• ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ และกลุ่มตรีเพชร ร่วมถวายอาลัย “สมเด็จบรมราชชนนีพันปีหลวง”

    1 Min Read

    ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ และกลุ่มตรีเพชร ร่วมถวายอาลัย “สมเด็จบรมราชชนนีพันปีหลวง”

    คณะผู้บริหารและพนักงาน บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด และบริษัทในกลุ่มตรีเพชร ร่วมน้อมถวายอาลัยต่อการเสด็จสู่สวรรคาลัยของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ผู้ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นหาที่สุดมิได้ พร้อมจัดกิจกรรมเชิญชวนให้พนักงานทำริบบิ้นดำ และร่วมลงนามถวายอาลัยหน้าพระฉายาลักษณ์ และตกแต่งอาคารด้วยผ้าสีดำ-ขาว บริเวณด้านหน้าอาคารสำนักงานใหญ่บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด ศูนย์อะไหล่อีซูซุมีนบุรี และอื่น ๆ

    ในพิธีถวายอาลัยซึ่งจัดขึ้นที่ห้องประชุมชั้น 20 ของอาคารสำนักงานใหญ่นั้น มร. ทาคาชิ ฮาตะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด เป็นผู้กล่าวนำ โดยมี  คณะผู้บริหารของบริษัทในกลุ่มตรีเพชรร่วมยืนสงบนิ่งเป็นเวลา 3 นาที หลังจากนั้นได้ร่วมกันร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี และก้มศีรษะกราบสงบนิ่งเป็นเวลา 30 วินาที เพื่อถวายบังคมและน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนีพันปีหลวง ที่ทรงมีต่อทั้งปวงชนชาวไทยและประเทศไทยตลอดพระชนม์ชีพของพระองค์ท่าน


    ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย

    Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
    Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
    Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
    instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
    Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
    Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
    Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine

    No Comment
  • B-Quik Thailand Super Series และ TSS The Super Series by B-Quik ปูพรมทัพตัวแรง ซิ่งสนั่น “ช้าง อินเตอร์เนชันแนล เซอร์กิต” บุรีรัมย์ ฝ่ามรสุม 3 ฤดู ปิดฉากสมศักศรีดิ์ เกมส์ตัดสินแชมป์ประจำปี 2025

    2 Min Read

    B-Quik Thailand Super Series และ TSS The Super Series by B-Quik ปูพรมทัพตัวแรง ซิ่งสนั่น “ช้าง อินเตอร์เนชันแนล เซอร์กิต” บุรีรัมย์  ฝ่ามรสุม 3 ฤดู ปิดฉากสมศักศรีดิ์ เกมส์ตัดสินแชมป์ประจำปี 2025

    บริษัท เรซซิ่ง สปิริต จำกัด ผู้จัดการแข่งขันกีฬารถยนต์ทางเรียบระดับนานาชาติ ภายใต้การรับรองโดยราชยานยนต์สมาคมแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ สมาคมกีฬา (ร.ย.ส.ท.) ภายใต้กฎของสมาพันธ์แข่งขันรถยนต์นานาชาติ (International Sporting Code of FIA) ด้วยมาตรฐานระดับสากลที่ทั่วโลกยอมรับ

     

    รวมพลทัพรถแข่งระดับแนวหน้าของเมืองไทย B-Quik Thailand Super Series และ TSS The Super Series by B-Quik 2025” เดินหน้าสู่ “ช้าง อินเตอร์เนชันแนล เซอร์กิต” บุรีรัมย์ เปิดศึกนัดสุดท้ายแห่งฤดูกาล 2025

    โปรแกรมการแข่งขัน B-Quik Thailand Super Series 2025 เปิดฉากด้วยรุ่น Thailand Super Eco ทำศึกกันถึง 3 สนาม โดยผลงาน “เรซที่ 6” เป็นชัยชนะอันยอดเยี่ยมจากนักแข่งสาวฝีมือฉกาจ “หมายเลข 9 เมฆรัชคีฏาก์ กะลันตานนท์ จาก RUK Racing Team” ส่วนใน “เรซที่ 7” แม้ เมฆรัชคีฏาก์ กะลันตานนท์ จะรั้งตำแหน่งผู้นำมาตลอด แต่เกมส์เปลี่ยนในรอบสุดท้ายกลายเป็น “หมายเลข 89 วรัญชิต วัฒนาธนกุล จาก Wing hin Motorsports X Ruk Team” คว้าชัยชนะไปครอง ปิดท้ายด้วย “เรซที่ 8” อันดุเดือดกับสถานการณ์ที่พลิกผันตลอดเวลา และจบลงด้วยชัยชนะอีกครั้งของ “หมายเลข 89 วรัญชิต วัฒนาธนกุล จาก Wing hin Motorsports X Ruk Team”

    รุ่น Super Touring ศึก 60 นาทีสุดมันส์ “เรซที่ 7” มากับผลงานโดดเด่นของ YK Motorsports ทั้งการครองโพล โพสิชั่น โดย หมายเลข 14 จาก YK Motorsports และการคว้าชัยชนะแบบไร้ข้อผิดพลาดของ “หมายเลข 7 ภาสฤทธิ์ พรหมสมบัติ แห่ง YK Motorsports” รวมถึงใน “เรซที่ 8” ซึ่ง “หมายเลข 14 โดย ฐนโรจน์ ธนาสิทธิ์นิธิเกตุ จับคู่ ณัฐนิช ลีวัฒนาวรากุล จาก YK Motorsports” คว้าชัยชนะไปได้อย่างเหนือความคาดหมาย เก็บแชมป์ไปได้ทั้ง 2 สนาม

    Thailand Super Pickup D2 (Class C) เปิดศึกต่อเนื่อง 3 เรซ เช่นกัน โดย “เรซที่ 6” เป็นผลงานของ “หมายเลข 58 ศุภมงคล เดชเพชร จาก ชาบูเถ้าแก่บิ๊ก, Tum Clutch, Mk Sport, Akana, CNC รักกัญ By อู๊ดอ๋องระยอง” สตาร์ทจากโพล โพสิชั่น ขึ้นนำยาวคว้าผู้นำ และชัยชนะไปแบบม้วนเดียบจบ ทางด้าน “เรซที่ 7” สถานการณ์เดือดตลอดช่วงการแข่งขัน ก่อนที่ตำแหน่งแชมป์จะถูกคว้าไปโดย “หมายเลข 90 แสงชัย วรรณทิม จาก 6.9 Ricther Konmeen อู่สีบังมัด Tum Monster Frank Remap” ปิดท้ายด้วย “เรซที่ 8” ซึ่งความเดือดของเกมส์การแข่งขันไม่ด้อยไปกว่ากัน และ “หมายเลข 58 ศุภมงคล เดชเพชร จาก ชาบูเถ้าแก่บิ๊ก, Tum Clutch, Mk Sport, Akana, CNC รักกัญ By อู๊ดอ๋องระยอง” คือผู้ที่สามารถเก็บแชมป์ไปได้อีกครั้ง

    ด้านรุ่นใหญ่ Thailand Super Pickup D1 (Class A-B) เริ่มกันที่ “เรซ 6” เจ้าของดีกรีแชมป์หลายสมัย “หมายเลข 15 ธณพล ชูเจริญผล Nexzter, MKSport, HYB, Speed Oil, Motul, AKANA by อู๋ดอ๋องระยอง” รักษาฟอร์มได้ยอดเยี่ยมด้วยการคว้าแชมป์ไปครอง ส่วน “เรซที่ 7” เป็นผลงานของ “หมายเลข 85 อลงกรณ์ แซ่ตั้ง จาก Nexzter, MKSport, HYB, Speed Oil, Motul, AKANA by อู๋ดอ๋องระยอง” ที่สตาร์ทจากโพล โพสิชั่น ขึ้นนำรวดเดียวจบการแข่งขัน ครองแชมป์ไปอย่างสวยงาม และท้ายสุด “เรซที่ 8” อันดุเดือดท่ามกลางแสงสุดท้ายของวัน กับผลงานสุดประทับใจในการคว้าชัยของ “หมายเลข 3 Sandy Stuvik (แซนดี้ สตูวิค) จาก Aurora Ford Thailand Racing”

    สำหรับโปรแกรมการแข่งขัน TSS The Super Series by B-Quik 2025 คือ ความดุเดือดของเกมส์ดวลความเร็ว 60 นาทีจาก4 รุ่น Class Supercar เริ่มด้วยรุ่น TSS Supercar GTC “เรซที่ 7” กับ “หมายเลข 88 Damien Hamilton (เดเมียน แฮมิลตัน) จาก SPEED FACTORY-FORD-MILLERS” ผู้นำในรุ่น ที่โชว์ฟอร์มนำม้วนเดียวจบ รับแชมป์ไปครอง ก่อน “อกหัก” ใน “เรซที่ 8” และยกชัยชนะให้ “หมายเลข 9 Toyota Gazoo Racing Thailand โดย อัครพงศ์ อัคนีนิโรธ และ กฤษฏิ์ วสุรัตน์” หนึ่งเดียวในรุ่นไปครอง

    TSS Supercar GT4  มากับสถานการณ์ ซึ่งพลิกผันตั้งแต่นาทีแรกทั้ง 2 เรซ โดยใน “เรซที่ 9” “หมายเลข 1 AAS Motorsport โดย คมิก กรรณสูต และ กันตธีร์ กุศิริ” โชว์ฟอร์มดี วิเคราะห์เกมส์ขาด จนสามารถเก็บแชมป์ไปครองได้สำเร็จ แต่ทางด้าน “เรซที่ 10” ต้องยอมรับความพยายามของ “หมายเลข 39 Wing Hin Motorsports โดย Naquib Azlan (นาควิบ อัซลัน) และ Mitchell Cheah Min Jie (มิทเชล เชีย มิน จาย)” ซึ่งสู้ถึงนาทีสุดท้าย จนสามารถเก็บชัยชนะไปครองอย่างสมศักศรีดิ์

