-
News Car2 Min Read
เอ็มจี จัดใหญ่ กับ 3 ไฮไลท์ในกลุ่มรถอีวี พร้อมแคมเปญสุดพิเศษครบทุกรุ่น ในงานมอเตอร์โชว์ 2025
บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์ – ซีพี จำกัด และ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและผู้จำหน่ายรถยนต์เอ็มจีในประเทศไทย ชู 3 ไฮไลท์กลุ่มยนตรกรรมอีวีในงานมอเตอร์โชว์ 2025 กับโมเดลใหม่อย่าง NEW MG IM6 สู่สาธารณชนอย่างเป็นทางการ และการเพิ่มสีสันใหม่กับอีวีรุ่นยอดนิยมอย่าง NEW MG4 ELECTRIC ด้วยสีใหม่ SOL BLUE เพิ่มความพรีเมียมมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังเตรียมขยายไลน์อัพใหม่กับ NEW MG S5 EV ที่จะมาเติมความร้อนแรงให้กับตลาด B-SUV ด้วยจุดเด่น “ขับสนุก ชาร์จไว วิ่งไกล นั่งสบาย
พร้อม Lifetime Warranty” นอกจากนี้ยังมียนตรกรรมหลากหลายขุมพลังขับเคลื่อนที่มาพร้อมข้อเสนอสุดพิเศษให้ลูกค้าได้เป็นเจ้าของอย่างคุ้มค่าที่สุด ณ บูธ เอ็มจี หมายเลข A08 อาคารชาเลนเจอร์ 2 อิมแพ็ค เมืองทองธานีนายพงษ์ศักดิ์ เลิศฤดีวัฒนวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “สำหรับงานมอเตอร์โชว์ในครั้งนี้ ถือเป็นหนึ่งเวทีสำคัญที่จะทำให้ เอ็มจี เดินหน้าสู่เป้าหมายส่วนแบ่งทางการตลาด 5% ภายในปีนี้ โดย เอ็มจี มาพร้อมกับ “3 ความใหม่” ของยนตรกรรมในกลุ่มอีวี ที่จะยกระดับมาตรฐานและเพิ่มทางเลือกใหม่ให้กับผู้บริโภค”
สัมผัสกับยานยนต์อัจฉริยะที่ทำให้การขับขี่รถอีวีก้าวสู่อีกระดับ
สัปดาห์ที่ผ่านมา เอ็มจี ได้สร้างสีสันในแวดวงยานยนต์ไฟฟ้าอีกครั้งด้วยการส่ง NEW MG IM6 เข้าสู่ตลาดอีวีระดับพรีเมียม ชูจุดเด่นของการเป็น The First-ever Premium Intelligent e-SUV ที่มาพร้อมคอนเซ็ปต์ “ขับเคลื่อนตัวตน บนความเป็นตัวเอง” (I’M WHO I’M) จึงทำให้โมเดลนี้เหนือชั้นด้วยเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้าอัจฉริยะที่มอบประสบการณ์การควบคุมขับขี่ที่ง่าย และสะดวกสบายมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น ระบบช่วงล่างถุงลมอัจฉริยะ สามารถปรับระดับความสูงของช่วงล่างได้ถึง 3 ระดับ ระบบบังคับเลี้ยว 4 ล้ออัจฉริยะ ช่วยให้การเปลี่ยนเลนมีเสถียรภาพมากขึ้น สามารถกลับรถในที่แคบได้สบายๆ ฟังก์ชัน Crab Mode ช่วยให้การเคลื่อนรถออกจากพื้นที่ที่มีข้อจำกัดเป็นเรื่องง่าย ระบบ One Touch iAD ตัวช่วยในการถอยจอดหลากรูปแบบ ใช้งานง่ายเพียงปลายนิ้วสัมผัส ระบบอัจฉริยะแสดงผลในที่มืดและฝนตก และ NEW MG IM6 ยังมีจุดเด่นด้านสมรรถนะการขับขี่กับพละกำลังสูงสุด 778 แรงม้า แรงบิดสูงสุดที่ 802 นิวตัน-เมตร มาพร้อมมอเตอร์คู่ขับเคลื่อน 4 ล้อ อัตราเร่ง 0 – 100 กม./ชม. เพียง 3.48 วินาที เท่านั้น แบตเตอรี่ขนาดความจุ 100 kWh วิ่งได้ระยะทางสูงสุด 634 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้งตามมาตรฐาน NEDC เป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่ชาร์จไฟได้รวดเร็ว Quick Charge ชาร์จไฟฟ้าจาก 10% – 80% ใช้เวลาน้อยกว่า 20 นาที* ด้วยแรงดันไฟฟ้า 800 โวลต์ รองรับการชาร์จ แบบกระแสตรงสูงสุด 396 kW
*ระยะเวลาในการชาร์จ ขึ้นอยู่กับจำนวนแบตเตอรี่ที่เหลือ และกำลังไฟของสถานีชาร์จ
“เพิ่มสีใหม่” ในรุ่นอีวียอดนิยม นำเสนอทางเลือกที่หลากหลายให้กับผู้บริโภค
NEW MG4 ELECTRIC อีวีรุ่นยอดนิยมของ เอ็มจี สร้างสีสันครั้งใหม่ด้วยสี SOL BLUE ให้กลิ่นอาย
ความพรีเมียมกับรถแฮทช์แบคไฟฟ้าดีไซน์สปอร์ตรุ่นนี้สะท้อนภาพลักษณ์ความสุขุม นุ่มลึกของผู้ขับขี่ โดยสีใหม่นี้
มีในรุ่น STANDARD RANGE รุ่น D, LONG RANGE รุ่น D และรุ่น V ราคาเริ่มต้น 709,900 บาทเตรียม “ขยายไลน์อัพใหม่” มอบความคุ้มค่าด้วย e-SUV ที่ครบเครื่อง
สำหรับบิ๊กเซอร์ไพรส์ที่จะเกิดขึ้นในงานมอเตอร์โชว์ครั้งนี้ (วันที่ 25 มีนาคม 2568 เวลา 13.00 น. – 14.00 น. ณ บูธ เอ็มจี หมายเลข A08) กับการเปิดตัวและประกาศราคา NEW MG S5 EV “โกลบอลอีวี” ที่มีมาตรฐานคุณภาพเดียวกันทั่วโลก เป็นหนึ่งในโมเดลยุทธศาสตร์ของ เอ็มจี ในปีนี้ และเป็นรถไฟฟ้าแบรนด์ เอ็มจี อีกรุ่นที่ผลิตในประเทศไทย และจะพลิกโฉมวงการยานยนต์ไฟฟ้าในไทย ด้วยการเป็น e-SUV ที่ “ขับสนุก ชาร์จไว วิ่งไกล นั่งสบาย
พร้อม Lifetime Warranty”เป็นเจ้าของยนตรกรรมหลากหลายรูปแบบการขับเคลื่อนได้อย่างคุ้มค่า
นอกจากการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่แล้วนั้น เอ็มจี เพิ่มโอกาสให้คนไทยได้เป็นเจ้าของยนตรกรรมคุณภาพได้ง่ายยิ่งขึ้นด้วยข้อเสนอพิเศษสำหรับลูกค้าที่จองซื้อรถในงานฯ ตั้งแต่วันนี้จนถึง 6 เมษายน 2568 โดยมีรายละเอียด ดังนี้
กลุ่มรถยนต์สันดาป
NEW MG5 PRO
- ดาวน์เริ่มต้น 31,499 บาท หรือ ผ่อนเริ่มต้นเพียง 7,156 บาท
- ฟรี ประกันภัยชั้น 1 พร้อม พ.ร.บ. คุ้มครอง 1 ปี
- ฟรี ชุดพรมปูพื้น
NEW MG ZS
- ดาวน์เริ่มต้น 10%
- เลือกรับ เอ็มจี ช่วยผ่อนเดือนละ 3,000 บาท นาน 9 เดือน
- ฟรี ประกันภัยชั้น 1 พร้อม พ.ร.บ. คุ้มครอง 1 ปี
- ฟรี ชุดพรมปูพื้น
NEW MG EXTENDER
- ดาวน์เริ่มต้น 5% ผ่อนสูงสุด 84 งวด
- รับประกันคุณภาพรถยนต์นาน 5 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)
- ฟรี ประกันภัยชั้น 1 พร้อม พ.ร.บ. คุ้มครอง 1 ปี
- ฟรี ชุดพรมปูพื้น
กลุ่มรถยนต์พลังงานทางเลือก
ALL NEW MG3 HYBRID+
- ดาวน์เริ่มต้น 8,888 บาท หรือ ผ่อนเริ่มต้น 6,516 บาท
- รับประกันคุณภาพรถยนต์นาน 5 ปี หรือ 120,000 กิโลเมตร (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)
- รับประกันแบตเตอรี่ไฮบริด 10 ปี ไม่จำกัดระยะทาง
- ฟรี ประกันภัยชั้น 1 พร้อม พ.ร.บ. คุ้มครอง 1 ปี
- ฟรี ชุดพรมปูพื้น
NEW MG VS HEV
- ดาวน์เริ่มต้น 10%
- เลือกรับ เอ็มจี ช่วยผ่อนเดือนละ 3,000 บาท นาน 9 เดือน
- ฟรี ประกันภัยชั้น 1 พร้อม พ.ร.บ. คุ้มครอง 1 ปี
- ฟรี ชุดพรมปูพื้น
NEW MG HS PHEV
- รับสิทธิ์ช่วยผ่อนสูงสุด 5,000 บาท นาน 20 เดือน หรือ เลือกรับบัตรน้ำมันมูลค่าสูงสุด 5,000 บาท นาน 20 เดือน (เลือกอยากใดอย่างหนึ่ง และไม่สามารถแลกเปลี่ยนเป็นเงินสดได้)
- รับประกันคุณภาพรถยนต์นาน 4 ปี หรือ 120,000 กิโลเมตร (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)
- รับประกันแบตเตอรี่ไฮบริด 8 ปี ไม่จำกัดระยะทาง
- ฟรี ประกันภัยชั้น 1 พร้อม พ.ร.บ. คุ้มครอง 1 ปี
- ฟรี ชุดพรมปูพื้น
กลุ่มรถยนต์พลังงานไฟฟ้า
NEW MG IM6 มาพร้อม PRIME PACKAGE มูลค่ารวมกว่า 150,000 บาท*
- MG SHIELD ประกันภัยชั้น 1 พร้อม พ.ร.บ. นาน 2 ปี มูลค่า 72,000 บาท
- ฟรี รับ IM MAG HUB SET PACKAGE มูลค่า 17,380 บาท
- ฟรี MG HOME CHARGER พร้อมติดตั้ง มูลค่า 38,500 บาท
- ฟรี บริการช่วยเหลือฉุกเฉินบนท้องถนนระดับพรีเมียม นาน 5 ปี มูลค่า 12,500 บาท
- ฟรี ค่าบริการระบบปฏิบัติการ i-SMART นาน 5 ปี มูลค่า 7,450 บาท
- ฟรี บริการค่าจดทะเบียน กรอบป้ายทะเบียน และชุดพรมปูพื้น มูลค่า 8,385 บาท
- สิทธิพิเศษ การบริการ MG PREMIUM FAST LANE
- สิทธิพิเศษ การบริการ MG PREMIUM CALL CENTRE
- ดอกเบี้ยพิเศษ 99% นาน 48 เดือน
- รับประกันแบตเตอรี่แรงเคลื่อนสูง ชุดมอเตอร์ขับเคลื่อน และชุดควบคุมมอเตอร์ขับเคลื่อนตลอดอายุการใช้งาน
- รับประกันคุณภาพรถยนต์นาน 5 ปี หรือ 160,000 กิโลเมตร (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)
*หมายเหตุ: PRIME PACKAGE นี้ สำหรับลูกค้าที่จองและรับรถ NEW MG IM6 ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 30 เมษายน 2568
NEW MG4 ELECTRIC
- ดอกเบี้ยเริ่มต้น 0% ผ่อนนานสูงสุด 60 เดือน
- รับประกันแบตเตอรี่แรงเคลื่อนสูง ชุดมอเตอร์ขับเคลื่อน และชุดควบคุมมอเตอร์ขับเคลื่อนตลอดอายุการใช้งาน
- ฟรี ประกันภัยชั้น 1 พร้อม พ.ร.บ. คุ้มครอง 1 ปี
- ฟรี MG HOME CHARGER จำนวน 1 ชุด พร้อมค่าติดตั้ง
- ฟรี ชุดพรมปูพื้น
NEW MG ZS EV
- ราคาพิเศษ 699,000 ในรุ่น X
- เลือกรับดอกเบี้ยพิเศษ 1.88% ดาวน์เริ่มต้นที่ 25% ผ่อนนาน 48 เดือน
- รับประกันแบตเตอรี่ 8 ปี หรือ 180,000 กิโลเมตร (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)
- ฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง พร้อม พ.ร.บ. นาน 1 ปี
- ฟรี MG HOME CHARGER จำนวน 1 ชุด พร้อมค่าติดตั้ง
- ฟรี อุปกรณ์จ่ายกระแสไฟ V2L จำนวน 1 ชุด
- ฟรี ชุดพรมปูพื้น
NEW MG MAXUS 9
- รับประกันคุณภาพรถยนต์นาน 5 ปี หรือ 160,000 กิโลเมตร (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)
- รับประกันแบตเตอรี่แรงเคลื่อนสูง ชุดมอเตอร์ขับเคลื่อน และชุดควบคุมมอเตอร์ขับเคลื่อนตลอดอายุการ
ใช้งาน - ฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง พร้อม พ.ร.บ. นาน 1 ปี
- ฟรี MG HOME CHARGER จำนวน 1 ชุด พร้อมค่าติดตั้ง
- ฟรี ชุดพรมปูพื้น
NEW MG MAXUS 7
- รับประกันคุณภาพรถยนต์ 5 ปี หรือ160,000 กิโลเมตร (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)
- รับประกันแบตเตอรี่แรงเคลื่อนสูง ชุดมอเตอร์ขับเคลื่อน และชุดควบคุมมอเตอร์ขับเคลื่อนตลอดอายุการ
ใช้งาน - ฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง พร้อม พ.ร.บ. นาน 1 ปี
- ฟรี MG HOME CHARGER จำนวน 1 ชุด พร้อมค่าติดตั้ง
- ฟรี อุปกรณ์จ่ายกระแสไฟ V2L จำนวน 1 ชุด
- ฟรี ชุดพรมปูพื้น
NEW MG CYBERSTER
- รับประกันแบตเตอรี่แรงเคลื่อนสูง ชุดมอเตอร์ขับเคลื่อน และชุดควบคุมมอเตอร์ขับเคลื่อนตลอดอายุการใช้งาน
- รับประกันคุณภาพรถยนต์ 5 ปี หรือ 160,000 กิโลเมตร (อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)
- ฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง พร้อม พ.ร.บ. นาน 1 ปี
- ฟรี MG HOME CHARGER จำนวน 1 ชุด พร้อมค่าติดตั้ง
- ฟรี อุปกรณ์จ่ายกระแสไฟ V2L จำนวน 1 ชุด
- ฟรี ชุดพรมปูพื้น
- ฟรี บริการช่วยเหลือฉุกเฉินบนท้องถนน 5 ปี
NEW MG EP PLUS
- รับดอกเบี้ยพิเศษ 99%
- รับประกันแบตเตอรี่ 8 ปี หรือ 180,000 กิโลเมตร (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)
- ฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง พร้อม พ.ร.บ. นาน 1 ปี
- ฟรี MG HOME CHARGER จำนวน 1 ชุด พร้อมค่าติดตั้ง
- ฟรี ชุดพรมปูพื้น
NEW MG ES
- ราคาพิเศษ 899,000 บาท
- หรือ ดอกเบี้ยพิเศษ 99% เมื่อดาวน์เริ่มต้นที่ 25% ผ่อนนาน 48 เดือน
- รับประกันแบตเตอรี่ 8 ปี หรือ 180,000 กิโลเมตร (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)
- ฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง พร้อม พ.ร.บ. นาน 1 ปี
- ฟรี MG HOME CHARGER จำนวน 1 ชุด พร้อมค่าติดตั้ง
- ฟรี อุปกรณ์จ่ายกระแสไฟ V2L จำนวน 1 ชุด
- ฟรี ชุดพรมปูพื้น
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine
-
วอลโว่ ทรัคส์ เปิดตัวรถบรรทุกมาตรฐานยูโร 5 อย่างเป็นทางการ
มร. เอริค ลาบัท ประธานกรรมการ วอลโว่ ทรัคส์ ประเทศไทย เปิดเผยว่าเมื่อเร็ว ๆ นี้ วอลโว่ ทรัคส์ ได้จัดกิจกรรมเปิดตัวรถบรรทุกวอลโว่ ทรัคส์ มาตรฐาน Euro5 อย่างเป็นทางการโดยมาตรฐาน Euro5 ของวอลโว่ ทรัคส์ ที่แนะนำครั้งนี้ทั้งหมด 4 รุ่น ได้แก่ Volvo FH, FH16, FM และ FMX ซึ่งได้รับการพัฒนาและออกแบบให้มีการปล่อยมลพิษต่ำลง ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และช่วยเสริมสมรรถนะให้ธุรกิจขนส่งสามารถดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
“ภายใต้เทคโนโลยีรถบรรทุกรุ่นใหม่นี้ เราใช้เทคโนโลยี Selective Catalytic Reduction (SCR) ซึ่งเป็นระบบบำบัดไอเสียที่ช่วยลดการปล่อยก๊าซไนโตรเจนออกไซด์ (NOx) ทำให้เครื่องยนต์เผาไหม้เชื้อเพลิงได้สมบูรณ์ ส่งผลให้ประหยัดน้ำมันมากขึ้น และช่วยลดต้นทุนการดำเนินงานโดยรวม นอกจากนี้ ระบบ SCR ยังช่วยลดการสะสมของคราบเขม่าภายในเครื่องยนต์ ทำให้เครื่องยนต์มีอายุการใช้งานยาวนานขึ้น โดยผลการขับทดสอบพบว่ารถบรรทุก Euro 5 สามารถประหยัดน้ำมันได้มากกว่ารุ่น Euro 3 ถึง 9% ตามเงื่อนไขการขับขี่ในการทดสอบ
นอกจากนี้ วอลโว่ ทรัคส์ ยังมีความพร้อมด้านเทคโนโลยีในการพัฒนาไปสู่มาตรฐาน Euro 6 ซึ่งเป็นมาตรฐานการปล่อยมลพิษที่เข้มงวดมากขึ้นและเป็นที่บังคับใช้ในยุโรปแล้ว ดังนั้นเราพร้อมที่จะนำเสนอผลิตภัณฑ์ทึ่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมในระดับที่ก้าวไปอีกขั้น” มร. เอริค กล่าว
เทคโนโลยีล้ำสมัย ประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงยิ่งขึ้น เพิ่มความปลอดภัยและประสิทธิภาพสูงสุด
วอลโว่ ทรัคส์ นำเสนอเทคโนโลยีช่วยขับขี่อัจฉริยะที่ช่วยให้ธุรกิจขนส่งสามารถดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น พร้อมลดความเมื่อยล้าและเพิ่มความปลอดภัยให้แก่ผู้ขับขี่ เช่น
