-
มิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปอเรชัน เริ่มจัดส่ง ‘ออล-นิว มิตซูบิชิ เอ็กซ์ฟอร์ส เอชอีวี’ ในประเทศไทย กวาดยอดจองกว่า 1,800 คัน ภายใน 3 สัปดาห์
บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปอเรชัน (ต่อไปนี้เรียกว่า มิตซูบิชิ มอเตอร์ส) ได้เริ่มจัดส่ง รถคอมแพ็กต์เอสยูวี ออล-นิว มิตซูบิชิ เอ็กซ์ฟอร์ส เอชอีวี แบบไฮบริด (HEV) เมื่อวันที่ 10 เมษายน
ที่ผ่านมา โดยรถรุ่นดังกล่าวผลิตที่โรงงานแหลมฉบังของ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทยออล-นิว มิตซูบิชิ เอ็กซ์ฟอร์ส เอชอีวี เป็นรถยนต์แบบไฮบริด (HEV) รุ่นที่สองของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ถัดจากรุ่น มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ ที่เปิดตัวในประเทศไทยเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2567 โดยได้รับกระแสตอบรับที่ดีเกินคาด ด้วยยอดจองกว่า 1,800 คัน ภายหลังจากการเปิดตัวเมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2568 ที่ผ่านมา
ลูกค้าของมิตซูบิชิที่สั่งจองรถรุ่นนี้ ต่างประทับใจในการออกแบบของตัวรถที่ดูทันสมัยและทรงพลัง ตอบโจทย์การใช้งานของรถเอสยูวีได้อย่างเต็มรูปแบบ ภายในห้องโดยสารกว้างขวาง รองรับผู้โดยสารได้ถึง 5 คนอย่างสะดวกสบายแม้จะเป็นรถคอมแพ็กต์เอสยูวี พร้อมด้วยสมรรถนะของรถที่ให้อัตราเร่งที่ทรงพลังและทำงานเงียบ ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของรถยนต์แบบไฮบริด (HEV) และโดดเด่นด้วยอัตราการประหยัดน้ำมันที่ยอดเยี่ยมในรถยนต์ระดับเดียวกันอีกด้วย โดย มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย จะทยอยส่งมอบ เอ็กซ์ฟอร์ส เอชอีวี ให้กับลูกค้าได้ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2568 เป็นต้นไป
มร. ทาคาโอะ คาโตะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น กล่าวแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์แผ่นดินไหวในภาคกลางของประเทศเมียนมาเมื่อเดือนที่ผ่านมา โดยกล่าวว่า “ผมขอแสดงความเคารพต่อผู้ที่เสียชีวิตในภัยพิบัติครั้งนี้ และขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวของผู้เสียชีวิตด้วยครับ”
“มิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น ได้ดำเนินธุรกิจในประเทศไทยมาอย่างยาวนานกว่า 60 ปีแล้ว ด้วยการสนับสนุนจากรัฐบาลไทย ทำให้เราได้มีส่วนร่วมในการสร้างความก้าวหน้าให้กับอุตสาหกรรมยานยนต์ของประเทศ และเรา จะยังคงมุ่งมั่นที่จะส่งเสริมเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมยานยนต์ของประเทศไทยต่อไป พร้อมเดินหน้าดำเนินมาตรการต่างๆ เพื่อสนับสนุนเป้าหมายในการบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอนของประเทศไทยอย่างจริงจังครับ” มร. คาโตะ กล่าว
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine -
โตโยต้า ร่วมมือ สถาบันสิ่งแวดล้อมไทยและสวทช. มอบรางวัลโครงการ “ลดเปลี่ยนโลกกับโตโยต้า” แก่เยาวชน-ชุมชน เพื่อส่งเสริมการพัฒนาสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน
บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ร่วมกับ สถาบันสิ่งแวดล้อมไทย (TEI) และสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ศูนย์นาโนเทคโนโลยีแห่งชาติ (NANOTEC) จัดพิธีมอบรางวัลถ้วยพระราชทาน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี และรางวัลเกียรติคุณ โครงการลดเปลี่ยนโลก ปีที่ 2 ให้แก่ผู้ชนะ ณ บ้านวิทยาศาสตร์สิรินธรและศูนย์ประชุมวิทยาศาสตร์ประเทศไทย จังหวัดปทุมธานี เมื่อวันที่ 9 เมษายน 2568
ความร่วมมือระหว่าง บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด สถาบันสิ่งแวดล้อมไทย และ ศูนย์นาโนเทคโนโลยีแห่งชาติ สวทช. ภายใต้ชื่อ “โครงการลดเปลี่ยนโลกกับโตโยต้า” เกิดจากการตระหนักถึงความสำคัญด้านสิ่งแวดล้อมและสถานการณ์มลภาวะ รวมทั้งการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในปัจจุบัน จึงมุ่งเน้นการส่งเสริมและสนับสนุนการดำเนินงานเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก การสร้างความเป็นกลางทางคาร์บอนในชุมชนและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รวมถึงให้ความสำคัญกับสถานศึกษาในการนำองค์ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีมาพัฒนาเพื่อปรับใช้ในการจัดการปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม
โครงการลดเปลี่ยนโลกกับโตโยต้า จัดขึ้นเป็นปีที่ 2 ด้วยวัตถุประสงค์ในการส่งเสริมและสนับสนุนให้ชุมชนและเยาวชนไทยมีบทบาทสำคัญในการสร้างสรรค์กิจกรรมและนวัตกรรมเพื่อสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน โดยประกอบด้วย โครงการย่อย 2 โครงการ ได้แก่ โครงการ “ชุมชนลดเปลี่ยนโลก” และ “นวัตกรรมเยาวชนลดเปลี่ยนโลก”
นายสุวิทย์ ไชยประสิทธิ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า “โครงการลดเปลี่ยนโลกกับโตโยต้า เกิดขึ้นจากความมุ่งมั่นของบริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ในการส่งเสริมให้เยาวชนและชุมชนตระหนักถึงความสำคัญของการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ตลอดจนสนับสนุนแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืน ผ่านการให้ความรู้และการดำเนินกิจกรรมที่สามารถนำไปสู่ผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรมและขยายผลได้ในระดับประเทศ ตลอดระยะเวลาการดำเนินโครงการ เพื่อตอบสนองเรื่องความเป็นกลางทางคาร์บอน เราได้รับความร่วมมืออย่างดีจากภาคส่วนต่าง ๆ ที่ร่วมกันคิดค้นและพัฒนาแนวทางเพื่อลดการใช้พลังงานและการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ผมขอชื่นชมและขอขอบคุณทุกภาคส่วนที่มีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนโครงการให้ประสบความสำเร็จ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าโครงการนี้จะเป็นแรงบันดาลใจให้เกิดการขยายผลและสานต่อแนวทางการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนต่อไป”
รางวัลโครงการชุมชนลดเปลี่ยนโลก
รางวัลชนะเลิศ ได้แก่ ชุมชนบ้านดอนยาวน้อย เทศบาลตำบลวังหิน จังหวัดนครราชสีมา
รางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 1 ได้แก่ ชุมชนบ้านหัวทุ่ง องค์การบริหารส่วนตำบลเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่
รางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 2 ได้แก่ ชุมชนบ้านคลองอาราง องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านแก้ง จังหวัดสระแก้ว