    สุดท้าย 2 รุ่นใหญ่ TSS Supercar GTM ถือได้ว่าเป็นเวทีเปิดตัวการกลับมาอันยอดเยี่ยมของ “หมายเลข 88 CRE RACING โดย Craig Corliss (เคร็ก คอร์ลิส) และ Jaylyn  Robotham (เจย์ลิน โรโบธาม)” อย่างแท้จริง ด้วยฐานะผู้นำของรุ่น ที่ออกสตาร์ทนำแบบม้วนเดียวจบ รับถ้วยแชมป์ไปครองทั้ง “เรซที่ 9” และ “เรซที่ 10” อย่างภาคภูมิใจ

    ขณะที่รุ่น TSS Supercar GT3 “หมายเลข 18 AAS Motorsport โดย วุฒิกร อินทรภูวศักดิ์ และ Laurin Heinrich (เลาริน ไฮน์ริช)” ปิดฉากฤดูกาลด้วยการสตาร์ทจากโพล โพสิชั่น ซิ่งม้วนเดียบจบ คว้าแชมป์ “เรซที่ 9” ไปได้โดยไร้ข้อผิดพลาด และสมศักศรีดิ์ เช่นเดียวกับผลงานของ “หมายเลข 12 Singha Motorsport Team Thailand โดย ปิติ ภิรมย์ภักดี และ กันตศักดิ์ กุศิริ” ใน “เรซที่ 10” ซึ่ง ออกสตาร์ทจากโพล โพสิชั่น ซิ่งม้วนเดียบจบเช่นกัน และคว้าแชมป์ “เรซที่ 10” ไปได้ยิ่งใหญ่ สมฐานะศึกปิดฤดูกาล

    สำหรับโปรแกรมการแข่งขัน B-Quik Thailand Super Series และ TSS The Super Series by B-Quik 2025 ซึ่งปิดฤดูกาลเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทาง บริษัท เรซซิ่ง สปิริต จำกัด ผู้จัดการแข่งขันกีฬารถยนต์ทางเรียบระดับนานาชาติ ต้องขอขอบคุณการตอบรับอย่างมากมาย ทั้งจากนักแข่ง และทีมแข่ง ในทุกรุ่นการแข่งขันที่มีมาอย่างต่อเนื่อง

     

    โดยเฉพาะอย่างยิ่งทุกๆ การติดตาม และการสนับสนุนจากแฟนมอเตอร์สปอร์ต และแฟนรายการ B-Quik Thailand Super Series และ TSS The Super Series by B-Quik ซึ่งเปรียบเสมือน “กำลังใจ” ให้ บริษัท เรซซิ่ง สปิริต จำกัด ในฐานะ “ผู้จัด” ให้ก้าวต่อไปเพื่อผลักดัน และพัฒนายกระดับมาตรฐาน “การจัดการแข่งขัน” ในฤดูกาลต่อๆ ไปให้ดียิ่งขึ้น

    และจนกว่าจะพบกันใหม่ แฟนรายการที่พลาดรับชมความมันส์ ความดุเดือด ตลอดฤดูกาลของการแข่งขัน B-Quik Thailand Super Series และ TSS The Super Series by B-Quik 2025 สามารถรับชมย้อนหลัง รวมถึงข่าวสาร ความเคลื่อนไหวต่างๆ ได้จากหลากหลายช่องทาง อาทิ Facebook Fanpage : Thailand Super Series, www.thailandsuperseries.net, และ Youtube : Thailand Super Series


    ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย

    Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
    Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
    Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
    instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
    Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
    Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
    Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine


    No Comment
  • กลุ่มธนบุรี ผนึก GEELY จัดประชุมผู้จำหน่ายทั่วประเทศ ชูแผนเปิดตัว GEELY EX2 พร้อมยกระดับบริการหลังการขาย

    1 Min Read

    กลุ่มธนบุรี ผนึก GEELY จัดประชุมผู้จำหน่ายทั่วประเทศ ชูแผนเปิดตัว GEELY EX2 พร้อมยกระดับบริการหลังการขาย

    กลุ่มธนบุรี ภายใต้ชื่อ บริษัท ธนบุรีนอยสเติร์น จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายรถยนต์แบรนด์ จีลี่ (GEELY) อย่างเป็นทางการในประเทศไทย จัดงาน GEELY Dealer Conference ภายใต้แนวคิด ‘Ignite the Future’ จุดประกายอนาคตแห่งการขับเคลื่อนใหม่ของ GEELY ณ โรงแรมไฮแอท รีเจนซี่ กรุงเทพ สุวรรณภูมิ แอร์พอร์ต เผยทิศทางแบรนด์และกลยุทธ์การตลาดแก่พันธมิตรและผู้จำหน่ายทั่วประเทศ พร้อมผนึกกำลังวางแผนเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ GEELY EX2 ที่เตรียมประกาศราคาครั้งแรกใน Motor Expo 2025 งานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 42 ช่วงปลายเดือนพฤศจิกายนนี้ มุ่งขยายพอร์ตผลิตภัณฑ์สู่เซกเมนต์ใหม่ ควบคู่การยกระดับบริการหลังการขายด้วยประสบการณ์ 85 ปีของกลุ่มธนบุรี เพื่อเสริมศักยภาพเครือข่ายผู้จำหน่ายและสร้างความมั่นใจสูงสุดแก่ลูกค้าชาวไทยในทุกมิติ

    นายณรงค์ สีตลายน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ธนบุรีนอยสเติร์น จำกัด เผยว่า “ท่ามกลางการแข่งขันที่ดุเดือดในตลาดยานยนต์ไฟฟ้าของไทยจากการเข้ามาของหลากหลายแบรนด์ใหม่ สิ่งนี้สะท้อนชัดเจนว่าตลาดยังคงมีศักยภาพการเติบโตสูง และนี่คือโอกาสที่ GEELY จะเข้ามาสร้างจุดยืนที่ชัดเจนได้อย่างแท้จริง ความสำเร็จของ GEELY EX5 นับตั้งแต่เปิดตัวเมื่อปลายปีที่ผ่านมา ด้วยยอดจองและการส่งมอบที่เป็นไปตามแผน คือหนึ่งในข้อพิสูจน์ถึงความเชื่อมั่นจากผู้บริโภคชาวไทย และเพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับไลน์ผลิตภัณฑ์พร้อมมอบทางเลือกใหม่ตอบโจทย์หลากหลายเซกเมนต์มากขึ้น เราจึงเตรียมเปิดตัว GEELY EX2 รุ่นพวงมาลัยขวาครั้งแรกในโลก ในช่วงปลายปี 2568 นี้ ขณะเดียวกัน เรายังวางรากฐานระยะยาวผ่านแผนขยายโชว์รูมและศูนย์บริการกว่า 40 แห่งภายในปีนี้ โดยมุ่งยึดมาตรฐานที่เป็นหนึ่งเดียวกันทั่วประเทศ รวมถึงเตรียมเปิดตัวโชว์รูมระดับเรือธงแห่งแรกในประเทศไทยเร็วๆ นี้ ซึ่งจะเป็นศูนย์กลางการบริการที่สร้างประสบการณ์ใหม่ที่แตกต่างแก่ลูกค้าไทย โดยมุ่งเป้าสร้างการเติบโตไปพร้อมกับพันธมิตรและผู้จำหน่ายทั่วประเทศ ควบคู่ไปกับการสร้างความเชื่อมั่นของผู้บริโภค”

    ภายในงานฯ บริษัท ธนบุรีนอยสเติร์น จำกัด ตอกย้ำความมุ่งมั่นในการเป็นผู้นำตลาดรถยนต์ไฟฟ้า ด้วยการประกาศนโยบายและแผนกลยุทธ์เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน โดยชูจุดเด่นและสร้างความแตกต่างของผลิตภัณฑ์นวัตกรรมยานยนต์ไฟฟ้าที่ไม่เพียงโดดเด่นด้านคุณภาพและเทคโนโลยีล้ำสมัย แต่ยังถูกออกแบบมาอย่างพิถีพิถันเพื่อให้ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคชาวไทย โดยทางบริษัทฯ มีแผนที่จะเปิดตัวนวัตกรรมยานยนต์ไฟฟ้า GEELY รุ่นใหม่เข้าตลาดประเทศไทยอย่างน้อย 1 รุ่นในทุกๆ ปี เสริมความแข็งแกร่งด้วยแผนการขายและการตลาด 360 องศา ควบคู่ไปกับการยกระดับมาตรฐานบริการหลังการขาย ผ่านแผนการขยายเครือข่ายผู้จำหน่ายเพื่อเข้าถึงลูกค้ากลุ่มเป้าหมายได้ครอบคลุมยิ่งขึ้น ซึ่งปัจจุบันมีโชว์รูมและศูนย์บริการที่เปิดดำเนินการแล้ว 26 แห่ง โดยมุ่งเน้นการส่งมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดเพื่อสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าในทุกมิติ การผสานความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ร่วม 85 ปีของกลุ่มธนบุรี เข้ากับศักยภาพของ GEELY ในฐานะผู้นำยนตรกรรมระดับโลกนี้จะช่วยผลักดันให้ GEELY ก้าวขึ้นสู่แถวหน้าในตลาดอีวีไทยได้อย่างมั่นคง

     

    มร. แดเนียล ต่ง ผู้อำนวยการอาวุโส บริษัท จีลี่ ออโต้ อินเตอร์เนชั่นแนล คอร์ปอเรชั่น กล่าวเสริมว่า “GEELY มองว่าประเทศไทยคือหนึ่งในตลาดยานยนต์ไฟฟ้าที่มีศักยภาพสูงสุดในภูมิภาคอาเซียน ด้วยปัจจัยสนับสนุนทั้งด้านนโยบายจากภาครัฐ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานยานยนต์ไฟฟ้า และความพร้อมของผู้บริโภคที่เปิดรับนวัตกรรมใหม่อย่างเต็มที่ ทำให้ประเทศไทยมีบทบาทสำคัญในฐานะศูนย์กลางการขับเคลื่อนยานยนต์พลังงานไฟฟ้าในภูมิภาคนี้ การเปิดตัว GEELY EX2 ในประเทศไทย ไม่เพียงแต่จะสร้างความเชื่อมั่นแก่ผู้บริโภค แต่ยังเป็นการตอกย้ำว่า GEELY พร้อมสนับสนุนพันธมิตรอย่าง ธนบุรีนอยสเติร์น อย่างเต็มที่ ทั้งในด้านการนำเข้าผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ และการสร้างระบบนิเวศของแบรนด์ที่แข็งแกร่ง เพื่อร่วมกันผลักดันให้ประเทศไทยก้าวขึ้นเป็นผู้นำในตลาดยานยนต์ไฟฟ้าของภูมิภาคอาเซียน”