- I-SEE ระบบอัจฉริยะที่ช่วยประหยัดน้ำมันโดยเรียนรู้เส้นทางล่วงหน้า และปรับเปลี่ยนเกียร์ และควบคุมการขับขี่อัตโนมัติตามเส้นทางข้างหน้าไปว่าจะเป็นทางราบ หรือขึ้นลงเขา เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพสูงสุด ช่วยประหยัดน้ำมันได้ 3-5% จากการทดสอบเมื่อเทียบกับการเปิด และไม่เปิดใช้ระบบ
- Emergency Brake & Auto Hold ระบบเบรกฉุกเฉินและระบบเบรกอัตโนมัติบนทางลาดชัน เพิ่มความปลอดภัยในสภาพถนนที่ท้าทาย
- Side Collision Avoidance Support ระบบป้องกันการชนด้านข้าง ลดความเสี่ยงจากอุบัติเหตุในจุดบอดของตัวรถ
- Driver Alert & Intelligent Speed Assist ระบบแจ้งเตือนผู้ขับขี่เมื่อมีอาการเหนื่อยล้าและช่วยควบคุมความเร็วให้เหมาะสมกับสภาพการจราจร
และยังมีระบบเทคโนโลยีอื่นๆ อีกมากมายที่ช่วยความปลอดภัย ประหยัดน้ำมัน และวิ่งงานได้ยาวนานสูงสุด
ข้อเสนอพิเศษสำหรับลูกค้าในช่วงเปิดตัว
นายมาร์ติน ซอมเมอร์ รองประธานฝ่ายขาย วอลโว่ ทรัคส์ ประเทศไทย กล่าวว่า “ในช่วงการเปิดตัว วอลโว่ ทรัคส์ มาตรฐาน Euro5 นี้ เราขอมอบข้อเสนอสุดพิเศษสำหรับลูกค้าที่สั่งซื้อ Volvo FM13 380 แรงม้า มาตรฐาน Euro5 จำนวน 30 คันแรก รับทันทีส่วนลดราคาพิเศษ พร้อมน้ำยา AdBlue ฟรี 200 ลิตร และเรามุ่งมั่นที่จะเป็นพันธมิตรทางธุรกิจที่ดีที่สุดสำหรับลูกค้า เราไม่เพียงแต่นำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ล้ำหน้าเท่านั้น แต่ยังมีการสนับสนุนด้านการบริการหลังการขายอย่างมืออาชีพจากทีมงานของเรา เพื่อให้มั่นใจว่าธุรกิจของลูกค้าจะสามารถดำเนินงานได้อย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพสูงสุดจากเครือข่ายศูนย์บริการมาตรฐานของวอลโว่ ทรัคส์ ที่มีอยู่ 23 แห่งทั่วประเทศ และจะขยายเป็น 26 แห่งภายในปีนี้” นายมาร์ตินกล่าวเสริม
วอลโว่ ทรัคส์ ยังคงมุ่งมั่นที่จะขับเคลื่อนอุตสาหกรรมขนส่งไทยไปสู่อนาคตที่ยั่งยืน ลดปัญหาฝุ่น PM2.5 ด้วยเทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ความปลอดภัยที่เหนือระดับ และการบริการที่เป็นเลิศ เพื่อให้ธุรกิจขนส่งสามารถเติบโตได้อย่างมั่นคงและแข็งแกร่งในระยะยาว
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine -
News Car3 Min Read
ฮอนด้า จัดเต็ม! ไลน์อัปผลิตภัณฑ์หลากหลาย ที่จะพาทุกชีวิตขับเคลื่อนไปข้างหน้า
พร้อมเสิร์ฟหนัก! ด้วยแคมเปญและข้อเสนอพิเศษสุดปัง ในงาน Motor Show 2025ฮอนด้า โดยบริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท ไทยฮอนด้า จำกัด ผนึกกำลังต่อเนื่อง จัดเต็มไลน์อัปผลิตภัณฑ์ ทั้งรถยนต์ รถจักรยานยนต์ และเครื่องยนต์อเนกประสงค์
(Power Products) ในงาน Motor Show 2025 ตอกย้ำความเป็นแบรนด์ที่อยู่เคียงข้างสังคมไทย ที่พร้อมสร้างความสุขและขับเคลื่อนการใช้ชีวิตอย่างอิสระในหลากหลายรูปแบบผ่านผลิตภัณฑ์และบริการภายในบูทมีการแบ่งโซนการจัดแสดงออกเป็น 3 โซนหลัก เพื่อความสะดวกในการเข้าชม แบ่งเป็น
- Product Zone ในส่วนของผลิตภัณฑ์รถยนต์ นำโดย “Honda City Hatchback DRIVAL” รุ่นพิเศษ ที่ได้รับ
การอัปเกรดดีไซน์ เพิ่มเติมความสปอร์ตสุดเท่ ดุดัน เร้าใจ พร้อมสะกดทุกสายตา ในส่วนของผลิตภัณฑ์รถจักรยานยนต์ นำโดย “New Honda Forza750” บิ๊กสกู๊ตเตอร์เรือธงที่มาพร้อมสุดยอดเทคโนโลยี และสมรรถนะที่เหนือคลาส และ “New Honda CB1000 Hornet SP” ซูเปอร์ Naked ไบค์ที่ได้รับการปรับโฉมใหม่ พร้อมเทคโนโลยีการขับขี่ที่ครบครัน ตามด้วยโมเดลพิเศษ “New Honda Monkey Chrome Legacy” รุ่น Limited Edition ที่ได้รับการออกแบบพิเศษเนื่องในโอกาสครบรอบ 60 ปีไทยฮอนด้า รวมถึง “New Honda Scoopy x Kuromi”
ที่เปิดตัวเป็นครั้งแรก พร้อมให้แฟน ๆ ได้จับจอง 2,000 คันเท่านั้น - Innovative Zone จัดแสดงผลิตภัณฑ์ขับเคลื่อนพลังงานไฟฟ้า 100% โดยไฮไลต์ของโซนนี้ นำโดย
“Honda e:N1″ รถ SUV พลังงานไฟฟ้า 100% รุ่นแรกของฮอนด้า พร้อมเปิดให้จองและจำหน่ายอย่างเป็นทางการให้ลูกค้าทั่วไปได้เป็นเจ้าของ และสัมผัสประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือระดับไปกับรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า
“New Honda CUVe:” ที่จะมาสร้างนิยามใหม่ของความทันสมัยทั้งด้านดีไซน์และประสิทธิภาพ - Lifestyle Zone โซนโชว์เคสผลิตภัณฑ์ฮอนด้า ที่สะท้อนไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของคนรุ่นใหม่ในหลายมิติ ทั้งรถ SUV รถจักรยานยนต์ที่ตอบโจทย์สายลุยอย่างสไตล์แอดเวนเจอร์และสไตล์เทรล
ลูกค้าที่สนใจสามารถเข้าชมและสัมผัสประสบการณ์ได้ที่บูทฮอนด้า (A26) งาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์
ครั้งที่ 46 (The 46th Bangkok International Motor Show) อาคารชาเลนเจอร์ฮอลล์ 1 อิมแพ็ค เมืองทองธานี ตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม 2568 – 6 เมษายน 2568 พร้อมด้วยหลากหลายข้อเสนอพิเศษในการเป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์ฮอนด้า ทั้งภายในงานฯ และโชว์รูมฮอนด้าทั่วประเทศนายฮิเดโอะ คาวาซากะ ประธานกรรมการบริหารและซีอีโอ บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “การผนึกกำลังอย่างต่อเนื่องของกลุ่มบริษัทฮอนด้าประเทศไทยในปีนี้ เป็นการตอกย้ำถึงความแข็งแกร่งในฐานะแบรนด์ที่ส่งมอบความสุขและอิสระในการขับเคลื่อนผ่านผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย ขอขอบคุณลูกค้าทุกท่าน ที่ให้ความไว้วางใจและการสนับสนุนฮอนด้าเป็นอย่างดีมาโดยตลอด จนทำให้เราบรรลุความสำเร็จในการผลิตรถยนต์นั่งครบ 4 ล้านคันในประเทศไทย ความสำเร็จในครั้งนี้สะท้อนถึงบทบาทสำคัญของประเทศไทยในการเป็นฐานการผลิตและส่งออกหลักของฮอนด้า อีกทั้งยังแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของเราที่จะเติบโตเคียงข้างสังคมไทยอย่างยั่งยืน เพื่อต่อยอดความสำเร็จในครั้งนี้ไปสู่การสร้างสรรค์สิ่งที่ดียิ่งขึ้นให้กับลูกค้า ในปีนี้เราจะยกระดับการนำเสนอคุณค่าของแบรนด์พร้อมเดินหน้าในการส่งมอบประสบการณ์ที่น่าประทับใจให้กับลูกค้าในทุกทัชพอยต์ ภายใต้แนวคิด “Where The Drive Means More ฮอนด้า ขับเคลื่อนชีวิต…ไปให้สุดในแบบที่เป็นคุณ” เพื่อถ่ายทอดให้เห็นว่า รถยนต์ของเราเป็นมากกว่ายานพาหนะ เปรียบเสมือนเพื่อนคู่ใจที่วางใจได้ ที่พร้อมจะอยู่เคียงข้างและขับเคลื่อนแรงบันดาลใจ เพื่อมอบความสุขในทุกการเดินทางและทุกช่วงเวลาของชีวิต ขอให้ทุกท่านติดตามทิศทางการเปลี่ยนแปลงของฮอนด้าที่จะเกิดขึ้นในอนาคตไปด้วยกัน”
โดยไฮไลต์ของบูทฮอนด้าในปีนี้ ประกอบด้วย
- Honda City Hatchback DRIVAL ซิตี้คาร์ 5 ประตูสไตล์สปอร์ตแฮทช์แบ็กสุดเท่ รุ่นพิเศษ เปิดให้จองและจำหน่ายในราคา 829,000 บาท มาพร้อมสีภายนอก สีขาวแพลทินัม (มุก) พร้อมหลังคาสีดำ (ทูโทน) และมีให้เลือกในรุ่นย่อย e:HEV RS จำนวนจำกัดเพียง 1,000 คันเท่านั้น! มาพร้อม 2 ข้อเสนอพิเศษ
(เลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง) เมื่อจองตั้งแต่วันที่ 24 มีนาคม 2568 – 7 เมษายน 2568 และรับรถตั้งแต่
24 มีนาคม 2568 – 30 มิถุนายน 2568- ทางเลือกที่ 1:ดับเบิ้ล สไมล์ พลัส ผ่อนเบา ดาวน์สบาย เลือกผ่อนได้ตามสไตล์ที่คุณชอบ ค่างวดเริ่มต้น 8,108 บาท (คำนวณจากรถยนต์ซิตี้ แฮทช์แบ็ก ไดรฟ์วัล ใหม่ เงื่อนไขดาวน์ 20% ผ่อน 7 ปี) หรือเลือกดาวน์ต่ำเพียง 10% พร้อมฟรีประกันภัย 1 ปี และรับประกันแบตเตอรี่ไฮบริด 10 ปี
ไม่จำกัดระยะทาง* - ทางเลือกที่ 2: ดอกเบี้ยพิเศษเริ่มต้น 2%* สำหรับเจ้าของรถยนต์และรถจักรยานยนต์ฮอนด้าและครอบครัว (Honda Loyalty) และดอกเบี้ย 2.35%* สำหรับลูกค้าทั่วไป พร้อมฟรีประกันภัย 1 ปี และรับประกันแบตเตอรี่ไฮบริด 10 ปี ไม่จำกัดระยะทาง*
- ทางเลือกที่ 1:ดับเบิ้ล สไมล์ พลัส ผ่อนเบา ดาวน์สบาย เลือกผ่อนได้ตามสไตล์ที่คุณชอบ ค่างวดเริ่มต้น 8,108 บาท (คำนวณจากรถยนต์ซิตี้ แฮทช์แบ็ก ไดรฟ์วัล ใหม่ เงื่อนไขดาวน์ 20% ผ่อน 7 ปี) หรือเลือกดาวน์ต่ำเพียง 10% พร้อมฟรีประกันภัย 1 ปี และรับประกันแบตเตอรี่ไฮบริด 10 ปี
และข้อเสนอพิเศษรถเก่าแลกซื้อรถใหม่ (Honda Happy Trade-in) เมื่อนำรถยนต์ฮอนด้ามาขายและออกรถฮอนด้า ซิตี้ แฮทช์แบ็ก ไดรฟ์วัล ใหม่ ที่โชว์รูมฮอนด้า รับเพิ่มบัตรเติมน้ำมันมูลค่า 20,000 บาท หรือเมื่อนำรถยนต์คันเดิมยี่ห้อใดก็ได้มาขายและออกรถ ฮอนด้า ซิตี้ แฮทช์แบ็ก ไดรฟ์วัล ใหม่ ที่โชว์รูมฮอนด้า รับเพิ่มบัตรเติมน้ำมันมูลค่า 10,000 บาท เมื่อจองตั้งแต่วันที่ 24 มีนาคม 2568 – 7 เมษายน 2568 และรับรถตั้งแต่วันที่ 24 มีนาคม 2568 – 30 เมษายน 2568
Honda City Hatchback DRIVAL มาพร้อมกับการอัปเกรดดีไซน์เพิ่มเติมความสปอร์ตสุดเท่ ดุดัน เร้าใจ สะกดทุกสายตา ด้วยชุดแต่งภายนอกรอบคันใหม่ สุดพิเศษ ใครเห็นก็ต้องบอกว่าทำถึง! ไม่ว่าจะเป็น
- สเกิร์ตหน้าทูโทน และสเกิร์ตหลังทูโทน (Front & Rear Under Spoiler)
- คิ้วตกแต่งกันชนหน้าด้านล่าง (Front Center Garnish)
- ชุดตกแต่งไฟตัดหมอก (Front Fog Garnish)
- คิ้วตกแต่งกันชนหลังด้านล่าง (Extend Rear Bumper Garnish)
- หลังคาสีดำ (Roof Black Paint)
- โลโก้รุ่นย่อยพิเศษ DRIVAL เห็นเด่นชัดด้านท้าย
- โลโก้ H-Mark สีดำทั้งด้านหน้าและด้านหลัง (H-mark Front-Rear)
- โลโก้รุ่นรถสีดำ (City Emblem)
- ล้ออัลลอยสีดำ (Black Alloy Wheel)
- สปอยเลอร์หลังสีดำ (Black Tailgate Spoiler)
- สเกิร์ตข้าง (Side Under Spoiler R/L)
- มือจับประตูสีดำ (Black Door Handle)
- ชุดตกแต่งสปอยเลอร์หลัง (Tailgate Spoiler Garnish)
Honda City Hatchback e:HEV พร้อมทะยานไปกับขุมพลังขับเคลื่อนฟูลไฮบริด e:HEV ด้วยกำลังของมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ผสานกับเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร Atkinson Cycle DOHC i-VTEC 4 สูบ 16 วาล์ว และเกียร์อัตโนมัติ E-CVT ที่จะทำให้คุณสัมผัสได้ถึงความเร้าใจตั้งแต่ออกตัว ด้วยแรงบิดมอเตอร์ถึง 253 นิวตัน-เมตร
ให้อัตราประหยัดน้ำมันสูงสุดที่ 27.8 กม./ลิตร เพิ่มความมั่นใจไปกับ Honda SENSING ที่มาพร้อมฟังก์ชันระบบควบคุมความเร็วแบบแปรผัน (Adaptive Cruise Control: ACC) พร้อมระบบปรับความเร็วตามรถยนต์คันหน้าที่ความเร็วต่ำ (with Low-Speed Follow: with LSF) และฟีเจอร์เพื่อความสะดวกสบายและความปลอดภัยครบครัน เช่น ระบบแสดงภาพมุมอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (Honda LaneWatch) ระบบล็อกรถอัตโนมัติเมื่อกุญแจรีโมทอยู่ห่างจากตัวรถ (Walk Away Auto Lock) กล้องส่องภาพด้านหลังปรับมุมมอง 3 ระดับ (Multi-Angle Rearview Camera) เป็นต้น ภายในกว้างขวาง มาพร้อมวัสดุเบาะหนังแท้และหนังสังเคราะห์ตกแต่งด้วยแถบสีแดง พร้อมเบาะนั่งอัลตราซีท (ULTR) แยกพับ 60:40 ที่สามารถปรับพับเพื่อเพิ่มสเปซการใช้งานอเนกประสงค์ได้ดั่งใจ- Honda e:N1 ยนตรกรรมไฟฟ้า 100% รุ่นแรกของฮอนด้า ที่จะมาเสริมความแข็งแกร่งให้กับไลน์อัป
ยนตรกรรม xEV ของฮอนด้าอย่างเต็มรูปแบบ พร้อมเปิดให้จองและจำหน่ายอย่างเป็นทางการให้กับลูกค้าทั่วไปได้เป็นเจ้าของ ในราคา 1,199,000 บาท สำหรับสีดำคริสตัล (มุก) และสำหรับสีขาวแพลทินัม (มุก)
ในราคา 1,203,000 บาท สัมผัสประสบการณ์ใหม่อย่างเชื่อมั่น ด้วยการรับประกันแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าและระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าทั้งระบบ 8 ปี หรือ 160,000 กม.* (อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน) พร้อมรับข้อเสนอ
เมื่อจองตั้งแต่วันที่ 24 มีนาคม 2568 – 7 เมษายน 2568 และรับรถตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2568 –
31 กรกฎาคม 2568 รับดอกเบี้ยพิเศษ 69%* (ส่วนลดดอกเบี้ย 0.3%) สำหรับเจ้าของรถยนต์และรถจักรยานยนต์ฮอนด้าและครอบครัว (Honda Loyalty) สำหรับลูกค้าทั่วไปรับดอกเบี้ย 1.99%* พร้อมรับ- ฟรี ประกันภัย 1 ปี*
- ฟรี โฮมชาร์จเจอร์ พร้อมบริการติดตั้ง และสายชาร์จแบบพกพา*
- ฟรี รับประกันคุณภาพรถยนต์ใหม่ และบริการช่วยเหลือฉุกเฉินนอกสถานที่ 24 ชั่วโมง
เป็นระยะเวลา 5 ปี หรือ 140,000 กม.* (อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน) - และรับเพิ่มแพ็กเกจเช็กระยะ ค่าแรง และค่าอะไหล่ ตามตารางการบำรุงรักษาที่ระบุไว้ในสมุดรับประกัน 5 ปี หรือ 100,000 กม.* (อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)
อุ่นใจไร้กังวลตลอดการใช้งานด้วยเครือข่ายศูนย์บริการครอบคลุมทั่วประเทศ Honda e:N1 มาพร้อมดีไซน์ภายนอกที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ บ่งบอกความเป็นยนตรกรรมไฟฟ้าด้วยโลโก้ H Mark ใหม่ สไตล์พรีเมียม
มินิมอล ภายในกว้างขวางนั่งสบาย พร้อมไฟสร้างบรรยากาศสีฟ้า เบาะนั่งผู้โดยสารด้านหลังสามารถพับได้แบบ 60:40 เพื่อเพิ่มพื้นที่สัมภาระด้านท้าย เชื่อมต่อทุกไลฟ์สไตล์ด้วยฟังก์ชันล้ำสมัย ที่ออกแบบมาให้ใช้งานง่าย ตอบโจทย์ทุกความต้องการ อาทิ- ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 1 นิ้วแบบ Advanced Touch ที่รองรับ Apple CarPlay
