• ‘Yadea Velax’ เปิดตัวอย่างเป็นทางการในงานมอเตอร์โชว์ พร้อมปฏิวัติการขับขี่ในเมืองด้วยเทคโนโลยีไฟฟ้าอัจฉริยะ ราคาเริ่มต้น 63,000 บาท

    1 Min Read

    ‘Yadea Velax’ เปิดตัวอย่างเป็นทางการในงานมอเตอร์โชว์ พร้อมปฏิวัติการขับขี่ในเมืองด้วยเทคโนโลยีไฟฟ้าอัจฉริยะ ราคาเริ่มต้น 63,000 บาท

    ยาเดีย (Yadea) แบรนด์ผู้นำยานยนต์ไฟฟ้าอัจฉริยะชั้นนำระดับโลก เปิดตัวในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ณ งานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ (BIMS) ครั้งที่ 46 พร้อมเผยโฉม ‘Yadea Velax’ มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ล่าสุด ถือเป็นก้าวสำคัญในการเข้าสู่ตลาดยานยนต์ไฟฟ้าของประเทศไทย ซึ่งภายในงาน ทางยาเดียได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่น พร้อมได้รับความสนใจในเทคโนโลยีและโซลูชันการขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าอันล้ำสมัยจากผู้ขับขี่และนักลงทุนชาวไทย ตอกย้ำความมั่นใจของยาเดียในศักยภาพการเติบโตของตลาดยานยนต์ไฟฟ้าในไทย จากความต้องการยานยนต์ที่มีความอัจริยะที่มาพร้อมกับความยั่งยืนเพิ่มขึ้น

    โดยหนึ่งในวิสัยทัศน์ระยะยาวสำหรับประเทศไทยนั้น ทางยาเดียมีความมุ่งมั่นที่จะเสริมสร้างการเติบโตในการลงทุนทั้งการผลิต รวมทั้งการวิจัยและพัฒนาในประเทศ (R&D) โดยโรงงานผลิตในประเทศไทยจะเป็นฐานการผลิตและการวิจัยแห่งที่ 9 ของยาเดียทั่วโลก ซึ่งมีกำหนดเริ่มดำเนินการในเดือนพฤษภาคม 2568 นี้ ถือเป็นอีกหนึ่งความมุ่งมั่นในการเติบโตทางธุรกิจในไทย ซึ่งมีเป้าหมายที่จะขยายกำลังการผลิตให้ถึง 600,000 คันภายในสามปีข้างหน้า และจากความเชี่ยวชาญด้านยานยนต์รักษ์โลกผนวกกับเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย ยาเดียยังตั้งเป้าหมายให้เกิดอัตราการจ้างงานบุคลากรในประเทศไทยมากกว่า 80% ในฐานการผลิตในไทยและจะใช้ทรัพยากรในประเทศกว่า 70% เพื่อการพัฒนายานยนต์ในประเทศไทยอีกด้วย

    มร.หวัง เจียจง รองประธานอาวุโส บริษัท ยาเดีย เทคโนโลยี กรุ๊ป กล่าวว่า “ที่ยาเดีย เราไม่เพียงเชื่อมั่นในการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ แต่ยังเน้นการสร้างความสัมพันธ์กับคอมมูนิตี้ที่เราให้บริการ โดยมีเป้าหมายเพื่อนำเสนอโซลูชันการเดินทางที่ชาญฉลาดและยั่งยืน ที่ทั้งเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและถูกออกแบบมาโดยคำนึงถึงอนาคตของผู้ขับขี่ชาวไทยอีกด้วย ซึ่งมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้ารุ่น Yadea Velax นี้ สะท้อนให้เห็นถึงการรวมเอาวิสัยทัศน์ของเรา ผสานเข้ากับเทคโนโลยี สมรรถนะ รวมถึงประสบการณ์การขับขี่แบบยั่งยืนได้เป็นอย่างดี”

    ภายในงานมอเตอร์โชว์ ยาเดียได้เปิดตัว Yadea Velax อย่างเป็นทางการ โดดเด่นด้วยเทคโนโลยีเหนือชั้นและสมรรถนะที่ทรงพลัง มอบนิยามใหม่ของการขับขี่จักรยานยนต์ไฟฟ้า ด้วยระบบชาร์จเร็วอัจฉริยะของยาเดีย ผู้ขับขี่สามารถชาร์จแบตเตอรี่ได้ถึง 80% ภายในเวลาเพียง 20 นาที ช่วยลดเวลาที่ไม่จำเป็นในการรอชาร์จให้น้อยลง Yadea Velax ขับเคลื่อนด้วยแบตเตอรี่ Ternary Lithium-ion ขนาด 74V28Ah*2 ให้ระยะทางวิ่งสูงสุดถึง 110 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง ทำให้เป็นตัวเลือกที่เหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับการเดินทางในชีวิตประจำวัน นอกจากนี้ Yadea Velax ยังมาพร้อมกับมอเตอร์กำลังสูง 4900W ที่ให้การเร่งความเร็วทันทีทันใดและการขับขี่ที่ราบรื่นทรงพลัง[1]

    เพื่อยกระดับประสบการณ์การขับขี่ให้ดียิ่งขึ้น Yadea Velax ยังมาพร้อมกับระบบจัดการแบตเตอรี่อัจฉริยะ (Smart Battery Management System) ที่ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถตรวจสอบสถานะแบตเตอรี่ได้ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสิทธิภาพในการใช้งานที่ดีขึ้นพร้อมสร้างความสบายใจให้ผู้ขับขี่ นอกจากนี้ ระบบผู้ช่วยการขับขี่อัจฉริยะพร้อมระบบควบคุมความเร็วคงที่ (Cruise Control) ยังช่วยรักษาระดับความเร็วให้คงที่ด้วยการกดปุ่มเพียงปุ่มเดียว เพื่อให้การขับขี่สะดวกสบายและง่ายดายยิ่งขึ้น

    Yadea Velax ได้รับการออกแบบมาเพื่อมอบประสบการณ์การเดินทางที่ชาญฉลาด สะดวกสบาย ประหยัด และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ด้วยเทคโนโลยีขั้นสูง ทำให้สามารถควบคุมได้อย่างราบรื่น มั่นคง และง่ายดาย เพื่อให้ทุกการขับขี่มีประสิทธิภาพและเพลิดเพลินไปพร้อมกัน ด้วยการผสานความยั่งยืนเข้ากับการขับขี่สมรรถนะสูง Yadea Velax พร้อมที่จะปฏิวัติการเดินทางส่วนบุคคลสำหรับอนาคต

    ระบบ AiGo ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายด้วยการปลดล็อกผ่านแอปพลิเคชัน Yadea และบลูทูธ การแชร์บัญชีครอบครัว และฟังก์ชันรีโมทคอนโทรล ในขณะที่ระบบ AiSafety มอบความอุ่นใจด้วยการแจ้งเตือนแบบเรียลไทม์สำหรับความเคลื่อนไหวที่ผิดปกติ เช่น การชน การล้ม และการเคลื่อนย้ายโดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมด้วยฟีเจอร์ Geofencing เพื่อติดตามตำแหน่งของมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า ฟังก์ชันป้องกันการโจรกรรม ควบคู่กับการตรวจสอบแบตเตอรี่อัจฉริยะผ่านแอปพลิเคชัน Yadea ยังช่วยเพิ่มความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ส่วนประกอบหลักของ Yadea Velax ยังได้รับการออกแบบที่ได้มาตรฐานในการกันน้ำ IPX7 เพื่อความทนทานและทำให้มั่นใจในการขับขี่ในสภาพอากาศที่หลากหลาย

    ระบบ Smart ECO รับประกันการขับขี่ที่เงียบ ช่วยลดมลพิษ และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมทั้งยังช่วยลดค่าใช้จ่ายในการเดินทางได้มากขึ้น โดยประมาณการว่าจะสามารถประหยัดได้ถึง 71,750 บาท ภายในระยะเวลา 5 ปี[1]

    ในฐานะผู้นำระดับโลกในอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าสองล้อ ยาเดียยังคงมุ่งมั่นที่จะนำเสนอโซลูชันการเดินทางที่ล้ำสมัยและยั่งยืนที่ปรับให้เข้ากับตลาดประเทศไทย โดยยาเดียพร้อมร่วมมือกับประเทศไทยในการส่งเสริมการใช้พลังงานไฟฟ้าและสร้างสรรค์โซลูชันการเดินทางที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อขับเคลื่อนอนาคตของการขนส่งที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งการนำเสนอนวัตกรรมล่าสุดของยาเดียในงานมอเตอร์โชว์ครั้งนี้ เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของการเดินทางของแบรนด์ในประเทศไทยเท่านั้น โดยยาเดียมุ่งมั่นที่จะเสนอนวัฒกรรมใหม่ ๆ แก่ผู้ขับขี่ชาวไทยในอนาคตด้วยเช่นกัน

    ในการเปิดตัว Yadea Velax ครั้งนี้ไม่เพียงแต่นำเสนอมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าอัจฉริยะสมรรถนะสูงเท่านั้น แต่ยังมาพร้อมกับกิจกรรมสุดพิเศษภายในบูธของยาเดียให้ผู้เยี่ยมชมได้ร่วมสนุกด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นเกมหมุนวงล้อเสี่ยงโชค ซุ้มถ่ายภาพที่ระลึก และ กิจกรรมพบปะผู้เยี่ยมชมบูธ พร้อมลุ้นรับของรางวัลสุดเอ็กคลูซีฟจากยาเดียร่วมกับนักแสดงชื่อดัง
    ดีแลน หวัง’ หรือ ‘หวัง เฮ่อตี้’ เป็นอีกหนึ่งไฮไลท์พิเศษที่ยาเดียขนทัพมาให้ผู้เข้าเยี่ยมชมบูธได้ร่วมสนุกไปพร้อมกับนำเสนอเทคโนโลยีการเดินทางอย่างยั่งยืนให้กับผู้ขับขี่ชาวไทยทุกท่านภายในงาน

    [1] อ้างอิงการคำนวณเมื่อขับขี่ถึง 50 กิโลเมตรต่อวัน รวมถึงการคำนวณจากค่าไฟฟ้า ค่าน้ำมัน และค่าบำรุงรักษารถจักรยานยนต์ไฟฟ้าและรถยนต์สันดาปในประเทศไทย โดยเป็นข้อมูลเพื่อใช้สำหรับอ้างอิงเท่านั้น ค่าใช้จ่ายอาจแตกต่างไปตามการใช้งานจริงของผู้ใช้


    ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย

    Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
    Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
    Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
    instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
    Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
    Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
    Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine


    No Comment
  •  “ไทยยามาฮ่ามอเตอร์” เนรมิตบูธสุดอลังการสะท้อนความสุดในทุกฟีล! เปิดตัว 3 รุ่นใหม่ สายพันธุ์ R-Series และ Sport Heritage

    2 Min Read

     “ไทยยามาฮ่ามอเตอร์” เนรมิตบูธสุดอลังการสะท้อนความสุดในทุกฟีล! ภายใต้แนวคิด Feel The Unique Experience – สุดทุกทาง…ต่างทุกฟีล”เปิดตัว 3 รุ่นใหม่ สายพันธุ์ R-Series และ Sport Heritage อัดแน่นโปรโมชันมัดใจไบค์เกอร์ ในงานบางกอกฯ มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 46

    บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด ผู้ผลิต และจำหน่ายรถจักรยานยนต์ยามาฮ่าในประเทศไทย พร้อมส่งมอบประสบการณ์ในทุกฟีลให้กับลูกค้ายามาฮ่า เนรมิตบูธยามาฮ่า “Feel The Unique Experience…สุดทุกทาง ต่างทุกฟีล” มอบที่สุดแห่งประสบการณ์ให้กับลูกค้า เปิดตัวรถซูเปอร์สปอร์ตสายพันธุ์ R-Series รุ่นใหม่ New YAMAHA R9 และ New YAMAHA R3 และรถคลาสสิกสไตล์ Sport Heritage New YAMAHA SR400 Final Edition อัดแน่นโปรโมชันสุดพิเศษทั้งรถสแตนดาร์ด รถบิ๊กไบค์ เครื่องแต่งกาย และผลิตภัณฑ์ยามาลู้ป ผนึกกำลังพันธมิตรทางการค้า มอบที่สุดแห่งประสบการณ์ด้วยกิจกรรมที่ตอบโจทย์ลูกค้าของยามาฮ่าครบทุกไลฟ์สไตล์ ในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 46

    นายพงศธร เอื้อมงคลชัย ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด กล่าวถึงแนวความคิดการออกแบบบูธยามาฮ่า รวมถึงการเปิดตัวรถใหม่ในปีนี้ว่า “ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ยามาฮ่ามุ่งมั่นสร้างสรรค์ประสบการณ์ที่เหนือความคาดหมายให้กับลูกค้า ภายใต้ปรัชญา “Kando” และสโลแกน “Revs Your Heart” ที่สะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการสร้างความประทับใจ และความพึงพอใจที่เหนือความคาดหมายของลูกค้า ถ่ายทอดผ่านวิถีอันเป็นเอกลักษณ์ของยามาฮ่าทั้ง 5 ประการ ได้แก่ Innovation, Excitement, Confidence, Emotion และ Ties

     

    เมื่อต้นปีที่ผ่านมา ยามาฮ่าได้เปิดตัวแบรนด์แคมเปญ Feel The Unique Experience – สุดทุกทาง…ต่างทุกฟีล” เพื่อตอกย้ำความโดดเด่นและสร้างความแตกต่างในตลาดรถจักรยานยนต์ ด้วยผลิตภัณฑ์ และกิจกรรมทางการตลาด ชูความเป็นผู้นำ Trend Setter ตัวจริงในวงการรถจักรยานยนต์ ด้วย สุด…ทุกการสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ สุด…ทุกความเร้าใจในการขับขี่ สุด…ทุกสไตล์ สุด…ทุกความมั่นใจ และสุด…ทุกความเป็นตัวตน สำหรับงานมอเตอร์โชว์ปีนี้ ยามาฮ่าได้นำแคมเปญดังกล่าวมาต่อยอด ภายใต้บูธ “Feel The Unique Experience…สุดทุกทาง ต่างทุกฟีล”ด้วยการออกแบบที่สะท้อนความเป็นตัวตนของยามาฮ่าอย่างชัดเจน ผ่านแนวคิด “Reflect Your Unique Identity” ที่สะท้อนความเป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใครในทุกมุมมอง

     

    ในปีนี้บูธยามาฮ่าได้นำเสนอความ “สุดทุกทาง” ผ่านผลิตภัณฑ์และประสบการณ์ที่หลากหลาย ซึ่งจะทำให้ทุกท่านได้สัมผัสถึงความ “ต่างทุกฟีล” อย่างแท้จริง เริ่มจาก Yamaha R-Series ซึ่งเปิดตัวในงานนี้ถึง 2 รุ่นด้วยกัน ได้แก่ New YAMAHA R9 สุดยอดเทคโนโลยีจาก MotoGP ดีไซน์ล้ำสมัยด้วยเครื่องยนต์ CP3 ขนาด 890 ซีซี ที่แรงจัด เร้าใจทั้งบนถนนและในสนามแข่ง New YAMAHA R3 มาพร้อมดีไซน์โฉบเฉี่ยว ปีกแอโรไดนามิก เพิ่มการทรงตัว ด้วยเครื่องยนต์ 321 ซีซี ที่ตอบสนองได้ทันใจทุกการขับขี่ ควบคุมง่าย คล่องตัวยิ่งขึ้น ดีไซน์ดุดัน เร้าใจ และอัดแน่นไปด้วย DNA ของ R-Series New YAMAHA SR400 ตำนานสองล้อคลาสสิกที่ครองใจชาวไทย ด้วยดีไซน์โดดเด่นที่คงความคลาสสิกไว้อย่างสมบูรณ์แบบ ตั้งแต่โคมไฟหน้าทรงกลม โช้คอัพหน้า-หลังแบบดั้งเดิม ระบบสตาร์ทเท้าไปจนถึงเครื่องยนต์สูบเดียวที่ให้สัมผัสการขับขี่แบบต้นตำรับ ความเรียบง่ายแต่แข็งแกร่งของ SR400 ทำให้เป็นที่ชื่นชอบของนักสะสม และผู้ที่หลงใหลในรถจักรยานยนต์คลาสสิกในประเทศไทย เปิดตัวสีใหม่ซึ่งเป็น Final Edition 2 สีด้วยกัน ได้แก่ สีแดง Deep Red Metallic เป็นสีพิเศษที่ยามาฮ่าไม่เคยทำมาก่อน และ สีเทา Dark Gray Metallic เพื่อให้ Yamaha SR400 เป็นตำนานที่จะอยู่ในใจทุกคนตลอดไป และนี่คือทั้ง 3 รุ่นใหม่ที่สร้างความ “สุดทุกทาง ต่างทุกฟีล” ของบูธยามาฮ่า “Feel The Unique Experience…สุดทุกทาง ต่างทุกฟีล” ในปีนี้”

    นายอุกฤษณ์ ภาควิวรรธ รองผู้จัดการใหญ่ด้านวางแผนการค้า และการตลาด บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด กล่าวถึงรายละเอียดเพิ่มเติมของกิจกรรมการตลาดของบูธยามาฮ่าในปีนี้ว่าสำหรับบูธยามาฮ่า  “Feel The Unique Experience…สุดทุกทาง ต่างทุกฟีล” ในปีนี้ เราได้เตรียมความ “สุดทุกทาง” และ “ต่างทุกฟีล” ไว้ให้กับลูกค้ายามาฮ่ามากมาย


