-
News Car2 Min Read
OMODA & JAECOO เผยโฉมยนตรกรรมสุดล้ำ JAECOO 7 SHS (Super Hybrid System)พร้อมประกาศแผนเตรียม Chery บุกตลาดไทย ปลุกพลังแห่ง New Energy เพื่ออนาคตใหม่ของวงการยานยนต์ ในงาน Motor Show 2025

OMODA & JAECOO (อ่านว่า โอโมด้า แอนด์ เจคู่) ภายใต้บริษัท Chery Automobile ผู้นำเทคโนโลยียานยนต์ชั้นนำระดับโลก เตรียมสร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้วงการยานยนต์ไทยด้วยการเปิดตัวยนตรกรรมสุดล้ำของ JAECOO 7 SHS (Super Hybrid System) นวัตกรรม Super HEV + EV เอสยูวีสุดล้ำที่มาพร้อมดีไซน์ทันสมัย ไปจนถึงภาพรวมการตลาดของ OMODA & JAECOO และแผนการนำ Chery แบรนด์ชั้นนำระดับโลกมาการทำตลาดในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ภายใต้แนวคิด “NEW ENERGY, NEW ECO, NEW ERA” สะท้อนความมุ่งมั่นในการร่วมสร้างระบบนิเวศพลังงานใหม่ที่เปลี่ยนแปลงโลกอย่างยั่งยืน พร้อมยกทัพเทคโนโลยียนตรกรรมสุดล้ำและดีไซน์ทันสมัยจากโมเดลใหม่ล่าสุดหลากหลายรุ่นทั้งจาก OMODA & JAECOO และ Chery มาจัดแสดงให้ทุกท่านได้สัมผัส รวมถึงข้อเสนอสุดพิเศษภายในงาน Bangkok International Motor Show 2025 ระหว่างวันที่ 26 มีนาคม – 6 เมษายน 2568 ณ อิมแพค ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 1-3 เมืองทองธานี บูธ OMODA & JAECOO หมายเลข A23
OMODA & JAECOO มุ่งเน้นที่การสร้างการรับรู้แบรนด์ที่แข็งแกร่งและตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคชาวไทยอย่างตรงจุด โดยได้นำเสนอยนตรกรรมที่โดดเด่นด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย ดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์ และมาตรฐานความปลอดภัยระดับสากล อย่าง OMODA C5 EV และ JAECOO 6 EV (หรือ iCAR 03 ในประเทศจีน) จากความสำเร็จของ OMODA & JAECOO ในตลาดไทยที่ผ่านมา ได้เป็นแรงผลักดันสำคัญให้บริษัทแม่อย่าง Chery Automobile ตัดสินใจเข้ามาทำตลาดในประเทศไทยอย่างเต็มตัว โดยจะเข้ามาเพิ่มฐานลูกค้าและเครือข่ายการตลาดที่ OMODA & JAECOO สร้างไว้ พร้อมนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายมากขึ้นเพื่อครอบคลุมกลุ่มลูกค้าที่กว้างขึ้น
“จากความสำเร็จของ OMODA & JAECOO ในตลาดไทยที่ผ่านมา ทำให้เรามีความเชื่อมั่นในศักยภาพของตลาดรถยนต์ในประเทศไทย ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ตัดสินใจเตรียมนำแบรนด์ Chery ที่เป็นแบรนด์แม่เข้ามาทำตลาดในประเทศไทยอย่างเต็มรูปแบบในปีนี้ เรามุ่งมั่นที่จะนำเสนอรถยนต์พลังงานใหม่ (New Energy Vehicle) ที่มีคุณภาพสูงและเทคโนโลยียานยนต์ล้ำสมัยที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคชาวไทยในทุกกลุ่ม พร้อมสร้างความเชื่อมั่นและความไว้วางใจให้กับลูกค้าผ่านการบริการที่เป็นเลิศและเครือข่ายผู้จำหน่ายที่ครอบคลุม การเข้ามาของ Chery ในครั้งนี้จะถือเป็นก้าวสำคัญในการขยายตลาดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเราพร้อมที่จะนำประสบการณ์จากการเป็นผู้นำการส่งออกรถยนต์อันดับ 1 ของจีน มาปรับใช้เพื่อสร้างความสำเร็จในตลาดไทยอย่างยั่งยืน รวมถึงโรงงานการผลิตที่จังหวัดระยองที่เริ่มรันการผลิตได้ภายในไตรมาส 3 ยิ่งเป็นการตอกย้ำความเชื่อมั่นให้ผู้บริโภคในประเทศไทย” ฉี เจี๋ย ประธานบริษัท โอโมดา แอนด์ เจคู (ประเทศไทย) กล่าว
โดยในงาน Bangkok International Motor Show ครั้งนี้ Chery จะนำรถยนต์รุ่นใหม่ 3 รุ่นมาจัดแสดงเป็นครั้งแรก ได้แก่ Chery Arrizo 8L รถซีดานปลั๊กอินไฮบริดสุดลักชัวรี่, Chery Tiggo 9 เอสยูวีปลั๊กอินไฮบริดสำหรับครอบครัว และ Chery Tiggo Cross คอมแพคเอสยูวีไฮบริดสำหรับคนรุ่นใหม่ การขยายตลาดในประเทศไทยของ Chery นี้เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์การขยายตลาดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมุ่งเน้นการสร้างความเชื่อมั่นในแบรนด์ผ่านหลักการ “Green, Technology, Family, Companionship” และให้ความสำคัญ
กับการนำเสนอผลิตภัณฑ์คุณภาพสูงที่มาพร้อมเทคโนโลยีล้ำสมัยและมาตรฐานความปลอดภัยระดับโลก
เปิดตัว JAECOO 7 SHS (Super Hybrid System) อย่างยิ่งใหญ่อลังการด้วยออเครสตราจากวงดุริยางค์ซิมโฟนีกรุงเทพ
ภายในงานมอเตอร์โชว์ครั้งนี้ OMODA&JAECOO ได้เปิดตัว JAECOO 7 SHS อย่างอลังการด้วยบทเพลงบรรเลงออเครสตราจาก
วงดุริยางค์ซิมโฟนีกรุงเทพ สมศักดิ์ศรีแบรนด์ยานยนต์ชั้นนำ ด้วยนิยาม Classic Beyond Classic สร้างความตื่นตาตื่นใจและเป็นไฮไลท์สำคัญของงานได้อย่างน่าชื่นชมJAECOO 7 SHS (Super Hybrid System) ) นวัตกรรม Super HEV + EV รถปลั๊กอินไฮบริดเอสยูวีรุ่นใหม่ล่าสุดที่มาพร้อมเทคโนโลยีสุดล้ำและดีไซน์ทันสมัย เครื่องยนต์ 1.5TDGI เจเนอเรชั่นที่ 5 ที่ได้รับการพัฒนาต่อยอดจากเทคโนโลยีไฮบริดเจเนอเรชั่นที่ 3 ของ Chery Automobile ตอบสนองทุกความต้องการด้วยสมรรถนะและคุณสมบัติที่ยอดเยี่ยม ที่พลิกโฉมการทำงานของระบบ Plug in Hybrid ให้เปลี่ยนไปจากเดิม ประหยัดกว่าด้วยค่าบำรุงรักษาที่คุ้มค่า เพิ่มความสะดวกสบายในการใช้งาน ด้วยระบบซูเปอร์อิเล็กทริกไฮบริด DHT (Super Electric Hybrid DHT System) ทำให้การทำงานระหว่างระหว่าง EV และ HEV เป็นไปอย่างราบรื่นไร้รอยต่อ สามารถขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าล้วนได้ที่ความเร็วสูงสุดถึง 120 กม./ชม. เมื่อมีแบตเตอรี่มากกว่า 25% พละกำลังสูงสุด 347 แรงม้า (HP) แรงบิดสูงสุด 525 นิวตัน-เมตร ที่มาพร้อมกับประสิทธิภาพเชิงความร้อนสูง (Thermal Efficiency) ช่วยให้เครื่องยนต์ยังคงทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ แม้ในสภาวะการใช้งานหนัก และมอบอัตราการประหยัดน้ำมันที่ยอดเยี่ยมมากกว่า 21.28 กิโลเมตรต่อลิตร ด้วยระบบที่สามารถปรับการจ่ายเชื้อเพลิงให้เหมาะสมกับสภาวะการขับขี่แบบเรียลไทม์ ทำให้การใช้พลังงานทุกหยดเกิดประสิทธิภาพสูงสุด ด้วยคุณสมบัติทั้งหมดที่กล่าวมา ทำให้ JAECOO 7 SHS มอบสมรรถนะและระยะทางการขับขี่ที่ไกลกว่า 1,300 กิโลเมตร โดยมีระยะทางขับขี่ด้วยไฟฟ้าล้วน 106 กิโลเมตร (ตามมาตรฐาน NEDC) และแบตเตอรี่ของ JAECOO 7 SHS มีความปลอดภัยสูงด้วยระบบป้องกันแบตเตอรี่รอบด้านทั้งการทนทานต่อความร้อน แรงกระแทก และกันน้ำ พร้อมระบบป้องกันด้วยการปิดเครื่องภายใน 0.002 วินาทีหลังเกิดการชนช่วยตัดแหล่งจ่ายไฟได้อย่างรวดเร็วเพื่อความปลอดภัยสูงสุด นอกจากนี้ยังสามารถใช้เป็นแหล่งพลังงานเคลื่อนที่ได้ในกรณีฉุกเฉินด้วยการปล่อยประจุไฟฟ้าภายนอกได้ 3.3 กิโลวัตต์ รองรับการใช้งานที่หลากหลาย

พิชญุตม์ วงศ์พัฒนาสิน รองประธานบริษัท โอโมดา แอนด์ เจคู (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “JAECOO 7 SHS เป็นยนตรกรรมที่ก้าวข้ามข้อจำกัดของรถปลั๊กอินไฮบริดทั่วไป เรามอบประสบการณ์การขับขี่ที่ผสานจุดเด่นของทั้งรถไฟฟ้าและรถยนต์ไฮบริดไว้ในคันเดียว ไม่ว่าผู้ใช้จะต้องการความเงียบและประหยัดพลังงานสำหรับการเดินทางในเมือง หรือสมรรถนะอันทรงพลังสำหรับการเดินทางไกล JAECOO 7 SHS พร้อมตอบสนองทุกความต้องการอย่างลงตัว นี่คือตัวอย่างชัดเจนของปรัชญาการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เน้นนวัตกรรม ล้ำสมัย เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และตอบโจทย์ครอบครัวยุคใหม่ในราคาที่จับต้องได้ นอกจากนี้ เรายังใส่ใจไปจนถึง After sale service ด้วยค่าบำรุงรักษาระยะยาวที่มีค่าใช้จ่ายเข้าถึงได้ง่ายกว่าแบรนด์อื่นๆ ในตลาด”

OMODA & JAECOO นำเสนอยนตรกรรมใหม่ล่าสุดภายในงาน (เฉพาะวันที่ 24-25 มีนาคมเท่านั้น)
นอกจากนี้ภายในงาน แบรนด์ยังได้นำเสนอ JAECOO 5 EV ที่มาพร้อมกับการออกแบบโดยได้รับแรงบันดาลใจจากแนวคิด “จุดกำเนิดจากธรรมชาติ” ผสานความแข็งแกร่งและความสวยงามในทุกเส้นสาย โดดเด่นด้วยสมรรถนะอันยอดเยี่ยม ที่มาพร้อมกับนวัตกรรม “Human – Pet Friendly Travel” สร้างความสะดวกสบายและความปลอดภัยให้ทั้งผู้โดยสารและสัตว์เลี้ยง โดยมีระบบกันสะเทือนอิสระที่ติดตั้งมาด้วยความเข้าใจถึงพฤติกรรมผู้บริโภคอย่างแท้จริง พร้อมซันรูฟพาโนรามาขนาด 1.45 ตารางเมตร และจอแสดงผลอัจฉริยะ 13.2 นิ้ว ช่วยยกระดับประสบการณ์การขับขี่ในทุกสภาพถนน ไม่ว่าจะโลดแล่นบนถนนในเมืองใหญ่ หรือผจญภัยในเส้นทางธรรมชาติ JAECOO 5 EV จะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับคนรุ่นใหม่ที่มองหายานยนต์ไฟฟ้าระดับไฮเอนด์ที่ผสานนวัตกรรมและการออกแบบอย่างลงตัว (สเปคนี้อาจมีการเปลี่ยนแปลงเมื่อนำเข้ามาในประเทศไทย) อีกรุ่นที่นำมาจัดแสดงได้แก่ OMODA C7 SHS การออกแบบภายใต้แนวคิด “Global Co-creation, Unlimited Enjoyment” ที่จะนำผู้บริโภคก้าวสู่ยุคใหม่ของการออกแบบยนตรกรรมแห่งยุค ด้วยการร่วมสร้างสรรค์ผลงานที่ข้ามพรมแดนตลอดจนแรงบันดาลใจจากอนาคตอย่างไร้ขีดจำกัด โดยยึดหลักปรัชญา “ART IN MOTION” ผสมผสานความนิ่งสงบของงานศิลป์และพลังแห่งการเคลื่อนไหวเข้าด้วยกัน ผลงานดีไซน์ของ C7 สะท้อนความคมชัดในทุกมุม ด้วยแนวหน้าตะแกรง X-shaped ที่แตกต่างอย่างโดดเด่น ด้วยการเล่นแสงเงาอย่างลงตัวจากเส้นโค้งและพื้นผิวที่ถูกสลักอย่างประณีต รวมถึงระบบไฟจังหวะอัจฉริยะที่ค่อยๆ ส่องประกาย เปรียบเสมือนพลังงานที่ไหลเวียนอยู่ตลอดเวลา นวัตกรรมเหล่านี้สื่อถึงการเปิดประสบการณ์ใหม่ที่ตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมาย New LOHAS ผู้ที่รักแฟชั่นล้ำสมัยและเทคโนโลยีแห่งอนาคต OMODA C7 SHS ไม่เพียงเปลี่ยนมาตรฐานความงามของ SUV เท่านั้น แต่ยังเปิดประสบการณ์การขับขี่ที่ผสานความสะดวกสบาย เทคโนโลยีและสไตล์เข้าด้วยกันอย่างลงตัวกว่าใคร

OMODA & JAECOO ขยายกลุ่มผู้บริโภคให้เข้าถึงรถ JAECOO 6 EV ด้วยรถรุ่นเริ่มต้น
หลังจากที่ได้ส่งมอบ JAECOO 6 EV ให้ทุกคนเป็นเจ้าของตั้งแต่สิงหาคม 2567 และได้รับการตอบรับอย่างดี ในปีนี้ได้ JAECOO ได้นำเสนอรุ่นเริ่มต้น JAECOO 6 EV Long Range 2WD PRO เพื่อตอบโจทย์กลุ่มคนในเมืองที่หลงใหลในรูปทรง One Box Style และต้องการขับรถที่ลดมลภาวะทางอากาศ ด้วยราคาคาดการณ์ 899,000 บาท และสีใหม่ Cyber Yellow ที่สร้างความโดดเด่นสะดุดตา
บนท้องถนน
OMODA & JAECOO เตรียมมอบข้อเสนอสุดพิเศษให้กับลูกค้าที่จองรถยนต์ภายในงาน Motor Show 2025
OMODA C5 EV Model Year 2025 รถไฟฟ้าที่ก้าวข้ามขีดจำกัดสู่โลกอนาคต สะท้อนความคิดสร้างสรรค์ที่ไร้ขอบเขต ผสมผสาน
การออกแบบที่ทันสมัยและเทคโนโลยีแห่งอนาคตได้อย่างลงตัว มาพร้อมกับส่วนลดสูงสุด 220,000 บาท (จำนวนจำกัด)OMODA C5 EV Long Range Ultimate Model Year 2025 ราคาหลังหักส่วนลด 729,000 บาท (จาก 949,000 บาท)
OMODA C5 EV Long Range Plus Model Year 2025 ราคาหลังหักส่วนลด 679,000 บาท (จาก 899,000 บาท)
พร้อมรับข้อเสนออื่นๆ
เพียงจอง ตั้งแต่ 24 มีนาคม – 6 เมษายน และออกรถ OMODA C5 EV ตั้งแต่วันนี้ – 30 เมษายน 2568
โปรโมชั่นพิเศษ Motor Show Deal สำหรับ JAECOO J6 EV (หรือ iCAR 03 ในจีน) รถพลังงานไฟฟ้าสไตล์ออฟโรดโดดเด่นด้วยดีไซน์ “ONE BOX STYLE” ควบคู่ไปกับเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้าที่ทันสมัย ทำให้ได้รับรางวัล “BEST OFF ROAD EV” มาพร้อมกับส่วนลดสูงสุด 100,000 บาท
JAECOO 6 EV มีให้เลือก 2 รุ่น
- รุ่น Long Range 4WD: สมรรถนะ 279 แรงม้า ระยะทางขับขี่ 418 กม. (NEDC) พร้อม 9 โหมดการขับขี่ (Eco, Normal, Sport, Custom, All road, Slippery, Beach, Muddy, Bumpy) ราคาหลังส่วนลด 1,149,000 บาท (จาก 1,249,000 บาท)
- รุ่น Long Range 2WD: สมรรถนะ 184 แรงม้า ระยะทางขับขี่ 426 กม. (NEDC) พร้อม 4 โหมดการขับขี่ (Eco, Normal, Sport, Custom) ราคาหลังส่วนลด 999,000 บาท (จาก 1,099,000 บาท)
- ฟรี! ประกันภัยชั้น 1 ระยะเวลา 1 ปี*
- ฟรี! Home Charger พร้อมติดตั้ง มูลค่า 25,000 บาท*
เพียงจองและออกรถ JAECOO 6 EV (หรือ iCAR 03 ในจีน) ตั้งแต่วันนี้ – 30 เมษายน 2568
พร้อมรับข้อเสนออื่นๆ
*หมายเหตุ เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด
*เงื่อนไขทั้งหมดเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด และบางข้อเสนอพิเศษนี้ไม่สามารถใช้ร่วมกับรายการโปรโมชันอื่นๆ ได้
จากคอนเซปต์ ONE BOX TRENDY ที่ได้รับความสนใจจากลูกค้ามากมาย JAECOO ได้จัดแคมเปญ “ONE BOX DESIGN” Contest สำหรับแฟนๆ ผู้ชื่นชอบแต่งรถ JAECOO 6 EV ร่วมประกวดชุดแต่งที่ถูกใจมหาชนมากที่สุด ต่อยอดความคิดสร้างสรรค์ของผู้ใช้งาน โดยมีรางวัลที่ 1 มูลค่า 100,000 บาท, รางวัลที่ 2 มูลค่า 50,000 บาท, รางวัลที่ 3 มูลค่า 25,000 บาท และ รางวัลที่ 4-10 อีก 7 รางวัล มูลค่า 10,000 บาท ต่อรางวัล โดยเริ่มส่งรูปเข้าประกวดตั้งแต่ 24 มีนาคม – 31 กรกฎาคม 2568 และ เริ่ม Vote วันที่ 1-26 สิงหาคม 2568 ประกาศผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียของ OMODA & JAECOO ในวันที่ 27 สิงหาคม
และเพื่อส่งเสริมการเปลี่ยนผ่านสู่ยานยนต์พลังงานใหม่ และตอกย้ำวิสัยทัศน์ของแบรนด์ในการขับเคลื่อนอนาคตยานยนต์ที่ยั่งยืน OMODA & JAECOO จึงนำเสนอแคมเปญใหม่ล่าสุด “Eco Bonus” Campaign โดยมอบเงินสนับสนุน 10,000 บาท เพียงนำเล่มจดทะเบียนรถยนต์เครื่องยนต์สันดาปหรือ HEV มาแสดงเมื่อซื้อรถไฟฟ้ารุ่น OMODA C5 EV หรือ JAECOO 6 EV ตั้งแต่ 24 มีนาคม – 30 เมษายนนี้ และ JAECOO 7 SHS ตั้งแต่ 24 มีนาคม – 6 เมษายนนี้ ซึ่งเป็นเอกสิทธิ์พิเศษสำหรับลูกค้าในงานมอเตอร์โชว์เท่านั้น
“การเปิดตัวในงานมอเตอร์โชว์ครั้งนี้ไม่เพียงแค่นำเสนอยานยนต์รุ่นใหม่สู่ตลาดเท่านั้น แต่ยังเป็นการตอกย้ำพันธกิจของเราในการผลักดันประเทศไทยสู่ยุคแห่งการเดินทางที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม” ฉี เจี๋ย ประธานบริษัท โอโมดา แอนด์ เจคู (ประเทศไทย) กล่าว “เรามุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำในการส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาด ด้วยเทคโนโลยียานยนต์ล้ำสมัยที่ไม่เพียงตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคยุคใหม่ แต่ยังร่วมสร้างอนาคตที่ยั่งยืนไปพร้อมกัน”
พบกับกองทัพยนตรกรรมสุดล้ำและโปรโมชั่นพิเศษจาก OMODA & JAECOO ได้ที่บูธหมายเลข A23 ในงาน Bangkok International Motor Show 2025 ตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม – 6 เมษายน 2568 และที่ผู้แทนจำหน่าย 34 แห่งทั่วประเทศ
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine
-
News Car2 Min Read
GEELY RIDDARA เดินหน้าแผนกลยุทธ์ในประเทศไทย เพิ่มทางเลือกรถกระบะไฟฟ้าที่มอบความคุ้มค่ามากยิ่งขึ้น พร้อมข้อเสนอสุดพิเศษในงาน Bangkok International Motor Show 2025