แบบไร้สาย และ Android Auto - อุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย
- ช่องเชื่อมต่อ USB 4 ตำแหน่ง
- มาตรวัดพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ TFT ขนาด 25 นิ้ว
ขับสนุก เร่งแรง แต่ยังคงความนุ่มนวลในทุกจังหวะ ด้วยขุมพลังขับเคลื่อนไฟฟ้า 100% จากการทำงานของมอเตอร์ไฟฟ้าแบบ 3-in-1 (Motor, Power Drive Unit และ Gearbox) ให้กำลังสูงสุด 150 กิโลวัตต์ หรือ
204 แรงม้า (PS) มอบแรงบิดสูงสุด 310 นิวตัน-เมตร ทำงานร่วมกับแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน ความจุ 68.8 กิโลวัตต์-ชั่วโมง (kWh) ระยะทางต่อการชาร์จ 1 ครั้ง สูงสุด 500 กม. (มาตรฐาน NEDC) มาพร้อมเทคโนโลยี
ความปลอดภัยอัจฉริยะ Honda SENSING และเทคโนโลยีความปลอดภัยอื่น ๆ อย่างครบครัน ให้คุณมั่นใจตลอดการเดินทาง เช่น- ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตาที่กระจกมองข้าง (Blind Spot Information – BSI)
- ระบบเตือนเมื่อมีรถผ่านขณะถอย (Cross Traffic Monitor – CTM)
- กล้องส่องภาพด้านหลังปรับมุมมอง 3 ระดับ (Multi-angle Rearview Camera)
- เซนเซอร์กะระยะ 8 จุด (8-position Parking Sensors)
- ระบบช่วยชะลอความเร็วรถที่พวงมาลัย (Deceleration Paddle Selectors) เป็นต้น
นอกจากนี้ ในบริเวณโซนจัดแสดง Product Zone ฮอนด้ายังมาพร้อมรถยนต์หลากหลายรุ่นครบทุกเซกเมนต์และครอบคลุมทุกไลน์อัปให้ทุกคนได้สัมผัส เริ่มต้นที่
<ไลน์อัประบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด e:HEV> เทคโนโลยีที่เหมาะสมกับการใช้งานจริงในปัจจุบัน มอบความแรงเกินคาด ประหยัดเกินใคร ให้คุณใช้ชีวิตได้อิสระ และพาคุณไปได้ไกลกว่าด้วยน้ำมัน 1 ถัง และมั่นใจในทุกเส้นทางด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ Honda SENSING ในทุกรุ่น นำโดย
- The new Honda HR-V e:HEV สปอร์ตพรีเมียมเอสยูวียอดนิยม ที่ได้รับการตอบรับที่ดีอย่างต่อเนื่อง
อัปลุคดีไซน์สปอร์ตใหม่รอบคัน ขับสนุกและประหยัดด้วยระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด e:HEV ที่ผสานพลังขับเคลื่อนหลักจากมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัวกับเครื่องยนต์ขนาด 5 ลิตร ให้แรงบิดสูงสุด 253
นิวตัน-เมตร และประหยัดน้ำมันถึง 25.6 กม./ลิตร พาคุณไปได้ไกลกว่า 900 กม. ด้วยน้ำมันเพียง 1 ถัง** ครบครันด้วยฟังก์ชันเพื่อการขับขี่และอำนวยความสะดวก*** ที่รองรับกับไลฟ์สไตล์
ที่หลากหลายของผู้ใช้งาน อาทิ ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว แบบ Advanced Touch รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย ราคาเริ่มต้น 949,000 บาท
- Honda Accord e:HEV โดดเด่นด้วยดีไซน์สปอร์ตพรีเมียม มอบสมรรถนะที่ดีในทุกการขับขี่ด้วยระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด e:HEV ที่ผสานพลังขับเคลื่อนหลักจากมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูง 2 ตัวในระบบเกียร์อัตโนมัติ E-CVT ให้แรงบิดมอเตอร์สูงสุด 335 นิวตัน-เมตร ประหยัดน้ำมันถึง 25 กม./ลิตร สามารถขับไปได้ไกลกว่า 900 กม.ด้วยน้ำมัน 1 ถัง** มาพร้อมหลากหลายเทคโนโลยีอำนวยความสะดวก
อันล้ำสมัยและเทคโนโลยีการขับขี่อื่น ๆ*** อาทิ Google built-in ปุ่ม Experience Selection Dial
ไฟสร้างบรรยากาศภายในห้องโดยสารแบบปรับเฉดสีได้ ระบบกล้องมองภาพรอบทิศทาง ระบบเครื่องเสียงพร้อมลำโพง BOSE 12 ตำแหน่ง และระบบแสดงข้อมูลบนกระจกหน้า (Head-up Display: HUD) ด้วยราคาเริ่มต้น 1,529,000 บาท
- Honda CR-V e:HEV ยนตรกรรมพรีเมียมเอสยูวี 5 ที่นั่ง มาพร้อมดีไซน์ที่แข็งแกร่งในทุกมิติ พร้อมระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด e:HEV ผสานการทำงานอันทรงพลังของมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว กับเครื่องยนต์ขนาด 0 ลิตร Direct Injection Atkinson Cycle DOHC i-VTEC 4 สูบ 16 วาล์ว พร้อมด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่องไฟฟ้า (E-CVT) และแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออนประสิทธิภาพสูง ให้การตอบสนองได้แรงทันใจด้วยแรงบิดสูงสุด 335 นิวตัน-เมตร ประหยัดน้ำมันดีเยี่ยมสูงสุดถึง 20.8 กม./ลิตร (รุ่น e:HEV ES) สามารถขับไปได้ไกลกว่า 900 กม. ด้วยน้ำมัน 1 ถัง** ครบครันด้วยเทคโนโลยีอำนวยความสะดวกสบายและความปลอดภัยระดับพรีเมียม*** พร้อมเติมเต็ม
ทุกความอเนกประสงค์และตอบโจทย์การใช้ชีวิตทั้งไลฟ์สไตล์ในเมืองและนอกเมือง
อย่างลงตัวในราคาเริ่มต้นที่ 1,589,000 บาท (รุ่น e:HEV ES)
- City Series ไลน์อัป e:HEV นำโดย Honda City e:HEV ซิตี้คาร์ซีดานยอดนิยมสำหรับคนรุ่นใหม่ และ Honda City Hatchback e:HEV อีกหนึ่งทางเลือกของรถซิตี้คาร์สไตล์สปอร์ต 5 ประตู ที่มาพร้อมพื้นที่อเนกประสงค์กับเบาะนั่งอัลตราซีท (ULTR) อันเป็นเอกลักษณ์จากฮอนด้าทั้งสองรุ่น มาพร้อมกับ
ระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด e:HEV ที่ผสานพลังขับเคลื่อนหลักจากมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว กับเครื่องยนต์
ขนาด 5 ลิตร 4 สูบ 16 วาล์ว พร้อมด้วยเกียร์อัตโนมัติ E-CVT และแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน ตอบสนองดั่งใจด้วยแรงบิดมอเตอร์สูงสุด 253 นิวตัน-เมตร มอบสมรรถนะการขับขี่ที่ทรงพลังให้ทั้งอัตราเร่งแรง
เร้าใจ ประหยัดน้ำมันสูงสุด 27.8 กม./ลิตร พร้อมพาคุณเดินทางสู่ทุกจุดหมายและไปได้ไกลกว่า
800 กม. ด้วยน้ำมันเพียง 1 ถัง** ในราคาเริ่มต้นเพียง 599,000 บาท
<ไลน์อัปขุมพลังเทอร์โบ> มอบประสบการณ์ขับสนุก อัตราเร่งเร้าใจ สไตล์สปอร์ต แต่ยังคงความประหยัดน้ำมันได้เป็นอย่างดี มั่นใจในทุกการเดินทางด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ Honda SENSING ในทุกรุ่น นำโดย
- The New Honda Civic ไอคอนยนตรกรรมสปอร์ตพรีเมียมซีดาน โดดเด่นด้วยกระจังหน้าและ
กันชนหน้าดีไซน์ใหม่ และไฟท้ายแบบ LED รมดำ ภายในห้องโดยสารกว้างสบาย ให้ความรู้สึกเท่ สปอร์ต ตอบโจทย์การใช้งานได้อย่างคล่องตัว เชื่อมต่อทุกไลฟ์สไตล์ด้วยฟังก์ชันและฟีเจอร์เพื่อการขับขี่และอำนวยความสะดวกที่ครบครัน*** มาพร้อมขุมพลัง VTEC TURBO 1.5 ลิตร มอบความแรงเร้าใจด้วยกำลังสูงสุด 178 แรงม้า ให้อัตราการประหยัดน้ำมัน 2 กม./ลิตร โดยรุ่น EL+ ราคา 1,039,000 บาท
- City Series ไลน์อัป TURBO นำโดย Honda City ซิตี้คาร์ยอดนิยม โดดเด่นด้วยดีไซน์ภายนอก
ที่สปอร์ตโฉบเฉี่ยว และภายในห้องโดยสารกว้างขวางสะดวกสบาย และ Honda City Hatchback
มาพร้อมเบาะนั่งอัลตราซีท (ULTR Seat) อันเป็นเอกลักษณ์ของฮอนด้า ทั้ง 2 รุ่น มาพร้อมขุมพลัง VTEC TURBO 1.0 ลิตร ที่มอบกำลังสูงสุด 122 แรงม้า ขับสนุกพร้อมตอบสนองทุกการเดินทาง
ครบครันด้วยหลากหลายฟังก์ชันการใช้งาน*** สำหรับ City Turbo ประหยัดน้ำมันสูงถึง 8 กม./ลิตร และ City Hatchback Turbo ประหยัดน้ำมันสูงถึง 23.3 กม./ลิตร ด้วยราคาเริ่มต้น 599,000 บาท
สำหรับแฟนฮอนด้าสายสปอร์ต ห้ามพลาด! พบกับรถยนต์ฮอนด้ารุ่นยอดนิยม ที่ได้รับการเสริมความสปอร์ตโดดเด่นยิ่งขึ้น ด้วยอุปกรณ์ตกแต่งสุดพรีเมียมจากโมดูโล (Modulo) ที่คัดสรรมาเพื่อตอบโจทย์ทั้งสายแต่งรถ และสายอเนกประสงค์
โดยมีให้เลือกทั้งรูปแบบไอเท็มและแพ็กเกจรอบคัน นำโดย- CR-V (รุ่น e:HEV RS) กับชุดแต่ง Modulo ในคอนเซ็ปต์ Vibrant SUV ที่จะมาเสริมความพรีเมียมที่ลงตัวให้กับ Honda CR-V e:HEV มากกว่าที่เคยเป็น ด้วย
- ชุดแต่งรอบคันแบบพรีเมียมสปอร์ต แพ็กเกจ (RS) ซึ่งประกอบด้วยกันชนหน้าแบบสปอร์ต
ชุดตกแต่งกันชนด้านหลัง คิ้วตกแต่งกระจังหน้าแบบโครเมียม บันไดข้าง และชุดตกแต่งฝาท้ายคิ้วโครเมียม ในราคา 45,000 บาท
นอกจากนี้ยังมีอุปกรณ์ตกแต่งภายใน อย่างไฟส่องสว่างประตูคู่หน้าแบบ LED โลโก้ CR-V ราคา 4,350 บาท
และใหม่ล่าสุด! เสริมลุคสปอร์ต พร้อมเพิ่มความโดดเด่นด้วยชุดโลโก้สีดำ ในราคา 1,500 บาท- The New Honda HR-V e:HEV (รุ่น e:HEV EL) กับชุดแต่ง Modulo ในคอนเซ็ปต์ More premium,
More sporty ที่จะมายกระดับความพรีเมียมด้วย - แพ็กเกจ Modulo Urban Shark Grey พร้อมเติมเต็มลุค Everyday Sport อย่างสมบูรณ์แบบ ด้วยชุดแต่งรอบคันประกอบด้วย สเกิร์ตหน้า สเกิร์ตหลัง และสเกิร์ตข้างสี Shark Grey ในราคา 21,000 บาท
- แพ็กเกจ Utility พร้อมเสริมความอเนกประสงค์ในการใช้งานประกอบด้วย ม่านบังแดดผู้โดยสาร
ตอนหลัง และแผ่นกั้นห้องสัมภาระท้ายรถ ในราคา 4,800 บาท
อีกทั้งยังเพิ่มความสะดวกสบายในการใช้งานด้วยชุดไฟส่องสว่างบริเวณฝาท้ายรถในราคา 2,500 บาท
และพิเศษสุด! เอาใจสาวกฮอนด้า ด้วยชุดแต่งรอบคันจาก มูเกน (MUGEN) ที่ได้รับการติดตั้งมาใน
The New Honda HR-V e:HEV (รุ่น e:HEV EL) จัดเต็มมอเตอร์สปอร์ต DNA พร้อมฉีกทุกกฎเกณฑ์เเห่ง
อัตลักษณ์อันไร้ขีดจำกัด และสร้างความโดดเด่นแบบ Aggressive Sport ด้วยชุดแต่งรอบคัน อาทิ- สปอยเลอร์หน้า ราคา 22,400 บาท
- สเกิร์ตข้าง ราคา 32,000 บาท
- สปอยเลอร์หลัง ราคา 22,600 บาท
- สปอยเลอร์วิงหลัง ราคา 34,000 บาท
- สปอยเลอร์วิงหลัง (ตรงกลาง) ราคา 34,000 บาท
- เพิ่มความโดดเด่น ดุดันด้วยล้ออะลูมิเนียม MDW 18x5J สีดำ ในราคารวมสี่ล้อที่ 54,360 บาท
โดยจัดจำหน่ายผ่านโชว์รูมและศูนย์บริการฮอนด้าทั่วประเทศ พร้อมรับประกันอุปกรณ์ตกแต่งนาน 3 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร กรณีติดตั้งอุปกรณ์ตกแต่งพร้อมรถยนต์ใหม่
สามารถดูรายละเอียดอุปกรณ์ตกแต่ง MUGEN เพิ่มเติมได้ที่ https://www.mugenpower-thailand.com/hrv/index.html
สามารถดูรายละเอียดอุปกรณ์ตกแต่ง Modulo สำหรับ The new HR-V e:HEV เพิ่มเติมได้ที่https://hondaaccess.co.th/products/hrv
และดูรายละเอียดอุปกรณ์ตกแต่ง Modulo สำหรับ CR-V เพิ่มเติมได้ที่ https://hondaaccess.co.th/products/crv
พร้อมเป็นเจ้าของรถยนต์ฮอนด้าได้ง่าย ๆ ด้วยแคมเปญพิเศษ “ฮอนด้า โปรฮอต รุ่นฮิต” สำหรับแต่ละรุ่น!* ไม่ว่าจะเป็น ดอกเบี้ยพิเศษเริ่มต้น 0% พร้อมรับฟรี ฮอนด้า เอ็กซ์คลูซีฟ แคร์ (Honda Exclusive Care)* และฟรีประกันภัย 1 ปี หรือเลือก ดับเบิ้ล สไมล์ พลัส**** ดาวน์ต่ำ ผ่อนสบาย และเสริมความมั่นใจไปกับระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด e:HEV
ด้วยการรับประกันอายุการใช้งานแบตเตอรี่ไฮบริดถึง 10 ปี และพิเศษยิ่งขึ้นไปกับแคมเปญ “Honda Happy Trade-in”
เมื่อนำรถยนต์ฮอนด้าหรือรถยนต์ยี่ห้ออื่นคันเก่ามาขายและออกรถยนต์ฮอนด้าคันใหม่ รับเพิ่มฟรีบัตรเติมน้ำมันมูลค่าสูงสุด 40,000 บาท* สำหรับลูกค้าที่จองตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2568 – 7 เมษายน 2568 และรับรถตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2568 – 30 เมษายน 2568ลูกค้าที่สนใจ ห้ามพลาด! พบกันที่บูทฮอนด้า (A26) ในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2025 อาคารชาเลนเจอร์ฮอลล์ 1 อิมแพ็ค เมืองทองธานี ตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม – 6 เมษายน 2568 พร้อมรับข้อเสนอสุดพิเศษเดียวกันทั้งในงานและโชว์รูมฮอนด้าทั่วประเทศกว่า 224 แห่ง โดยสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้จากที่ปรึกษาการขายโชว์รูมทั้งในงานฯ และโชว์รูมฮอนด้าทั่วประเทศ หรือแชตกับที่ปรึกษาการขายทางออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ www.honda.co.th หรือติดต่อศูนย์บริการข้อมูลฮอนด้า 24 ชั่วโมง โทร 0 2341 7777
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine - Product Zone ในส่วนของผลิตภัณฑ์รถยนต์ นำโดย “Honda City Hatchback DRIVAL” รุ่นพิเศษ ที่ได้รับ
-
News Car3 Min Read
สัมผัสประสบการณ์ยนตรกรรมเหนือระดับ Lexus Electrified หลากหลายรุ่น พร้อมบริการสุด Exclusive แบบ “Omotenashi” ที่งาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 46
นายศุภกร รัตนวราหะ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ เลกซัส กรุ๊ป บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด แถลงข่าวเปิดบูธเลกซัส ภายใต้แนวคิด “Electrify your Pathway” ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านยนตรกรรมพลังงานไฟฟ้าของ Lexus ที่มุ่งมั่นพัฒนาเทคโนโลยียานยนต์ล้ำสมัย พร้อมยกระดับมาตรฐานคุณภาพเพื่อสร้างความมั่นใจสูงสุดให้กับลูกค้า ผ่านแนวคิด Multi Pathway ให้ลูกค้าได้สัมผัสประสบการณ์การขับขี่ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่หลากหลาย ด้วยตัวเลือกขุมพลังที่ครอบคลุมทุกความต้องการ ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ไฟฟ้า 100% (BEV) รถยนต์ระบบไฮบริด (HEV) และระบบปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) ที่ผสานสมรรถนะและความประหยัดน้ำมันอย่างลงตัว