    สุดแรกคือ สุด…ทุกการสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ New YAMAHA R9 รถที่นำนวัตกรรมจากสนามแข่ง MotoGP มาใส่ในรถสแตนดาร์ดจากโรงงาน เพื่อให้ลูกค้าได้สัมผัสกับความขับขี่ที่เร้าใจจากสนามแข่งสู่ถนนจริง นอกจากนี้ ยังมีการจัดแสดงการทำงานของระบบ YECVT ที่เป็นนวัตกรรมใหม่ที่เปลี่ยนประสบการณ์การขับขี่รถออโตเมติกที่อยู่ใน All New Yamaha NMAX TECHMAX ซึ่งได้เปิดตัวไปเมื่อเดือนที่ผ่านมา และได้การตอบรับเป็นอย่างดี

     

    สุดที่ 2 คือ สุด…ทุกความเร้าใจในการขับขี่ ยามาฮ่าร่วมเปิดประสบการณ์ใหม่ในการขับขี่ท่องเที่ยวให้กับลูกค้า โดยได้รับเกียรติจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ในการร่วมทำแคมเปญ “สุดทุกฟีล       ชิลทุกวัน@ ภาคตะวันออก” ร่วมกับอัมรินทร์ทีวี และ Traveloka จัดสิทธิพิเศษส่วนลดให้กับลูกค้า     ยามาฮ่าทั้ง กิน ช้อป เที่ยว รวมทั้งยังมีกิจกรรม XMAX Exclusive Trip ทริปสุด Unseen ที่ออกแบบโดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ให้ลูกค้ายามาฮ่าได้ร่วมทริปสุดพิเศษ รับรองว่าจะสร้างความประทับใจให้กับลูกค้าอย่างแน่นอน

     

    สุดที่ 3 คือ สุด…ทุกสไตล์ ยามาฮ่าพร้อมเติมเต็มไลฟ์สไตล์ของลูกค้า ทั้งแฟชั่น เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ ดูหนัง ฟังเพลง และกีฬา รวมไปถึง e-Sport โดยในงานนี้ยามาฮ่าร่วมมือกับบริษัท Warrix ซึ่งเป็นบริษัทแฟชั่นกีฬาชั้นนำ ร่วมทำกิจกรรม พร้อมโปรโมชันพิเศษสำหรับลูกค้าที่ซื้อรถในงานมอเตอร์โชว์ สำหรับสาย Gamer ยามาฮ่าได้ร่วมกับ BURIRUM E-Sport จัดทำ Exclusive Training ให้กับลูกค้ายามาฮ่า และสำหรับสายเอ็นเตอร์เทนเม้น ยามาฮ่าได้ร่วมกับพาร์เนอร์แบรนด์ต่างๆ จัดดูหนัง ฟังเพลง ให้ลูกค้ายามาฮ่าทั่วประเทศ ซึ่งทุกท่านสามารถติดตามกิจกรรมของยามาฮ่าได้ตลอดทั้งปี

     

    สุดที่ 4 คือ สุด…ทุกความมั่นใจ ยามาฮ่าเป็นแบรนด์แรกในวงการรถจักรยานยนต์ที่สร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าโดยมอบรับประกัน 5 ปี และในปีนี้ ยามาฮ่าไม่ได้ดูแลแค่ตัวรถ แต่เราจะดูแลลูกค้าไปพร้อมกันด้วยแคมเปญ “แคร์สุดX2” โดยยามาฮ่าร่วมกับทิพยประกันภัย มอบประกันอุบัติเหตุ และคุ้มครองชดเชยรายได้ มูลค่าสูงสุดถึง 30,000 บาท ให้ลูกค้า YAMAHA FAZZIO และ YAMAHA FINN ที่ซื้อรถตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคมถึง 30 มิถุนายนนี้ เพื่อให้ลูกค้ายามาฮ่ามั่นใจทุกครั้งที่ขับขี่

     

    สุดที่ 5 คือ สุด…ทุกความเป็นตัวตน ยามาฮ่าได้เตรียม Inspiration เพื่อให้ลูกค้าได้สะท้อนความเป็นตัวตนให้โดดเด่นมากยิ่งขึ้นผ่านรถแต่งทั้ง 5 รุ่นยอดนิยม ได้แก่ YAMAHA FAZZIO Racing Toy Pop Art, YAMAHA GRAND FILANO Midcentury Classy Sport, YAMAHA NMAX Sport Cyber Punk, YAMAHA XMAX Super Black Sport Muscle และ YAMAHA AEROX Super Racing Sport

     

    นอกจากนี้เรายังมีรถจักรยานยนต์ยามาฮ่าที่ตอบสนองไลฟ์สไตล์ของลูกค้าครบทุกเซ็กเม้นท์มาจัดโปรโมชันสุดพิเศษภายในงานอย่างครบครัน อีกทั้งยังมียานยนต์ทางน้ำอย่าง YAMAHA WaveRunner และ YAMAHA Super Jet รวมทั้งเครื่องแต่งกาย YAMAHA Apparel & Accessories ให้ทุกท่านได้เลือกช้อปตามสไตล์ของตัวเอง ขอให้ทุกท่านได้ร่วมชมนวัตกรรมจากยามาฮ่า และร่วมสนุกสนานกับกิจกรรมต่างๆภายในบูธของเรานะครับ”

     

    พร้อมกันนี้ยังมี YAMAHA Rev Idol ที่มีดีกรีระดับมิสแกรนด์ “น้องผ้าไหม – อรอนงค์ อินทร์ทุ่ม มิสแกรนด์สตูล 2023 และ “น้องอายตา – อารยา เยื่องเสือ” มิสแกรนด์กาญจนบุรี 2023 และ YAMAHA Advisor หนุ่มหล่อ สาวสวย Gen ใหม่ จากไทยยามาฮ่ามอเตอร์ ที่พร้อมให้ข้อมูลและอำนวยความสะดวกแก่ทุกท่านภายในบูธยามาฮ่า “Feel The Unique Experience…สุดทุกทาง ต่างทุกฟีล”

     

    ยามาฮ่าพร้อมมอบประสบการณ์สุดพิเศษที่สะท้อนตัวตนอันโดดเด่นของผู้ขับขี่ ผ่านนวัตกรรมล้ำสมัย กิจกรรมสุดเร้าใจ และโปรโมชันสุดคุ้มค่า ภายในบูธยามาฮ่า “Feel The Unique Experience…สุดทุกทาง ต่างทุกฟีล” เชิญร่วมสัมผัสความพิเศษนี้ได้ที่บูธยามาฮ่า ในงาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 46 แล้วมาค้นหาความเป็นตัวคุณไปพร้อมกับยามาฮ่า วันที่ 26 มีนาคม ถึง 6 เมษายน 2568 นี้ ณ ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 1 เมืองทองธานี สามารถติดตาม และชมรายละเอียดของบูธยามาฮ่าได้ที่ www.yamaha-motor.co.th หรือที่ Facebook: Yamaha Society Thailand

     

    #Yamaha #ยามาฮ่า

    #RevsyourHeart

    #FeelTheUniqueExperience

    #MotorShow2025 #มอเตอร์โชว์2025


    ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย

    Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
    Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
    Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
    instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
    Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
    Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
    Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine

    No Comment
  • เปิดยิ่งใหญ่ “บางกอกมอเตอร์โชว์” ครั้งที่ 46 ยกทัพ  54  แบรนด์ อัดแน่นเต็มพื้นที่ อิมแพค ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 1-3 และ ฟอรั่ม ฮอลล์ 4 

    1 Min Read
    เปิดยิ่งใหญ่ “บางกอกมอเตอร์โชว์” ครั้งที่ 46 ยกทัพ  54  แบรนด์ อัดแน่นเต็มพื้นที่ อิมแพค ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 1-3 และ ฟอรั่ม ฮอลล์ 4 
    บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) รวมกับผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมยานยนต์กว่า 54 แบรนด์ดัง จัดงาน “บางกอกอินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์” ครั้งที่ 46 ภายใต้ธีม “The Talk of Sensuous  Automotive” หรือ “สนทนาภาษายานยนต์” ชูไฮไลต์พื้นที่โซนใหม่จัดแสดงอะไหล่รถอีวีและสันดาป หลังปิดดีลเครือข่ายผู้ผลิตและจำหน่ายจากประเทศจีน โดยงานจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 26 มีนาคม – 6 เมษายน พ.ศ.2568 ณ อิมแพค ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 1-3 และ ฟอรั่ม ฮอลล์ 4 เมืองทองธานี
    ดร.ปราจิน เอี่ยมลำเนา ประธานจัดงาน “บางกอกอินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์” ครั้งที่ 46 กล่าวว่า “สำหรับงานมอเตอร์โชว์ในปีนี้ จัดขึ้นภายใต้ธีม “The Talk of Sensuous  Automotive” หรือ “สนทนาภาษายานยนต์” สื่อถึงปรัชญาแนวทางการออกแบบในโลกยานยนต์ที่สื่อสารเข้าถึงอารมณ์ความรู้สึกที่เต็มเปี่ยมด้วยพลัง ความปรารถนา แรงบันดาลใจ สื่อสารเป็นภาษาของยานยนต์ เพื่อสะท้อนแนวคิด การสร้างสรรค์พัฒนา และประสบการณ์สุนทรียภาพทางอารมณ์อย่างที่คุณค่า”
    นายจาตุรนต์ โกมลมิศร์ รองประธานจัดงาน “บางกอกอินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์” ครั้งที่ 46 “โดยปัจจุบันมีผู้ประกอบการยานยนต์จากยุโรปและเอเชียตอบรับเข้าร่วมออกบูธภายในงานฯ แล้ว 54 ราย แยกเป็นรถยนต์ 41 บริษัท และจักรยานยนต์ 13  สำหรับการจัดงานในครั้งนี้ ได้รับการตอบรับจากผู้ประกอบการที่เข้าร่วมออกงานอย่างเป็นอย่างดี นอกจากนี้ ยังได้รับการตอบรับการเข้าร่วมออกงานฯของกลุ่มลูกค้ารายใหม่ที่เป็นแบรนด์ยานยนต์ไฟฟ้า ที่เพิ่งเข้ามาเปิดตัวในประเทศไทย อาทิ ZEEKR, OMODA&JAECOO, CHERY, KINGGEN, JUNEYAO , RIDDARA และ GEELY รวมถึงเทคโนโลยีระบบนำทางภายในรถยนต์ HUAWEI นอกจากนี้ยังมีแบรนด์รถจักรยานยนต์ไฟฟ้า YADEA ที่มาเปิดตัวครั้งแรกภายในงานฯ โดยในปีนี้มีผู้ประกอบการจากประเทศจีนเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา 14 ราย”
    “ส่วนในไฮไลต์ของการจัดงานฯ ปีนี้ นอกจากมีการเปิดตัวรถยนต์และรถจักรยานยนต์รุ่นใหม่ๆ ทั้งรถสันดาปและรถอีวีของผู้ประกอบการยานยนต์แล้ว บริษัทฯ ได้จัดเตรียมพื้นที่ฟอรั่ม ฮอลล์ 4 พื้นที่กว่า 9,000 ตารางเมตร เพื่อรองรับการออกบูธอุปกรณ์ตกแต่งรถโดยเฉพาะ โดยในปีนี้ได้ขยายฐานผู้ออกบูธแสดงสินค้าสู่กลุ่มผู้ผลิตและจำหน่ายอะไหล่รถอีวีและสันดาปที่ต้องการขยายตลาดในประเทศไทย เนื่องจากเห็นโอกาสและศักยภาพของงานบางกอกอินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ที่เป็นงานจัดแสดงยานยนต์ระดับสากล”
    “จึงได้รับความร่วมมือจาก บริษัท หนานจิง ฉ่วงฉี เอ็กซิบิชั่น จากประเทศจีน ได้นำสินค้าอุปกรณ์อะไหล่รถยนต์ และรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า จากประเทศจีน มาจัดแสดงเพื่อให้ผู้ประกอบการในประเทศไทยที่สนใจเป็นร่วมตัวแทนจำหน่ายอีกด้วย นับได้ว่า เป็นครั้งแรกของการจัดงานแสดงรถยนต์เพื่อผู้ประกอบการธุรกิจอุตสาหกรรมยานยนต์โดยตรง เป็นการเชื่อมโยงทางธุรกิจ และการสร้างเครือข่ายระหว่างผู้ประกอบการ บนพื้นที่กว่า 3,800 ตารางเมตรภายในฟอรั่ม ฮอลล์ 4 ระหว่างวันที่ 24 – 30 มีนาคม 2568 มั่นใจได้ว่า จะได้สินค้าที่ตรงตามคุณภาพ ราคาจากผู้ประกอบการโดยตรง”
    นอกจากนี้ ยังมีการออกบูธจัดแสดง USED CAR หรือรถมือสองระดับลักชัวรี่ รวมถึง สินค้าไลฟ์สไตล์ แฟชั่น สินค้ามูเตลู การแข่งขันชิงรางวัล พร้อมกิจกรรมสนุกๆอีกมากมาย ภายในฮอลล์
    และอีก 1 งานที่แต่งเติมสีสันให้ล้อกันไปกับงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งนี้ คือ MU-NIVERSE “เปิดจักรวาลมูเตลูไทย สู่คนรุ่นใหม่” เป็นอีเวนต์ที่รวบรวม เรื่องราวมูเตลูของเมืองไทยในแบบที่เข้าถึงง่าย เชื่อมโยง ความเชื่อม ศิลปะ เทคโนโลยี และไลฟ์สไตล์เข้าด้วยกัน ระหว่าง วันที่ 2-6 เมษายน 2568 ที่บริเวณฟอรั่ม ฮอลล์ 4 พบปะกับอ.ลักษณ์ โหราธิบดี และแขกรับเชิญสายมูชื่อดังมากมาย พร้อมกิจกรรมดูดวง ปรึกษาฤกษ์ออกรถ ป้ายทะเบียนมงคล สินค้าเครื่องรางวัตถุมงคล กิจกรรมแลกเปลี่ยนข้อมูลของดีของสะสมสายมู พร้อมรับสติ๊กเกอร์เสริมดวงรุ่นพิเศษเฉพาะงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ เท่านั้น
    นายอโณทัย เอี่ยมลำเนา ประธานเจ้าหน้าที่สายการผลิต บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “สำหรับกิจกรรมในปีนี้ นอกจากกิจกรรม E-Racing ที่เปิดโอกาสให้ผู้เข้าชมได้สัมผัสประสบการณ์การแข่งขันรถยนต์เสมือนจริงผ่านเครื่องเล่น Simulator แล้ว ทางผู้จัดยังได้รับความร่วมมือจาก R.C.S. (Runbike Championship Series) ประเทศญี่ปุ่น จัดกิจกรรมการแข่งขันจักรยานทรงตัวรายการ “Grandprix Runbike Championship With R.C.S.” ขึ้นภายในงาน โดยเป็นการจัด Pre-Event จำนวน 2 สนาม ซึ่งการจัดการแข่งขันดังกล่าวถือเป็นก้าวสำคัญในการผลักดันวงการกีฬาสำหรับเยาวชนในประเทศไทย รวมถึงบูธแสดงสินค้าเกี่ยวกับเด็ก กีฬา และไลฟ์สไตล์ ตลอดจนโซนกิจกรรมสำหรับครอบครัวอีกด้วย”
    นายพีระพงศ์ เอี่ยมลำเนา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “ที่ผ่านมาบริษัทฯ ในฐานะผู้จัดงาน ได้มีการพัฒนารูปแบบการให้บริการใหม่ๆ มาอย่างต่อเนื่อง เพื่ออำนวยความสะดวกให้ทั้งผู้เข้าร่วมงาน และผู้เข้าชมงานได้รับประสบการณ์ใหม่ๆ โดยเฉพาะการนำเทคโนโลยี digital transformation เข้ามาอำนวยความสะดวกในการเข้าชมงาน”
    “เราได้พัฒนาบัญชี LINE Official Account หรือ Line OA ขึ้น เพื่อเพิ่มความสะดวกใช้ในการลงทะเบียน และยังเป็นการเพิ่มช่องทางการสื่อสารระหว่างบริษัทฯ กับผู้บริโภคในการนำเสนอผลิตภัณฑ์และรูปแบบการให้บริการใหม่ๆ ทั้งกลุ่ม Auto และ กลุ่ม Lifestyle ที่บริษัทฯ พัฒนาขึ้นมา เพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจ”
    “นอกจากนี้ เรายังได้จัดทำโปรแกรม Fullloop ที่สามารถเก็บข้อมูลฟีดแบ็กจากผู้เข้าชมได้ในรูปแบบที่สะดวกและรวดเร็วมากขึ้น ผู้เข้าชมสามารถกรอกแบบสอบถามสั้นๆ เพื่อประเมินการจัดงาน ช่วยให้ผู้จัดงานสามารถรวบรวมข้อมูลได้ทันทีและวิเคราะห์ผลได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งการเก็บฟีดแบ็กจากผู้เข้าชมในงานมีความสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากข้อมูลเหล่านี้จะช่วยให้ผู้จัดงานสามารถปรับปรุงการจัดงานในหลายๆ ด้าน และตอบสนองต่อความต้องการของผู้เข้าชมได้ดียิ่งขึ้น”
    อย่างไรก็ตาม คาดว่าการจัดงานฯ ปีนี้จะสร้างรายได้เพิ่มขึ้นมากกว่า 10% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา  ขณะที่ภาพรวมอุตสาหกรรมยานยนต์ปีนี้คาดว่าจะทรงตัว เนื่องจากภาพรวมเศรษฐกิจในประเทศยังไม่ฟื้นตัวชัดเจนและเศรษฐกิจโลกยังมีความไม่แน่นอน ประกอบกับสถาบันการเงินเข้มงวดการปล่อยสินเชื่อเนื่องจากภาวะหนี้ครัวเรือนอยู่ในระดับสูง อย่างไรก็ตาม ประเมินว่าผู้บริโภคยังมีความต้องการซื้อรถใหม่และรถมือสอง
    สำหรับการจัดงานในครั้งนี้ ผู้จัดงานฯ มีการปรับเพิ่มวันสำหรับสื่อมวลชน หรือ Press day เป็น วันที่ 24 มีนาคม 2568 สือมวลชนสามารถเข้าภายในบริเวณงานได้ตั้งแต่เวลา 7:30 น. โดยรอบนำเสนอของบริษัทแรกจะเริ่มในเวลา 8:00 – 21:00 น. ซึ่งเป็นไปตามมติที่ประชุมจากแบรนด์ที่ร่วมออกงานฯ โดยสื่อมวลชนที่ไม่ได้ลงทะเบียนล่วงหน้า สามารถลงทะเบียนได้ที่กองอำนวยการ ได้ตั้งแต่เวลา 7:00 น.
    ในวันที่ 25 มีนาคม 2568 พิธีเปิดการจัดงาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 46 อย่างเป็นทางการ จะเริ่มในเวลา 9:00 – 10:00 น. และ เปิดรอบสำหรับ VIP ตั้งแต่เวลา 10:00 น.- 18:00 น.
    การจัดงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 46 นี้ มีความคืบหน้าเป็นไปตามแผนงานที่วางไว้ มั่นใจว่า การจองรถยนต์ ภายในงานครั้งนี้ จะได้รับข้อเสนอที่คุ้มค่า เข้าถึงเทคโนโลยีล่าสุด และสิทธิพิเศษมากมาย ถือเป็นโอกาสที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการตัดสินใจ!  และ สร้างความตื่นตาตื่นใจไม่แพ้การจัดงานในอดีตที่ผ่านมา
    แคมเปญแจกรถรางวัล สำหรับการจัดงานในครั้งนี้ เรามี 4 แคมเปญด้วยกัน ดังนี้
    1.         ซื้อบัตรเข้าชมงาน ตอบแบบสอบถาม ลุ้นรับรางวัลรถยนต์รถยนต์ไฟฟ้า  JAECOO 6 EV (2WD) และ รถจักรยานยนต์ 2 รางวัล จากแบรนด์ YAMAHA และ HONDA
    2.         จองรถยนต์ ภายในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 46 ลุ้นรับรถยนต์ไฟฟ้า NETA V-II smart  หรือ จองรถจักรยานยนต์ภายในงานฯ ลุ้นรางวัล รถจักรยานยนต์ KAWASAKI W230
    3.         ร่วมกิจกรรมลงทะเบียนบัตรอภินันทนาการ ลุ้นรับรางวัลรถจักรยานยนต์ SUZUKI BURGMAN  ได้ที่ ฟอรั่ม ฮอลล์ 4
    4.         กิจกรรม Shopping  มูลค่า 1,000 บาทขึ้นไปภายใน ฟอรั่ม ฮอลล์ 4 ร่วมลุ้นรางวัล E-Scooter YADEA MODERN
    สำหรับบัตรเข้าชมงานฯ มีจำหน่ายบริเวณด้านหน้างาน และ ทางออนไลน์ ผ่านไลน์แอปพลิเคชั่น ทั้งนี้นอกจากสิทธิประโยชน์จากการร่วมลุ้นรางวัลรถยนต์และรถจักรยานยนต์แล้ว สามารถนำบัตรเข้าชมงานแบบซื้อที่ลงทะเบียนเรียบร้อยแล้ว มาร่วมกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลต่างๆมากมายได้ที่ บูธกิจกรรมพิเศษ ภายในอาคารฟอรั่ม ฮอลล์4 และ สำหรับการจัดงานฯ ครั้งนี้ ผู้จัดงานฯ ได้จัดเตรียมรถshuttle ไว้อำนวยความสะดวก สำหรับผู้ที่เดินทางด้วยรถไฟฟ้า BTS สายสีชมพู สามารถลงที่สถานีศรีรัช แล้วต่อรถ shuttle ที่ผู้จัดงานฯได้เตรียมไว้ เพื่อเข้าสู่งาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 46 เส้นทางศรีรัช  – ACTIVE HALL 4 โดยไม่มีค่าใช้จ่ายแต่ประการใด
    มาร่วมสัมผัสนวัตกรรมแห่งยานยนต์ AI ที่จะตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์และคุณภาพชีวิตใหม่ของทุกคนได้ที่งาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 46 นี้  วันที่ 26 มีนาคม – 6 เมษายน 2568 ณ อิมแพค ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 1-3 และ ฟอรั่ม ฮอลล์ 4 เมืองทองธานี งานแสดงเทคโนโลยียานยนต์ อันดับ 1 ของเมืองไทย


    ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย

    Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
    Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
    Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
    instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
    Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
    Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
    Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine

    No Comment
  • อีซูซุ ส่งทัพยนตรกรรมขุมพลังใหม่ “2.2 Ddi MAXFORCE” พร้อม “ISUZU DRAGONMAX” ร่วมโชว์ ในงาน “บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 46”

    3 Min Read

    อีซูซุ ส่งทัพยนตรกรรมขุมพลังใหม่ “2.2 Ddi MAXFORCE” พร้อม “ISUZU DRAGONMAX” ร่วมโชว์  ในงาน “บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 46” ภายใต้คอนเซ็ปต์ “ISUZU Trusted Buddy…    อีซูซุเคียงข้างคุณ เคียงคู่ไทย” 

    ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ ตอกย้ำแบรนด์อีซูซุที่ผู้ใช้ชาวไทยไว้วางใจตลอด 68 ปีที่ผ่านมา ภายใต้คอนเซ็ปต์ “ISUZU Trusted Buddy…อีซูซุเคียงข้างคุณ เคียงคู่ไทย” จัดทัพยนตรกรรมครบรุ่น ทั้งโมเดลมาตรฐานยอดนิยมที่โดดเด่นด้วยขุมพลังดีเซลแห่งอนาคต “ใหม่! 2.2 Ddi MAXFORCE…The FORCE of FUTURE พลังใหม่…กำหนดโลก” และโมดิฟายคาร์ หลากรุ่น ครบทุกไลฟ์สไตล์ รวมทั้งสิ้น 15 คัน แน่นเต็มพื้นที่จัดแสดง

                กลุ่มตรีเพชร โดย มร. ทาคาชิ ฮาตะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด เผยว่า “อีซูซุภูมิใจนำเสนอบูธในงาน Bangkok International Motor Show 2025 ในคอนเซ็ปต์ “Isuzu Trusted Buddy… อีซูซุเคียงข้างคุณ เคียงคู่ไทย” มีวัตถุประสงค์เพื่อตอกย้ำแบรนด์อีซูซุที่ผู้ใช้ชาวไทยไว้วางใจตลอด 68 ปีที่ผ่านมา ด้วยผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูงตามแบบฉบับญี่ปุ่น สามารถตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ชาวไทยอย่างแท้จริง คือ ประหยัดน้ำมันที่สุด ทนทานที่สุด คุ้มค่าเงินสูงสุด พร้อมการบริการดูแลและสร้างความพอใจแก่ผู้ใช้ตลอดอายุการใช้งาน    อีกทั้งอีซูซุยังให้ความสำคัญต่อคุณค่าทางสังคมไทย ด้วยการผลิตรถที่เน้นการใช้ชิ้นส่วนภายในประเทศ เช่น รถปิกอัพที่ใช้ไทยเป็นฐานการผลิตเพื่อส่งออกไปประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก     ใช้ชิ้นส่วนไทยมากกว่า 90% ก่อให้เกิดห่วงโซ่อุปทานยานยนต์ที่แข็งแกร่งของไทยในระดับโลก เกิดการจ้างงาน และส่งเสริมอุตสาหกรรม เศรษฐกิจไทยตลอดมา… นอกจากนี้อีซูซุได้ยกขบวน   ยนตรกรรมโชว์ขุมพลังดีเซลแห่งอนาคต “ใหม่! 2.2 Ddi MAXFORCE…The FORCE of FUTURE พลังใหม่…กำหนดโลก” ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อปลายปีที่ผ่านมานั้น ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีมากโดยในระยะเวลา 3 เดือนนี้ มีลูกค้ามากกว่า 22,000 คนทั่วประเทศ ได้ทดสอบรถยนต์รุ่นใหม่นี้แล้วทั้ง อีซูซุดีแมคซ์ และ อีซูซุมิว-เอ็กซ์ ลูกค้าต่างพอใจกับสมรรถนะอันยอดเยี่ยมของทั้งเครื่องยนต์ใหม่ 2.2 Ddi MAXFORCE และเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีดใหม่ ในด้านพละกำลัง ความเร็ว และความนุ่มนวลในการขับขี่ ร่วมจัดแสดงภายในบูธ รวมทั้งสิ้น 15 คัน ทั้งรุ่นมาตรฐานยอดนิยม จำนวน 8 คัน และตกแต่งพิเศษหลากสไตล์ จำนวน 7 คัน และ 1 ในรถตกแต่งพิเศษนั้นคือ “ISUZU DRAGONMAX” โดดเด่นในคอนเซ็ปต์ “Restomod” ซึ่งมีที่มาจากคำว่า “Restoration” และ “Modernization” เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าที่หลากหลาย และอีซูซุยังมอบสิทธิพิเศษให้แก่ลูกค้าที่จองรถในงานได้ร่วมลุ้นรับบัตรกำนัลมูลค่า 22,000 บาท ทุกวัน รวมมูลค่า 1,232,000 บาท อีกด้วย”

     

    สำหรับยนตรกรรมที่อีซูซุนำมาจัดแสดงภายในงาน Bangkok International Motor Show 2025 รวมทั้งสิ้น 15 คัน ดังนี้

     

    ยนตรกรรมอีซูซุ รุ่นมาตรฐาน รวม 8 คัน ได้แก่

    • NEW! MU-X “THE NEXT PEAK” รุ่น RS 4×2 สีเทา ไอเกอร์ โอเพค (Eiger Gray Opaque) ไลน์อัพใหม่ที่มาพร้อมเครื่องยนต์ 2 Ddi MAXFORCE และเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด พร้อมการออกแบบที่โดดเด่น และสปอร์ตเหนือระดับ
    • NEW! MU-X “THE NEXT PEAK” รุ่น ULTIMATE 4×2 สีขาวมุก โดโลไมท์ (Dolomite White Pearl) 2.2 Ddi MAXFORCE และเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด พลิกโฉมสู่ความ พรีเมี่ยม

    • NEW! MU-X “THE NEXT PEAK” รุ่น ELEGANT 4×2 สีเงินโบฮีเมียน เมทัลลิก (Bohemian Silver Metallic) 2.2 Ddi MAXFORCE และเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด กระจังหน้าดีไซน์ Dynamic Grille หรูหราด้วยวัสดุสีดำ Titanium Carbide โฉบเฉี่ยวด้วยไฟหน้าและไฟท้าย Dynamic Blade เพิ่มความสปอร์ตของชุดไฟท้าย
    • NEW! ISUZU D-MAX HI-LANDER 4 ประตู รุ่น M สีใหม่ เทาเอลบรุส โอเพค (Elbrus Grey Opaque) 2.2 Ddi MAXFORCE และเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด ปลดล็อกนิยามใหม่แห่งปิกอัพยกสูงระดับ TOP CLASS ที่ผสมผสานความหรูหราอย่างลงตัว ด้วยดีไซน์สปอร์ตโฉบเฉี่ยวก้าวล้ำไปสู่เทคโนโลยีอนาคตแฝงด้วยศาสตร์แห่งวิศวกรรมการขับเคลื่อน

     

    • NEW! ISUZU D-MAX HI-LANDER 4 ประตู รุ่น Z สีดำบาวาเรียน (Bavarian Black Mica) 2.2 Ddi MAXFORCE ปิกอัพยกสูงเหนือระดับ ที่มาพร้อมกับรูปลักษณ์ที่โดดเด่น และอุปกรณ์อำนวยความสะดวกที่คุ้มค่า
    • NEW! ISUZU D-MAX CAB4 รุ่น Z สีใหม่ เทาเอลบรุส โอเพค (Elbrus Grey Opaque) 2.2 Ddi MAXFORCE เกียร์ธรรมดา 6 สปีด อัตราทดใหม่ ภายนอกภูมิฐาน ไฟหน้าดีไซน์เน้นความโฉบเฉี่ยว ISUZU Vision Bi-LED พร้อม Multifunctional Daylight กระจังหน้าแบบ 3-Dimension สี Silky Silver และ Dark Grey พร้อม Air Curtain ที่กันชนหน้า
    • NEW! ISUZU D-MAX SPACECAB รุ่น L สีเงินโบฮีเมียน เมทัลลิก (Bohemian Silver Metallic) 2.2 Ddi MAXFORCE และเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด รถปิกอัพอเนกประสงค์ที่มาพร้อมกับความคุ้มค่า ประหยัดน้ำมัน
    • ISUZU X-SERIES รุ่น HI-LANDER 2 ประตู 9 Ddi Blue Power AT สีขาวมุกโดโลไมท์ (Dolomite White Pearl) ปิกอัพสปอร์ตยกสูง มาพร้อมล้ออัลลอย 17 นิ้ว สี Gloss Black ห้องโดยสารโทนดำ-เทา คอนโซลดีไซน์แบบ Iron Structure เพิ่มความเท่อย่างมีสไตล์

     

    ยนตรกรรมอีซูซุโมดิฟายคาร์ รวม 7 คัน ได้แก่

    • รถปิกอัพในตำนาน “ISUZU DRAGONMAX” สร้างขึ้นใหม่ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Restromod” (Restoration & Modernization) เพื่อตอกย้ำแนวคิด “Isuzu Trusted Buddy… อีซูซุเคียงข้างคุณ เคียงคู่ไทย” โดยนำรถปิกอัพอีซูซุยอดนิยม รุ่น TFR ปี 1988 มาปรับลุคใหม่ เสริมสไตล์สปอร์ต ทันสมัย โดดเด่นภายนอกจดภายใน ใหม่หมดทุกมุมมอง ดีไซน์กันชนหน้า กระจังหน้า ฝากระโปรงหน้าใหม่ ไฟหน้าโปรเจคเตอร์ใหม่แบบ LED พร้อมไฟ DRL ที่กันชนหน้า ชุดสเกิร์ตข้างดีไซน์ใหม่แบบ Muscle Line ที่ซุ้มล้อ ฝากระบะท้ายพร้อมสปอยเลอร์ Duck Tail ดีไซน์ใหม่ ดุดันยิ่งขึ้นด้วยโป่งล้อที่แก้มหน้าและกระบะท้ายแบบ Wide Body กระจกมองข้าง  ปรับไฟฟ้า สะกดสายตาด้วยชุดไฟท้าย LED ใหม่ ทันสมัยกับสีตัวรถ Katana Matte Silver เปลี่ยนระบบช่วงล่างพร้อมระบบบังคับเลี้ยวใหม่ ด้วยชุดแร็คพวงมาลัย ปีกนก คอม้า และ     เพลาท้ายใหม่ ชุดโช้กอัพ Profender รุ่น Queen Series & Piggy Back ล้อแม็กซ์ Bradley-V ขนาด 8×17 นิ้ว ยาง Yokohama Advan Fleva V701 ขนาด 225/50/17 ชุดจานดิสก์เบรกหน้า-หลัง Brembo พร้อมจานเบรกขนาด 340 และ 320 มม. ภายในเพิ่มความหรูหราแฝงรสนิยมขั้นสุดกับห้องโดยสารด้วยคอนโซลหน้า เบาะและชุดแต่งอาคันทาร่ายกเซต เสริมความสปอร์ตด้วยเบาะ Recaro Premium Classic Seat หุ้มอาคันทาร่า พร้อมมาตรวัด AIM MXT ขนาด 10 นิ้ว อ่านค่าความเร็ว วัดรอบเครื่องยนต์ วัดระดับน้ำมันเชื้อเพลิง วัดความร้อนเครื่องยนต์ ติดตั้งจอกลางแบบ Android ขนาด 8 นิ้ว วัดค่าฟังก์ชั่นต่าง ๆ จากกล่องพ่วงเพิ่มแรงม้า ECU Shop Ultra Boost เช่น วัดบูสต์เทอร์โบ วัดแรงดันน้ำมันเชื้อเพลิง และอุณหภูมิภายนอก ผสานเข้ากับที่สุดของขุมพลังดีเซลแห่งอนาคต “ใหม่! 2.2 Ddi MAXFORCE…The FORCE of FUTURE พลังใหม่…กำหนดโลก” ห้องเครื่องสร้างใหม่โดย BRD เพิ่มความแรงเต็มสปีด แรงไร้ควันด้วยกล่องพ่วงเพิ่มแรงม้า ECU SHOP Ultra Boost ปรับจูน 220 แรงม้า แรงบิด 550 นิวตัน-เมตร และคันเร่งไฟฟ้า Boost Speed Next

    • NEW! ISUZU MU-X THE NEXT PEAK รุ่น RS เครื่องยนต์ 0 Ddi MAXFORCE ขับเคลื่อน 4 ล้อ ตกแต่งสำหรับสายท่องเที่ยวแคมป์ปิ้ง สไตล์ Overland เริ่มจากบันไดข้างจาก TJM พร้อมชุดกันกระแทกด้านข้างตัวถัง เต๊นท์บนหลังคาจาก TJM รุ่น ALLORA ALUMINIUM ROOFTOP TENT เพิ่มความสว่างในยามค่ำคืนด้วยชุดไฟ TJM รุ่น SEEKER LIGHT BAR และชุดไฟ SEEKER SIDE SHOOTER บริเวณฝากระโปรงหน้า ลุยได้มากยิ่งขึ้นด้วยชุดช่วงล่างจาก TJM โช้คอัพรุ่น XGS ROAMER จับคู่กับคอยล์สปริงรุ่น XGS พร้อมปีกนกปรับองศา ล้อ Lenso รุ่น MX รุ่น Cezar พร้อมยาง BRIDGESTONE DUELER AT002 ขนาด 285/60 R18

    • NEW! ISUZU V-CROSS 4 ประตู ขับเคลื่อน 4 ล้อ เครื่องยนต์ 0 Ddi MAXFORCE รุ่น M แต่งพิเศษ เอาใจสายลุยตัวจริงตามแบบฉบับออฟโรดจากประเทศออสเตรเลีย ที่มีสภาพภูมิประเทศสุดโหด ต้องการรถขับเคลื่อน 4 ล้อที่มีสมรรถนะสูงพร้อมเผชิญหน้ากับอุปสรรคทุกรูปแบบ ตกแต่งด้วยชุดแต่งจาก TJM รอบคัน เริ่มจาก ชุดกันชนหน้ารุ่น CHASER BAR พร้อมรอกไฟฟ้ารุ่น TORQ 9500LB ชุดกันชนหลังรุ่น RB6 ชุดบันไดข้างรุ่น MODULAR SIDE BAR STEP ชุดกันกระแทกใต้ท้องรถ ชุดยกช่วงล่าง TJM โช้คอัพรุ่น XGS RUGGED คอยล์สปริง และชุดแหนบรุ่น XGS และล้อขนาด 18 นิ้วรุ่น KONG จาก TJM ให้คุณสามารถออกไปใช้ชีวิตได้เต็มที่ ด้วยชุดเต๊นท์บนหลังคา และยังเพิ่มความอเนกประสงค์ด้วยชุดกระบะลอยและตู้หลังกระบะที่สามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชั่นในการบรรทุกได้หลายรูปแบบ ติดตั้งระบบสำรองกำลังไฟฟ้าด้วยแบตเตอรี่ควบคุมและบาลานซ์กำลังไฟด้วย TJM 25A 3 STAGE DC SOLAR BATTERY CHARGER สามารถแปลงไฟเพื่อเครื่องใช้ไฟฟ้าสำหรับสายแคมป์ปิ้ง

    • NEW! ISUZU MU-X THE NEXT PEAK รุ่น ACTIVE เครื่องยนต์ 2.2 Ddi MAXFORCE 163 แรงม้า แต่งด้วย CONCEPT SPORT SUV ด้วยชุดแต่งบอดี้พาร์ทรอบคันสไตล์สปอร์ตจาก AKC เสริมสมรรถนะด้วยชุดโหลดช่วงล่าง 3.5 นิ้วจาก Profender รุ่น Tune Series พร้อมปีกนกปรับองศา เสริมลุคให้สปอร์ตยิ่งขึ้นด้วยล้อ LENSO รุ่นใหม่ล่าสุด JAGER AJAX พร้อมยาง YOKOHAMA ADVAN SPORT ขนาด 265/50 R20 เสริมสมรรถนะระบบเบรกด้วยเบรกหน้า CALIPER แบบ 6 POT รุ่น R8 พร้อมจานเบรกขนาด 355 มม. CALIPER เบรกหลังแบบ 4 POT รุ่น R3 พร้อมจานเบรกขนาด 355 มม. จาก Run Stop ตกแต่งด้วยลวดลายกราฟฟิกพิเศษ ให้ดูโดดเด่น สะกดทุกสายตา

    • NEW! ISUZU MU-X THE NEXT PEAK รุ่น RS เครื่องยนต์ 2.2 Ddi MAXFORCE 163 แรงม้า ขับเคลื่อน 2 ล้อ ตกแต่งให้เป็นรถที่ตอบสนองกับกิจกรรมกลางแจ้ง ด้วยชุดอุปกรณ์ยึดจับ SUP BOARD บนหลังคารถจาก THULE รุ่น SUP TAXI XT เพิ่มความโดดเด่นด้วยล้อ LENSO รุ่น JAGER ZETA พร้อมยาง BRIDGESTONE DUELER AT002 ขนาด 265/50 R20

    • NEW! ISUZU D-MAX HI-LANDER เครื่องยนต์ 2.2 Ddi MAXFORCE 163 แรงม้า รุ่น M ให้คุณใช้ชีวิตอย่างเต็มที่ ตอบสนองต่อทุกไลฟ์สไตล์ ด้วยชุดอุปกรณ์ยึดจับจักรยานในกระบะรุ่น BED RIDER 822 XTR พร้อมจักรยาน Trek แบบ Mountain & City Bike

    • NEW! ISUZU D-MAX SPARK เครื่องยนต์ 2.2 Ddi MAXFORCE 163 แรงม้า รุ่น S แต่งเอาใจสายซิ่งด้วยชุดแต่งบอดี้พาร์ทรอบคันสไตล์สปอร์ตจาก FORTE จัดทรงด้วยชุดโหลดช่วงล่างจาก Profender รุ่น Mono Tube พร้อมล้อ MK SPORT รุ่น N-5SRR Limited และยาง NITTO รุ่น NT420SD ขนาด 255/50R18

     

    อีกทั้งยังมีกิจกรรม ISUZU Time Traveler อีซูซุ คู่หูคู่ใจ ให้ AI พาข้ามเวลา” ให้ทุกคนได้ร่วมสนุกกับ AI ที่จะพาคุณเดินทางผ่านช่วงเวลาต่างๆ ไปกับคู่หู ISUZU ผ่านทาง https://bit.ly/41HwKmo  พร้อมลุ้นรับรางวัลสุดพิเศษมากมาย อีกทั้งยังสามารถร่วมถ่ายทอดประสบการณ์ความผูกพันกับอีซูซุในกิจกรรม “ความทรงจำดี ๆ กับอีซูซุ”  ภายใต้แคมเพจ์นพิเศษ Isuzu Trusted Buddy… อีซูซุเคียงข้างคุณ เคียงคู่ไทย” พร้อมติด #IsuzuTrustedStory ในแอปพลิเคชัน my-ISUZU และ Facebook : All-New ISUZU D-Max, All-New ISUZU MU-X และ ISUZU Trucks Thailand

     

    เชิญสัมผัสและทดลองขับยนตรกรรมอีซูซุหลากรุ่นได้ที่บูธอีซูซุ ในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 46 ณ อาคารชาเลนเจอร์ อิมแพค เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 26 มีนาคม – 6 เมษายน 2568


    ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย

    Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
    Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
    Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
    instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
    Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
    Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
    Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine


    No Comment
  • คาวาซากิเฉลิมฉลองให้กับความสำเร็จของ Eliminator พร้อมขนทัพผลิตภัณฑ์หลากรูปแบบ มาเพื่องาน Bangkok International Motor Show 2025

    1 Min Read

    คาวาซากิเฉลิมฉลองให้กับความสำเร็จของ Eliminator พร้อมขนทัพผลิตภัณฑ์หลากรูปแบบ มาเพื่องาน

    Bangkok International Motor Show 2025

    คาวาซากิเปิดผ้าคลุมรถใหม่ถึง 2 รุ่น ภายในงานมอเตอร์โชว์ครั้งนี้

    W800 ปี 2025 เอาใจสายคลาสสิคกับสี Metallic Brilliant Golden Black กับลายเส้นสีทองบนพื้นดำเมทัลลิค ที่ให้ความรู้สึกหรูหรา งดงาม โดดเด่นกว่าใคร W800 ถูกออกแบบมาให้มีรูปลักษณ์สวยงามเหนือกาลเวลา หยิบยื่นสมรรถนะการควบคุมการขับขี่ที่ใช้งานง่ายและการเก็บรายละเอียดที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความประณีตพิถีพิถัน พร้อมกับรูปลักษณ์และสัมผัสที่คล้ายคลึงต้นตระกูลรุ่นแรกมากที่สุด จึงสามารถส่งมอบสัมผัสแห่งความอิ่มเอมและความภาคภูมิใจในการเป็นเจ้าของรถจักรยานยนต์คลาสสิคให้แก่ผู้ใช้ได้อย่างถ่องแท้ มาพร้อมกับเครื่องยนต์ Vertical Twin 773 “ซีซี” ระบายความร้อนด้วยอากาศ เครื่องยนต์ช่วงชักยาวถูกปรับจูนมาเพื่อสมรรถนะในรอบต่ำ-กลางเพื่อส่งมอบสัมผัสของแรงบิดอันทรงพลัง เพลาข้อเหวี่ยงแบบ 360 องศา ช่วยให้ W800 มีการจุดระเบิดและชีพจรการทำงานที่เป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร

    เปิดจำหน่ายที่ราคา 419,000 บาท พร้อมโปรโมชั่นคูปองเงินสดมูลค่า 5,000 บาท ฟรีประกันภัยชั้น 1

    กลับมาอีกครั้งกับเจ้าสนามแข่งอย่าง Ninja ZX-10R ปี 2025 รถจักรยานยนต์ที่ถูกสร้างมาเพื่อการขับขี่ในสนามแข่ง และได้รับการพิสูจน์มาแล้วจากการครองแชมป์ในรายการ FIM World Superbike Championship 6 ปีซ้อน นับว่าเป็นผลลัพธ์ของความสำเร็จในการแข่งขันทางเรียบระดับโลกแห่งทศวรรษ รวมเข้ากับประสบการณ์ในสนามแข่งของคาวาซากิ ได้กลายมาเป็นขุมพลัง 998ซีซี 4 สูบ พร้อมกับเฟรมที่เกิดมาเพื่อการแข่งขัน และชุดอิเล็คทรอนิคล้ำสมัย เปิดทุกความเป็นไปได้ให้กับ Ninja ZX-10R Face Yourself

    ราคาแนะนำที่ 859,000 บาท พร้อมโปรโมชั่นเปิดตัวสุดพิเศษ คูปองเงินสดมูลค่า 10,000 บาท ฟรีประกันภัยชั้น 1

     

    นอกจากนี้ยังมีรถรุ่นใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

    กับ KLX230 Sherpa เครื่องมือเดินป่าสำหรับนักขี่จากคาวาซากิ ที่ออกแบบมาให้ใช้งานง่ายและเข้าถึงได้ง่าย ด้วยน้ำหนักเบาและการควบคุมที่ง่าย ความสูงของเบาะต่ำ และให้ความมั่นใจในการขี่ รูปลักษณ์ที่ทนทานเหมาะกับการใช้งานกลางแจ้ง ติดตั้งการ์ดมือและแผ่นกันกระแทกอะลูมิเนียมที่เพิ่มความสามารถในการใช้งาน พร้อมระบบเบรก ABS ที่สามารถเปิด-ปิดการใช้งานได้ทั้งหน้าและหลัง และรองรับการเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนผ่านทาง Rideology the app สมชื่อ Sherpa เพื่อนคู่ใจนักเดินเขาหิมาลัย

    คาวาซากิได้นำ KLX230 Sherpa มาให้สัมผัสกันที่งานมอเตอร์โชว์ครั้งนี้ พร้อมจำหน่ายที่ราคา 159,000 พร้อมคูปองเงินสด 5,000 บาทและประกันรถหาย

     

    และอีกหนึ่งความพิเศษของงานนี้คือ คาวาซากิ ได้นำผลิตภัณฑ์ใหม่ ที่ไม่เคยจัดแสดงในประเทศไทยมาทุกท่านสัมผัสกันอย่างใกล้ชิด กับ รถ ATV รุ่น Brute force 750 ATV ที่จะพาคุณพิชิตเส้นทางที่ยากลำบากและภารกิจต่างๆ ด้วยความสามารถที่แข็งแกร่งและความสะดวกสบายตลอดทั้งวันที่ไม่มีใครเทียบได้ พลังที่ตอบสนองได้ดี การควบคุมที่สปอร์ต และคุณภาพการประกอบของ Kawasaki เพื่อให้คุณสามารถรับมือกับสิ่งต่างๆ ได้มากขึ้นด้วยความมั่นใจ และนำพาคุณไปสู่ทุกจุดหมายที่ต้องการ

     

    และที่พ่วงมาด้วยกันคือ เจ๊ตสกีนั่งรุ่น Ultra310LX ที่สุดแห่งความลงตัวระหว่างความสนุกสนานและหรูหราของยานยนต์ทางน้ำ ที่มาพร้อมกับเครื่องยนต์ Supercharged อันทรงพลัง และเทคโนโลยีเหนือชั้นมากมาย ให้ผู้ที่ชื่นชอบกิจกรรมทางน้ำได้รับประสบการณ์ที่สุดยอดเหนือใครนั่นเอง

    พิเศษสุดในปีนี้ Eliminator มาพร้อมกับการเฉลิมฉลองยอดขายรถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์เป็นอันดับ 1 ในประเทศญี่ปุ่นในปี 2024 มากกว่า 6,000 คัน ภายใต้แคมเปญ Just Ride No.1 โดย Eliminator มีฐานการผลิตอยู่ที่โรงงานคาวาซากิในจังหวัดระยอง ในระยะเวลาเพียงไม่ถึง 2 ปีตั้งแต่เปิดตัว คาวาซากิ ประเทศไทยได้ผลิต Eliminator เพื่อจัดจำหน่ายทั้งในประเทศและส่งออกไปทั่วโลกแล้วกว่า 40,000 คัน นับเป็นความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ให้กับแบรนด์รถจักรยานยนต์ที่เป็นที่รักของชาวครุยเซอร์มากว่า 40 ปี นับตั้งแต่ปี 1985 นับเป็นความภาคภูมิใจของชาวไทยที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จนี้

    Eliminator ซิตี้ครุยเซอร์ที่จะมาปลุกจิตวิญญาณในตัวคุณ เครื่องยนต์สองสูบเรียง ขนาด 399 ซีซี ที่มอบแรงบิดสูง ในทุกรอบการขับขี่ น้ำหนักเบาเพียง 176 กิโลกรัม และเบาะนั่งต่ำ 735 มิลลิเมตร ให้การควบคุมที่คล่องตัว ขับขี่ง่ายแม้มือใหม่กับรถขนาดใหญ่ และถังน้ำมันขนาด 13 ลิตร ให้คุณไปได้ไกลกว่า มาพร้อมกับหน้าจอ TFT สามารถเชื่อมต่อกับโทรศัพท์ของผู้ใช้รถโดยเชื่อมต่อผ่านแอพพลิเคชั่น “RIDEOLOGY” ครบทั้งรูปลักษณ์อันโดดเด่นและเทคโนโลยีเพื่อการใช้งานที่สะดวกสบาย

    Eliminator จำหน่ายในประเทศไทย 2 รุ่น รุ่นสแตนดาร์ดราคา 199,000 บาท และรุ่น SE ราคา 215,000 บาท พิเศษกับโปรโมชั่นเฉลิมฉลองความสำเร็จนี้ ด้วยคูปองเงินสดมูลค่า 12,000 บาท ประกันรถหาย 1 ปี

     

    ติดตามเราได้ที่

    Website: https://www.kawasaki.co.th/

    Facebook: https://www.facebook.com/KawasakiMotorsThailand

    Line OA: @KawasakiTHA หรือ https://lin.ee/ETWncw7

    Youtube: https://www.youtube.com/@kawasakitha

    Instagram: https://www.instagram.com/kawasakitha/


    ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย

    Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
    Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
    Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
    instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
    Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
    Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
    Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine


    No Comment
  • ไทยฮอนด้าจัดเต็ม! เปิดตัวไลน์อัปจักรยานยนต์ครบทุกสไตล์ถึง 9 รุ่น นำโดยรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า “New Honda CUV e:” และบิ๊กสกู๊ตเตอร์ที่ทุกคนรอคอย “New Honda Forza750” ใน Motor Show 2025

    3 Min Read

    ไทยฮอนด้าจัดเต็ม! เปิดตัวไลน์อัปจักรยานยนต์ครบทุกสไตล์ถึง 9 รุ่น นำโดยรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า “New Honda CUV e:” และบิ๊กสกู๊ตเตอร์ที่ทุกคนรอคอย “New Honda Forza750” ใน Motor Show 2025

    ฮอนด้า โดย บริษัท ไทยฮอนด้า จำกัด และ บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด ผนึกกำลังต่อเนื่อง จัดเต็มไลน์อัปผลิตภัณฑ์ ทั้งรถยนต์ รถจักรยานยนต์ เครื่องยนต์อเนกประสงค์ (Power Products) ในงาน Motor Show 2025 ตอกย้ำความเป็นแบรนด์ที่อยู่เคียงข้างสังคมไทย ที่พร้อมสร้างความสุขและขับเคลื่อนการใช้ชีวิตอย่างอิสระในหลากหลายรูปแบบผ่านผลิตภัณฑ์และบริการ

    ภายในบูทมีการแบ่งโซนการจัดแสดงออกเป็น 3 โซนหลัก เพื่อความสะดวกในการเข้าชม แบ่งเป็น

    • Product Zone ในส่วนของผลิตภัณฑ์รถยนต์ นำโดย “Honda City Hatchback DRIVAL” รุ่นพิเศษ ที่ได้รับการอัปเกรดดีไซน์ เพิ่มเติมความสปอร์ตสุดเท่ ดุดัน เร้าใจ พร้อมสะกดทุกสายตา ในส่วนของผลิตภัณฑ์รถจักรยานยนต์ นำโดย “New Honda Forza750” บิ๊กสกู๊ตเตอร์เรือธงที่มาพร้อมสุดยอดเทคโนโลยี และสมรรถนะที่เหนือคลาส และ “New Honda CB1000 Hornet SP” ซูเปอร์ Naked ไบค์ที่ได้รับการปรับโฉมใหม่ พร้อมเทคโนโลยีการขับขี่ที่ครบครัน ตามด้วยโมเดลพิเศษ “New Honda Monkey Chrome Legacy” รุ่น Limited Edition ที่ได้รับการออกแบบพิเศษเนื่องในโอกาสครบรอบ 60 ปีไทยฮอนด้า รวมถึง “All New Honda Scoopy x Kuromi” ที่เปิดตัวเป็นครั้งแรก พร้อมให้แฟน ๆ ได้จับจอง 2,000 คันเท่านั้น

    • Innovative Zone จัดแสดงผลิตภัณฑ์ขับเคลื่อนพลังงานไฟฟ้า 100% โดยไฮไลต์ของโซนนี้ นำโดย “Honda e:N1” รถ SUV พลังงานไฟฟ้า 100% รุ่นแรกของฮอนด้า พร้อมเปิดให้จองและจำหน่ายอย่างเป็นทางการให้ลูกค้าทั่วไปได้เป็นเจ้าของ และ สัมผัสประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือระดับไปกับรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า “New Honda CUV e:” ที่จะมาสร้างนิยามใหม่ของความทันสมัยทั้งด้านดีไซน์และประสิทธิภาพ
    • Lifestyle Zone โซนโชว์เคสผลิตภัณฑ์ฮอนด้า ที่สะท้อนไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของคนรุ่นใหม่ในหลายมิติ ทั้งรถ SUV รถจักรยานยนต์ที่ตอบโจทย์สายลุยอย่างสไตล์แอดเวนเจอร์ และสไตล์เทรล

    มร.ยูอิจิ ชิมิซุ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยฮอนด้า จำกัด กล่าวว่า “ในโอกาสที่ปีนี้ ไทยฮอนด้าครบรอบ 60 ปี เพื่อเป็นการขอบคุณและสร้างความพิเศษให้กับทุกท่าน รถจักรยานยนต์ฮอนด้ามุ่งมั่นที่จะส่งมอบคุณค่าใหม่ ๆ ด้วยผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ ผสานกับนวัตกรรมล้ำสมัยเพื่อยกระดับประสบการณ์การขับขี่ในทุกการเดินทางด้วยกันถึง 9 รุ่น ด้วยกัน”

    ในส่วนของผลิตภัณฑ์ไลน์อัป Honda Technology นำโดย “New Honda CUV e:” รถจักรยานยนต์ไฟฟ้าที่มาพร้อมคอนเซปต์ ‘Smart Ride, Future Ready’ โดดเด่นด้วยดีไซน์ล้ำสมัยรอบคัน มาพร้อมกับไฟหน้าและไฟท้ายแบบไฟ LED เสริมประสิทธิภาพการขับขี่ด้วยเทคโนโลยี Honda RoadSync duo (เฉพาะรุ่น Connectivity) และระบบช่วยถอยหลัง ที่จะช่วยให้การขับขี่สะดวกสบายยิ่งขึ้น ตามด้วยหน้าจอแสดงผล TFT ที่มีขนาดใหญ่ถึง 7 นิ้ว (เฉพาะรุ่น Connectivity, รุ่น Standard ขนาด 5 นิ้ว) รองรับทุกการขับขี่ทั้งหมด 3 โหมด ได้แก่ โหมดการขับขี่แบบสปอร์ต (Sport Mode) โหมดการขับขี่แบบประหยัด (ECON Mode) และโหมดการขับขี่แบบปกติ (Normal Mode) อีกทั้งยังมอบความเร็วสูงสุด 83 กม./ชม. สามารถวิ่งได้ในระยะทางมากกว่า 70 กม. ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง

    รถจักรยานยนต์ไฟฟ้า “New Honda CUV e:” พร้อมเปิดให้เช่าใช้บริการ ทั้ง 2 รุ่น ได้แก่ รุ่น Standard และรุ่น Connectivity มีให้เลือกทั้งหมด 2 สี ได้แก่ สีดำ (Mat Gunpowder Black Metallic) และ สีขาว (Pearl Jubilee White) สำหรับผู้ที่สนใจสามารถลงทะเบียนรับสิทธิ์เป็นผู้เช่าในราคาพิเศษเฉพาะในงานบางกอกมอเตอร์โชว์ 2025 จำกัดจำนวนเพียง 100 สิทธิ์เท่านั้น

    ตามด้วยเทคโนโลยี Honda E-Clutch ที่ได้ถ่ายทอดลงสู่คลาส 300 ซีซี ถึง 2 รุ่นอย่าง “New Honda CL300” รถจักรยานยนต์ Scrambler สไตล์สายลุยแบบคลาสสิก และ “New Honda Rebel300” รถจักรยานยนต์คัสตอมบ็อบเบอร์ ที่ได้เพิ่มเทคโนโลยีควบคุมระบบคลัตช์ด้วยไฟฟ้า เปลี่ยนเกียร์ได้อย่างลื่นไหล โดยไม่ต้องกำคลัตช์ ทำให้การขับขี่รถสปอร์ตเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้นและช่วยเพิ่มประสบการณ์การขับขี่ที่สนุกยิ่งขึ้น

    “New Honda CL300” พร้อมวางจำหน่ายสีดำ (Mat Gunpowder Black) เปิดตัวในราคาแนะนำที่ 159,900 บาท และ “New Honda Rebel300” พร้อมวางจำหน่าย สีดำ (Pearl Shining Black) ราคาแนะนำที่ 159,900 บาท

    รวมถึง “New Honda ADV350” รถจักรยานยนต์ SUV Bike ที่พัฒนานำเทคโนโลยีหน้าจอแสดงผล TFT ใหม่ ขนาด 5 นิ้ว พร้อมระบบการเชื่อมต่อที่ทันสมัยอย่าง Honda RoadSync รองรับทุกความต้องการของผู้ขับขี่ และปุ่มคอนโทรลเลอร์ดีไซน์ใหม่ แบบมัลติฟังก์ชันสั่งการได้หลายระดับ ให้สมรรถนะการขับขี่ที่ดีเยี่ยม รุ่น Standard Type พร้อมวางจำหน่าย 3 สี ได้แก่ สีแดง-ดำ CANYON RED, สีน้ำเงิน OCEAN BLUE และสีดำ CHARCOAL BLACK  ราคาแนะนำที่ 189,900 บาท

    นอกจากรุ่น Standard แล้ว ฮอนด้ายังได้นำเสนอ Special Edition จากสำนักแต่ง H2C by Honda ที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์สายแอดเวนเจอร์ตัวจริง เสริมความเท่อีกระดับด้วยชุดอุปกรณ์แต่งรอบคันถึง 11 ชิ้น รุ่น “New Honda ADV350 Unstoppable Touring Edition” พร้อมวางจำหน่ายในราคาแนะนำที่ 204,400 บาท

    และขอแนะนำ อีกหนึ่งโมเดลเรือธงที่ทุกคนรอคอยในคลาส 750 Series กับ “New Honda Forza750” บิ๊กสกู๊ตเตอร์เรือธงที่มาพร้อมสมรรถนะที่เหนือคลาสด้วยเครื่องยนต์ 750 ซีซี OHC 4 วาล์ว 2 สูบเรียง ผสานเทคโนโลยี Dual Clutch Transmission (DCT) เปลี่ยนเกียร์สมูทไม่ต้องกำคลัตช์ ส่งตรงดีเอ็นเอความแรงจากรถบิ๊กไบค์สู่ท้องถนน มาพร้อมหน้าจอแสดงผล TFT ขนาด 5 นิ้ว ปรับดีไซน์ใหม่ให้ตอบโจทย์การมองเห็นที่ชัดเจนยิ่งขึ้น รองรับการเชื่อมต่อกับระบบ Honda RoadSync พร้อมปรับโหมดการขับขี่ได้ถึง 4 โหมด (Standard, Rain, User, Sport) ให้การควบคุมรถมีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น อีกทั้งตอบโจทย์สายทัวร์ริ่งด้วยระบบ Cruise Control ช่วยควบคุมความเร็วอัตโนมัติเหมาะสำหรับการขับขี่ทางไกลและในเมืองได้อย่างดีเยี่ยม

    New Honda Forza750 มาในดีไซน์โฉมใหม่ สปอร์ต ดุดัน แต่ยังคงความพรีเมียมไว้ได้อย่างลงตัว โฉบเฉี่ยวด้วยไฟหน้า LED โคมคู่ พร้อม Daytime Running Lights (DRL) ให้ความสปอร์ตเต็มขั้นด้วยไฟเลี้ยวแบบ Built-in ให้การขับขี่มั่นใจด้วยล้อหน้าขนาด 17 นิ้ว และล้อหลังขนาด 15 นิ้ว พร้อมโช้กหน้าหัวกลับขนาด 41 มม. ที่ช่วยเพิ่มความนุ่มนวลและมอบการทรงตัวที่มั่นคง รวมถึงกระจกบังลมไฟฟ้าอัตโนมัติขนาดกว้างขึ้นถึง 25% ปรับความสูงได้ถึง 120 มม. New Honda Forza750 พร้อมวางจำหน่าย 3 สีใหม่ ได้แก่ สีน้ำตาล (Matte Warm Ash Metallic) สีดำ (Matte Ballistic Black Metallic) และสีเทา (Iridium Gray Metallic) ราคาแนะนำที่ 419,000 บาท

    ตามด้วย “New Honda CB1000 Hornet SP” ซูเปอร์ Naked ไบค์ระดับท็อปคลาส ผสานความแรงจากสนามแข่งเข้ากับการออกแบบที่ดุดันในแบบสปอร์ต Naked ให้ความแรงที่สุดในคลาสด้วยเครื่องยนต์ 1000 ซีซี 4 สูบเรียง พร้อมไปทุกเส้นทางด้วยโช้ก Öhlins ปรับได้เต็มรูปแบบควบคุมรถได้ดั่งใจ พร้อมปั๊มเบรก Brembo ให้ความแม่นยำทุกครั้งที่หยุดรถ ควบคุมง่ายดั่งใจด้วย Quick Shifter ที่ปรับได้ 3 ระดับ ระบบคันเร่งไฟฟ้า (Throttle-by-Wire), Riding Mode ที่ปรับได้ถึง 5 โหมด และ Honda Selectable Torque Control (HSTC) ที่ช่วยควบคุมการหมุนล้อหน้าและล้อหลังให้สัมพันธ์กัน แสดงผลด้วยเทคโนโลยีหน้าจอ TFT ขนาด 5 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อกับสมาร์ตโฟนผ่านแอปพลิเคชัน Honda RoadSync พร้อมไฟแบ็กไลท์ที่แฮนด์บาร์ใช้งานสะดวก เชื่อมต่อได้ทุกเส้นทาง New Honda CB1000 Hornet SP พร้อมวางจำหน่าย ‘สีดำ MAT BALLISTIC BLACK METALLIC’ ในราคาแนะนำที่ 489,000 บาท

    สำหรับสาย Fashion A.T. เปิดตัวด้วยโมเดลสุดเอกซ์คลูซีฟ “All New Honda Scoopy x Kuromi Limited Edition” เป็นการ Collab ครั้งแรกของรุ่น All New Honda Scoopy ในโอกาสฉลองครบรอบ 20 ปี ของ Kuromi ตัวร้ายสุดแสบจาก Sanrio มาพร้อมคอนเซปต์สุดซ่าอย่าง “The ICONIC Sassiness เพื่อนตัวป่วน ชวนไปสุดเทรนด์” นำเสนอความแสบซนด้วยสีดำ-ม่วง สีเอกลักษณ์ของ Kuromi พร้อมลวดลายตัวป่วนทั่วทุกมุมรถ โดดเด่นด้วยสติกเกอร์ 3D Emblem ครบรอบ 20 ปี และเสริมความลิมิเต็ดขั้นสุดกับสติกเกอร์ Serial Number รันเลขที่ตั้งแต่ 0001 – 2000 คัน มาพร้อม Box set สุดป่วน ได้แก่ Honda Smart Key พร้อมเคสลาย Kuromi ครบรอบ 20 ปี อีกทั้งหมวกกันน็อก และเสื้อยืดแขนยาวลาย Kuromi แมตช์กับสีรถได้อย่างลงตัว สำหรับ All New Honda Scoopy x Kuromi Limited Edition ผลิตจำนวนจำกัด 2,000 คันเท่านั้น ราคาแนะนำที่ 60,800 บาท พร้อมเปิดรับจองที่งานบางกอกมอเตอร์โชว์ 2025 เป็นที่แรก และ Honda Wing Center ทุกสาขา

    ตามมาด้วย “New Honda Lead125” เปิดตัวสีเทาใหม่ ‘Matte Gray’ เติมความมินิมอลให้ลงตัว กับ Special Edition สีเทาแมทท์ มาพร้อมคอนเซปต์ “Minimal Matters ชีวิตลงตัวแน่ แค่มินิมอล” ที่มาพร้อม Emblem สีแดงอันเป็นเอกลักษณ์ โดดเด่นด้วยหน้ากากด้านหน้า เสริมลุคสปอร์ตด้วยโช้ก และคาลิปเปอร์เบรกสีแดง รวมถึงล้อสีดำด้านเสริมลุคสปอร์ตให้ชัดเจนขึ้น ไฟท้าย LED ฟังก์ชันครบครันตอบโจทย์คนเมือง New Honda Lead125 รุ่น Special Edition พร้อมวางจำหน่ายสีเทาใหม่ (Matte Gray) พร้อมกับ สีดำ (Black) ในราคาแนะนำ 62,500 บาท

    พร้อมกันนี้ เนื่องในโอกาสครบรอบ 60 ปี ไทยฮอนด้า ขอนำเสนอโมเดลพิเศษเพื่อเฉลิมฉลองไปกับ “New Honda Monkey Chrome Legacy” รุ่น Limited Edition ที่คัสตอมขึ้นมาพิเศษ โดดเด่นด้วยสีโครเมียมทั้งคัน ตั้งแต่ตัวถังน้ำมันโครเมียมสวยสะดุดตาสไตล์กคลาสสิก และฝาครอบข้างที่เป็นโครเมียม ตัดกับเบาะหนังสีดำที่โชว์หมุดสแตนแลสให้ความหรูหราคลาสสิก พร้อมแสดงเอกลักษณ์ความซนในตำนานกับ 3D Soft Emblem โลโก้เจ้าลิงซนครบรอบ 60 ปีไทยฮอนด้า เสริมความลิมิเต็ดด้วย Chrome Edition Serial Number รันเลขตามจำนวนคันที่ผลิต พิเศษ! มาพร้อมกับหมวกกันน็อกสีเงินเมทัลลิค ที่เข้าเซ็ตกับตัวรถได้อย่างลงตัว เปิดตัวในราคาแนะนำที่ 117,000 บาท โดยเปิดพรีออเดอร์ในงานบางกอกมอเตอร์โชว์ 2025 และสามารถจองได้ที่ CUB House Flagship Store ทุกสาขา ตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม 2568 – 6 เมษายน 2568 เท่านั้น

    นอกจากนี้ ไทยฮอนด้ายังแสดงวิสัยทัศน์แห่งอนาคต พร้อมกับเดินหน้าขยายธุรกิจสู่ตลาดเครื่องยนต์เรือ ด้วยการนำเครื่องยนต์เรือ Outboard Engine รุ่น “All New Honda BF250 V6” ที่เปิดตัวไปเมื่อไม่นานมานี้ นำมาจัดแสดงภายในงานบางกอกมอเตอร์โชว์ 2025 ครั้งนี้อีกด้วย

    สำหรับลูกค้าที่สนใจสามารถเข้าชมและสัมผัสประสบการณ์ได้ที่บูทฮอนด้า (A26 และ M1) งานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 46 (The 46th Bangkok International Motor Show) อาคารชาเลนเจอร์ฮอลล์ 1 อิมแพ็ค เมืองทองธานี ตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม 2568 – 6 เมษายน 2568 พร้อมด้วยหลากหลายข้อเสนอพิเศษในการเป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์ฮอนด้า ทั้งภายในงานฯ และโชว์รูมฮอนด้าทั่วประเทศ

    #CUVe #SmartRideFutureReady

    #HondaADV350 #REALSUVBIKE

    #NewHondaFORZA750 #FORZA750

    #NewCB1000HornetSP #HORNET1000

    #NewREBEL300 #REBEL300EClutch #HondaEClutch

    #NewCL300 #CL300EClutch #HondaEClutch

    #SCOOPYxKUROMI #AllNewHondaSCOOPY

    #NewHondaLEAD125

    #MonkeyChrome #MonkeyLimitedEdition

    #BangkokMotorShow2025 #MotorShow2025 #มอเตอร์โชว์2025

    #รถจักรยานยนต์ฮอนด้า #มอเตอร์ไซค์ฮอนด้า #HondaMotorcycle #Thaihonda #ไทยฮอนด้า #HowWeMoveYou

    ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
    เว็บไซต์ : www.thaihonda.co.th
    เฟซบุ๊กรถจักรยานยนต์ฮอนด้า : fb.com/hondamotorcyclethailand
    IG : www.instagram.com/hondamotorcyclethailand
    Tiktok: www.tiktok.com/@hondamotorcycletha
    Youtube: www.youtube.com/HondaMotorcycleTHA


    ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย

    Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
    Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
    Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
    instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
    Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
    Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
    Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine


    No Comment
  • มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ชวนสัมผัสยนตรกรรม 2 รุ่นใหม่ล่าสุด‘ออล-นิว มิตซูบิชิ เอ็กซ์ฟอร์ส เอชอีวี’ และ ‘มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ เอชอีวี เพลย์’ ที่งานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 46

    1 Min Read

    มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ชวนสัมผัสยนตรกรรมฟูลไฮบริดสุดล้ำสมัย 2 รุ่นใหม่ล่าสุด‘ออล-นิว มิตซูบิชิ เอ็กซ์ฟอร์ส เอชอีวี’ และ
    ‘มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ เอชอีวี เพลย์’
    พร้อมแคมเปญพิเศษ ที่งานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 46

              มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ชวนลูกค้าสัมผัสความล้ำสมัย พร้อมดีไซน์สุดโฉบเฉี่ยว กับครั้งแรกของการจัดแสดงรถยนต์ฟูลไฮบริด 2 รุ่นใหม่ล่าสุด ออล-นิว มิตซูบิชิ เอ็กซ์ฟอร์ส เอชอีวี และ มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ เอชอีวี เพลย์ ร่วมด้วยแคมเปญพิเศษ ที่งานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 46  พร้อมเดินหน้าประกาศความพร้อม ส่งทีมมิตซูบิชิ แรลลี่อาร์ต เตรียมลงสู้ศึกการแข่งขันรายการเอเชีย ครอสคันทรี แรลลี่ (เอเอ็กซ์ซีอาร์) 2025 ด้วยรถแข่ง ไทรทัน แรลลี่คาร์ และตอกย้ำความสำเร็จด้วยการคว้า 5 รางวัลรถยอดเยี่ยมแห่งปี 2568 หรือCar of the Year 2025’

              มร. เรียวอิจิ อินาบะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “จากที่เราได้เปิดตัวรถ ออล-นิว มิตซูบิชิ เอ็กซ์ฟอร์ส เอชอีวี ครั้งแรกในโลกที่ประเทศไทย ในวันที่ 20 มีนาคมที่ผ่านมา งานนี้จึงถือเป็นครั้งแรกที่ลูกค้าจะได้ชมการจัดแสดงรถ ออล-นิว มิตซูบิชิ เอ็กซ์ฟอร์ส เอชอีวี ที่หลายๆ คนรอคอย รวมถึงรถ มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ เอชอีวี เพลย์ ซึ่งเป็นรถรุ่นพิเศษ จำนวนจำกัด โดยรถยนต์ทั้งสองรุ่นนี้ ถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จในการพัฒนารถยนต์ฟูลไฮบริด พร้อมด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย ดีไซน์ที่โดดเด่น และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม”

              “นอกจากนี้ เรายังมีข้อเสนอพิเศษสำหรับลูกค้าที่จองซื้อรถ ออล-นิว มิตซูบิชิ เอ็กซ์ฟอร์ส เอชอีวี ภายในวันที่ 31 พฤษภาคม และรับมอบรถภายในวันที่ 31 กรกฎาคมนี้ กับแคมเปญ “Early Bird Offers เฉพาะช่วงเปิดตัวเท่านั้น” โดยลูกค้าจะได้รับบัตรของขวัญที่พักโรงแรมและรีสอร์ตในเครือเซ็นทารา มูลค่า 10,000 บาท รวมถึงโปรโมชั่นอื่นๆ อีกมากมายสำหรับรถยนต์ทุกร่น” มร. อินาบะ กล่าวเพิ่มเติม

              ออล-นิว มิตซูบิชิ เอ็กซ์ฟอร์ส เอชอีวี ได้รับการพัฒนาร่วมกับทีมพัฒนาผลิตภัณฑ์ชาวไทยและมีฐานการผลิตที่โรงงานมิตซูบิชิ มอเตอร์ส แหลมฉบัง จ.ชลบุรี มั่นใจได้ในคุณภาพรถยนต์และบริการหลังการขายที่ครบครัน แบ่งออกเป็น 3 รุ่นย่อย ได้แก่ อิกไนท์ (Ignite) อัลทิเมท (Ultimate) และรุ่นท็อป อัลทิเมท เอ็กซ์ (Ultimate X) พร้อมสะกดทุกสายตาด้วยดีไซน์ที่โดดเด่น ภายใต้แนวคิด ซิลก์กี แอนด์ โซลิด (Silky & Solid) สะท้อนความเรียบหรูแต่ทรงพลังในทุกมิติอันเป็นเอกลักษณ์ พร้อมมอบประสบการณ์การขับขี่ที่สนุกกว่าในทุกการเดินทาง ผสานการทำงานของ 3 สุดยอดเทคโนโลยี ในแบบ MITSUBISHI e:MOTION ที่เหนือระดับไปอีกขั้น ด้วยระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด Generation ใหม่ ให้อัตราเร่งที่ยอดเยี่ยม แต่ประหยัดน้ำมันมากขึ้น เฉลี่ยอยู่ที่ 24.4 กิโลเมตร/ลิตร*  มาพร้อมกับ โหมดการขับขี่ 7 รูปแบบ หรือ 7 Drive Mode ให้ความปลอดภัย ลุยได้ในทุกสภาพถนน และระบบควบคุมการขับเคลื่อนและสมดุลขณะเข้าโค้ง (Active Yaw Control: AYC) เพื่อการขับขี่ที่มั่นใจสูงสุดขณะเข้าโค้ง พร้อมช่วงล่างและระบบกันสะเทือนที่ได้รับการพัฒนาขึ้นใหม่ ให้เหมาะกับทุกสภาพถนนในประเทศไทย จากการทดสอบจริงบนถนนของเมืองไทยกว่า 100,000 กิโลเมตร

              นอกจากนี้ ออล-นิว มิตซูบิชิ เอ็กซ์ฟอร์ส เอชอีวี ยังโดดเด่นและเหนือกว่าด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยรอบคัน ไดมอนด์ เซนส์ (Diamond Sense)  แบบครบครัน ซึ่งรวมถึง กล้องมองภาพรอบคัน (Multi Around Monitor: MAM) พร้อมระบบตรวจจับการเคลื่อนไหว (Moving Object Detection: MOD) ถุงลม 6 ตำแหน่ง และอีกมากมาย พร้อมมอบความสะดวกสบายสูงสุดให้กับผู้ขับขี่และผู้โดยสาร ด้วยห้องโดยสารกว้าง พื้นที่เก็บของหลากหลาย ตอบสนองไลฟ์สไตล์ทุกรูปแบบ โดยในรุ่นท็อป อัลทิเมท เอ็กซ์ (Ultimate X) ยังมาพร้อมระบบเสียงไดนามิค ซาวน์ ยามาฮา พรีเมียม (Dynamic Sound Yamaha Premium) และลำโพง 8 จุด เพื่อคุณภาพเสียงเหนือระดับอีกด้วย

              อีกหนึ่งไฮไลต์ภายในงาน ได้แก่ มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ เอชอีวี เพลย์ และ เอ็กซ์แพนเดอร์ ครอส เอชอีวี เพลย์ รุ่นพิเศษ จำนวนจำกัด ที่ตอกย้ำความสำเร็จในฐานะผู้นำตลาดรถยนต์ครอบครัวอเนกประสงค์ 7 ที่นั่งขนาดเล็ก ของรถจากซีรีส์ ‘มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์’ ที่มีการติดตั้งชุดแต่งจากโรงงานในโทนสีดำ ให้บุคลิกใหม่ที่โดดเด่น มีสไตล์ พร้อมมอบประสบการณ์การขับขี่เหนือระดับในแบบ MITSUBISHI e:MOTION ด้วยดีไซน์ที่โดดเด่นในสไตล์สปอร์ตพรีเมียม ห้องโดยสารกว้างขวาง เบาะนั่งปรับพับได้หลากหลายรูปแบบและมีพื้นที่จัดเก็บสัมภาระที่ปรับเปลี่ยนได้ตามต้องการ ตอบโจทย์ทุกความต้องการ และรองรับไลฟ์สไตล์สุดแอ็กทีฟของครอบครัวยุคใหม่

              ภายในงานยังจัดแสดง มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต ไพร์ม ใหม่ มาพร้อมกับฟีเจอร์ที่ครบครันมากยิ่งขึ้น ในราคาจำหน่ายเท่าเดิม เพิ่มความคุ้มค่าด้วยการยกระดับความสะดวกสบายและความปลอดภัยสำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสาร ด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยรอบคัน ไดมอนด์ เซนส์ (Diamond Sense) เพื่อความมั่นใจในทุกการเดินทาง และมอบประสบการณ์การขับขี่ที่ปลอดภัยยิ่งขึ้น ภายในห้องโดยสารสะดวกสบาย สะท้อนความหรูหราและทันสมัย

              ปิดท้ายด้วย มิตซูบิชิ ไทรทัน แอทลีท ขับเคลื่อนด้วยขุมพลังไฮเปอร์ พาวเวอร์ เอ็กซ์ทู (Hyper Power X2) กำลังสูงสุด 204 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 470 นิวตันเมตร ตอบสนองไลฟ์สไตล์สปอร์ตพรีเมียมด้วยรูปลักษณ์โดดเด่นมีสไตล์ สะกดทุกสายตา ห้องโดยสารสะดวกสบายทุกจุด ผสานดีไซน์ภายในสีทูโทน เหนือกว่าด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะรอบคัน ‘Diamond Sense’ พร้อมระบบพวงมาลัยพาวเวอร์แบบไฟฟ้า (Electric Power Steering: EPS) และระบบขับเคลื่อน ซูเปอร์ซีเล็คต์ โฟร์วีลไดร์ฟ ทู (Super Select 4WD II) เอกลักษณ์เฉพาะของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ซึ่งสามารถเปลี่ยนโหมดเป็นระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ (4H) ได้ทันทีแม้ในขณะขับขี่ด้วยความเร็ว (Shift-on-the-Fly) ทั้งยังสามารถขับเคลื่อน 4 ล้อฟูลไทม์ (Full-Time All Wheel Control) เสริมความปลอดภัยให้ขับขี่คล่องตัวพร้อมตะลุยทุกสภาพอากาศและพื้นผิวถนนทุกรูปแบบด้วย 7 โหมดการขับขี่ และระบบควบคุมการขับเคลื่อนและสมดุลขณะเข้าโค้ง (Active Yaw Control: AYC)

              นอกจากการขนทัพสุดยอดยนตรกรรมมาจัดแสดงแล้ว มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ยังประกาศความพร้อมเตรียมส่งทีมมิตซูบิชิ แรลลี่อาร์ต ลงสู้ศึกเอเชีย ครอสคันทรี แรลลี่ หรือ เอเอ็กซ์ซีอาร์ 2025 ด้วยรถแข่ง ไทรทัน แรลลี่คาร์ โฉมใหม่*  เพื่อกลับมาทวงตำแหน่งแชมป์อีกครั้ง พร้อมประกาศความสำเร็จที่ได้คว้า 5 รางวัลรถยอดเยี่ยมแห่งปี 2568 หรือCar of the Year 2025’ จากบริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ตอกย้ำความเป็นเลิศด้านคุณภาพผลิตภัณฑ์ สมรรถนะ และความพึงพอใจของลูกค้า รางวัลอันทรงเกียรติเหล่านี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ในการพัฒนาด้านวิศวกรรม นวัตกรรม และเทคโนโลยีล้ำสมัยอย่างไม่หยุดยั้ง เพื่อสร้างมาตรฐานใหม่ในทุกกลุ่มยานยนต์ โดยรถมิตซูบิชิ ที่ได้รับรางวัลนปีนี้ ประกอบด้วย

    • มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ ครอส เอชอีวี : รางวัลรถอเนกประสงค์ไฮบริดขนาดเล็ก เครื่องยนต์ต่ำกว่า 1,600 ซีซี ยอดเยี่ยม
    • มิตซูบิชิ ไทรทัน แอทลีท : รางวัลรถกระบะขับเคลื่อน 4 ล้อ เครื่องยนต์ต่ำกว่า 2,500 ซีซี ยอดเยี่ยม
    • มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต อีลีท : รางวัลรถอเนกประสงค์ ขับเคลื่อน 4 ล้อ เครื่องยนต์ต่ำกว่า 2,500 ซีซี ยอดเยี่ยม
    • มิตซูบิชิ แอททราจ : รางวัลรถยนต์อีโคคาร์ 4 ประตู ราคาคุ้มค่า ยอดเยี่ยม
    • มิตซูบิชิ มิราจ : รางวัลรถยนต์อีโคคาร์ ประหยัดน้ำมัน ยอดเยี่ยม

    ผู้สนใจสามารถชมรถยนต์ มิตซูบิชิ ทุกรุ่นได้ที่บูธมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย (A9) ที่งานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 46 หรือ Bangkok International Motor Show 2025 ณ อิมแพค ชาเลนเจอร์ 1 – 3 เมืองทองธานี สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม และนัดหมายเพื่อทดลองขับได้ที่ www.mitsubishi-motors.co.th หรือ มิตซูบิชิ คอลเซ็นเตอร์ หมายเลขโทรศัพท์ 02-079-9500 เปิดรับสายทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง

    *รถแข่ง ไทรทัน แรลลี่คาร์ โฉมใหม่ จะถูกจัดแสดงที่บูธมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย เฉพาะในวันแถลงข่าวเท่านั้น


    ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย

    Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
    Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
    Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
    instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
    Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
    Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
    Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine

    No Comment
  • Suzuki ซูซูกิ ยกทัพมางาน Motor Show 2025

    1 Min Read

    Suzuki ซูซูกิ ยกทัพมางาน Motor Show 2025

    บริษัท ซูซูกิ โมโตเซลส์ คอร์ปอเรชั่น (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ซูซูกิในประเทศไทย ยกทัพรถจักรยานยนต์ซูซูกิทั้งขนาดใหญ่ (Big Bike) และขนาดเล็ก (Small Bike) มาจัดแสดงอย่างยิ่งใหญ่ในงาน Motor Show 2025

    ในปีนี้ บูธรถจักรยานยนต์ซูซูกิ มาพร้อมกับคอนเซ็ปต์สุดพิเศษที่สะท้อนถึงจิตวิญญาณของนักเดินทาง “เพราะทุกเส้นทาง…คือแรงบันดาลใจ” เราอยากให้ผู้ขับขี่ได้สัมผัสประสบการณ์ที่มากกว่าการเดินทาง แต่เป็นการออกไปค้นพบตัวเอง ท้าทายขีดจำกัด และเติมเต็มทุกเป้าหมายที่ฝันไว้ ซูซูกิมาพร้อมรถจักรยานยนต์รุ่นไฮไลต์ เทคโนโลยีล้ำสมัย การออกแบบที่โฉบเฉี่ยว แล้วมาร่วมออกเดินทางไปด้วยกัน!

     

    บริษัท ซูซูกิ โมโตเซลส์ คอร์ปอเรชั่น (ประเทศไทย) จำกัด ยกเทคโนโลยีแห่งอนาคตสู่ Motor Show 2025 ด้วยไฮไลต์สุดพิเศษอย่าง Suzuki Carbon Neutral Challenge หรือ Suzuki CN Challenge รถจักรยานยนต์ที่สะท้อนถึงความมุ่งมั่นสู่อนาคตที่ยั่งยืน ผสานสมรรถนะระดับสนามแข่งเข้ากับแนวคิดที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม หนึ่งในดาวเด่นของบูธปีนี้คือ Suzuki Carbon Neutral Challenge หรือ Suzuki CN Challenge ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากโรงงาน และถูกพัฒนาให้พร้อมลุยในคลาส Experimental ภายใต้ชื่อ Team Suzuki CN Challenge x Yoshimura SERT รถคันนี้ขับเคลื่อนด้วยเชื้อเพลิง ELF Moto R40 FIM ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงชีวภาพที่ยั่งยืนถึง 40%

    Suzuki GSX-R1000R Carbon Neutral Challenge ไม่เพียงแต่เป็นรถที่ทรงพลังและพร้อมลุยสนามแข่ง แต่ยังช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในทุกกระบวนการ ตอกย้ำแนวทางของซูซูกิในการพัฒนาเทคโนโลยีที่ตอบโจทย์ทั้งสมรรถนะและความยั่งยืน

    สำหรับสายลุยที่ต้องการออกสำรวจโลกกว้าง Suzuki V-Strom 1050DE มาพร้อมลวดลายสุดพิเศษ และ อุปกรณ์ตกแต่งแท้จาก Touratech Germany ที่ถูกออกแบบมาเพื่อเพิ่มความแกร่งและความสามารถในการขับขี่ทุกสภาพถนน ไม่ว่าจะเป็นทางเรียบหรือทางฝุ่น รถคันนี้พร้อมพาคุณออกไปท้าทายทุกเส้นทางแบบไร้ขีดจำกัด

    ไฮไลต์สำคัญของอุปกรณ์ตกแต่งพิเศษประกอบด้วย :

    • กระเป๋า Dry Bag Packtasche Rack-Pack 50 กันน้ำ
    • กระเป๋าข้างมอเตอร์ไซค์ Saddle Bags EXTREME Edition
    • กระเป๋าติดแฮนด์บาร์ Handlebar bag Travel
    • กระจกมองหลังแบบ Safety rear-view mirror ข้างขวา
    • กระจกมองหลังพับได้ Adventure folding M10x1.25
    • สายรัด Rokstraps STRAP II™ ปรับขนาดได้
    • ชุดอะแดปเตอร์กระจกมองหลัง

    เพื่อเพิ่มเตรียมออกเดินทางและสัมผัสประสบการณ์ใหม่ที่ไม่มีขอบเขตไปกับ Suzuki  V-Strom 1050DE

    ความสำเร็จของ Suzuki Burgman Series สะท้อนถึงความเป็นผู้นำด้าน Premium Big Scooter โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับ Suzuki Burgman 400 ที่ได้รับความนิยมมาอย่างต่อเนื่อง ด้วยสมรรถนะที่เหนือระดับ ผสานเข้ากับดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์ พิเศษในงานได้ตกแต่งด้วย

    • ชุดไฟสปอร์ตไลท์
    • ชุดกันล้มหน้า
    • ชิวหน้า GIVI
    • กระจกมองข้าง Touratech
    • กล่องสัมภาระข้าง GIVI
    • กล่องสัมภาระหลัง GIVI
    • ที่พักเท้า Marshal
    • ท่อไอเสีย MIVV

    Suzuki Hayabusa – สุดยอดแห่งตำนานสปอร์ตไบค์ อีกหนึ่งตำนานที่ยิ่งใหญ่ตลอดกาลกับ Suzuki Hayabusa หรือที่รู้จักกันในฉายา “เจ้าพญาเหยี่ยว” สปอร์ตไบค์ระดับท็อปคลาสที่ได้รับการขนานนามว่าเป็นที่สุดแห่งความเร็วและความสมบูรณ์แบบ เจเนอเรชันใหม่ปี 2025 นี้ Hayabusa มาพร้อมขุมพลัง เครื่องยนต์ 1,340 ซีซี ที่มอบแรงบิดดุดัน พร้อมด้วยเทคโนโลยีการควบคุมที่แม่นยำ และดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์ พิเศษ! พบกับ 3 สีใหม่สุดเร้าใจ ที่ยกระดับความหรูหราและดุดันให้เหนือชั้นกว่าเดิม

    บริษัท ซูซูกิ โมโตเซลส์ คอร์ปอเรชั่น (ประเทศไทย) จำกัด พร้อมเดินหน้าขยายเครือข่ายบริการทั่วประเทศ ขอขอบพระคุณลูกค้าซูซูกิทุกๆท่านและสื่อมวลชน ที่ให้ความสนใจและสนับสนุนบริษัทฯ อย่างดีเสมอมา โดยบริษัทฯ มุ่งเน้นการนำเข้าผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ และรักษามาตรฐานการผลิต ความทนทานในผลิตภัณฑ์ ทางบริษัทฯ ยังคงเน้นย้ำด้านการขยายตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศไทย และด้านการบริการหลังการขาย ด้วยการเพิ่มจุดบริการ Suzuki Service Point หรือ SSP โดยในปัจจุบัน มีจำนวน 500 กว่าสาขา และ ตัวแทนจำหน่ายรถจักรยานยนต์ซูซูกิ แบ่งเป็น รถจักรยานยนต์ขนาดใหญ่ (Showroom Bigbike) จำนวน 6 สาขา และ ตัวแทนจำหน่ายรถจักรยานยนต์ขนาดเล็ก (Showroom Small Bike) จำนวน 200 กว่าสาขาทั่วประเทศ และเร่งขยายสาขาเพิ่มเติมในแต่ละภูมิภาค

    เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าทั่วประเทศ ทางบริษัทฯ หวังอย่างยิ่งว่าจะได้รับการสนับสนุนจากทุกท่านเป็นอย่างดีเหมือนเช่นที่ผ่านมา

     

    สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมและติดตามข้อมูลข่าวสารของ บริษัท ซูซูกิ โมโตเซลส์คอร์ปอเรชั่น (ประเทศไทย) จำกัด ได้ที่

     

    Facebook : https://www.facebook.com/Suzukisocietythailand

    Instagram : https://www.instagram.com/suzukisocietythailand

    Youtube : https://www.youtube.com/@SuzukiSocietyTH

    Website : https://www.suzukimotosales.co.th


    ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย

    Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
    Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
    Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
    instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
    Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
    Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
    Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine


    No Comment
  • บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย ส่งโปรแรงสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า จ่ายค่าผ่อนให้ 9 เดือนเต็ม พร้อมดอกเบี้ย 0% นานสูงสุด 5 ปี ในงานมอเตอร์โชว์ 2025

    3 Min Read

    บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย ส่งโปรแรงสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า จ่ายค่าผ่อนให้ 9 เดือนเต็ม พร้อมดอกเบี้ย 0% นานสูงสุด 5 ปี และข้อเสนอที่พลาดไม่ได้อีกมากมายในงานมอเตอร์โชว์ 2025

              หลังจากที่ได้เผยโฉมทัพยานยนต์รุ่นใหม่ล่าสุดจากทั้งบีเอ็มดับเบิลยู มินิ และบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราดที่จะมาร่วมสร้างความตื่นตาในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 46 บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย เตรียมยกระดับความร้อนแรงไปอีกขั้นด้วยข้อเสนอสุดพิเศษจากแคมเปญ ‘JOY With Confidence’ สำหรับลูกค้าที่เลือกเป็นเจ้าของรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูภายในงาน สำหรับบีเอ็มดับเบิลยู i รุ่นพลังงานไฟฟ้าที่เข้าร่วมรายการ ลูกค้าจะได้เป็นเจ้าของรถคันใหม่ได้อย่างไร้กังวล โดยไม่ต้องผ่อนถึง 9 เดือนเต็ม ขณะที่บีเอ็มดับเบิลยู M และ M Performance รุ่นที่ร่วมรายการ มาพร้อมกับคอร์สเรียนเทคนิคการขับขี่สุดเร้าใจในเกาหลีใต้ ภายใต้ความดูแลและคำแนะนำจาก Instructor ผู้ฝึกสอนที่เชี่ยวชาญ เพื่อยกระดับประสบการณ์ให้พิเศษยิ่งขึ้น บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย ยังมีดีลพิเศษเพิ่มเติมสำหรับรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูอีกหลายรุ่น ครบครันทั้งการขยายระยะเวลารับประกัน ส่วนลดจากการเทรดรถยนต์คันเก่า เครดิตการชาร์จ แบตเตอรี่สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า และการรับประกันมูลค่าขายต่อในอนาคต

              สำหรับรถยนต์และมอเตอร์ไซค์รุ่นใหม่ที่จะมาเปิดตัวในงานนั้น บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ยังถือโอกาสนี้ประกาศราคาจำหน่ายยานยนต์ใหม่ ก่อนที่จะได้สัมผัสตัวจริงกันในงานมอเตอร์โชว์ที่จะเปิดฉากขึ้นในวันที่ 26 มีนาคมนี้

    ข้อเสนอพิเศษใหม่ล่าสุดจากบีเอ็มดับเบิลยู ในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 46

    สำหรับลูกค้าที่ทำการจอง และรับมอบรถบีเอ็มดับเบิลยูรุ่นที่กำหนด พร้อมทำสัญญาทางการเงินกับ บีเอ็มดับเบิลยู ไฟแนนเชียล เซอร์วิส ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม – 30 เมษายน 2568

    รุ่น ข้อเสนอพิเศษ
    [ใหม่] บีเอ็มดับเบิลยู i5 eDrive40, iX xDrive50, i7 xDrive60ข้อเสนอฟรีค่างวดผ่อนชำระ 9 เดือน, ข้อเสนอราคาผ่อนพิเศษต่อเดือน, และข้อเสนอดอกเบี้ยพิเศษ 0% ·          บีเอ็มดับเบิลยูผ่อนให้ถึง 9 เดือนเต็ม เมื่อเลือกเป็นเจ้าของภายใต้สัญญาในโปรแกรม Hire Purchase with Balloon·          ผ่อนเริ่มต้น 25,000 บาท/เดือน (สำหรับรุ่น i5 eDrive40 M Sport (Inspiring))

    ·          อัตราดอกเบี้ยพิเศษ 0% เมื่อทำสัญญากับบีเอ็มดับเบิลยู
    ไฟแนนเชียล เซอร์วิส ประเทศไทย เป็นระยะเวลา 48-60 เดือน

    ·          ฟรี BMW Wall Box

    ·          ฟรี เครดิตการชาร์จมูลค่า 20,000 บาทที่สถานีชาร์จ Elex by EGAT

    ·          ขยายระยะเวลาการรับประกันคุณภาพรถยนต์ BMW Extended Warranty สูงสุด 8 ปี

    ·          การันตีมูลค่าการขายต่อในอนาคต สำหรับลูกค้าที่ทำสัญญาแบบ BMW Freedom Choice

    [ใหม่] บีเอ็มดับเบิลยู X1 ·          ฟรี ประกันภัยชั้น 1 BMW Protect สูงสุด 1 ปี สำหรับลูกค้าที่ทำสัญญาในโปรแกรม Hire Purchase, Hire Purchase With Balloon, Finance Lease หรือ BMW Freedom Choice·          อัตราดอกเบี้ยพิเศษ 1.99%

    ·          ผ่อนเริ่มต้น 15,799 บาท/เดือน (สำหรับรุ่น X1 sDrive20i xLine เท่านั้น)

    ·          ขยายเวลาการรับประกันคุณภาพรถยนต์ BMW Extended Warranty เพิ่มอีก 1 ปี

    ·          รับส่วนลดสูงสุด 100,000 บาท (สำหรับรุ่น X1 sDrive20i xLine เท่านั้น) หรือ 50,000 บาท (สำหรับรุ่น X1 sDrive20i M Sport เท่านั้น) เมื่อนำรถยนต์เก่ามาแลกซื้อ

    บีเอ็มดับเบิลยู X3 20d, X3 M50 ·          ฟรี ประกันภัยชั้น 1 BMW Protect สูงสุด 1 ปี สำหรับลูกค้าที่ทำสัญญาในโปรแกรม Hire Purchase With Balloon, Finance Lease หรือ BMW Freedom Choice·          ผ่อนเริ่มต้น 32,299 บาท/เดือน
    บีเอ็มดับเบิลยู 330e ·          ฟรี ประกันภัยชั้น 1 BMW Protect สูงสุด 2 ปี สำหรับลูกค้าที่ทำสัญญาในโปรแกรม Hire Purchase, Hire Purchase With Balloon, Finance Lease หรือ BMW Freedom Choice·          ผ่อนเริ่มต้น 23,799 บาท/เดือน
    บีเอ็มดับเบิลยู M340i ·          ฟรี ประกันภัยชั้น 1 BMW Protect สูงสุด 1 ปี สำหรับลูกค้าที่ทำสัญญาในโปรแกรม Hire Purchase With Balloon, Finance Lease หรือ BMW Freedom Choice·          ผ่อนเริ่มต้น 33,999 บาท/เดือน
    บีเอ็มดับเบิลยู 320d ·          ฟรี ประกันภัยชั้น 1 BMW Protect สูงสุด 3 ปี สำหรับลูกค้าที่ทำสัญญาในโปรแกรม Hire Purchase, Hire Purchase With Balloon, Finance Lease หรือ BMW Freedom Choice·          อัตราดอกเบี้ยพิเศษ 1.99%

    ·          ผ่อนเริ่มต้น 23,799 บาท/เดือน

    บีเอ็มดับเบิลยู iX3 ·          ฟรี BMW Wall Box·          ฟรี ประกันภัยชั้น 1 BMW Protect สูงสุด 3 ปี สำหรับลูกค้าที่ทำสัญญาในโปรแกรม Hire Purchase, Hire Purchase With Balloon, Finance Lease หรือ BMW Freedom Choice

    ·          อัตราดอกเบี้ยพิเศษ 1.99%

    ·          ผ่อนเริ่มต้น 27,499 บาท/เดือน

    บีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 5 ·          ฟรี ประกันภัยชั้น 1 BMW Protect สูงสุด 3 ปี สำหรับลูกค้าที่ทำสัญญาในโปรแกรม Hire Purchase, Hire Purchase With Balloon, Finance Lease หรือ BMW Freedom Choice·          อัตราดอกเบี้ยพิเศษ 1.99%

    ·          ผ่อนเริ่มต้น 32,299 บาท/เดือน

    บีเอ็มดับเบิลยู M และ M Performance

    (รุ่นที่เข้าร่วม บีเอ็มดับเบิลยู M240i, บีเอ็มดับเบิลยู i4 M50, บีเอ็มดับเบิลยู M440i
    (รุ่นก่อนปรับโฉม), บีเอ็มดับเบิลยู Z4 M40i, บีเอ็มดับเบิลยู i5 M60, บีเอ็มดับเบิลยู M3 CS, บีเอ็มดับเบิลยู M3 Touring, บีเอ็มดับเบิลยู M4 Coupe (รุ่นก่อนปรับโฉม) และ บีเอ็มดับเบิลยู X4M)

    ·          ฟรี ประกันภัยชั้น 1 BMW Protect สูงสุด 3 ปี สำหรับลูกค้าที่ทำสัญญาในโปรแกรม Hire Purchase, Hire Purchase With Balloon, Finance Lease หรือ BMW Freedom Choice·          ผ่อนเริ่มต้น 37,299 บาท/เดือน

    ·          ฟรี แพ็คเกจ BMW Driving Experience ที่เกาหลีใต้ สำหรับรุ่น M240i, i4 M50, i5 M60, M440i (รุ่นก่อนปรับโฉม), Z4 M40i, M3 CS, M3 Touring (รุ่นก่อนปรับโฉม) และ M4 Coupe (รุ่นก่อน
    ปรับโฉม)

    บีเอ็มดับเบิลยู 320Li / 330Li ·          ฟรี ประกันภัยชั้น 1 BMW Protect สูงสุด 2 ปี สำหรับลูกค้าที่ทำสัญญาในโปรแกรม Hire Purchase, Hire Purchase With Balloon, Finance Lease หรือ BMW Freedom Choice·          อัตราดอกเบี้ยพิเศษ 1.99%

    ·          ผ่อนเริ่มต้น 19,999 บาท/เดือนหรือ อัปเกรดระยะเวลา BSI Ultimate นานสูงสุด 5 ปี

    ·          ฟรี ขยายเวลา BMW Extended Warranty (การรับประกันคุณภาพรถยนต์) เพิ่มอีก 1 ปี

    บีเอ็มดับเบิลยู X3 30e ·          ฟรี ประกันภัยชั้น 1 BMW Protect สูงสุด 2 ปี สำหรับลูกค้าที่ทำสัญญาในโปรแกรม Hire Purchase, Hire Purchase With Balloon, Finance Lease หรือ BMW Freedom Choice·          ผ่อนเริ่มต้น 33,099 บาท/เดือน
    บีเอ็มดับเบิลยู X5 30e ·          ฟรี ประกันภัยชั้น 1 BMW Protect สูงสุด 2 ปี สำหรับลูกค้าที่ทำสัญญาในโปรแกรม Hire Purchase, Hire Purchase With Balloon, Finance Lease หรือ BMW Freedom Choice·          ผ่อนเริ่มต้น 46,399 บาท/เดือน
    บีเอ็มดับเบิลยู รุ่นพลังงานไฟฟ้า

    (บีเอ็มดับเบิลยู i4, i5, i7, iX2, iX)

    ·          ฟรี BMW Wall Box·          ฟรี ประกันภัยชั้น 1 BMW Protect สูงสุด 1 ปี สำหรับลูกค้าที่ทำสัญญาในโปรแกรม Hire Purchase With Balloon, Finance Lease หรือ BMW Freedom Choice

    ·          ผ่อนเริ่มต้น 31,099 บาท/เดือน

    ·          ฟรี เครดิตการชาร์จมูลค่า 20,000 บาทที่สถานีชาร์จ Elex by EGAT

    *เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.bmw.co.th/th/topics/offers-and-services/promotional-offers/bmw-march-2025-motorshowoffer.html#tabs-977a40841f-item-1d09a77bfc-tab

    ผู้สนใจสามารถค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย เฟซบุ๊กแฟนเพจ BMW Thailand หรือติดต่อ BMW Contact Centre ที่เบอร์ 1397

    ข้อเสนอพิเศษจากมินิในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 46

    พบกับข้อเสนอพิเศษ** ที่พร้อมเปิดทางให้คุณได้โลดแล่นไปกับมินิหลากสไตล์ ไม่ว่าจะเป็นยานยนต์ไฟฟ้าขับสนุกหรือรถอเนกประสงค์สำหรับการผจญภัยครั้งใหม่ ด้วยความอุ่นใจจากอัตราผ่อนชำระพิเศษ ประกันภัยชั้นหนึ่ง และอื่นๆ

    รุ่น ข้อเสนอพิเศษ
    MINI Cooper SE และ MINI Aceman SE ·          ฟรี MINI Wall Box·          ฟรี ประกันภัยชั้น 1 MINI Protect สูงสุด 2 ปี สำหรับลูกค้าที่ทำสัญญาในโปรแกรม Hire Purchase, Hire Purchase With Balloon, Finance Lease หรือ BMW Freedom Choice

    ·          ผ่อนเริ่มต้น 11,555 บาท/เดือน (สำหรับ MINI Cooper SE) และ 15,555 บาท/เดือน (สำหรับ MINI Aceman SE)

    MINI Countryman S ALL4 ·          ฟรี ประกันภัยชั้น 1 MINI Protect สูงสุด 3 ปี สำหรับลูกค้าที่ทำสัญญาในโปรแกรม Hire Purchase, Hire Purchase With Balloon, Finance Lease หรือ BMW Freedom Choice·          ฟรี กล้องหน้ารถ Advanced Car Eye 3.0 สำหรับรุ่น MINI Countryman S ALL4 Classic

    ·          ผ่อนเริ่มต้น 22,099 บาท/เดือน

    **เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.mini.co.th/en_TH/home/serv/special-offers/the_new_mini_family.html

    ข้อเสนอพิเศษจากบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 46

    ออกตัวสู่ทุกเส้นทางกับสองล้อคู่ใจคันใหม่จากบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ด้วยข้อเสนอพิเศษ*** ที่มีทั้งประกันภัยชั้นหนึ่ง ขยายเวลาบริการหลังการขาย และอัตราดอกเบี้ยพิเศษสุด

    รุ่น ข้อเสนอพิเศษ
    บีเอ็มดับเบิลยู C 400 GT ·          ฟรี ประกันภัยชั้น 1 BMW Motorrad Protect สูงสุด 1 ปี·          ขยายระยะเวลา แพ็คเกจบริการหลังการขาย BMW Motorrad Service Inclusive เป็น 3 ปีเต็ม
    บีเอ็มดับเบิลยู R 1250 GS Adventure ·          เลือกจากo    ฟรี ประกันภัยชั้น 1 BMW Motorrad Protect สูงสุด 1 ปี

    o    อัตราดอกเบี้ยพิเศษ 1.99%

    บีเอ็มดับเบิลยู R 1300 GS ·          อัตราดอกเบี้ยพิเศษ 2.65% สำหรับลูกค้าเดิมของบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด เท่านั้น

    ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย

    Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
    Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
    Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
    instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
    Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
    Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
    Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine


    No Comment
  • มาสด้าโชว์สุดยอดเทคโนโลยีแห่งอนาคต Multi-solution นำรถต้นแบบ Mazda Iconic SP และรถไฟฟ้า Mazda6e จัดแสดงครั้งแรกในประเทศไทย พร้อมเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่แน่นบูธ

    1 Min Read

    มาสด้าโชว์สุดยอดเทคโนโลยีแห่งอนาคต Multi-solution นำรถต้นแบบ Mazda Iconic SP และรถไฟฟ้า Mazda6e จัดแสดงครั้งแรกในประเทศไทย พร้อมเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่แน่นบูธ

              มาสด้าสร้างเซอร์ไพรส์ใหญ่ให้ชาวไทยได้สัมผัสเป็นครั้งแรก โชว์สุดยอดเทคโนโลยียานยนต์แห่งอนาคต ตามแนวทาง Multi-solution จัดแสดงนวัตกรรมใหม่ 2 รุ่น นำโดย Mazda Iconic SP คอนเซ็ปต์คาร์ของรถสปอร์ตคอมแพ็ค ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า รองรับการใช้พลังงานสะอาดหลากหลายรูปแบบ และ Mazda6e รถยนต์ไฟฟ้า 100% BEV รุ่นแรกจากมาสด้า ตอกย้ำจุดยืนในการส่งมอบเทคโนโลยียานยนต์ที่มีความเป็นกลางทางคาร์บอน พร้อมเปิดตัวรถยนต์นั่งรุ่นยอดนิยม New Mazda2 Essential โดดเด่นเรื่องความคุ้มค่าและดีไซน์ที่ตอบโจทย์ ในราคาที่เข้าถึงได้ง่ายขึ้นกว่าเดิม ทั้งยังแนะนำ New Mazda MX-5 35th Anniversary Edition รถสปอร์ตโรดสเตอร์รุ่นพิเศษที่เฉลิมฉลองการครบรอบ 35 ปี แบรนด์ไอคอนเจ้าตำนานความสนุกสนานในการขับขี่มาอวดโฉมพร้อมเปิดให้จองเป็นเจ้าของ ควบคู่กับรถยนต์มาสด้าครบทุกรุ่น ด้วยข้อเสนอสุดพิเศษ อาทิ ดอกเบี้ยต่ำสุด 0% ผ่อนนานสูงสุด 72 เดือน ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง Mazda Premium Insurance ฟรีบัตรน้ำมันสำหรับเจ้าของรถมาสด้าและครอบครัว มูลค่าสูงสุด 30,000 บาท และฟรีโปรแกรมคุ้มครองและดูแลรถ MUS นานสูงสุด 7 ปี ณ บูธมาสด้า ในงาน มอเตอร์ โชว์ 2025 ระหว่างวันที่ 26 มี.ค. 68 – 6 เม.ย. 68 นี้ ที่ อิมแพ็ค เมืองทองธานี หรือรับข้อเสนอเดียวกันนี้ได้ที่โชว์รูมมาสด้าทั่วประเทศ

              นายธีร์ เพิ่มพงศ์พันธ์ ประธานกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา มาสด้าได้มุ่งมั่นเพื่อยกระดับประสบการณ์ในการขับขี่ให้กับลูกค้าของเรา เพราะเราเชื่อว่าความสุขในการขับขี่รถยนต์ จะนำมาซึ่งความสุขในการใช้ชีวิต และในปีนี้ มาสด้าพร้อมที่จะถ่ายทอดวิสัยทัศน์นี้ให้ชัดเจนยิ่งขึ้น ด้วยการนำกลยุทธ์การบริหารงานโดยมีลูกค้าเป็นศูนย์กลางในทุกบริบท และแนวคิดที่เชื่อว่าในทุกรายละเอียดของชีวิต มีความสุขขับเคลื่อนเราเสมอ หรือ “Joy Drives Lives” มาใช้ในการสร้างประสบการณ์ลูกค้าในทุก ๆ ขั้นตอน เพื่อให้มั่นใจได้ว่าลูกค้าจะได้รับความสุขและได้รับประสบการณ์ที่ดีจากแบรนด์มาสด้า ควบคู่กับการมุ่งมั่นพัฒนาเทคโนโลยียานยนต์ที่มีความเป็นกลางทางคาร์บอน เพื่อส่งมอบให้กับลูกค้าของเราทั้งในวันนี้และในอนาคต

    เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์เหล่านี้ มาสด้าจึงขับเคลื่อนธุรกิจด้วยแนวทาง Multi-solution เพื่อส่งมอบเทคโนโลยียานยนต์ที่มาพร้อมพลังงานทางเลือกที่หลากหลายให้กับลูกค้าทั่วโลก รวมถึงลูกค้าในประเทศไทย ซึ่งในขณะนี้ เราอยู่ในช่วงเฟสที่ 2 ระหว่างปี 2025-2027 ซึ่งเป็นช่วงของการเปลี่ยนผ่านไปสู่พลังงานไฟฟ้า ด้วยการนำเสนอทั้งรถยนต์ ประเภท xEVs, Hybrid, Plug-in Hybrid และรถไฟฟ้า BEV เข้าสู่ตลาด เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้าและสร้างความยั่งยืนให้กับโลก สังคม และผู้คน เพื่อส่งมอบให้กับผู้คนในเจนเนอเรชั่นถัดไป

              สำหรับไฮไลท์สำคัญของบูธมาสด้าในงานมอเตอร์โชว์ 2025 นี้ มาสด้าได้นำยนตรกรรมที่ได้รับการพัฒนาตามแนวทาง Multi-solution เพื่อนำเสนอเทคโนโลยียานยนต์ที่มาพร้อมพลังงานทางเลือกที่หลากหลาย มาให้ลูกค้าได้รับชมและสัมผัสเป็นครั้งแรกในประเทศไทย ประกอบไปด้วย

    • MAZDA ICONIC SP ยานยนต์ต้นแบบสปอร์ตคอมแพ็คคาร์ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า โดยใช้เครื่องยนต์โรตารี่ อันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์มาสด้า แบบ 2 โรเตอร์ ทำหน้าที่ผลิตกระแสไฟฟ้าเข้าสู่แบตเตอรี่ รองรับการใช้พลังงานหลากหลายรูปแบบ อาทิ พลังงานไฮโดรเจน และพลังงานสะอาดหลากหลายรูปแบบ โดยเฉพาะพลังงานที่ได้จากธรรมชาติ อาทิ สาหร่ายขนาดเล็ก หรือเปลือกหอย ซึ่งยังคงถ่ายทอดเอกลักษณ์แบรนด์มาสด้าไว้อย่างเต็มเปี่ยม มีจุดศูนย์ถ่วงต่ำ น้ำหนักเบา กระจายน้ำหนัก 50:50 พร้อมการออกแบบตามแนวทาง Kodo Design รวมถึงการขับขี่ที่เป็นหนึ่งเดียวกันกับรถ ตามปรัชญา จินบะ-อิไต ที่พัฒนาขึ้นโดยยึดหลักมนุษย์เป็นศูนย์กลาง เพื่อมอบประสบการณ์ความสนุกสนานในการขับขี่ พร้อมได้รับการออกแบบให้สอดคล้องกับยุคของพลังงานไฟฟ้า เพื่อถ่ายทอดปณิธานความสุขในการขับขี่ของมาสด้า โดยรถต้นแบบคันนี้กำลังอยู่ในขั้นตอนของการพัฒนา เพื่อฟื้นตำนานรถสปอร์ตเครื่องยนต์โรตารี่ให้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง และนำเสนอพลังงานทางเลือกหลากหลายรูปแบบให้กับลูกค้า

    สีภายนอก “VIOLA RED” ได้รับการสร้างสรรค์ขึ้นตามความปรารถนาของมาสด้าที่จะ “เชิดชูสีแดง” และสอดคล้องกับปรัชญาในการ “ยกระดับประสบการณ์ความสุขในการขับขี่ และการใช้ชีวิตในทุกด้านให้กับลูกค้าทุกคน” โดยมุ่งเน้นไปที่สีสันที่สดใส แต่ในขณะเดียวกันก็แสดงให้เห็นถึงความสง่างามของมิติของตัวรถที่เกิดจากแสงและเงาที่ตกกระทบลงบนตัวรถ

     

    ข้อมูลจำเพาะเบื้องต้นของ MAZDA ICONIC SP

    ความยาว x ความกว้าง x ความสูง (มม.) 4,180 × 1,850 × 1,150
    ระยะฐานล้อ (มม.) 2,590
    อัตราส่วน แรงม้า น้ำหนัก 3.9
    แรงม้าสูงสุด (PS) 370
    น้ำหนัก (กก.) 1,450
    • Mazda6e รถยนต์ไฟฟ้า 100% BEV รุ่นแรกที่มาสด้าพัฒนาขึ้นตามแนวทาง Multi-solution Technology สะท้อนเอกลักษณ์เฉพาะมาสด้าไว้อย่างชัดเจนในทุกองค์ประกอบ ทั้งดีไซน์ภายนอกที่สง่างามตามแนวคิด Kodo Design – Soul of Motion โดยผสานความงดงามตามสไตล์รถไฟฟ้ายุคใหม่ ให้ภาพลักษณ์แบบสปอร์ตในรูปแบบตัวถังพิเศษแบบ Fastback แต่ยังคงมีความโฉบเฉี่ยวสไตล์รถซีดาน และเอกลักษณ์ของสมรรถนะการขับขี่ที่ทรงพลัง ถูกพัฒนาขึ้นโดยทีมวิศวกรของมาสด้าที่ใส่ใจในทุกรายละเอียด กระจายน้ำหนัก 50:50 มาพร้อมแบตเตอรี่ลิเทียมไอออนขนาด 80 กิโลวัตต์ ให้ระยะการขับขี่ได้ไกลสุดถึง 552 กม. มาพร้อมเทคโนโลยี FAST CHARGE สามารถชาร์จไฟจาก 30%-80% ได้เร็วสูงสุดภายใน 15 นาที มอบความสนุกสนานในการขับขี่ตามปรัชญา จินบะ-อิไต และเน้นหลักมนุษย์เป็นศูนย์กลาง ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของมาสด้าเฉกเช่นเดียวกับรถยนต์รุ่นอื่น ๆ ที่ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากลูกค้าทั่วโลก

    “มาสด้าเชื่อว่า ยนตรกรรมทั้งสองรุ่นนี้ จะทำให้ลูกค้าเห็นภาพที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น ต่อการเดินหน้าตามแนวทาง Multi-solution ของมาสด้า เพื่อนำเสนอเทคโนโลยียานยนต์แห่งอนาคตที่ตอบโจทย์การใช้งานลูกค้าที่มีความต้องการที่แตกต่างกันในแต่ละภูมิภาค เพื่อให้รถยนต์ของมาสด้าสามารถส่งมอบความสุขในการขับขี่และการใช้ชีวิตในทุก ๆ ด้านให้กับลูกค้าและครอบครัว นับตั้งแต่แรกที่เริ่มใช้งานจนถึงในระยะยาว อันเป็นปณิธานที่มาสด้ามุ่งมั่นเพื่อส่งมอบให้กับลูกค้าทุกคน” นายธีร์ กล่าว

    นายภพนิพิฐ จิรวัฒนานนท์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและรัฐกิจสัมพันธ์ บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า นอกเหนือจากยนตรกรรมที่นำมาจัดแสดงตามแนวทาง Multi-solution แล้ว มาสด้ายังได้นำรถยนต์นั่งยอดนิยมที่ได้รับการปรับโฉมใหม่ล่าสุด New Mazda2 Essential มาเปิดตัวภายในงานฯ โดยมาพร้อมแนวคิด Nothing Else เลือกแล้วว่าใช่ ก็ไม่ต้องการอะไรอีก ที่ดีไซน์บ่งความเป็นตัวตนที่ชัดเจน และฟังก์ชั่นที่เติมเต็มกับทุกไลฟ์สไตล์ในการขับขี่ เจาะกลุ่มเจนเนอเรชั่น Z ที่กำลังมองหารถยนต์คันแรกสำหรับการใช้งานที่มีความคุ้มค่ามากที่สุด และตอบโจทย์ความเป็นตัวของตัวเอง มาพร้อมทางเลือก 4 รุ่นใหม่ ได้แก่

    • รุ่น PRIME มอบความ ”คุ้มสุด” ของรุ่นเริ่มต้นที่มาพร้อมเครื่องยนต์สกายแอคทีฟเบนซิน 1.3 ลิตร ตอบโจทย์ทุกความต้องการให้ใช้ชีวิตได้คุ้มตั้งแต่เริ่มต้น มาพร้อมอุปกรณ์มาตรฐานครบครัน พร้อมการตกแต่งเพื่อเพิ่มความสปอร์ตด้วยกระจังหน้าสีดำ วางราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่เข้าถึงได้ง่ายขึ้นเพียง 529,000 บาท
    • รุ่น ULTRA มอบความ “สบายสุด” มาพร้อมเครื่องยนต์สกายแอคทีฟเบนซิน 1.3 ลิตร ครบครันด้วยเทคโนโลยีความสะดวกสบาย พร้อมกับฟังก์ชั่นที่รู้ใจและตอบโจทย์กับทุกมิติของการใช้ชีวิต ทั้งระบบ Entertainment และความสะดวกสบายภายในห้องโดยสาร อาทิ Mazda Connect ที่รองรับ Apple CarPlay® และ Android AutoTM พร้อมหน้าจอ Center Display แบบสัมผัสขนาด 7 นิ้ว ที่ควบคุมผ่าน Center Commander ตกแต่งภายในอย่างมีเอกลักษณ์ด้วยแผงคอนโซลหน้าไบโอพลาสติกแบบสี ผลิตจากวัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม พร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัย i-Activsense อาทิ ระบบช่วยหยุดรถอัตโนมัติแบบ Advance พร้อมกล้องมองหลังและเซ็นเซอร์กะระยะด้านหลัง ราคาจำหน่าย 589,000 บาท
    • รุ่น SIGNATURE มอบความ “พร้อมสุด” โดดเด่นด้วยดีไซน์การออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์แบบ Sport Design พร้อมฟังก์ชั่นทั้งเทคโนโลยีความปลอดภัยและความสะดวกสบาย ควบคู่กับสมรรถนะการขับขี่ที่สนุก มาพร้อมสองทางเลือก กับรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน 1.3 ลิตร ในรุ่น 1.3 Signature ภายนอกตกแต่งด้วยกระจังหน้าแบบ Sport Design และกระจกมองข้างสีดำ ภายในตกแต่งด้วยเบาะนั่งหุ้มหนังสีดำ และผ้า Grand Luxe Suede® พร้อมกรอบช่องแอร์สีแดง วางราคาจำหน่าย 659,000 บาท และทางเลือกที่สองกับเครื่องยนต์ดีเซล 1.5 ลิตร ในรุ่น XDL Signature มาพร้อมหลังคาสีดำ ล้ออัลลอย ขนาด 16 นิ้ว สี Black Machining และดิสก์เบรกหลัง ประหยัดน้ำมันสูงสุด 26.3 กม./ลิตร พร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัย i-Activsense หลายระบบ วางราคาจำหน่าย 749,000 บาท

    ไม่เพียงเท่านี้ มาสด้ายังได้นำยนตรกรรมรุ่นใหม่ล่าสุด แบรนด์ไอคอนยอดนิยม New Mazda MX-5 35th Anniversary Edition หรือ รุ่นพิเศษครบรอบ 35 ปี เปิดตัวเพื่อเป็นการร่วมเฉลิมฉลองการครบรอบ 35 ปี นับตั้งแต่ MX-5 ได้เปิดตัวเป็นครั้งแรก มาจัดแสดงให้แฟน ๆ ในประเทศไทยได้ชมและครอบครองเป็นเจ้าของ โดยมาพร้อมการตกแต่งพิเศษที่แตกต่างจากรุ่นทั่ว ๆ ไป เพื่อถ่ายทอดความพิเศษในทุกองค์ประกอบ ไม่ว่าจะเป็น สีภายนอกพิเศษ Artisan Red Premium สัญลักษณ์รุ่นพิเศษ 35th Anniversary Edition พนักพิงศีรษะ และพรม พร้อม Serial Number ที่บริเวณด้านข้างตัวถัง เพื่อบ่งบอกถึงบอกถึงความพิเศษในฐานะรุ่นลิมิเต็ด รวมถึงเบาะหนังสีพิเศษ Sports Tan หลังคาแข็งเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า กระจกมองข้างสีเดียวกับตัวรถ พร้อมล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว สี Bright ถ่ายทอดภาพลักษณ์สปอร์ตพรีเมี่ยมและความพิเศษได้อย่างมีเอกลักษณ์ วางจำหน่ายในจำนวนจำกัด ในราคา 3,069,000 บาท

    ลูกค้าที่สนใจชมยนตรกรรรมจากมาสด้า สามารถเข้าชมได้ที่บูธรถยนต์มาสด้าในงานมอเตอร์ โชว์ 2025 ระหว่างวันที่ 26 มีนาคม 2568 – 6 เมษายน 2568 ณ อาคารชาเลนเจอร์ อิมแพ็ค เมืองทองธานี พร้อมรับข้อเสนอพิเศษมากมาย เมื่อจองซื้อรถยนต์มาสด้า อาทิ ดอกเบี้ยต่ำสุด 0%* ผ่อนนานสูงสุด 72 เดือน* ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง Mazda Premium Insurance* ฟรีบัตรน้ำมันสำหรับเจ้าของรถมาสด้าและครอบครัว มูลค่าสูงสุด 30,000 บาท* ฟรีโปรแกรมคุ้มครองและดูแลรถ MUS นานสูงสุด 7 ปี* และฟรีเครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ SHARP รุ่น IG-NX2B มูลค่า 3,990 บาท** ภายในงานฯ และที่โชว์รูมมาสด้าทั่วประเทศ


    ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย

    Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
    Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
    Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
    instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
    Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
    Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
    Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine


    No Comment