ดร.วิจารย์ สิมาฉายา ผู้อำนวยการสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย กล่าวว่า “โครงการชุมชนลดเปลี่ยนโลก มีชุมชนและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีใจรักษ์สิ่งแวดล้อมให้ความสนใจส่งใบสมัครเข้าร่วมมาเป็นจำนวนมาก ซึ่งชุมชนและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ผ่านเข้ารอบนั้น ต่างก็ได้รับความรู้เพิ่มเติมทั้งจากสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ และหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำไปพัฒนากิจกรรมในชุมชนของตนเอง โดยโครงการชุมชนลดเปลี่ยนโลก ได้มุ่งเน้นการสร้างความเป็นกลางทางคาร์บอน ตามแนวทางการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและเพิ่มการดูดกลับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ทั้งการใช้พลังงานทางเลือก การใช้น้ำอย่างรู้คุณค่าและรักษาคุณภาพแหล่งน้ำ การเดินทางที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม การจัดการขยะอย่างถูกวิธี ลดการใช้สารเคมีในการเกษตร ลดการเผา และการอนุรักษ์พื้นที่สีเขียว โดยในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา เราได้เห็นพลังของชุมชนในการริเริ่มและดำเนินโครงการที่สร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสิ่งแวดล้อม ความมุ่งมั่นของทุกท่านคือเครื่องยืนยันว่า การเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่เริ่มต้นจากชุมชน”
“กระผมขอชื่นชมในความพยายามของชุมชนและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกแห่งที่ฝ่าฟันจนผ่านเข้ามาถึงรอบสุดท้าย และขอแสดงความยินดีกับผู้ที่ได้รับรางวัลถ้วยพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในวันนี้ ทุกท่านคือแบบอย่างของความร่วมมือและความรับผิดชอบต่อโลกใบนี้ ความสำเร็จของท่านจะเป็นแรงบันดาลใจและเป็นต้นแบบที่ดีให้กับชุมชนอื่น ๆ ทั่วประเทศในการก้าวเดินไปสู่สังคมที่มีความเป็นกลางทางคาร์บอนต่อไป”
รางวัลโครงการนวัตกรรมเยาวชนลดเปลี่ยนโลก
รางวัลชนะเลิศ ได้แก่ โรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัย นครศรีธรรมราช โครงการ “นวัตกรรมกังหันลมดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์เสริมประสิทธิภาพด้วยกราฟีนและเส้นใยไมซีเลียม”
รางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 1 ได้แก่ วิทยาลัยเทคนิค สุราษฎร์ธานี โครงการ “ต้นไม้ประดิษฐ์สำหรับการดักจับคาร์บอน”
รางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 2 ได้แก่ โรงเรียนสงวนหญิง สุพรรณบุรี โครงการ “การลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากการใช้เครื่องปรับอากาศส่งผลต่อการลดค่าไฟฟ้า”
ศาสตราจารย์ ดร. ชูกิจ ลิมปิจำนงค์ ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) กล่าวว่า “สวทช. ในฐานะหน่วยงานที่เป็นเป็นขุมพลังหลักของประเทศในการใช้ประโยชน์จากวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม ได้ให้การสนับสนุนองค์ความรู้ เพื่อการประดิษฐ์คิดค้น สร้างสรรค์และพัฒนาผลงานนวัตกรรมของเยาวชนผ่านโครงการ ”นวัตกรรมเยาวชนลดเปลี่ยนโลก” ซึ่งเป็นการประกวดผลงานและแนวคิดด้านนวัตกรรมของเยาวชน ในการนำองค์ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและนวัตกรรม (วทน.) มาพัฒนาเป็นต้นแบบเพื่อปรับใช้ในการจัดการปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม โดยมีกลุ่มเป้าหมายที่เข้าร่วมโครงการเป็นนักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย (สายสามัญ) และนักศึกษาระดับอาชีวศึกษา (สายอาชีวศึกษา) ซึ่งโครงการนี้ดำเนินงานหลักโดยศูนย์นาโนเทคโนโลยีแห่งชาติ (นาโนเทค) ร่วมกับหน่วยงานภายใต้สวทช. และพันธมิตร”
ผู้อำนวยการ สวทช. ชี้ว่า “นอกจากรางวัลที่ได้ ทีมที่ชนะเลิศ จะได้รับการสนับสนุนต่อยอดให้มีการจัดตั้งศูนย์การเรียนรู้เพื่อพัฒนานวัตกรรมการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมในชุมชน โดยจัดตั้งเป็นโครงการนำร่อง ณ สถานศึกษาที่ได้รับรางวัล ชี้ให้เห็นภาพของโครงการที่ไม่เพียงมุ่งเน้นการพัฒนาทักษะทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี แต่ยังปลูกฝังจิตสำนึกด้านสิ่งแวดล้อม ให้เยาวชนได้ตระหนักถึงปัญหาสิ่งแวดล้อมในชุมชนของตน และสร้างการมีส่วนร่วมระหว่างชุมชนและเยาวชนให้สามารถบูรณาการความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี ต่อยอดสู่การพัฒนานวัตกรรมเพื่อสิ่งแวดล้อมด้วยนาโนเทคโนโลยีที่จับต้องได้”
“ซึ่งเราในฐานะผู้สนับสนุนก็หวังให้เยาวชนทุกคนพัฒนานวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง ด้วยศักยภาพและการสนับสนุนที่ถูกทิศทาง จะช่วยพัฒนาให้ก้าวขึ้นเป็นนักนวัตกรที่สามารถสร้างนวัตกรรมสิ่งประดิษฐ์ที่จะช่วยเปลี่ยนโลก มีประโยชน์ต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม พร้อมทั้งเป็นกำลังสำคัญในการสร้างการเปลี่ยนแปลงด้านสิ่งแวดล้อมและสร้างสังคมที่ยั่งยืนในอนาคตเน้นว่าความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีจะช่วยให้เยาวชนและชุมชนสามารถพัฒนาที่ยั่งยืนได้ต่อไป” ศาสตราจารย์ ดร. ชูกิจทิ้งท้าย
ผู้ชนะเลิศทั้ง 2 โครงการ จะได้ไปนำเสนอผลงานแก่ผู้บริหาร บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชัน ประเทศญี่ปุ่น รวมถึงศึกษาดูงานด้านการจัดการสิ่งแวดล้อม และนวัตกรรมต่าง ๆ จากญี่ปุ่น เพื่อจุดประกายความคิดสร้างสรรค์ ต่อยอดผลงานของตน โดยชุมชนที่ชนะเลิศจะได้รับการส่งเสริมองค์ความรู้สำหรับการพัฒนาชุมชนของตนให้เป็นแหล่งเรียนรู้ “ชุมชนลดเปลี่ยนโลก” ในขณะที่โรงเรียนที่ชนะเลิศจะได้รับการสนับสนุนเงินทุนสร้าง “นวัตกรรมต้นแบบ” ขนาดใช้ได้จริงเพื่อนำไปสู่ชุมชนต่อไป
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine
-
“TSS The Super Series และ SRO ผนึกกำลัง ร่วมขับเคลื่อนมอเตอร์สปอร์ตเอเชียตะวันออกเฉียงใต้สู่ระดับสากล”
TSS The Super Series ได้ลงนามในข้อตกลงความร่วมมือกับ SRO Motorsports Group เพื่อจัดตั้งบริษัทร่วมกัน โดยมีเป้าหมายในการยกระดับการแข่งขันในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ให้มีมาตรฐานระดับนานาชาติ การประกาศความร่วมมือดังกล่าวมีขึ้นตั้งแต่ต้นปี 2568 และปัจจุบันกำลังอยู่ในขั้นตอนดำเนินการด้านกฎหมาย เพื่อวางรากฐานสำหรับการพัฒนาระยะยาวในอนาคต
เสริมสร้างการแข่งขันด้วยมาตรฐานระดับโลก
TSS The Super Series ได้รับการยอมรับในฐานะรายการแข่งขันรถยนต์ประเภท GT ระดับแนวหน้าของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยดึงดูดนักแข่งชั้นนำทั้งในระดับภูมิภาคและระดับนานาชาติ ความร่วมมือกับ SRO ครั้งนี้จะช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับการแข่งขัน ด้วยมาตรฐานทางเทคนิคและระบบจัดการแข่งขันที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลก
นำระบบ Balance of Performance มาใช้ในฤดูกาล 2025
หนึ่งในองค์ประกอบหลักของความร่วมมือคือการนำ Balance of Performance (BoP) ของ SRO มาใช้ในรุ่น TSS Supercar GT3 และ GT4 โดย BoP นี้จะช่วยควบคุมสมรรถนะของรถแต่ละคันให้มีความสมดุล เพื่อส่งเสริมการแข่งขันที่ยุติธรรมและยกระดับความน่าเชื่อถือของรายการในระดับสากล