ภายในงาน ลูกค้าจะได้สัมผัสกับยนตรกรรมระดับหรูจาก Lexus Electrified หลากหลายรุ่น พร้อมข้อเสนอพิเศษที่ดีที่สุดแห่งปี นอกจากนี้ยังมีบริการเหนือระดับแบบ “Omotenashi” ที่ให้ความใส่ใจในทุกรายละเอียด มอบประสบการณ์สุดพรีเมียมตามแบบฉบับเลกซัส ในงาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 46 ระหว่างวันที่ 26 มีนาคม – 6 เมษายน 2568 ณ อาคารชาเลนเจอร์ฮอลล์ อิมแพ็ค เมืองทองธานี
นายศุภกร รัตนวราหะ กล่าวในการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนว่า “ในครั้งนี้ บูธเลกซัสนำเสนอภายใต้แนวคิด “Electrify your Pathway” ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านยนตรกรรมพลังงานไฟฟ้าของ Lexus ที่มุ่งมั่นพัฒนาเทคโนโลยียานยนต์ล้ำสมัย พร้อมยกระดับมาตรฐานคุณภาพเพื่อสร้างความมั่นใจสูงสุดให้กับลูกค้า ผ่านแนวคิด Multi Pathway ให้ลูกค้าได้สัมผัสประสบการณ์การขับขี่ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่หลากหลาย ด้วยตัวเลือกขุมพลังที่ครอบคลุมทุกความต้องการ ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ไฟฟ้า 100% (BEV) รถยนต์ระบบไฮบริด (HEV) และระบบปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) ที่ผสานสมรรถนะและความประหยัดน้ำมันอย่างลงตัว”
- Lexus LM รถตู้อเนกประสงค์สุดหรู ออกแบบมาเพื่อผู้นำระดับไอคอนิก มอบทั้งความสะดวกสบายและความหรูหราเหนือระดับ มีให้เลือกทั้งรูปแบบ 4 6 และ 7 ที่นั่ง ที่ได้รับการตอบรับอย่างล้นหลามด้วยยอดขายกว่า 1,500 คันตั้งแต่เปิดตัว และยังได้รับรางวัล BEST HYBRID LUXURY MPV ผ่านการประกวดรางวัลรถยอดเยี่ยมแห่งปี CAR OF THE YEAR 2025
- Lexus RX ยนตรกรรมครอสโอเวอร์ระดับพรีเมียม มีพื้นที่ในห้องโดยสารกว้างขึ้น ตกแต่งหรูหราด้วยวัสดุชั้นดี พร้อมไปด้วยด้วยเทคโนโลยี สิ่งอำนวยความสะดวก และระบบความปลอดภัยที่เหนือระดับ
- Lexus LBX Bespoke ซึ่งเป็นรุ่นแรกของ Lexus ที่ให้ทุกท่านสามารถปรับแต่งและออกแบบรถตามสไตล์ของตัวเอง ซึ่งทุกท่านสามารถลอง Customize ได้ที่ Bespoke Corner หรือที่ lexus.co.th
- และรถรุ่นอื่นๆ จากเลกซัส ที่พร้อมตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ ไม่ว่าจะเป็น NX / UX / ES และ IS ลูกค้าทุกท่านได้มั่นใจกับรถยนต์เลกซัสในทุกมิติ ทั้งในด้านคุณภาพ ความทนทาน และความน่าเชื่อถือ เนื่องจากรถทุกรุ่นได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง และถูกผลิตด้วยมาตรฐานระดับสูง พิถีพิถันในทุกรายละเอียดควบคู่ไปกับความปราณีตจาก Lexus Craftsmanship ทั้งยังใช้เทคโนโลยีระดับไฮเอนด์ และนวัตกรรมของเลกซัสที่ล้ำสมัยให้ทุกการเดินทาง คือประสบการณ์อันสุดพิเศษ ทุกท่านสามารถสัมผัสและทดลองขับยนตรกรรมที่โดดเด่นเหล่านี้ได้ภายในงาน
นอกจากนี้ภายในงานเราได้เตรียมมอบประสบการณ์สุดพิเศษระดับพรีเมียมให้กับลูกค้าทุกท่านได้สัมผัสกับประสบการณ์การดูแลเหนือระดับ ตั้งแต่ก้าวแรกจนถึงบูธ ด้วยบริการสุดพิเศษ ไม่ว่าจะเป็น
- LEXUS Exclusive Parking – สะดวกสบายยิ่งขึ้นกับบริการช่องจอดรถที่ลานจอดรถโรงแรมโนโวเทล กรุงเทพ อิมแพ็ค (Novotel Bangkok Impact) เอกสิทธิ์พิเศษเฉพาะลูกค้ารถยนต์เลกซัสเท่านั้น
- VIP Access Badge – สำหรับท่านสมาชิก Lexus Elite Club Application สามารถกดรับบัตรเข้างาน ได้ที่ Application เพื่อสิทธิพิเศษในการเข้าชมงานอย่างรวดเร็ว พร้อมเอกสิทธิ์เฉพาะตัว
- LEXUS’TERIA Lounge – ผ่อนคลายในเลานจ์สุดหรูที่ตกแต่งอย่างมีระดับโดย CHANINTR ผู้แทนและจัดจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์หรูชั้นนำระดับโลก พร้อมขนมจาก Truly Scrumptious ที่คัดสรรมาเพื่อคุณ
- Private Driving Experience with a Master Driver – สัมผัสประสบการณ์การขับขี่แบบเอ็กซ์คลูซีฟ กับผู้เชี่ยวชาญด้านการขับขี่ระดับมืออาชีพ ที่จะยกระดับประสบการณ์การทดลองขับรถยนต์เลกซัสไปกับคุณ
- Lexus Bespoke Your Scent Workshop กิจกรรมเวิร์กชอปสุดพิเศษในช่วงสุดสัปดาห์ ที่เปิดโอกาสให้ลูกค้าได้สร้างสรรค์น้ำหอมกลิ่นเฉพาะตัวของตนเอง ณ บูธเลกซัส
นายศุภกร รัตนวราหะ กล่าวเพิ่มเติมว่า “และสำหรับท่านใดที่สนใจอยากเป็นเจ้าของรถเลกซัส ผมคิดว่าช่วงนี้คือช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการเป็นเจ้าของ โดยเฉพาะในรุ่น Plug-in Hybrid เนื่องจากจะมีการปรับราคาตามอัตราโครงสร้างภาษีใหม่ที่กำลังจะมีผลในต้นปีหน้า ยิ่งไปกว่านั้นพิเศษสุดภายในงาน ทุกท่านสามารถเป็นเจ้าของ Lexus ได้ง่ายยิ่งขึ้นกับแคมเปญพิเศษที่ดีที่สุด ด้วยดอกเบี้ย 0% ประกันภัยชั้นหนึ่ง และ LXP ที่ขยายการรับประกันเป็น 5 ปี พิเศษสุด สำหรับ 100 ท่านแรกที่จองรถภายในงานรับทันที Jo Malone Scent to Go มูลค่า 2,400 บาท และรับเพิ่ม Lifestyle Voucher Play Eat Meet Experience มูลค่า 5,000 บาท สำหรับการจองรถรุ่นที่ร่วมรายการ* (*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด)
นอกจากนี้เลกซัสยังมีบริการ “KINTO” ให้บริการลูกค้าที่ต้องการความสะดวกสบายในการใช้รถยนต์ โดยครอบคลุมทุกค่าใช้จ่าย เพื่อให้คุณมีประสบการณ์ที่ไร้กังวล ให้ท่านตัดสินใจเป็นเจ้าของรถได้ง่ายกว่าที่เคย พร้อมส่งมอบประสบการณ์ Peace of Mind สร้างความมั่นใจด้วยบริการหลังขายที่ครอบคลุมทั่วประเทศ ด้วย Lexus Service Corner และ Home Visit Mobility Service”
พบกับยนตรกรรมระดับหรูของเลกซัสหลากหลายรุ่นภายในงาน
Lexus LM… “Own A World Apart”
Lexus LM ยนตรกรรมระดับหรูยอดนิยมในกลุ่ม Luxury Van ที่มาพร้อมกับความคล่องแคล่ว หรูหราและสง่างาม พร้อมที่จะมอบสุดยอดประสบการณ์ “Omotenashi” ราวกับว่าอยู่ภายในห้องสวีทของโรงแรมสุดหรู หรือห้องทำงานเคลื่อนที่ ให้สภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการผ่อนคลายทั้งร่างกายและจิตใจ และพื้นที่สำหรับแรงบันดาลใจเชิงบวก ทั้งด้านความคิดและการกระทำ ให้ความหรูหราเป็นเรื่องเฉพาะบุคคล สะท้อนวิสัยทัศน์ “Making Luxury Personal” ของเลกซัส
Lexus LM มาพร้อมกับสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ที่สามารถปรับให้เข้ากับความต้องการที่หลากหลาย อาทิ จอส่วนตัว Personalized Screen แยกการนำเสนอเนื้อหาแต่ละบุคคล พร้อมระบบเครื่องเสียงแบบ 2-Zone Audio System แยกระบบเสียงด้านหน้าคนขับและด้านหลัง สามารถรับฟังคอนเทนท์ที่แตกต่างกันได้โดยไม่รบกวนซึ่งกันและกัน หลังคา Moon roof หน้าจอแสดงผลระบบปรับอากาศแบบแยกโซนสามารถควบคุมได้เพียงปลายนิ้วสัมผัสด้วย Overhead Control และแท็บเล็ตสั่งการด้านหลัง Removable Touchscreen Rear Controller
ราคา (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)
- Lexus LM 350h Executive 7-Seater ราคา 6,290,000 บาท
- Lexus LM 350h Executive 4-Seater ราคา 7,590,000 บาท
- Lexus LM 500h Executive 6-Seater ราคา 6,990,000 บาท
- Lexus LM 500h Executive 4-Seater ราคา 8,290,000 บาท
Lexus LBX Bespoke…“Customize Your Style”
ครั้งแรกของ Lexus กับการ Customize ได้เต็มรูปแบบใน Lexus LBX Bespoke ที่ให้คุณออกแบบได้เต็มรูปแบบทั้ง สีภายนอกและภายใน / วัสดุตกแต่ง / สีเข็มขัดนิรภัย / ลายปักภายใน / สีหนังหุ้มพวงมาลัยและหัวเกียร์ และ ล้ออัลลอย เพื่อให้รถสะท้อนสไตล์ของคุณอย่างแท้จริง โดยทุกท่านสามารถออกแบบ Lexus LBX Bespoke และจองออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ Lexus.co.th หรือแวะมาที่บูธ Lexus เพื่อออกแบบด้วยตัวคุณเองที่ Bespoke Corner โดยมี Lexus Brand Ambassador คอยให้ข้อมูลและช่วยแนะนำการปรับแต่ง LBX Bespoke ให้ตรงกับสไตล์ของคุณ
Lexus LBX Bespoke ได้รับการพัฒนาขึ้นให้เป็นรถยนต์ขนาดเล็กที่มาพร้อมคุณภาพเหนือระดับ ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Premium Casual” เรียบหรูและโดดเด่น ด้วยดีไซน์รอบด้านที่มีความประณีต สะท้อนความเป็นตัวตนของ LBX ได้อย่างชัดเจน โดยเฉพาะดีไซน์ด้านหน้าแบบ Resolute Look ภายในห้องโดยสารออกแบบด้วยแนวคิด “Tazuna Concept” ให้ผู้โดยสารสามารถผ่อนคลาย เพลิดเพลิน รู้สึกเป็นหนึ่งเดียวร่วมไปกับรถ และได้รับความสะดวกสบายสูงสุดตามหลักสรีรศาสตร์ ทั้งยังสามารถเพลิดเพลินตลอดการเดินทางไปกับเครื่องเสียง Mark Levinson ระบบ Lexus Teammate Advanced Park Panoramic View Monitor และเทคโนโลยีความปลอดภัยเหนือระดับกับ Lexus Safety System+ 3.0
Lexus LBX Bespoke ยังคงเอกลักษณ์ความสุนทรีย์ในการขับขี่แบบเฉพาะตัวของเลกซัส หรือ “Lexus Driving Signature” ไว้ได้อย่างครบถ้วน ซึ่งเป็นผลมาจากเทคโนโลยี สถาปัตยกรรมโครงสร้างตัวถังใหม่ GA-B (Global Architecture-B Platform) ที่มีน้ำหนักเบาแต่แข็งแกร่งเป็นพิเศษ ช่วยเพิ่มสมรรถนะความปลอดภัยระดับสูง รองรับแรงเฉื่อยและลดจุดศูนย์ถ่วง ให้รถมีความเสถียรยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ระบบ HEV ที่ทำงานร่วมกับเครื่องยนต์ 3 สูบ ขนาด 1.5 ลิตร ให้กำลังรวมทั้งระบบ 134 แรงม้า มีอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 9.2 วินาที อัตราสิ้นเปลืองน้ำมัน 26.32 กม./ลิตร
ราคา (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)
- เกรด Luxury 2,229,000 บาท
- เกรด Premium 2,390,000 บาท
- เกรด Bespoke 2,690,000 บาท*
* สำหรับเบาะที่นั่งวัสดุ L-Aniline เพิ่ม 100,000 บาท
Lexus RX “Charge Through the Limits of Imagination”
Lexus RX ยนตรกรรมครอสโอเวอร์ระดับพรีเมียม ตอบสนองการใช้งานทุกรูปแบบด้วยทางเลือกระบบส่งกำลังที่หลากหลายนำเสนอเอกลักษณ์ใหม่ของเลกซัส ด้วยสมรรถนะและการออกแบบที่ประณีตและพิถีพิถัน พื้นที่ในห้องโดยสารกว้างขึ้น ตกแต่งหรูหราด้วยวัสดุชั้นดี Semi-Aniline Leather เพิ่มมุมมองใหม่ในห้องโดยสาร ด้วยหลังคากระจกพาโนรามา Panorama Glass Roof ภายในออกแบบภายใต้ปรัชญา “Human Centric” ที่มุ่งเน้นคนขับเป็นจุดศูนย์กลางตามหลักการดีไซน์แบบ “Tazuna Concept” สร้างบรรยากาศที่โอบล้อมผู้ขับขี่ให้สามารถควบคุมทุกอย่างโดยแทบไม่ต้องละสายตา และรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งส่วนเดียวกับตัวรถ ด้วยสถาปัตยกรรมโครงสร้างตัวถังแบบ GA-K (Global Architecture-K Platform) ที่มีจุดศูนย์ถ่วงต่ำพร้อมกับระบบช่วงล่างด้านหลังแบบ Multi-Link และ Adaptive Variable Suspension ส่งผลให้ RX ทรงตัวและเกาะถนนดีเยี่ยม พวงมาลัยและคันเร่งตอบสนองได้ดั่งใจ ตอกย้ำเอกลักษณ์การขับขี่ “Lexus Driving Signature” ได้เป็นอย่างดี และยังพร้อมไปด้วยด้วยเทคโนโลยี สิ่งอำนวยความสะดวก และระบบความปลอดภัยที่เหนือระดับ
ราคา (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)
Lexus RX 350h
- เกรด Luxury 4,520,000 บาท
- เกรด Premium 4,870,000 บาท
Lexus RX 450h+
- เกรด Luxury AWD 4,720,000 บาท
- เกรด Premium AWD 5,170,000 บาท
Lexus RX 500h
- เกรด F SPORT Direct4 5,580,000 บาท
Lexus NX… “Reimagine”
Lexus NX ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากลูกค้าทั่วโลก ด้วยดีไซน์ภายนอกที่ดูสปอร์ต โฉบเฉี่ยวและทันสมัยด้วยกระจังหน้า Spindle Grille ไฟท้ายรูปทรงตัว L สอดรับกับโลโก้ของเลกซัส ภายในออกแบบมาให้ผู้ขับขี่เป็นศูนย์กลาง โดยมีการนำเทคโนโลยีต่างๆมาใช้ ไม่ว่าจะเป็น หน้าจอขนาดใหญ่ 9.8 นิ้ว ตอบสนองได้อย่างแม่นยำ ควบคุมการทำงานของระบบต่างๆ ได้อย่างสะดวกและง่ายดายเพียงปลายนิ้วสัมผัส ด้วยสถาปัตยกรรมโครงสร้างตัวถังแบบ GA-K (Global Architecture-K Platform) ทำให้ตัวรถมีขนาดที่ใหญ่ และกว้างขึ้น ส่งผลให้มีจุดศูนย์ถ่วงต่ำ ทรงตัวเยี่ยม และควบคุมได้ดั่งใจ ทำให้ NX มีเสถียรภาพในการขับขี่ดีขึ้นในทุกมิติ ตอกย้ำปรัชญา “Lexus Driving Signature” ได้เป็นอย่างดี มั่นใจตลอดการเดินทางมาพร้อมกับ Lexus Hybrid Drive ที่ได้พละกำลังจากเครื่องยนต์ 4 สููบแถวเรียงความจุุ 2.5 ลิตร ทำงานคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้าและแบตเตอรี่ลิเทียมไอออนประสิทธิภาพสููง ทำให้สมรรถนะการขับขี่ที่เต็มพลัง สนุุกเร้าใจ แต่ยังคงประหยัดน้ำมันได้ดีเยี่ยม
ด้านเทคโนโลยีความปลอดภัย Lexus NX มาพร้อมกับ Lexus Safety System+ ที่จะช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้ขับขี่ ยิ่งไปกว่านั้นยังมีระบบกลอนประตูอิเล็กทรอนิกส์ E-LATCH โดยระบบจะช่วยให้ประตูรถทำงานได้อย่างนุ่มนวลมากยิ่งขึ้น ระบบการเปิด-ปิดประตูแบบ Safe Exit Assist เพิ่มความปลอดภัยขณะลงจากรถ ช่วยให้คุณไม่ต้องออกแรงดึงหรือผลักเพื่อเปิดประตู ทำให้ Lexus NX เป็น SUV ที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ได้เป็นอย่างดี
ราคา (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)