GEELY RIDDARA แบรนด์รถกระบะพลังงานไฟฟ้าในเครือ GEELY AUTO GROUP เปิดแผนกลยุทธ์ดันประเทศไทยเป็นตลาดหลัก พร้อมแนะนำ RIDDARA RD6 รุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ ที่มาพร้อมแบตเตอรี่ขนาด 86kWh ซึ่งให้ระยะทางในการขับขี่ที่สูงถึง 503 กิโลเมตรต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง เป็นทางเลือกการเดินทางที่คุ้มค่าและประหยัดมากยิ่งขึ้น พร้อมแนะนำฟังก์ชันหลังคาซันรูฟ (Sunroof) เป็นตัวเลือกพิเศษ สำหรับ RIDDARA RD6 รุ่น 86kWh ขับเคลื่อน 4 ล้อ พร้อมเชิญทุกท่านมาสัมผัสนวัตกรรมยานยนต์ไฟฟ้าของ GEELY RIDDARA พร้อมรับข้อเสนอสุดพิเศษ ดอกเบี้ยพิเศษ 0.59%* หรือเลือกผ่อนเริ่มต้นเพียง 8,888 บาท และข้อเสนอพิเศษอื่นๆ อีกมากมาย เมื่อจอง RIDDARA RD6 ทุกรุ่นในงาน “บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์” หรือที่ผู้จำหน่าย GEELY RIDDARA ทั่วประเทศ ระหว่างวันที่ 26 มีนาคม ถึง 6 เมษายน 2568

ประเทศไทยขับเคลื่อนกลยุทธ์ระดับสากลของ GEELY RIDDARA
มร. จาง ชง ผู้จัดการทั่วไป GEELY RIDDARA ประเทศไทย เปิดเผยว่าหลังจาก GEELY RIDDARA ได้เปิดตัว RIDDARA RD6 รถกระบะไฟฟ้า 100% คันแรกอย่างเป็นทางการในประเทศไทยเมื่อเดือนตุลาคมปีที่ผ่านมาด้วยแนวติด “Drive Like An SUV, Function Like A Pickup : สะดวกสบายระดับ SUV ตอบโจทย์ทุกการใข้งานแบบกระบะ “ ด้วยการวางตำแหน่งผลิตภัณฑ์ที่เป็นเอกลักษณ์ประกอบกับประสิทธิภาพในการขับขี่อัจฉริยะที่โดดเด่น ทำให้ RIDDARA RD6 ได้รับความสนใจรวมทั้งการชื่นชอบอย่างกว้างขวางจากผู้บริโภคและสื่อมวลชนในประเทศไทยอย่างรวดเร็ว อีกทั้งยังได้รับรางวัล “รถกระบะไฟฟ้ายอดเยี่ยม : Best Pickup EV” จากเวที Car Of The Year 2025 ซึ่งสะท้อนถึงคุณภาพผลิตภัณฑ์ที่ยอดเยี่ยม เทคโนโลยีการขับขี่อัจฉริยะ และภาพลักษณ์ที่แข็งแกร่งของแบรนด์ GEELY RIDDARA
ปัจจุบัน GEELY RIDDARA มียอดขายเป็นอันดับหนึ่งของตลาดรถกระบะไฟฟ้า100%ในประเทศจีน โดยมีส่วนแบ่งทางการตลาดมากกว่าร้อยละ 50 ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 พร้อมเดินหน้าขยายธุรกิจไปยังกว่า 50 ประเทศทั่วโลก ครอบคลุมทั้งตะวันออกกลาง เอเชียแปซิฟิก อเมริกากลาง อเมริกาใต้ และยุโรปตะวันออก
“ ประเทศไทยมีบทบาทสำคัญในกลยุทธ์ระดับสากลของ GELLY RIDDARA ซึ่งบริษัทฯ จะมุ่งเน้น 4 ด้านหลักเพื่อสร้างประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ครอบคลุมทั้ง การพิจารณาการลงทุนสร้างโรงงานประกอบในประเทศไทยเพื่อให้ไทยเป็นฐานการผลิตหลักสำหรับตลาดในประเทศและรองรับตลาดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ; การพัฒนาและผสานเครือข่ายผู้จำหน่ายของ GEELY RIDDARA ให้เกิดการเสริมศักยภาพซึ่งกันและกันเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด โดยตั้งเป้ามีโชว์รูมและศูนย์บริการ 40 แห่ง ทั่วประเทศ ; การแนะนำรถกระบะพลังงานไฟฟ้าที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าให้ครอบคลุม และขยายทางเลือกด้านพลังงานใหม่ให้มีความหลากหลาย รวมไปถึงการพัฒนาระบบบริการหลังการขายเพื่อยกระดับความพึงพอใจของลูกค้าที่มีต่อบริการของ GEELY RIDDARA ผ่านการขยายเครือข่ายศูนย์บริการให้ครอบคลุมทั่ววประเทศเพื่อให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงบริการได้สะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้นพร้อมจัดเตรียมอะไหล่สำรองให้เพียงพอและสามารถจัดส่งอะไหล่ได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพสูงสุด” มร. จาง ชง กล่าว

ไฮไลท์ของ GEELY RIDDARA ในงาน Bangkok International Motor Show
ในงาน Bangkok International Motor Show 2025 นี้ นอกเหนือจากการนำ RIDDARA RD6 รถกระบะพลังงานไฟฟ้ามาจัดแสดงและจำหน่ายครบทุกรุ่นแล้ว GEELY RIDDARA ได้แนะนำรถกระบะพลังงานไฟฟ้า RIDDARA RD6 รุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ ที่มาพร้อมแบตเตอรี่ขนาด 86kWh ซึ่งให้ระยะทางในการขับขี่ที่สูงถึง 503 กิโลเมตรต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง เพิ่มความมั่นใจในการขับขี่ระยะทางไกลได้มากขึ้นอีกทั้งยังมีค่าบำรุงรักษาและค่าใช้จ่ายด้านพลังงานที่น้อยกว่ารถกระบะสันดาปทั่วไป จึงเป็นทางเลือกการเดินทางที่คุ้มค่าและประหยัดมากยิ่งขึ้น รวมไปถึงการแนะนำหลังคาซันรูฟ (Sunroof) เป็นตัวเลือกพิเศษ สำหรับ RIDDARA RD6 รุ่น 86kWh ขับเคลื่อน 4 ล้อ เพื่อเพิ่มประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือระดับและตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์แบบเอาท์ดอร์ได้อย่างลงตัว นอกจากนี้ GEELY RIDDARA ยังมีชุดอุปกรณ์ตกแต่งรอบคันของ RIDDARA RD 6 มาแสดงและจัดจำหน่าย
ข้อเสนอสุดพิเศษสำหรับลูกค้าที่จอง RIDDARA RD6
GEELY RIDDARA มอบข้อเสนอพิเศษสำหรับลูกค้าที่จองรถกระบะพลังงานไฟฟ้า RIDDARA RD6 ในงาน Bangkok International Motor Show หรือที่ผู้แทนจำหน่าย GEELY RIDDARA อย่างเป็นทางการทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม ถึง 6 เมษายน 2568
- ดอกเบี้ยพิเศษ 59%* หรือเลือกผ่อนเริ่มต้นเพียง 8,888 บาท** (เมื่อดาวน์ 30% นาน 48 เดือน)
- รับประกันคุณภาพรถใหม่ 6ปี หรือ150,000 กม.
- รับประกันแบตเตอรี่ 8 ปี หรือ 200,000 กม.
- ฟรี RIDDARA โฮมชาร์เจอร์พร้อมติดตั้ง
- ฟรี ประกันภัยรถยนต์ ชั้น1
- ฟรี ค่าอะไหล่และค่าแรงบํารุงรักษา 6 ครั้งแรก
- ฟรี บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง นาน 6 ปี
- ฟรี แพ็คเกจอินเทอร์เน็ตภายในรถ (Internet usage) 2 GB นาน 1 ปี
- ฟรี สายชาร์จเคลื่อนที่
- ฟรี ค่าจดทะเบียน มูลค่า 5,000 บาท
*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด
**เมื่อคำนวณจากรุ่น RD6 2WD63 kWh ราคา 899,000 บาท
RIDDARA RD6:
Drive Like An SUV, Function Like A Pickup: สะดวกสบายระดับ SUV ตอบโจทย์ทุกการใข้งานแบบกระบะ
RIDDARA RD6 โดดเด่นด้วยนวัตกรรม M.A.P (Multiplex Attached Platform) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีแพลตฟอร์มรถยนต์ที่พัฒนาเอาจุดเด่นของรถกระบะและรถยนต์พลังงานไฟฟ้ามาผสมผสานกัน ทำให้ RIDDARA RD6 มีความโดดเด่นทั้งในด้านของการออกแบบ สมรรถนะและความอัจฉริยะในแบบฉบับของรถยนต์พลังงานไฟฟ้า ด้วยโครงสร้างตัวถังขนาดใหญ่และมีความปลอดภัยสูง อีกทั้งยังมอบพื้นที่ภายในห้องโดยสารที่กว้างขวางนั่งสบาย และติดตั้งระบบความปลอดภัยและระบบช่วยในการขับขี่ที่ครบครัน พร้อมฟังก์ชันการใช้งานที่รองรับทั้งการเดินทาง และการทำกิจกรรมแบบเอาท์ดอร์ ยิ่งไปกว่านั้นยังมีค่าบำรุงรักษาและค่าใช้จ่ายด้านพลังงานที่น้อยกว่ารถกระบะสันดาปทั่วไป

RIDDARA RD6 ให้สมรรถนะที่โดดเด่นด้วยอัตราเร่งจาก 0 ถึง 100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 4.5 วินาที และแรงบิดสูงสุด 595 นิวตันเมตร มาพร้อมช่องจ่ายกระแสไฟตามมาตรฐานยุโรปขนาด 6KW ที่กระบะท้าย รวมไปถึงการเชื่อมต่อและควบคุมรถผ่านแอปพลิเคชันบนมือถือทำให้สามารถควบคุมการทำงานของระบบต่างๆ ภายในรถจากระยะไกลผ่านสมาร์ทโฟน

RIDDARA RD6 มอบความสะดวกสบายระดับ SUV ด้วยห้องโดยสารขนาดใหญ่ที่เงียบสงบด้วยเทคโนโลยี Pure Electric NVH Silent พร้อมหน้าจอสัมผัสขนาดใหญ่ถึง 14.6 นิ้ว ที่ชาร์จสมาร์ทโฟนไร้สายขนาด 50W ระบบปรับอากาศแบบ Dual Zone ที่มาพร้อมระบบกรองอากาศ CN95 filter ที่สามารถกรองฝุ่นPM2.5และไอเสียจากภายนอกห้องโดยสารได้ พร้อมช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง เบาะหนังคุณภาพสูงดีไซน์เอกลักษณ์สามารถปรับด้วยไฟฟ้า 6 ทิศทาง พร้อมระบบระบายอากาศที่เบาะโดยสาร เบาะหน้าเอนราบได้แบบ 180 องศา พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น พร้อมระบบสั่งการด้วยเสียง และสิ่งอำนวยความสะดวกอีกครบครัน
RIDDARA RD6 ในรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อมาพร้อมระบบขับเคลื่อน 4 แบบอัตโนมัติ โดยมีโหมดการขับขี่ 7 โหมด สำหรับสภาพถนนที่แตกต่างกัน (Sand / Mud / Off-road / Wading / Economy / Comfort / Sport) อีกทั้งยังโดดเด่นด้วยความสามารถในการลุยน้ำลึกได้สูงสุด 815 มิลลิเมตร มีพื้นที่บรรทุกกระบะท้ายขนาด 1,200 ลิตร ช่องเก็บของใต้ฝากระโปรงหน้าขนาด 70 ลิตร และพื้นที่จัดเก็บเพิ่มเติมใต้เบาะผู้โดยสารด้านหลังอีก 48 ลิตร อีกทั้งยังมีความสามารถในการลากจูงได้สูงสุดถึง 3,000 กิโลกรัม

RIDDARA RD6 มีระบบความปลอดภัยรอบคัน ซึ่งรวมถึงระบบช่วยในการขับขี่ ADAS (Advanced Driving Assistance Systems) สูงสุด 14 ระบบ และกล้องมองภาพรอบทิศทาง 540 องศา รวมไปถึงถุงลมนิรภัย 6 จุดช่วยปกป้องทั่วทั้งห้องโดยสาร ยิ่งไปกว่านั้นตัวรถสร้างขึ้นจากเหล็กกล้าที่มีความแข็งแรงสูงซึ่งคิดเป็นกว่า 70% ของโครงสร้างรถ
RIDDARA RD6 มีให้เลือกทั้งรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ และขับเคลื่อน 4 ล้อ โดยมีราคาจำหน่ายดังนี้
- RIDDARA RD6 2WD 63kWh ราคา 899,000 บาท
- RIDDARA RD6 2WD 73.9 kWh ราคา 999,000 บาท
- RIDDARA RD6 4WD 73.9 kWh ราคา 1,149,000 บาท
- RIDDARA RD6 4WD 86kWh ราคา 1,299,000 บาท
- RIDDARA RD6 2WD 86kWh ราคา 1,159,000 บาท
- RIDDARA RD6 4WD 86kWh (Sunroof) ราคา 1,335,000 บาท
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine
-
News Car2 Min Read
เกีย เซลส์ (ประเทศไทย) มอบข้อเสนอสุดเซอร์ไพรส์งาน Motor Show 2025 ดอกเบี้ย 0% 6 ปี สำหรับลูกค้า The Kia EV5 และดอกเบี้ย 0% 5 ปี สำหรับ The Kia Carnival จองและรับข้อเสนอพิเศษได้แล้ว ถึงวันที่ 30 เมษายน 2568

เกีย เซลส์ (ประเทศไทย) มอบข้อเสนอสุดเซอร์ไพรส์ ภายใต้แคมเปญ “Join The Kia Family” ในงานบางกอก อินเตอร์เนชันแนล มอเตอร์โชว์ 2025 ครั้งที่ 46 ด้วยโปรโมชันอัตราดอกเบี้ย 0% นาน 6 ปี (โดยคำนวณจากราคาขายปกติ) สำหรับ The Kia EV5 (ยกเว้นรุ่น The Kia EV5 GT-Line AWD) และอัตราดอกเบี้ย 0% นาน 5 ปี (โดยคำนวณจากราคาขายปกติ) สำหรับ The Kia Carnival ทุกรุ่นย่อย หรือเลือกรับข้อเสนอราคาพิเศษสุดเร้าใจ ครอบคลุมยนตรกรรมทั้ง 4 รุ่นหลัก ได้แก่ The Kia Carnival กับราคาพิเศษเริ่มต้นที่ 1,599,000 บาท* มีให้เลือกทั้งแบบ 7 ที่นั่ง และ 11 ที่นั่ง The Kia EV5 มาพร้อมราคาพิเศษเริ่มต้นที่ 1,099,000 บาท* The Kia Sorento เอสยูวีพลังไฟฟ้าที่มาพร้อมตัวเลือกขุมพลังแบบ Plug-in Hybrid และ Hybrid กับราคาสุดเร้าใจเริ่มต้นที่ 1,699,000 บาท* และ The Kia EV9 ที่มาพร้อมแพ็กเกจคุ้มครองแบบจัดเต็มด้วยโปรแกรมบำรุงรักษาตามระยะ (ค่าแรงและค่าอะไหล่) ต่อเนื่องนาน 10 ปี* นอกจากนี้รถยนต์เกียทุกรุ่นยังมาพร้อมแพ็กเกจคุ้มครองสุดคุ้ม ด้วยการรับประกันคุณภาพตัวรถนาน 7 ปี สำหรับ The Kia EV5, The Kia EV9, The Kia Sorento และรับประกันคุณภาพตัวรถนาน 5 ปี สำหรับ The Kia Carnival ให้ลูกค้าและเจ้าของรถเกียทุกคนสบายใจไร้กังวล เชิญสัมผัสยนตรกรรมเกียทั้ง SUV และ MPV หลากหลายรุ่นได้ ณ บูทเกีย หมายเลข A12 อิมแพ็ค ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 2 เมืองทองธานี ตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม – 6 เมษายน 2568 หรือรับข้อเสนอเดียวกันได้ที่โชว์รูมผู้แทนจำหน่ายเกียทั่วประเทศ ถึง 30 เมษายน 2568