    ทั้งนี้ GEELY EX2 ได้รับเสียงตอบรับอย่างล้นหลามจากการเผยโฉมครั้งแรกในประเทศไทยภายในงาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 46 เมื่อต้นปีที่ผ่านมา ภายใต้ชื่อ GEELY Star Wish ยนตรกรรมไฟฟ้าแฮทช์แบ็กขนาดกะทัดรัดที่พร้อมสร้างมาตรฐานใหม่ในตลาดรถไฟฟ้าขนาดเล็กของประเทศไทย โดดเด่นด้วยดีไซน์โค้งมนอันเป็นเอกลักษณ์ทั้งภายนอกและภายใน ที่ถูกออกแบบมาอย่างประณีต และยังครบครันด้วยระบบเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย ซึ่งมีกำหนดประกาศราคาจำหน่ายอย่างเป็นทางการในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 42 ที่จะถึงนี้ โดยธนบุรีนอยสเติร์นเชื่อมั่นว่า GEELY EX2 จะเป็นอีกหนึ่งรุ่นสำคัญในการขยายฐานลูกค้าในประเทศไทยสำหรับ GEELY ในอนาคต

     

    สำหรับลูกค้าที่สนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ โทร. 02-081-9999 ตลอด 24 ชั่วโมง หรือ ติดตามข่าวสารและข้อมูลเพิ่มเติมได้ทางเว็บไซต์  www.thonburineustern.com และ เฟสบุ๊ค Geely Thonburi Thailand


    No Comment
  • รถจักรยานยนต์ฮอนด้า นำทัพไลน์อัปในงาน EICMA 2025 ด้วยจักรยานยนต์ CB1000GT รุ่นใหม่ พร้อมเปิดตัวจักรยานยนต์ไฟฟ้า Honda WN7 เป็นครั้งแรกในโลก เพิ่มรุ่นจักรยานยนต์กลุ่ม Honda E-Clutch และชูต้นแบบเครื่องยนต์ V3R 900 E-Compressor

    2 Min Read

    รถจักรยานยนต์ฮอนด้า นำทัพไลน์อัปในงาน EICMA 2025 ด้วยจักรยานยนต์ CB1000GT รุ่นใหม่ พร้อมเปิดตัวจักรยานยนต์ไฟฟ้า Honda WN7 เป็นครั้งแรกในโลก เพิ่มรุ่นจักรยานยนต์กลุ่ม Honda E-Clutch และชูต้นแบบเครื่องยนต์ V3R 900 E-Compressor

    รถจักรยานยนต์ฮอนด้า เผยโฉมไลน์อัปใหม่ที่เสริมทัพความหลากหลายรับปี 2026 ภายในงาน EICMA ที่เมืองมิลาน ประเทศอิตาลี โดยมีไฮไลต์สำคัญคือ CB1000GT “สปอร์ตทัวเรอร์” รุ่นใหม่ และ Honda WN7 จักรยานยนต์ไฟฟ้ารุ่นแรกของฮอนด้า พร้อมกันนี้ รถจักรยานยนต์ฮอนด้า ยังภูมิใจนำเสนอต้นแบบเครื่องยนต์ V3R 900 E-Compressor Prototype ซึ่งรวมร่างเครื่องยนต์ V3 รุ่นใหม่เข้ากับคอมเพรสเซอร์ชนิดควบคุมด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ สะท้อนพัฒนาการของเทคโนโลยีเครื่องยนต์ที่ไม่เคยมีใครในโลกทำได้มาก่อน* โดดเด่นด้วยโครงสร้างแชสซีสะดุดตา ยิ่งไปกว่านั้น ด้วยความมุ่งมั่นในการส่งมอบเทคโนโลยีล้ำสมัยให้เข้าถึงผู้ขับขี่ทุกกลุ่มจึงได้เพิ่มเทคโนโลยี Honda E-Clutch ให้ครอบคลุมจักรยานยนต์ยอดนิยมเพิ่มอีก 5 รุ่น ตามมาด้วยการเผยโฉมจักรยานยนต์รุ่น CB1000F เป็นครั้งแรกในยุโรป, ปรับโฉมจักรยานยนต์รุ่น SH125i ครั้งใหญ่ รวมทั้งเปิดตัวแบรนด์ดิ้งใหม่สำหรับรถ EV และคอลเลกชันเครื่องแต่งกายใหม่หมดจด ตอกย้ำเจตนารมณ์ของฮอนด้าในการตอบสนองทุกความต้องการของผู้ขับขี่ด้วยกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายและครบถ้วนที่สุดในอุตสาหกรรมรถจักรยานยนต์

     

    CB1000GT

    CB1000GT สปอร์ตทัวเรอร์รุ่นใหม่ล่าสุด เติมเต็มไลน์อัปของฮอนด้าด้วยทางเลือกสำหรับผู้ขับขี่ที่ต้องการรถจักรยานยนต์ที่ครบครันทุกฟังก์ชัน อัดแน่นด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย มอบความสะดวกสบายสูงสุดในการเดินทางระยะไกล พร้อมความเร้าใจเมื่อเข้าสู่ทางโค้งคดเคี้ยว เครื่องยนต์ขับเคลื่อนได้รับอิทธิพลจากจักรยานยนต์ตระกูล Fireblade ขุมพลังเดียวกับที่ใช้ใน CB1000 Hornet รุ่น GT ผสานทั้งสมรรถนะสปอร์ตและความสบายในการเดินทางไกลได้อย่างลงตัว โดดเด่นด้วยดีไซน์ดุดัน โช้กอัป Showa EERA[1] (Electronically Equipped Ride Adjustment) และแฟริ่งที่ออกแบบมาอย่างลงตัวด้วยระบบจำลองการไหลของอากาศด้วยคอมพิวเตอร์ เพื่อประสิทธิภาพด้านอากาศพลศาสตร์และการป้องกันลมฝนอย่างสูงสุด พ่วงด้วยรายการอุปกรณ์มาตรฐานอย่างจัดเต็ม ทั้งระบบคันเร่งไฟฟ้า (Throttle-by-Wire), กล่องสัมภาระด้านหลัง, ระบบควบคุมแรงดันเบรกขณะเข้าโค้ง (cornering ABS) ด้วยเซนเซอร์วัดความเฉื่อย (IMU) แบบ 6 แกน, การ์ดแฮนด์, ขาตั้งกลาง, ระบบเปลี่ยนเกียร์รวดเร็วโดยไม่ต้องบีบคลัตช์ (Quickshifter), ปลอกแฮนด์อุ่นมือ, ไฟเลี้ยวตัดอัตโนมัติ, ไฟฉุกเฉินกระพริบอัตโนมัติเมื่อเบรกกะทันหัน (emergency stop signal), ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (cruise control) และการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ภายนอกผ่าน Honda RoadSync

     

    Honda WN7

    รถจักรยานยนต์ฮอนด้า เปิดตัว Honda WN7 รถจักรยานยนต์ไฟฟ้ารุ่นแรกของแบรนด์อย่างเป็นทางการในงาน EICMA ซึ่งพัฒนาให้ขับขี่ได้เงียบ นุ่มนวล และเร่งความเร็วได้ทันใจในแบบเฉพาะของรถไฟฟ้าภายใต้แนวคิด “Be the Wind” โดยผ่านการทดสอบบนถนนมาแล้วทั่วยุโรป เพื่อให้มั่นใจว่า Honda WN7 จะสามารถถ่ายทอดเอกลักษณ์แห่งความสนุก สมดุล และความมั่นคงในสไตล์ของรถจักรยานยนต์ฮอนด้าได้อย่างเต็มเปี่ยม

     

    Honda WN7 มาพร้อมแบตเตอรี่ลิเทียมไอออนขนาด 9.3 กิโลวัตต์ชั่วโมง ทำงานร่วมกับมอเตอร์ขนาด 18 กิโลวัตต์[2] รองรับใบอนุญาตขับขี่ระดับ A2 (A2 Licence Compliant) ให้ระยะทางวิ่งได้ถึง 140 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง ซึ่งนอกจากจะชาร์จไฟบ้านได้แล้ว ยังสามารถชาร์จผ่านระบบ CCS2[3] (Combined Charging System Type 2) แบบเดียวกับของรถยนต์ไฟฟ้าได้ด้วย โดยใช้เวลาเพียง 30 นาทีในการชาร์จจาก 20% เป็น 80% ส่วนด้านสมรรถนะและเทคโนโลยี ครบครันด้วยไฟส่องสว่างแบบ full LED รอบคัน, “ไฟวิ่งกลางวัน” ลายเฉพาะ, แชสซีแบบไร้เฟรม, ระบบช่วยเข็นเดินหน้า/ถอยหลัง, โหมดกำลังขับเคลื่อนหลายระดับ, ระบบเลือกการหน่วงขณะชะลอความเร็วจากการชาร์จพลังงานกลับเข้าสู่แบตเตอรี่ (Regenerative Deceleration Selector), โหมดเดินหน้า/ถอยหลังแบบความเร็วเท่าเดิน, ระบบช่วยจำกัดความเร็วแบบปรับตั้งได้ (SSLA : Selectable Speed Limit Assist), ระบบควบคุมแรงดันเบรกขณะเข้าโค้ง (Cornering ABS) และระบบควบคุมแรงบิด Honda Selectable Torque Control (HSTC)

     