NX 350h
- เกรด Luxury 3,310,000 บาท
- เกรด Grand Luxury 3,460,000 บาท
NX 450h+
- เกรด Grand Luxury AWD 3,660,000 บาท
- เกรด Premium AWD 3,940,000 บาท
- เกรด Overtrail AWD 4,180,000 บาท
- เกรด F SPORT AWD 4,390,000 บาท
Lexus UX 300h… “The Urban Disruptor”
Lexus UX 300h มาพร้อมกับสถาปัตยกรรมโครงสร้างตัวถังแบบ GA-C (Global Architecture-C Platform) ที่เชื่อมต่อตัวถังด้วยระบบเลเซอร์อันเป็นเอกลักษณ์ของเลกซัส และใช้อลูมิเนียมเข้ามาเป็นองค์ประกอบของตัวรถ ส่งผลให้ตัวถังมีน้ำหนักเบา และแข็งแกร่ง จุดศูนย์ถ่วงต่ำ การทรงตัวดีเยี่ยม ควบคุมรถได้ดั่งใจ ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ 4 สูบแถวเรียง ขนาด 2.0 ลิตร ให้พละกำลังสูงสุดมากยิ่งขึ้น ถึง 196 แรงม้า ผสานกับแบตเตอรี่ลิเธียม ไอออน ให้อัตราเร่งได้ดั่งใจ 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ภายใน 8.1 วินาที
การออกแบบภายนอกปราดเปรียวแข็งแกร่ง ด้วยเส้นสายที่เฉียบคม ทอดตัวจากกระจังหน้าแบบ Spindle Grille อันเป็นเอกลักษณ์ของเลกซัส และบังโคลนขึ้นรูปสามมิติ สื่อถึงสมรรถนะการขับขี่ที่ทรงพลัง ภายในห้องโดยสารกว้างขวาง การออกแบบภายในแฝงด้วยปรัชญา “YET” ของเลกซัส สร้างความแตกต่างด้วยเส้นสายที่บ่งบอกความเป็นยนตรกรรมแห่งอนาคต ผสมผสานความสร้างสรรค์และหลักการทางสรีรศาสตร์ ให้ความสำคัญกับผู้ขับขี่ และผู้โดยสารเป็นหลัก ให้ประสบการณ์การขับขี่ที่เพลิดพลิน สะดวกสบาย ครบครันด้วยฟังก์ชันการใช้งานล้ำสมัย
นอกจากนี้ UX 300h ยังประหยัดเชื้อเพลิงดีเยี่ยม โดยมีอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเฉลี่ย 23.81 กม./ลิตร พร้อมให้ความรู้สึกที่ยอดเยี่ยม ในการขับขี่ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
ราคา (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)
- เกรด Luxury 2,670,000 บาท
- เกรด Grand Luxury 2,780,000 บาท
- เกรด F SPORT 3,300,000 บาท
Lexus ES… “Refine Your Journey”
Lexus ES (Executive Sedan) ยนตรกรรมซีดานหรูขนาดกลาง โดดเด่นเรื่องความนุ่มนวลในการขับขี่ และความเงียบภายในห้องโดยสาร ที่เป็นเอกลักษณ์ตามแบบฉบับของเลกซัส ประณีตพิถีพิถันในทุกรายละเอียด ควบคู่กับความกว้างขวางของที่นั่งด้านหลังแตกต่างจากรถยนต์หรูทั่วไป มาพร้อมกับไฟหน้าดีไซน์ที่ตอบรับกับกระจังหน้า Spindle Grille เส้นสายที่ดูสปอร์ต เสริมความเฉียบคมให้เข้ากับความหรูหราอย่างลงตัว ไฟหน้าแบบ 3-eye LED Headlamps มาพร้อมกับเทคโนโลยี Blade Scan Adaptive High-beam System ที่จะทำหน้าที่ปรับไฟสูง-ต่ำอัจฉริยะ ช่วยกระจายแสงไฟด้านหน้ารถได้อย่างแม่นยำ และละเอียดมากยิ่งขึ้น หน้าจอขนาดใหญ่ 12.3 นิ้ว ควบคุมการทำงานของระบบต่างๆ ได้อย่างสะดวก และง่ายดายเพียงปลายนิ้วสัมผัส ตอกย้ำสมรรถนะอันทรงพลังด้วยสถาปัตยกรรมโครงสร้างตัวถังใหม่ GA-K (Global Architecture-K Platform) ที่มีจุดศูนย์ถ่วงต่ำ ทรงตัวเยี่ยม และควบคุมได้ดั่งใจ ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ระบบไฮบริดเจเนอเรชั่นล่าสุด มั่นใจตลอดการเดินทางด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยเหนือระดับ ด้วยระบบ Lexus Safety System+ เจเนอเรชันที่ 2 และระบบช่วยเบรกอัตโนมัติขณะถอยจอด Parking Support Brake : PKSB เพิ่มความปลอดภัยขณะถอยจอด โดยระบบจะทำการเบรกอัตโนมัติทันทีหากระบบประเมินว่าอาจเกิดการชน
ราคา (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)
- เกรด Luxury 3,625,000 บาท
- เกรด Grand Luxury 3,795,000 บาท
- เกรด Premium 4,210,000 บาท
- เกรด F SPORT 4,380,000 บาท
Lexus IS 300h… “Elegantly Crafted”
Lexus IS 300h รถสปอร์ตซีดานหรูเหนือระดับยอดนิยมจากลูกค้าทั่วโลก โดดเด่นด้วยดีไซน์ที่โฉบเฉี่ยว สปอร์ต และสมรรถนะที่ทรงพลัง เกาะถนนดีเยี่ยม ตอบสนองการควบคุมได้ดั่งใจ อัตราเร่งออกตัวที่ดี ซึ่งเป็นความมุ่งมั่นที่จะก้าวข้ามขีดจำกัดของสมรรถนะการขับขี่ในรูปแบบเดิม ภายใต้การพัฒนาด้วยการใช้ถนนออกแบบรถ และทดสอบในสนามแข่ง Shimoyama ประเทศญี่ปุ่น ที่สร้างขึ้นด้วยแรงบันดาลใจจากสนามแข่งสุดโหดระดับโลก Nurburgring ประเทศเยอรมนี เต็มเปี่ยมด้วยพละกำลัง พร้อมโครงสร้างตัวถังรถยนต์ที่ออกแบบมาอย่างยอดเยี่ยม โดยคำนึงถึงหลักอากาศพลศาสตร์ มอบประสบการณ์การขับขี่ที่สนุก เร้าใจ ให้กับผู้ขับขี่ได้ ดีไซน์ภายนอกออกแบบด้วยเส้นสายที่เฉียบคม โฉบเฉี่ยว ดุดัน กว้างขวาง และยาวขึ้น พร้อมล้อขนาดใหญ่ขึ้น ช่วยการเกาะถนนดีเยี่ยม บ่งบอกถึงความเป็นสปอร์ตซีดานได้เป็นอย่างดี
ราคา (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)
- เกรด Luxury 2,690,000 บาท
- เกรด Premium 3,370,000 บาท
- เกรด F SPORT 3,890,000 บาท
สัมผัสประสบการณ์บริการใช้รถรูปแบบใหม่กับบริการ LEXUS KINTO ONE
บริการใช้รถรูปแบบใหม่แบบครบวงจร ที่ตอบรับไลฟ์สไตล์ลูกค้าคนรุ่นใหม่ สำหรับลูกค้าบุคคล และนิติบุคคล ซึ่งมีแพ็คเกจหลากหลายตอบโจทย์ ทำให้การใช้รถเป็นเรื่องง่าย สะดวกสบาย คุ้มค่า ไร้กังวล มอบความสะดวกสบายด้วยค่าบริการครอบคลุมค่าใช้จ่าย ทั้งในการบำรุงรักษา ประกันภัยชั้น 1 มีบริการช่วยเหลือตลอด 24 ชั่วโมง บริการรวดเร็วทันสมัยผ่านออนไลน์ หมดกังวลเรื่องราคาขายต่อเพียงคืนรถเมื่อครบสัญญา
พิเศษภายในงาน
- รับ ส่วนลดเงินประกันความเสียหาย เหลือเพียง 10,000 บาท สำหรับรถใหม่ของ KINTO ONE
- สำหรับลูกค้าที่สมัคร และผ่านการอนุมัติ จะได้รับ บัตรน้ำมันมูลค่า3,000 บาท
(รับหลังจากส่งมอบรถภายใน 14 วันผ่านทางไปรษณีย์) - พิเศษ สำหรับลูกค้าที่สมัครภายในงาน รับStarbucks Card มูลค่า 500 บาท
เงื่อนไข : โดยลูกค้าจำเป็นต้องกรอก Code “KTMTS25” บนเว็บไซต์ KINTO
สนใจสอบถามได้ที่ เจ้าหน้าที่ภายในบูธเลกซัส บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 46 หรือ www.kinto-th.com และ Kinto Call Center 1486
เพิ่มความมั่นใจสูงสุดกับ “Lexus Exclusive Package Standard”
โปรแกรมขยายระยะเวลารับประกันคุณภาพรถยนต์ Lexus
เพิ่มความมั่นใจสูงสุดกับโปรแกรมขยายระยะเวลารับประกันคุณภาพรถยนต์ Lexus เป็น 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง พร้อมบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง บริการเลขาส่วนตัว ฟรีค่าแรงและอะไหล่ในการบำรุงรักษาตลอด 5 ปี โดยได้ออกแบบประเภทโปรแกรมที่หลากหลายเพื่อให้เหมาะสมกับการใช้งานของคุณ และช่วยคุณประหยัดค่าใช้จ่ายระยะยาว
STANDARD ครอบคลุมค่าแรงตลอด 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร
PLUS ครอบคลุมการบำรุงรักษารถยนต์ทั้งค่าแรง และค่าอะไหล่ตลอด 5 ปี หรือ
100,000 กิโลเมตร (ยกเว้นอะไหล่เสื่อมสภาพ)
PREMIUM ครอบคลุมการบำรุงรักษารถยนต์ทั้งค่าแรง และค่าอะไหล่ตลอด 5 ปี หรือ
100,000 กิโลเมตร รวมอะไหล่เสื่อมสภาพ
เอกสิทธ์เฉพาะเพื่อตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ชีวิตที่เหนือกว่า สำหรับลูกค้าที่ซื้อรถยนต์เลกซัสทุกรุ่นจากผู้แทนจำหน่ายเลกซัสอย่างเป็นทางการ
- รับสิทธิ์เป็นสมาชิกแอปพลิเคชัน Lexus Elite Club เพื่ออำนวยความสะดวกตลอดการใช้รถเลกซัส เช่น การแจ้งเตือน และนัดหมายนำรถเข้าศูนย์บริการ ทั้งร่วมรับสิทธิพิเศษจากร้านค้าชั้นนำมากมาย
- สะดวก ครอบคลุมทุกพื้นที่ กับ Lexus Service Corner ในศูนย์บริการโตโยต้าที่ได้รับการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการด้วยมาตรฐานเลกซัส ทั้ง 15 แห่ง ใน 8 จังหวัด สำหรับพื้นที่นอกเหนือจากการบริการของ Lexus Service Corner เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้า เรามีบริการ Lexus Home Visit Mobility Unit ที่จะส่งช่างที่มีความรู้ และความชำนาญไปดูแลลูกค้าถึงที่ครอบคลุมครบทุกจังหวัด ทั่วประเทศไทย สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ผู้แทนจำหน่ายเลกซัสอย่างเป็นทางการ
พลาดไม่ได้กับข้อเสนอสุดพิเศษ* (เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด)
รับดอกเบี้ย 0% ฟรีประกันภัยชั้น 1 และ Lexus Exclusive Package (LXP Standard) ขยายระยะเวลารับประกันเป็น 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง
ในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 46
ระหว่างวันที่ 26 มีนาคม – 6 เมษายน 2568
ณ อาคารชาเลนเจอร์ฮอลล์ อิมแพ็ค เมืองทองธานี
และผู้แทนจำหน่ายเลกซัสอย่างเป็นทางการ
สามารถติดตามข้อมูลข่าวสารของเลกซัสเพิ่มเติมได้ที่ www.lexus.co.th
และ Facebook, Instagram : Lexus Thailand
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine
-
News Car2 Min Read
“ทุกคันมั่นใจ ไปสุดทุกดีล” กับโตโยต้า ในงาน “The 46th Bangkok International Motor Show 2025” กับแนวคิด “ขับเคลื่อนโลกของคุณ ขับเคลื่อนทุกโอกาสให้เป็นจริง”
มร.โนริอากิ ยามาชิตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ และคณะผู้บริหารระดับสูง บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ร่วมเปิดบูธโตโยต้าในงาน “The 46th Bangkok International Motor Show 2025” ภายใต้แนวคิด “MOVE YOUR WORLD, MOVE ALL OPPORTUNITIES ขับเคลื่อนโลกของคุณ ขับเคลื่อนทุกโอกาสให้เป็นจริง” จัดแสดงรถยนต์โตโยต้าหลากหลายรุ่น ครบทุกไลน์อัพ ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ โดยรถทุกรุ่นมาพร้อมข้อเสนอสุดพิเศษ และมีให้ทดลองขับภายในงาน เลือกมั่นใจ กับดีลที่ใช่ เป็นเจ้าของรถได้ง่ายๆ กับแคมเปญ “ทุกคันมั่นใจ ไปสุดทุกดีล” ในระหว่างวันที่ 26 มีนาคม ถึง 6 เมษายน 2568 ณ อาคารชาเลนเจอร์ฮอลล์ อิมแพ็ค เมืองทองธานี
มร.โนริอากิ ยามาชิตะ กล่าวเปิดบูธว่า “ปีนี้ เราจัดแสดงภายใต้คอนเซ็ปต์ “MOVE YOUR WORLD, MOVE ALL OPPORTUNITIES ขับเคลื่อนโลกของคุณ ขับเคลื่อนทุกโอกาสให้เป็นจริง” โดยคอนเซ็ปต์ Move Your World เกิดขึ้นเพื่อสร้างแรงบันดาลใจในการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น และสร้างการเชื่อมโยงที่ยั่งยืน เหนือการขับเคลื่อนทั่วไป วิสัยทัศน์นี้คือ คำมั่นสัญญาของโตโยต้า ที่จะสร้างอนาคตที่ทุกคนสามารถก้าวไปข้างหน้าได้พร้อมๆกัน โตโยต้ามุ่งมั่นที่จะมอบโซลูชั่นแห่งการขับเคลื่อนที่ดียิ่งขึ้น และมอบความไว้วางใจ เพื่อนำไปสู่อนาคตที่ดีกว่าให้กับคนไทย ทุกคน
ปีที่แล้ว ยอดขายรวมตลาดรถยนต์ประเทศไทยอยู่ที่ 573,000 คัน ลดลง 26% เมื่อเทียบกับ พ.ศ. 2566 อย่างไรก็ตามโตโยต้า ประสบความสำเร็จ ด้วยส่วนแบ่งการตลาดที่ 38.5% ซึ่งถือเป็นระดับสูงสุดในรอบ 13 ปีที่ผ่านมา ซึ่งเราขอขอบคุณลูกค้าชาวไทยที่มอบความไว้วางใจในโตโยต้า เรารู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับความไว้วางใจ และการสนับสนุนจากลูกค้าที่เลือกเรา ด้วยผลิตภัณฑ์ที่น่าเชื่อถือ เครือข่ายศูนย์บริการที่ครอบคลุม รวมถึงความยั่งยืนในทุกมิติ
ปัจจุบัน อุตสาหกรรมยานยนต์ไทยกำลังเผชิญการเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กระแสความนิยมในรถยนต์พลังงานไฟฟ้า ปีที่ผ่านมา ยอดขายกลุ่มยานยนต์ไฟฟ้า (xEV) ของประเทศไทย อยู่ที่กว่า 200,000 คัน เติบโตขึ้น 10% เมื่อเทียบกับ พ.ศ. 2566 และคิดเป็น 35% ของยอดขายรถยนต์รวม การเติบโตดังกล่าว มาจากยอดขายรถยนต์ HEV ที่เติบโตขึ้น 29% ในขณะที่ยอดขายรถ BEV ลดลง 8% ชี้ให้เห็นถึงการยอมรับจากลูกค้าชาวไทยที่เลือกรถยนต์ไฮบริด โดยคำนึงถึงความสะดวกในการใช้งานจริง ที่สำคัญ โตโยต้า มียอดขายสูงสุดในตลาดรถยนต์ไฟฟ้า xEV และกลุ่มตลาดรถยนต์ไฮบริด ชี้ให้เห็นถึงความเชื่อมั่นในรถยนต์ไฮบริดโตโยต้า หรือ “Trusted HEV” ที่เป็นจุดแข็งของเรา”
ตอกย้ำความเป็นแบรนด์ผู้นำยนตรกรรมไฮบริดกับ
“TOYOTA NO.1 TRUSTED HEV”
ขอมอบแคมเปญพิเศษ ในทุกรุ่นไฮบริด
มร.โนริอากิ ยามาชิตะ แนะนำโซนรถยนต์ไฮบริด “ขอแนะนำ โซนรถยนต์ไฮบริด ที่จัดแสดงรถยนต์ HEV หลายรุ่น เพื่อตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลายของลูกค้า เริ่มจากรถซีดานกับ ALL-NEW CAMRY รถรุ่นที่ขายดีที่สุดในเซกเมนต์ Medium Size Sedan และ COROLLA ALTIS
สำหรับ SUV ท่านจะได้พบกับ YARIS CROSS รถ HEV ที่ขายดีที่สุดของเซกเมนต์นี้ และ COROLLA CROSS ในกลุ่มรถ MPV เราจัดแสดง INNOVA รวมทั้ง ALPHARD / VELLFIRE รถมินิแวนสุดหรู ที่พร้อมส่งมอบสู่มือลูกค้า”
รถยนต์ไฮบริดALL-NEW CAMRY ราคาเริ่มต้น 1,455,000 บาทรับข้อเสนอ: ดอกเบี้ยพิเศษเริ่มต้น 1.59% หรือ ฟรีประกันภัยชั้น 1 Toyota Care PHYD COROLLA ALTIS ราคาเริ่มต้น 894,000 บาทรับข้อเสนอ: ดอกเบี้ยพิเศษเริ่มต้น 1.65% และ ฟรีประกันภัยชั้น 1 Toyota Care PHYD
YARIS CROSS ราคาเริ่มต้น 789,000 บาท รับข้อเสนอ: ดอกเบี้ยพิเศษเริ่มต้น 1.69% หรือผ่อนสบายเริ่มต้นเพียง 7,748 บาท ต่อเดือน COROLLA CROSS ราคาเริ่มต้น 999,000 บาท รับข้อเสนอ: พิเศษสำหรับเจ้าของรถยนต์โตโยต้า ดอกเบี้ยพิเศษเริ่มต้น 0.89% และฟรีประกันภัยชั้น 1 Toyota Care PHYD
