“ผมไม่ได้ดริฟท์เพราะว่ามันเร็วที่สุดในการเข้าโค้งที่ดีที่สุด แต่มันเป็นวิธีที่ตื่นเต้น และเท่ที่สุด” นี่คือคำพูดส่วนหนึ่งของชายคนหนึ่งที่สร้างตำนานให้กับวงการยานยนต์ญี่ปุ่น ในเวลาต่อมาเรื่องราวของเขาก็ถูกนำไปเป็นสารตั้งต้นในการเขียนมังงะ Initial D นักซิ่งดริฟท์สายฟ้า ชายคนนี้มีชื่อว่า “เคอิจิ ทสึจิยะ”
ช่วงชีวิตในอาชีพของเขาอยู่ในช่วง 1970 ถึง 2000 ต้นๆ มีประสบการณ์ในการแข่งมาแล้วหลายเวทีทั้ง Japan Grand Touring Car Championship หรือ JGTC ในปัจจุบันคือการแข่ง Super GT และยังแข่งไปไกลถึงต่างประเทศอย่าง NASCAR ที่สหรัฐอเมริกา และการแข่งหฤโหด Le Mans 24 ชม. ที่ประเทศฝรั่งเศส
และในการแข่ง Le Mans นี้เองที่เขาสามารถคว้าแชมป์ในคลาสได้ 2 ครั้งคือในปี 1995 ด้วยรถ Honda NSX และปี 1999 ด้วยรถ Toyota GT-One สีแดงแรงสามเท่า
จุดเริ่มต้นของเขา เริ่มต้นจากการช่วยงานธุรกิจที่บ้านโดยการขับรถส่งของ เมื่อว่างจากงานที่บ้าน เขาก็เข้าร่วมการแข่งรถผิดกฎหมายข้างถนน สถานที่หลักที่เขามักจะไปซิ่งคือทางเลียบภูเขาในภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า Tōge (峠) ซึ่งเป็นเส้นทางที่อันตราย ต้องใช้ความชำนาญเส้นทาง สัมผัสที่ว่องไว การขับผ่าหมอกในตอนเช้าหรือตอนค่ำ เขาสร้างตำนานจากการเข้าโค้งที่ผิดแปลกไปจากคนทั่วไปโดยเหวี่ยงตัวรถเข้า และหันท้ายออก สไลด์ผ่านโค้ง ซึ่งในเวลาต่อมาก็เรียกลักษณะการเข้าโค้งแบบนี้อย่างเป็นทางการว่า “ดริฟท์” คุณทสึจิยะ ได้เอาแนวคิดการดริฟท์จาก คุนิมัตสึ ทาคาฮาชิ “บิดาแห่งการดริฟท์” มาปรับใช้ การแข่ง Circuit เคยมีอยู่ครั้งหนึ่งที่เขากำลังรั้งท้ายสุด เมื่อมองเห็นโค้งเขาตัดสินใจใช้การดริฟท์สร้างความตื่นตะลึงกับให้กับผู้ชม รอดพ้นจากการเป็นอันดับสุดท้ายได้อย่างน่าประทับใจ
ข่าวการซิ่งผิดกฎหมายข้างถนนเองก็มีบางครั้งที่เรื่องไปถึงหูของฝ่ายจัดการการแข่งขันจนทำให้เขาถูกยึดใบอนุญาตการแข่งรถแต่เขาก็ยังกลับมาสร้างตำนานในวงการต่อ… ในปี 1987 สำนักแต่งรถหลายสำนักจับมือกับหลายสำนักพิมพ์ ร่วมกันถ่ายทำภาพยนตร์สารคดีในชื่อเรื่องว่า The Touge ในภาพยนตร์สารคดีนี้เขาทำการดริฟท์ลงเขาด้วยรถ Toyota Trueno AE86 นั่นทำให้ อ.ชูอิจิ ชิเงโนะ นำมาใช้เป็นไอเดียในการเขียนมังงะที่ในเวลาต่อมาจะสร้างปรากฎการณ์ในวงการมอเตอร์สปอร์ต และวงการการ์ตูนญี่ปุ่น Initial D นั่นเอง… Initial D เริ่มตีพิมพ์ครั้งแรกในปี 1995 และถูกในไปดัดแปลงเป็นสื่อต่างๆ ทั้ง อนิเมะ ภาพยนตร์ไลฟ์-แอคชั่น และเกม คุณทสึจิยะเองก็ได้เป็นที่ปรึกษาให้กับ อ.ชิเงโนะ ด้วยเช่นกัน นอกจากนี้เขายังปรากฎตัวในภาพยนตร์ The Fast and the Furious: Tokyo Drift ในปี 2006
ข้อจำกัดของการดริฟท์นั้นคุณทสึจิยะมองว่ามันไม่ได้ทำให้สามารถแซงนักแข่งคนอื่นได้ การดริฟท์จะไปมีความหมายอะไรถ้ามีดีแค่ความสวยงาม แต่ไม่ได้สร้างความภูมิใจด้วยการชูถ้วยแชมป์ได้ การดริฟท์ในการแข่งปกติมีแต่จะทำให้รถช้าลงและเอาชนะใครได้ยาก คุณทสึจิยะจึงคิดการแข่งขันรูปแบบใหม่ที่วัดกันด้วยการดริฟท์ที่เรียกว่า รายการ D1 Grand Prix ในปี 2000 และได้รับการรับรองจากสหพันธ์กีฬายานยนต์ (Federation International de I’Automobile – FIA) นักแข่งทุกคนจะต้องผ่านเวทีการแข่งมือสมัครเล่นก่อนเพื่อที่จะได้รับใบอนุญาตการแข่งขันระดับอาชีพ ผลลัพธ์ของการแข่งขันไม่ได้วัดกันที่ความเร็ว แต่วัดการโชว์ลีลา ความสวยงาม แล้วความสวยงามในนิยามของการดริฟท์คืออะไร?
หัวใจสำคัญของการดริฟท์รถให้มีความสวยงามคือ ความแม่นยำ ไลน์การเข้าโค้งของรถที่วิ่งในแต่ละรอบ ความต่อเนื่อง ความลื่นไหล รถต้องไม่สะบัด ไม่กระตุก ไม่มีการค้างเลน วิธีการตรวจสอบของกรรมการคือการติด GPS ที่จะส่งสัญญาณให้ดูว่านักแข่งวิ่งได้ตรงไลน์ที่วางไว้หรือไม่ นอกจากนี้ที่สหรัฐอเมริกาก็มีการหยิบเอาการแข่ง D1 Grand Prix มาดัดแปลงเป็นการแข่งขัน Formula Drift อีกด้วย
ในปี 2011 คุณทสึจิยะก็ได้ออกมาจากวงการ D1 Grand Prix ด้วยทัศนคติที่ไม่ตรงกันเพราะในระยะหลังๆ เกณฑ์ในการวัดว่านักแข่งเก่งจริงหรือไม่ วัดกันที่สมรรถนะ ”บ้าพลัง คลั่งแรงม้า” ของรถ ซึ่งขัดกับทัศนคติของเขาที่มองว่านักแข่งที่เก่งเขาวัดกันที่ฝีมือ ในปัจจุบันคุณทสึจิยะทำหลายอย่างทั้ง Youtuber เปิดสำนักแต่งรถ และเป็นผู้จัดการทีมแข่งรถ เขาต้องเดินทางไปมาหลายประเทศทั่วโลกรวมถึงประเทศไทยด้วย
และนี่คือเรื่องราวของชายที่เขย่าวงการมอเตอร์สปอร์ต และสร้างตำนานผ่านสื่อต่างๆ มากมาย เคอิจิ ทสึจิยะ
ว่าด้วยเรื่องของรถ AE86 นั้นนับเป็นรถยนต์สปอร์ต 2 ประตูแฮตช์แบ็กรุ่นเก๋าในตำนานที่โด่งดังมากที่สุดรุ่นหนึ่ง มีชื่อเต็มว่า Toyota Sprinter Trueno AE86 ซึ่งชื่อ Trueno มาจากภาษาสเปนว่า “สายฟ้า” และยังมีรุ่นที่ออกมาเปรียบเสมือนพี่น้องฝาแฝดในชื่อ Toyota Corolla Levin ชื่อ Levin มาจากศัพท์ภาษาอังกฤษยุคกลางว่า “ฟ้าแลบ” รถถูกผลิตในช่วงปี 1983-1987 ในอนิเมะจะมีลักษณะที่สังเกตได้คือ ไฟหน้าเก็บซ่อนได้สไตล์ป๊อป-อัป ติดตั้งไฟตัดหมอกสีเหลืองบริเวณกันชนหน้า ล้อกล้วยค่าย WATANABE สุดคลาสสิก
AE86 ถูกออกแบบมาให้เป็นรถเครื่องยนต์วางหน้าขับเคลื่อนล้อหลังขนาดเล็กเพื่อให้เหมาะกับการใช้แข่ง มิติของตัวรถมีขนาดความยาว 4,180 มม. กว้าง 1,625 มม. สูง 1,335 มม. ระยะฐานล้อมีความยาว 2,430 มม. น้ำหนักเบาเพียง 1,090 กิโลกรัม เครื่องยนต์เป็นเครื่องรุ่น 4A-GEU ขนาด 1,587 cc 4 สูบแนวตรง DOHC ที่ให้กำลังสูงสุด 130 แรงม้าที่ 6,600 rpm แรงบิดสูงสุด 150 Nm ที่ 5,200 rpm นอกจากมีเกียร์แมนนวล 5 สปีดส่งกำลังสู่ล้อคู่หลังแล้ว ยังมีเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีดให้เลือกด้วย สำหรับช่วงล่างหน้าเป็นแบบแม็กเฟอร์สันสตรัต สปริง โช๊กอัพและกันโคลง ส่วนด้านหลังเป็นแบบทอร์ชั่นบีม 4 ลิงก์ โดยใช้ดิสก์เบรกหยุดรถทั้งล้อหน้าและหลัง
AE86 ที่ทาคุมิใช้ขับเป็น Trueno AE86 GT-APEX ที่ได้รับมาจากพ่อเพื่อใช้ขับส่งเต้าหู้ และใช้ในการแข่ง ด้วยความโด่งดังจากมังงะเรื่องนี้เอง ทำให้ปัจจุบันเป็นรถที่มีราคาสูงขึ้นตามเวลาจนถูกเรียกว่าเป็น ภาษีทาคุมิ หรือภาษีเต้าหู้ นั่นเอง
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : http://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
Twitch TV : https://www.twitch.tv/realtimecarmagazine
Blockdit : https://www.blockdit.com/pages/5ed70c2d713f890cbc006f05
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_magazine/
Tiktok : https://vt.tiktok.com/ZSmSrdsB