    นอกจากจากดีไซน์เพรียว ล้ำอนาคตแล้ว จักรยานยนต์ไฟฟ้ารุ่นนี้ยังเสริมความสมบูรณ์แบบด้วยตราสัญลักษณ์ผลิตภัณฑ์ฮอนด้าแบบใหม่ สมความล้ำ นับเป็นการเปิดตัวทั้ง Honda WN7 และแบรนด์ดิ้งใหม่สำหรับกลุ่มรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าไปพร้อม ๆ กัน

     

    V3R 900 E-Compressor Prototype

    รถจักรยานยนต์ฮอนด้า พัฒนาเครื่องยนต์ใหม่ให้มีขนาดกะทัดรัด ด้วยความจุ 900 ซีซี โดยใช้พื้นฐานการออกแบบจากเครื่องยนต์ V3 ที่ตัวลูกสูบจัดเรียงในมุม 75 องศาแบบตัววีและระบายความร้อนด้วยน้ำ (water-cooled 75-degree V3 engine) ซึ่งเคยเปิดตัวเป็นต้นแบบแล้วในงาน EICMA 2024 ที่ผ่านมา เครื่องยนต์รุ่นนี้มาพร้อมคอมเพรสเซอร์ชนิดควบคุมด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ นับเป็นครั้งแรกของโลกในรถจักรยานยนต์ ช่วยให้แรงบิดตอบสนองได้ฉับไวตั้งแต่รอบต่ำ ด้วยการควบคุมแรงอัดของอากาศที่ไหลเข้าสู่เครื่องยนต์โดยไม่ขึ้นกับรอบการทำงาน ซึ่งเป็นคุณสมบัติสำคัญที่ผลักดันให้ฮอนด้ามุ่งพัฒนาเครื่องยนต์ขนาด 900 ซีซี ที่ให้สมรรถนะเหนือระดับเทียบเท่าเครื่องยนต์ 1200 ซีซีได้ พร้อมทั้งยังคงไว้ซึ่งความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ต้นแบบรุ่นนี้พัฒนาภายใต้แนวคิด “รถไฟเหาะแบบไม่ต้องพึ่งราง” (“Non-rail Rollercoaster”) สื่อถึงความตั้งใจของฮอนด้าในการสร้างรถที่ผสานสองแนวคิดเข้าด้วยกันคือ “เร้าใจแน่” (guaranteed thrill) และ “สบายใจหายห่วง” (reassuring peace of mind) ตัวรถมาพร้อมแฟริ่งด้านข้างดีไซน์ไม่สมมาตร ถังน้ำมันติดตราสัญลักษณ์ “Honda Flagship Wing” แบบใหม่ที่เริ่มใช้เป็นครั้งแรก ฮอนด้าตั้งใจให้ต้นแบบเครื่องยนต์ V3R 900 E-Compressor Prototype เป็นอีกหนึ่งหมุดหมายใหม่ในเส้นทางแห่งความท้าทาย เพื่อมอบประสบการณ์ความสนุก ความตื่นเต้น และความภาคภูมิใจของการเป็นเจ้าของในแบบที่หาไม่ได้จากที่อื่น หลังจากนี้ฮอนด้าพร้อมแล้วที่จะเดินเครื่องสู่การผลิตจริงต่อไป

     

    จักรยานยนต์ XL750 Transalp, CB750 Hornet, NX500, CBR500R และ CB500 Hornet ทั้งหมดนี้ในรุ่นปี 2026 (26YM) มี Honda E-Clutch ให้เลือกแล้ว

    สำหรับรุ่นปี 2026 (26YM) ระบบคลัตช์อัตโนมัติ Honda E-Clutch ซึ่งเปิดตัวครั้งแรกในรถ 4 สูบคลาสมิดเดิลเวท (4-cylinder middleweight) อย่าง CBR650R และ CB650R เมื่อปี 2024 จะพร้อมให้เลือกเป็นออปชันในรถอีก 5 รุ่นเป็นครั้งแรก ระบบนี้เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของฮอนด้า ทำงานได้รวดเร็วและนุ่มนวลยิ่งกว่า Quickshifter (ระบบเปลี่ยนเกียร์รวดเร็วโดยไม่ต้องบีบคลัตช์) มอบประสบการณ์การขับขี่สไตล์สปอร์ตเหนือระดับ อีกทั้งยังใช้งานง่าย เพียงใช้เท้าเปลี่ยนเกียร์ ไม่ต้องบีบคลัตช์เวลาออกตัว หยุดรถ หรือเปลี่ยนเกียร์ แต่หากต้องการก็ยังสามารถใช้คลัตช์แบบปกติได้ เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นในการขับขี่ สำหรับรุ่น Transalp และ Hornet ระบบ Honda E-Clutch ติดตั้งมาพร้อมระบบคันเร่งไฟฟ้า (Throttle-by-Wire) เป็นครั้งแรก ช่วยให้ระบบสามารถเร่งรอบเครื่องยนต์อัตโนมัติ เพื่อปรับรอบเครื่องให้สัมพันธ์กับความเร็วของล้อหลัง และลดเกียร์ได้อย่างนุ่มนวลและแม่นยำยิ่งขึ้น ขณะเดียวกันในรุ่น Transalp ยังได้รับการปรับแต่งให้สามารถเพิ่มเกียร์ได้อย่างราบรื่น แม้ในช่วงที่ล้อหลังกำลังหมุนอยู่ระหว่างการขับขี่แบบออฟโรด โดยระบบ Honda E-Clutch ที่ทำงานร่วมกับระบบคันเร่งไฟฟ้า (Throttle-by-Wire) จะควบคุมการทำงานอย่างแม่นยำจากข้อมูลการตรวจจับความเร็วล้อหน้าและล้อหลัง

     

    นอกจากนี้ ระบบ Honda E-Clutch ยังมีให้เลือกเป็นออปชันในรถคลาส 500 ซีซี ยอดนิยมอีก 3 รุ่น ได้แก่ CB500 Hornet, NX500 และ CBR500R ซึ่งการผสานความสปอร์ต ความง่ายในการใช้งาน และประโยชน์ใช้สอยอเนกประสงค์นี้ นับเป็นการเปิดมิติใหม่ของการขับขี่ให้กับผู้ขับขี่หลากหลายกลุ่มที่ชื่นชอบทั้งสามรุ่นนี้อยู่แล้ว อีกทั้งยังเป็นครั้งแรกที่เทคโนโลยี Honda E-Clutch เข้ามาอยู่ในรถที่รองรับใบอนุญาตขับขี่ระดับ A2 เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ขับขี่รุ่นใหม่ไฟแรงทั่วยุโรปได้สัมผัสสมรรถนะเหนือระดับของเทคโนโลยีนี้อย่างแท้จริง

     

    SH125i

    SH125i สกู๊ตเตอร์ยอดนิยมอันดับหนึ่งของยุโรป กลับมาพร้อมโฉมใหม่ในรุ่นปี 2026 (26YM) ภายใต้ดีไซน์ที่เฉียบคมยิ่งขึ้น มาพร้อมลายไฟส่องสว่างใหม่ และหน้าจอ TFT ขนาด 5 นิ้ว ที่เพิ่มเสน่ห์ให้รุ่นนี้โดดเด่นยิ่งกว่าเดิม ด้านหน้าของตัวรถได้รับการออกแบบใหม่ด้วยแรงบันดาลใจจากรุ่น SH350i เพื่อผสานรูปลักษณ์ของจักรยานยนต์ตระกูล SH ทั้งสามรุ่นให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน โดยทั้งหมดผลิตที่โรงงานในเมืองอาเตสซา (Atessa) ประเทศอิตาลี ด้วยแนวคิดการออกแบบที่ให้ความรู้สึกถึงความเป็น “เส้นเดียว” จากหน้าจรดท้าย จักรยานยนต์ตระกูล SH รุ่นปี 2026 (26YM) จึงมีบุคลิกโดดเด่นด้วยความเรียบง่ายแต่สะดุดตา คงไว้ซึ่งจิตวิญญาณของ SH พร้อมพัฒนาให้ก้าวล้ำไปอีกขั้นจากรุ่นก่อนหน้า นอกจากนี้ ยังมีรุ่น SH150i สำหรับจำหน่ายในบางประเทศอีกด้วย

     

    CB1000F มาพร้อมสีใหม่หลายรุ่น

    ภายในงาน EICMA รถจักรยานยนต์ฮอนด้ายังได้จัดแสดง CB1000F จักรยานยนต์แนวเรโทรสมรรถนะสูง มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เป็นรถประเภท “Big Naked” ที่ควบคุมง่าย ตอบโจทย์ครบเครื่อง รูปลักษณ์เร้าใจ สเปกจัดเต็ม และขุมพลังแรงจากเครื่องยนต์ที่พัฒนาต่อยอดจากจักรยานยนต์ตระกูล Fireblade

    นอกจากนี้ ยังมีการเผยโฉมสีใหม่สำหรับ NC750X จักรยานสไตล์ครอสโอเวอร์, SH350i รุ่นเรือธงแห่งตระกูล SH รวมถึง “ทัวเรอร์” ระดับตำนาน ได้แก่จักรยานยนต์ทางไกลรุ่น Gold Wing และ Gold Wing Tour ซึ่งชื่อ Gold Wing นี้กำลังก้าวเข้าสู่ทศวรรษที่หกของการผลิตอย่างภาคภูมิ

    การคอลแล็บกันระหว่างแบรนด์ Honda × Kuromi

    อีกหนึ่งไฮไลต์ภายในบูธของฮอนด้าในงาน EICMA คือรถจักรยานยนต์รุ่นพิเศษสองรุ่นที่ตกแต่งลวดลาย “คุโรมิ” (Kuromi) ตัวการ์ตูนยอดนิยมของบริษัท ซานริโอ จำกัด (Sanrio Co., Ltd.) ซึ่งฮอนด้าได้จับมือคอลแล็บเพื่องาน EICMA นี้โดยเฉพาะ ประกอบด้วยรุ่น CB750 Hornet ในโทนสีม่วง-ชมพู และรุ่น CBR1000RR-R Fireblade ในโทนสีดำ-ม่วงในแบบของคุโรมิ สะท้อนความตั้งใจของฮอนด้าในการขยายฐานลูกค้ารถจักรยานยนต์ให้ตอบโจทย์ผู้ใช้ทุกกลุ่ม