INNOVA ZENIX ราคาเริ่มต้น 1,379,000 บาทรับข้อเสนอ: ดอกเบี้ยพิเศษเริ่มต้น 1.79% หรือเลือกรับ ฟรีประกันภัยชั้น 1 Toyota Care PHYD
ALPHARD & VELLFIRE ราคาเริ่มต้น 4,269,000 บาท มีรถพร้อมจำหน่าย และส่งมอบเพื่อแทนคำขอบคุณในทุกความมั่นใจที่ลูกค้ามอบให้ เป็นเจ้าของรถยนต์ไฮบริดทุกรุ่น ALL-NEW CAMRY / COROLLA ALTIS / YARIS CROSS / COROLLA CROSS / INNOVA / ALPHARD / VELLFIRE
รับฟรี แพ็คเกจเช็คระยะ 10,000 – 50,000 กม. (Toyota Smart Plan) พร้อมข้อเสนอพิเศษการรับประกัน
- ขยายระยะเวลาการคุ้มครอง TCFR Plus+
- ขยายระยะรับประกันสูงสุด 5 ปี หรือ 150,000 กม. เมื่อเข้าเช็กระยะตามกำหนด
- ขยายระยะเวลารับรองการใช้งานแบตเตอรี่ไฮบริด 10 ปี พร้อมรับประกันระบบไฮบริด 5 ปี
ไม่จำกัดระยะทาง
“TOYOTA NO.1 TRUSTED HEV ไฮบริดที่ใช่ มั่นใจทุกเจน” โดยรถยนต์โตโยต้าไฮบริดมาพร้อมกับ
- TRUSTED VALUE ให้ลูกค้ามั่นใจไปกับความคุ้มค่า
ด้วยอัตราการใช้น้ำมันสูงสุด 26.3 กม/ลิตร (อ้างอิงจาก Eco Sticker รุ่น YARIS CROSS)
- TRUSTED QUALITY คุณภาพที่ใครก็ไว้วางใจ
- TRUSTED WARRANTY รับประกันแบตเตอรี่ไฮบริดนาน 10 ปี
- TRUSTED SERVICE เซอร์วิสที่พร้อมให้บริการ อะไหล่ที่พร้อมส่งภายใน 48 ชั่วโมง
และช่างผู้ชำนาญการกว่า 8,000 คน
- TRUSTED NETWORK ศูนย์บริการที่ได้มาตรฐานและครบวงจรกว่า 450 แห่งครอบคลุมทั่วประเทศ
รวมไปถึงบริการแลกเปลี่ยนรถใหม่ที่โตโยต้าชัวร์
ตอกย้ำความเป็นรถกระบะมหาชน กับ โซนไฮลักซ์ ซีรีส์
และ KING OF PPV ฟอร์จูนเนอร์
มร.โนริอากิ ยามาชิตะ แนะนำโซนไฮลักซ์ซีรีส์และฟอร์จูนเนอร์ “ไฮลักซ์ เป็นรถกระบะขวัญใจมหาชน ที่ร่วมขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ และเป็นรถในดวงใจของลูกค้าชาวไทย ในวันนี้ เรานำรถที่ได้รางวัลชนะเลิศจากการประกวด REVO Garage Mazter มาจัดแสดง ตลอดจน รุ่นอื่นๆในไลน์อัพของไฮลักซ์ ที่ตอบสนองทุกความต้องการของลูกค้า ตั้งแต่การใช้งานเชิงพาณิชย์ ไปจนถึงการใช้งานส่วนบุคคล นอกจากนั้น ยังมีรถกระบะอเนกประสงค์อย่าง Hilux Champ ที่จะทำให้ทุกโอกาสเป็นไปได้ กับหลากหลายรูปแบบในการต่อเติมตัวรถ โดยในวันนี้ เรามีจัดแสดง รถ AFM Sausage Food Truck / รถ Pet Spa รวมทั้ง รถดัดแปลงเพื่อธุรกิจโลจิสติกส์
นอกจากนี้ ขอเชิญท่านพบกับ ฟอร์จูนเนอร์ King of PPV ที่ครองยอดขายอันดับหนึ่งในไทยเป็นเวลา 13 ปี
ไฮลักซ์และฟอร์จูนเนอร์ มาพร้อมขุมพลัง “GD Super Power” ขนาด 2.4 ลิตร และ 2.8 ลิตร ผสานการทำงานกับหัวฉีดน้ำมันอัจฉริยะ i-ART มอบสมรรถนะและประสิทธิภาพประหยัดเชื้อเพลิง “แรงเหลือๆ ประหยัดเหลือๆ” ตอบสนองทุกความต้องการด้านการใช้งาน”
ไฮลักซ์ รีโว่ และฟอร์จูนเนอร์HILUX REVO GR SPORT 4×4 ราคาเริ่มต้น 1,479,000 บาทรับข้อเสนอ ดอกเบี้ยอัตราพิเศษ หรือฟรีประกันภัยชั้น 1 Toyota Care PHYDHILUX REVO SMART CAB Z EDITION ราคาเริ่มต้น 669,000 บาทรับข้อเสนอ ผ่อนเริ่มต้น 4,999 บาทต่อเดือน หรือดอกเบี้ยเริ่มต้น 0.29% (ดาวน์25% ผ่อน 48 เดือน) พร้อมประกันภัยชั้น 1 Toyota Care PHYD
HILUX REVO DOUBLE CAB PRE-RUNNER ROCCO ราคา 1,136,000 บาทรับข้อเสนอ ดอกเบี้ยเริ่มต้น 0.40% (ดาวน์ 25% ผ่อน 48 เดือน) พร้อมประกันภัยชั้น 1 Toyota Care PHYD
HILUX REVO DOUBLE CAB PRE-RUNNER ราคาเริ่มต้น 881,000 บาทรับข้อเสนอ HILUX REVO DOUBLE CAB ผ่อนเริ่มต้น 8,805 บาทต่อเดือน พร้อมประกันภัยชั้น 1 Toyota Care PHYD
HILUX CHAMP ราคาเริ่มต้น 459,000 บาทรับข้อเสนอ สำหรับผู้ประกอบการขนส่งและประกอบธุรกิจ รับดอกเบี้ยอัตราพิเศษ เมื่อซื้อไฮลักซ์ แชมป์ พร้อมดัดแปลงหรือต่อเติมเพื่อการทำธุรกิจทุกรูปแบบ
FORTUNER LEADER S ราคาเริ่มต้น 1,239,000 บาทรับข้อเสนอ ผ่อนเริ่มต้น 9,305 บาทต่อเดือน หรือ ดอกเบี้ยพิเศษ 0.89% พร้อมประกันภัยชั้น 1 Toyota Care PHYD
FORTUNER LEGENDER (ชุดแต่ง Wide Body) ราคาเริ่มต้น 1,643,000 บาทอุปกรณ์ตกแต่งพิเศษจากพันธมิตร Wide Body Package ราคาแนะนำพิเศษ 20,900 บาท/ชุด (ปกติ 30,900 บาท) เลือกผ่อนพร้อมกับตัวรถ เพิ่มเพียง 192 บาท/เดือนมร.โนริอากิ ยามาชิตะ กล่าวเสริมว่า “เพื่อสร้างความโดดเด่นและความเท่ห์ให้กับรถยนต์ เราได้ร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ชิ้นส่วนตกแต่งรถยนต์ที่เป็นที่รู้จักระดับประเทศหลายแห่ง “AAP (Associated Accessories Product)” อาทิ ชุดตกแต่งรอบคันแบรนด์ GR จาก บริษัท ทีซีดี เอเชีย / อุปกรณ์ตกแต่งแนวแคมป์ปิ้งจากแบรนด์ TJM และล้ออัลลอยจากแบรนด์ LENSO รวมทั้ง จะมีการแนะนำ ล้ออัลลอยราคาประหยัด สำหรับ ไฮลักซ์ รีโว่ ภายใต้แบรนด์ Emotion R
ทั้งนี้ ท่านยังสามารถพบกับ ยาริส เอทีฟ และ ยาริส แฮทช์แบค รถยอดนิยมในกลุ่มอีโคคาร์ รวมทั้ง เวลอซ ภายในงานด้วย”
รถยนต์ยอดนิยมYARIS ATIV ราคาเริ่มต้น 549,000 บาทพร้อมข้อเสนอพิเศษ:ขยายระยะเวลาการคุ้มครอง TCFR Plus+ ขยายระยะรับประกันสูงสุด 5 ปี หรือ 150,000 กม. เมื่อเข้าเช็กระยะตามกำหนดและเลือกรับข้อเสนอพิเศษอีก 2 ต่อต่อที่ 1: ผ่อนสบายเริ่มต้น 4,993 บาทต่อเดือน หรือ ดอกเบี้ยพิเศษเริ่มต้น 0%ต่อที่ 2: ฟรีชุดแต่ง LUSSO หรือ ฟรีประกันภัยชั้น 1 Toyota Care PHYD YARIS ATIV NIGHTSHADE (Special Edition) ราคา 699,000 บาทพร้อมข้อเสนอพิเศษ ขยายระยะเวลาการคุ้มครอง TCFR Plus+ ขยายระยะรับประกันสูงสุด 5 ปี หรือ 150,000 กม. เมื่อเข้าเช็กระยะตามกำหนดและเลือกรับข้อเสนอพิเศษอีก 2 ต่อต่อที่ 1: ผ่อนสบายเริ่มต้น 6,357 บาทต่อเดือน หรือ ดอกเบี้ยพิเศษเริ่มต้น 0%ต่อที่ 2: ฟรีชุดแต่ง LUSSO หรือ ฟรีประกันภัยชั้น 1 Toyota Care PHYD
YARIS ราคาเริ่มต้น 559,000 บาทพร้อมข้อเสนอพิเศษ ขยายระยะเวลาการคุ้มครอง TCFR Plus+ ขยายระยะรับประกันสูงสุด 5 ปี หรือ 150,000 กม. เมื่อเข้าเช็กระยะตามกำหนดและเลือกรับข้อเสนอพิเศษอีก 2 ต่อต่อที่ 1: ผ่อนสบายเริ่มต้น 5,084 บาทต่อเดือน หรือ ดอกเบี้ยพิเศษเริ่มต้น 0%ต่อที่ 2: ฟรีชุดแต่ง LUSSO หรือ ฟรีประกันภัยชั้น 1 Toyota Care PHYD
VELOZ ราคาเริ่มต้น 795,000 บาทรับข้อเสนอ: ดอกเบี้ยเริ่มต้น 0% พร้อมประกันภัยชั้น 1 Toyota Care และโปรแกรมช่วยผ่อน 4,000 บาท/เดือน (เดือนที่ 1 – 6)ชุดอุปกรณ์ตกแต่ง VELOZ X-URBAN ราคาพิเศษ 19,900 บาท (จากราคาปกติ 39,900 บาท) ของมีจำนวนจำกัดมร.โนริอากิ ยามาชิตะ กล่าวปิดท้ายการแถลงข่าวว่า “โตโยต้า มุ่งมอบประสบการณ์ที่ดียิ่งกว่าให้กับลูกค้า ผ่านธุรกิจที่ครบวงจรของเรา นับตั้งแต่จุดเริ่มต้นของการครอบครองรถ ทั้งบริการ T-Connect และ TCFR+ และขอเชิญชวนท่านรับบริการแลกเปลี่ยนรถคันเก่าจาก “โตโยต้า ชัวร์”
นี่คือช่วงเวลาที่ดีที่สุด ในการซื้อรถยนต์โตโยต้า เพราะเราได้จัดเตรียมข้อเสนอสุดพิเศษมากมาย สำหรับช่วงเวลานี้ ทั้งแพ็กเกจด้านการเงินที่ช่วยให้คุณเป็นเจ้าของรถยนต์โตโยต้าทุกรุ่นได้ง่ายขึ้น รวมทั้ง ดอกเบี้ยอัตราพิเศษ ในรถยอดนิยมหลายรุ่น ทั้ง ยาริส เอทีฟ / ยาริส แฮทช์แบค / ไฮลักซ์ และฟอร์จูนเนอร์
ยิ่งไปกว่านั้น จากการที่บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ได้เปิดตัวมาตรการ “กระบะพี่ มีคลังค้ำ” ภายใต้โครงการค้ำประกันสินเชื่อเช่าซื้อ “บสย. SMEs PICK-UP” โดยเปิดรับคำขอค้ำประกันตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2568 นั้น ทางบริษัท โตโยต้า ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด มีข้อเสนอ และเงื่อนไขพิเศษในการพิจารณาสินเขื่อ ของลูกค้ากลุ่ม SMEs และผู้ประกอบการรายย่อย ให้เป็นเจ้าของรถ Hilux REVO และ Hilux CHAMP ได้ง่ายที่สุด เริ่มในงาน Motor Show นี้ กับดีลดีที่สุดแห่งปีจากโตโยต้าลีสซิ่ง สำหรับลูกค้า SMEs และผู้ประกอบการรายย่อย ไม่ต้องรอ ออกรถได้เลยวันนี้ ดาวน์เริ่มต้น 0% ไม่ต้องมีผู้ค้ำ พร้อมดอกเบี้ยพิเศษ อนุมัติง่าย เป็นเจ้าของ ไฮลักซ์ได้ง่ายขึ้น
นอกจากนี้ ลูกค้าทุกท่านยังสามารถเพลิดเพลินกับข้อเสนอชุดอุปกรณ์ตกแต่งสุดพิเศษ เมื่อเลือกเป็นเจ้าของรถรุ่นที่กำหนด ตลอดจนส่วนลดพิเศษก่อนเริ่มงาน เพื่อให้ลูกค้าใช้เป็นส่วนลด เมื่อตัดสินใจซื้อรถภายในงาน รวมทั้ง ร่วมลุ้นจับรางวัลชิงโชคพิเศษ
และขอเชิญมาร่วมสัมผัสประสบการณ์การช้อปสุดพิเศษที่บูธ GR Collection กับโปรโมชันสุดคุ้มที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ทั้งนักสะสมและสายสตรีทแฟชั่น พบกับสินค้าระดับพรีเมียมที่สะท้อนจิตวิญญาณของมอเตอร์สปอร์ต พร้อมสิทธิพิเศษเฉพาะในงานนี้เท่านั้น พิเศษ ยิ่งซื้อเยอะ ยิ่งลดเยอะ พบกับส่วนลดพิเศษสำหรับสินค้าทุกชิ้นภายในงาน เพื่อมอบความคุ้มค่าสูงสุดให้กับลูกค้า โดยซื้อ 1 ชิ้น รับส่วนลด 3% / ซื้อ 2 ชิ้น รับส่วนลด 5% / ซื้อ 3 ชิ้น รับส่วนลด 10% / ซื้อ 4 ชิ้นขึ้นไป รับส่วนลดสูงสุด 15% และเมื่อซื้อครบ 3,000 บาท รับฟรี GR T-Shirts
โตโยต้ายังมุ่งนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการ ที่จะนำมาซึ่งความไว้วางใจให้กับลูกค้าคนสำคัญของเรา และเราไม่เคยหยุดเดินหน้า เพื่อขับเคลื่อนโลกของเรา”
“ทุกคันมั่นใจ ไปสุดทุกดีล” กับโตโยต้า
ทดลองขับ และรับข้อเสนอสุดพิเศษ เป็นเจ้าของรถได้ง่ายๆ
ในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 46
26 มีนาคม – 6 เมษายน นี้ที่ ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 1-3 และฟอรั่ม ฮอลล์ 4
อิมแพ็ค เมืองทองธานี และที่โชว์รูมผู้แทนจำหน่ายทั่วประเทศ
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine
-
OMODA & JAECOO ประกาศราคา JAECOO 7 SHS (Super Hybrid System) อย่างเป็นทางการ เอสยูวีระดับพรีเมียมที่ผสานสมรรถนะสูงและประสิทธิภาพการประหยัดพลังงาน คุ้มค่าด้วยราคาคาดการณ์เริ่มต้น 899,000 บาท
OMODA & JAECOO (โอโมด้า แอนด์ เจคู่) ภายใต้บริษัท Chery Automobile ผู้นำเทคโนโลยียานยนต์ชั้นนำระดับโลก ประกาศราคา JAECOO 7 SHS (Super Hybrid System) อย่างเป็นทางการในงาน Bangkok International Motor Show 2025 โดยมี 2 รุ่นย่อยได้แก่ JAECOO 7 SHS Dynamic – ราคาคาดการณ์ 899,000 และ JAECOO 7 SHS Max – ราคาคาดการณ์ 999,000 บาท พร้อมข้อเสนอพิเศษ ระหว่างวันที่ 24 มีนาคม – 6 เมษายน 2568 ณ อิมแพค ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 1-3 เมืองทองธานี บูธ OMODA & JAECOO หมายเลข A23
- ฟรีค่าบำรุงรักษาเป็นระยะเวลา 2 ปี
- “Eco Bonus” Campaign เงินสนับสนุน 10,000 บาท* เมื่อนำเล่มจดทะเบียนรถยนต์เครื่องยนต์สันดาปหรือ HEV มาแสดง
- การรับประกันครอบคลุมระยะเวลา 8 ปี หรือระยะทาง 200,000 กิโลเมตร
- 4. ประกันภัยชั้น 1 นาน 1 ปี
เทคโนโลยีระดับสูงที่เหนือกว่า
JAECOO 7 SHS รถปลั๊กอินไฮบริดเอสยูวีรุ่นใหม่ล่าสุดที่มาพร้อมเทคโนโลยีสุดล้ำและดีไซน์ สุดคลาสสิคได้รับการพัฒนาด้วยเครื่องยนต์ 1.5TDGI เจเนอเรชั่นที่ 5 ต่อยอดจากเทคโนโลยีไฮบริดเจเนอเรชั่นที่ 3 ของ Chery Automobile มาพร้อมระบบซูเปอร์อิเล็กทริกไฮบริด DHT (Super Electric Hybrid DHT System) ที่ทำให้การทำงานระหว่าง EV และ HEV เป็นไปอย่างราบรื่นไร้รอยต่อ และด้วยเทคโนโลยีที่พัฒนาอย่างต่อเนื่องทำให้การขับรถ Plug-in Hybrid คุ้มค่าทั้งค่าใช้จ่ายการเดินทาง ที่สามารถขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าล้วนได้ถึง
106 กิโลเมตร (ตามมาตรฐาน NEDC) และสามารถขับขี่รวมได้ไกลถึง 1,300 กิโลเมตร (ตามมาตรฐาน NEDC) และยืดระยะเวลา
การบำรุงรักษาให้ขับได้ระยะทางที่ไกลมากกว่าเดิมหากเทียบกับรถ Plug-in Hybrid นวัตกรรมเดิมหากเปรียบเทียบ ค่าบำรุงรักษาระยะเวลา 5 ปี
ค่าบำรุงรักษารถยนต์ JAECOO 7 SHS ค่าบำรุงรักษา รถ Plug-in Hybrid นวัตกรรมเดิม ค่าบำรุงรักษา รถ Hybrid ค่าบำรุงรักษา รถสันดาป เฉลี่ย 27,051 บาท ต่อ 5 ปี เฉลี่ย 39,837 บาท ต่อ 5 ปี เฉลี่ย 40,631 บาท ต่อ 5 ปี เฉลี่ย 39,071 บาท ต่อ 5 ปี สมรรถนะและประสิทธิภาพที่โดดเด่น
- พละกำลังสูงสุด 347 แรงม้า (HP)
- แรงบิดสูงสุด 525 นิวตัน-เมตร
- ประสิทธิภาพเชิงความร้อนสูง (Thermal Efficiency) ช่วยให้เครื่องยนต์ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพแม้ในสภาวะ
การใช้งานหนัก - อัตราการประหยัดน้ำมันที่ยอดเยี่ยมมากกว่า 21.28 กิโลเมตรต่อลิตร
- ระยะทางการขับขี่รวมไกลกว่า 1,300 กิโลเมตร
- ระยะทางขับขี่ด้วยไฟฟ้าล้วน 106 กิโลเมตร (ตามมาตรฐาน NEDC)
ความปลอดภัยที่เหนือระดับ
JAECOO 7 SHS มาพร้อมแบตเตอรี่ที่มีความปลอดภัยสูงด้วยระบบป้องกันแบตเตอรี่รอบด้าน ทั้งการทนทานต่อความร้อน แรงกระแทก และกันน้ำ พร้อมระบบป้องกันด้วยการปิดเครื่องภายใน 0.002 วินาทีหลังเกิดการชน ช่วยตัดแหล่งจ่ายไฟได้อย่างรวดเร็ว
เพื่อความปลอดภัยสูงสุด นอกจากนี้ยังสามารถใช้เป็นแหล่งพลังงานเคลื่อนที่ได้ในกรณีฉุกเฉิน ด้วยการปล่อยประจุไฟฟ้าภายนอกได้
3.3 กิโลวัตต์ รองรับการใช้งานที่หลากหลายJAECOO 7 SHS เปิดตัวด้วยข้อเสนอพิเศษเฉพาะในงาน Bangkok International Motor Show โดยมี 2 รุ่นย่อยได้แก่ JAECOO 7 SHS Dynamic – ราคาคาดการณ์ 899,000 และ JAECOO 7 SHS Max – ราคาคาดการณ์ 999,000 บาท ซึ่งถือว่าเป็นราคาที่คุ้มค่าเมื่อเทียบกับเทคโนโลยีและคุณสมบัติที่ได้รับ โดยเฉพาะค่าใช้จ่ายในการใช้งานที่ประหยัดกว่า
คุณพิชญุตม์ วงศ์พัฒนาสิน รองประธานบริษัท โอโมดา แอนด์ เจคู (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “JAECOO 7 SHS
เป็นยนตรกรรมที่ก้าวข้ามข้อจำกัดของรถปลั๊กอินไฮบริดทั่วไป มอบประสบการณ์การขับขี่ที่ผสานจุดเด่นของทั้งรถไฟฟ้าและรถยนต์ไฮบริดไว้ในคันเดียว ไม่ว่าผู้ใช้จะต้องการความเงียบและประหยัดพลังงานสำหรับการเดินทางในเมือง หรือสมรรถนะอันทรงพลังสำหรับการเดินทางไกล JAECOO 7 SHS พร้อมตอบสนองทุกความต้องการอย่างลงตัว นี่คือตัวอย่างชัดเจนของปรัชญาการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เน้นนวัตกรรมล้ำสมัย เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และตอบโจทย์ครอบครัวยุคใหม่ในราคาที่เข้าถึงได้ รวมถึงยังประหยัดค่าใช้จ่ายการเดินทาง
และค่าบำรุงรักษาอีกด้วย”โปรโมชั่นพิเศษในงาน Motor Show 2025
ลูกค้าที่สนใจสามารถเยี่ยมชม JAECOO 7 SHS และรถรุ่นอื่นๆ จาก OMODA & JAECOO ได้ที่บูธหมายเลข A23 ในงาน Bangkok International Motor Show 2025 พร้อมรับข้อเสนอพิเศษ เฉพาะจองวันที่ 24 มีนาคม – 6 เมษายน 2568 เท่านั้น
- ฟรีค่าบำรุงรักษาเป็นระยะเวลา 2 ปี
- “Eco Bonus” Campaign เงินสนับสนุน 10,000 บาท* เมื่อเพียงนำเล่มจดทะเบียนรถยนต์เครื่องยนต์สันดาปหรือ HEV มาแสดง
เมื่อซื้อรถไฟฟ้า JAECOO 7 SHS Dynamic และ JAECOO 7 SHS Max - ฟรี การรับประกันครอบคลุมระยะเวลา 8 ปี หรือระยะทาง 200,000 กิโลเมตร (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)*
- การรับประกันคุณภาพรถใหม่ (Warranty)
- การรับประกันระบบมอเตอร์ขับเคลื่อน (Driving motor system)
- การรับประกันแบตเตอรี่แรงดันสูง (High Voltage Battery)
- การรับประกันระบบปลั๊กอิน ไฮบริด (PHEV- HEV systems warranty)
- การรับประกันหน้าจอแบบสัมผัส (Display Touchscreen warranty)
- 4. ประกันภัยชั้น 1 นาน 1 ปี
*หมายเหตุ เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine
-
ZEEKR ตอกย้ำภาพลักษณ์แบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าพรีเมียมลักชูรีสุดล้ำ พร้อมเปิดรับจองสิทธิ์ ZEEKR 7X และ ZEEKR 009 รุ่นมอเตอร์เดี่ยว 7 ที่นั่ง เป็นครั้งแรก ที่งาน Motor Show 2025
ZEEKR แบรนด์รถไฟฟ้าระดับพรีเมียม-ลักชูรี นำทัพยานยนต์ไฟฟ้าสุดล้ำ อวดโฉมในงาน Bangkok International Motor Show 2025 รวมไฮไลต์ทั้ง ZEEKR X The Best SUV EV รุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อที่ตอบโจทย์ชีวิตคนเมืองยุคใหม่ ZEEKR 009 The Most Luxury MPV EV ที่ถูกรังสรรค์ขึ้นภายใต้แนวคิด “Every Journey Shines, Every Seat Matters” นำทัพด้วยรุ่น 6 ที่นั่ง รถเอ็มพีวีลักชูรีที่ทลายกรอบแนวคิดความหรูหราเดิม สร้างประสบการณ์การเดินทางที่ครบครัน ทั้งความหรูหรา นวัตกรรมล้ำสมัย และความปลอดภัยสูงสุดในคันเดียว ตามด้วยรุ่น 7 ที่นั่ง รถเอ็มพีวีลักชูรีที่ออกแบบเพื่อที่สุดแห่งประสบการณ์การเดินทางแก่ผู้โดยสารทุกที่นั่ง เพื่อสมาชิกทุกคนในครอบครัว พร้อมเปิดรับจองสิทธิ์รถยนต์สองรุ่นใหม่ ZEEKR 7X รถเอสยูวีลักชูรีที่ผสานความหรูหราและความสะดวกสบาย ตอบโจทย์ทุกการใช้งานในชีวิตประจำวันอย่างลงตัว และ ZEEKR 009 รุ่นมอเตอร์เดี่ยว 7 ที่นั่ง รถเอ็มพีวีไฟฟ้าสุดหรูที่รองรับทุกการเดินทางอย่างสมบูรณ์แบบ รวมถึงเผยโฉม ZEEKR 001 FR ที่มาพร้อมพลังขับเคลื่อนเหนือจินตนาการ และ Concept Car ครั้งแรกภายใต้ชื่อ ZEEKR Group พร้อมกิจกรรมสุดพิเศษ และโปรโมชันสำหรับผู้เข้าร่วมงาน ตอกย้ำความมุ่งมั่นสู่ตลาดยานยนต์ระดับโลก ด้วยยอดขายมากกว่า 440,000 คัน ทั่วโลก พบกับความลักชูรีที่ผสานกับนวัตกรรมเหนือชั้น และความปลอดภัยขั้นสูงระดับพรีเมียมที่จะมาสร้างปรากฏการณ์ใหม่แห่งยานยนต์ไฟฟ้าสู่ผู้บริโภคไทย ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนสู่อนาคตที่ยั่งยืนนี้ได้ที่บูธ ZEEKR หมายเลข A4 ณ อาคารชาเลนเจอร์ 1–3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี ตั้งแต่วันนี้ – 6 เมษายน 2568
ZEEKR ผู้เชี่ยวชาญด้านการผลิตยานยนต์พลังงานไฟฟ้าระดับพรีเมียม-ลักชูรี เผยโฉมนวัตกรรมล้ำหน้าแห่งยุคในงาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 46 หรือ Bangkok International Motor Show 2025 ด้วยการเปิดรับจองสิทธิ์กับยานยนต์สองรุ่นใหม่อย่างเป็นทางการในประเทศไทย ZEEKR 7X รถเอสยูวีไฟฟ้า 5 ที่นั่งสุดลักชูรีสำหรับครอบครัวยุคใหม่ ที่เติมเต็มทุกไลฟ์สไตล์ด้วยฟังก์ชันระบบความปลอดภัยขั้นสุดพร้อมเทคโนโลยีล้ำสมัย โดดเด่นด้วยดีไซน์ที่สะดุดตา และ ZEEKR 009 รุ่น 7 ที่นั่ง มอเตอร์เดี่ยว รถเอ็มพีวีลักชูรีที่คงความสะดวกสบายระดับเฟิร์สคลาส นวัตกรรมสุดล้ำ และความปลอดภัยสูงสุดสำหรับผู้โดยสารทุกที่นั่งเพื่อสมาชิกทุกคนในครอบครัว รวมถึงการจัดแสดงสุดยอดยานยนต์ไฟฟ้าแห่งยุค อย่าง ZEEKR X พรีเมียม คอมแพค เอสยูวี ที่พร้อมรองรับ ไลฟ์สไตล์ของคนเมืองยุคใหม่ ZEEKR 009 รุ่น 6 ที่นั่ง รถเอ็มพีวีที่สุดแห่งความลักชูรี ที่ครบครันทั้ง ความหรูหรา นวัตกรรมอัจฉริยะ สมรรถนะที่เหนือชั้น และความปลอดภัยขั้นสูงสุด ZEEKR 009 รุ่น 7 ที่นั่ง มอร์เตอร์คู่ รถเอ็มพีวีลักชูรีที่ผสานความสะดวกสบายระดับเฟิร์สคลาส นวัตกรรมสุดล้ำ และความปลอดภัยสูงสุดสำหรับผู้โดยสารทุกที่นั่งเพื่อสมาชิกทุกคนในครอบครัว ZEEKR 001 FR รถยนต์ Shooting Brake พร้อมขุมพลังความเร็ว แรง เป็นอีกหนึ่งขั้นของสมรรถนะ ที่จะมาเปลี่ยนทุกเส้นทางให้เต็มไปด้วยความเร้าใจ เพื่อผู้ที่ต้องการทั้งความเร็วและเทคโนโลยีขั้นสูง และ เผยโฉม Concept Car ภายใต้ชื่อ ZEEKR Group เป็นครั้งแรกหลังการประกาศควบรวมกิจการ โดยการนำเสนอกองทัพยานยนต์ไฟฟ้าในครั้งนี้ ถือเป็นการนำเสนอที่สุดแห่งนวัตกรรมที่สะท้อนถึงเทคโนโลยีล้ำสมัย เพื่อตอบโจทย์ทุกความต้องการของผู้บริโภคไทยจาก ZEEKR
นาย แฟรงค์ ลี ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด ซีเคอร์ กรุ๊ป อินเตอร์เนชั่นแนล กล่าว “เรามุ่งมั่นเดินหน้าสู่ตลาดยานยนต์ระดับโลก จากการส่งมอบรถยนต์มากกว่า 440,000 คัน ทั่วโลกและความสำเร็จในการควบรวมกิจการ และก่อตั้ง ZEEKR Group เมื่อกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยประเทศไทยเป็นหนึ่งในตลาดที่เรามีความมั่นใจว่าเทคโนโลยี และการออกแบบของเราจะตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค ครั้งนี้เราได้นำรถยนต์ไฮบริดต้นแบบมาจัดแสดงในงานนี้ เพื่อแสดงให้เห็นถึงความพร้อมของเราในการรองรับความต้องการของตลาดระดับโลกให้ครอบคลุมทุกเซกเมนต์ ทั้งตลาดยานยนต์ขุมพลังไฟฟ้าแบบไฮบริด และขุมพลังไฟฟ้า 100% พร้อมตั้งเป้าการส่งมอบรถยนต์ภายใต้ ZEEKR Group 710,000 คัน ภายในปีนี้ และมากกว่า 1 ล้านคัน ภายในปี 2569 เพื่อเป้าหมายสู่การเป็นผู้นำด้านโซลูชันการขับเคลื่อนโดยใช้พลังงานใหม่ระดับแนวหน้าของโลก”
ตั้งแต่มีนาคมปีที่ผ่านมาถึงปัจจุบัน ZEEKR Thailand ได้ดำเนินกิจกรรมและเปิดตัวยานยนต์ที่ครอบคลุมหลากหลายตลาด ภายใต้แนวคิดของแบรนด์ “Imagine Beyond” หรือ “จินตนาการเหนือขีดจำกัด” ที่ไม่ได้มุ่งเน้นเฉพาะ
การพัฒนาเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย แต่ยังมุ่งสู่อนาคตที่ยั่งยืนและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม จากเสียงตอบรับอย่างอบอุ่นของลูกค้า ด้วยยอดส่งมอบมากกว่า 1,800 คัน สะท้อนถึงการเติบโตและการตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคไทยในทุกเซกเมนต์ และตอกย้ำความเชื่อมั่นในแบรนด์ที่จะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องนาย อเล็กซ์ เป่า กรรมการผู้จัดการภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าวว่า “ZEEKR ไม่ได้เป็นแบรนด์ที่มอบเทคโนโลยีใหม่เท่านั้น แต่ยังเป็นผู้นำในการพัฒนาอนาคตของการขับขี่อย่างยั่งยืน ด้วยแนวคิด Imagine Beyond
ที่จะช่วยสร้างโลกใหม่ที่ดีกว่า สำหรับวันนี้และในอนาคต โดยยืนหยัดที่จะคงไว้ซึ่งมาตรฐานระดับพรีเมียม ประสบการณ์ที่เหนือชั้น และความสบายใจในการใช้งาน”ภายในบูธของ ZEEKR ที่งาน Motor Show 2025 ได้รับการออกแบบอย่างพิถีพิถัน สะท้อนเอกลักษณ์ของแบรนด์ที่จะมุ่งไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง พร้อมนำเสนอรถยนต์ที่ครอบคลุมทุกความต้องการ ตั้งแต่รถยนต์ที่เหมาะกับคนรุ่นใหม่ไปจนถึงรถที่รองรับครอบครัวใหญ่ พร้อมให้ทุกท่านได้สัมผัสอย่างใกล้ชิด โดยไฮไลต์ของรถยนต์ที่เปิดรับจองสิทธิ์ มีดังนี้
- ZEEKR 009 รุ่นมอเตอร์เดี่ยว 7 ที่นั่ง รถเอ็มพีวีลักชูรีที่มาพร้อมกับแนวคิด “Premium Mobility”
ที่มอบความหรูหราผสานกับการขับขี่ที่สะดวกสบาย พร้อมสำหรับทุกการเดินทาง โดดเด่นด้วยสมรรถนะ
พร้อมกำลังวิ่งสูงสุด 250 kW หรือ 335 HP แรงบิดสูงสุด 373 Nm และความจุแบตเตอรี่ 116 kWh ที่สามารถขับขี่ได้ไกลสูงสุด 712 กิโลเมตรต่อหนึ่งการชาร์จ ตามมาตรฐาน NEDC
- ZEEKR 7X รถเอสยูวีลักชูรีที่ผสมผสานความหรูหราและความสะดวกสบายได้อย่างลงตัว
พร้อมตอบโจทย์ทุกการใช้งานในชีวิตประจำวัน มีให้เลือกสรรทั้งรุ่นมอเตอร์เดี่ยว ความจุแบตเตอรี่ 100 kWh ที่สามารถขับขี่ได้สูงสุด 600 กิโลเมตรต่อหนึ่งการชาร์จตามมาตรฐาน WLTC และรุ่นมอเตอร์คู่ ที่มาพร้อมความจุแบตเตอรี่ 100 kWh ด้วยระยะการขับขี่สูงสุด 500 กิโลเมตร ต่อหนึ่งการชาร์จตามมาตรฐาน WLTC
นอกจากนี้ ภายในบูธยังแบ่งพื้นที่พิเศษออกเป็นโซนต่าง ๆ ที่รังสรรค์ขึ้นที่นำเสนอประสบการณ์เหนือระดับในทุกโสตสัมผัส ไม่ว่าจะเป็นโซน Celestial Dawn ที่ถ่ายทอดมุมพักผ่อนในวันสบาย ๆ กับครอบครัวอันอบอุ่น Ascending Sun โซนกิจกรรมสุดคูล ไม่ว่าจะเป็นการจัดดอกไม้ Exclusive Workshop น้ำหอม DIY by Jo Malone กิจกรรมเพ้นท์เล็บ และกิจกรรมทำน้ำหอมแขวนรถในโซน Sensorial Bar มุมพักผ่อนพร้อมของว่างและเครื่องดื่มที่ ZEEKR Dawn Exclusive Lounge ที่สะท้อนความเรียบหรูด้วยการตกแต่งอย่างพิถีพิถัน ทั้งหมดทั้งมวลเพื่อสะท้อนแนวคิดในด้านการยกระดับความสุขในทุกรูปแบบการเดินทางตั้งแต่ก้าวแรกที่ได้สัมผัส ผ่านการออกแบบประสบการณ์อย่างลงตัวด้วยแนวคิดการสร้างยานยนต์ไฟฟ้าระดับพรีเมียมลักชูรีที่ถูกถ่ายทอดออกมาผ่านทุก Touchpoint
เพื่อเป็นการขอบคุณลูกค้า ZEEKR ยังได้มอบโปรโมชันพิเศษสำหรับผู้ที่จองรถยนต์ภายในงานตั้งแต่วันนี้ – วันที่ 6 เมษายน 2568 สำหรับท่านที่สนใจเป็นเจ้าของ ZEEKR 009 รับข้อเสนอพิเศษ ดังนี้
ข้อเสนอพิเศษสำหรับ ZEEKR 009 รุ่น 6 ที่นั่ง
- รับฟรี Wallbox ขนาด 11 kW พร้อมแพ็กเกจติดตั้ง*
- รับฟรี สายชาร์จฉุกเฉิน*
- ประกันภัยรถยนต์ชั้นหนึ่ง นาน 1 ปี พร้อม พ.ร.บ คุ้มครองนาน 1 ปี*
- ค่าจดทะเบียนรถยนต์*
- บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน (Roadside Assistance) ตลอด 24 ชั่วโมง เป็นระยะเวลา 5 ปี*
- ค่าอะไหล่ และค่าแรงบำรุงรักษาตามระยะทาง สูงสุดไม่เกิน 6 ครั้ง ภายในระยะเวลา 6 ปี หรือระยะทาง 120,000 กิโลเมตร (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)*
- การรับประกันตัวรถ 5 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร (อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)*
- การรับประกันมอเตอร์และแบตเตอรี่แรงดันสูง 8 ปีหรือ 180,000 กิโลเมตร (อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)*
*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด
ข้อเสนอพิเศษสำหรับ ZEEKR 009 รุ่น 7 ที่นั่ง มอเตอร์คู่
- รับฟรี Wallbox ขนาด 11 kW พร้อมแพ็กเกจติดตั้ง*
- รับฟรี สายชาร์จฉุกเฉิน*
- ประกันภัยรถยนต์ชั้นหนึ่ง นาน 1 ปี พร้อม พ.ร.บ คุ้มครองนาน 1 ปี*
- ค่าจดทะเบียนรถยนต์*
- บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน (Roadside Assistance) ตลอด 24 ชั่วโมง เป็นระยะเวลา 5 ปี*
- ค่าอะไหล่ และค่าแรงบำรุงรักษาตามระยะทาง สูงสุดไม่เกิน 3 ครั้ง ภายในระยะเวลา 3 ปี หรือระยะทาง 60,000 กิโลเมตร (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)*
- การรับประกันตัวรถ 5 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร (อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)*
- การรับประกันมอเตอร์และแบตเตอรี่แรงดันสูง 8 ปีหรือ 180,000 กิโลเมตร (อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)*
*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด
และสำหรับทุกท่านที่สนใจเป็นเจ้าของ ZEEKR X ตั้งแต่วันนี้ – 6 เมษายน 2025 รับข้อเสนอพิเศษดังนี้
- รับดอกเบี้ยพิเศษ 0% ต่อปี นานสูงสุด 60 เดือน*
- รับฟรี Wallbox ขนาด 7 kW พร้อมแพ็กเกจติดตั้ง*
- รับฟรี สายชาร์จฉุกเฉิน*
- ประกันภัยรถยนต์ชั้นหนึ่ง นาน 1 ปี พร้อม พ.ร.บ คุ้มครองนาน 1 ปี*
- ค่าจดทะเบียนรถยนต์*
- การรับประกันตัวรถ 5 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร (อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)
- การรับประกันมอเตอร์ และแบตเตอรี่แรงดันสูง 8 ปี หรือ 180,000 กิโลเมตร (อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)
- บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน (Roadside Assistance) ตลอด 24 ชั่วโมง เป็นระยะเวลา 5 ปี
*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด
ร่วมสัมผัสประสบการณ์ยานยนต์สุดล้ำ ที่พร้อมจุดประกายอนาคตของการขับขี่อย่างยั่งยืน พร้อมจับจองสิทธิ์เป็นเจ้าของ กับ ZEEKR 7X และ ZEEKR 009 รุ่นมอเตอร์เดี่ยว 7 ที่นั่ง ได้ที่งาน Bangkok International Motor Show 2025 ที่บูธ ZEEKR หมายเลข A4 ณ อาคารชาเลนเจอร์ 1–3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี ตั้งแต่วันนี้ – 6 เมษายน 2568
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine
- ZEEKR 009 รุ่นมอเตอร์เดี่ยว 7 ที่นั่ง รถเอ็มพีวีลักชูรีที่มาพร้อมกับแนวคิด “Premium Mobility”
-
เมอร์เซเดส-เบนซ์ เปิดนิยามใหม่ของ “FWB” ชวนทุกคนมาเป็น “Friend with Benz” ด้วยกันที่งาน Motor Show 2025
จากรถยนต์ในฝันที่ครองใจผู้คนทั่วโลก สู่แรงบันดาลใจในการตั้งชื่อ “เบนซ์” ให้กับลูกหลานในทุกยุคสมัย เมอร์เซเดส-เบนซ์ จึงสานต่อแรงบันดาลใจนี้ด้วยแคมเปญ “Friend with Benz” ที่จะชวนทุกคนที่ชื่นชอบในรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ มาเป็นเพื่อนกับแบรนด์ และเป็นส่วนหนึ่งของ คอมมูนิตี้ ในงาน Motor Show 2025 พร้อมถ่ายทอดเรื่องราว ความรู้สึก และประสบการณ์ที่มีต่อ เมอร์เซเดส-เบนซ์ ในแบบฉบับของตัวเอง
FWB ที่แปลว่า “Friend with Benz”
“Friend with Benz” คือคอมมูนิตี้ของคนที่ชื่นชอบรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ ไม่ว่าคุณจะเป็นเจ้าของรถหรือไม่ก็ตาม เพียงแค่มีความหลงใหลในแบรนด์ ก็สามารถเป็นส่วนหนึ่งของ
Friend with Benz ในงาน Motor Show 2025 ได้ โดยเราจะชวนคุณมาร่วมแชร์ประสบการณ์ที่มีต่อเมอร์เซเดส-เบนซ์ พร้อมสัมผัสความหรูหราของยนตรกรรมรุ่นต่าง ๆ รวมถึงข้อเสนอสุดเอ็กซ์คลูซีฟภายในงานที่มอบให้เฉพาะ Friend with Benz เท่านั้น
เมอร์เซเดส-เบนซ์ ได้นำเสนอผ่านวิดีโอ “คน คลั่ง เบนซ์ (Passion for Benz)” รวบรวมเรื่องราวของคนที่มีความชื่นชอบรถเบนซ์ในมิติที่แตกต่างกัน ทั้งมุมมองของคนที่เป็นเจ้าของรถอยู่แล้ว หรือใฝ่ฝันอยากจะมีไว้ครอบครอง มาร่วมสัมภาษณ์เพื่อหาเหตุผลว่า ทำไมถึงหลงใหลในเมอร์เซเดส-เบนซ์ ไม่ว่าจะเป็นความผูกพันที่ถ่ายทอดมาจากครอบครัวที่ขับเบนซ์ และอยากส่งต่อแรงบันดาลใจไปยังรุ่นต่อไป หรือการสะสมโมเดลรถเมอร์เซเดส-เบนซ์ แม้กระทั่งการแต่งเพลงที่กล่าวถึงชื่อแบรนด์ ก็เป็นการแสดงให้เห็นถึงความหลงใหลในแบบของตัวเองที่มีให้กับเมอร์เซเดส-เบนซ์ สามารถรับชมวิดีโอได้ที่ คน คลั่ง เบนซ์ (Passion for Benz)
นอกจากนี้เมอร์เซเดส-เบนซ์ ยังอยากเชิญชวนทุกคนมาตามหายนตรกรรมที่ตรงกับ Passion ของคุณ และเปิดประสบการณ์ใหม่ไปกับคอมมูนิตี้ Friend with Benz รวมถึงพบกับเพื่อนใหม่จาก Mercedes-AMG ทั้งหมด 3 รุ่น ไม่ว่าจะเป็น “Mercedes-AMG G 63” เพื่อนสายลุยที่ผสานขุมพลังเข้ากับดีไซน์ทรงกล่องสุดคลาสสิก “Mercedes-AMG SL 55 4MATIC+” เพื่อนสายสปอร์ตที่มอบความแรงและความหรูหราในทุกมิติ และ “Mercedes-AMG GT 63 4MATIC+” เพื่อนสายเรียบหรูที่มาพร้อมสมรรถนะอันทรงพลัง พร้อมรับข้อเสนอพิเศษของรุ่นอื่น ๆ อีกมากมายได้ที่งาน Motor Show 2025 ที่บูธเมอร์เซเดส-เบนซ์ หมายเลข A17 ณ อิมแพ็ค ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 2 เมืองทองธานี ตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม – 6 เมษายน 2568
พร้อมตอกย้ำแนวคิดที่อยากให้ทุกคนร่วมเป็นส่วนหนึ่งของคอมมูนิตี้เดียวกันกับเมอร์เซเดส-เบนซ์ ทางแบรนด์จึงนำเสนอโปรโมชั่น Friend get Friend เมื่อชวนเพื่อนของคุณมาซื้อรถเมอร์เซเดส-เบนซ์ คุณจะได้รับสิทธิพิเศษทันที และสามารถรับข้อเสนอพิเศษเดียวกันกับงาน Motor Show 2025 ได้ที่ตัวแทนจำหน่ายเมอร์เซเดส-เบนซ์ อย่างเป็นทางการทั้ง 33 แห่ง ทั่วประเทศ หรือผ่านช่องทางออนไลน์ที่ www.mercedes-benz.co.th หรือโทร 1250 และสามารถติดตามข่าวสารอัพเดทผ่านทาง Facebook: Mercedes-Benz Thailand IG: @MercedesBenzThailand และ LINE: @mercedesbenzth
#FriendwithBenz #MatchYourPassion #MotorShow2025 #MercedesBenz #MercedesBenzThailand
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine
-
มาสด้าสร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น สื่อสารภาพลักษณ์ใหม่ ภายใต้ปรัชญา “JOY DRIVES LIVES” ความสุขขับเคลื่อนชีวิต
มาสด้ามุ่งมั่นพัฒนาเทคโนโลยียานยนต์เพื่อส่งมอบความสุขให้กับลูกค้าทุกคน เพราะมาสด้าเชื่อว่าความสุขในการขับขี่จะสามารถเสริมสร้างประสบการณ์ชีวิต แรงบันดาลใจ และสร้างความสุขให้ผู้ขับขี่และเจ้าของได้ ดังนั้น มาสด้าจึงยกระดับการสื่อสารภาพลักษณ์และสร้างคุณค่าแบรนด์อย่างต่อเนื่อง ด้วยการนำเสนอปรัชญาใหม่ “JOY DRIVES LIVES” หรือ ความสุขขับเคลื่อนชีวิต โดยสื่อสารถึงรายละเอียดความสุขเล็ก ๆ ที่เกิดขึ้นรอบ ๆ ตัว โดยมีลูกค้าเป็นศูนย์กลางและมีส่วนสำคัญในการสร้างความสัมพันธ์อันดีกับแบรนด์ และมีรถยนต์มาสด้าเป็นส่วนหนึ่งของทุกประสบการณ์การใช้ชีวิต มาสด้าเชื่อว่าในทุกรายละเอียดของชีวิต มีความสุขขับเคลื่อนเราเสมอ พร้อมออกเดินทางไปสัมผัสประสบการณ์ใหม่ ๆ เคียงข้างกัน เติมเต็มชีวิตทุกเส้นทางเพื่อให้ผู้คนได้ค้นพบความสุขในแบบของตัวเอง นำมาซึ่งการสื่อสารภาพลักษณ์ใหม่ของแบรนด์ เพื่อสานต่อพันธกิจสำคัญ คือการส่งมอบประสบการณ์ความสุขและการใช้ชีวิตในทุกด้านของลูกค้าให้ดียิ่งขึ้น โดยมีลูกค้าเป็นศูนย์กลางในทุกบริบท ตามพันธกิจที่มุ่งมั่นผลักดันองค์กรก้าวสู่การเติบโตที่ยั่งยืนตลอดไป
รับชมวิดิโอ : https://www.youtube.com/watch?v=wYhA68ocA8g
นายภพนิพิฐ จิรวัฒนานนท์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและรัฐกิจสัมพันธ์ บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา นอกเหนือจากการพัฒนาเทคโนโลยียานยนต์และยกระดับการบริการหลังการขาย เพื่อให้ลูกค้าเกิดความพึงพอใจสูงสุดแล้ว มาสด้ายังให้ความสำคัญและมุ่งมั่นพัฒนาการสื่อสารภาพลักษณ์และคุณค่าของแบรนด์อย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ปี 2543 มาสด้าเริ่มสื่อสารภาพลักษณ์ของแบรนด์ด้วยสโลแกน ZOOM-ZOOM ซึ่งเป็นการถ่ายทอดความรู้สึกและความทรงจำในวัยเด็กออกมาเมื่อเติบโตเป็นผู้ใหญ่ในวันนี้ ต่อมาในปี 2558 มาสด้าได้สื่อสารภาพลักษณ์ใหม่อีกครั้ง ภายใต้สโลแกน “FELL THE DRIVE” โดยเริ่มจากการสื่อสารปรัชญาและแนวคิดหลักของแบรนด์ การให้ความสำคัญกับความต้องการของลูกค้า ผ่านความสนุกในการขับขี่ไปจนถึงคุณค่าทางด้านอารมณ์ความรู้สึกโดยมีมาสด้าเป็นส่วนหนึ่งของการใช้ชีวิต เพื่อส่งมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้ลูกค้าอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน เพราะมาสด้าเชื่อว่าความสุขไม่ได้หมายถึงเพียงแค่การมีรอยยิ้มเท่านั้น แต่คือความรู้สึกที่เกิดขึ้นจากภายใน เป็นความรู้สึกที่เติมเต็มและมีความหมาย สะท้อนคุณค่าทางอารมณ์ที่เกิดจากความเข้าใจพื้นฐานของมนุษย์
ในปี 2568 เป็นต้นไป มาสด้าพร้อมเดินหน้าสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในการสร้างการรับรู้เกี่ยวกับแบรนด์ และต่อยอดพันธกิจในการส่งมอบประสบการณ์ความสุขและการใช้ชีวิตในทุกด้านให้กับลูกค้าให้ดียิ่งขึ้น เพราะมาสด้าเชื่อว่า “ความสุขในการขับขี่รถยนต์” (Joy of Driving) จะนำไปสู่ “ความสุขในการใช้ชีวิต” (Joy of Living) สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นส่วนหนึ่งของประสบการณ์การเป็นเจ้าของรถยนต์มาสด้า มาสด้าจึงนำเสนอปรัชญาใหม่ของแบรนด์ “JOY DRIVES LIVES” หรือ ความสุขขับเคลื่อนชีวิต เพื่อนำมาใช้ในการสร้างและพัฒนา ประสบการณ์ลูกค้าในรูปแบบใหม่ให้ดียิ่งขึ้น โดยมีลูกค้าลูกค้าเป็นศูนย์กลางในการพัฒนา เพื่อให้มั่นใจว่าทุกครั้งที่ลูกค้ามีปฏิสัมพันธ์กับแบรนด์จะนำมาซึ่งคุณค่าและความสุขที่แท้จริง
ด้วยเหตุนี้ มาสด้าจึงเดินหน้าสื่อสารปรัชญาใหม่โดยถ่ายทอดภาพยนต์โฆษณาทางสื่อออนไลน์ ภายใต้สโลแกนใหม่ “JOY DRIVES LIVES” เพื่อให้ลูกค้ามาสด้า และบุคคลทั่วไป ตระหนักถึงรายละเอียดของความสุขเล็ก ๆ รอบตัว ตลอดจนมีส่วนร่วมและสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างลูกค้ากับแบรนด์ โดยมีรถยนต์มาสด้าเป็นส่วนหนึ่งของทุกประสบการณ์ในการใช้ชีวิต โดยสื่อสารผ่านแคมเปญ 2 ช่วง เริ่มจากการสร้างความตระหนักถึงการค้นหาความสุขที่แท้จริงในชีวิต พร้อมสร้างความเชื่อมโยงการสื่อสารคุณค่าและภาพลักษณ์ใหม่ของแบรนด์ผ่าน Joy หรือ รายละเอียดของความสุขที่ขับเคลื่อนชีวิต โดยเชิญชวนลูกค้าและกลุ่มเป้าหมายร่วมค้นหารายละเอียดของชีวิตผ่านแบบทดสอบ Mazda Joy Quiz เพื่อรับรู้ถึงความสุขของตัวเองในรูปแบบต่าง ๆ ตามด้วยการสร้างการรับรู้ในความหมายใหม่ที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น ผ่านการสื่อสาร “JOY DRIVES LIVES” อย่างเต็มรูปแบบในทุกช่องทาง สิ่งเหล่านี้จะเป็นนิยามใหม่ของภาพลักษณ์แบรนด์มาสด้า เพื่อสร้างสรรค์ประสบการณ์ความสุขให้เกิดขึ้นในชีวิตประจำวันของลูกค้า โดยมีมาสด้าเป็นหัวใจหลักในการสร้างความเชื่อมโยง
การสื่อสารภาพลักษณ์แบรนด์ใหม่ภายใต้สโลแกน “JOY DRIVES LIVES” ตอกย้ำถึงการเดินหน้าสู่มิติใหม่ของการส่งมอบประสบการณ์ลูกค้า ที่มาสด้าตั้งใจยกระดับให้ดียิ่งขึ้นในทุกบริบท เพื่อสร้างความประทับใจให้กับลูกค้าในรูปแบบใหม่ และนำมาพัฒนาประสบการณ์ของลูกค้าในทุก ๆ ขั้นตอน รวมถึงการเริ่มต้นปรับรูปแบบการดำเนินธุรกิจในประเทศไทย (Business Transformation) โดยมุ่งเน้นและให้ความสำคัญสูงสุดกับลูกค้า เพื่อให้มั่นใจได้ว่าทุกครั้งที่ลูกค้ามีปฏิสัมพันธ์กับแบรนด์ จะนำมาซึ่งคุณค่าและความสุขในการเป็นเจ้าของรถยนต์มาสด้า
สำหรับลูกค้ามาสด้า หรือผู้ที่สนใจ หากต้องการค้นหาความสุขในชีวิต เชิญรับชมภาพภาพยนต์โฆษณาภายใต้สโลแกน “JOY DRIVES LIVES” ผ่านช่องทาง Mazda official Website
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine -
News / News Motocycle1 Min Read
“โทนี่ โบ” สุดแกร่ง! ทะยานนำอันดับ 1 ตารางคะแนนชิงแชมป์โลก ศึก X-Trial สนาม 6 ที่เวียนนา
“โทนี่ โบ” ยอดนักขับไต่เขาชาวสเปนจาก Repsol Honda HRC ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม แม้ต้องพบกับนัดชิงชนะเลิศสุดเข้มข้นจากความแข็งแกร่งของคู่แข่งในเรซตัดสิน คว้าชัยชนะพร้อมเก็บคะแนนสะสม ฉีกช่องว่างในตารางแชมเปี้ยนชิพออกไปอีกครั้งก่อนเข้าสู่ช่วงโค้งสุดท้าย ในการแข่งขัน X-Trial 2025 สนามที่ 6 ที่นอยสตัดท์ เวียนนา ประเทศออสเตรีย เมื่อสุดสัปดาห์ผ่านมา
ทักษะระดับสูงของ “โทนี่ โบ” เหนือกว่าคู่แข่งตั้งแต่รอบการคัดเลือก รั้งอันดับ 1 ตีตั๋วเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศได้สำเร็จ ทางด้านของ “กาเบียล มาเซลลี่” เพื่อนร่วมทีม ก็มีผลงานระดับสูงเช่นกัน เก็บอันดับที่ 3 ในรอบคัดเลือก ตีตั๋วเข้าไปสมทบในรอบชิงชนะเลิศ
การแข่งขันในรอบชิงชนะเลิศดวลกันอย่างสุดดุเดือด เมื่อเป็นเกมที่สูสีและผลงานเบียดกันแบบเซสชั่นต่อเซสชั่น ก่อนที่ “โทนี่ โบ”จะเฉือนคว้าชัยชนะไปได้ในที่สุด เป็นการคว้าชัยชนะครั้งที่ 90 ของเจ้าตัวในการแข่งขันแบบในร่ม รายการ X-Trial แชมเปี้ยนชิพ โดยมี “กาเบียล มาเซลลี่” จบอันดับที่ 3 บนโพเดียม หลังจบการแข่งขันสนามนี้ “โทนี่ โบ” ทะยานฉีกช่องว่างในตารางคะแนนสะสมออกไปอีก โดยตอนนี้เก็บไปแล้ว 115 คะแนน ปักหลักในอันดับผู้นำอย่างแข็งแกร่ง ขณะที่“กาเบียล มาเซลลี่” เพื่อนร่วมทีม อยู่ในอันดับที่ 3 ด้วยคะแนนสะสม 63 คะแนน
ทั้งนี้ การแข่งขัน X-Trial 2025 สนามที่ 7 จะไปแข่งขันกันรายการ X-Trial France ที่ คาฮอร์ส ประเทศฝรั่งเศส ในวันที่ 22 มีนาคม นี้
#ThaiHonda #HRC #RaceToTheDream #HondaRacingThailand #MotorSport #HondaBigBike #ExcitesTheWorld #HondaRacingCorporation #FIMTrailGP
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine