสนับสนุนเป็นอย่างดีเสมอมา ทุกการสนับสนุนล้วนเป็นแรงผลักดันให้มาสด้ามุ่งมั่นพัฒนายกระดับยนตรกรรมและเทคโนโลยียานยนต์ให้ดียิ่ง ๆ ขึ้นไป เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า ควบคู่กับการยกระดับคุณภาพบริการหลังการขาย เพื่อให้รถยนต์มาสด้าเป็นตัวแทนส่งมอบประสบการณ์ความสุขและการใช้ชีวิตในทุกด้านให้กับลูกค้าในประเทศไทยตลอดไป” นายภพนิพิฐ กล่าว
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine
-
TOYOTA GAZOO Racing Thailand ปิดฉาก 8 ชม.สุดอึดเอ็นดูรานซ์ คว้าแชมป์ประเทศไทยถ้
วยพระราชทานฯ ไปครอง 
“TOYOTA GAZOO Racing Thailand” ทีมแข่งรถที่ยิ่งใหญ่และประสบความสำเร็จอย่างสูงของวงการมอเตอร์สปอร์ต ภายใต้การสนับสนุนของบริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ปิดฉากการแข่งขัน “RAAT Thailand Endurance Championship 2025” อย่างยิ่งใหญ่ หลังฝ่าด่านพิสูจน์ความแกร่งของทั้งรถและคนยาวนาน 8 ชม. จบสวยคว้าถ้วยอันดับ 1 ครองตำแหน่งแชมป์ประเทศไทยถ้วยพระราชทานฯ 4 ปีซ้อนไปแบบสมศักดิ์ศรี ในศึกสุดท้ายสนาม 4 ระหว่างวันที่ 11-12 ตุลาคม 2568 ณ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์

ส่งท้ายเอ็นดูรานซ์เรซนี้ท่ามกลางรถแข่งทั้ง 40 คัน เดินพันด้วยตำแหน่งแชมป์ประเทศไทย เข้มข้นตั้งแต่ออกสตาร์ท ทีม TOYOTA GAZOO Racing Thailand ลงสู้ศึก 3 รุ่น จบการแข่งขันผลปรากฏว่า

รุ่น D2 Touring Car ด้วยรถ Toyota Corolla Altis GR Sport รถหมายเลข 20 ขับโดย ณัฐพงษ์ ห่อทองคำ, กรัณฑ์ ศุภพงษ์ และ อัครพงษ์ อัคนีนิโรธ หวดกันไม่ยั้งใช้ทีมเวิร์คจบการแข่งขันคว้าอันดับ 1 ของทั้งรุ่นและแบบ Overall วิ่งรวม 234 รอบสนาม เป็นทั้งแชมป์สนามและรับแชมป์ประจำปีถ้วยพระราชทานฯ ไปครอง

หมายเลข 19 ขับโดย สุทธิพงศ์ สมิตชาติ, ณัฐวุฒิ เจริญสุขะวัฒนะ และมานัต กุละปาลานนท์ เดิมพันท้าชิงแชมป์ประจำปีถ้วยพระราชทานฯ เจอดราม่าตั้งแต่รอบแรกของการแข่งขันทำให้ตกไปอยู่ท้ายเกม แต่สุดท้ายด้วยฝีมือไล่ไต่อันดับกลับมาปิดเกมไปด้วยอันดับ 3 ทั้งในรุ่นและแบบ Overall วิ่งรวม 225 รอบสนาม

รุ่น D3 Compact Car ด้วยหมายเลข 29 Yaris Ativ ขับโดย ณ ดล วัฒนธรรม และ นรรัศมิ์ อภิวาท จบอันดับ 1 ของรุ่นและอันดับ 4 แบบOverall รวม 223 รอบสนาม

ด้านรถหมายเลข 39 Yaris HB Turbo ขับโดย กฤษฎิ์ วสุรัตน์ และ ชิบะ เคนทาโร ทำผลงานดีไม่แพ้กันคว้าอันดับ 2 ของรุ่นและอันดับ 7 แบบOverall รวม 221 รอบสนาม

สุดท้ายในรุ่น Super NZ Lady ด้วยรถ Vios CVT หมายเลข 89 ขับโดย กิติยา ธีรวัฒน์วาที และ ศิริภากรณ์ แยบยนต์ ผนึกกำลังโชว์ผลงานเยี่ยม จบอันดับ 2 ของรุ่นและอันดับ 21 แบบOverall รวม 193 รอบสนาม และยังเป็นแชมป์ประจำปีในรุ่นนี้อีกด้วย

หลังจบการแข่งขัน คุณสุทธิพงศ์ สมิตชาติ ผู้อำนวยการทีมและนักแข่งสังกัด TOYOTA GAZOO Racing Thailand กล่าวว่า “ถือเป็นการปิดฤดูกาลเอ็นดูรานซ์ RAAT 2025 ที่สวยงามสำหรับทีมเรา ตลอด 8 ชม.ของการแข่งขันเต็มไปด้วยแรงกดดันและท้าทาย ด้วยแผนการและการตัดสินใจที่เฉียบคม ทั้งนักแข่งและทีมงานทุกส่วนประสานกันยอดเยี่ยม ทำให้รถทุกคันได้ขึ้นโพเดียม และรักษาแชมป์ประเทศไทยถ้วยพระราชทานฯ ต่อเนื่องได้อีกปีเป็นความภาคภูมิใจของพวกเรามากครับ”
แฟนกีฬามอเตอร์สปอร์ตร่วมติดตามชมและเชียร์ “TOYOTA GAZOO Racing Thailand” กับอีก 2 ศึกความเร็วส่งท้ายปี คือ การแข่งขันรถยนต์ทางเรียบ “TSS The Super Series 2025” Event 5 ในระหว่างวันที่ 31 ตุลาคม – 2 พฤศจิกายน 2568 และรายการ “IDEMITSU SUPER ENDURANCE THAILAND 2025” แข่งขันรถยนต์มาราธอน 12 ชั่วโมงเที่ยงวันยันเที่ยงคืน ในระหว่างวันที่ 18-20 ธันวาคม 2568 ณ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ ร่วมติดตามชมภาพการแข่งขันของทีมเพิ่มเติมได้ที่ Facebook และ Instagram: TOYOTAGAZOORacingTeamThailand
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine
-
ฮอนด้า จัดเต็มส่งท้ายปี และจัดหนัก! กับแคมเปญ Honda Pro OH! MY GOOOOOD PLUS+ โปรใหม่ จัดใหญ่เต็ม MAX พร้อมสิทธิพิเศษมูลค่าสูงสุด 85,000 บาท ยกขบวนความคุ้มแบบ พลัส พลัส สำหรับรถฮอนด้าทุกรุ่น ให้คุณตัดสินใจเป็นเจ้
าของรถยนต์ฮอนด้าได้ง่าย ๆ ตั้งแต่ 1 ต.ค. – 11 ธ.ค. 2568

บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด เสิร์ฟความสุขครั้งใหญ่ส่งท้ายปี ! ยกขบวนความคุ้มแบบ พลัส พลัส กับแคมเปญ “Honda Pro OH! MY GOOOOOD PLUS+” โปรใหม่ จัดใหญ่เต็ม MAX จัดเต็มข้อเสนอที่หลากหลาย “ตรงใจ เลือกได้เอง” สำหรับรถยนต์ฮอนด้าทุกรุ่นในทุกเซกเมนต์ ทั้งขุมพลัง TURBO และขุมพลังฟูลไฮบริด e:HEV – The EXCITING Hybrid และรถยนต์ไฟฟ้า 100% มอบสิทธิพิเศษเพิ่มเติมมูลค่าสูงสุดถึง 85,000 บาท* เพื่อให้คุณเป็นเจ้าของรถยนต์ฮอนด้าได้ง่าย ๆ เมื่อจองตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม – 11 ธันวาคม 2568 และรับรถภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2568
รุ่นรถฮอนด้าที่สามารถเลือกข้อเสนอเพื่อรับสิทธิพิเศษเพิ่มเติม ได้แก่
- Honda Civic รุ่น TURBO รับสิทธิพิเศษเพิ่มเติม มูลค่า 85,000 บาท
- Honda City และ Honda City Hatchback รุ่น TURBO รับสิทธิพิเศษเพิ่มเติม มูลค่า 70,000 บาท
- Honda City และ Honda City Hatchback รุ่น e:HEV รับสิทธิพิเศษเพิ่มเติม มูลค่า 50,000 บาท
- Honda City Hatchback DRIVAL Limited Edition รับสิทธิพิเศษเพิ่มเติม มูลค่า 70,000 บาท
ไฮไลต์ข้อเสนอสำหรับ Honda City และ Honda City Hatchback รุ่น TURBO ราคาเริ่มต้นเพียง 599,000 บาท
- ทางเลือกใหม่! รับสิทธิพิเศษเพิ่มเติม มูลค่า 70,000 บาท สำหรับรุ่น TURBO พร้อมเลือกรับ
- ดอกเบี้ย 0% พร้อมฮอนด้า อัลติเมท แคร์
- หรือเลือกรับ ประกันภัย 2 ปี พร้อมฮอนด้า อัลติเมท แคร์
โดยมาพร้อมหลากหลายข้อเสนอคุ้มค่าให้ลูกค้าเป็นเจ้าของ Honda City และ Honda City Hatchback รุ่น TURBO ได้ง่ายขึ้น ได้แก่
- ดอกเบี้ยพิเศษ 0%* พร้อมรับ Honda Exclusive Care 5 ปี มูลค่าสูงสุด 69,000 บาท ประกอบด้วย
- ฟรี ประกันภัย 1 ปี*
- ฟรี แพ็กเกจเช็กระยะ (ค่าแรง ค่าอะไหล่) 5 ปี หรือ 100,000 กม.*
- ฟรี ฮอนด้า อัลติเมท แคร์ ขยายเวลารับประกันคุณภาพรถยนต์ใหม่และบริการช่วยเหลือฉุกเฉินนอกสถานที่ 24 ชั่วโมง อีก 2 ปี หรือ 40,000 กิโลเมตร รวมเป็น 5 ปี หรือ 140,000 กิโลเมตร (อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)*
- โปรแกรม ดับเบิ้ล สไมล์ พลัส (Double Smile Plus) ผ่อนเบา ดาวน์สบาย เลือกผ่อนได้ ตามสไตล์ที่คุณชอบ
- สำหรับ Honda City Hatchback (เกรด S+) ฮอนด้าช่วยผ่อน 7 ปี รวมมูลค่าสูงสุด 104,400 บาท*
- ผ่อนเบาเริ่มต้นเพียงเดือนละ 3,281 บาท* หรือเลือก ดาวน์ต่ำเพียง 10%*
- พร้อม ฟรี! ประกันภัย 1 ปี*และฮอนด้า อัลติเมทแคร์
ไฮไลต์ข้อเสนอสำหรับ Honda City e:HEV และ City Hatchback e:HEV ราคาเริ่มต้น 729,000 บาท
สัมผัสประสบการณ์ขับขี่ของระบบฟูลไฮบริด e:HEV – The EXCITING Hybrid ใน Honda City e:HEV และ Honda City Hatchback e:HEV ที่ให้ทั้งความแรง ขับสนุก อัตราเร่งทันใจ สมูททุกจังหวะขับขี่ และให้อัตราประหยัดน้ำมันที่ดีเยี่ยม ซึ่งมาพร้อมข้อเสนอพิเศษ ดังนี้
- ทางเลือกใหม่! รับสิทธิพิเศษเพิ่มเติม มูลค่า 50,000 บาท พร้อมเลือกรับ
- ดอกเบี้ย 0% พร้อมฮอนด้า อัลติเมท แคร์
- หรือเลือกรับ ประกันภัย 2 ปี พร้อมฮอนด้า อัลติเมท แคร์
โดยมาพร้อมหลากหลายข้อเสนอคุ้มค่าให้ลูกค้าเป็นเจ้าของ Honda City e:HEV และ Honda City Hatchback e:HEV ได้ง่ายขึ้น ได้แก่
- ดอกเบี้ยพิเศษ 0% พร้อม Honda Exclusive Care 5 ปี มูลค่าสูงสุด 145,000 บาท ประกอบด้วย
- ฟรี ประกันภัย 1 ปี*
- ฟรี รับประกันแบตเตอรี่ไฮบริด 10 ปี ไม่จำกัดระยะทาง*
- ฟรี แพ็กเกจเช็กระยะ ค่าแรง ค่าอะไหล่ 5 ปี หรือ 100,000 กม.*
- ฟรี ฮอนด้า อัลติเมท แคร์ ขยายเวลารับประกันคุณภาพรถยนต์ใหม่และบริการช่วยเหลือฉุกเฉินนอกสถานที่ 24 ชั่วโมง อีก 2 ปี หรือ 40,000 กิโลเมตร รวมเป็น 5 ปี หรือ 140,000 กิโลเมตร (อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)*
- โปรแกรม ดับเบิ้ล สไมล์ พลัส (Double Smile Plus) ผ่อนเบา ดาวน์สบาย เลือกผ่อนได้ ตามสไตล์ที่คุณชอบ
- ค่างวดเริ่มต้นเพียง 7,130 บาท* หรือ เลือกดาวน์ต่ำเพียง 10%*
- รับประกันแบตเตอรี่ไฮบริด 10 ปี ไม่จำกัดระยะทาง*
ไฮไลต์ข้อเสนอสำหรับ Honda City Hatchback DRIVAL Limited Edition ราคา 829,000 บาท
- ทางเลือกใหม่! รับสิทธิพิเศษเพิ่มเติม มูลค่า 70,000 บาท พร้อมเลือกรับ
- ดอกเบี้ย 0% พร้อมฮอนด้า อัลติเมท แคร์
- หรือเลือกรับ ประกันภัย 2 ปี พร้อมฮอนด้า อัลติเมท แคร์
โดยมาพร้อมหลากหลายข้อเสนอคุ้มค่า ได้แก่
- ดอกเบี้ยพิเศษ 0% พร้อม Honda Exclusive Care 5 ปี มูลค่าสูงสุด 145,000 บาท พร้อมสิทธิพิเศษเพิ่มเติม 20,000 บาท ประกอบด้วย
- ฟรี ประกันภัย 1 ปี*
- ฟรี รับประกันแบตเตอรี่ไฮบริด 10 ปี ไม่จำกัดระยะทาง*
- ฟรี แพ็กเกจเช็กระยะ ค่าแรง ค่าอะไหล่ 5 ปี หรือ 100,000 กม.*
- ฟรี ฮอนด้า อัลติเมท แคร์ ขยายเวลารับประกันคุณภาพรถยนต์ใหม่และบริการช่วยเหลือฉุกเฉินนอกสถานที่ 24 ชั่วโมง อีก 2 ปี หรือ 40,000 กิโลเมตร รวมเป็น 5 ปี หรือ 140,000 กิโลเมตร (อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)*
- โปรแกรม ดับเบิ้ล สไมล์ พลัส (Double Smile Plus) ผ่อนเบา ดาวน์สบาย เลือกผ่อนได้ ตามสไตล์ที่คุณชอบ
- ค่างวดเริ่มต้นเพียง 8,108 บาท* หรือเลือกดาวน์ต่ำเพียง 10%*
- รับประกันแบตเตอรี่ไฮบริด 10 ปี ไม่จำกัดระยะทาง*
สิทธิพิเศษเพิ่มเติม รวมมูลค่ากว่า 26,990 บาท* สำหรับ Honda City ทั้งขุมพลัง TURBO และ e:HEV และ Honda City Hatchback DRIVAL Limited Edition
- ลูกค้าเฉพาะกลุ่ม
- ใหม่ นักเรียน/นักศึกษา ที่กำลังศึกษาอยู่ในระดับอุดมศึกษา หรือวิทยาลัยอาชีวศึกษาต่างๆ รวมถึง นักเรียนนักศึกษาจบใหม่ ฯลฯ ที่มีอายุไม่เกิน 27 ปี เพียงแสดงบัตรนักเรียน/นักศึกษา (ที่วันหมดอายุไม่เกิน 3 ปี นับจากวันที่บัตรหมดอายุ) หรือ บัตรประชาชน ให้กับที่ปรึกษาการขายในวันจองรถยนต์ โดยชื่อบนบัตรจะต้องตรงกับชื่อเจ้าของรถยนต์ รับสิทธิพิเศษเพิ่มมูลค่า 5,000 บาท*
- สำหรับลูกค้าที่นำรถยนต์สันดาป หรือรถยนต์ไฮบริด หรือรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดคันเดิม ยี่ห้อฮอนด้า หรือยี่ห้อใดก็ได้มาขายและออกรถยนต์ ฮอนด้า ซิตี้ ซิตี้ แฮทช์แบ็ก ซิตี้ อี:เอชอีวี ซิตี้ แฮทช์แบ็ก อี:เอชอีวี ซิตี้ แฮทช์แบ็ก ไดรฟ์วัล ที่โชว์รูมฮอนด้า รับสิทธิพิเศษเพิ่มเติม มูลค่า 15,000 บาท*
- สำหรับเจ้าของรถยนต์และรถจักรยานยนต์ฮอนด้าและครอบครัว (Honda Loyalty) รับส่วนลดดอกเบี้ย 0.15%* พิเศษเฉพาะสำหรับเจ้าของรถจักรยานยนต์ฮอนด้า รับเพิ่มบัตรเติมน้ำมันมูลค่า 3,000 บาท*
- เพื่อนแนะนำเพื่อน* ลูกค้าที่ออกรถจะได้รับบัตรเติมน้ำมันมูลค่า 3,000 บาทเพิ่มเติม สำหรับเพื่อนที่แนะนำจะได้รับคูปองส่วนลดเงินส่วน (e-Coupon) มูลค่า 3,000 บาท เพื่อใช้สำหรับการซื้อสินค้าและบริการที่ศูนย์บริการฮอนด้า
(ทั้งนี้ขอสงวนสิทธิ์ลูกค้าในการเลือกรับแคมเปญอย่างใดอย่างหนึ่ง ระหว่างแคมเปญสำหรับเจ้าของรถยนต์และรถจักรยานยนต์ฮอนด้าและครอบครัว หรือแคมเปญเพื่อนแนะนำเพื่อน เพื่อรับบัตรเติมน้ำมันมูลค่า 3,000 บาท)
- สำหรับลูกค้าข้าราชการ รัฐวิสาหกิจ และ กลุ่มลูกค้าอาชีพพิเศษ สิทธิพิเศษ รับส่วนลดดอกเบี้ยพิเศษเพิ่ม 0.10%* จากดอกเบี้ยตามตารางส่งเสริมการขายประจำเดือน (เฉพาะกรณีทำสัญญาเช่าซื้อผ่านบริษัท ฮอนด้า ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด เท่านั้น)
- ฟรี กระเป๋าล้อลาก CAGGIONI รุ่น Trunk ขนาด 20 นิ้ว มูลค่า 3,990 บาท* เพียงจองตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2568 – 11 ธันวาคม 2568 และรับรถภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2568
ไฮไลต์ข้อเสนอสำหรับ Honda Civic ราคา 1,039,000 บาท
- ทางเลือกใหม่! รับสิทธิพิเศษเพิ่มเติม มูลค่า 85,000 บาท พร้อมประกันภัย 1 ปี และฮอนด้า อัลติเมท แคร์
โดยมาพร้อมหลากหลายข้อเสนอคุ้มค่าให้ลูกค้าเป็นเจ้าของ Honda Civic ได้ง่ายขึ้น ได้แก่
- ดอกเบี้ยพิเศษ 0% พร้อม Honda Exclusive Care 5 ปี มูลค่าสูงสุด 82,000 บาท ประกอบด้วย
- ฟรี ประกันภัย 1 ปี*
- ฟรี แพ็คเกจเช็คระยะ ค่าแรง ค่าอะไหล่ 5 ปี หรือ 100,000 กม.*
- ฟรี ฮอนด้า อัลติเมท แคร์ ขยายเวลารับประกันคุณภาพรถยนต์ใหม่และบริการช่วยเหลือฉุกเฉินนอกสถานที่ 24 ชั่วโมง อีก 2 ปี หรือ 40,000 กิโลเมตร รวมเป็น 5 ปี หรือ 140,000 กิโลเมตร (อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)*
- โปรแกรม ดับเบิ้ล สไมล์ พลัส (Double Smile Plus) ผ่อนเบา ดาวน์สบาย เลือกผ่อนได้ ตามสไตล์ที่คุณชอบ
- ค่างวดเริ่มต้นเพียง 10,780 บาท* หรือ เลือกดาวน์ต่ำเพียง 10%*
- ฟรีประกันภัย 1 ปี
สิทธิพิเศษเพิ่มเติม รวมมูลค่ากว่า 6,990 บาท* สำหรับ Honda Civic
- ลูกค้าเฉพาะกลุ่ม
- สำหรับเจ้าของรถยนต์และรถจักรยานยนต์ฮอนด้าและครอบครัว (Honda Loyalty) รับส่วนลดดอกเบี้ย 0.15%* พิเศษเฉพาะสำหรับเจ้าของรถจักรยานยนต์ฮอนด้า รับเพิ่มบัตรเติมน้ำมันมูลค่า 3,000 บาท*
เพื่อนแนะนำเพื่อน* ลูกค้าที่ออกรถจะได้รับบัตรน้ำมันมูลค่า 3,000 บาทเพิ่มเติม สำหรับเพื่อนที่แนะนำจะได้รับคูปองส่วนลดเงินส่วน (e-Coupon) มูลค่า 3,000 บาท เพื่อใช้สำหรับการซื้อสินค้าและบริการที่ศูนย์บริการฮอนด้า
(ทั้งนี้ขอสงวนสิทธิ์ลูกค้าในการเลือกรับแคมเปญอย่างใดอย่างหนึ่ง ระหว่างแคมเปญสำหรับเจ้าของรถยนต์และรถจักรยานยนต์ฮอนด้าและครอบครัว หรือแคมเปญเพื่อนแนะนำเพื่อน เพื่อรับบัตรเติมน้ำมันมูลค่า 3,000 บาท)
- สำหรับลูกค้าข้าราชการ รัฐวิสาหกิจ และ กลุ่มลูกค้าอาชีพพิเศษ สิทธิพิเศษ รับส่วนลดดอกเบี้ยพิเศษเพิ่ม 0.10%* จากดอกเบี้ยตามตารางส่งเสริมการขายประจำเดือน (เฉพาะกรณีทำสัญญาเช่าซื้อผ่านบริษัท ฮอนด้า ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด เท่านั้น)
- ฟรี กระเป๋าล้อลาก CAGGIONI รุ่น Trunk ขนาด 20 นิ้ว มูลค่า 3,990 บาท* เพียงจองตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2568 – 11 ธันวาคม 2568 และรับรถภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2568
ไฮไลต์ข้อเสนอสำหรับ Honda Civic e:HEV ราคาเริ่มต้น 1,099,000 บาท
สปอร์ตซีดานขวัญใจวัยรุ่น ดีไซน์สปอร์ต เท่ ขับมันส์เหลือล้น เร่งแรงเร้าใจ ประหยัดน้ำมันเหลือ ๆ พร้อมฟังก์ชันการใช้งานและเทคโนโลยีอำนวยความสะดวกอันล้ำสมัยครบครัน ซึ่งมาพร้อมข้อเสนอพิเศษ ดังนี้
- ดอกเบี้ยพิเศษ 0% พร้อม Honda Exclusive Care 5 ปี มูลค่าสูงสุด 173,000 บาท ประกอบด้วย
- ฟรี ประกันภัย 1 ปี*
- ฟรี รับประกันแบตเตอรี่ไฮบริด 10 ปี ไม่จำกัดระยะทาง*
- ฟรี แพ็กเกจเช็กระยะ ค่าแรง ค่าอะไหล่ 5 ปี หรือ 100,000 กม.
- ฟรี ฮอนด้า อัลติเมท แคร์ ขยายเวลารับประกันคุณภาพรถยนต์ใหม่และบริการช่วยเหลือฉุกเฉินนอกสถานที่ 24 ชั่วโมง อีก 2 ปี หรือ 40,000 กิโลเมตร รวมเป็น 5 ปี หรือ 140,000 กิโลเมตร (อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)*
- โปรแกรม ดับเบิ้ล สไมล์ พลัส (Double Smile Plus) ผ่อนเบา ดาวน์สบาย เลือกผ่อนได้ ตามสไตล์ที่คุณชอบ
- ค่างวดเริ่มต้นเพียง 11,403 บาท* หรือ เลือกดาวน์ต่ำเพียง 10%*
- รับประกันแบตเตอรี่ไฮบริด 10 ปี ไม่จำกัดระยะทาง
สิทธิพิเศษเพิ่มเติม รวมมูลค่ากว่า 26,990 บาท* สำหรับ Honda Civic e:HEV
- ลูกค้าเฉพาะกลุ่ม
- สำหรับลูกค้าที่นำรถยนต์สันดาป หรือรถยนต์ไฮบริด หรือรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดคันเดิม ยี่ห้อฮอนด้า หรือยี่ห้อใดก็ได้มาขายและออกรถยนต์ ฮอนด้า ซีวิค อี:เอชอีวี ใหม่ ที่โชว์รูมฮอนด้า รับสิทธิพิเศษเพิ่มเติม มูลค่า 20,000 บาท*
- สำหรับเจ้าของรถยนต์และรถจักรยานยนต์ฮอนด้าและครอบครัว (Honda Loyalty) รับส่วนลดดอกเบี้ย 0.15%* พิเศษเฉพาะสำหรับเจ้าของรถจักรยานยนต์ฮอนด้า รับเพิ่มบัตรเติมน้ำมันมูลค่า 3,000 บาท*
- เพื่อนแนะนำเพื่อน* ลูกค้าที่ออกรถจะได้รับบัตรน้ำมันมูลค่า 3,000 บาทเพิ่มเติม สำหรับเพื่อนที่แนะนำจะได้รับคูปองส่วนลดเงินส่วน (e-Coupon) มูลค่า 3,000 บาท เพื่อใช้สำหรับการซื้อสินค้าและบริการที่ศูนย์บริการฮอนด้า
(ทั้งนี้ขอสงวนสิทธิ์ลูกค้าในการเลือกรับแคมเปญอย่างใดอย่างหนึ่ง ระหว่างแคมเปญสำหรับเจ้าของรถยนต์และรถจักรยานยนต์ฮอนด้าและครอบครัว หรือแคมเปญเพื่อนแนะนำเพื่อน เพื่อรับบัตรเติมน้ำมันมูลค่า 3,000 บาท)
- สำหรับลูกค้าข้าราชการ รัฐวิสาหกิจ และ กลุ่มลูกค้าอาชีพพิเศษ สิทธิพิเศษ รับส่วนลดดอกเบี้ยพิเศษเพิ่ม 0.10%* จากดอกเบี้ยตามตารางส่งเสริมการขายประจำเดือน (เฉพาะกรณีทำสัญญาเช่าซื้อผ่านบริษัท ฮอนด้า ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด เท่านั้น)
- ฟรี กระเป๋าล้อลาก CAGGIONI รุ่น Trunk ขนาด 20 นิ้ว มูลค่า 3,990 บาท* เพียงจองตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2568 – 11 ธันวาคม 2568 และรับรถภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2568
ไฮไลต์ข้อเสนอสำหรับ Honda HR-V e:HEV ราคาเริ่มต้น 949,000 บาท
ไฮบริด SUV ยอดนิยม สปอร์ตพรีเมียมลงตัว สะดวกสบาย ขับง่าย ลุยได้ทุกเส้นทาง รองรับทุกการใช้งานสไตล์อเนกประสงค์ อีกทั้งประหยัดน้ำมันเกินคาด
โดยมาพร้อมหลากหลายข้อเสนอคุ้มค่าให้ลูกค้าเป็นเจ้าของ Honda HR-V e:HEV ได้ง่ายขึ้น ได้แก่
- ดอกเบี้ยพิเศษ 0% พร้อม Honda Exclusive Care 5 ปี มูลค่าสูงสุด 154,000 บาท ประกอบด้วย
- ฟรี ประกันภัย 1 ปี*
- ฟรี รับประกันแบตเตอรี่ไฮบริด 10 ปี ไม่จำกัดระยะทาง*
- ฟรี แพ็กเกจเช็กระยะ ค่าแรง ค่าอะไหล่ 5 ปี หรือ 100,000 กม.*
- ฟรี ฮอนด้า อัลติเมท แคร์ ขยายเวลารับประกันคุณภาพรถยนต์ใหม่และบริการช่วยเหลือฉุกเฉินนอกสถานที่ 24 ชั่วโมง อีก 2 ปี หรือ 40,000 กิโลเมตร รวมเป็น 5 ปี หรือ 140,000 กิโลเมตร (อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)*
- โปรแกรม ดับเบิ้ล สไมล์ พลัส (Double Smile Plus) ผ่อนเบา ดาวน์สบาย เลือกผ่อนได้ ตามสไตล์ที่คุณชอบ
- ค่างวดเริ่มต้นเพียง 9,847 บาท* หรือ เลือกดาวน์ต่ำเพียง 10%*
- รับประกันแบตเตอรี่ไฮบริด 10 ปี ไม่จำกัดระยะทาง*
สิทธิพิเศษเพิ่มเติม รวมมูลค่ากว่า 26,990 บาท* สำหรับ Honda HR-V e:HEV
- ลูกค้าเฉพาะกลุ่ม
- สำหรับลูกค้าที่นำรถยนต์สันดาป หรือรถยนต์ไฮบริด หรือรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดคันเดิม ยี่ห้อฮอนด้า หรือยี่ห้อใดก็ได้มาขายและออกรถยนต์ ฮอนด้า เอชอาร์-วี อี:เอชอีวี ใหม่ ที่โชว์รูมฮอนด้า รับสิทธิพิเศษเพิ่มเติม มูลค่า 20,000 บาท*
- สำหรับเจ้าของรถยนต์และรถจักรยานยนต์ฮอนด้าและครอบครัว (Honda Loyalty) รับส่วนลดดอกเบี้ย 0.15%* พิเศษเฉพาะสำหรับเจ้าของรถจักรยานยนต์ฮอนด้า รับเพิ่มบัตรเติมน้ำมันมูลค่า 3,000 บาท*
- เพื่อนแนะนำเพื่อน* ลูกค้าที่ออกรถจะได้รับบัตรน้ำมันมูลค่า 3,000 บาทเพิ่มเติม สำหรับเพื่อนที่แนะนำจะได้รับคูปองส่วนลดเงินส่วน (e-Coupon) มูลค่า 3,000 บาท เพื่อใช้สำหรับการซื้อสินค้าและบริการที่ศูนย์บริการฮอนด้า
(ทั้งนี้ขอสงวนสิทธิ์ลูกค้าในการเลือกรับแคมเปญอย่างใดอย่างหนึ่ง ระหว่างแคมเปญสำหรับเจ้าของรถยนต์และรถจักรยานยนต์ฮอนด้าและครอบครัว หรือแคมเปญเพื่อนแนะนำเพื่อน เพื่อรับบัตรเติมน้ำมันมูลค่า 3,000 บาท)
- สำหรับลูกค้าข้าราชการ รัฐวิสาหกิจ และ กลุ่มลูกค้าอาชีพพิเศษ สิทธิพิเศษ รับส่วนลดดอกเบี้ยพิเศษเพิ่ม 0.10%*จากดอกเบี้ยตามตารางส่งเสริมการขายประจำเดือน (เฉพาะกรณีทำสัญญาเช่าซื้อผ่านบริษัท ฮอนด้า ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด เท่านั้น)
- ฟรี กระเป๋าล้อลาก CAGGIONI รุ่น Trunk ขนาด 20 นิ้ว มูลค่า 3,990 บาท* เพียงจองตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2568 – 11 ธันวาคม 2568 และรับรถภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2568
ไฮไลต์ข้อเสนอสำหรับ Honda CR-V รุ่น TURBO ราคาเริ่มต้น 1,419,000 บาท
โดยมาพร้อมหลากหลายข้อเสนอคุ้มค่าให้ลูกค้าเป็นเจ้าของ Honda CR-V รุ่น TURBO ได้ง่ายขึ้น ได้แก่
- ดอกเบี้ยพิเศษ 0% พร้อม Honda Exclusive Care 5 ปี มูลค่าสูงสุด 92,000 บาท และบัตรเติมน้ำมันมูลค่า 20,000 บาท* ประกอบด้วย
- ฟรี ประกันภัย 1 ปี*
- ฟรีแพ็กเกจเช็กระยะ ค่าแรง ค่าอะไหล่ 5 ปี หรือ 100,000 กม.*
- ฟรี ฮอนด้า อัลติเมท แคร์ ขยายเวลารับประกันคุณภาพรถยนต์ใหม่และบริการช่วยเหลือฉุกเฉินนอกสถานที่ 24 ชั่วโมง อีก 2 ปี หรือ 40,000 กิโลเมตร รวมเป็น 5 ปี หรือ 140,000 กิโลเมตร (อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)*
- โปรแกรม ดับเบิ้ล สไมล์ พลัส (Double Smile Plus) ผ่อนเบา ดาวน์สบาย เลือกผ่อนได้ ตามสไตล์ที่คุณชอบ
- ฮอนด้าช่วยผ่อนเดือนละ 8,300 บาท จำนวน 12 เดือน รวมมูลค่า 99,600 บาท*
- ค่างวดเริ่มต้นเพียง 6,423 บาท* หรือ เลือกดาวน์ต่ำเพียง 10%*
- พร้อมรับ Honda Exclusive Care*
สิทธิพิเศษเพิ่มเติม รวมมูลค่ากว่า 6,990 บาท* สำหรับ Honda CR-V รุ่น TURBO
- ลูกค้าเฉพาะกลุ่ม
- สำหรับเจ้าของรถยนต์และรถจักรยานยนต์ฮอนด้าและครอบครัว (Honda Loyalty) รับส่วนลดดอกเบี้ย 0.15%* พิเศษเฉพาะสำหรับเจ้าของรถจักรยานยนต์ฮอนด้า รับเพิ่มบัตรเติมน้ำมันมูลค่า 3,000 บาท*
- เพื่อนแนะนำเพื่อน* ลูกค้าที่ออกรถจะได้รับบัตรน้ำมันมูลค่า 3,000 บาทเพิ่มเติม สำหรับเพื่อนที่แนะนำจะได้รับคูปองส่วนลดเงินส่วน (e-Coupon) มูลค่า 3,000 บาท เพื่อใช้สำหรับการซื้อสินค้าและบริการที่ศูนย์บริการฮอนด้า
(ทั้งนี้ขอสงวนสิทธิ์ลูกค้าในการเลือกรับแคมเปญอย่างใดอย่างหนึ่ง ระหว่างแคมเปญสำหรับเจ้าของรถยนต์และรถจักรยานยนต์ฮอนด้าและครอบครัว หรือแคมเปญเพื่อนแนะนำเพื่อน เพื่อรับบัตรเติมน้ำมันมูลค่า 3,000 บาท)
- สำหรับลูกค้าข้าราชการ รัฐวิสาหกิจ และ กลุ่มลูกค้าอาชีพพิเศษ สิทธิพิเศษ รับส่วนลดดอกเบี้ยพิเศษเพิ่ม 0.10%* จากดอกเบี้ยตามตารางส่งเสริมการขายประจำเดือน (เฉพาะกรณีทำสัญญาเช่าซื้อผ่านบริษัท ฮอนด้า ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด เท่านั้น)
- ฟรี กระเป๋าล้อลาก CAGGIONI รุ่น Trunk ขนาด 20 นิ้ว มูลค่า 3,990 บาท* เพียงจองตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2568 – 11 ธันวาคม 2568 และรับรถภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2568
ไฮไลต์ข้อเสนอสำหรับ Honda CR-V รุ่น e:HEV ราคาเริ่มต้น 1,589,000 บาท
รถ Flagship SUV คันจบของครอบครัว ดีไซน์สปอร์ตพรีเมียม ภายในห้องโดยสารกว้างขวางสะดวกสบายทุกที่นั่ง ครบครันด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวกระดับพรีเมียมและเทคโนโลยีอันล้ำสมัยที่หลากหลาย ซึ่งมาพร้อมข้อเสนอพิเศษ ดังนี้
- ดอกเบี้ยพิเศษ 0% พร้อม Honda Exclusive Care 5 ปี มูลค่าสูงสุด 213,000 บาท ประกอบด้วย
- ฟรี ประกันภัย 1 ปี*
- ฟรีรับประกันแบตเตอรี่ไฮบริด 10 ปี ไม่จำกัดระยะทาง*
- ฟรีแพ็กเกจเช็กระยะ ค่าแรง ค่าอะไหล่ 5 ปี หรือ 100,000 กม.*
- ฟรี ฮอนด้า อัลติเมท แคร์ ขยายเวลารับประกันคุณภาพรถยนต์ใหม่และบริการช่วยเหลือฉุกเฉินนอกสถานที่ 24 ชั่วโมง อีก 2 ปี หรือ 40,000 กิโลเมตร รวมเป็น 5 ปี หรือ 140,000 กิโลเมตร (อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)*
- โปรแกรม ดับเบิ้ล สไมล์ พลัส (Double Smile Plus) ผ่อนเบา ดาวน์สบาย เลือกผ่อนได้ ตามสไตล์ที่คุณชอบ
- ค่างวดเริ่มต้นเพียง 16,487 บาท* หรือ เลือกดาวน์ต่ำเพียง 10%*
- รับประกันแบตเตอรี่ไฮบริด 10 ปี ไม่จำกัดระยะทาง*
สิทธิพิเศษเพิ่มเติม รวมมูลค่ากว่า 66,990 บาท* สำหรับ Honda CR-V รุ่น e:HEV
- ลูกค้าเฉพาะกลุ่ม
- สำหรับลูกค้าที่นำรถยนต์สันดาป หรือรถยนต์ไฮบริด หรือรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดคันเดิม ยี่ห้อฮอนด้า หรือยี่ห้อใดก็ได้มาขายและออกรถยนต์ ฮอนด้า ซีอาร์-วี อี:เอชอีวี ที่โชว์รูมฮอนด้า รับสิทธิพิเศษเพิ่มเติม มูลค่า 60,000 บาท*
- สำหรับเจ้าของรถยนต์และรถจักรยานยนต์ฮอนด้าและครอบครัว (Honda Loyalty) รับส่วนลดดอกเบี้ย 0.15%* พิเศษเฉพาะสำหรับเจ้าของรถจักรยานยนต์ฮอนด้า รับเพิ่มบัตรเติมน้ำมันมูลค่า 3,000 บาท*
- เพื่อนแนะนำเพื่อน* ลูกค้าที่ออกรถจะได้รับบัตรน้ำมันมูลค่า 3,000 บาทเพิ่มเติม สำหรับเพื่อนที่แนะนำจะได้รับคูปองส่วนลดเงินส่วน (e-Coupon) มูลค่า 3,000 บาท เพื่อใช้สำหรับการซื้อสินค้าและบริการที่ศูนย์บริการฮอนด้า
(ทั้งนี้ขอสงวนสิทธิ์ลูกค้าในการเลือกรับแคมเปญอย่างใดอย่างหนึ่ง ระหว่างแคมเปญสำหรับเจ้าของรถยนต์และรถจักรยานยนต์ฮอนด้าและครอบครัว หรือแคมเปญเพื่อนแนะนำเพื่อน เพื่อรับบัตรเติมน้ำมันมูลค่า 3,000 บาท)
- สำหรับลูกค้าข้าราชการ รัฐวิสาหกิจ และ กลุ่มลูกค้าอาชีพพิเศษ สิทธิพิเศษ รับส่วนลดดอกเบี้ยพิเศษเพิ่ม 0.10%* จากดอกเบี้ยตามตารางส่งเสริมการขายประจำเดือน (เฉพาะกรณีทำสัญญาเช่าซื้อผ่านบริษัท ฮอนด้า ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด เท่านั้น)
- ฟรี กระเป๋าล้อลาก CAGGIONI รุ่น Trunk ขนาด 20 นิ้ว มูลค่า 3,990 บาท* เพียงจองตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2568 – 11 ธันวาคม 2568 และรับรถภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2568
ไฮไลต์ข้อเสนอสำหรับ New Honda Accord e:HEV ราคาเริ่มต้น 1,479,000 บาท
รถซีดานครอบครัว พรีเมียม ห้องโดยสารกว้างขวาง มอบประสบการณ์ความสะดวกสบายเหนือระดับ พร้อมหลากหลายเทคโนโลยีอำนวยความสะดวกอันล้ำสมัยและเทคโนโลยีการขับขี่อื่น ๆ ที่ครบครัน ซึ่งมาพร้อมข้อเสนอพิเศษ ดังนี้
- สำหรับเจ้าของรถยนต์และรถจักรยานยนต์ฮอนด้าและครอบครัว (Honda Loyalty) เลือกรับสิทธิพิเศษเพิ่มเติม ดังนี้
- ดอกเบี้ยพิเศษ 0.84%* ฟรีประกันภัย 1 ปี เมื่อออกรถยนต์ ฮอนด้า แอคคอร์ด อี:เอชอีวี ใหม่
- หรือเลือกรับดอกเบี้ย 1.84%* พร้อมแพ็กเกจ Honda Exclusive Care 5 ปี
- สำหรับลูกค้าทั่วไป เลือกรับสิทธิพิเศษเพิ่มเติม ดังนี้
- ดอกเบี้ย 0.99%* พร้อมฟรีประกันภัย 1 ปี*
- หรือเลือกรับดอกเบี้ย 1.99% พร้อมแพ็กเกจ Honda Exclusive Care 5 ปี
โดย Honda Exclusive Care 5 ปี มูลค่าสูงสุด 204,000 บาท ประกอบด้วย
- ฟรี ประกันภัย 1 ปี*
- ฟรี รับประกันแบตเตอรี่ไฮบริด 10 ปี ไม่จำกัดระยะทาง*
- ฟรี แพ็กเกจเช็กระยะ ค่าแรง ค่าอะไหล่ 5 ปี หรือ 100,000 กม.*
- ฟรี ฮอนด้า อัลติเมท แคร์ ขยายเวลารับประกันคุณภาพรถยนต์ใหม่และบริการช่วยเหลือฉุกเฉินนอกสถานที่ 24 ชั่วโมง อีก 2 ปี หรือ 40,000 กิโลเมตร รวมเป็น 5 ปี หรือ 140,000 กิโลเมตร (อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)*
- โปรแกรม ดับเบิ้ล สไมล์ พลัส (Double Smile Plus) ผ่อนเบา ดาวน์สบาย เลือกผ่อนได้ ตามสไตล์ที่คุณชอบ
- ค่างวดเริ่มต้นเพียง 15,346 บาท* หรือ เลือกดาวน์ต่ำเพียง 10%*
- รับประกันแบตเตอรี่ไฮบริด 10 ปี ไม่จำกัดระยะทาง*
สิทธิพิเศษเพิ่มเติม รวมมูลค่ากว่า 6,990 บาท* สำหรับ New Honda Accord e:HEV
- ลูกค้าเฉพาะกลุ่ม
- สำหรับเจ้าของรถจักรยานยนต์ฮอนด้าและครอบครัว รับเพิ่มบัตรเติมน้ำมันมูลค่า 3,000 บาท*
- เพื่อนแนะนำเพื่อน* ลูกค้าที่ออกรถจะได้รับบัตรน้ำมันมูลค่า 3,000 บาทเพิ่มเติม สำหรับเพื่อนที่แนะนำจะได้รับคูปองส่วนลดเงินส่วน (e-Coupon) มูลค่า 3,000 บาท เพื่อใช้สำหรับการซื้อสินค้าและบริการที่ศูนย์บริการฮอนด้า
(ทั้งนี้ขอสงวนสิทธิ์ลูกค้าในการเลือกรับแคมเปญอย่างใดอย่างหนึ่ง ระหว่างแคมเปญสำหรับเจ้าของรถยนต์และรถจักรยานยนต์ฮอนด้าและครอบครัว หรือแคมเปญเพื่อนแนะนำเพื่อน เพื่อรับบัตรเติมน้ำมันมูลค่า 3,000 บาท)
- สำหรับลูกค้าข้าราชการ รัฐวิสาหกิจ และ กลุ่มลูกค้าอาชีพพิเศษ สิทธิพิเศษ รับส่วนลดดอกเบี้ยพิเศษเพิ่ม 0.10%* จากดอกเบี้ยตามตารางส่งเสริมการขายประจำเดือน (เฉพาะกรณีทำสัญญาเช่าซื้อผ่านบริษัท ฮอนด้า ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด เท่านั้น)
- ฟรี กระเป๋าล้อลาก CAGGIONI รุ่น Trunk ขนาด 20 นิ้ว มูลค่า 3,990 บาท* เพียงจองตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2568 – 11 ธันวาคม 2568 และรับรถภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2568
ไฮไลต์ข้อเสนอสำหรับ Honda e:N1 ราคา 1,199,000 บาท
รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นแรกจากฮอนด้า ดีไซน์โดดเด่น อัตราเร่งแรง ขับสบาย สมูทในทุกจังหวะ เชื่อมั่นตลอดการใช้งานด้วยการรับประกันแบตเตอรี่ EV และระบบขับเคลื่อน EV ทั้งระบบ 8 ปี หรือ 160,000 กม. พร้อมให้บริการและดูแลผ่านเครือข่ายผู้จำหน่ายทั่วประเทศ ด้วยศูนย์บริการที่ได้มาตรฐานและช่างผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งมาพร้อมข้อเสนอ ดังนี้
- สำหรับเจ้าของรถยนต์และรถจักรยานยนต์ฮอนด้าและครอบครัว (Honda Loyalty) รับดอกเบี้ยพิเศษ 0.69%* พร้อมแพ็กเกจ Honda Exclusive Care 5 ปี และโฮมชาร์จเจอร์พร้อมบริการติดตั้งและสายชาร์จแบบพกพา
- สำหรับลูกค้าทั่วไป รับดอกเบี้ยพิเศษ 0.99%* พร้อมแพ็กเกจ Honda Exclusive Care 5 ปี และโฮมชาร์จเจอร์พร้อมบริการติดตั้งและสายชาร์จแบบพกพา
โดย Honda Exclusive Care 5 ปี ประกอบด้วย
- ฟรี ประกันภัย 1 ปี*
- รับประกันคุณภาพรถยนต์ใหม่ และบริการช่วยเหลือฉุกเฉินบนท้องถนน 24 ชั่วโมง เป็นระยะเวลา 5 ปี หรือ 140,000 กิโลเมตร *
- รับประกันแบตเตอรี่ EV เป็นระยะเวลา 8 ปี หรือ 160,000 กิโลเมตร*
- ฟรี แพ็กเกจเช็กระยะ ค่าแรง ค่าอะไหล่ 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร*
- โปรแกรม ดับเบิ้ล สไมล์ พลัส (Double Smile Plus) ผ่อนเบา ดาวน์สบาย เลือกผ่อนได้ ตามสไตล์ที่คุณชอบ
- ค่างวดเริ่มต้นเพียง 12,949 บาท* หรือ เลือกดาวน์ต่ำเพียง 10%*
- พร้อม Honda Exclusive Care
- ฟรีโฮมชาร์จเจอร์ พร้อมบริการติดตั้ง และสายชาร์จแบบพกพา*
สิทธิพิเศษเพิ่มเติม รวมมูลค่ากว่า 156,900 บาท* สำหรับ Honda e:N1
- ลูกค้าเฉพาะกลุ่ม
- สำหรับลูกค้าที่นำรถยนต์สันดาป หรือรถยนต์ไฮบริด หรือรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดคันเดิม ยี่ห้อฮอนด้า หรือยี่ห้อใดก็ได้มาขายและออกรถยนต์ ฮอนด้า อี:เอ็นวัน ที่โชว์รูมฮอนด้า รับสิทธิพิเศษเพิ่มเติม มูลค่า 100,000 บาท*
- สำหรับเจ้าของรถจักรยานยนต์ฮอนด้าและครอบครัว รับเพิ่มบัตรเติมน้ำมันมูลค่า 3,000 บาท*
- เพื่อนแนะนำเพื่อน* ลูกค้าที่ออกรถจะได้รับบัตรน้ำมันมูลค่า 3,000 บาทเพิ่มเติม สำหรับเพื่อนที่แนะนำจะได้รับคูปองส่วนลดเงินส่วน (e-Coupon) มูลค่า 3,000 บาท เพื่อใช้สำหรับการซื้อสินค้าและบริการที่ศูนย์บริการฮอนด้า
(ทั้งนี้ขอสงวนสิทธิ์ลูกค้าในการเลือกรับแคมเปญอย่างใดอย่างหนึ่ง ระหว่างแคมเปญสำหรับเจ้าของรถยนต์และรถจักรยานยนต์ฮอนด้าและครอบครัว หรือแคมเปญเพื่อนแนะนำเพื่อน เพื่อรับบัตรเติมน้ำมันมูลค่า 3,000 บาท)
- สำหรับลูกค้าข้าราชการ รัฐวิสาหกิจ และ กลุ่มลูกค้าอาชีพพิเศษ รับส่วนลดดอกเบี้ยพิเศษเพิ่ม 0.10% จากดอกเบี้ยตามตารางส่งเสริมการขายประจำเดือน (เฉพาะกรณีทำสัญญาเช่าซื้อผ่านบริษัท ฮอนด้า ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด เท่านั้น) และใหม่! รับสิทธิพิเศษเพิ่มเติม มูลค่า 50,000 บาท*
- ฟรี กระเป๋าล้อลาก CAGGIONI รุ่น Trunk ขนาด 20 นิ้ว มูลค่า 3,990 บาท* เพียงจองตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2568 – 11 ธันวาคม 2568 และรับรถภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2568
ไฮไลต์ข้อเสนอสำหรับ Honda BR-V ราคาเริ่มต้น 915,000 บาท
SUV 7 ที่นั่ง มาพร้อมสมรรถนะที่ดีเยี่ยม พร้อมลุยทั้ง Weekday และ Weekend ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ทุกการเดินทาง และมีความสุขไปทุกที่ ซึ่งมาพร้อมข้อเสนอพิเศษ ดังนี้
- ดอกเบี้ยพิเศษ 0% พร้อม Honda Exclusive Care 5 ปี มูลค่าสูงสุด 70,000 บาท และบัตรเติมน้ำมันมูลค่า 5,000 บาท ประกอบด้วย
- ฟรี ประกันภัย 1 ปี*
- ฟรีแพ็กเกจเช็กระยะ ค่าแรง ค่าอะไหล่ 5 ปี หรือ 100,000 กม.*
- ฟรี ฮอนด้า อัลติเมท แคร์ ขยายเวลารับประกันคุณภาพรถยนต์ใหม่และบริการช่วยเหลือฉุกเฉินนอกสถานที่ 24 ชั่วโมง อีก 2 ปี หรือ 40,000 กิโลเมตร รวมเป็น 5 ปี หรือ 140,000 กิโลเมตร (อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)*
- โปรแกรม ดับเบิ้ล สไมล์ พลัส (Double Smile Plus) ผ่อนเบา ดาวน์สบาย เลือกผ่อนได้ ตามสไตล์ที่คุณชอบ
- ฮอนด้าช่วยผ่อนเดือนละ 6,200 บาท จำนวน 12 เดือน รวมมูลค่า 74,400 บาท*
- ค่างวดเริ่มต้นเพียง 3,294 บาท* หรือ เลือกดาวน์ต่ำเพียง 10%*
- ฟรีประกันภัย 1 ปี*
สิทธิพิเศษเพิ่มเติม รวมมูลค่ากว่า 6,990 บาท* สำหรับ Honda BR-V
- ลูกค้าเฉพาะกลุ่ม
- สำหรับเจ้าของรถยนต์และรถจักรยานยนต์ฮอนด้าและครอบครัว (Honda Loyalty) รับส่วนลดดอกเบี้ย 0.15%* พิเศษเฉพาะสำหรับเจ้าของรถจักรยานยนต์ฮอนด้า รับเพิ่มบัตรเติมน้ำมันมูลค่า 3,000 บาท*
- เพื่อนแนะนำเพื่อน* ลูกค้าที่ออกรถจะได้รับบัตรน้ำมันมูลค่า 3,000 บาทเพิ่มเติม สำหรับเพื่อนที่แนะนำจะได้รับคูปองส่วนลดเงินส่วน (e-Coupon) มูลค่า 3,000 บาท เพื่อใช้สำหรับการซื้อสินค้าและบริการที่ศูนย์บริการฮอนด้า
(ทั้งนี้ขอสงวนสิทธิ์ลูกค้าในการเลือกรับแคมเปญอย่างใดอย่างหนึ่ง ระหว่างแคมเปญสำหรับเจ้าของรถยนต์และรถจักรยานยนต์ฮอนด้าและครอบครัว หรือแคมเปญเพื่อนแนะนำเพื่อน เพื่อรับบัตรเติมน้ำมันมูลค่า 3,000 บาท)
- สำหรับลูกค้าข้าราชการ รัฐวิสาหกิจ และ กลุ่มลูกค้าอาชีพพิเศษ สิทธิพิเศษ รับส่วนลดดอกเบี้ยพิเศษเพิ่ม 0.10%* จากดอกเบี้ยตามตารางส่งเสริมการขายประจำเดือน (เฉพาะกรณีทำสัญญาเช่าซื้อผ่านบริษัท ฮอนด้า ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด เท่านั้น)
- ฟรี กระเป๋าล้อลาก CAGGIONI รุ่น Trunk ขนาด 20 นิ้ว มูลค่า 3,990 บาท* เพียงจองตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2568 – 11 ธันวาคม 2568 และรับรถภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2568
อย่ารอช้า! มาคว้าความคุ้มค่าส่งท้ายปีกับแคมเปญ “Honda Pro OH! MY GOOOOOD PLUS+” โปรใหม่ จัดใหญ่เต็ม MAX ได้ที่โชว์รูมและศูนย์บริการฮอนด้าทั่วประเทศ สามารถสอบถามข้อมูลได้ที่ศูนย์บริการข้อมูลฮอนด้า 24 ชั่วโมง (Honda Call Center) โทร. 0 2341 7777 หรืออ่านรายละเอียดที่ https://www.honda.co.th/promotions อัปเดตทุกข่าวสาร ข้อมูลผลิตภัณฑ์ และกิจกรรมล่าสุด เพื่อให้คุณไม่พลาดทุกความเคลื่อนไหวได้ที่
- เว็บไซต์: honda.co.th
- Facebook Official Account: Honda Thailand
- LINE Official Account: @honda-thailand
หมายเหตุ
*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด
ข้อมูลเพิ่มเติม
- ฮอนด้า อัลติเมท แคร์ (Honda Ultimate Care) คือ การขยายเวลารับประกันคุณภาพรถยนต์ใหม่และบริการช่วยเหลือฉุกเฉินนอกสถานที่ 24 ชั่วโมง อีก 2 ปี หรือ 40,000 กิโลเมตร รวมเป็น 5 ปี หรือ 140,000 กิโลเมตร (อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)
- Honda Exclusive Care คือ แคมเปญพิเศษสำหรับลูกค้าที่ซื้อรถยนต์ฮอนด้าใหม่ทุกรุ่น เพื่อมอบความมั่นใจในการใช้รถฮอนด้าในระยะยาว ประกอบไปด้วย
- ฟรีประกันภัย 1 ปี
- ฟรีแพ็กเกจเช็กระยะ ค่าแรง และค่าอะไหล่ตามตารางการบำรุงรักษา