     

    ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

    เว็บไซต์: www.thaihonda.co.th

    เฟซบุ๊กรถจักรยานยนต์ฮอนด้า: www.facebook.com/hondamotorcyclethailand

    IG: www.instagram.com/hondamotorcyclethailand

    TikTok: www.tiktok.com/@hondamotorcycletha

    YouTube: www.youtube.com/HondaMotorcycleTHA

     

    #รถจักรยานยนต์ฮอนด้า #มอเตอร์ไซค์ฮอนด้า #HondaMotorcycle #ThaiHonda #ไทยฮอนด้า


    ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย

    Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
    Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
    Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
    instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
    Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
    Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
    Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine

    No Comment
  • ทำความรู้จักกับ “Jack Wey” ผู้นำด้านยานยนต์ระดับโลก และผู้ก่อตั้งแบรนด์ GWM WEY

    1 Min Read

    ทำความรู้จักกับ “Jack Wey” ผู้นำด้านยานยนต์ระดับโลก และผู้ก่อตั้งแบรนด์ GWM WEY

    GWM (Thailand) ยกระดับสู่การเป็นแบรนด์รถยนต์ที่มีผลิตภัณฑ์ครอบคลุมทุกประเภทพลังงาน เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานทั่วทุกมุมโลก ภายใต้แนวคิด “ครอบคลุมทุกการใช้งาน (All Scenarios) ด้วยผลิตภัณฑ์ที่ครอบคลุมทุกพลังงาน (All Powertrains) สู่การตอบสนองทุกกลุ่มผู้ใช้งานอย่างแท้จริง (All Users)” แนวคิดดังกล่าวสะท้อนถึงทิศทางการเติบโตของ GWM ในฐานะแบรนด์ระดับโลกที่ให้ความสำคัญกับความยั่งยืน นวัตกรรม และเทคโนโลยียานยนต์อัจฉริยะ ภายใต้การนำของ แจ็ค เวย์ (Jack Wey) ประธานและผู้ก่อตั้ง GWM ผู้ผลักดันให้แบรนด์จีนก้าวขึ้นสู่การเป็นผู้ผลิตรถยนต์ระดับโลกอย่างแข็งแกร่งและมั่นคง

    จากชายหนุ่มชาวเป่าติ้ง สู่ผู้นำวงการยานยนต์จีน

    • แจ็ค เวย์ เกิดเมื่อปี 1964 ที่เมืองเป่าติ้ง มณฑลเหอเป่ย์ ประเทศจีน เติบโตในครอบครัวที่มีพื้นฐานด้านอุตสาหกรรม ก่อนเริ่มต้นเส้นทางชีวิตจากการทำงานในโรงงานพรม และโรงงานปั๊มน้ำ ซึ่งกลายเป็นรากฐานสำคัญที่ทำให้เขาเข้าใจระบบการผลิตอย่างลึกซึ้ง
    • แจ็ค เวย์ ได้รับรถคันแรกในชีวิตจากบิดา ในวันเกิดครบรอบ 20 ปีของเขาในปี 1984 ซึ่งเป็นรถลาดามือสองที่นำเข้าจากสหภาพโซเวียต ตั้งแต่เด็ก เขาใฝ่ฝันที่จะเป็นนักแข่งรถ ด้วยรถลาดาคันนั้น เขาได้เรียนรู้เทคนิคการดริฟท์และเริ่มแสดงความสามารถให้ประจักษ์ในบ้านเกิดของเขาที่เมืองเป่าติ้ง ทักษะการขับขี่ของเขาทำให้ได้รับฉายาว่า “The Car God of Baoding” หรือ “เทพแห่งรถ เมืองเป่าติ้ง”
    • ในปี 1990 ขณะมีอายุเพียง 26 ปี เขาเข้ามาบริหารกิจการ Great Wall Automobile Industry Company ซึ่งในขณะนั้นมีพนักงานเพียง 60 คน และบริษัทกำลังเผชิญภาวะขาดทุน แต่ด้วยความมุ่งมั่นรวมถึงวิสัยทัศน์ที่แตกต่าง เขาได้พลิกฟื้นองค์กรให้กลับมาทำกำไรได้ภายในเวลาไม่กี่ปี
    • ในปี 1996 เริ่มผลิตรถกระบะรุ่น Deer เข้าสู่ตลาดจีนอย่างเป็นทางการ ก่อนจะก่อตั้ง Great Wall Group Co., Ltd. ในปี 1998 พร้อมประกาศปรัชญาองค์กรที่กลายเป็นหัวใจของ GWM ว่า “Improving little by little every day.” (พัฒนาขึ้นเรื่อย ๆ อย่างมั่นคงในทุก ๆ วัน)

    จุดเริ่มต้นจากแรงบันดาลใจในประเทศไทย

    จุดเปลี่ยนครั้งสำคัญของชีวิตเกิดขึ้นราวปี 1995 เมื่อ แจ็ค เวย์ เดินทางมาประเทศไทย และได้เห็นว่ารถกระบะคือหัวใจของวิถีชีวิตคนไทย รถหนึ่งคันสามารถใช้ได้ทั้งบรรทุกสินค้า ทำธุรกิจ หรือเป็นพาหนะของครอบครัว ภาพนั้นได้จุดประกายความคิดให้เขากลับไปพัฒนารถกระบะที่ “แข็งแรง สมบุกสมบัน และใช้งานได้จริง” สำหรับคนจีน แรงบันดาลใจจากประเทศไทยจึงกลายเป็นจุดเริ่มต้นของ Great Wall Deer รถกระบะรุ่นแรกของ GWM ที่เปิดตัวในปี 1998 และประสบความสำเร็จอย่างล้นหลาม กลายเป็นรถกระบะยอดนิยมในประเทศจีน และเป็นหมุดหมายสำคัญที่ทำให้ชื่อของ GWM เริ่มเป็นที่รู้จักในระดับประเทศ

     

    การเติบโตสู่เวทีโลก

    • หลังจากความสำเร็จของ Deer, แจ็ค เวย์ ได้ต่อยอดด้วยการเปิดตัวแบรนด์ HAVAL SUV ในปี 2002 ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างดีเยี่ยมและได้รับรางวัลด้านความปลอดภัยจาก Euro NCAP ระดับ 4 ดาว ปี 2003 GWM เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง (H-share) ตามด้วยตลาดหุ้นจีน (A-share) ในปี 2011
    • ในปี 2011 บริษัทได้เปิดตัวรถ SUV รุ่นเรือธงคือ HAVAL H6 ซึ่งมีดีไซน์สวยงามและสมรรถนะสูง สามารถครองใจตลาดจีนได้ทันที จนกลายเป็นรถ SUV ขายดีอันดับหนึ่งของจีนติดต่อกันถึง 108 เดือน จากความสำเร็จนี้ แบรนด์ HAVAL ได้แยกตัวออกมาเป็นอิสระอย่างเต็มรูปแบบในปี 2013 และยังคงขยายการเติบโตในตลาดโลกอย่างต่อเนื่องด้วยรุ่น H7 และ F Series รวมถึงการสร้างพันธมิตรทางเทคโนโลยีเชิงกลยุทธ์กับ BMW Group
    • ภายในปี 2019 GWM มียอดขายสะสมทั่วโลกกว่า 5 ล้านคัน และก้าวขึ้นเป็นหนึ่งในผู้ผลิตรถ SUV และกระบะที่ใหญ่ที่สุดของจีน ปัจจุบันมีพนักงานมากกว่า 70,000 คน โรงงานผลิตครบวงจร 13 แห่ง และศูนย์วิจัยและพัฒนาในกว่า 10 เมือง 7 ประเทศ
    • ณ เดือนมกราคม 2025 GWM ขยายเครือข่ายครอบคลุมกว่า 170 ประเทศ​ 400 เมือง และ 700 โชว์รูมทั่วโลก พร้อมยอดขายสะสมของแบรนด์ WEY กว่า 600,000 คันทั่วโลก ล่าสุดในเดือนตุลาคม 2025 GWM WEY ทำยอดขายได้ถึง 12,699 คัน โดยเฉพาะในกลุ่มรถ MPV ที่ทำยอดขายได้มากกว่า 10,000 คัน จนกลายเป็นแบรนด์อันดับหนึ่งในกลุ่มรถ MPV ของประเทศจีน

    WEY – แบรนด์ลักชัวรี่ที่สะท้อนชื่อผู้ก่อตั้ง

    แบรนด์ WEY (เวย์) ถือกำเนิดขึ้นในปี 2018 และตั้งชื่อตามนามสกุลของผู้ก่อตั้ง “Wey” ซึ่งทำให้ WEY กลายเป็น แบรนด์ยานยนต์จีนระดับหรูแบรนด์แรก และเป็นแบรนดแรกที่ใช้ชื่อของผู้ก่อตั้งเป็นชื่อแบรนด์ สะท้อนถึง “เกียรติยศ ความรับผิดชอบ และความเชื่อมั่น” ของ แจ็ค เวย์ ที่มีต่อคุณภาพและนวัตกรรมของยานยนต์จีน ตั้งแต่เริ่มต้น WEY ยึดพันธกิจ “Making Luxury Accessible” หรือ “ทำให้ความหรูหราเข้าถึงได้” โดย GWM ได้รวบรวมทีมวิจัยและพัฒนากว่า 1,600 คนทั่วโลก ใช้เวลาถึง 4 ปีเต็ม เพื่อสร้างแบรนด์นี้ขึ้นอย่างพิถีพิถัน มุ่งสู่ตลาดรถยนต์พรีเมียมระดับกลางถึงสูง และเป็นความพยายามครั้งสำคัญในการ “ท้าทายการผูกขาดของแบรนด์ต่างชาติในตลาด SUV หรู” แจ็ค เวย์ เคยกล่าวอย่างภาคภูมิว่า “This is brand I’ve staked my surname on.” (นี่คือแบรนด์ที่ผมเดิมพันด้วยนามสกุลของผมเอง) และอีกประโยคที่เป็นตำนานของเขา “I will defend the brand’s honor like I defend that of my family.” (ผมจะปกป้องเกียรติของแบรนด์ เหมือนที่ผมปกป้องเกียรติของครอบครัว)