นายฌ็อง–ดาวิด คริสติญอง อาเรล รองประธานฝ่ายผลิตภัณฑ์และการตลาด บริษัท เกีย เซลส์ (ประเทศไทย) จํากัด กล่าวว่า “เรายังคงมุ่งมั่นที่จะมอบประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้น และขยายการรับรู้แบรนด์เกียผ่านแคมเปญการตลาดต่าง ๆ เพื่อสร้างครอบครัวเกียของเราให้เหนียวแน่นยิ่งขึ้น และสำหรับงานบางกอก อินเตอร์เนชันแนล มอเตอร์โชว์ 2025 ครั้งที่ 46 บริษัทฯ มีความยินดีเป็นอย่างยิ่ง
ที่ได้นำรถยนต์ SUV และ MPV มาจัดแสดงอย่างครบครัน พร้อมมอบข้อเสนอราคาสุดพิเศษ ข้อเสนอสุดเซอร์ไพรส์ และหลากหลายโปรโมชัน ภายใต้แคมเปญ ‘Join The Kia Family’ ให้ลูกค้าได้เลือกข้อเสนอที่ตรงใจ ซึ่งครอบคลุมทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์ รวมถึงโปรแกรมบำรุงรักษาตามระยะฟรี 10 ปี สำหรับ The Kia EV9”* เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.kia.com/th
ข้อเสนอจาก เกีย เซลส์ (ประเทศไทย)
ข้อเสนอสุดเซอร์ไพรส์งานมอเตอร์โชว์ สำหรับ The Kia Carnival วันที่ 24 มีนาคม 2568 ถึง 30 เมษายน 2568
โปรโมชันสำหรับ The Kia Carnival LX (11 ที่นั่ง)
ราคาพิเศษ 1,599,000 ล้านบาท (ราคาจำหน่ายปกติ 1,892,000 บาท หักส่วนลดมูลค่า 293,000 บาท)
- ฟรี ประกันภัยชั้น 1 พร้อม พ.ร.บ. เป็นระยะเวลานาน 1 ปี [1]
- บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน ฟรี 24 ชั่วโมง เป็นระยะเวลา 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง [2]
- การรับประกันคุณภาพตัวรถ 5 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร [3]
หรือเลือกรับข้อเสนอสุดเซอร์ไพรส์
__________________________________________________________
- อัตราดอกเบี้ย 0% 5 ปี โดยคำนวณจากราคาขายปกติ [6]
- ฟรี ประกันภัยชั้น 1 พร้อม พ.ร.บ. เป็นระยะเวลานาน 1 ปี [1]
- บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน ฟรี 24 ชั่วโมง เป็นระยะเวลา 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง [2]
- การรับประกันคุณภาพตัวรถ 5 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร [3]
โปรโมชันสำหรับ The Kia Carnival EX (11 ที่นั่ง)
ราคาพิเศษ 1,999,000 บาท (ราคาจำหน่ายปกติ 2,234,000 บาท หักส่วนลดมูลค่า 235,000 บาท)
- ฟรี ประกันภัยชั้น 1 พร้อม พ.ร.บ. เป็นระยะเวลานาน 1 ปี [1]
- บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน ฟรี 24 ชั่วโมง เป็นระยะเวลา 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง [2]
- การรับประกันคุณภาพตัวรถ 5 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร [3]
หรือเลือกรับข้อเสนอสุดเซอร์ไพรส์
___________________________________________________________
อัตราดอกเบี้ย 0% 5 ปี โดยคำนวณจากราคาขายปกติ [6]
- ฟรี ประกันภัยชั้น 1 พร้อม พ.ร.บ. เป็นระยะเวลานาน 1 ปี [1]
- บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน ฟรี 24 ชั่วโมง เป็นระยะเวลา 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง [2]
- การรับประกันคุณภาพตัวรถ 5 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร [3]
โปรโมชันสำหรับ The Kia Carnival SXL (11 ที่นั่ง)
ราคาพิเศษ 2,349,000 บาท (ราคาจำหน่ายปกติ 2,594,000 บาท หักส่วนลดมูลค่า 245,000 บาท)
- ฟรี ประกันภัยชั้น 1 พร้อม พ.ร.บ. เป็นระยะเวลานาน 1 ปี [1]
- บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน ฟรี 24 ชั่วโมง เป็นระยะเวลา 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง [2]
- การรับประกันคุณภาพตัวรถ 5 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร [3]
หรือเลือกรับข้อเสนอสุดเซอร์ไพรส์
___________________________________________________________
อัตราดอกเบี้ย 0% 5 ปี โดยคำนวณจากราคาขายปกติ [6]
- ฟรี ประกันภัยชั้น 1 พร้อม พ.ร.บ. เป็นระยะเวลานาน 1 ปี [1]
- บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน ฟรี 24 ชั่วโมง เป็นระยะเวลา 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง [2]
- การรับประกันคุณภาพตัวรถ 5 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร [3]
โปรโมชันสำหรับ The Kia Carnival SXL Luxury (7 ที่นั่ง)
ราคาพิเศษ 2,699,000 บาท (ราคาจำหน่ายปกติ 2,990,000 บาท หักส่วนลดมูลค่า 291,000 บาท)
- ฟรี ประกันภัยชั้น 1 พร้อม พ.ร.บ. เป็นระยะเวลานาน 1 ปี [1]
- ฟรี จอบนพนักพิงเบาะผู้ขับขี่และผู้โดยสารด้านหน้า [4]
- บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน ฟรี 24 ชั่วโมง เป็นระยะเวลา 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง [2]
- การรับประกันคุณภาพตัวรถ 5 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร [3]
หรือเลือกรับข้อเสนอสุดเซอร์ไพรส์
___________________________________________________________
อัตราดอกเบี้ย 0% 5 ปี โดยคำนวณจากราคาขายปกติ [6]
- ฟรี ประกันภัยชั้น 1 พร้อม พ.ร.บ. เป็นระยะเวลานาน 1 ปี [1]
- บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน ฟรี 24 ชั่วโมง เป็นระยะเวลา 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง [2]
- การรับประกันคุณภาพตัวรถ 5 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร [3]
หมายเหตุ:
[1] ประกันภัยชั้น 1 และ ประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับ (พ.ร.บ.) เป็นระยะเวลา 1 ปี สำหรับรุ่น LX, EX, SXL และ SXL Luxury โดยจำกัดเฉพาะ บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) โดยไม่สามารถแลกเปลี่ยนเป็นเงินสดได้
[2] เงื่อนไขการบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน ฟรี 24 ชั่วโมง เป็นระยะเวลา 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง (ตามเงื่อนไขของฝ่ายบริการหลังการขาย) โดยไม่สามารถแลกเปลี่ยนเป็นเงินสดได้
[3] เงื่อนไขการรับประกันคุณภาพตัวรถ 5 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร ระยะใดระยะหนึ่งถึงก่อน (ตามเงื่อนไขการรับประกันของฝ่ายบริการหลังการขาย
[4] จอบนพนักพิงเบาะผู้ขับขี่และผู้โดยสารด้านหน้า ตามรุ่นที่บริษัทฯ กำหนด โดยรับประกันคุณภาพระยะเวลา 1 ปี
[5] สิทธิประโยชน์ข้อ [1],[2] และ [4] มีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 90,000 บาท เฉพาะรุ่น SXL Luxury และ 50,000 บาทสำหรับรุ่นอื่นๆ ทั้งนี้สิทธิประโยชน์ดังกล่าวไม่สามารถแลกเปลี่ยนเป็นเงินสดได้
[6 ] อัตราดอกเบี้ยพิเศษ 0% 5 ปี (โดยคำนวณจากราคาขายปกติ) สำหรับทุกรุ่น เฉพาะการจัดเช่าซื้อกับธนาคารที่เข้าร่วมรายการ ได้แก่ บริษัท กสิกรลีสซิ่ง จํากัด หรือ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา หรือ ธนาคารเกียรตินาคินภัทร หรือ ธนาคารไทยธนชาต พร้อมดาวน์ 25% สำหรับระยะเวลาผ่อนชำระ 60 เดือน สำหรับอัตราดอกเบี้ยพิเศษ 0% 5 ปี (โดยคำนวณจากราคาขายปกติ) สำหรับลูกค้าที่จองและรับรถตั้งแต่วันที่ 24 มีนาคม 2568 ถึง 30 เมษายน 2568
ข้อเสนอสุดเซอร์ไพรส์งานมอเตอร์โชว์ สำหรับ The Kia EV5 วันที่ 24 มีนาคม 2568 ถึง 30 เมษายน 2568
โปรโมชันสำหรับลูกค้า The Kia EV5 Light
ราคาพิเศษ 1,099,000 บาท (ราคาจำหน่ายปกติ 1,299,000 บาท หักส่วนลดมูลค่า 200,000 บาท)
- อัตราดอกเบี้ยเป็นไปตามที่สถาบันการเงินกำหนด
- ฟรี ประกันภัยชั้น 1 พร้อม พ.ร.บ. เป็นระยะเวลา 1 ปี [2]
- การรับประกันคุณภาพตัวรถ 7 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร [3]
- บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน ฟรี 24 ชั่วโมง เป็นระยะเวลา 7 ปี ไม่จำกัดระยะทาง [4]
- การรับประกันแบตเตอรี่รถยนต์ (High-Voltage Battery) 8 ปี หรือ 160,000 กิโลเมตร [5]
- ชุดพรมปูพื้นรถยนต์ [6]
หรือเลือกรับข้อเสนอสุดเซอร์ไพรส์
___________________________________________________________
อัตราดอกเบี้ย 0% 6 ปี โดยคำนวณจากราคาขายปกติ [8]
- ฟรี ประกันภัยชั้น 1 พร้อม พ.ร.บ. เป็นระยะเวลา 1 ปี [2]
- การรับประกันคุณภาพตัวรถ 7 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร [3]
- บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน ฟรี 24 ชั่วโมง เป็นระยะเวลา 7 ปี ไม่จำกัดระยะทาง [4]
- การรับประกันแบตเตอรี่รถยนต์ (High-Voltage Battery) 8 ปี หรือ 160,000 กิโลเมตร [5]
- ชุดพรมปูพื้นรถยนต์ [6]
โปรโมชันสำหรับลูกค้า The Kia EV5 Air
ราคาพิเศษ 1,229,000 บาท (ราคาจำหน่ายปกติ 1,399,000 บาท หักส่วนลดมูลค่า 170,000 บาท)
- ส่วนลดพิเศษมูลค่า 170,000 บาท
- อัตราดอกเบี้ยเป็นไปตามที่สถาบันการเงินกำหนด
- ฟรี ประกันภัยชั้น 1 พร้อม พ.ร.บ. เป็นระยะเวลา 1 ปี [2]
- การรับประกันคุณภาพตัวรถ 7 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร [3]
- บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน ฟรี 24 ชั่วโมง เป็นระยะเวลา 7 ปี ไม่จำกัดระยะทาง [4]
- การรับประกันแบตเตอรี่รถยนต์ (High-Voltage Battery) 8 ปี หรือ 160,000 กิโลเมตร [5]
- ชุดพรมปูพื้นรถยนต์ [6]
หรือเลือกรับข้อเสนอสุดเซอร์ไพรส์
___________________________________________________________
อัตราดอกเบี้ย 0% 6 ปี โดยคำนวณจากราคาขายปกติ [8]
- ฟรี ประกันภัยชั้น 1 พร้อม พ.ร.บ. เป็นระยะเวลา 1 ปี [2]
- การรับประกันคุณภาพตัวรถ 7 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร [3]
- บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน ฟรี 24 ชั่วโมง เป็นระยะเวลา 7 ปี ไม่จำกัดระยะทาง [4]
- การรับประกันแบตเตอรี่รถยนต์ (High-Voltage Battery) 8 ปี หรือ 160,000 กิโลเมตร [5]
- ชุดพรมปูพื้นรถยนต์ [6]
โปรโมชันสำหรับลูกค้า The Kia EV5 Earth Long Range
ราคาพิเศษ 1,429,000 บาท (ราคาจำหน่ายปกติ 1,599,000 บาท หักส่วนลดมูลค่า 170,000 บาท)
- ส่วนลดพิเศษมูลค่า 170,000 บาท
- อัตราดอกเบี้ยเป็นไปตามที่สถาบันการเงินกำหนด
- ฟรี ประกันภัยชั้น 1 พร้อม พ.ร.บ. เป็นระยะเวลา 1 ปี [2]
- การรับประกันคุณภาพตัวรถ 7 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร [3]
- บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน ฟรี 24 ชั่วโมง เป็นระยะเวลา 7 ปี ไม่จำกัดระยะทาง [4]
- การรับประกันแบตเตอรี่รถยนต์ (High-Voltage Battery) 8 ปี หรือ 160,000 กิโลเมตร [5]
- ชุดพรมปูพื้นรถยนต์ [6]
หรือเลือกรับข้อเสนอสุดเซอร์ไพรส์
___________________________________________________________
อัตราดอกเบี้ย 0% 6 ปี โดยคำนวณจากราคาขายปกติ [8]
- ฟรี ประกันภัยชั้น 1 พร้อม พ.ร.บ. เป็นระยะเวลา 1 ปี [2]
- การรับประกันคุณภาพตัวรถ 7 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร [3]
- บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน ฟรี 24 ชั่วโมง เป็นระยะเวลา 7 ปี ไม่จำกัดระยะทาง [4]
- การรับประกันแบตเตอรี่รถยนต์ (High-Voltage Battery) 8 ปี หรือ 160,000 กิโลเมตร [5]
- ชุดพรมปูพื้นรถยนต์ [6]
โปรโมชันสำหรับลูกค้า The Kia EV5 Earth Exclusive AWD
ราคาพิเศษ 1,629,000 บาท (ราคาจำหน่ายปกติ 1,799,000 บาท หักส่วนลดมูลค่า 170,000 บาท)
- ส่วนลดพิเศษมูลค่า 170,000 บาท
- อัตราดอกเบี้ยเป็นไปตามที่สถาบันการเงินกำหนด
- ฟรี ประกันภัยชั้น 1 พร้อม พ.ร.บ. เป็นระยะเวลา 1 ปี [2]
- การรับประกันคุณภาพตัวรถ 7 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร [3]
- บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน ฟรี 24 ชั่วโมง เป็นระยะเวลา 7 ปี ไม่จำกัดระยะทาง [4]
- การรับประกันแบตเตอรี่รถยนต์ (High-Voltage Battery) 8 ปี หรือ 160,000 กิโลเมตร [5]
- ชุดพรมปูพื้นรถยนต์ [6]
หรือเลือกรับข้อเสนอสุดเซอร์ไพรส์
___________________________________________________________
อัตราดอกเบี้ย 0% 6 ปี โดยคำนวณจากราคาขายปกติ [8]
- ฟรี ประกันภัยชั้น 1 พร้อม พ.ร.บ. เป็นระยะเวลา 1 ปี [2]
- การรับประกันคุณภาพตัวรถ 7 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร [3]
- บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน ฟรี 24 ชั่วโมง เป็นระยะเวลา 7 ปี ไม่จำกัดระยะทาง [4]
- การรับประกันแบตเตอรี่รถยนต์ (High-Voltage Battery) 8 ปี หรือ 160,000 กิโลเมตร [5]
- ชุดพรมปูพื้นรถยนต์ [6]
โปรโมชันสำหรับลูกค้า The Kia EV5 GT-Line AWD
- อัตราดอกเบี้ยพิเศษ (ต้นงวด) 0% พร้อมดาวน์ 25% สำหรับระยะเวลาผ่อนชำระ 48 เดือน [1]
- ฟรี ประกันภัยชั้น 1 พร้อม พ.ร.บ. เป็นระยะเวลา 1 ปี [2]
- การรับประกันคุณภาพตัวรถ 7 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร [3]
- บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน ฟรี 24 ชั่วโมง เป็นระยะเวลา 7 ปี ไม่จำกัดระยะทาง [4]
- การรับประกันแบตเตอรี่รถยนต์ (High-Voltage Battery) 8 ปี หรือ 160,000 กิโลเมตร [5]
หมายเหตุ:
[1] อัตราดอกเบี้ยพิเศษ (ต้นงวด) 0% สำหรับรุ่น GT-Line AWD เฉพาะการจัดเช่าซื้อกับธนาคารที่เข้าร่วมรายการ ได้แก่ บริษัท กสิกรลีสซิ่ง จํากัด หรือ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา หรือ ธนาคารเกียรตินาคินภัทร หรือ 1.99% พร้อมดาวน์ 25% สำหรับระยะเวลาผ่อนชำระ 48 เดือน เฉพาะการจัดเช่าซื้อกับธนาคารที่เข้าร่วมรายการ ได้แก่ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด หรือ ธนาคารเกียรตินาคินภัทร หรือธนาคารไทยธนชาต
[2] ประกันภัยชั้น 1 และ ประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับ (พ.ร.บ.) เป็นระยะเวลา 1 ปี โดยจำกัดเฉพาะ บริษัท แอกซ่าประกันภัย จำกัด (มหาชน) ไม่สามารถแลกเปลี่ยนเป็นเงินสดได้
[3] เงื่อนไขการรับประกันคุณภาพตัวรถ 7 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร ระยะใดระยะหนึ่งถึงก่อน (ตามเงื่อนไขการรับประกันของฝ่ายบริการหลังการขาย)
[4] เงื่อนไขการบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน ฟรี 24 ชั่วโมง เป็นระยะเวลา 7 ปี ไม่จำกัดระยะทาง (ตามเงื่อนไขของฝ่ายบริการหลังการขาย)
[5] เงื่อนไขการรับประกันแบตเตอรี่รถยนต์ (High-Voltage Battery) 8 ปี หรือ 160,000 กิโลเมตร ระยะใดระยะหนึ่งถึงก่อน (ตามเงื่อนไขการรับประกันของฝ่ายบริการหลังการขาย)
[6] ชุดพรมปูพื้นรถยนต์
[7] สิทธิประโยชน์ข้อ [2], [4] และ [6] มีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 50,000 บาท ทั้งนี้สิทธิประโยชน์ดังกล่าวไม่สามารถแลกเปลี่ยนเป็นเงินสดได้
[8] อัตราดอกเบี้ยพิเศษ 0% 6 ปี (โดยคำนวณจากราคาขายปกติ) สำหรับทุกรุ่น (ยกเว้นรุ่น GT-Line AWD) เฉพาะการจัดเช่าซื้อกับธนาคารที่เข้าร่วมรายการ ได้แก่ บริษัท กสิกรลีสซิ่ง จํากัด หรือ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา หรือ ธนาคารเกียรตินาคินภัทร หรือ ธนาคารไทยธนชาต พร้อมดาวน์ 25% สำหรับระยะเวลาผ่อนชำระ 72 เดือน สำหรับอัตราดอกเบี้ยพิเศษ 0% 6 ปี (โดยคำนวณจากราคาขายปกติ) สำหรับลูกค้าที่จองและรับรถตั้งแต่วันที่ 24 มีนาคม 2568 ถึง 30 เมษายน 2568
โปรโมชันสำหรับลูกค้า The Kia EV9 GT-Line AWD
- อัตราดอกเบี้ยพิเศษ (ต้นงวด) 99% พร้อมดาวน์ 25% สำหรับระยะเวลาผ่อนชำระ 48 เดือน [1]
- ฟรี ประกันภัยชั้น 1 พร้อม พ.ร.บ. เป็นระยะเวลา 1 ปี [2]
- ฟรี Kia Home Charger 1 ชุด และ ค่าติดตั้ง Kia Home Charger ให้กับลูกค้า [3]
- ฟรี ค่าบำรุงรักษาตามระยะ (ค่าแรง และค่าอะไหล่) ตลอด 10 ปีหรือ 150,000 กิโลเมตร [4]
- การรับประกันคุณภาพตัวรถ 7 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร [5]
- บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน ฟรี 24 ชั่วโมง เป็นระยะเวลา 7 ปี ไม่จำกัดระยะทาง [6]
- การรับประกันแบตเตอรี่รถยนต์ (High-Voltage Battery) 8 ปี หรือ 160,000 กิโลเมตร [7]
หมายเหตุ:
[1] อัตราดอกเบี้ยพิเศษ (ต้นงวด) 1.99% พร้อมดาวน์ 25% สำหรับระยะเวลาผ่อนชำระ 48 เดือน เฉพาะการจัดเช่าซื้อกับธนาคารที่เข้าร่วมรายการ ได้แก่ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) หรือ ธนาคารเกียรตินาคินภัทร
[2] ประกันภัยชั้น 1 และ ประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับ (พ.ร.บ.) เป็นระยะเวลา 1 ปี โดยจำกัดเฉพาะ บริษัท แอกซ่าประกันภัย จำกัด (มหาชน) ไม่สามารถแลกเปลี่ยนเป็นเงินสดได้
[3] Kia Home Charger 1 ชุด พร้อมค่าติดตั้ง ไม่สามารถแลกเปลี่ยนเป็นเงินสดได้
[4] เงื่อนไข ค่าบำรุงรักษาตามระยะ (ค่าแรง และค่าอะไหล่) ตลอด 10 ปีหรือ 150,000 กิโลเมตร ระยะใดระยะหนึ่งถึงก่อน (ตามเงื่อนไขการรับประกันของฝ่ายบริการหลังการขาย)
[5] เงื่อนไขการรับประกันคุณภาพตัวรถ 7 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร ระยะใดระยะหนึ่งถึงก่อน (ตามเงื่อนไขการรับประกันของฝ่ายบริการหลังการขาย)
[6] เงื่อนไขการบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน ฟรี 24 ชั่วโมง เป็นระยะเวลา 7 ปี ไม่จำกัดระยะทาง (ตามเงื่อนไขของฝ่ายบริการหลังการขาย)
[7] เงื่อนไขการรับประกันแบตเตอรี่รถยนต์ (High-Voltage Battery) 8 ปี หรือ 160,000 กิโลเมตร ระยะใดระยะหนึ่งถึงก่อน (ตามเงื่อนไขการรับประกันของฝ่ายบริการหลังการขาย)
[8] สิทธิประโยชน์ข้อ [2], [3], [4], และ [6] มีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 136,000 บาท สำหรับรุ่น EV9 ทุกรุ่น ทั้งนี้สิทธิประโยชน์ดังกล่าวไม่สามารถแลกเปลี่ยนเป็นเงินสดได้
โปรโมชันสำหรับลูกค้า The Kia Sorento Premium Plus PHEV
ราคาพิเศษ 1,899,000 บาท (ราคาจำหน่ายปกติ 2,099,000 บาท หักส่วนลดมูลค่า 200,000 บาท)
- อัตราดอกเบี้ยพิเศษ (ต้นงวด) 99% พร้อมดาวน์ 25% สำหรับระยะเวลาผ่อนชำระ 48 เดือน [1]
- ฟรี ประกันภัยชั้น 1 พร้อม พ.ร.บ. เป็นระยะเวลา 1 ปี [2]
- การรับประกันคุณภาพตัวรถ 7 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร [3]
- บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน ฟรี 24 ชั่วโมง เป็นระยะเวลา 7 ปี ไม่จำกัดระยะทาง [4]
- การรับประกันแบตเตอรี่รถยนต์ (High-Voltage Battery) 8 ปี หรือ 160,000 กิโลเมตร [5]
โปรโมชันสำหรับลูกค้า The Kia Sorento Premium HEV:
ราคาพิเศษ 1,699,000 บาท (ราคาจำหน่ายปกติ 1,959,000 บาท หักส่วนลดมูลค่า 260,000 บาท)
- อัตราดอกเบี้ยพิเศษ (ต้นงวด) 99% พร้อมดาวน์ 25% สำหรับระยะเวลาผ่อนชำระ 48 เดือน [1]
- ฟรี ประกันภัยชั้น 1 พร้อม พ.ร.บ. เป็นระยะเวลา 1 ปี [2]
- การรับประกันคุณภาพตัวรถ 7 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร [3]
- บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน ฟรี 24 ชั่วโมง เป็นระยะเวลา 7 ปี ไม่จำกัดระยะทาง [4]
- การรับประกันแบตเตอรี่รถยนต์ (High-Voltage Battery) 8 ปี หรือ 160,000 กิโลเมตร [5]
หมายเหตุ:
[1] อัตราดอกเบี้ยพิเศษ (ต้นงวด) 1.99% พร้อมดาวน์ 25% สำหรับระยะเวลาผ่อนชำระ 48 เดือน เฉพาะการจัดเช่าซื้อกับธนาคารที่เข้าร่วมรายการ ได้แก่ จํากัด ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) และ ธนาคารเกียรตินาคินภัทร
[2] ประกันภัยชั้น 1 และ ประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับ (พ.ร.บ.) เป็นระยะเวลา 1 ปี โดยจำกัดเฉพาะ บริษัท แอกซ่าประกันภัย จำกัด (มหาชน) และไม่สามารถแลกเปลี่ยนเป็นเงินสดได้
[3] เงื่อนไขการรับประกันคุณภาพตัวรถ 7 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร ระยะใดระยะหนึ่งถึงก่อน (ตามเงื่อนไขการรับประกันของฝ่ายบริการหลังการขาย) โดยไม่สามารถแลกเปลี่ยนเป็นเงินสดได้
[4] เงื่อนไขการบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน ฟรี 24 ชั่วโมง เป็นระยะเวลา 7 ปี ไม่จำกัดระยะทาง (ตามเงื่อนไขของฝ่ายบริการหลังการขาย) โดยไม่สามารถแลกเปลี่ยนเป็นเงินสดได้
[5] เงื่อนไขการรับประกันแบตเตอรี่รถยนต์ (High-Voltage Battery) 8 ปี หรือ 160,000 กิโลเมตร ระยะใดระยะหนึ่งถึงก่อน (ตามเงื่อนไขการรับประกันของฝ่ายบริการหลังการขาย) โดยไม่สามารถแลกเปลี่ยนเป็นเงินสดได้
[6] สิทธิประโยชน์ข้อ [2 และ [4] มีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 50,000 บาท ทั้งนี้สิทธิประโยชน์ดังกล่าวไม่สามารถแลกเปลี่ยนเป็นเงินสดได้
- ข้อกำหนดและเงื่อนไขอาจมีการเปลี่ยนแปลงทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของบริษัทฯ
- สำหรับลูกค้าที่จองและรับรถตั้งแต่วันที่ 24 มีนาคม 2568 ถึง 30 เมษายน 2568
- โปรโมชันสำหรับการซื้อผ่านผู้จำหน่าย Kia อย่างเป็นทางการทั่วประเทศไทย
- ไม่รวมรถแท็กซี่, รถเช่า, รถที่ขายภายใต้เงื่อนไขพิเศษ, และลูกค้ารถเช่า
- ในกรณีที่มีการเปลี่ยนแปลงจะทำการแจ้งผ่านช่องทางสื่อประชาสัมพันธ์ของบริษัทฯ
- สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมโปรดติดต่อผู้จำหน่าย Kia ใกล้ท่าน หรือ เยี่ยมชมเว็บไซต์ https://www.kia.com/th
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine
-
News Car1 Min Readเปิดยิ่งใหญ่ “บางกอกมอเตอร์โชว์” ครั้งที่ 46 ยกทัพ 54 แบรนด์ อัดแน่นเต็มพื้นที่ อิมแพค ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 1-3 และ ฟอรั่ม ฮอลล์ 4
บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) รวมกับผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมยานยนต์กว่า 54 แบรนด์ดัง จัดงาน “บางกอกอินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์” ครั้งที่ 46 ภายใต้ธีม “The Talk of Sensuous Automotive” หรือ “สนทนาภาษายานยนต์” ชูไฮไลต์พื้นที่โซนใหม่จั ดแสดงอะไหล่รถอีวีและสันดาป หลังปิดดีลเครือข่ายผู้ผลิ ตและจำหน่ายจากประเทศจีน โดยงานจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 26 มีนาคม – 6 เมษายน พ.ศ.2568 ณ อิมแพค ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 1-3 และ ฟอรั่ม ฮอลล์ 4 เมืองทองธานี ดร.ปราจิน เอี่ยมลำเนา ประธานจัดงาน “บางกอกอินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์” ครั้งที่ 46 กล่าวว่า “สำหรับงานมอเตอร์โชว์ในปีนี้ จัดขึ้นภายใต้ธีม “The Talk of Sensuous Automotive” หรือ “สนทนาภาษายานยนต์” สื่อถึงปรั ชญาแนวทางการออกแบบในโลกยานยนต์ ที่สื่อสารเข้าถึงอารมณ์ความรู้ สึกที่เต็มเปี่ยมด้วยพลัง ความปรารถนา แรงบันดาลใจ สื่อสารเป็นภาษาของยานยนต์ เพื่อสะท้อนแนวคิด การสร้างสรรค์พัฒนา และประสบการณ์สุนทรี ยภาพทางอารมณ์อย่างที่คุณค่า” นายจาตุรนต์ โกมลมิศร์ รองประธานจัดงาน “บางกอกอินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์” ครั้งที่ 46 “โดยปัจจุบันมีผู้ ประกอบการยานยนต์จากยุ โรปและเอเชียตอบรับเข้าร่ วมออกบูธภายในงานฯ แล้ว 54 ราย แยกเป็นรถยนต์ 41 บริษัท และจักรยานยนต์ 13 สำหรับการจัดงานในครั้งนี้ ได้รับการตอบรับจากผู้ ประกอบการที่เข้าร่วมออกงานอย่ างเป็นอย่างดี นอกจากนี้ ยังได้รับการตอบรับการเข้าร่ วมออกงานฯของกลุ่มลูกค้ารายใหม่ ที่เป็นแบรนด์ยานยนต์ไฟฟ้า ที่เพิ่งเข้ามาเปิดตั วในประเทศไทย อาทิ ZEEKR, OMODA&JAECOO, CHERY, KINGGEN, JUNEYAO , RIDDARA และ GEELY รวมถึงเทคโนโลยี ระบบนำทางภายในรถยนต์ HUAWEI นอกจากนี้ยังมีแบรนด์รถจั กรยานยนต์ไฟฟ้า YADEA ที่มาเปิดตัวครั้งแรกภายในงานฯ โดยในปีนี้มีผู้ ประกอบการจากประเทศจีนเพิ่มขึ้ นจากปีที่ผ่านมา 14 ราย” “ส่วนในไฮไลต์ของการจัดงานฯ ปีนี้ นอกจากมีการเปิดตัวรถยนต์และรถจักรยานยนต์รุ่นใหม่ๆ ทั้งรถสันดาปและรถอีวีของผู้ ประกอบการยานยนต์แล้ว บริษัทฯ ได้จัดเตรียมพื้นที่ฟอรั่ม ฮอลล์ 4 พื้นที่กว่า 9,000 ตารางเมตร เพื่อรองรับการออกบูธอุปกรณ์ ตกแต่งรถโดยเฉพาะ โดยในปีนี้ได้ขยายฐานผู้ออกบู ธแสดงสินค้าสู่กลุ่มผู้ผลิ ตและจำหน่ายอะไหล่รถอีวีและสั นดาปที่ต้ องการขยายตลาดในประเทศไทย เนื่องจากเห็นโอกาสและศั กยภาพของงานบางกอกอินเตอร์เนชั่ นแนล มอเตอร์โชว์ ที่เป็นงานจัดแสดงยานยนต์ระดั บสากล” “จึงได้รับความร่วมมือจาก บริษัท หนานจิง ฉ่วงฉี เอ็กซิบิชั่น จากประเทศจีน ได้นำสินค้าอุปกรณ์อะไหล่รถยนต์ และรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า จากประเทศจีน มาจัดแสดงเพื่อให้ผู้ประกอบการในประเทศไทยที่สนใจเป็ นร่วมตัวแทนจำหน่ายอีกด้วย นับได้ว่า เป็นครั้งแรกของการจั ดงานแสดงรถยนต์เพื่อผู้ ประกอบการธุรกิจอุ ตสาหกรรมยานยนต์โดยตรง เป็นการเชื่อมโยงทางธุรกิจ และการสร้างเครือข่ายระหว่างผู้ ประกอบการ บนพื้นที่กว่า 3,800 ตารางเมตรภายในฟอรั่ม ฮอลล์ 4 ระหว่างวันที่ 24 – 30 มีนาคม 2568 มั่นใจได้ว่า จะได้สินค้าที่ตรงตามคุณภาพ ราคาจากผู้ประกอบการโดยตรง”
นอกจากนี้ ยังมีการออกบูธจัดแสดง USED CAR หรือรถมือสองระดับลักชัวรี่ รวมถึง สินค้าไลฟ์สไตล์ แฟชั่น สินค้ามูเตลู การแข่งขันชิงรางวัล พร้อมกิจกรรมสนุกๆอีกมากมาย ภายในฮอลล์และอีก 1 งานที่แต่งเติมสีสันให้ล้อกันไปกับงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งนี้ คือ MU-NIVERSE “เปิดจักรวาลมูเตลูไทย สู่คนรุ่นใหม่” เป็นอีเวนต์ที่ รวบรวม เรื่องราวมูเตลูของเมื องไทยในแบบที่เข้าถึงง่าย เชื่อมโยง ความเชื่อม ศิลปะ เทคโนโลยี และไลฟ์สไตล์เข้าด้วยกัน ระหว่าง วันที่ 2-6 เมษายน 2568 ที่บริเวณฟอรั่ม ฮอลล์ 4 พบปะกับอ.ลักษณ์ โหราธิบดี และแขกรับเชิญสายมูชื่อดั งมากมาย พร้อมกิจกรรมดูดวง ปรึกษาฤกษ์ออกรถ ป้ายทะเบียนมงคล สินค้าเครื่องรางวัตถุมงคล กิจกรรมแลกเปลี่ยนข้อมูลของดี ของสะสมสายมู พร้อมรับสติ๊กเกอร์เสริมดวงรุ่ นพิเศษเฉพาะงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ เท่านั้น นายอโณทัย เอี่ยมลำเนา ประธานเจ้าหน้าที่สายการผลิตบริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “สำหรับกิจกรรมในปีนี้ นอกจากกิจกรรม E-Racing ที่เปิดโอกาสให้ผู้เข้าชมได้สั มผัสประสบการณ์การแข่งขันรถยนต์ เสมือนจริงผ่านเครื่องเล่น Simulator แล้ว ทางผู้จัดยังได้รับความร่วมมื อจาก R.C.S. (Runbike Championship Series) ประเทศญี่ปุ่น จัดกิจกรรมการแข่งขันจั กรยานทรงตัวรายการ “Grandprix Runbike Championship With R.C.S.” ขึ้นภายในงาน โดยเป็นการจัด Pre-Event จำนวน 2 สนาม ซึ่งการจัดการแข่งขันดังกล่าวถื อเป็นก้าวสำคัญในการผลักดั นวงการกีฬาสำหรั บเยาวชนในประเทศไทย รวมถึงบูธแสดงสินค้าเกี่ยวกั บเด็ก กีฬา และไลฟ์สไตล์ ตลอดจนโซนกิจกรรมสำหรับครอบครั วอีกด้วย” นายพีระพงศ์ เอี่ยมลำเนา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “ที่ผ่านมาบริษัทฯ ในฐานะผู้จัดงาน ได้มีการพัฒนารูปแบบการให้บริการใหม่ๆ มาอย่างต่อเนื่อง เพื่ออำนวยความสะดวกให้ทั้งผู้ เข้าร่วมงาน และผู้เข้าชมงานได้รั บประสบการณ์ใหม่ๆ โดยเฉพาะการนำเทคโนโลยี digital transformation เข้ามาอำนวยความสะดวกในการเข้ าชมงาน” “เราได้พัฒนาบัญชี LINE Official Account หรือ Line OA ขึ้น เพื่อเพิ่มความสะดวกใช้ในการลงทะเบียน และยังเป็นการเพิ่มช่องทางการสื่ อสารระหว่างบริษัทฯ กับผู้บริโภคในการนำเสนอผลิตภั ณฑ์และรูปแบบการให้บริการใหม่ๆ ทั้งกลุ่ม Auto และ กลุ่ม Lifestyle ที่บริษัทฯ พัฒนาขึ้นมา เพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจ” “นอกจากนี้ เรายังได้จัดทำโปรแกรม Fullloop ที่สามารถเก็บข้อมูลฟีดแบ็กจากผู้เข้าชมได้ในรูปแบบที่ สะดวกและรวดเร็วมากขึ้น ผู้เข้าชมสามารถกรอกแบบสอบถามสั้ นๆ เพื่อประเมินการจัดงาน ช่วยให้ผู้จัดงานสามารถรวบรวมข้ อมูลได้ทันทีและวิเคราะห์ผลได้ อย่างรวดเร็ว ซึ่งการเก็บฟีดแบ็กจากผู้เข้ าชมในงานมีความสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากข้อมูลเหล่านี้จะช่ วยให้ผู้จัดงานสามารถปรับปรุ งการจัดงานในหลายๆ ด้าน และตอบสนองต่อความต้องการของผู้ เข้าชมได้ดียิ่งขึ้น” อย่างไรก็ตาม คาดว่าการจัดงานฯ ปีนี้จะสร้างรายได้เพิ่มขึ้นมากกว่า 10% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ขณะที่ภาพรวมอุตสาหกรรมยานยนต์ ปีนี้คาดว่าจะทรงตัว เนื่องจากภาพรวมเศรษฐกิ จในประเทศยังไม่ฟื้นตัวชั ดเจนและเศรษฐกิจโลกยังมีความไม่ แน่นอน ประกอบกับสถาบันการเงินเข้ มงวดการปล่อยสินเชื่อเนื่ องจากภาวะหนี้ครัวเรือนอยู่ ในระดับสูง อย่างไรก็ตาม ประเมินว่าผู้บริโภคยังมีความต้ องการซื้อรถใหม่และรถมือสอง สำหรับการจัดงานในครั้งนี้ ผู้จัดงานฯ มีการปรับเพิ่มวันสำหรับสื่อมวลชน หรือ Press day เป็น วันที่ 24 มีนาคม 2568 สือมวลชนสามารถเข้าภายในบริ เวณงานได้ตั้งแต่เวลา 7:30 น. โดยรอบนำเสนอของบริษัทแรกจะเริ่ มในเวลา 8:00 – 21:00 น. ซึ่งเป็นไปตามมติที่ประชุ มจากแบรนด์ที่ร่วมออกงานฯ โดยสื่อมวลชนที่ไม่ได้ลงทะเบี ยนล่วงหน้า สามารถลงทะเบียนได้ที่ กองอำนวยการ ได้ตั้งแต่เวลา 7:00 น. ในวันที่ 25 มีนาคม 2568 พิธีเปิดการจัดงาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 46 อย่างเป็นทางการ จะเริ่มในเวลา 9:00 – 10:00 น. และ เปิดรอบสำหรับ VIP ตั้งแต่เวลา 10:00 น.- 18:00 น.การจัดงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 46 นี้ มีความคืบหน้าเป็นไปตามแผนงานที่วางไว้ มั่นใจว่า การจองรถยนต์ ภายในงานครั้งนี้ จะได้รับข้อเสนอที่คุ้มค่า เข้าถึงเทคโนโลยีล่าสุด และสิทธิพิเศษมากมาย ถือเป็นโอกาสที่เหมาะสมที่สุ ดสำหรับการตัดสินใจ! และ สร้างความตื่นตาตื่นใจไม่แพ้ การจัดงานในอดีตที่ผ่านมา แคมเปญแจกรถรางวัล สำหรับการจัดงานในครั้งนี้ เรามี 4 แคมเปญด้วยกัน ดังนี้1. ซื้อบัตรเข้าชมงาน ตอบแบบสอบถาม ลุ้นรับรางวัลรถยนต์รถยนต์ไฟฟ้า JAECOO 6 EV (2WD) และ รถจักรยานยนต์ 2 รางวัล จากแบรนด์ YAMAHA และ HONDA 2. จองรถยนต์ ภายในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 46 ลุ้นรับรถยนต์ไฟฟ้า NETA V-II smart หรือ จองรถจักรยานยนต์ภายในงานฯ ลุ้นรางวัล รถจักรยานยนต์ KAWASAKI W2303. ร่วมกิจกรรมลงทะเบียนบัตรอภินันทนาการ ลุ้นรับรางวัลรถจักรยานยนต์ SUZUKI BURGMAN ได้ที่ ฟอรั่ม ฮอลล์ 4 4. กิจกรรม Shopping มูลค่า 1,000 บาทขึ้นไปภายใน ฟอรั่ม ฮอลล์ 4 ร่วมลุ้นรางวัล E-Scooter YADEA MODERNสำหรับบัตรเข้าชมงานฯ มีจำหน่ายบริเวณด้านหน้างาน และ ทางออนไลน์ ผ่านไลน์แอปพลิเคชั่น ทั้งนี้นอกจากสิทธิประโยชน์จากการร่วมลุ้นรางวัลรถยนต์ และรถจักรยานยนต์แล้ว สามารถนำบัตรเข้าชมงานแบบซื้อที่ ลงทะเบียนเรียบร้อยแล้ว มาร่วมกิจกรรมลุ้นรับของรางวั ลต่างๆมากมายได้ที่ บูธกิจกรรมพิเศษ ภายในอาคารฟอรั่ม ฮอลล์4 และ สำหรับการจัดงานฯ ครั้งนี้ ผู้จัดงานฯ ได้จัดเตรียมรถshuttle ไว้อำนวยความสะดวก สำหรับผู้ที่เดินทางด้วยรถไฟฟ้า BTS สายสีชมพู สามารถลงที่สถานีศรีรัช แล้วต่อรถ shuttle ที่ผู้จัดงานฯได้เตรียมไว้ เพื่อเข้าสู่งาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 46 เส้นทางศรีรัช – ACTIVE HALL 4 โดยไม่มีค่าใช้จ่ายแต่ประการใด มาร่วมสัมผัสนวัตกรรมแห่งยานยนต์ AI ที่จะตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์และคุ ณภาพชีวิตใหม่ของทุกคนได้ที่งาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 46 นี้ วันที่ 26 มีนาคม – 6 เมษายน 2568 ณ อิมแพค ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 1-3 และ ฟอรั่ม ฮอลล์ 4 เมืองทองธานี งานแสดงเทคโนโลยียานยนต์ อันดับ 1 ของเมืองไทย
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine -
News Car3 Min Read
อีซูซุ ส่งทัพยนตรกรรมขุมพลังใหม่ “2.2 Ddi MAXFORCE” พร้อม “ISUZU DRAGONMAX” ร่วมโชว์ ในงาน “บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 46” ภายใต้คอนเซ็ปต์ “ISUZU Trusted Buddy… อีซูซุเคียงข้างคุณ เคียงคู่ไทย”

ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ ตอกย้ำแบรนด์อีซูซุที่ผู้ใช้ชาวไทยไว้วางใจตลอด 68 ปีที่ผ่านมา ภายใต้คอนเซ็ปต์ “ISUZU Trusted Buddy…อีซูซุเคียงข้างคุณ เคียงคู่ไทย” จัดทัพยนตรกรรมครบรุ่น ทั้งโมเดลมาตรฐานยอดนิยมที่โดดเด่นด้วยขุมพลังดีเซลแห่งอนาคต “ใหม่! 2.2 Ddi MAXFORCE…The FORCE of FUTURE พลังใหม่…กำหนดโลก” และโมดิฟายคาร์ หลากรุ่น ครบทุกไลฟ์สไตล์ รวมทั้งสิ้น 15 คัน แน่นเต็มพื้นที่จัดแสดง

กลุ่มตรีเพชร โดย มร. ทาคาชิ ฮาตะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด เผยว่า “อีซูซุภูมิใจนำเสนอบูธในงาน Bangkok International Motor Show 2025 ในคอนเซ็ปต์ “Isuzu Trusted Buddy… อีซูซุเคียงข้างคุณ เคียงคู่ไทย” มีวัตถุประสงค์เพื่อตอกย้ำแบรนด์อีซูซุที่ผู้ใช้ชาวไทยไว้วางใจตลอด 68 ปีที่ผ่านมา ด้วยผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูงตามแบบฉบับญี่ปุ่น สามารถตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ชาวไทยอย่างแท้จริง คือ ประหยัดน้ำมันที่สุด ทนทานที่สุด คุ้มค่าเงินสูงสุด พร้อมการบริการดูแลและสร้างความพอใจแก่ผู้ใช้ตลอดอายุการใช้งาน อีกทั้งอีซูซุยังให้ความสำคัญต่อคุณค่าทางสังคมไทย ด้วยการผลิตรถที่เน้นการใช้ชิ้นส่วนภายในประเทศ เช่น รถปิกอัพที่ใช้ไทยเป็นฐานการผลิตเพื่อส่งออกไปประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก ใช้ชิ้นส่วนไทยมากกว่า 90% ก่อให้เกิดห่วงโซ่อุปทานยานยนต์ที่แข็งแกร่งของไทยในระดับโลก เกิดการจ้างงาน และส่งเสริมอุตสาหกรรม เศรษฐกิจไทยตลอดมา… นอกจากนี้อีซูซุได้ยกขบวน ยนตรกรรมโชว์ขุมพลังดีเซลแห่งอนาคต “ใหม่! 2.2 Ddi MAXFORCE…The FORCE of FUTURE พลังใหม่…กำหนดโลก” ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อปลายปีที่ผ่านมานั้น ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีมากโดยในระยะเวลา 3 เดือนนี้ มีลูกค้ามากกว่า 22,000 คนทั่วประเทศ ได้ทดสอบรถยนต์รุ่นใหม่นี้แล้วทั้ง อีซูซุดีแมคซ์ และ อีซูซุมิว-เอ็กซ์ ลูกค้าต่างพอใจกับสมรรถนะอันยอดเยี่ยมของทั้งเครื่องยนต์ใหม่ 2.2 Ddi MAXFORCE และเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีดใหม่ ในด้านพละกำลัง ความเร็ว และความนุ่มนวลในการขับขี่ ร่วมจัดแสดงภายในบูธ รวมทั้งสิ้น 15 คัน ทั้งรุ่นมาตรฐานยอดนิยม จำนวน 8 คัน และตกแต่งพิเศษหลากสไตล์ จำนวน 7 คัน และ 1 ในรถตกแต่งพิเศษนั้นคือ “ISUZU DRAGONMAX” โดดเด่นในคอนเซ็ปต์ “Restomod” ซึ่งมีที่มาจากคำว่า “Restoration” และ “Modernization” เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าที่หลากหลาย และอีซูซุยังมอบสิทธิพิเศษให้แก่ลูกค้าที่จองรถในงานได้ร่วมลุ้นรับบัตรกำนัลมูลค่า 22,000 บาท ทุกวัน รวมมูลค่า 1,232,000 บาท อีกด้วย”
สำหรับยนตรกรรมที่อีซูซุนำมาจัดแสดงภายในงาน Bangkok International Motor Show 2025 รวมทั้งสิ้น 15 คัน ดังนี้
ยนตรกรรมอีซูซุ รุ่นมาตรฐาน รวม 8 คัน ได้แก่

- NEW! MU-X “THE NEXT PEAK” รุ่น RS 4×2 สีเทา ไอเกอร์ โอเพค (Eiger Gray Opaque) ไลน์อัพใหม่ที่มาพร้อมเครื่องยนต์ 2 Ddi MAXFORCE และเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด พร้อมการออกแบบที่โดดเด่น และสปอร์ตเหนือระดับ
- NEW! MU-X “THE NEXT PEAK” รุ่น ULTIMATE 4×2 สีขาวมุก โดโลไมท์ (Dolomite White Pearl) 2.2 Ddi MAXFORCE และเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด พลิกโฉมสู่ความ พรีเมี่ยม

- NEW! MU-X “THE NEXT PEAK” รุ่น ELEGANT 4×2 สีเงินโบฮีเมียน เมทัลลิก (Bohemian Silver Metallic) 2.2 Ddi MAXFORCE และเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด กระจังหน้าดีไซน์ Dynamic Grille หรูหราด้วยวัสดุสีดำ Titanium Carbide โฉบเฉี่ยวด้วยไฟหน้าและไฟท้าย Dynamic Blade เพิ่มความสปอร์ตของชุดไฟท้าย
- NEW! ISUZU D-MAX HI-LANDER 4 ประตู รุ่น M สีใหม่ เทาเอลบรุส โอเพค (Elbrus Grey Opaque) 2.2 Ddi MAXFORCE และเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด ปลดล็อกนิยามใหม่แห่งปิกอัพยกสูงระดับ TOP CLASS ที่ผสมผสานความหรูหราอย่างลงตัว ด้วยดีไซน์สปอร์ตโฉบเฉี่ยวก้าวล้ำไปสู่เทคโนโลยีอนาคตแฝงด้วยศาสตร์แห่งวิศวกรรมการขับเคลื่อน
- NEW! ISUZU D-MAX HI-LANDER 4 ประตู รุ่น Z สีดำบาวาเรียน (Bavarian Black Mica) 2.2 Ddi MAXFORCE ปิกอัพยกสูงเหนือระดับ ที่มาพร้อมกับรูปลักษณ์ที่โดดเด่น และอุปกรณ์อำนวยความสะดวกที่คุ้มค่า
- NEW! ISUZU D-MAX CAB4 รุ่น Z สีใหม่ เทาเอลบรุส โอเพค (Elbrus Grey Opaque) 2.2 Ddi MAXFORCE เกียร์ธรรมดา 6 สปีด อัตราทดใหม่ ภายนอกภูมิฐาน ไฟหน้าดีไซน์เน้นความโฉบเฉี่ยว ISUZU Vision Bi-LED พร้อม Multifunctional Daylight กระจังหน้าแบบ 3-Dimension สี Silky Silver และ Dark Grey พร้อม Air Curtain ที่กันชนหน้า
- NEW! ISUZU D-MAX SPACECAB รุ่น L สีเงินโบฮีเมียน เมทัลลิก (Bohemian Silver Metallic) 2.2 Ddi MAXFORCE และเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด รถปิกอัพอเนกประสงค์ที่มาพร้อมกับความคุ้มค่า ประหยัดน้ำมัน
- ISUZU X-SERIES รุ่น HI-LANDER 2 ประตู 9 Ddi Blue Power AT สีขาวมุกโดโลไมท์ (Dolomite White Pearl) ปิกอัพสปอร์ตยกสูง มาพร้อมล้ออัลลอย 17 นิ้ว สี Gloss Black ห้องโดยสารโทนดำ-เทา คอนโซลดีไซน์แบบ Iron Structure เพิ่มความเท่อย่างมีสไตล์
ยนตรกรรมอีซูซุโมดิฟายคาร์ รวม 7 คัน ได้แก่

- รถปิกอัพในตำนาน “ISUZU DRAGONMAX” สร้างขึ้นใหม่ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Restromod” (Restoration & Modernization) เพื่อตอกย้ำแนวคิด “Isuzu Trusted Buddy… อีซูซุเคียงข้างคุณ เคียงคู่ไทย” โดยนำรถปิกอัพอีซูซุยอดนิยม รุ่น TFR ปี 1988 มาปรับลุคใหม่ เสริมสไตล์สปอร์ต ทันสมัย โดดเด่นภายนอกจดภายใน ใหม่หมดทุกมุมมอง ดีไซน์กันชนหน้า กระจังหน้า ฝากระโปรงหน้าใหม่ ไฟหน้าโปรเจคเตอร์ใหม่แบบ LED พร้อมไฟ DRL ที่กันชนหน้า ชุดสเกิร์ตข้างดีไซน์ใหม่แบบ Muscle Line ที่ซุ้มล้อ ฝากระบะท้ายพร้อมสปอยเลอร์ Duck Tail ดีไซน์ใหม่ ดุดันยิ่งขึ้นด้วยโป่งล้อที่แก้มหน้าและกระบะท้ายแบบ Wide Body กระจกมองข้าง ปรับไฟฟ้า สะกดสายตาด้วยชุดไฟท้าย LED ใหม่ ทันสมัยกับสีตัวรถ Katana Matte Silver เปลี่ยนระบบช่วงล่างพร้อมระบบบังคับเลี้ยวใหม่ ด้วยชุดแร็คพวงมาลัย ปีกนก คอม้า และ เพลาท้ายใหม่ ชุดโช้กอัพ Profender รุ่น Queen Series & Piggy Back ล้อแม็กซ์ Bradley-V ขนาด 8×17 นิ้ว ยาง Yokohama Advan Fleva V701 ขนาด 225/50/17 ชุดจานดิสก์เบรกหน้า-หลัง Brembo พร้อมจานเบรกขนาด 340 และ 320 มม. ภายในเพิ่มความหรูหราแฝงรสนิยมขั้นสุดกับห้องโดยสารด้วยคอนโซลหน้า เบาะและชุดแต่งอาคันทาร่ายกเซต เสริมความสปอร์ตด้วยเบาะ Recaro Premium Classic Seat หุ้มอาคันทาร่า พร้อมมาตรวัด AIM MXT ขนาด 10 นิ้ว อ่านค่าความเร็ว วัดรอบเครื่องยนต์ วัดระดับน้ำมันเชื้อเพลิง วัดความร้อนเครื่องยนต์ ติดตั้งจอกลางแบบ Android ขนาด 8 นิ้ว วัดค่าฟังก์ชั่นต่าง ๆ จากกล่องพ่วงเพิ่มแรงม้า ECU Shop Ultra Boost เช่น วัดบูสต์เทอร์โบ วัดแรงดันน้ำมันเชื้อเพลิง และอุณหภูมิภายนอก ผสานเข้ากับที่สุดของขุมพลังดีเซลแห่งอนาคต “ใหม่! 2.2 Ddi MAXFORCE…The FORCE of FUTURE พลังใหม่…กำหนดโลก” ห้องเครื่องสร้างใหม่โดย BRD เพิ่มความแรงเต็มสปีด แรงไร้ควันด้วยกล่องพ่วงเพิ่มแรงม้า ECU SHOP Ultra Boost ปรับจูน 220 แรงม้า แรงบิด 550 นิวตัน-เมตร และคันเร่งไฟฟ้า Boost Speed Next

- NEW! ISUZU MU-X THE NEXT PEAK รุ่น RS เครื่องยนต์ 0 Ddi MAXFORCE ขับเคลื่อน 4 ล้อ ตกแต่งสำหรับสายท่องเที่ยวแคมป์ปิ้ง สไตล์ Overland เริ่มจากบันไดข้างจาก TJM พร้อมชุดกันกระแทกด้านข้างตัวถัง เต๊นท์บนหลังคาจาก TJM รุ่น ALLORA ALUMINIUM ROOFTOP TENT เพิ่มความสว่างในยามค่ำคืนด้วยชุดไฟ TJM รุ่น SEEKER LIGHT BAR และชุดไฟ SEEKER SIDE SHOOTER บริเวณฝากระโปรงหน้า ลุยได้มากยิ่งขึ้นด้วยชุดช่วงล่างจาก TJM โช้คอัพรุ่น XGS ROAMER จับคู่กับคอยล์สปริงรุ่น XGS พร้อมปีกนกปรับองศา ล้อ Lenso รุ่น MX รุ่น Cezar พร้อมยาง BRIDGESTONE DUELER AT002 ขนาด 285/60 R18

- NEW! ISUZU V-CROSS 4 ประตู ขับเคลื่อน 4 ล้อ เครื่องยนต์ 0 Ddi MAXFORCE รุ่น M แต่งพิเศษ เอาใจสายลุยตัวจริงตามแบบฉบับออฟโรดจากประเทศออสเตรเลีย ที่มีสภาพภูมิประเทศสุดโหด ต้องการรถขับเคลื่อน 4 ล้อที่มีสมรรถนะสูงพร้อมเผชิญหน้ากับอุปสรรคทุกรูปแบบ ตกแต่งด้วยชุดแต่งจาก TJM รอบคัน เริ่มจาก ชุดกันชนหน้ารุ่น CHASER BAR พร้อมรอกไฟฟ้ารุ่น TORQ 9500LB ชุดกันชนหลังรุ่น RB6 ชุดบันไดข้างรุ่น MODULAR SIDE BAR STEP ชุดกันกระแทกใต้ท้องรถ ชุดยกช่วงล่าง TJM โช้คอัพรุ่น XGS RUGGED คอยล์สปริง และชุดแหนบรุ่น XGS และล้อขนาด 18 นิ้วรุ่น KONG จาก TJM ให้คุณสามารถออกไปใช้ชีวิตได้เต็มที่ ด้วยชุดเต๊นท์บนหลังคา และยังเพิ่มความอเนกประสงค์ด้วยชุดกระบะลอยและตู้หลังกระบะที่สามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชั่นในการบรรทุกได้หลายรูปแบบ ติดตั้งระบบสำรองกำลังไฟฟ้าด้วยแบตเตอรี่ควบคุมและบาลานซ์กำลังไฟด้วย TJM 25A 3 STAGE DC SOLAR BATTERY CHARGER สามารถแปลงไฟเพื่อเครื่องใช้ไฟฟ้าสำหรับสายแคมป์ปิ้ง

- NEW! ISUZU MU-X THE NEXT PEAK รุ่น ACTIVE เครื่องยนต์ 2.2 Ddi MAXFORCE 163 แรงม้า แต่งด้วย CONCEPT SPORT SUV ด้วยชุดแต่งบอดี้พาร์ทรอบคันสไตล์สปอร์ตจาก AKC เสริมสมรรถนะด้วยชุดโหลดช่วงล่าง 3.5 นิ้วจาก Profender รุ่น Tune Series พร้อมปีกนกปรับองศา เสริมลุคให้สปอร์ตยิ่งขึ้นด้วยล้อ LENSO รุ่นใหม่ล่าสุด JAGER AJAX พร้อมยาง YOKOHAMA ADVAN SPORT ขนาด 265/50 R20 เสริมสมรรถนะระบบเบรกด้วยเบรกหน้า CALIPER แบบ 6 POT รุ่น R8 พร้อมจานเบรกขนาด 355 มม. CALIPER เบรกหลังแบบ 4 POT รุ่น R3 พร้อมจานเบรกขนาด 355 มม. จาก Run Stop ตกแต่งด้วยลวดลายกราฟฟิกพิเศษ ให้ดูโดดเด่น สะกดทุกสายตา

- NEW! ISUZU MU-X THE NEXT PEAK รุ่น RS เครื่องยนต์ 2.2 Ddi MAXFORCE 163 แรงม้า ขับเคลื่อน 2 ล้อ ตกแต่งให้เป็นรถที่ตอบสนองกับกิจกรรมกลางแจ้ง ด้วยชุดอุปกรณ์ยึดจับ SUP BOARD บนหลังคารถจาก THULE รุ่น SUP TAXI XT เพิ่มความโดดเด่นด้วยล้อ LENSO รุ่น JAGER ZETA พร้อมยาง BRIDGESTONE DUELER AT002 ขนาด 265/50 R20