นอกจากนี้ ฤดูกาล 2025 จะมีการเปลี่ยนแปลงด้านเทคนิคเพิ่มเติม โดย Pirelli จะเข้ามาเป็นผู้รับผิดชอบเรื่องยางอย่างเป็นทางการสำหรับการแข่งขัน ซึ่งสอดคล้องกับรายการอื่นภายใต้การจัดของ SRO ทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นภูมิภาคยุโรป อเมริกา ออสเตรเลีย และเอเชีย อาทิ รายการ GT World Challenge powered by AWS, รายการ GT2 European Series powered by Pirelli และรายการ GT4 ทั่วโลก
มุ่งหน้าสู่การยอมรับในระดับโลก
TSS The Super Series ฤดูกาล 2025 จะยังคงจัดการแข่งขันในสนามหลักของประเทศไทย ได้แก่ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต และสนามบางแสน สตรีท เซอร์กิต พร้อมทั้งมีการแข่งขันแบบสองครั้งติดกันที่ เซปัง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ประเทศมาเลเซีย เพื่อให้เข้าถึงผู้ชมได้กว้างขึ้น รายการแข่งขันจะมีการถ่ายทอดสดพร้อมคำบรรยายในหลายภาษา ได้แก่ ไทย อังกฤษ จีน และเยอรมัน ทั้งทางโทรทัศน์และแพลตฟอร์มออนไลน์
Stéphane Ratel, ผู้ก่อตั้งและ CEO ของ SRO Motorsports Group กล่าวว่า:
“ผมรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เริ่มต้นความร่วมมือครั้งใหม่นี้กับ TSS The Super Series เรา (SRO) ได้สร้างฐานที่แข็งแกร่งในเอเชียในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา และข้อตกลงนี้จะช่วยเสริมสถานะของเราให้มั่นคงยิ่งขึ้น เรารู้สึกยินดีที่ TSS จะนำ BoP ของเราไปใช้ และเป็นเรื่องน่ายินดีที่ได้เห็นการร่วมมือกับ Pirelli ซึ่งเป็นพันธมิตรที่ SRO ทำงานด้วยมาอย่างยาวนาน ผมมั่นใจว่านี่จะเป็นจุดเริ่มต้นของยุคแห่งการเติบโตที่น่าตื่นเต้นสำหรับ TSS”นายสนธยา คุณปลื้ม, ประธาน TSS กล่าวว่า:
“การเป็นพันธมิตรกับ SRO ถือเป็นก้าวสำคัญของ TSS The Super Series แม้ว่าเราจะมีบทบาทในระดับนานาชาติแล้ว แต่ความร่วมมือนี้จะช่วยเสริมแพลตฟอร์มการแข่งขันให้แข็งแกร่งขึ้น ด้วยมาตรฐานระดับโลกของ SRO ความเชี่ยวชาญทางเทคนิค และ BoP ที่ได้รับการพิสูจน์แล้ว รวมถึงการร่วมมือกับ Pirelli ยิ่งไปกว่านั้น ความร่วมมือนี้ยังเปิดโอกาสให้นักแข่งจากภูมิภาคสามารถเติบโตสู่เวทีโลก และเราจะร่วมกันพัฒนาวงการมอเตอร์สปอร์ตในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างยั่งยืน”เปิดฤดูกาล 2025 อย่างยิ่งใหญ่ด้วย TSS Test Days
ฤดูกาลใหม่ของ TSS The Super Series 2025 เปิดฉากอย่างยิ่งใหญ่ด้วยการทดสอบสนาม 2 วัน ที่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต โดยมีรถแข่งมากถึง 106 คัน จากรายการ TSS The Super Series by B-Quik และ B-Quik Thailand Super Series เข้าร่วมการทดสอบ มีรถแข่งจาก 14 แบรนด์ผู้ผลิตชั้นนำของโลก อาทิ Aston Martin, Audi, Chevrolet, Ferrari, Ford, Honda, Isuzu, Mazda, Mercedes-Benz, Mitsubishi, Porsche, Suzuki และ Toyota อีกทั้งแฟนๆมอเตอร์สปอร์ตยังมีโอกาสได้เห็นการลงสนามเป็นครั้งแรกของ Ferrari 296 GT3 และ Porsche 911 GT3 R (Type 992) ในการทดสอบครั้งนี้
นอกจากนี้ยังมีนักแข่งระดับตำนานเข้าร่วมทำการทดสอบรถ อาทิ Markus Winkelhock (อดีตนักแข่ง F1), Earl Bamber, Edoardo Mortara และ Pierre Kaffer ในระหว่างการทดสอบนี้ Gianni Morbidelli อดีตนักขับ F1 ชาวอิตาเลียน ยังได้ขับ Ford RR Daytime GT Coupe รุ่นต้นแบบในคลาส GTC อีกด้วย
ก้าวต่อไป
ด้วยแรงผลักดันที่ไม่เคยมีมาก่อน การร่วมมือระหว่าง TSS และ SRO กำลังจะผลักดันวงการมอเตอร์สปอร์ตในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ให้ไปสู่ระดับใหม่อย่างแท้จริง นี่คือการผสานพลังระหว่างจุดแข็งของ TSS และความเชี่ยวชาญระดับโลกของ SRO
เตรียมตัวให้พร้อมสำหรับฤดูกาลแห่งความมันส์ที่กำลังจะมาถึง!ปฏิทินการแข่งขัน TSS The Super Series 2025
- 22–25 พฤษภาคม 2568 – สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต
- 2–6 กรกฎาคม 2568 – สนามบางแสน สตรีท เซอร์กิต
- 8–10 สิงหาคม 2568 – เซปัง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต
- 19–21 กันยายน 2568 – เซปัง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต
- 31 ตุลาคม – 2 พฤศจิกายน 2568 – สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต
แฟน ๆ จากทั่วโลกสามารถติดตามความเร้าใจได้ผ่านการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ไทยและแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งออนไลน์ พร้อมคำบรรยายภาษาไทย อังกฤษ จีน และเยอรมัน
สำหรับนักแข่งและทีมที่สนใจ ตอนนี้ยังพอมีกริดว่างอยู่! อย่าพลาดโอกาสที่จะเข้าร่วมแข่งขันในรายการระดับนานาชาติ
ท่านที่สนใจสามารถติดต่อได้ที่: info@racingspirit.co.th
คาดเข็มขัดให้แน่น แล้วเตรียมตัวสู่ฤดูกาลที่คุณจะไม่มีวันลืม – การแข่งขันกำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว!
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine
-
News / News Motocycle1 Min Read
สงกรานต์นี้ เตรียมเชียร์! “ก้อง-สมเกียรติ” พร้อมลุย “โมโตจีพี ไนท์เรซ” ที่ “กาตาร์”
ช่วงวันหยุดยาวของเทศกาลสงกรานต์ไทยนี้ แฟนๆ มอเตอร์สปอร์ตเตรียมเชียร์ “ก้อง”สมเกียรติ จันทรา กับรถแข่ง Honda RC213V หมายเลข 35 ที่พร้อมเดินหน้าเพื่อเรียนรู้และทำงานอย่างเต็มที่ ร่วมกับต้นสังกัด อิเดมิตสึ ฮอนด้า แอลซีอาร์ ในศึก โมโตจีพี 2025 สนาม 4 “กาตาร์ กรังด์ปรีซ์” ที่จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 11-13 เมษายนนี้ ณ กรุงโดฮา ประเทศกาตาร์
แฟนๆ กีฬามอเตอร์สปอร์ตจะได้เชียร์นักแข่งระดับโลกบิดดวลความเร็วกันในรูปแบบ “ไนท์เรซ” ยามค่ำคืนภายใต้แสงสปอร์ตไลท์ ณ ลูแซล อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ซึ่งผลงานที่ผ่านมากับสนามแห่งนี้ของนักบิดขวัญใจชาวไทย ในรุ่มโมโตทู คือ การคว้าอันดับ 7 เมื่อปี 2023
ด้าน “ก๊องส์” ธัชกร บัวศรี นักบิดดาวรุ่งชาวไทย หมายเลข 5 จาก ฮอนด้า ทีม เอเชีย ก็มีความพร้อมลงแข่งขันในศึก โมโตทรี เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ สนามนี้แล้ว หลังจากที่ได้รับบาดเจ็บ “เอ็นหัวเข่า” จากสนามที่ผ่านมา ที่ สหรัฐอเมริกา
ศึก กาตาร์ กรังด์ปรีซ์ จะลงซ้อมในวันศุกร์ที่ 11 เมษายน ก่อนจะจับเวลารอบควอลิฟายและสปรินต์เรซในคืนวันเสาร์ที่ 12 เมษายน (คืนข้ามเข้าสู่วันที่ 13 เมษายน) จากนั้นจะชิงชัยรอบ เมนกรังด์ปรีซ์ ในคืนนวันอาทิตย์ที่ 13 เมษายนนี้ เริ่มต้นด้วย โมโตทรี 21.00 น. ต่อด้วย โมโตทู 22.15 น. และปิดท้ายด้วยรุ่นใหญ่อย่าง โมโตจีพี 00.00 น. ตามเวลาประเทศไทย (ข้ามเป็นวันที่ 14 เมษายน) ถ่ายทอดสดทาง TrueVisions SPOTV และ TrueVisions Now
แฟนมอเตอร์สปอร์ตส่งกำลังใจเชียร์ “ก้อง” สมเกียรติ จันทรา นักบิดโมโตจีพีชาวไทยคนแรกในประวัติศาสตร์ และนักบิดฮอนด้า ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เฟซบุ๊กฮอนด้าเรซทูเดอะดรีม: https://facebook.com/HondaRacingTeamTH
#HondaRacingThailand #RaceToTheDream #Motorsport #MotoGP #HondaBigBike #HondaRC213V #HondaHRCCastrol #JM36 #LM10 #LCRHondaTeam #LCRHonda #JZ5 #IdemitsuHondaLCR #SC35 #Kong #TheFirstThaiRiderInMotoGP #HondaTeamAsia #TB5 #Gonz #QatarGP