    แรงบันดาลใจของโลโก้

    โลโก้ของ GWM WEY ได้แรงบันดาลใจจาก “เสาธง” หน้าคฤหาสน์ผู้ว่าราชการมณฑลจื้อหลี่ (Zhili Governor’s Mansion) ในเมืองเป่าติ้ง ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ทางประวัติศาสตร์กว่า 300 ปี สื่อถึงความมั่นคง ความเป็นผู้นำ และรากฐานที่แข็งแรงของแบรนด์ คำว่า “POATING” ใต้สัญลักษณ์ คือชื่อภาษาอังกฤษของเมืองเป่าติ้ง อันเป็นบ้านเกิดของ แจ็ค เวย์ และสำนักงานใหญ่ของ GWM ดีไซน์ของโลโก้มีความเรียบหรู ทันสมัย และสื่อถึงความจริงใจของแบรนด์ เป็นการผสมผสานระหว่างความสง่างามแบบสากล และความภาคภูมิใจในรากเหง้าของจีน


    ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย

    Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
    Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
    Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
    instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
    Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
    Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
    Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine

    No Comment
  • “ไม้คิว-เกียรติศักดิ์” พลิกสถานการณ์ เก็บแต้ม จูเนียร์จีพี เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ บาร์เซโลนา ประเทศสเปน

    1 Min Read

    “ไม้คิว-เกียรติศักดิ์” พลิกสถานการณ์ เก็บแต้ม จูเนียร์จีพี เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ บาร์เซโลนา ประเทศสเปน

    “ไม้คิว” เกียรติศักดิ์ สิงหพงศ์ หมายเลข 85 ยอดนักบิดดาวรุ่งจาก ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ ลงแข่งขันเก็บประสบการณ์สนามระดับโลกในศึกดาวรุ่งชิงแชมป์โลกรายการเอฟไอเอ็ม จูเนียร์จีพี เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ 2025 สนาม 6 ที่ เซอร์กิต เดอ บาร์เซโลนา-กาตาลุญญา ประเทศสเปน

    เกมการแข่งขันในเรซแรกมีขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 2 พฤศจิกายนที่ผ่านมา “ไม้คิว-เกียรติศักดิ์” ออกสตาร์ตด้วยอันดับ 27 ก่อนที่จะเรียนรู้เก็บทักษะประสบการณ์กับสนามสุดหินจบการแข่งขันด้วยอันดับที่ 28 จากนั้นตามต่อด้วยการแข่งขันเรซ 2 ในช่วงบ่ายนักแข่งดาวรุ่งไทยออกสตาร์ตด้วยอันดับ 18 ต่อสู้อย่างสุดกำลัง ขับเคี่ยวแย่งชิงแต้มกับนักบิดระดับดาวรุ่งของโลกอย่างดุเดือด ก่อนที่สุดท้ายแล้ว “ไม้คิว-เกียรติศักดิ์” จะทะยานจบการแข่งขันด้วยอันดับ 15 เก็บแต้มสะสมเพิ่มไปอีก 1 คะแนน

    “ไม้คิว-เกียรติศักดิ์” เก็บคะแนนสะสม รายการเอฟไอเอ็ม จูเนียร์จีพี เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ ประจำปี 2025 ได้ทั้งสิ้น 8 คะแนน และเหลือการแข่งขันสนามสุดท้ายที่ เซอร์กิต ริคาร์โด้ ทอร์โม ประเทศสเปน ระหว่างวันที่ 21-23 พฤศจิกายน นี้

    แฟนมอเตอร์สปอร์ตส่งกำลังใจเชียร์นักบิดฮอนด้า ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ : Honda Racing Thailand

    #HondaRacingThailand #RaceToTheDream #Motorsport #RoadToMotoGP #TheNextSuccessor #RookiesCup #Maikiw #Maikiw85 #KS85


    ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย

    Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
    Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
    Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
    instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
    Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
    Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
    Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine


    No Comment
  • เบนท์ลีย์ แบงค็อก อัดยาแรง ‘Final Extraordinary Offers’ ดีลเด็ดรถสต็อกมูลค่าสูง รับตลาดคึกคักส่งท้ายปี พร้อมเผยรับรถปีนี้ราคาดีที่สุด ก่อนปรับราคารับภาษีใหม่ ’69

    1 Min Read

    เบนท์ลีย์ แบงค็อก อัดยาแรง ‘Final Extraordinary Offers’ ดีลเด็ดรถสต็อกมูลค่าสูง รับตลาดคึกคักส่งท้ายปี พร้อมเผยรับรถปีนี้ราคาดีที่สุด ก่อนปรับราคารับภาษีใหม่ ’69

    เบนท์ลีย์ แบงค็อก โดย บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์เบนท์ลีย์อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย จัดดีล ‘Final Extraordinary Offers’ ส่งท้ายปี ข้อเสนอพิเศษมูลค่าสูงสำหรับรถยนต์เบนท์ลีย์พร้อมส่งมอบ เผยโครงสร้างภาษีใหม่ปี 2569 มีผลต่อราคาขายปลีกรถยนต์เบนท์ลีย์ที่จะปรับสูงขึ้นในปีหน้า แนะผู้ที่กำลังตัดสินใจครอบครองรถยนต์เบนท์ลีย์ควรพิจารณารับรถยนต์ภายในปีนี้ พร้อมรับราคาที่ดีที่สุดและข้อเสนอพิเศษเพื่อรักษาสิทธิประโยชน์ทางภาษีเดิม

    เบนท์ลีย์ แบงค็อก เผยว่านโยบายจากภาครัฐในเรื่องการปรับโครงสร้างภาษีสรรพสามิตใหม่ปี 2569 ในรถยนต์กลุ่มที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายใน (ICE) ขนาดความจุกระบอกสูบ 3,000 ซีซี ขึ้นไป จะส่งผลต่อราคาขายปลีกของรถยนต์เบนท์ลีย์ โดยอัตราโครงสร้างภาษีสรรพสามิตใหม่จะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 1 มกราคม 2569 เป็นต้นไป และจะมีผลทำให้ราคารถยนต์เบนท์ลีย์ รุ่น Bentayga แบบเครื่องยนต์ไฮบริด (PHEV) มีการปรับราคาขายสูงขึ้นเฉลี่ย 8-10% ในปีหน้า ดังนั้น ในปี 2568 นี้ จึงถือเป็นโอกาสที่ดีสำหรับผู้ที่กำลังตัดสินใจครอบครองรถยนต์เบนท์ลีย์ รุ่น Bentayga Hybrid เพื่อรักษาสิทธิประโยชน์ทางภาษีเดิมกับราคาที่ดีที่สุดพร้อมทั้งรับข้อเสนอพิเศษ โดยลูกค้าที่ทำการจองและออกรถยนต์เบนท์ลีย์ รุ่น Bentayga Hybrid ภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2568 จะยังคงได้รับราคาเดิมจากโครงสร้างภาษีสรรพสามิตปัจจุบัน อีกทั้ง บริษัทฯ ยังจัดทำ ‘Final Extraordinary Offers’ ข้อเสนอทางการเงินสุดพิเศษมูลค่าสูงที่สุดที่ไม่เคยมีมาก่อนส่งท้ายปีสำหรับผู้ที่สั่งจองรถยนต์เบนท์ลีย์ รุ่น Bentayga Hybrid พร้อมส่งมอบภายในเดือนพฤศจิกายน 2568 เพื่อเป็นการตอบรับกระแสความต้องการในตลาดรถยนต์ระดับอัลตราลักชูรีช่วงสิ้นปีก่อนการมีผลบังคับใช้โครงสร้างภาษีสรรพสามิตใหม่ในปีหน้า

    เบนท์ลีย์ แบงค็อก โดย บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด พร้อมส่งมอบรถยนต์เบนท์ลีย์ รุ่น Bentayga Hybrid ทันทีกับสต็อกเฉดสีและออปชันที่ครบครันและครอบคลุมทุกความต้องการกับราคาที่ดีที่สุด เริ่มต้นที่ 14.6 ล้านบาท พร้อมรับข้อเสนอพิเศษ ‘Final Extraordinary Offers’ เพื่อให้การตัดสินใจเป็นเจ้าของรถยนต์เบนท์ลีย์เป็นเรื่องง่าย และเหนือกว่าด้วยเอกสิทธิ์การบริการหลังการขายมาตรฐานโรงงานผู้ผลิตกับการรับประกันแบตเตอรี่ไฮบริดที่ ‘นานที่สุด’ 8 ปี หรือ 160,000 กิโลเมตร (อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน) การรับประกันโดยโรงงานและบริการผู้ช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง นาน 3 ปีเต็ม พร้อมสิทธิ์การต่อการรับประกันโดยโรงงานผู้ผลิต สูงสุด 4 ปี เอกสิทธิ์เฉพาะเมื่อเลือกครอบครองรถยนต์เบนท์ลีย์กับผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการเท่านั้น

     

    สำหรับผู้ที่สนใจครอบครองรถยนต์เบนท์ลีย์สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมและสำรองเวลาทดลองขับได้ที่ เบนท์ลีย์ แบงค็อก โดย บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์เบนท์ลีย์อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย โทร. 080-925-9999 หรือ 02-261-1050 LINE Official Account: @bentleybangkokaas คลิก https://lin.ee/4JOaZyE8V


    ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย

    Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
    Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
    Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
    instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
    Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
    Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
    Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine


    No Comment
  • “ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์” ผลักดันนักบิดไทยก้าวสู่เวทีญี่ปุ่น ส่ง “นีโม่-จิรัฎฐ์” ท้าทายศึก All Japan Motocross สนามสุดท้าย

    1 Min Read

    “ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์” ผลักดันนักบิดไทยก้าวสู่เวทีญี่ปุ่น ส่ง “นีโม่-จิรัฎฐ์” ท้าทายศึก All Japan Motocross สนามสุดท้าย