- NEW! ISUZU D-MAX HI-LANDER เครื่องยนต์ 2.2 Ddi MAXFORCE 163 แรงม้า รุ่น M ให้คุณใช้ชีวิตอย่างเต็มที่ ตอบสนองต่อทุกไลฟ์สไตล์ ด้วยชุดอุปกรณ์ยึดจับจักรยานในกระบะรุ่น BED RIDER 822 XTR พร้อมจักรยาน Trek แบบ Mountain & City Bike
- NEW! ISUZU D-MAX SPARK เครื่องยนต์ 2.2 Ddi MAXFORCE 163 แรงม้า รุ่น S แต่งเอาใจสายซิ่งด้วยชุดแต่งบอดี้พาร์ทรอบคันสไตล์สปอร์ตจาก FORTE จัดทรงด้วยชุดโหลดช่วงล่างจาก Profender รุ่น Mono Tube พร้อมล้อ MK SPORT รุ่น N-5SRR Limited และยาง NITTO รุ่น NT420SD ขนาด 255/50R18
อีกทั้งยังมีกิจกรรม ISUZU Time Traveler “อีซูซุ คู่หูคู่ใจ ให้ AI พาข้ามเวลา” ให้ทุกคนได้ร่วมสนุกกับ AI ที่จะพาคุณเดินทางผ่านช่วงเวลาต่างๆ ไปกับคู่หู ISUZU ผ่านทาง https://bit.ly/41HwKmo พร้อมลุ้นรับรางวัลสุดพิเศษมากมาย อีกทั้งยังสามารถร่วมถ่ายทอดประสบการณ์ความผูกพันกับอีซูซุในกิจกรรม “ความทรงจำดี ๆ กับอีซูซุ” ภายใต้แคมเพจ์นพิเศษ “Isuzu Trusted Buddy… อีซูซุเคียงข้างคุณ เคียงคู่ไทย” พร้อมติด #IsuzuTrustedStory ในแอปพลิเคชัน my-ISUZU และ Facebook : All-New ISUZU D-Max, All-New ISUZU MU-X และ ISUZU Trucks Thailand
เชิญสัมผัสและทดลองขับยนตรกรรมอีซูซุหลากรุ่นได้ที่บูธอีซูซุ ในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 46 ณ อาคารชาเลนเจอร์ อิมแพค เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 26 มีนาคม – 6 เมษายน 2568
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine
-
News Car1 Min Read
มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ชวนสัมผัสยนตรกรรมฟูลไฮบริดสุดล้ำสมัย 2 รุ่นใหม่ล่าสุด‘ออล-นิว มิตซูบิชิ เอ็กซ์ฟอร์ส เอชอีวี’ และ
‘มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ เอชอีวี เพลย์’พร้อมแคมเปญพิเศษ ที่งานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 46
มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ชวนลูกค้าสัมผัสความล้ำสมัย พร้อมดีไซน์สุดโฉบเฉี่ยว กับครั้งแรกของการจัดแสดงรถยนต์ฟูลไฮบริด 2 รุ่นใหม่ล่าสุด ออล-นิว มิตซูบิชิ เอ็กซ์ฟอร์ส เอชอีวี และ มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ เอชอีวี เพลย์ ร่วมด้วยแคมเปญพิเศษ ที่งานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 46 พร้อมเดินหน้าประกาศความพร้อม ส่งทีมมิตซูบิชิ แรลลี่อาร์ต เตรียมลงสู้ศึกการแข่งขันรายการเอเชีย ครอสคันทรี แรลลี่ (เอเอ็กซ์ซีอาร์) 2025 ด้วยรถแข่ง ไทรทัน แรลลี่คาร์ และตอกย้ำความสำเร็จด้วยการคว้า 5 รางวัลรถยอดเยี่ยมแห่งปี 2568 หรือ ‘Car of the Year 2025’
มร. เรียวอิจิ อินาบะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “จากที่เราได้เปิดตัวรถ ออล-นิว มิตซูบิชิ เอ็กซ์ฟอร์ส เอชอีวี ครั้งแรกในโลกที่ประเทศไทย ในวันที่ 20 มีนาคมที่ผ่านมา งานนี้จึงถือเป็นครั้งแรกที่ลูกค้าจะได้ชมการจัดแสดงรถ ออล-นิว มิตซูบิชิ เอ็กซ์ฟอร์ส เอชอีวี ที่หลายๆ คนรอคอย รวมถึงรถ มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ เอชอีวี เพลย์ ซึ่งเป็นรถรุ่นพิเศษ จำนวนจำกัด โดยรถยนต์ทั้งสองรุ่นนี้ ถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จในการพัฒนารถยนต์ฟูลไฮบริด พร้อมด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย ดีไซน์ที่โดดเด่น และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม”
“นอกจากนี้ เรายังมีข้อเสนอพิเศษสำหรับลูกค้าที่จองซื้อรถ ออล-นิว มิตซูบิชิ เอ็กซ์ฟอร์ส เอชอีวี ภายในวันที่ 31 พฤษภาคม และรับมอบรถภายในวันที่ 31 กรกฎาคมนี้ กับแคมเปญ “Early Bird Offers เฉพาะช่วงเปิดตัวเท่านั้น” โดยลูกค้าจะได้รับบัตรของขวัญที่พักโรงแรมและรีสอร์ตในเครือเซ็นทารา มูลค่า 10,000 บาท รวมถึงโปรโมชั่นอื่นๆ อีกมากมายสำหรับรถยนต์ทุกร่น” มร. อินาบะ กล่าวเพิ่มเติม
ออล-นิว มิตซูบิชิ เอ็กซ์ฟอร์ส เอชอีวี ได้รับการพัฒนาร่วมกับทีมพัฒนาผลิตภัณฑ์ชาวไทยและมีฐานการผลิตที่โรงงานมิตซูบิชิ มอเตอร์ส แหลมฉบัง จ.ชลบุรี มั่นใจได้ในคุณภาพรถยนต์และบริการหลังการขายที่ครบครัน แบ่งออกเป็น 3 รุ่นย่อย ได้แก่ อิกไนท์ (Ignite) อัลทิเมท (Ultimate) และรุ่นท็อป อัลทิเมท เอ็กซ์ (Ultimate X) พร้อมสะกดทุกสายตาด้วยดีไซน์ที่โดดเด่น ภายใต้แนวคิด ซิลก์กี แอนด์ โซลิด (Silky & Solid) สะท้อนความเรียบหรูแต่ทรงพลังในทุกมิติอันเป็นเอกลักษณ์ พร้อมมอบประสบการณ์การขับขี่ที่สนุกกว่าในทุกการเดินทาง ผสานการทำงานของ 3 สุดยอดเทคโนโลยี ในแบบ MITSUBISHI e:MOTION ที่เหนือระดับไปอีกขั้น ด้วยระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด Generation ใหม่ ให้อัตราเร่งที่ยอดเยี่ยม แต่ประหยัดน้ำมันมากขึ้น เฉลี่ยอยู่ที่ 24.4 กิโลเมตร/ลิตร* มาพร้อมกับ โหมดการขับขี่ 7 รูปแบบ หรือ 7 Drive Mode ให้ความปลอดภัย ลุยได้ในทุกสภาพถนน และระบบควบคุมการขับเคลื่อนและสมดุลขณะเข้าโค้ง (Active Yaw Control: AYC) เพื่อการขับขี่ที่มั่นใจสูงสุดขณะเข้าโค้ง พร้อมช่วงล่างและระบบกันสะเทือนที่ได้รับการพัฒนาขึ้นใหม่ ให้เหมาะกับทุกสภาพถนนในประเทศไทย จากการทดสอบจริงบนถนนของเมืองไทยกว่า 100,000 กิโลเมตร
นอกจากนี้ ออล-นิว มิตซูบิชิ เอ็กซ์ฟอร์ส เอชอีวี ยังโดดเด่นและเหนือกว่าด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยรอบคัน ไดมอนด์ เซนส์ (Diamond Sense) แบบครบครัน ซึ่งรวมถึง กล้องมองภาพรอบคัน (Multi Around Monitor: MAM) พร้อมระบบตรวจจับการเคลื่อนไหว (Moving Object Detection: MOD) ถุงลม 6 ตำแหน่ง และอีกมากมาย พร้อมมอบความสะดวกสบายสูงสุดให้กับผู้ขับขี่และผู้โดยสาร ด้วยห้องโดยสารกว้าง พื้นที่เก็บของหลากหลาย ตอบสนองไลฟ์สไตล์ทุกรูปแบบ โดยในรุ่นท็อป อัลทิเมท เอ็กซ์ (Ultimate X) ยังมาพร้อมระบบเสียงไดนามิค ซาวน์ ยามาฮา พรีเมียม (Dynamic Sound Yamaha Premium) และลำโพง 8 จุด เพื่อคุณภาพเสียงเหนือระดับอีกด้วย
อีกหนึ่งไฮไลต์ภายในงาน ได้แก่ มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ เอชอีวี เพลย์ และ เอ็กซ์แพนเดอร์ ครอส เอชอีวี เพลย์ รุ่นพิเศษ จำนวนจำกัด ที่ตอกย้ำความสำเร็จในฐานะผู้นำตลาดรถยนต์ครอบครัวอเนกประสงค์ 7 ที่นั่งขนาดเล็ก ของรถจากซีรีส์ ‘มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์’ ที่มีการติดตั้งชุดแต่งจากโรงงานในโทนสีดำ ให้บุคลิกใหม่ที่โดดเด่น มีสไตล์ พร้อมมอบประสบการณ์การขับขี่เหนือระดับในแบบ MITSUBISHI e:MOTION ด้วยดีไซน์ที่โดดเด่นในสไตล์สปอร์ตพรีเมียม ห้องโดยสารกว้างขวาง เบาะนั่งปรับพับได้หลากหลายรูปแบบและมีพื้นที่จัดเก็บสัมภาระที่ปรับเปลี่ยนได้ตามต้องการ ตอบโจทย์ทุกความต้องการ และรองรับไลฟ์สไตล์สุดแอ็กทีฟของครอบครัวยุคใหม่
ภายในงานยังจัดแสดง มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต ไพร์ม ใหม่ มาพร้อมกับฟีเจอร์ที่ครบครันมากยิ่งขึ้น ในราคาจำหน่ายเท่าเดิม เพิ่มความคุ้มค่าด้วยการยกระดับความสะดวกสบายและความปลอดภัยสำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสาร ด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยรอบคัน ไดมอนด์ เซนส์ (Diamond Sense) เพื่อความมั่นใจในทุกการเดินทาง และมอบประสบการณ์การขับขี่ที่ปลอดภัยยิ่งขึ้น ภายในห้องโดยสารสะดวกสบาย สะท้อนความหรูหราและทันสมัย
ปิดท้ายด้วย มิตซูบิชิ ไทรทัน แอทลีท ขับเคลื่อนด้วยขุมพลังไฮเปอร์ พาวเวอร์ เอ็กซ์ทู (Hyper Power X2) กำลังสูงสุด 204 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 470 นิวตันเมตร ตอบสนองไลฟ์สไตล์สปอร์ตพรีเมียมด้วยรูปลักษณ์โดดเด่นมีสไตล์ สะกดทุกสายตา ห้องโดยสารสะดวกสบายทุกจุด ผสานดีไซน์ภายในสีทูโทน เหนือกว่าด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะรอบคัน ‘Diamond Sense’ พร้อมระบบพวงมาลัยพาวเวอร์แบบไฟฟ้า (Electric Power Steering: EPS) และระบบขับเคลื่อน ซูเปอร์ซีเล็คต์ โฟร์วีลไดร์ฟ ทู (Super Select 4WD II) เอกลักษณ์เฉพาะของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ซึ่งสามารถเปลี่ยนโหมดเป็นระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ (4H) ได้ทันทีแม้ในขณะขับขี่ด้วยความเร็ว (Shift-on-the-Fly) ทั้งยังสามารถขับเคลื่อน 4 ล้อฟูลไทม์ (Full-Time All Wheel Control) เสริมความปลอดภัยให้ขับขี่คล่องตัวพร้อมตะลุยทุกสภาพอากาศและพื้นผิวถนนทุกรูปแบบด้วย 7 โหมดการขับขี่ และระบบควบคุมการขับเคลื่อนและสมดุลขณะเข้าโค้ง (Active Yaw Control: AYC)
นอกจากการขนทัพสุดยอดยนตรกรรมมาจัดแสดงแล้ว มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ยังประกาศความพร้อมเตรียมส่งทีมมิตซูบิชิ แรลลี่อาร์ต ลงสู้ศึกเอเชีย ครอสคันทรี แรลลี่ หรือ เอเอ็กซ์ซีอาร์ 2025 ด้วยรถแข่ง ไทรทัน แรลลี่คาร์ โฉมใหม่* เพื่อกลับมาทวงตำแหน่งแชมป์อีกครั้ง พร้อมประกาศความสำเร็จที่ได้คว้า 5 รางวัลรถยอดเยี่ยมแห่งปี 2568 หรือ ‘Car of the Year 2025’ จากบริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ตอกย้ำความเป็นเลิศด้านคุณภาพผลิตภัณฑ์ สมรรถนะ และความพึงพอใจของลูกค้า รางวัลอันทรงเกียรติเหล่านี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ในการพัฒนาด้านวิศวกรรม นวัตกรรม และเทคโนโลยีล้ำสมัยอย่างไม่หยุดยั้ง เพื่อสร้างมาตรฐานใหม่ในทุกกลุ่มยานยนต์ โดยรถมิตซูบิชิ ที่ได้รับรางวัลนปีนี้ ประกอบด้วย
- มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ ครอส เอชอีวี : รางวัลรถอเนกประสงค์ไฮบริดขนาดเล็ก เครื่องยนต์ต่ำกว่า 1,600 ซีซี ยอดเยี่ยม
- มิตซูบิชิ ไทรทัน แอทลีท : รางวัลรถกระบะขับเคลื่อน 4 ล้อ เครื่องยนต์ต่ำกว่า 2,500 ซีซี ยอดเยี่ยม
- มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต อีลีท : รางวัลรถอเนกประสงค์ ขับเคลื่อน 4 ล้อ เครื่องยนต์ต่ำกว่า 2,500 ซีซี ยอดเยี่ยม
- มิตซูบิชิ แอททราจ : รางวัลรถยนต์อีโคคาร์ 4 ประตู ราคาคุ้มค่า ยอดเยี่ยม
- มิตซูบิชิ มิราจ : รางวัลรถยนต์อีโคคาร์ ประหยัดน้ำมัน ยอดเยี่ยม
ผู้สนใจสามารถชมรถยนต์ มิตซูบิชิ ทุกรุ่นได้ที่บูธมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย (A9) ที่งานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 46 หรือ Bangkok International Motor Show 2025 ณ อิมแพค ชาเลนเจอร์ 1 – 3 เมืองทองธานี สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม และนัดหมายเพื่อทดลองขับได้ที่ www.mitsubishi-motors.co.th หรือ มิตซูบิชิ คอลเซ็นเตอร์ หมายเลขโทรศัพท์ 02-079-9500 เปิดรับสายทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง
*รถแข่ง ไทรทัน แรลลี่คาร์ โฉมใหม่ จะถูกจัดแสดงที่บูธมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย เฉพาะในวันแถลงข่าวเท่านั้น
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine -
News Car3 Min Read
บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย ส่งโปรแรงสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า จ่ายค่าผ่อนให้ 9 เดือนเต็ม พร้อมดอกเบี้ย 0% นานสูงสุด 5 ปี และข้อเสนอที่พลาดไม่ได้อีกมากมายในงานมอเตอร์โชว์ 2025

หลังจากที่ได้เผยโฉมทัพยานยนต์รุ่นใหม่ล่าสุดจากทั้งบีเอ็มดับเบิลยู มินิ และบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราดที่จะมาร่วมสร้างความตื่นตาในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 46 บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย เตรียมยกระดับความร้อนแรงไปอีกขั้นด้วยข้อเสนอสุดพิเศษจากแคมเปญ ‘JOY With Confidence’ สำหรับลูกค้าที่เลือกเป็นเจ้าของรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูภายในงาน สำหรับบีเอ็มดับเบิลยู i รุ่นพลังงานไฟฟ้าที่เข้าร่วมรายการ ลูกค้าจะได้เป็นเจ้าของรถคันใหม่ได้อย่างไร้กังวล โดยไม่ต้องผ่อนถึง 9 เดือนเต็ม ขณะที่บีเอ็มดับเบิลยู M และ M Performance รุ่นที่ร่วมรายการ มาพร้อมกับคอร์สเรียนเทคนิคการขับขี่สุดเร้าใจในเกาหลีใต้ ภายใต้ความดูแลและคำแนะนำจาก Instructor ผู้ฝึกสอนที่เชี่ยวชาญ เพื่อยกระดับประสบการณ์ให้พิเศษยิ่งขึ้น บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย ยังมีดีลพิเศษเพิ่มเติมสำหรับรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูอีกหลายรุ่น ครบครันทั้งการขยายระยะเวลารับประกัน ส่วนลดจากการเทรดรถยนต์คันเก่า เครดิตการชาร์จ แบตเตอรี่สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า และการรับประกันมูลค่าขายต่อในอนาคต

สำหรับรถยนต์และมอเตอร์ไซค์รุ่นใหม่ที่จะมาเปิดตัวในงานนั้น บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ยังถือโอกาสนี้ประกาศราคาจำหน่ายยานยนต์ใหม่ ก่อนที่จะได้สัมผัสตัวจริงกันในงานมอเตอร์โชว์ที่จะเปิดฉากขึ้นในวันที่ 26 มีนาคมนี้
ข้อเสนอพิเศษใหม่ล่าสุดจากบีเอ็มดับเบิลยู ในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 46
สำหรับลูกค้าที่ทำการจอง และรับมอบรถบีเอ็มดับเบิลยูรุ่นที่กำหนด พร้อมทำสัญญาทางการเงินกับ บีเอ็มดับเบิลยู ไฟแนนเชียล เซอร์วิส ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม – 30 เมษายน 2568
รุ่น ข้อเสนอพิเศษ [ใหม่] บีเอ็มดับเบิลยู i5 eDrive40, iX xDrive50, i7 xDrive60ข้อเสนอฟรีค่างวดผ่อนชำระ 9 เดือน, ข้อเสนอราคาผ่อนพิเศษต่อเดือน, และข้อเสนอดอกเบี้ยพิเศษ 0% · บีเอ็มดับเบิลยูผ่อนให้ถึง 9 เดือนเต็ม เมื่อเลือกเป็นเจ้าของภายใต้สัญญาในโปรแกรม Hire Purchase with Balloon· ผ่อนเริ่มต้น 25,000 บาท/เดือน (สำหรับรุ่น i5 eDrive40 M Sport (Inspiring)) · อัตราดอกเบี้ยพิเศษ 0% เมื่อทำสัญญากับบีเอ็มดับเบิลยู
ไฟแนนเชียล เซอร์วิส ประเทศไทย เป็นระยะเวลา 48-60 เดือน· ฟรี BMW Wall Box
· ฟรี เครดิตการชาร์จมูลค่า 20,000 บาทที่สถานีชาร์จ Elex by EGAT
· ขยายระยะเวลาการรับประกันคุณภาพรถยนต์ BMW Extended Warranty สูงสุด 8 ปี
· การันตีมูลค่าการขายต่อในอนาคต สำหรับลูกค้าที่ทำสัญญาแบบ BMW Freedom Choice
[ใหม่] บีเอ็มดับเบิลยู X1 · ฟรี ประกันภัยชั้น 1 BMW Protect สูงสุด 1 ปี สำหรับลูกค้าที่ทำสัญญาในโปรแกรม Hire Purchase, Hire Purchase With Balloon, Finance Lease หรือ BMW Freedom Choice· อัตราดอกเบี้ยพิเศษ 1.99% · ผ่อนเริ่มต้น 15,799 บาท/เดือน (สำหรับรุ่น X1 sDrive20i xLine เท่านั้น)
· ขยายเวลาการรับประกันคุณภาพรถยนต์ BMW Extended Warranty เพิ่มอีก 1 ปี
· รับส่วนลดสูงสุด 100,000 บาท (สำหรับรุ่น X1 sDrive20i xLine เท่านั้น) หรือ 50,000 บาท (สำหรับรุ่น X1 sDrive20i M Sport เท่านั้น) เมื่อนำรถยนต์เก่ามาแลกซื้อ
บีเอ็มดับเบิลยู X3 20d, X3 M50 · ฟรี ประกันภัยชั้น 1 BMW Protect สูงสุด 1 ปี สำหรับลูกค้าที่ทำสัญญาในโปรแกรม Hire Purchase With Balloon, Finance Lease หรือ BMW Freedom Choice· ผ่อนเริ่มต้น 32,299 บาท/เดือน บีเอ็มดับเบิลยู 330e · ฟรี ประกันภัยชั้น 1 BMW Protect สูงสุด 2 ปี สำหรับลูกค้าที่ทำสัญญาในโปรแกรม Hire Purchase, Hire Purchase With Balloon, Finance Lease หรือ BMW Freedom Choice· ผ่อนเริ่มต้น 23,799 บาท/เดือน บีเอ็มดับเบิลยู M340i · ฟรี ประกันภัยชั้น 1 BMW Protect สูงสุด 1 ปี สำหรับลูกค้าที่ทำสัญญาในโปรแกรม Hire Purchase With Balloon, Finance Lease หรือ BMW Freedom Choice· ผ่อนเริ่มต้น 33,999 บาท/เดือน บีเอ็มดับเบิลยู 320d · ฟรี ประกันภัยชั้น 1 BMW Protect สูงสุด 3 ปี สำหรับลูกค้าที่ทำสัญญาในโปรแกรม Hire Purchase, Hire Purchase With Balloon, Finance Lease หรือ BMW Freedom Choice· อัตราดอกเบี้ยพิเศษ 1.99% · ผ่อนเริ่มต้น 23,799 บาท/เดือน
บีเอ็มดับเบิลยู iX3 · ฟรี BMW Wall Box· ฟรี ประกันภัยชั้น 1 BMW Protect สูงสุด 3 ปี สำหรับลูกค้าที่ทำสัญญาในโปรแกรม Hire Purchase, Hire Purchase With Balloon, Finance Lease หรือ BMW Freedom Choice · อัตราดอกเบี้ยพิเศษ 1.99%
· ผ่อนเริ่มต้น 27,499 บาท/เดือน
บีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 5 · ฟรี ประกันภัยชั้น 1 BMW Protect สูงสุด 3 ปี สำหรับลูกค้าที่ทำสัญญาในโปรแกรม Hire Purchase, Hire Purchase With Balloon, Finance Lease หรือ BMW Freedom Choice· อัตราดอกเบี้ยพิเศษ 1.99% · ผ่อนเริ่มต้น 32,299 บาท/เดือน
บีเอ็มดับเบิลยู M และ M Performance (รุ่นที่เข้าร่วม บีเอ็มดับเบิลยู M240i, บีเอ็มดับเบิลยู i4 M50, บีเอ็มดับเบิลยู M440i
(รุ่นก่อนปรับโฉม), บีเอ็มดับเบิลยู Z4 M40i, บีเอ็มดับเบิลยู i5 M60, บีเอ็มดับเบิลยู M3 CS, บีเอ็มดับเบิลยู M3 Touring, บีเอ็มดับเบิลยู M4 Coupe (รุ่นก่อนปรับโฉม) และ บีเอ็มดับเบิลยู X4M)· ฟรี ประกันภัยชั้น 1 BMW Protect สูงสุด 3 ปี สำหรับลูกค้าที่ทำสัญญาในโปรแกรม Hire Purchase, Hire Purchase With Balloon, Finance Lease หรือ BMW Freedom Choice· ผ่อนเริ่มต้น 37,299 บาท/เดือน · ฟรี แพ็คเกจ BMW Driving Experience ที่เกาหลีใต้ สำหรับรุ่น M240i, i4 M50, i5 M60, M440i (รุ่นก่อนปรับโฉม), Z4 M40i, M3 CS, M3 Touring (รุ่นก่อนปรับโฉม) และ M4 Coupe (รุ่นก่อน
ปรับโฉม)บีเอ็มดับเบิลยู 320Li / 330Li · ฟรี ประกันภัยชั้น 1 BMW Protect สูงสุด 2 ปี สำหรับลูกค้าที่ทำสัญญาในโปรแกรม Hire Purchase, Hire Purchase With Balloon, Finance Lease หรือ BMW Freedom Choice· อัตราดอกเบี้ยพิเศษ 1.99% · ผ่อนเริ่มต้น 19,999 บาท/เดือนหรือ อัปเกรดระยะเวลา BSI Ultimate นานสูงสุด 5 ปี
· ฟรี ขยายเวลา BMW Extended Warranty (การรับประกันคุณภาพรถยนต์) เพิ่มอีก 1 ปี
บีเอ็มดับเบิลยู X3 30e · ฟรี ประกันภัยชั้น 1 BMW Protect สูงสุด 2 ปี สำหรับลูกค้าที่ทำสัญญาในโปรแกรม Hire Purchase, Hire Purchase With Balloon, Finance Lease หรือ BMW Freedom Choice· ผ่อนเริ่มต้น 33,099 บาท/เดือน บีเอ็มดับเบิลยู X5 30e · ฟรี ประกันภัยชั้น 1 BMW Protect สูงสุด 2 ปี สำหรับลูกค้าที่ทำสัญญาในโปรแกรม Hire Purchase, Hire Purchase With Balloon, Finance Lease หรือ BMW Freedom Choice· ผ่อนเริ่มต้น 46,399 บาท/เดือน บีเอ็มดับเบิลยู รุ่นพลังงานไฟฟ้า (บีเอ็มดับเบิลยู i4, i5, i7, iX2, iX)
· ฟรี BMW Wall Box· ฟรี ประกันภัยชั้น 1 BMW Protect สูงสุด 1 ปี สำหรับลูกค้าที่ทำสัญญาในโปรแกรม Hire Purchase With Balloon, Finance Lease หรือ BMW Freedom Choice · ผ่อนเริ่มต้น 31,099 บาท/เดือน
· ฟรี เครดิตการชาร์จมูลค่า 20,000 บาทที่สถานีชาร์จ Elex by EGAT
*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.bmw.co.th/th/topics/offers-and-services/promotional-offers/bmw-march-2025-motorshowoffer.html#tabs-977a40841f-item-1d09a77bfc-tab
ผู้สนใจสามารถค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย เฟซบุ๊กแฟนเพจ BMW Thailand หรือติดต่อ BMW Contact Centre ที่เบอร์ 1397

ข้อเสนอพิเศษจากมินิในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 46
พบกับข้อเสนอพิเศษ** ที่พร้อมเปิดทางให้คุณได้โลดแล่นไปกับมินิหลากสไตล์ ไม่ว่าจะเป็นยานยนต์ไฟฟ้าขับสนุกหรือรถอเนกประสงค์สำหรับการผจญภัยครั้งใหม่ ด้วยความอุ่นใจจากอัตราผ่อนชำระพิเศษ ประกันภัยชั้นหนึ่ง และอื่นๆ
รุ่น ข้อเสนอพิเศษ MINI Cooper SE และ MINI Aceman SE · ฟรี MINI Wall Box· ฟรี ประกันภัยชั้น 1 MINI Protect สูงสุด 2 ปี สำหรับลูกค้าที่ทำสัญญาในโปรแกรม Hire Purchase, Hire Purchase With Balloon, Finance Lease หรือ BMW Freedom Choice · ผ่อนเริ่มต้น 11,555 บาท/เดือน (สำหรับ MINI Cooper SE) และ 15,555 บาท/เดือน (สำหรับ MINI Aceman SE)
MINI Countryman S ALL4 · ฟรี ประกันภัยชั้น 1 MINI Protect สูงสุด 3 ปี สำหรับลูกค้าที่ทำสัญญาในโปรแกรม Hire Purchase, Hire Purchase With Balloon, Finance Lease หรือ BMW Freedom Choice· ฟรี กล้องหน้ารถ Advanced Car Eye 3.0 สำหรับรุ่น MINI Countryman S ALL4 Classic · ผ่อนเริ่มต้น 22,099 บาท/เดือน
**เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.mini.co.th/en_TH/home/serv/special-offers/the_new_mini_family.html

ข้อเสนอพิเศษจากบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 46
ออกตัวสู่ทุกเส้นทางกับสองล้อคู่ใจคันใหม่จากบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ด้วยข้อเสนอพิเศษ*** ที่มีทั้งประกันภัยชั้นหนึ่ง ขยายเวลาบริการหลังการขาย และอัตราดอกเบี้ยพิเศษสุด
รุ่น ข้อเสนอพิเศษ บีเอ็มดับเบิลยู C 400 GT · ฟรี ประกันภัยชั้น 1 BMW Motorrad Protect สูงสุด 1 ปี· ขยายระยะเวลา แพ็คเกจบริการหลังการขาย BMW Motorrad Service Inclusive เป็น 3 ปีเต็ม บีเอ็มดับเบิลยู R 1250 GS Adventure · เลือกจากo ฟรี ประกันภัยชั้น 1 BMW Motorrad Protect สูงสุด 1 ปี o อัตราดอกเบี้ยพิเศษ 1.99%
บีเอ็มดับเบิลยู R 1300 GS · อัตราดอกเบี้ยพิเศษ 2.65% สำหรับลูกค้าเดิมของบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด เท่านั้น
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine
-
News Car1 Min Read
มาสด้าโชว์สุดยอดเทคโนโลยีแห่งอนาคต Multi-solution นำรถต้นแบบ Mazda Iconic SP และรถไฟฟ้า Mazda6e จัดแสดงครั้งแรกในประเทศไทย พร้อมเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่แน่นบูธ

มาสด้าสร้างเซอร์ไพรส์ใหญ่ให้ชาวไทยได้สัมผัสเป็นครั้งแรก โชว์สุดยอดเทคโนโลยียานยนต์แห่งอนาคต ตามแนวทาง Multi-solution จัดแสดงนวัตกรรมใหม่ 2 รุ่น นำโดย Mazda Iconic SP คอนเซ็ปต์คาร์ของรถสปอร์ตคอมแพ็ค ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า รองรับการใช้พลังงานสะอาดหลากหลายรูปแบบ และ Mazda6e รถยนต์ไฟฟ้า 100% BEV รุ่นแรกจากมาสด้า ตอกย้ำจุดยืนในการส่งมอบเทคโนโลยียานยนต์ที่มีความเป็นกลางทางคาร์บอน พร้อมเปิดตัวรถยนต์นั่งรุ่นยอดนิยม New Mazda2 Essential โดดเด่นเรื่องความคุ้มค่าและดีไซน์ที่ตอบโจทย์ ในราคาที่เข้าถึงได้ง่ายขึ้นกว่าเดิม ทั้งยังแนะนำ New Mazda MX-5 35th Anniversary Edition รถสปอร์ตโรดสเตอร์รุ่นพิเศษที่เฉลิมฉลองการครบรอบ 35 ปี แบรนด์ไอคอนเจ้าตำนานความสนุกสนานในการขับขี่มาอวดโฉมพร้อมเปิดให้จองเป็นเจ้าของ ควบคู่กับรถยนต์มาสด้าครบทุกรุ่น ด้วยข้อเสนอสุดพิเศษ อาทิ ดอกเบี้ยต่ำสุด 0% ผ่อนนานสูงสุด 72 เดือน ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง Mazda Premium Insurance ฟรีบัตรน้ำมันสำหรับเจ้าของรถมาสด้าและครอบครัว มูลค่าสูงสุด 30,000 บาท และฟรีโปรแกรมคุ้มครองและดูแลรถ MUS นานสูงสุด 7 ปี ณ บูธมาสด้า ในงาน มอเตอร์ โชว์ 2025 ระหว่างวันที่ 26 มี.ค. 68 – 6 เม.ย. 68 นี้ ที่ อิมแพ็ค เมืองทองธานี หรือรับข้อเสนอเดียวกันนี้ได้ที่โชว์รูมมาสด้าทั่วประเทศ

นายธีร์ เพิ่มพงศ์พันธ์ ประธานกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา มาสด้าได้มุ่งมั่นเพื่อยกระดับประสบการณ์ในการขับขี่ให้กับลูกค้าของเรา เพราะเราเชื่อว่าความสุขในการขับขี่รถยนต์ จะนำมาซึ่งความสุขในการใช้ชีวิต และในปีนี้ มาสด้าพร้อมที่จะถ่ายทอดวิสัยทัศน์นี้ให้ชัดเจนยิ่งขึ้น ด้วยการนำกลยุทธ์การบริหารงานโดยมีลูกค้าเป็นศูนย์กลางในทุกบริบท และแนวคิดที่เชื่อว่าในทุกรายละเอียดของชีวิต มีความสุขขับเคลื่อนเราเสมอ หรือ “Joy Drives Lives” มาใช้ในการสร้างประสบการณ์ลูกค้าในทุก ๆ ขั้นตอน เพื่อให้มั่นใจได้ว่าลูกค้าจะได้รับความสุขและได้รับประสบการณ์ที่ดีจากแบรนด์มาสด้า ควบคู่กับการมุ่งมั่นพัฒนาเทคโนโลยียานยนต์ที่มีความเป็นกลางทางคาร์บอน เพื่อส่งมอบให้กับลูกค้าของเราทั้งในวันนี้และในอนาคต
เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์เหล่านี้ มาสด้าจึงขับเคลื่อนธุรกิจด้วยแนวทาง Multi-solution เพื่อส่งมอบเทคโนโลยียานยนต์ที่มาพร้อมพลังงานทางเลือกที่หลากหลายให้กับลูกค้าทั่วโลก รวมถึงลูกค้าในประเทศไทย ซึ่งในขณะนี้ เราอยู่ในช่วงเฟสที่ 2 ระหว่างปี 2025-2027 ซึ่งเป็นช่วงของการเปลี่ยนผ่านไปสู่พลังงานไฟฟ้า ด้วยการนำเสนอทั้งรถยนต์ ประเภท xEVs, Hybrid, Plug-in Hybrid และรถไฟฟ้า BEV เข้าสู่ตลาด เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้าและสร้างความยั่งยืนให้กับโลก สังคม และผู้คน เพื่อส่งมอบให้กับผู้คนในเจนเนอเรชั่นถัดไป

สำหรับไฮไลท์สำคัญของบูธมาสด้าในงานมอเตอร์โชว์ 2025 นี้ มาสด้าได้นำยนตรกรรมที่ได้รับการพัฒนาตามแนวทาง Multi-solution เพื่อนำเสนอเทคโนโลยียานยนต์ที่มาพร้อมพลังงานทางเลือกที่หลากหลาย มาให้ลูกค้าได้รับชมและสัมผัสเป็นครั้งแรกในประเทศไทย ประกอบไปด้วย
- MAZDA ICONIC SP ยานยนต์ต้นแบบสปอร์ตคอมแพ็คคาร์ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า โดยใช้เครื่องยนต์โรตารี่ อันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์มาสด้า แบบ 2 โรเตอร์ ทำหน้าที่ผลิตกระแสไฟฟ้าเข้าสู่แบตเตอรี่ รองรับการใช้พลังงานหลากหลายรูปแบบ อาทิ พลังงานไฮโดรเจน และพลังงานสะอาดหลากหลายรูปแบบ โดยเฉพาะพลังงานที่ได้จากธรรมชาติ อาทิ สาหร่ายขนาดเล็ก หรือเปลือกหอย ซึ่งยังคงถ่ายทอดเอกลักษณ์แบรนด์มาสด้าไว้อย่างเต็มเปี่ยม มีจุดศูนย์ถ่วงต่ำ น้ำหนักเบา กระจายน้ำหนัก 50:50 พร้อมการออกแบบตามแนวทาง Kodo Design รวมถึงการขับขี่ที่เป็นหนึ่งเดียวกันกับรถ ตามปรัชญา จินบะ-อิไต ที่พัฒนาขึ้นโดยยึดหลักมนุษย์เป็นศูนย์กลาง เพื่อมอบประสบการณ์ความสนุกสนานในการขับขี่ พร้อมได้รับการออกแบบให้สอดคล้องกับยุคของพลังงานไฟฟ้า เพื่อถ่ายทอดปณิธานความสุขในการขับขี่ของมาสด้า โดยรถต้นแบบคันนี้กำลังอยู่ในขั้นตอนของการพัฒนา เพื่อฟื้นตำนานรถสปอร์ตเครื่องยนต์โรตารี่ให้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง และนำเสนอพลังงานทางเลือกหลากหลายรูปแบบให้กับลูกค้า
สีภายนอก “VIOLA RED” ได้รับการสร้างสรรค์ขึ้นตามความปรารถนาของมาสด้าที่จะ “เชิดชูสีแดง” และสอดคล้องกับปรัชญาในการ “ยกระดับประสบการณ์ความสุขในการขับขี่ และการใช้ชีวิตในทุกด้านให้กับลูกค้าทุกคน” โดยมุ่งเน้นไปที่สีสันที่สดใส แต่ในขณะเดียวกันก็แสดงให้เห็นถึงความสง่างามของมิติของตัวรถที่เกิดจากแสงและเงาที่ตกกระทบลงบนตัวรถ
ข้อมูลจำเพาะเบื้องต้นของ MAZDA ICONIC SP
ความยาว x ความกว้าง x ความสูง (มม.) 4,180 × 1,850 × 1,150 ระยะฐานล้อ (มม.) 2,590 อัตราส่วน แรงม้า – น้ำหนัก 3.9 แรงม้าสูงสุด (PS) 370 น้ำหนัก (กก.) 1,450 - Mazda6e รถยนต์ไฟฟ้า 100% BEV รุ่นแรกที่มาสด้าพัฒนาขึ้นตามแนวทาง Multi-solution Technology สะท้อนเอกลักษณ์เฉพาะมาสด้าไว้อย่างชัดเจนในทุกองค์ประกอบ ทั้งดีไซน์ภายนอกที่สง่างามตามแนวคิด Kodo Design – Soul of Motion โดยผสานความงดงามตามสไตล์รถไฟฟ้ายุคใหม่ ให้ภาพลักษณ์แบบสปอร์ตในรูปแบบตัวถังพิเศษแบบ Fastback แต่ยังคงมีความโฉบเฉี่ยวสไตล์รถซีดาน และเอกลักษณ์ของสมรรถนะการขับขี่ที่ทรงพลัง ถูกพัฒนาขึ้นโดยทีมวิศวกรของมาสด้าที่ใส่ใจในทุกรายละเอียด กระจายน้ำหนัก 50:50 มาพร้อมแบตเตอรี่ลิเทียมไอออนขนาด 80 กิโลวัตต์ ให้ระยะการขับขี่ได้ไกลสุดถึง 552 กม. มาพร้อมเทคโนโลยี FAST CHARGE สามารถชาร์จไฟจาก 30%-80% ได้เร็วสูงสุดภายใน 15 นาที มอบความสนุกสนานในการขับขี่ตามปรัชญา จินบะ-อิไต และเน้นหลักมนุษย์เป็นศูนย์กลาง ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของมาสด้าเฉกเช่นเดียวกับรถยนต์รุ่นอื่น ๆ ที่ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากลูกค้าทั่วโลก
“มาสด้าเชื่อว่า ยนตรกรรมทั้งสองรุ่นนี้ จะทำให้ลูกค้าเห็นภาพที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น ต่อการเดินหน้าตามแนวทาง Multi-solution ของมาสด้า เพื่อนำเสนอเทคโนโลยียานยนต์แห่งอนาคตที่ตอบโจทย์การใช้งานลูกค้าที่มีความต้องการที่แตกต่างกันในแต่ละภูมิภาค เพื่อให้รถยนต์ของมาสด้าสามารถส่งมอบความสุขในการขับขี่และการใช้ชีวิตในทุก ๆ ด้านให้กับลูกค้าและครอบครัว นับตั้งแต่แรกที่เริ่มใช้งานจนถึงในระยะยาว อันเป็นปณิธานที่มาสด้ามุ่งมั่นเพื่อส่งมอบให้กับลูกค้าทุกคน” นายธีร์ กล่าว
นายภพนิพิฐ จิรวัฒนานนท์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและรัฐกิจสัมพันธ์ บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า นอกเหนือจากยนตรกรรมที่นำมาจัดแสดงตามแนวทาง Multi-solution แล้ว มาสด้ายังได้นำรถยนต์นั่งยอดนิยมที่ได้รับการปรับโฉมใหม่ล่าสุด New Mazda2 Essential มาเปิดตัวภายในงานฯ โดยมาพร้อมแนวคิด Nothing Else เลือกแล้วว่าใช่ ก็ไม่ต้องการอะไรอีก ที่ดีไซน์บ่งความเป็นตัวตนที่ชัดเจน และฟังก์ชั่นที่เติมเต็มกับทุกไลฟ์สไตล์ในการขับขี่ เจาะกลุ่มเจนเนอเรชั่น Z ที่กำลังมองหารถยนต์คันแรกสำหรับการใช้งานที่มีความคุ้มค่ามากที่สุด และตอบโจทย์ความเป็นตัวของตัวเอง มาพร้อมทางเลือก 4 รุ่นใหม่ ได้แก่
- รุ่น PRIME มอบความ ”คุ้มสุด” ของรุ่นเริ่มต้นที่มาพร้อมเครื่องยนต์สกายแอคทีฟเบนซิน 1.3 ลิตร ตอบโจทย์ทุกความต้องการให้ใช้ชีวิตได้คุ้มตั้งแต่เริ่มต้น มาพร้อมอุปกรณ์มาตรฐานครบครัน พร้อมการตกแต่งเพื่อเพิ่มความสปอร์ตด้วยกระจังหน้าสีดำ วางราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่เข้าถึงได้ง่ายขึ้นเพียง 529,000 บาท
- รุ่น ULTRA มอบความ “สบายสุด” มาพร้อมเครื่องยนต์สกายแอคทีฟเบนซิน 1.3 ลิตร ครบครันด้วยเทคโนโลยีความสะดวกสบาย พร้อมกับฟังก์ชั่นที่รู้ใจและตอบโจทย์กับทุกมิติของการใช้ชีวิต ทั้งระบบ Entertainment และความสะดวกสบายภายในห้องโดยสาร อาทิ Mazda Connect ที่รองรับ Apple CarPlay® และ Android AutoTM พร้อมหน้าจอ Center Display แบบสัมผัสขนาด 7 นิ้ว ที่ควบคุมผ่าน Center Commander ตกแต่งภายในอย่างมีเอกลักษณ์ด้วยแผงคอนโซลหน้าไบโอพลาสติกแบบสี ผลิตจากวัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม พร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัย i-Activsense อาทิ ระบบช่วยหยุดรถอัตโนมัติแบบ Advance พร้อมกล้องมองหลังและเซ็นเซอร์กะระยะด้านหลัง ราคาจำหน่าย 589,000 บาท
- รุ่น SIGNATURE มอบความ “พร้อมสุด” โดดเด่นด้วยดีไซน์การออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์แบบ Sport Design พร้อมฟังก์ชั่นทั้งเทคโนโลยีความปลอดภัยและความสะดวกสบาย ควบคู่กับสมรรถนะการขับขี่ที่สนุก มาพร้อมสองทางเลือก กับรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน 1.3 ลิตร ในรุ่น 1.3 Signature ภายนอกตกแต่งด้วยกระจังหน้าแบบ Sport Design และกระจกมองข้างสีดำ ภายในตกแต่งด้วยเบาะนั่งหุ้มหนังสีดำ และผ้า Grand Luxe Suede® พร้อมกรอบช่องแอร์สีแดง วางราคาจำหน่าย 659,000 บาท และทางเลือกที่สองกับเครื่องยนต์ดีเซล 1.5 ลิตร ในรุ่น XDL Signature มาพร้อมหลังคาสีดำ ล้ออัลลอย ขนาด 16 นิ้ว สี Black Machining และดิสก์เบรกหลัง ประหยัดน้ำมันสูงสุด 26.3 กม./ลิตร พร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัย i-Activsense หลายระบบ วางราคาจำหน่าย 749,000 บาท
ไม่เพียงเท่านี้ มาสด้ายังได้นำยนตรกรรมรุ่นใหม่ล่าสุด แบรนด์ไอคอนยอดนิยม New Mazda MX-5 35th Anniversary Edition หรือ รุ่นพิเศษครบรอบ 35 ปี เปิดตัวเพื่อเป็นการร่วมเฉลิมฉลองการครบรอบ 35 ปี นับตั้งแต่ MX-5 ได้เปิดตัวเป็นครั้งแรก มาจัดแสดงให้แฟน ๆ ในประเทศไทยได้ชมและครอบครองเป็นเจ้าของ โดยมาพร้อมการตกแต่งพิเศษที่แตกต่างจากรุ่นทั่ว ๆ ไป เพื่อถ่ายทอดความพิเศษในทุกองค์ประกอบ ไม่ว่าจะเป็น สีภายนอกพิเศษ Artisan Red Premium สัญลักษณ์รุ่นพิเศษ 35th Anniversary Edition พนักพิงศีรษะ และพรม พร้อม Serial Number ที่บริเวณด้านข้างตัวถัง เพื่อบ่งบอกถึงบอกถึงความพิเศษในฐานะรุ่นลิมิเต็ด รวมถึงเบาะหนังสีพิเศษ Sports Tan หลังคาแข็งเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า กระจกมองข้างสีเดียวกับตัวรถ พร้อมล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว สี Bright ถ่ายทอดภาพลักษณ์สปอร์ตพรีเมี่ยมและความพิเศษได้อย่างมีเอกลักษณ์ วางจำหน่ายในจำนวนจำกัด ในราคา 3,069,000 บาท
ลูกค้าที่สนใจชมยนตรกรรรมจากมาสด้า สามารถเข้าชมได้ที่บูธรถยนต์มาสด้าในงานมอเตอร์ โชว์ 2025 ระหว่างวันที่ 26 มีนาคม 2568 – 6 เมษายน 2568 ณ อาคารชาเลนเจอร์ อิมแพ็ค เมืองทองธานี พร้อมรับข้อเสนอพิเศษมากมาย เมื่อจองซื้อรถยนต์มาสด้า อาทิ ดอกเบี้ยต่ำสุด 0%* ผ่อนนานสูงสุด 72 เดือน* ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง Mazda Premium Insurance* ฟรีบัตรน้ำมันสำหรับเจ้าของรถมาสด้าและครอบครัว มูลค่าสูงสุด 30,000 บาท* ฟรีโปรแกรมคุ้มครองและดูแลรถ MUS นานสูงสุด 7 ปี* และฟรีเครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ SHARP รุ่น IG-NX2B มูลค่า 3,990 บาท** ภายในงานฯ และที่โชว์รูมมาสด้าทั่วประเทศ
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine
-
News Car2 Min Read
เอ็มจี จัดใหญ่ กับ 3 ไฮไลท์ในกลุ่มรถอีวี พร้อมแคมเปญสุดพิเศษครบทุกรุ่น ในงานมอเตอร์โชว์ 2025

บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์ – ซีพี จำกัด และ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและผู้จำหน่ายรถยนต์เอ็มจีในประเทศไทย ชู 3 ไฮไลท์กลุ่มยนตรกรรมอีวีในงานมอเตอร์โชว์ 2025 กับโมเดลใหม่อย่าง NEW MG IM6 สู่สาธารณชนอย่างเป็นทางการ และการเพิ่มสีสันใหม่กับอีวีรุ่นยอดนิยมอย่าง NEW MG4 ELECTRIC ด้วยสีใหม่ SOL BLUE เพิ่มความพรีเมียมมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังเตรียมขยายไลน์อัพใหม่กับ NEW MG S5 EV ที่จะมาเติมความร้อนแรงให้กับตลาด B-SUV ด้วยจุดเด่น “ขับสนุก ชาร์จไว วิ่งไกล นั่งสบาย
พร้อม Lifetime Warranty” นอกจากนี้ยังมียนตรกรรมหลากหลายขุมพลังขับเคลื่อนที่มาพร้อมข้อเสนอสุดพิเศษให้ลูกค้าได้เป็นเจ้าของอย่างคุ้มค่าที่สุด ณ บูธ เอ็มจี หมายเลข A08 อาคารชาเลนเจอร์ 2 อิมแพ็ค เมืองทองธานีนายพงษ์ศักดิ์ เลิศฤดีวัฒนวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “สำหรับงานมอเตอร์โชว์ในครั้งนี้ ถือเป็นหนึ่งเวทีสำคัญที่จะทำให้ เอ็มจี เดินหน้าสู่เป้าหมายส่วนแบ่งทางการตลาด 5% ภายในปีนี้ โดย เอ็มจี มาพร้อมกับ “3 ความใหม่” ของยนตรกรรมในกลุ่มอีวี ที่จะยกระดับมาตรฐานและเพิ่มทางเลือกใหม่ให้กับผู้บริโภค”

สัมผัสกับยานยนต์อัจฉริยะที่ทำให้การขับขี่รถอีวีก้าวสู่อีกระดับ
สัปดาห์ที่ผ่านมา เอ็มจี ได้สร้างสีสันในแวดวงยานยนต์ไฟฟ้าอีกครั้งด้วยการส่ง NEW MG IM6 เข้าสู่ตลาดอีวีระดับพรีเมียม ชูจุดเด่นของการเป็น The First-ever Premium Intelligent e-SUV ที่มาพร้อมคอนเซ็ปต์ “ขับเคลื่อนตัวตน บนความเป็นตัวเอง” (I’M WHO I’M) จึงทำให้โมเดลนี้เหนือชั้นด้วยเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้าอัจฉริยะที่มอบประสบการณ์การควบคุมขับขี่ที่ง่าย และสะดวกสบายมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น ระบบช่วงล่างถุงลมอัจฉริยะ สามารถปรับระดับความสูงของช่วงล่างได้ถึง 3 ระดับ ระบบบังคับเลี้ยว 4 ล้ออัจฉริยะ ช่วยให้การเปลี่ยนเลนมีเสถียรภาพมากขึ้น สามารถกลับรถในที่แคบได้สบายๆ ฟังก์ชัน Crab Mode ช่วยให้การเคลื่อนรถออกจากพื้นที่ที่มีข้อจำกัดเป็นเรื่องง่าย ระบบ One Touch iAD ตัวช่วยในการถอยจอดหลากรูปแบบ ใช้งานง่ายเพียงปลายนิ้วสัมผัส ระบบอัจฉริยะแสดงผลในที่มืดและฝนตก และ NEW MG IM6 ยังมีจุดเด่นด้านสมรรถนะการขับขี่กับพละกำลังสูงสุด 778 แรงม้า แรงบิดสูงสุดที่ 802 นิวตัน-เมตร มาพร้อมมอเตอร์คู่ขับเคลื่อน 4 ล้อ อัตราเร่ง 0 – 100 กม./ชม. เพียง 3.48 วินาที เท่านั้น แบตเตอรี่ขนาดความจุ 100 kWh วิ่งได้ระยะทางสูงสุด 634 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้งตามมาตรฐาน NEDC เป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่ชาร์จไฟได้รวดเร็ว Quick Charge ชาร์จไฟฟ้าจาก 10% – 80% ใช้เวลาน้อยกว่า 20 นาที* ด้วยแรงดันไฟฟ้า 800 โวลต์ รองรับการชาร์จ แบบกระแสตรงสูงสุด 396 kW
*ระยะเวลาในการชาร์จ ขึ้นอยู่กับจำนวนแบตเตอรี่ที่เหลือ และกำลังไฟของสถานีชาร์จ
“เพิ่มสีใหม่” ในรุ่นอีวียอดนิยม นำเสนอทางเลือกที่หลากหลายให้กับผู้บริโภค
NEW MG4 ELECTRIC อีวีรุ่นยอดนิยมของ เอ็มจี สร้างสีสันครั้งใหม่ด้วยสี SOL BLUE ให้กลิ่นอาย
ความพรีเมียมกับรถแฮทช์แบคไฟฟ้าดีไซน์สปอร์ตรุ่นนี้สะท้อนภาพลักษณ์ความสุขุม นุ่มลึกของผู้ขับขี่ โดยสีใหม่นี้
มีในรุ่น STANDARD RANGE รุ่น D, LONG RANGE รุ่น D และรุ่น V ราคาเริ่มต้น 709,900 บาทเตรียม “ขยายไลน์อัพใหม่” มอบความคุ้มค่าด้วย e-SUV ที่ครบเครื่อง
สำหรับบิ๊กเซอร์ไพรส์ที่จะเกิดขึ้นในงานมอเตอร์โชว์ครั้งนี้ (วันที่ 25 มีนาคม 2568 เวลา 13.00 น. – 14.00 น. ณ บูธ เอ็มจี หมายเลข A08) กับการเปิดตัวและประกาศราคา NEW MG S5 EV “โกลบอลอีวี” ที่มีมาตรฐานคุณภาพเดียวกันทั่วโลก เป็นหนึ่งในโมเดลยุทธศาสตร์ของ เอ็มจี ในปีนี้ และเป็นรถไฟฟ้าแบรนด์ เอ็มจี อีกรุ่นที่ผลิตในประเทศไทย และจะพลิกโฉมวงการยานยนต์ไฟฟ้าในไทย ด้วยการเป็น e-SUV ที่ “ขับสนุก ชาร์จไว วิ่งไกล นั่งสบาย
พร้อม Lifetime Warranty”เป็นเจ้าของยนตรกรรมหลากหลายรูปแบบการขับเคลื่อนได้อย่างคุ้มค่า
นอกจากการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่แล้วนั้น เอ็มจี เพิ่มโอกาสให้คนไทยได้เป็นเจ้าของยนตรกรรมคุณภาพได้ง่ายยิ่งขึ้นด้วยข้อเสนอพิเศษสำหรับลูกค้าที่จองซื้อรถในงานฯ ตั้งแต่วันนี้จนถึง 6 เมษายน 2568 โดยมีรายละเอียด ดังนี้

กลุ่มรถยนต์สันดาป
NEW MG5 PRO
- ดาวน์เริ่มต้น 31,499 บาท หรือ ผ่อนเริ่มต้นเพียง 7,156 บาท
- ฟรี ประกันภัยชั้น 1 พร้อม พ.ร.บ. คุ้มครอง 1 ปี
- ฟรี ชุดพรมปูพื้น
NEW MG ZS
- ดาวน์เริ่มต้น 10%
- เลือกรับ เอ็มจี ช่วยผ่อนเดือนละ 3,000 บาท นาน 9 เดือน
- ฟรี ประกันภัยชั้น 1 พร้อม พ.ร.บ. คุ้มครอง 1 ปี
- ฟรี ชุดพรมปูพื้น
NEW MG EXTENDER
- ดาวน์เริ่มต้น 5% ผ่อนสูงสุด 84 งวด
- รับประกันคุณภาพรถยนต์นาน 5 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)
- ฟรี ประกันภัยชั้น 1 พร้อม พ.ร.บ. คุ้มครอง 1 ปี
- ฟรี ชุดพรมปูพื้น
กลุ่มรถยนต์พลังงานทางเลือก
ALL NEW MG3 HYBRID+
- ดาวน์เริ่มต้น 8,888 บาท หรือ ผ่อนเริ่มต้น 6,516 บาท
- รับประกันคุณภาพรถยนต์นาน 5 ปี หรือ 120,000 กิโลเมตร (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)
- รับประกันแบตเตอรี่ไฮบริด 10 ปี ไม่จำกัดระยะทาง
- ฟรี ประกันภัยชั้น 1 พร้อม พ.ร.บ. คุ้มครอง 1 ปี
- ฟรี ชุดพรมปูพื้น
NEW MG VS HEV
- ดาวน์เริ่มต้น 10%
- เลือกรับ เอ็มจี ช่วยผ่อนเดือนละ 3,000 บาท นาน 9 เดือน
- ฟรี ประกันภัยชั้น 1 พร้อม พ.ร.บ. คุ้มครอง 1 ปี
- ฟรี ชุดพรมปูพื้น
NEW MG HS PHEV
- รับสิทธิ์ช่วยผ่อนสูงสุด 5,000 บาท นาน 20 เดือน หรือ เลือกรับบัตรน้ำมันมูลค่าสูงสุด 5,000 บาท นาน 20 เดือน (เลือกอยากใดอย่างหนึ่ง และไม่สามารถแลกเปลี่ยนเป็นเงินสดได้)
- รับประกันคุณภาพรถยนต์นาน 4 ปี หรือ 120,000 กิโลเมตร (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)
- รับประกันแบตเตอรี่ไฮบริด 8 ปี ไม่จำกัดระยะทาง
- ฟรี ประกันภัยชั้น 1 พร้อม พ.ร.บ. คุ้มครอง 1 ปี
- ฟรี ชุดพรมปูพื้น
กลุ่มรถยนต์พลังงานไฟฟ้า
NEW MG IM6 มาพร้อม PRIME PACKAGE มูลค่ารวมกว่า 150,000 บาท*
- MG SHIELD ประกันภัยชั้น 1 พร้อม พ.ร.บ. นาน 2 ปี มูลค่า 72,000 บาท
- ฟรี รับ IM MAG HUB SET PACKAGE มูลค่า 17,380 บาท
- ฟรี MG HOME CHARGER พร้อมติดตั้ง มูลค่า 38,500 บาท
- ฟรี บริการช่วยเหลือฉุกเฉินบนท้องถนนระดับพรีเมียม นาน 5 ปี มูลค่า 12,500 บาท
- ฟรี ค่าบริการระบบปฏิบัติการ i-SMART นาน 5 ปี มูลค่า 7,450 บาท
- ฟรี บริการค่าจดทะเบียน กรอบป้ายทะเบียน และชุดพรมปูพื้น มูลค่า 8,385 บาท
- สิทธิพิเศษ การบริการ MG PREMIUM FAST LANE
- สิทธิพิเศษ การบริการ MG PREMIUM CALL CENTRE
- ดอกเบี้ยพิเศษ 99% นาน 48 เดือน
- รับประกันแบตเตอรี่แรงเคลื่อนสูง ชุดมอเตอร์ขับเคลื่อน และชุดควบคุมมอเตอร์ขับเคลื่อนตลอดอายุการใช้งาน
- รับประกันคุณภาพรถยนต์นาน 5 ปี หรือ 160,000 กิโลเมตร (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)
*หมายเหตุ: PRIME PACKAGE นี้ สำหรับลูกค้าที่จองและรับรถ NEW MG IM6 ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 30 เมษายน 2568
NEW MG4 ELECTRIC
- ดอกเบี้ยเริ่มต้น 0% ผ่อนนานสูงสุด 60 เดือน
- รับประกันแบตเตอรี่แรงเคลื่อนสูง ชุดมอเตอร์ขับเคลื่อน และชุดควบคุมมอเตอร์ขับเคลื่อนตลอดอายุการใช้งาน
- ฟรี ประกันภัยชั้น 1 พร้อม พ.ร.บ. คุ้มครอง 1 ปี
- ฟรี MG HOME CHARGER จำนวน 1 ชุด พร้อมค่าติดตั้ง
- ฟรี ชุดพรมปูพื้น
NEW MG ZS EV
- ราคาพิเศษ 699,000 ในรุ่น X
- เลือกรับดอกเบี้ยพิเศษ 1.88% ดาวน์เริ่มต้นที่ 25% ผ่อนนาน 48 เดือน
- รับประกันแบตเตอรี่ 8 ปี หรือ 180,000 กิโลเมตร (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)
- ฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง พร้อม พ.ร.บ. นาน 1 ปี
- ฟรี MG HOME CHARGER จำนวน 1 ชุด พร้อมค่าติดตั้ง
- ฟรี อุปกรณ์จ่ายกระแสไฟ V2L จำนวน 1 ชุด
- ฟรี ชุดพรมปูพื้น
NEW MG MAXUS 9
- รับประกันคุณภาพรถยนต์นาน 5 ปี หรือ 160,000 กิโลเมตร (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)
- รับประกันแบตเตอรี่แรงเคลื่อนสูง ชุดมอเตอร์ขับเคลื่อน และชุดควบคุมมอเตอร์ขับเคลื่อนตลอดอายุการ
ใช้งาน - ฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง พร้อม พ.ร.บ. นาน 1 ปี
- ฟรี MG HOME CHARGER จำนวน 1 ชุด พร้อมค่าติดตั้ง
- ฟรี ชุดพรมปูพื้น
NEW MG MAXUS 7
- รับประกันคุณภาพรถยนต์ 5 ปี หรือ160,000 กิโลเมตร (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)
- รับประกันแบตเตอรี่แรงเคลื่อนสูง ชุดมอเตอร์ขับเคลื่อน และชุดควบคุมมอเตอร์ขับเคลื่อนตลอดอายุการ
ใช้งาน - ฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง พร้อม พ.ร.บ. นาน 1 ปี
- ฟรี MG HOME CHARGER จำนวน 1 ชุด พร้อมค่าติดตั้ง
- ฟรี อุปกรณ์จ่ายกระแสไฟ V2L จำนวน 1 ชุด
- ฟรี ชุดพรมปูพื้น
NEW MG CYBERSTER
- รับประกันแบตเตอรี่แรงเคลื่อนสูง ชุดมอเตอร์ขับเคลื่อน และชุดควบคุมมอเตอร์ขับเคลื่อนตลอดอายุการใช้งาน
- รับประกันคุณภาพรถยนต์ 5 ปี หรือ 160,000 กิโลเมตร (อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)
- ฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง พร้อม พ.ร.บ. นาน 1 ปี
- ฟรี MG HOME CHARGER จำนวน 1 ชุด พร้อมค่าติดตั้ง
- ฟรี อุปกรณ์จ่ายกระแสไฟ V2L จำนวน 1 ชุด
- ฟรี ชุดพรมปูพื้น
- ฟรี บริการช่วยเหลือฉุกเฉินบนท้องถนน 5 ปี
NEW MG EP PLUS
- รับดอกเบี้ยพิเศษ 99%
- รับประกันแบตเตอรี่ 8 ปี หรือ 180,000 กิโลเมตร (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)
- ฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง พร้อม พ.ร.บ. นาน 1 ปี
- ฟรี MG HOME CHARGER จำนวน 1 ชุด พร้อมค่าติดตั้ง
- ฟรี ชุดพรมปูพื้น
NEW MG ES
- ราคาพิเศษ 899,000 บาท
- หรือ ดอกเบี้ยพิเศษ 99% เมื่อดาวน์เริ่มต้นที่ 25% ผ่อนนาน 48 เดือน
- รับประกันแบตเตอรี่ 8 ปี หรือ 180,000 กิโลเมตร (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)
- ฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง พร้อม พ.ร.บ. นาน 1 ปี
- ฟรี MG HOME CHARGER จำนวน 1 ชุด พร้อมค่าติดตั้ง
- ฟรี อุปกรณ์จ่ายกระแสไฟ V2L จำนวน 1 ชุด
- ฟรี ชุดพรมปูพื้น
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine
-
วอลโว่ ทรัคส์ เปิดตัวรถบรรทุกมาตรฐานยูโร 5 อย่างเป็นทางการ

มร. เอริค ลาบัท ประธานกรรมการ วอลโว่ ทรัคส์ ประเทศไทย เปิดเผยว่าเมื่อเร็ว ๆ นี้ วอลโว่ ทรัคส์ ได้จัดกิจกรรมเปิดตัวรถบรรทุกวอลโว่ ทรัคส์ มาตรฐาน Euro5 อย่างเป็นทางการโดยมาตรฐาน Euro5 ของวอลโว่ ทรัคส์ ที่แนะนำครั้งนี้ทั้งหมด 4 รุ่น ได้แก่ Volvo FH, FH16, FM และ FMX ซึ่งได้รับการพัฒนาและออกแบบให้มีการปล่อยมลพิษต่ำลง ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และช่วยเสริมสมรรถนะให้ธุรกิจขนส่งสามารถดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
“ภายใต้เทคโนโลยีรถบรรทุกรุ่นใหม่นี้ เราใช้เทคโนโลยี Selective Catalytic Reduction (SCR) ซึ่งเป็นระบบบำบัดไอเสียที่ช่วยลดการปล่อยก๊าซไนโตรเจนออกไซด์ (NOx) ทำให้เครื่องยนต์เผาไหม้เชื้อเพลิงได้สมบูรณ์ ส่งผลให้ประหยัดน้ำมันมากขึ้น และช่วยลดต้นทุนการดำเนินงานโดยรวม นอกจากนี้ ระบบ SCR ยังช่วยลดการสะสมของคราบเขม่าภายในเครื่องยนต์ ทำให้เครื่องยนต์มีอายุการใช้งานยาวนานขึ้น โดยผลการขับทดสอบพบว่ารถบรรทุก Euro 5 สามารถประหยัดน้ำมันได้มากกว่ารุ่น Euro 3 ถึง 9% ตามเงื่อนไขการขับขี่ในการทดสอบ
นอกจากนี้ วอลโว่ ทรัคส์ ยังมีความพร้อมด้านเทคโนโลยีในการพัฒนาไปสู่มาตรฐาน Euro 6 ซึ่งเป็นมาตรฐานการปล่อยมลพิษที่เข้มงวดมากขึ้นและเป็นที่บังคับใช้ในยุโรปแล้ว ดังนั้นเราพร้อมที่จะนำเสนอผลิตภัณฑ์ทึ่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมในระดับที่ก้าวไปอีกขั้น” มร. เอริค กล่าว
เทคโนโลยีล้ำสมัย ประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงยิ่งขึ้น เพิ่มความปลอดภัยและประสิทธิภาพสูงสุด
วอลโว่ ทรัคส์ นำเสนอเทคโนโลยีช่วยขับขี่อัจฉริยะที่ช่วยให้ธุรกิจขนส่งสามารถดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น พร้อมลดความเมื่อยล้าและเพิ่มความปลอดภัยให้แก่ผู้ขับขี่ เช่น
- I-SEE ระบบอัจฉริยะที่ช่วยประหยัดน้ำมันโดยเรียนรู้เส้นทางล่วงหน้า และปรับเปลี่ยนเกียร์ และควบคุมการขับขี่อัตโนมัติตามเส้นทางข้างหน้าไปว่าจะเป็นทางราบ หรือขึ้นลงเขา เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพสูงสุด ช่วยประหยัดน้ำมันได้ 3-5% จากการทดสอบเมื่อเทียบกับการเปิด และไม่เปิดใช้ระบบ
- Emergency Brake & Auto Hold ระบบเบรกฉุกเฉินและระบบเบรกอัตโนมัติบนทางลาดชัน เพิ่มความปลอดภัยในสภาพถนนที่ท้าทาย
- Side Collision Avoidance Support ระบบป้องกันการชนด้านข้าง ลดความเสี่ยงจากอุบัติเหตุในจุดบอดของตัวรถ
- Driver Alert & Intelligent Speed Assist ระบบแจ้งเตือนผู้ขับขี่เมื่อมีอาการเหนื่อยล้าและช่วยควบคุมความเร็วให้เหมาะสมกับสภาพการจราจร
และยังมีระบบเทคโนโลยีอื่นๆ อีกมากมายที่ช่วยความปลอดภัย ประหยัดน้ำมัน และวิ่งงานได้ยาวนานสูงสุด
ข้อเสนอพิเศษสำหรับลูกค้าในช่วงเปิดตัว
นายมาร์ติน ซอมเมอร์ รองประธานฝ่ายขาย วอลโว่ ทรัคส์ ประเทศไทย กล่าวว่า “ในช่วงการเปิดตัว วอลโว่ ทรัคส์ มาตรฐาน Euro5 นี้ เราขอมอบข้อเสนอสุดพิเศษสำหรับลูกค้าที่สั่งซื้อ Volvo FM13 380 แรงม้า มาตรฐาน Euro5 จำนวน 30 คันแรก รับทันทีส่วนลดราคาพิเศษ พร้อมน้ำยา AdBlue ฟรี 200 ลิตร และเรามุ่งมั่นที่จะเป็นพันธมิตรทางธุรกิจที่ดีที่สุดสำหรับลูกค้า เราไม่เพียงแต่นำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ล้ำหน้าเท่านั้น แต่ยังมีการสนับสนุนด้านการบริการหลังการขายอย่างมืออาชีพจากทีมงานของเรา เพื่อให้มั่นใจว่าธุรกิจของลูกค้าจะสามารถดำเนินงานได้อย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพสูงสุดจากเครือข่ายศูนย์บริการมาตรฐานของวอลโว่ ทรัคส์ ที่มีอยู่ 23 แห่งทั่วประเทศ และจะขยายเป็น 26 แห่งภายในปีนี้” นายมาร์ตินกล่าวเสริม
วอลโว่ ทรัคส์ ยังคงมุ่งมั่นที่จะขับเคลื่อนอุตสาหกรรมขนส่งไทยไปสู่อนาคตที่ยั่งยืน ลดปัญหาฝุ่น PM2.5 ด้วยเทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ความปลอดภัยที่เหนือระดับ และการบริการที่เป็นเลิศ เพื่อให้ธุรกิจขนส่งสามารถเติบโตได้อย่างมั่นคงและแข็งแกร่งในระยะยาว
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine









































































