- ฟรีรับประกันอายุการใช้งานแบตเตอรี่ไฮบริดถึง 10 ปี ไม่จำกัดระยะทาง สำหรับรถยนต์ e:HEV ทุกรุ่น
- สำหรับแบบ 5 ปี ฟรี Honda Ultimate Care ขยายเวลารับประกันคุณภาพรถยนต์ใหม่ และบริการช่วยเหลือฉุกเฉินนอกสถานที่ 24 ชั่วโมง ซึ่งปกติจะได้ 3 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร แต่ขยายเพิ่มให้อีกเป็น5 ปี หรือ 140,000 กิโลเมตร (อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine
-
จากความคิวต์สู่ความคูล! GWM ORA Good Cat สีใหม่ ฮิตแรงในหมู่ผู้ชาย

GWM (Thailand) ยกระดับสู่การเป็นแบรนด์รถยนต์ที่มีผลิตภัณฑ์ครอบคลุมทุกประเภทพลังงานที่ตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานทั่วทุกมุมโลก ด้วยแนวคิด “ครอบคลุมทุกการใช้งาน (All Scenarios) ด้วยผลิตภัณฑ์ที่ครอบคลุมทุกพลังงาน (All Powertrains) สู่การตอบสนองทุกกลุ่มผู้ใช้งานอย่างแท้จริง (All Users)” โดยอิน-ไซต์ล่าสุดสะท้อนความนิยมของเจ้าเหมียวไฟฟ้า GWM ORA Good Cat ที่นอกเหนือจากจะเป็นรถไฟฟ้าขวัญใจกลุ่มผู้หญิงยุคใหม่ในไทยแล้ว ยังพบว่ามีกลุ่มผู้ใช้งานผู้ชายเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งภายหลังจากที่มีการแนะนำสีใหม่ 2 สีเข้ามาในปีนี้ โดยความสำเร็จในภาพรวมของ GWM ORA Good Cat สามารถทำยอดขายสะสม 9 เดือนแรก (มกราคม-กันยายน) ของปี 2568 ได้กว่า 4,449 คัน เติบโตจากช่วงเวลาเดียวกันของปี 2567 ถึง 140% ซึ่งการเติบโตดังกล่าว ส่วนสำคัญส่วนหนึ่งมาจากการนำเสนอรุ่นย่อยที่มีความคูลและสปอร์ตมากยิ่งขึ้น ที่นอกเหนือจากสีพาสเทลที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากจากกลุ่มเป้าหมายที่เป็นผู้หญิง ทำให้ในปัจจุบัน GWM ORA Good Cat กลายมาเป็นหนึ่งในทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับกลุ่มลูกค้าเพศชาย โดยตั้งแต่มีการเปิดตัวสี So Blue ในเดือนมีนาคม 2568 และล่าสุดสีขาวหลังคาสีดำที่มาพร้อมชุดตกแต่งดำ (Black Package) ในเดือนมิถุนายน สัดส่วนของยอดขายของ 2 สีใหม่นี้ เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ อย่างต่อเนื่อง จนล่าสุดในเดือนมิถุนายน 2568 สัดส่วนยอดขายของสีใหม่ทั้ง 2 สี เพิ่มขึ้นเป็นมากกว่า 50% ของยอดขายรายเดือนของ GWM ORA Good Cat และสัดส่วนของลูกค้าที่เป็นเพศชายก็เพิ่มสูงขึ้นเป็น 40% ด้วยเช่นเดียวกัน สะท้อนให้เห็นความนิยมและความเชื่อมั่นต่อเอกลักษณ์ในด้านการออกแบบที่เป็นโดนใจและเข้าถึงทุกเพศ ทุกวัย และคุณภาพของ GWM ORA Good Cat โดยเฉพาะด้านเทคโนโลยีที่ล้ำหน้า ความปลอดภัยที่เหนือกว่า และความคุ้มค่าในทุกด้านอย่างแท้จริง

GWM ORA Good Cat โดดเด่นด้วยดีไซน์สไตล์ Retro Futuristic ที่เป็นเอกลักษณ์ ขนาดกะทัดรัด ขับง่าย เหมาะกับชีวิตเมืองยุคใหม่ ด้วยการผสมผสานอย่างลงตัวระหว่างความงามแบบวินเทจและนวัตกรรมล้ำสมัย GWM ORA Good Cat จึงสะท้อนให้เห็นถึงดีไซน์เหนือกาลเวลาที่ไม่เคยตกเทรนด์ และยังคงความโดดเด่นในทุกยุคสมัย ล่าสุดกับสองสีใหม่ปี 2025 สีขาวหลังคาสีดำ (Hamilton White with Black Roof) และสีฟ้า So Blue ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในกลุ่มผู้ชาย โดยสี Hamilton White with Black Roof สะท้อนบุคลิกเท่ สุขุม และมั่นใจในตัวเอง ด้วยการผสมผสานของสีขาวที่สื่อถึงความบริสุทธิ์และเปิดกว้าง กับสีดำที่แสดงถึงพลังและความลุ่มลึก ชุดสีโมโนโทนนี้จึงตอบโจทย์ผู้ชายที่ชื่นชอบความเรียบง่ายแต่มีสไตล์ พร้อมชุดตกแต่งโทนดำรอบคันที่เสริมความพรีเมียมอย่างลงตัว ขณะที่สี So Blue ถ่ายทอดความสดใส มีชีวิตชีวา และพลังบวกในแบบที่เข้าถึงง่าย เหมาะกับผู้ชายยุคใหม่ที่มองหารถคู่ใจสำหรับการเดินทางที่เต็มไปด้วยความหมายและความคิดบวก สีนี้ยังช่วยสร้างความรู้สึกผ่อนคลายและมั่นใจในทุกการขับขี่
GWM ORA Good Cat มีด้วยกัน 3 รุ่น ได้แก่ รุ่น PRO, ULTRA และ GT โดยรุ่น PRO และ ULTRA มีสีให้เลือก 5 สีได้แก่ สีเขียว Pistachio Green สีเบจหลังคาสีน้ำตาล และสีเขียวหลังคาสีขาว และสีใหม่ 2 เฉดสี ได้แก่ สีขาวหลังคาสีดำ พร้อมชุดแต่ง Black Package และสีฟ้า So Blue สำหรับรุ่น GT มาในสีเทา และสีดำ พร้อมชุดแต่งสปอร์ตสีเหลือง โดยมีราคาของแต่ละรุ่น (*ราคาหลังหักส่วนลด) ดังต่อไปนี้
- GWM ORA Good Cat รุ่น PRO ราคาเพียง 599,000 บาท*
- GWM ORA Good Cat รุ่น ULTRA ราคาเพียง 699,000 บาท*
- GWM ORA Good Cat รุ่น GT ราคาเพียง 829,000 บาท*
GWM ORA Good Cat มาพร้อมข้อเสนอสุดพิเศษมากมาย คุ้มค่ากับ 3 ทางเลือก ได้แก่
- ทางเลือกที่ 1: รับส่วนลดสูงสุด พร้อมรับสิทธิ์แลกรถเก่าสุดคุ้ม
รับทันทีส่วนลด 230,000 บาท (รุ่น PRO และ ULTRA) และ 300,000 บาท (รุ่น GT) พร้อมรับเพิ่มอีก 30,000 บาท เมื่อเข้าร่วมแคมเปญ Trade-In รถเก่ารุ่นใดก็ได้แลกรถใหม่ ORA Good Cat ข้อเสนอนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการนำรถยนต์คันเก่ามาเปลี่ยนเป็นเจ้าเหมียวไฟฟ้าสุดล้ำในราคาที่คุ้มค่าที่สุด โดยไม่รวม GWM Home Charger และ แพ็กเกจบำรุงรักษาตามระยะ (GPSI) ซึ่งสามารถเลือกซื้อเพิ่มเติมได้ตามต้องการ
- ทางเลือกที่ 2: ผ่อนสบาย คล่องตัวทุกจังหวะ
รับส่วนลดทันที 200,000 บาท (รุ่น PRO และ ULTRA) และ 270,000 บาท (รุ่น GT) พร้อมดอกเบี้ยพิเศษเพียง 1.95% ผ่อนสบาย 48 เดือน เมื่อดาวน์ 25% พร้อมโปรแกรม GWM ช่วยผ่อน 12 เดือน เดือนละ 5,000 บาท มูลค่าสูงสุดกว่า 60,000 บาท เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเริ่มต้นเป็นเจ้าของได้ง่ายขึ้น โดยข้อเสนอนี้ไม่รวม GWM Home Charger และ GPSI เช่นเดียวกัน
- ทางเลือกที่ 3: ครบเครื่องเรื่องความสะดวกสบาย อุ่นใจไร้กังวล
รับทันทีส่วนลด 230,000 บาท (รุ่น PRO และ ULTRA) และ 300,000 บาท (รุ่น GT) พร้อมรับฟรี GWM Home Charger มูลค่าสูงสุด 25,000 บาท และแพ็กเกจบำรุงรักษาตามระยะ (GWM Pro Service Inclusive – GPSI) มูลค่าสูงสุดกว่า 11,000 บาท ครอบคลุมค่าแรงและอะไหล่ตามระยะสูงสุด 5 ครั้ง ภายใน 5 ปี หรือ 75,000 กิโลเมตร เหมาะสำหรับลูกค้าที่ต้องการความครบครันทั้งด้านการใช้งาน การชาร์จ และการดูแลรักษารถยนต์ไฟฟ้าในระยะยาวอย่างแท้จริง

ทั้งสามข้อเสนอข้างต้นมาพร้อมสิทธิพิเศษมาตรฐานจาก GWM ได้แก่ ฟรีประกันภัยชั้น 1 ระยะเวลา 1 ปี มูลค่าสูงสุด 25,000 บาท, ฟรีฟิล์มกรองแสงลามิน่า รุ่น CM ONE, ฟรีค่าจดทะเบียน, บริการช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง เป็นเวลา 5 ปี, การรับประกันคุณภาพรถใหม่ 5 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร และการรับประกันแบตเตอรี่ EV 8 ปี หรือ 180,000 กิโลเมตร รวมถึงบริการ Telematic Service และ Internet in Vehicle ฟรี 3 ปีเต็ม เพื่ออำนวยความสะดวกสูงสุดให้กับผู้ขับขี่ทุกคน
พิเศษสำหรับนิสิตและนักศึกษากับแคมเปญ Good Cat Good Start
รับส่วนลดพิเศษ 10%* จากราคาจำหน่าย พร้อมสิทธิประโยชน์มาตรฐานข้างต้นครบทุกข้อ เพื่อเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ได้สัมผัสประสบการณ์การขับขี่รถยนต์ไฟฟ้าที่ทั้งคุ้มค่า ปลอดภัย และตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ยุคใหม่อย่างแท้จริง
สำหรับผู้ที่สนใจ GWM ORA Good Cat สามารถทดลองขับได้ที่ GWM Partner Store ทั้ง 72 แห่งทั่วประเทศ หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ GWM Application, www.gwm.co.th หรือ GWM Contact Center 02-668-8888
#GWM #GWMThailand #GWMORAGoodCat #ORAGoodCat
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine
-
มาสด้าเปิดสำนักงานใหญ่แห่งใหม่ “Joy Workplace” พื้นที่แห่งความสุขเพื่อคนทำงานยุคใหม่

มาสด้า เซลส์ ประเทศไทย เปิดตัวสำนักงานใหญ่แห่งใหม่ บนชั้น 19 อาคาร เอแพค ทาวเวอร์ เอกมัย ใจกลางย่านธุรกิจของกรุงเทพมหานคร เพื่อให้สอดรับต่อการเปลี่ยนผ่านวัฒนธรรมองค์กรสู่ยุคใหม่ ภายใต้แนวคิด “Joy Workplace” โดยออกแบบพื้นที่สำนักงานให้สอดคล้องกับพฤติกรรมการทำงานของบุคลากรรุ่นใหม่ เน้นการสร้างความสุขในการทำงานที่ริเริ่มจากภายในองค์กร เสริมบรรยากาศของความร่วมมือร่วมใจเป็นหนึ่งเดียว ภายใต้การทำงานเป็นทีมเวิร์ค ออกแบบพื้นที่ (Space) ให้เปิดโล่งเชื่อมถึงกัน (Collaboration) ให้มีส่วนร่วมพบปะพูดคุย กระตุ้นจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์ เน้นส่งเสริมการเติบโตของบุคลากรในทุกมิติ การตกแต่งที่เรียบง่ายสไตล์มินิมอล มีความทันสมัย และบรรยากาศอันอบอุ่น นับเป็นก้าวสำคัญของมาสด้าในการยกระดับองค์กรให้พร้อมรับกับการเปลี่ยนแปลงของโลกธุรกิจในอนาคต เพื่อถ่ายทอดประสบการณ์ความสุขไปยังลูกค้าทุกคน ตามปรัชญาของมาสด้า Joy Drives Lives ความสุขขับเคลื่อนชีวิต

นายธีร์ เพิ่มพงศ์พันธ์ ประธานกรรมการบริหารและซีอีโอ บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า การย้ายสำนักงานใหญ่แห่งใหม่ในครั้งนี้ ไม่ได้เป็นเพียงแค่การเปลี่ยนสถานที่ทำงงาน แต่คือการเปลี่ยนวิธีคิดและวิธีทำงานของบุคลากรในองค์กรทั้งหมด เพราะมาสด้ากำลังก้าวสู่การเป็นองค์กรที่ขับเคลื่อนด้วยการสร้างวัฒนธรรม เพื่อให้พนักงานมีความสุข มีความคล่องตัวสูง ผสานการมุ่งเน้นในการใช้ข้อมูล เพื่อส่งต่อความสุขไปถึงลูกค้าและพันธมิตรของเราอย่างแท้จริง ดังนั้น จึงถือเป็นอีกก้าวสำคัญภายใต้ความมุ่งมั่นของมาสด้าในการพัฒนาแบรนด์ให้เติบโตอย่างยั่งยืน และตอกย้ำภาพลักษณ์ความเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมยานยนต์ระดับโลก
สำนักงานใหญ่แห่งใหม่ของมาสด้าได้รับการออกแบบ ภายใต้แนวคิด “Joy Workplace” ที่ริเริ่มจาก Inside Out ด้วยการให้ความสำคัญกับบุคลากรภายในองค์กรเป็นลำดับแรก โดยคำนึงถึง ประสิทธิภาพในการทำงานและความสุขของพนักงาน ผ่านการจัดสรรพื้นอย่างเหมาะสมกับการทำงานในทุกรูปแบบ อาทิ Joy Space พื้นที่ส่วนกลางสำหรับพักผ่อน พูดคุย และแลกเปลี่ยนความคิดสร้างสรรค์ Flexible Working Zones รองรับการทำงานร่วมกันแบบไฮบริด มีความยืดหยุ่นสูง และคล่องตัว เลือกใช้วัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมระบบจัดการพลังงานและน้ำที่มีประสิทธิภาพ สิ่งเหล่านี้ จะช่วยสร้างสภาพแวดล้อมในการทำงานให้พนักงานมีความสุข เพื่อส่งต่อประสบการณ์ความสุขเหล่านี้ไปยังลูกค้าและผู้เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน

บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด (สำนักงานใหญ่) ตั้งอยู่บนชั้น 19 อาคารเอแพค ทาวเวอร์ เลขที่ 1319 ถนนสุขุมวิท แขวงพระโขนงเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นโครงการมิกซ์ยูสที่สามารถเดินทางสะดวกเชื่อมต่อโดยตรงกับสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสเอกมัย เพิ่มความสะดวกในการเดินทางและการติดต่อประสานงานทางธุรกิจ โดยอาคารแห่งใหม่นี้เป็นอาคารอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ได้รับการออกแบบภายใต้แนวคิด “Workplace of the Future” โดยให้ความสำคัญกับความยั่งยืน เทคโนโลยีที่ทันสมัย และสุขภาวะของผู้ใช้อาคาร ที่ผ่านมาตรฐานระดับสากล โดยบริษัทฯ ได้เริ่มดำเนินงาน ณ สำนักงานใหญ่แห่งใหม่นี้ ตั้งแต่เมื่อวันที่ 15 กันยายน 2568 ที่ผ่านมา
“นี่คืออีกหนึ่งก้าวสำคัญภายใต้กลยุทธ์การปรับเปลี่ยนธุรกิจของมาสด้า เพื่อส่งมอบประสบการณ์ความสุขที่เหนือกว่าการขับขี่ โดยเริ่มต้นจากบุคลากรภายในองค์กร เพราะมาสด้าเชื่อว่า “ความสุขที่แท้จริง” ต้องเริ่มจากภายในก่อนจะส่งต่อไปสู่ภายนอกองค์กร เพื่อให้มาสด้าเป็นแบรนด์ที่อยู่ในใจและสร้างความสุขที่ยั่งยืนให้กับลูกค้าทุกคนตลอดไป” นายธีร์ กล่าว
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine





























































































