    “ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์” เดินหน้าพัฒนาศักยภาพนักบิดไทยอย่างต่อเนื่อง โดย “นีโม่” จิรัฎฐ์ วรรณลักษณ์ หมายเลข 47  แชมป์ประเทศไทยรุ่น Premier MX-1 450 ซีซี ฤดูกาล 2025 สร้างผลงานโดดเด่น คว้าอันดับที่ 2 ในการแข่งขัน D.I.D All Japan Motocross Championship รุ่น IA-1 สนามที่ 6 ผลการแข่งขันดังกล่าวนับเป็นอีกก้าวสำคัญของการพัฒนานักบิดไทย โดย “ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์” เดินหน้าสนับสนุน “นีโม่-จิรัฎฐ์” พร้อม “โค้ชโย-ชาคริต รุ่งสุวรรณ” ลงสู้ศึกสนามสุดท้าย ที่สนาม Sportland Sugo จังหวัดมิยางิ ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 1–2 พฤศจิกายน 2568 ที่ผ่านมา

    การแข่งขันสนามสุดท้าย นั้นสุดเข้มข้น เนื่องจากนักแข่งเจ้าถิ่นที่มีประสบการณ์และเชี่ยวชาญสภาพสนามมากกว่า เบียดลุ้นแชมป์ประจำปีพร้อมทั้งใช้การแข่งขันสนามนี้เป็นการชี้ขาด ซึ่งเป็นโอกาสของนักบิดไทยอย่าง “นีโม่-จิรัฎฐ์” พร้อมด้วยรถแข่ง Honda CRF450R สังกัด ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ ได้เรียนรู้กับด่านทดสอบสำคัญ

    “นีโม่-จิรัฎฐ์” ทำเวลาในรอบควอลิฟายรั้งอันดับ 15 ก่อนลงสนามรุ่น IA-1 ซึ่งแข่งขันกัน 2 เรซภายในวันเดียว โดยในเรซแรกที่ดวลกัน 25 นาทีและ 1 รอบสนาม “นีโม่” แสดงความแข็งแกร่งในการต่อสู้กับนักบิดเจ้าถิ่น ท่ามกลางสภาพสนามที่ท้าทายทั้งร่องลึกและไลน์การขับขี่ที่หลากหลาย ก่อนเข้าเส้นชัยในอันดับที่ 12

    การแข่งขันเรซที่ 2 นักแข่งไทย “นีโม่-จิรัฎฐ์” ใช้โอกาสในการเรียนรู้ได้อย่างยอดเยี่ยม ยกระดับความเร็วขึ้นมารั้งอันดับในกลุ่มนำ โดยขยับขึ้นมาอยู่ในท็อป 7 และต่อสู้กับยอดนักบิดญี่ปุ่นได้อย่างแข็งแกร่ง อย่างไรก็ดีโชคร้ายนักแข่งไทยประสบอุบัติเหตุระหว่างเกมส์ แต่ไม่ยอมแพ้ยกรถแข่งขึ้นมาสู้ต่อก่อนจบการแข่งขันเป็นอันดับที่ 12

    “ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์” มุ่งมั่นในการทำผลงานเพื่อแฟนความเร็วชาวไทย พร้อมผลักดันนักแข่งไทยเข้าสู่การแข่งขันในระดับที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยรายการทางฝุ่นเป้าหมายในซีซั่นต่อไปคือการป้องกันแชมป์ประเทศไทยใน 2 รุ่นท็อปสุด Premier MX-1 และ Premier MX-2 พร้อมทั้งพัฒนานักบิดไทยและสร้างความแข็งแกร่งให้กับวงการมอเตอร์สปอร์ตไทย

    แฟนความเร็วชาวไทยสามารถส่งกำลังใจเชียร์นักบิดฮอนด้าพร้อมติดตามข่าวสารและรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ : https://facebook.com/HondaRacingTeamTH

    #ThaiHonda #Motorsport #Motocross #AllJapanMotocrossChampionship


    ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย

    Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
    Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
    Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
    instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
    Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
    Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
    Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine


    No Comment
  • ไทยฮอนด้า เปิดตัว “New Honda PCX160” สองสีใหม่ สีขาว White Blaze และ สีส้ม Amber Blaze สะท้อนความสปอร์ตพรีเมียม อีกระดับของความภูมิใจที่ทุกคนรอคอย

    1 Min Read

    ไทยฮอนด้า เปิดตัว “New Honda PCX160” สองสีใหม่ สีขาว White Blaze และ สีส้ม Amber Blaze สะท้อนความสปอร์ตพรีเมียม อีกระดับของความภูมิใจที่ทุกคนรอคอย

    ไทยฮอนด้า ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายรถจักรยานยนต์และเครื่องยนต์อเนกประสงค์ฮอนด้าในประเทศไทย เปิดตัว New Honda PCX160 รถจักรยานยนต์สปอร์ตพรีเมียม ที่มาพร้อม 2 สีใหม่ที่ทุกคนรอคอย ได้แก่ สีขาว-ดำ (White Blaze) ในรุ่น RoadSync และ สีส้ม-ดำ (Amber Blaze) ในรุ่น Standard เสริมลุคให้ดูสปอร์ตพร้อมกับสีสันเทรนดี้ ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ที่ชอบความโดดเด่นไม่เหมือนใคร ด้วยคอนเซปต์ BE THE MARK OF PRIDE อีกระดับของความภูมิใจ ที่ใครก็อยากเป็น” เอกลักษณ์แห่งความภูมิใจที่ชูเทคโนโลยีไปอีกระดับ เพื่อตอบโจทย์การใช้งานที่หลากหลาย พร้อมวางจำหน่ายแล้ววันนี้ทั่วประเทศ

    New Honda PCX เสริมเอกลักษณ์แห่งความภูมิใจด้วยไฟหน้าดีไซน์ใหม่ทรง Victory Shape พร้อมไฟเลี้ยวและไฟท้ายแบบ LED เพิ่มความโดดเด่นในทุกมุมมอง มาพร้อม 2 สีใหม่ ได้แก่ สีขาว White Blaze ในรุ่น RoadSync เสริมลุคให้สะดุดตาด้วยเบาะสีน้ำตาล-ดำแบบทูโทน สปอร์ตพรีเมียม สะท้อนความภาคภูมิใจไม่ซ้ำใคร และ สีส้ม Amber Blaze ในรุ่น Standard สีสันสปอร์ตเทรนดี้ที่พร้อมสะกดทุกสายตาตั้งแต่แรกเห็น เพิ่มความหลากหลายให้ผู้ขับขี่ได้เลือกตามสไตล์

     

    New Honda PCX มาพร้อมพลังขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ eSP+ 4 วาล์ว 157 ซีซี ให้สมรรถนะต่อเนื่อง ส่งเต็มกำลัง สมูท ลื่นไหล ตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์การขับขี่ มั่นใจยิ่งขึ้นด้วยระบบเบรก ABS ล้อหน้าที่มาพร้อมจานเบรกขนาดใหญ่ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ช่วยป้องกันไม่ให้ล้อล็อกเมื่อเบรกกะทันหัน นอกจากนี้ยังมีพื้นที่เก็บของใต้เบาะขนาดใหญ่จุได้ 30 ลิตร และกุญแจรีโมตอัจฉริยะ Honda SMART Key & Controller ที่สั่งงานง่ายเพียงบิดสวิตช์

    สำหรับรุ่น RoadSync โดดเด่นด้วยหน้าจอแสดงผล TFT ขนาด 5 นิ้ว แสดงข้อมูลการขับขี่ครบถ้วน รวมถึงระบบ HSTC (Honda Selectable Torque Control) ระบบตรวจจับและควบคุมล้อหน้า-ล้อหลังให้สัมพันธ์กัน ป้องกันรถเสียการทรงตัว สะดวก ปลอดภัยในทุกการขับขี่ พร้อมเชื่อมต่อกับแอปพลิเคชัน Honda RoadSync เทคโนโลยีอัจฉริยะจากฮอนด้าที่ควบคุมการทำงานด้วยเสียงโดยไม่ต้องละสายตาจากถนน ในการรับสายโทรเข้า-โทรออก, ระบบนำทาง, แอปพลิเคชันฟังเพลง และประวัติการเดินทาง พร้อมควบคุมผ่านปุ่มคอนโทรลเลอร์ดีไซน์ใหม่ในแบบมัลติฟังก์ชันสั่งการได้หลากหลาย ถือเป็นอีกระดับของการเชื่อมต่อระหว่างคนและรถ

     

    New Honda PCX 2 เฉดสีใหม่ พร้อมวางจำหน่ายที่ศูนย์ Honda Wing Center ทุกสาขาทั่วประเทศ โดยวางจำหน่ายพร้อมกับเฉดสีให้เลือกตามสไตล์ ดังนี้

    • รุ่น RoadSync : สีขาว-ดำ (White Blaze), สีน้ำเงิน (Innovate Blue), สีแดง-ดำ (Matt Red) ราคาแนะนำ 99,900 บาท
    • รุ่น Standard : สีส้ม-ดำ (Amber Blaze), สีดำ (Matt Gunpowder Black), สีน้ำเงิน-ดำ (Victory Blue), สีเทา-ดำ (Pearl Smoky Gray) ราคาแนะนำ 96,000 บาท

     

    ติดตามรายละเอียดกิจกรรมเพิ่มเติมได้ที่

    เว็บไซต์: www.thaihonda.co.th

    เฟซบุ๊กรถจักรยานยนต์ฮอนด้า: www.facebook.com/hondamotorcyclethailand

    IG: www.instagram.com/hondamotorcyclethailand

    TikTok: www.tiktok.com/@hondamotorcycletha

    YouTube: www.youtube.com/HondaMotorcycleTHA

     

    #AllNewHondaPCX160 #HondaPCX160 #BeTheMarkOfPride #อีกระดับของความภูมิใจที่ใครก็อยากเป็น

    #รถจักรยานยนต์ฮอนด้า #มอเตอร์ไซค์ฮอนด้า #HondaMotorcycle #ThaiHonda #ไทยฮอนด้า


    ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย

    Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
    Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
    Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
    instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
    Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
    Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
    Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine


    No Comment
  • เคาะแล้ว บัตร 𝗧𝗵𝗮𝗶𝗚𝗣 𝟮𝟬𝟮𝟲 สนามแรกฤดูกาล ‘ตรึงราคาเดิม’ พร้อมสิทธิประโยชน์ แบบ ‘𝟯-𝗶𝗻-𝟭’ และส่วนลดสุดคุ้ม สนามเดียวในโลก!