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine
-
“เกีย เซลส์ (ประเทศไทย)” แท็กทีม “เจฟ ซาเตอร์” และ “ททท.” ชวนครอบครัวคนรุ่นใหม่สัมผัสประสบการณ์ พิเศษจากการท่องเที่ยวในจุดหมายปลายทางสุด BOLD ผ่านแคมเปญสุดสร้างสรรค์ “เดอะ โบลด์ เจอร์นีย์” เพื่อสร้างแรงบันดาลใจใหม่ๆไปกับ The Kia EV5 รถยนต์ไฟฟ้า 100% ที่สะท้อนถึงเอกลักษณ์ของแบรนด์เกีย “Movement that Inspires” ได้อย่างชัดเจน
เพราะเกียเชื่อว่า ทุกการเดินทาง คือ โอกาสที่จะได้ค้นพบแรงบันดาลใจใหม่ๆ เกีย เซลส์ (ประเทศไทย) จึงได้ร่วมมือกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดตัวแคมเปญเชิงสร้างสรรค์ “เดอะ โบลด์ เจอร์นีย์” (THE BOLD JOURNEY) ชวนครอบครัวรุ่นใหม่ร่วมออกผจญภัยและสำรวจสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าค้นหาในประเทศไทย ไปกับ The Kia EV5 รถเอสยูวีขนาดกลาง ไฟฟ้า 100% ที่ออกแบบมาเพื่อทำให้การเดินทางของครอบครัวทั้งสะดวกสบาย เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และน่าตื่นเต้น โดยมี “เจฟ ซาเตอร์” ศิลปินชื่อดังและพรีเซนเตอร์ The Kia EV5 มาร่วมถ่ายทอดความหลงใหลในการขับรถท่องเที่ยวที่พาไปสู่การได้ค้นพบตัวเองในมุมใหม่ๆ ผ่านวิดีโอออนไลน์ เพื่อเชิญชวนให้ทุกคนออกมาร่วมสัมผัสการเดินทางสุด BOLD ไปด้วยกัน ประเดิมกิจกรรมแรก “The BOLD Destination” ชวนครอบครัวออกไปผจญภัยในสถานที่สุดพิเศษตามเส้นทางตะวันออกของไทย ผู้สนใจร่วมกิจกรรมสามารถลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ https://www.kia-campaign.com/EV5-bolddestination ได้ตั้งแต่วันที่ 10 เมษายน – 8 พฤษภาคม 2568 เพื่อลุ้นรับสิทธิ์เป็นครอบครัวผู้โชคดีร่วมโร้ดทริปในวันที่ 24-25 พฤษภาคม 2568 THE BOLD JOURNEY ไม่ใช่แค่ทริปท่องเที่ยว แต่เป็นโอกาสให้ทุกคนออกเดินทางสู่การผจญภัยที่จะเปลี่ยนนิยามของการสำรวจใหม่ และเปิดรับความงดงามของความหลากหลายในทุกสายสัมพันธ์ของครอบครัว ไม่ว่าคุณจะเป็นครอบครัวคนรุ่นใหม่ คู่รัก LGBTQ+ หรือสายเที่ยวที่รักสัตว์เลี้ยง แคมเปญนี้พร้อมต้อนรับทุกคนให้มาสร้างช่วงเวลาสุดประทับใจบนเส้นทางแห่งการเดินทางร่วมกัน
“เกีย” (Kia) เชื่อว่าพลังของการขับเคลื่อนสร้างแรงบันดาลใจและเปลี่ยนแปลงชีวิตผู้คนได้ ซึ่งความเชื่อนี้ได้ถูกสะท้อนผ่านปรัชญาของแบรนด์ที่ว่า ‘Movement that Inspires’ โดยในปีที่ผ่านมาเกียได้มีการเปิดตัว The Kia EV5 ผ่านแคมเปญ ‘ไม่กล้า ไม่เกิด – Make A Bold Move’ ที่ชวนทุกคนให้กล้าที่จะก้าวไปสู่สิ่งใหม่ เพื่อสานต่อแนวคิดดังกล่าว ในปีนี้ เกีย เซลส์ (ประเทศไทย) จึงได้ริเริ่มแคมเปญ “THE BOLD JOURNEY” เชิญชวนครอบครัวรุ่นใหม่ พักจากการใช้ชีวิตปกติในทุกวันออกมาผจญภัย สำรวจความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติที่สวยงามของประเทศไทยไปกับ The Kia EV5 ที่มีระยะทางวิ่งสูงสุด 665 กิโลเมตรต่อการชาร์จ ตามมาตรฐาน NEDC และมาพร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัยที่ล้ำสมัย มั่นใจได้ว่าทุกช่วงเวลาที่อยู่บนท้องถนนจะปลอดภัย สะดวกสบาย และเต็มไปด้วยแรงบันดาลใจ ซึ่งการร่วมมือกับ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ในครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของเกียในการส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน เพราะ ‘เกีย’ เชื่อว่าการท่องเที่ยวไม่ใช่แค่เรื่องของความตื่นเต้น แต่ควรสร้างความทรงจำอันงดงาม พร้อมรักษาเสน่ห์ของทุกจุดหมายปลายทางให้คงอยู่ตลอดไป โดยกิจกรรม The BOLD Destination จะพาผู้โชคดี 5 ครอบครัวร่วมโร้ดทริปไปยังเกาะมันใน จ. ระยอง สถานที่ท่องเที่ยวอันน่าทึ่งในภาคตะวันออก และเพื่อเติมเต็มประสบการณ์ที่ครอบคลุมยิ่งขึ้นเกียได้เชิญ 10 ครอบครัวจาก เกีย พัทยา และ เกีย ระยอง มาร่วมเดินทางสุดพิเศษครั้งนี้ด้วย
เจฟ ซาเตอร์ พรีเซนเตอร์ The Kia EV5 เล่าถึงความรู้สึกที่มีต่อแคมเปญนี้ว่า “สำหรับผมการขับรถไม่ใช่แค่การเดินทางจากที่หนึ่งไปอีกที่หนึ่ง แต่เป็นการได้ใช้เวลาไตร่ตรองในเรื่องต่างๆ และสร้างแรงบันดาลใจให้กับตัวเอง ผมชอบการเดินทางด้วยรถ ไม่ว่าจะเดินทางคนเดียวหรือกับเพื่อน เพราะทุกการเดินทางคือโอกาสที่จะได้สัมผัสประสบการณ์ใหม่ๆ ซึ่งผมเองก็เป็นเจ้าของ The Kia EV5 ที่พูดได้เลยว่านี่คือเพื่อนร่วมทางที่สมบูรณ์แบบสำหรับการเดินทาง ด้วยห้องโดยสารที่กว้างขวางและออกแบบมาอย่างดีทำให้รู้สึกสะดวกสบายระหว่างการเดินทางไกล พื้นที่เก็บสัมภาระที่กว้างทำให้สามารถนำทุกอย่างที่ต้องการติดตัวไปได้ ไม่ว่าจะเป็นกระเป๋าเพิ่มเติมสำหรับทริปครอบครัวหรือสิ่งของจำเป็นสำหรับสัตว์เลี้ยง ความสูงของรถก็ทำให้ผมมั่นใจในการขับขี่บนถนนทุกประเภท ซึ่งสิ่งเหล่านี้ทำให้ทุกการเดินทางของผมราบรื่นไร้กังวล สุดท้ายนี้ผมรู้สึกตื่นเต้นที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของแคมเปญ ‘THE BOLD JOURNEY’ เพราะผมเชื่อในพลังของการออกไปสำรวจโลกภายนอก และขอเชิญชวนทุกคนมาร่วมผจญภัยไปกับแคมเปญฯ ก้าวออกจากคอมฟอร์ตโซน ยอมรับในความหลากหลายของครอบครัว และออกไปสัมผัสจุดหมายปลายทางสุด Unseen ในเมืองไทย ซึ่งจะทำให้ทุกการเดินทางของคุณเป็นความทรงจำที่น่าจดจำที่สุดกันครับ”
แคมเปญ “THE BOLD JOURNEY” ประกอบด้วย 3 กิจกรรมหลัก ได้แก่ 1.The BOLD Destination กิจกรรมท่องเที่ยวสำหรับครอบครัวที่จะมอบประสบการณ์การเดินทางสุดพิเศษไปสู่จุดหมายปลายทางสุด BOLD 2. The BOLD Honeymoon กิจกรรมท่องเที่ยวสำหรับคู่รัก LGBTQ+ เพื่อร่วมเฉลิมฉลองเดือน Pride Month และ 3. The BOLD Friend กิจกรรมซีเอสอาร์สำหรับคนรักน้องหมา น้องแมวที่ร่วมกับมูลนิธิเดอะวอยซ์ โดยผู้ร่วมกิจกรรมสามารถแสดงความประสงค์รับเลี้ยงน้องหมา น้องแมว เพื่อนสุด BOLD จากมูลนิธิฯ สำหรับกิจกรรมแรก The BOLD Destination จะพาผู้โชคดี 5 ครอบครัวร่วมโร้ดทริปไปยังเกาะมันใน จ. ระยอง สถานที่ท่องเที่ยวอันน่าทึ่งในภาคตะวันออก และเพื่อเติมเต็มประสบการณ์ที่ครอบคลุมยิ่งขึ้น เกียได้เชิญ 10 ครอบครัวจาก เกีย พัทยา และ เกีย ระยอง มาร่วมเดินทางสุดพิเศษครั้งนี้ด้วย ผู้ที่สนใจร่วมกิจกรรมสามารถลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ https://www.kia-campaign.com/EV5-bolddestination ได้ตั้งแต่วันที่ 10 เมษายน – 8 พฤษภาคม 2568 เพื่อลุ้นรับสิทธิ์เป็นครอบครัวผู้โชคดีร่วมเดินทางแบบโร้ดทริปบนเส้นทางสุด BOLD ไปด้วยกันในวันที่ 24-25 พฤษภาคม 2568 ติดตามความเคลื่อนไหว และรายละเอียดของทั้ง 3 กิจกรรมภายใต้แคมเปญ THE BOLD JOURNEY’ ได้ที่ช่องทาง Official ของ เกีย เซลส์ (ประเทศไทย) : www.kia.com
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine
-
สงกรานต์นี้ ฉลองไปกับโรยัล เอ็นฟีลด์
เดือนเมษาฯ นี้ ปลดปล่อยใจไปกับสงกรานต์บนมอเตอร์ไซค์คู่ใจ โรยัล เอ็นฟีลด์ ชวนคุณนำทางความสุขทุกโมเมนต์ พร้อมเคล็ดลับดูแลรถให้พร้อมลุยทุกสถานการณ์ ออกไปสร้างประสบการณ์สงกรานต์ที่น่าประทับใจกัน!
นำทางพิกัดความสุข ทุกโมเมนต์สำคัญในวันสงกรานต์
ประเทศไทยในช่วงสงกรานต์นั้นเต็มไปด้วยสีสันและความครึกครื้น แต่ละภูมิภาคก็มีเอกลักษณ์และเสน่ห์ที่แตกต่างกันไป ลองมาดูไอเดียสถานที่เที่ยวที่เราสามารถบิดมอเตอร์ไซค์ไปสนุกกันได้เลย:
- เชียงใหม่: เมืองเหนือสุดฮิตที่ไม่เคยทำให้ผิดหวัง ด้วยบรรยากาศสงกรานต์ที่ยังคงความเป็นเอกลักษณ์ มีการแห่พระพุทธสิหิงค์ การประกวดเทพีสงกรานต์ และแน่นอนว่าการสาดน้ำรอบคูเมืองยังคงเป็นไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาด เส้นทางขับขี่ไปยังดอยสุเทพก็เป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ที่น่าสนใจสำหรับนักบิด
- ขอนแก่น: สงกรานต์ถนนข้าวเหนียวที่ขึ้นชื่อเรื่องความยาวและความคึกคัก ผู้คนออกมาเล่นน้ำกันอย่างสนุกสนานตลอดเส้นทาง นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมและการแสดงต่างๆ มากมายให้ได้ชมกัน การขับขี่ในตัวเมืองอาจจะหนาแน่นหน่อย แต่รับรองว่าความสนุกจะทำให้ลืมความเหนื่อยไปเลย
- พระนครศรีอยุธยา: สัมผัสสงกรานต์แบบไทยๆ ที่ยังคงมีกลิ่นอายของประวัติศาสตร์ มีการสรงน้ำพระสำคัญ การแสดงพื้นบ้าน และการละเล่นต่างๆ ที่น่าสนใจ การขับขี่มอเตอร์ไซค์ชมโบราณสถานต่างๆ ในช่วงสงกรานต์ก็เป็นอีกหนึ่งเสน่ห์ที่ไม่เหมือนใคร
- กรุงเทพมหานคร: แม้จะมีการจัดงานสงกรานต์ในหลายพื้นที่ แต่ที่พลาดไม่ได้คือถนนสีลมและถนนข้าวสาร ที่จะเนืองแน่นไปด้วยผู้คนทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่ออกมาสาดน้ำกันอย่างสนุกสุดเหวี่ยง การขับขี่ในเมืองอาจจะต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ แต่รับรองว่าความมันส์นั้นคุ้มค่าแน่นอน
- พัทยา: สำหรับสายปาร์ตี้และชอบความคึกคัก สงกรานต์พัทยาถือเป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางที่ไม่ควรพลาด มีการจัดงานริมชายหาด คอนเสิร์ต และกิจกรรมทางน้ำต่างๆ มากมาย การขับขี่เลียบชายหาดในช่วงเย็นๆ ก็เป็นอะไรที่ฟินสุดๆ
เตรียมความพร้อมให้รถมอเตอร์ไซค์คู่ใจ…เดินทางอย่างมั่นใจในทุกสถานการณ์
ก่อนออกเดินทางไกลในช่วงสงกรานต์ การตรวจเช็คสภาพรถมอเตอร์ไซค์อย่างละเอียดถือเป็นสิ่งสำคัญอันดับแรก เพื่อความปลอดภัย ลองมาดูกันว่ามีอะไรบ้างที่เราต้องใส่ใจ:
- ระบบเบรก: ตรวจสอบระดับน้ำมันเบรก ผ้าเบรก และการทำงานของเบรกหน้า-หลัง ให้มั่นใจว่าอยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน
- ยางรถ: เช็คลมยางให้ได้ตามมาตรฐาน เติมลมยางให้เหมาะสมกับน้ำหนักบรรทุก ตรวจสอบดอกยางว่ายังมีความลึกเพียงพอหรือไม่ หากดอกยางสึกมาก ควรเปลี่ยนยางใหม่เพื่อป้องกันการลื่นไถล
- โซ่/สายพาน: ตรวจสอบความตึงของโซ่หรือสภาพของสายพาน หากโซ่หย่อนเกินไปหรือสายพานมีรอยแตก ควรปรับตั้งหรือเปลี่ยนใหม่
- น้ำมันเครื่องและของเหลวต่างๆ: ตรวจสอบระดับน้ำมันเครื่อง น้ำหล่อเย็น และน้ำมันเบรก หากระดับต่ำกว่ามาตรฐาน ควรเติมให้เรียบร้อย
- ระบบไฟส่องสว่างและสัญญาณไฟ: ตรวจสอบไฟหน้า ไฟท้าย ไฟเลี้ยว และแตร ให้มั่นใจว่าสามารถใช้งานได้ตามปกติ
- กระจกมองข้าง: ปรับกระจกมองข้างให้อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม มองเห็นทัศนียภาพด้านหลังได้ชัดเจน
- อุปกรณ์ความปลอดภัย: เตรียมหมวกกันน็อคที่ได้มาตรฐาน ถุงมือ เสื้อแขนยาว กางเกงขายาว และรองเท้าหุ้มส้น เพื่อป้องกันการบาดเจ็บหากเกิดอุบัติเหตุ
หรือเข้ารับบริการตรวจเช็คสภาพรถโดยผู้เชียวชาญที่ศูนย์บริการของ โรยัล เอ็นฟีลด์ ทั่วประเทศ
คำแนะนำเพิ่มเติม:
- หากเดินทางไกล ควรพักผ่อนให้เพียงพอก่อนออกเดินทาง และแวะพักเป็นระยะๆ เพื่อคลายความเมื่อยล้า
- ศึกษาเส้นทางและสภาพการจราจรล่วงหน้า
- ขับขี่ด้วยความระมัดระวัง ไม่ประมาท และปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด
- พกพาเอกสารประจำรถและใบขับขี่ติดตัวเสมอ
- เตรียมชุดกันฝนและถุงกันน้ำสำหรับเก็บสัมภาระและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
ดูแล โรยัล เอ็นฟีลด์ ของคุณ…ให้คงความสง่างามหลังการเดินทาง
หลังจากการผจญภัยในเทศกาลสงกรานต์ การดูแล โรยัล เอ็นฟีลด์ คู่ใจของคุณคือการแสดงความขอบคุณสำหรับการเดินทางที่แสนพิเศษ:
- ทำความสะอาดอย่างพิถีพิถัน: ล้างรถให้สะอาดหมดจดจากคราบน้ำ คราบแป้ง และสิ่งสกปรกต่างๆ โดยเฉพาะบริเวณที่เข้าถึงยาก
- เช็ดให้แห้งสนิท: หลังจากล้างแล้ว เช็ดรถให้แห้งสนิท เพื่อป้องกันการเกิดสนิมและความเสียหายต่อชิ้นส่วนต่างๆ
- ดูแลโซ่/สายพาน: หล่อลื่นโซ่ด้วยน้ำมันหล่อลื่นคุณภาพ หรือตรวจสอบสภาพสายพานอีกครั้ง
- ตรวจสอบระบบเบรกและไฟส่องสว่าง: สังเกตการทำงานของเบรกและระบบไฟต่างๆ
- รักษาสีรถให้เงางาม: เคลือบสีรถเพื่อปกป้องและรักษาความเงางามของ โรยัล เอ็นฟีลด์ ของคุณ
โรยัล เอ็นฟีลด์ เชื่อว่าทุกการเดินทางคือเรื่องราว และรถมอเตอร์ไซค์ของเราคือเพื่อนคู่ใจในการออกสำรวจ ขอให้ทุกท่านมีความสุขกับการเดินทางในช่วงเทศกาลสงกรานต์นี้ ปลอดภัยทุกเส้นทาง และอย่าลืมแบ่งปันเรื่องราวการเดินทางของคุณกับเรา โดยติด #RoyalEnfieldTH #RoyalEnfieldThailand #RidePure
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine
-
News / News Motocycle1 Min Read
Repsol Honda HRC ผลงานหรูเปิดฤดูกาล “โทนี่ โบ” คว้าชัยชนะทะยานขึ้นนำตารางชิงแชมป์โลก TrialGP 2025 ที่สเปน
ทัพนักบิด Repsol Honda HRC “โทนี่ โบ” และ“กาเบียล มาเซลลี่” เปิดฤดูกาลด้วยผลงานสุดหรูในการแข่งขันรายการ TrialGP 2025 สนามแรกที่ประเทศสเปน จากชัยชนะของ “โทนี่ โบ” เก็บแต้มทะยานขึ้นไปครองอันดับที่ 1 ในตารางคะแนนชิงแชมป์โลกได้ทันที ที่ เบนาฮาวิส ประเทศสเปนเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
แชมป์โลกคนปัจจุบันจาก Repsol Honda HRC อย่าง “โทนี่ โบ” หมายเลข 1 เริ่มต้นได้อย่างแข็งแกร่งในการแข่งขันเรซที่ 1 ได้อย่างลงตัวและควบคุมสถานการณ์เอาไว้ได้หมด ก่อนที่จะคว้าชัยชนะไปครอง ขณะที่ทีมเมท “กาเบียล มาเซลลี่” หมายเลข 38 รั้งอยู่ในอันดับที่ 4
การแข่งขันเรซที่ 2 “โทนี่ โบ” เริ่มต้นได้ไม่ดีนักต้องรีดผลงานเพื่อไล่กวดในช่วงหลังของการแข่งขัน แต่ยอดนักบิดสเปนก็ทำได้ดี กดดันเข้าหาคู่แข่งก่อนที่จะคว้าอันดับที่ 2 มาครอง โดย “กาเบียล มาเซลลี่” ยกระดับผลงานขึ้นมาในเรซนี้ คว้าโพเดียมอันดับที่ 3 จบการแข่งขันสนามแรก “โทนี่ โบ” ขึ้นรั้งอันดับที่ 1 ของตารางคะแนนชิงแชมป์โลก ด้วยคะแนนสะสม 77 คะแนน นับเป็นการเปิดฤดูกาลได้อย่างยอดเยี่ยม ขณะที่ “กาเบียล มาเซลลี่” เก็บไป 62 คะแนน อยู่ในอันดับที่ 3
ทั้งนี้ ศึก TrialGP 2025 จะไปแข่งขันสนามที่ 2 กันที่วีอานา โด กัสเตโล ประเทศโปรตุเกส (Viana do Castelo, Portugal) ในระหว่างวันที่ 11-13 เมษายน นี้
#ThaiHonda #HRC #RaceToTheDream #HondaRacingThailand #MotorSport #HondaBigBike #ExcitesTheWorld #HondaRacingCorporation #FIMTrailGP
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine
-
บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย ร่วมกับ โรงแรมโรสวูด กรุงเทพฯ มอบประสบการณ์แห่งการเดินทางเหนือระดับด้วยบีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 7
จากการสร้างความสำเร็จอย่างต่อเนื่องในฐานะผู้นำเซกเมนต์รถยนต์พรีเมียมในประเทศไทยติดต่อกัน เป็นปีที่ 5 พร้อมด้วยผลงานอันโดดเด่นในการครองส่วนแบ่งตลาดกลุ่มลูกค้าโรงแรมถึง 70% ในปีที่ผ่านมา บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย สานต่อความสำเร็จด้วยการส่งมอบบีเอ็มดับเบิลยู 750e xDrive M Sport ให้แก่โรงแรมโรสวูด กรุงเทพฯ มอบทางเลือกการเดินทางที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมความสะดวกสบายเหนือระดับใจกลางกรุงเทพฯ ที่ผสมผสานความสะดวกสบายที่เหนือชั้นเข้ากับประสบการณ์การขับขี่ระดับเฟิร์สคลาส ความร่วมมือครั้งนี้ไม่เพียงแต่ยกระดับประสบการณ์ในการเดินทางที่แขกของโรงแรมโรสวูด กรุงเทพฯ จะได้รับตลอดการเข้าพัก แต่ยังเป็นการผนึกกำลังของสองแบรนด์พรีเมียมที่ให้ความสำคัญกับการมอบคุณภาพระดับพรีเมียมและความมีสไตล์ในทุกการเดินทาง
มร. เรเน่ แกร์ฮาร์ด ประธานและซีอีโอ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย กล่าวถึงความร่วมมือระหว่างบีเอ็มดับเบิลยู และโรงแรมโรสวูด กรุงเทพฯ ครั้งนี้ว่า “ในฐานะผู้นำในตลาดรถยนต์พรีเมียมของประเทศไทย บีเอ็มดับเบิลยูมุ่งมั่นที่จะส่งมอบประสบการณ์การเดินทางและนวัตกรรมที่ดีที่สุดให้แก่ลูกค้าของเรา ด้วยความสำเร็จในการนำเสนอบริการรถยนต์ระดับพรีเมียมให้แก่องค์กร เรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมมือกับโรงแรมโรสวูด กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นโรงแรมที่มีชื่อเสียงในด้านความมุ่งมั่นสู่ความเป็นเลิศ เพื่อมอบประสบการณ์ที่พิเศษยิ่งขึ้นแก่แขกผู้เข้าพัก การส่งมอบบีเอ็มดับเบิลยู 750e xDrive M Sport ครั้งนี้ จะช่วยเติมเต็มประสบการณ์การเดินทางของแขกผู้เข้าพักยังโรสวูดแห่งนี้ ให้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น ซึ่งจะช่วยยกระดับการเดินทางด้วยความหรูหราที่ยั่งยืนและเทคโนโลยีที่ทันสมัย”
บีเอ็มดับเบิลยู 750e xDrive M Sport มาพร้อมกับเครื่องยนต์เบนซิน 6 สูบขนาด 3.0 ลิตร ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า ส่งกำลังรวมสูงสุด 360 กิโลวัตต์ / 489 แรงม้า และให้แรงบิดรวมสูงสุด 700 นิวตันเมตร มาพร้อมกับการออกแบบภายนอกที่สวยงามจากกระจังหน้า ‘Iconic Glow’ และชุดไฟหน้าคริสตัลสวารอฟสกี้ หรูหรา ภายในห้องโดยสารประกอบไปด้วยเบาะนั่งตอนหลังแบบ Executive Lounge พร้อมฟังก์ชันนวดผ่อนคลายสำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสารตอนหลัง และระบบบันเทิงที่ล้ำสมัย พร้อมหน้าจอ BMW Theatre Screen ขนาด 31.3 นิ้ว บนความละเอียดระดับ 8K และระบบเสียงรอบทิศทางจากแบรนด์ Bowers & Wilkins ทำให้ทุกการเดินทางเต็มไปด้วยความสะดวกสบายและความบันเทิง
โรงแรมโรสวูด กรุงเทพฯ พร้อมมอบประสบการณ์ที่เกินความคาดหมายเสมอ ในฐานะผู้นำด้านความหรูหราในวงการโรงแรมของไทย โรงแรมสูง 30 ชั้นแห่งนี้เป็นผลงานชิ้นเอกทางสถาปัตยกรรมใจกลางย่านธุรกิจของกรุงเทพฯ ได้รับ แรงบันดาลใจจากท่า “ไหว้” อันเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งสื่อถึงความอบอุ่นและการต้อนรับแบบไทย การออกแบบภายในผสมผสานสุนทรียศาสตร์ไทยร่วมสมัยเข้ากับองค์ประกอบทางวัฒนธรรมที่หรูหรา ในฐานะโรงแรมแห่งที่ 27 ภายใต้ Rosewood Hotels & Resorts® โรงแรมโรสวูด กรุงเทพฯ ได้กลายเป็นแลนด์มาร์คที่โดดเด่นของเมืองหลวงแห่งนี้ อย่างรวดเร็ว และยังสื่อถึงมรดกทางวัฒนธรรมไทยอันทรงคุณค่า โดยได้รับการยกย่องจากสื่อท่องเที่ยวระดับโลกมากมาย รวมถึงรางวัลอันทรงเกียรติ Forbes Travel Guide Star Award ประจำปี 2568 ซึ่งเป็นการยืนยันถึงชื่อเสียงในด้าน