    1 Min Read

    เคาะแล้ว บัตร 𝗧𝗵𝗮𝗶𝗚𝗣 𝟮𝟬𝟮𝟲 สนามแรกฤดูกาล ‘ตรึงราคาเดิม’ พร้อมสิทธิประโยชน์ แบบ ‘𝟯-𝗶𝗻-𝟭’ และส่วนลดสุดคุ้ม สนามเดียวในโลก!

    ล่าสุดได้มีการเปิดเผยจาก กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดยการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ในฐานะเจ้าภาพหลักฝ่ายจัดการแข่งขันถึง รายละเอียดราคาบัตรเข้าชมการแข่งขันรถจักรยานยนต์ชิงแชมป์โลก “โมโตจีพี” สนามประเทศไทย ภายใต้ชื่อรายการ “PT Grand Prix of Thailand 2026″ สนามเปิดฤดูกาล และเจ้าภาพ Pre-Season Test (การทดสอบก่อนเปิดฤดูกาล) โดยการแข่งขันจริง จะระเบิดศึกระหว่างวันที่ 27 กุมภาพันธ์ – 1 มีนาคม 2569 ที่ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ โดยเตรียมเปิดจำหน่าย 11 พ.ย. นี้ พร้อมกันทั่วโลก

     

    ตรึงราคาเดิม! เพิ่มสิทธิพิเศษ 3-in-1 Global Exclusive’

     

    ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) กล่าวว่า “ตามนโยบายของ กกท. ที่ต้องการมอบประสบการณ์มอเตอร์สปอร์ตระดับโลกในราคาที่เข้าถึงได้สูงสุด เรายืนยันการ ‘ตรึงราคาเดิม’ ของบัตร Main Race ทุกประเภท เพื่อขอบคุณแฟน ๆ ที่ให้การสนับสนุน ThaiGP มาอย่างต่อเนื่อง โดยราคาบัตรชม 3 วันยังคงเดิม แต่สิ่งที่พิเศษยิ่งกว่าคือการมอบ ‘สิทธิพิเศษ 3-in-1 Global Exclusive’ ซึ่ง ไม่มีสนามไหนในโลกทำได้ ได้แก่

    1.เข้าชม Pre-Season Test ฟรี! – ผู้ถือบัตร Main Race ทุกประเภท ได้สิทธิ์เข้าชมการทดสอบรถ (Test) ของทีมแข่งระดับโลก ในวันที่ 21-22 กุมภาพันธ์ 2569 ฟรี!

     

    2.ชม Main Race ครบ 3 วัน– เต็มอิ่มกับสุดยอดการแข่งขันระดับโลก ระหว่างวันที่ 27 ก.พ. – 1 มี.ค. 2569

     

    3.บัตรเข้างานเฟสติวัล – ใช้เป็นบัตรแอดมิชชั่นเข้าสู่กิจกรรมบันเทิง อาทิ คอนเสิร์ต มวยไทย และร่วมกิจกรรมฟรี ตลอด 3 วัน บริเวณ Commercial Area ด้านหน้าสนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ที่เนรมิตเป็นงานเอ็กซ์โปสำหรับคนสายมอเตอร์ไซค์  มีทั้งพาวิลเลียนภาครัฐ-เอกชนขนาดใหญ่และร้านค้ารายย่อยมากมาย สินค้าสำหรับคนมอเตอร์ไซค์แบรนด์ดัง, “ชิม” และเลือกซื้อ ของดีของขึ้นชื่อ ร้านอาหารชื่อดังจากบุรีรัมย์และทั่วประเทศมาไว้ในงาน ครบจบที่เดียว

     

    “บัตรชมโมโตจีพี สนามประเทศไทย” แบบ 3 วัน และบัตรพรีเมียมที่มอบประสบการณ์สุดพิเศษ แบ่งเป็น

     

    1. แกรนด์ สแตนด์ (Grandstand) 5,000 บาท (เห็นทุกโค้งทั่วสนาม) ใช้ส่วนลดจาก PT Max Card Plus 25% เหลือ 3,750 บาท หรือ ใช้ส่วนลดจากผู้สนับสนุน 20% เหลือ 4,000 บาท

     

    1. ไซด์สแตนด์ (Side Stand) 2,000 บาท ราคาสบายกระเป๋า ใช้ส่วนลดจาก PT Max Card Plus 25% เหลือ 1,500 บาท หรือ ใช้ส่วนลดจากผู้สนับสนุน 20% เหลือ 1,600 บาท

     

    1. ไรเดอร์ สแตนด์ (Rider Stand) 3,000 บาท สำหรับกองเชียร์นักแข่ง ได้แก่ มาร์เกซ สแตนด์, กวาร์ตาราโร สแตนด์ (พร้อมของที่ระลึก ลิขสิทธิ์แท้จากนักบิดคนโปรด) ใช้ส่วนลดจาก PT Max Card Plus 25% เหลือ 2,250 บาท หรือ ใช้ส่วนลดจากผู้สนับสนุน 20% เหลือ 2,400 บาท

     

    1. แบรนด์ สแตนด์ (Brand Stand) 2,000 บาท สำหรับกองเชียร์จากค่ายรถจักรยานยนต์ชั้นนำ ประกอบด้วย Honda, YAMAHA (พร้อมสิทธิ์รับของที่ระลึก/ลุ้นชิงโชคของรางวัลจากผู้สนับสนุน) ใช้ส่วนลดจาก PT Max Card Plus 25% เหลือ 1,500 บาท หรือ ใช้ส่วนลดจากผู้สนับสนุน 20% เหลือ 1,600 บาท

     

    ทั้งนี้ บัตรทั้ง 4 ประเภท เข้าชม Pre-Season Test ได้ฟรี และชม Main Race ได้ทั้ง 3 วัน

    1. บัตรชม Pre-Season Test (ซื้อแยก) ชมการทดสอบก่อนเปิดฤดูกาลที่จังหวัดบุรีรัมย์ วันที่ 21-22 กุมภาพันธ์ 2569 ราคาจำหน่ายบัตร แบ่งเป็น บัตร Grand Stand ราคา 500 บาทต่อวัน หรือเหมา 2 วัน 900 บาท, บัตร VIP 5,000 บาท ต่อวัน

     

    1. เปิดจำหน่ายบัตร ‘VIP Lounge โค้ง 12‘ ครั้งแรก! บัตรระดับพรีเมียม ในราคา 20,000 บาท ซึ่งมอบประสบการณ์เหนือระดับ ด้วยห้องรับรองติดแอร์, พร้อมบริการชั้นเลิศ ประกอบด้วย Gourmet Lunch (อาหารกลางวันเลิศรส), Afternoon Temptations (ชุดของว่างยามบ่ายสุดพิเศษ), Complimentary Bar (บริการเครื่องดื่มฟรี), Viewing Area (พื้นที่รับชม), TV Screen (จอทีวี), Wi-Fi และสิทธิ์เข้าชม Pre-Season Test ฟรี!

    1. บัตร Paddock Pass สามารถเข้าสู่โซน Paddock ของนักแข่งระดับโลกอย่างใกล้ชิด ขอลายเซ็น และถ่ายรูปแบบเอ๊กซ์คลูซีฟ ในราคา 15,000 บาท ซึ่งเมื่อซื้อพร้อมบัตร Main Race จะได้รับส่วนลดพิเศษ 15% เหลือเพียง 12,750 บาท และสิทธิ์เข้าชม Pre-Season Test ฟรี!

    ทั้งนี้ ในวันเปิดจำหน่ายบัตร พร้อมกันทั่วโลก วันที่ 11 พ.ย. 2568 นี้ คณะทำงานฯได้เตรียมการระบบต่างๆ เพื่อรองรับและอำนวยความสะดวกให้แฟนๆ โมโตจีพีจำนวนมาก ที่จะจองบัตรในวัน เวลาดังกล่าวอย่างดีที่สุด โดยในปี 2025 ที่ผ่านมา หลังเปิดจำหน่ายบัตร ที่นั่งแกรนด์สแตนด์ กว่า 10,000 ที่นั่ง Sold Out ด้วยเวลา 2.55 นาที ขณะที่สแตนด์อื่นๆ มียอดจองอย่างรวดเร็วเช่นกัน คาดในปี 2026 มีการเปิดจำหน่ายบัตรเร็วขึ้น และด้วยกระแสความนิยมที่เพิ่มขึ้น คาดจะสามารถจำหน่ายบัตรเต็มทุกที่นั่งอย่างรวดเร็วแน่นอน

     

    ราคาจำหน่ายบัตรในประเทศไทย จัดว่าถูกและคุ้มค่าที่สุด เนื่องจากทุกภาคส่วนจัดเต็มมหกรรมความสนุก-ความบันเทิงทั้งในและนอกสนาม คอนเสิร์ต มวย ช้อป ชิม ศิลปวัฒนธรรม ด้วยเสน่ห์แบบไทยไทย ประสบการณ์มอเตอร์สปอร์ตระดับโลกบนผืนแผ่นดินไทยที่แฟนตัวจริงต้องห้ามพลาด

     

    ซื้อบัตรได้ที่ Counter Service All Ticket ในร้าน 7-Eleven ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือสั่งซื้อออนไลน์ได้ที่เว็บไซด์ allticket เริ่มจำหน่ายตั้งแต่ วันอังคารที่ 11 พ.ย. 2568 เวลา 14.00 น. เป็นต้นไป  ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ แฟนเพจ Chang Circuit Buriram


    ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย

    Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
    Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
    Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
    instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
    Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
    Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
    Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine


    No Comment