การบริการระดับโลกสิ่งที่ทำให้โรงแรมโรสวูด กรุงเทพฯ แตกต่าง คือความใส่ใจในทุกรายละเอียดของการให้บริการ สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของบีเอ็มดับเบิลยูในด้านการส่งมอบประสบการณ์การเดินทางแห่งอนาคต และความเป็นเลิศในยนตรกรรมระดับไฮเอนด์ ก่อนที่แขกจะเดินทางมาถึง จะได้รับการติดต่อจากฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์ของโรงแรม เพื่อปรับแต่งทุกรายละเอียดของ การเข้าพัก ไม่ว่าจะเป็นการจองร้านอาหารสำหรับมื้อพิเศษ การปรับแผนการเดินทางให้ตรงตามความต้องการ หรือ การจัดทัวร์ส่วนตัว ทีมงานของโรงแรมพร้อมให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อให้แขกทุกท่านได้รับประสบการณ์ที่ราบรื่นและไร้กังวล ด้วยห้องพักที่ตกแต่งอย่างพิถีพิถันจำนวน 158 ห้อง รวมถึงสกายพูลวิลล่าที่มองเห็นทัศนียภาพอันงดงามของกรุงเทพฯ โรงแรมโรสวูด กรุงเทพฯ ยังโดดเด่นด้วยองค์ประกอบที่บ่งบอกถึงการพักผ่อนอย่างหรูหรา ตั้งแต่ห้องพักที่ได้รับการออกแบบอย่างพิถีพิถัน ไปจนถึงการบริการไร้ที่ติ แขกผู้เข้าพักยังสามารถผ่อนคลายที่ Sense, A Rosewood Spa ซึ่งได้รับการยอมรับในระดับสากล หรือลิ้มลองอาหารรสเลิศที่ร้านอาหารระดับโลกของโรงแรม สะท้อนให้เห็นถึงจิตวิญญาณของเมืองแห่งนี้ที่รู้จักกันว่าเป็น “The City of Angels”
มิสซิส แซนดร้า วอเทอร์มาน กรรมการผู้จัดการ โรงแรมโรสวูด กรุงเทพฯ กล่าวว่า “ที่โรงแรมโรสวูด กรุงเทพฯ เราเชื่อมั่นในการสร้างประสบการณ์พิเศษซึ่งออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ความต้องการเฉพาะของแขกแต่ละท่าน และความมุ่งมั่นในการมอบความหรูหราที่ให้ความรู้สึกคุ้นเคย ความร่วมมือกับบีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย ในครั้งนี้ สะท้อนถึงปรัชญาดังกล่าว ด้วยการนำยนตรกรรมอันโดดเด่นเหล่านี้มาให้บริการ บีเอ็มดับเบิลยู 750e xDrive M Sport จะช่วยให้เราสามารถขยายบริการสุดพิเศษสำหรับแขกแต่ละท่าน อันเป็นเอกลักษณ์ของเราออกไปนอกพื้นที่โรงแรม สร้างประสบการณ์การเดินทางที่ราบรื่นตั้งแต่วินาทีแรกที่แขกของเรามาถึงกรุงเทพมหานคร ความร่วมมือครั้งนี้ยังแสดงให้เห็นถึงการผสมผสานอย่างลงตัวระหว่างความอบอุ่นแบบไทย ความหรูหราอย่างยั่งยืน และนวัตกรรมเทคโนโลยี ซึ่งเป็นสิ่งที่บ่งบอกถึงประสบการณ์ของโรสวูดที่แขกของเราจะได้รับ”
ความร่วมมือระหว่างบีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย และโรงแรมโรสวูด กรุงเทพฯ เป็นมากกว่าแค่การส่งมอบยานยนต์ นับเป็นการผสานนวัตกรรมยานยนต์เข้ากับการบริการระดับโลกอย่างไร้ที่ติ ด้วยยนตรกรรมที่ได้รับการออกแบบมาอย่างประณีตและเพียบพร้อมไปด้วยเทคโนโลยีระดับแนวหน้าของวงการ ซึ่งจะมาวางมาตรฐานใหม่ให้แก่ประสบการณ์การเดินทางอันหรูหรา บีเอ็มดับเบิลยู 750e xDrive M Sport พร้อมให้บริการรับ-ส่งแขกวีไอพี ไม่ว่าจะเป็น จากสนามบินหรือการเดินทางภายในเมือง เพื่อให้มั่นใจว่าทุกประสบการณ์การเดินทางเป็นไปอย่างราบรื่น หรูหรา และน่าจดจำ
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine
-
โตโยต้า ครองใจ Gen Z คว้ารางวัล GEN Z TOP BRAND AWARD 2025
บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด คว้ารางวัล GEN Z TOP BRAND 2025 “แบรนด์ที่สามารถครองใจ Gen Z” ในหมวดอุตสาหกรรมยานยนต์ จากการประกาศรางวัล GEN Z TOP Brand Award 2025 โดยในโอกาสนี้ มีนายสมุทร ตังคชวนะ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดรถยนต์นั่ง บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด พร้อมด้วยตัวแทนจากสายงานการตลาด เป็นตัวแทนเข้ารับรางวัล เมื่อวันที่ 9 เมษายน 2568 ณ SCBX NEXT TECH ห้างสรรพสินค้าสยามพารากอน
รางวัล GEN Z TOP Brand Award 2025 เป็นรางวัลที่มอบให้กับ 10 แบรนด์จาก 10 อุตสาหกรรมที่สามารถครองใจผู้บริโภค Gen Z (ผู้ที่เกิดระหว่างปี พ.ศ. 2540 – 2555) ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญในการขับเคลื่อนตลาดในปัจจุบันและจะกลายเป็นกำลังซื้อหลักของทั้งตลาดในอนาคตอันใกล้ โดยโตโยต้า เป็นแบรนด์ที่ได้รับเลือกในหมวดอุตสาหกรรมยานยนต์ อ้างอิงจากผลการสำรวจในงานวิจัยชุด “The Z Impact : Decode Insight & Celebrating Brands Gen Z Loves” จัดทำขึ้นโดยเว็บไซต์ด้านการตลาด BrandBuffet.in.th ร่วมกับบริษัทวิจัยการตลาดชั้นนำ INTAGE (Thailand) ในการวิเคราะห์เชิงลึก ทั้งในเชิงคุณภาพและปริมาณ ในผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายกว่า 3,000 รายทั่วประเทศ (ผู้ที่สนใจ สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ https://www.brandbuffet.in.th/2025/04/brand-buffet-ana-intage-announced-gen-z-top-brand-award-2025/)
บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ขอขอบคุณทุกความเชื่อมั่นจากลูกค้าทุกท่าน โดยเฉพาะ GenZ ที่ได้โหวตให้กับแบรนด์ จนได้รับรางวัลนี้
ทั้งนี้ เรามีความมุ่งมั่น พัฒนา และนำเสนอผลิตภัณฑ์และ บริการที่ครบวงจร พร้อมตอบโจทย์ ครอบคลุมลูกค้าทุกกลุ่ม เพื่อความพึงพอใจสูงสุดของลูกค้าทุกเจเนอเรชันต่อไป
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine
-
มาสด้าขับเคลื่อนธุรกิจสู่อนาคตที่แข็งแกร่งและยั่งยืนในประเทศไทย ร่วมมือผู้จำหน่ายทั่วประเทศยกระดับประสบการณ์ลูกค้าในทุกบริบท
มาสด้าหลอมรวมดีลเลอร์ทั่วประเทศเป็นหนึ่งเดียว ประกาศเดินหน้าขับเคลื่อนธุรกิจสู่ความยั่งยืนในประเทศไทย จัดประชุมผู้จำหน่ายประจำปีงบประมาณ 2568 “Mazda Mirai 2025” ภายใต้ธีม Joyful Driving into a New Era เพื่อถ่ายทอดวิสัยทัศน์และนโยบายการบริหารธุรกิจให้เกิดผลกำไร รวมทั้งเตรียมความพร้อมของทุกภาคส่วนเพื่อก้าวสู่ยุคสมัยใหม่ ทั้งเทคโนโลยีแห่งอนาคตและรถยนต์รุ่นใหม่ที่กำลังจะเปิดตัวลงสู่ตลาดในปีนี้ เน้นสร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่งภายใต้กลยุทธ์ Brand Value Management และแนวคิด Stakeholder Centric Approach โดยให้ความสำคัญสูงสุดกับพนักงาน ผู้จำหน่าย และลูกค้า พร้อมวางรากฐานที่สำคัญ ๆ เพื่อก้าวสู่การเป็น Top Retention Brand ทั้งด้านการขายและบริการหลังการขาย โดยประสานความร่วมมือกับผู้จำหน่ายทั่วประเทศที่มีศักยภาพสูงทั้งหมด 80 แห่ง พร้อมยกระดับประสบการณ์ลูกค้าในทุกบริบท ตามปรัชญาใหม่ “Joy Drives Lives” ความสุขขับเคลื่อนชีวิต โดยมีผู้จำหน่ายมาสด้าจากทั่วประเทศ ผู้บริหารระดับสูงจาก มาสด้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น และคณะผู้บริหารจาก มาสด้า เซลส์ ประเทศไทย เข้าร่วมการประชุมโดยพร้อมเพรียงกัน ณ โรงแรมแอทธินี กรุงเทพฯ
นายธีร์ เพิ่มพงศ์พันธ์ ประธานกรรมการบริหารและซีอีโอ บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า การประชุมผู้จำหน่ายประจำปีนี้ถือเป็นก้าวย่างที่สำคัญยิ่งต่อการเปลี่ยนแปลง เนื่องจากเป็นการเตรียมความพร้อมสำหรับการแนะนำรถยนต์รุ่นใหม่และเทคโนโลยีแห่งอนาคตที่กำลังจะเปิดตัวในประเทศไทย รวมถึงเป็นการถ่ายทอดนโยบายและกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจของปีประจำปีงบประมาณ 2568 ให้กับผู้จำหน่ายเพื่อให้สามารถนำไปปฏิบัติในการผลักดันธุรกิจให้ประสบความสำเร็จอย่างยั่งยืนในระยะยาว โดยงานประชุม “Mazda Mirai 2025” จัดขึ้นภายใต้ธีม Joyful Driving into a New Era แสดงให้เห็นถึงการขับเคลื่อนธุรกิจสู่การเปลี่ยนแปลงอย่างเป็นรูปธรรม นำเสนอวิสัยทัศน์เพื่อก้าวสู่อนาคตที่สดใสและมั่นคง ตามแผนการดำเนินธุรกิจระยะยาว ทั้งด้านการตลาด การขาย การบริการหลังการขาย การขยายเครือข่ายผู้จำหน่าย รวมถึงผลิตภัณฑ์ใหม่ที่จะเปิดตัวในปีนี้ โดยเฉพาะแผนการแนะนำรถยนต์รุ่นใหม่ในปีนี้ ที่จะมาพร้อมกับพลังงานทางเลือกหลากหลายรูปแบบ รวมถึงรถยนต์ไฟฟ้า 100% ตามกลยุทธ์ Multi-solution เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าชาวไทย ด้วยการส่งมอบความสุขในการขับขี่และการใช้ชีวิตในทุกด้านให้กับลูกค้าทุกคน
วันนี้ มาสด้าพร้อมเอาใจใส่ดูแลลูกค้าให้ดีที่สุดในทุกประสบการณ์เพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้กับแบรนด์ และมุ่งมั่นเดินหน้าเต็มกำลัง ภายใต้กลยุทธ์ Brand Value Management (BVM) เพื่อให้มาสด้าเป็นแบรนด์อันดับหนึ่งที่ลูกค้ามองหา พร้อมสื่อสารภาพลักษณ์องค์กรด้วยการถ่ายทอดปรัชญาใหม่ Joy Drives Lives หรือ ความสุขขับเคลื่อนชีวิต เพราะมาสด้าเชื่อมั่นอย่างยิ่งว่าความสุขที่เกิดจากการขับขี่รถยนต์จะนำมาซึ่งความสุขในการใช้ชีวิต รวมถึงปรับเปลี่ยนประสบการณ์ลูกค้าและสร้าง Customer Journey รูปแบบใหม่ เพื่อนำมาพัฒนาประสบการณ์ของลูกค้าในทุก ๆ ขั้นตอน เพื่อให้มั่นใจได้ว่าทุกครั้งที่ลูกค้ามีปฏิสัมพันธ์กับแบรนด์มาสด้า จะนำมาซึ่งคุณค่าและประสบการณ์ความสุขจากการเป็นเจ้าของรถยนต์มาสด้า พร้อมกันนี้ ยังได้เน้นย้ำถึงกลยุทธ์ที่เป็นมาตรฐานของการทำงาน ซึ่งคือ Stakeholder Centric Approach โดยแบ่งเป็น 3 ส่วน ได้แก่ พนักงาน ผู้จำหน่าย และลูกค้า พร้อมความสำคัญของการทำงานโดยมีลูกค้าเป็นศูนย์กลางในทุกบริบท
สำหรับการปรับเปลี่ยนของมาสด้าในปีนี้ แบ่งออกเป็น 3 กลยุทธ์หลัก ประกอบด้วย การปรับเปลี่ยนวัฒนธรรมองค์กรด้วย “ผู้คน” โดยมีเป้าหมายในการเป็นองค์กรที่คล่องตัว และขับเคลื่อนธุรกิจด้วยข้อมูลเชิงลึก พร้อมสนับสนุนเพื่อปรับวัฒนธรรมองค์กรของผู้จำหน่ายด้วยโปรแกรมพัฒนาทักษะของพนักงาน กลยุทธ์ที่สอง คือ การให้ความสำคัญกับการวางรากฐานด้านเทคโนโลยีและการใช้ข้อมูลเชิงลึก รวมถึงการฟังเสียงของลูกค้าเพื่อนำมาเพิ่มประสิทธิภาพและการสื่อสาร หรือ Voice of Fan และกลยุทธ์ที่สาม คือ การสร้างประสบการณ์ลูกค้าแบบไร้รอยต่อทั้งด้านออนไลน์และออฟไลน์ผ่านแพลตฟอร์มต่าง ๆ ทั้งนี้ สิ่งสำคัญที่สุดของการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ คือการปรับโครงสร้างและพัฒนาเครือข่ายผู้จำหน่ายที่มีอยู่ทั้งหมด 80 แห่ง ให้พร้อมรองรับความต้องการของลูกค้าที่จะเข้ามารับบริการ ด้วย PMA ใหม่ การกำหนดขอบเขตให้ผู้จำหน่ายที่มีศักยภาพสูงขยายพื้นที่ในการดูแลลูกค้าเพิ่มขึ้น ด้วยกลยุทธ์เหล่านี้จะช่วยให้มาสด้าสามารถดูแลลูกค้าได้อย่างทั่วถึง ครอบคลุม และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ มาสด้ายังคงมุ่งมั่นอย่างไม่หยุดยั้งเพื่อเดินหน้าตามวิสัยทัศน์ 2030 ด้วยการเป็นบริษัทที่รักรถยนต์ และขับเคลื่อนความสุขผ่านประสบการณ์ในการขับขี่ให้กับลูกค้า เพราะมาสด้าเชื่อเสมอว่า ความสุขคือส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนชีวิต นั่นคือเหตุผลที่มาสด้ามุ่งมั่นในการสร้างสรรค์ประสบการณ์ที่มีความหมาย และส่งมอบความสุขให้กับผู้คน หัวใจหลักสำคัญล้วนเกิดจาก Customer Centric Mindset ปรัชญาที่ให้ความสำคัญกับลูกค้าเป็นอันดับแรกในทุกสิ่งที่เราทำ ส่งผลให้มาสด้าสามารถส่งมอบคุณค่าอย่างต่อเนื่อง สร้างความไว้วางใจ และยืนยันได้ว่าลูกค้าจะเกิดความภาคภูมิใจที่เลือกใช้รถยนต์มาสด้า ทั้งวันนี้และต่อไปในอนาคต เพื่อให้มาสด้าเป็นแบรนด์ที่เติบโตเคียงข้างคนไทยและสังคมไทยอย่างยั่งยืน
นางสาวจันทรา โพธิ์ทอง ผู้อำนวยการฝ่ายการเงินและบัญชี, มร. โชอิจิ ฮิโรตะ ผู้อำนวยการฝ่ายวางแผนกลยุทธ์ และพัฒนาธุรกิจ, นายพิเชษฐ์ ปุณณารักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายขาย, มร. ทาเคชิ ซาโตะ รองประธานกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่สายงานการเงิน, มร. ฮิโรชิ ชิบะ ผู้จัดการทั่วไปสำนักงานธุรกิจภูมิภาคอาเซียน มาสด้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น, นายธีร์ เพิ่มพงศ์พันธ์ ประธานกรรมการบริหารและซีอีโอ, นายภพนิพิฐ จิรวัฒนานนท์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและนวัตกรรมดิจิทัล, นายศราวุฒิ บรรยงค์กุล ผู้อำนวยการฝ่ายบริการลูกค้า, มร. ทาคายูกิ อิชิฮาร่า ผู้อำนวยการฝ่ายคุณภาพอาเซียน และนางสาวชลทิชา ทาระบุตร ผู้อำนวยการฝ่ายทรัพยากรบุคคล
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine