• PTG โชว์ศักยภาพปี 68 ธุรกิจ Non-Oil โดดเด่น

    1 Min Read

    PTG โชว์ศักยภาพปี 68 ธุรกิจ Non-Oil โดดเด่น

    คุณรังสรรค์ พวงปราง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานการเงินและความยั่งยืน  บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) (PTG) พร้อมด้วยทีมงานบริษัทฯ ให้การต้อนรับนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ เนื่องในโอกาสเข้ารับฟังข้อมูลผลการดำเนินงานปี 67 โดยระบุปีที่ผ่านมา PTG มีกำไรสุทธิเท่ากับ 1,042 ล้านบาท ส่วนรายได้รวมเท่ากับ 225,813 ล้านบาท ขณะที่ปริมาณการขายน้ำมันผ่านทุกช่องทางทุบสถิติสูงสุดใหม่อยู่ที่ 6,708 ล้านลิตร  และครองส่วนแบ่งตลาดเพิ่มเป็น 21.9% ขณะที่ธุรกิจ Non-Oil เติบโตอย่างโดดเด่นจากกาแฟพันธุ์ไทยที่ขยายสาขาได้เกินเป้า พร้อมประเมินแนวโน้มธุรกิจปี 68 ยังสดใสจากธุรกิจ Non-Oil ที่ขยายตัวโดยเฉพาะกาแฟพันธุ์ไทยที่ยังเป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญจากแผนขยายสาขาที่ตั้งเป้าสิ้นปีนี้จะมีกว่า 2,000 สาขา รวมถึงยอดสมาชิกบัตร PT Max Card และ PT Max Card Plus ที่เพิ่มขึ้น ซึ่งงานดังกล่าวจัดขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้ ณ อาคาร CW ทาวเวอร์รัชดา กรุงเทพฯ


    ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย

    Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
    Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
    Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
    instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
    Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
    Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
    Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine

    No Comment
  • ‘มิชลิน ไพรมาซี่ 5’ เปิดตัวพร้อมแนวคิด “CONFIDENCE MADE TO LAST” ชูจุดเด่นให้สมรรถนะที่ดีเยี่ยมยาวนาน พร้อมลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

    1 Min Read

     ‘มิชลิน ไพรมาซี่ 5’ เปิดตัวพร้อมแนวคิด “CONFIDENCE MADE TO LAST” ชูจุดเด่นให้สมรรถนะที่ดีเยี่ยมยาวนาน พร้อมลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

    ล่าสุด ‘มิชลิน’ ผู้นำด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยียางล้อระดับโลก ได้วางตลาด ‘มิชลิน ไพรมาซี่ 5’ (MICHELIN Primacy 5) ยางสำหรับรถยนต์นั่งและรถครอสโอเวอร์ทุกประเภทเครื่องยนต์ ภายใต้แนวคิด “ปลอดภัย มั่นใจในสมรรถนะที่ดีเยี่ยมรอบด้าน แม้เวลาเปลี่ยน” (Confidence Made To Last)  ยางรุ่นนี้ได้รับการพัฒนาให้มีคุณสมบัติเหนือกว่ายางรุ่นก่อนหน้าอย่าง ‘มิชลิน ไพรมาซี่ 4’ โดยมาพร้อมนวัตกรรมล้ำหน้าที่ช่วยให้ยางมีสมรรถนะเพิ่มขึ้น แต่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยลง

    นายสรพงษ์ จันทร์นฤกุล, ผู้อำนวยการกลุ่มธุรกิจ B2C, บริษัท สยามมิชลิน จำกัด เปิดเผยว่า “ยาง มิชลิน ไพรมาซี่ 5พัฒนาขึ้นเพื่อรองรับศักยภาพที่เปลี่ยนแปลงไปของยานยนต์รุ่นใหม่และลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม รถยนต์รุ่นใหม่โดยเฉพาะรถยนต์ไฮบริดและรถยนต์ไฟฟ้ามีน้ำหนักมากขึ้นและแรงม้าสูงขึ้น จึงต้องใช้ยางล้อที่มีสมรรถนะสูงขึ้นตามไปด้วย  โครงสร้างยางล้อจึงต้องมีประสิทธิภาพที่จะรองรับความต้องการเหล่านี้ได้  ความทนทานต่อการสึกหรอและแรงต้านทานการหมุนของยางล้อที่ดีขึ้นไม่เพียงส่งผลให้ลูกค้ามีต้นทุนในการใช้งานต่ำลง แต่ยังช่วยให้ยางมีสมรรถนะในการยึดเกาะถนนเปียกที่ดียาวนาน จึงให้ความปลอดภัยและอายุการใช้งานที่ยาวนานเหนือกว่า  สำหรับลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย จุดเด่นเหล่านี้ไม่เพียงยกระดับประสบการณ์การขับขี่ แต่ยังเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า ทำให้ มิชลิน ไพรมาซี่ 5เป็นยางที่เลือกใช้งานเพื่อการขับขี่ได้อย่างมั่นใจ

    จุดเด่นสำคัญของยาง ‘มิชลิน ไพรมาซี่ 5’ ได้แก่ § ประสบการณ์ขับขี่ที่นุ่มสบายเหนือระดับ ด้วยดีไซน์ดอกยางแบบใหม่ที่มาพร้อมเทคโนโลยี Michelin Silent Rib Gen-3 ซึ่งช่วยลดการสั่นสะเทือน จึงช่วยลดเสียงรบกวนลงและให้การขับขี่ที่นุ่มเงียบสบาย(2) สัมผัสได้ถึงความรู้สึกผ่อนคลายตลอดการเดินทาง § อายุใช้งานที่ดีเยี่ยมยาวนาน โดยมีอายุใช้งานเฉลี่ยยาวนานกว่ายางระดับพรีเมียมแบรนด์อื่นๆ ถึง 24%(3) ด้วยลายดอกยางสำหรับถนนเปียกที่ให้อายุใช้งานยาวนาน, ร่องรีดน้ำบริเวณไหล่ยาง (Lateral Groove Edges) ที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น และเทคโนโลยี MaxTouch ซึ่งช่วยเพิ่มพื้นที่หน้าสัมผัสระหว่างยางล้อกับผิวถนน และกระจายแรงกดอย่างสม่ำเสมอตลอดหน้ายางขณะเร่งความเร็ว เบรก และเข้าโค้ง ส่งผลให้หน้ายางมีอายุใช้งานนานขึ้นโดยยังคงให้ความปลอดภัยขณะขับขี่ดังเดิม ผู้ขับขี่จึงเพลิดเพลินกับการเดินทางและกิจกรรมท่องเที่ยวต่าง ๆ ได้ยาวนานยิ่งขึ้น…ถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าอย่างแท้จริง

    • ให้ความปลอดภัยบนถนนเปียกยาวนานกว่า โดยมีระยะเบรกสั้นกว่ายางระดับพรีเมียมแบรนด์อื่นๆ ถึง 8% (ยางใหม่) และ 13% (ยางใกล้หมดดอก)(4) ด้วยเนื้อยางสูตรพิเศษ Functional Elastomers 3.0 ซึ่งมาพร้อมเทคโนโลยี MICHELIN EverGrip และ MICHELIN EverTread ที่ช่วยให้การรีดน้ำเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ จึงให้สมรรถนะการเบรกบนถนนเปียกที่เป็นเยี่ยม เพิ่มความอุ่นใจและปลอดภัยให้กับผู้ขับขี่และผู้โดยสารในทุกการเดินทาง และ § รองรับการใช้งานร่วมกับรถยนต์ไฟฟ้า ด้วยสูตรเนื้อยางสมรรถนะสูงบริเวณหน้ายางที่ช่วยลดแรงต้านทานการหมุนของยางล้อลงถึง 13%(5) จึงช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานและยืดระยะใช้งานต่อรอบการชาร์จแบตเตอรี่หนึ่งครั้งสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า

    นอกจากยาง ‘มิชลิน ไพรมาซี่ 5’ จะให้สมรรถนะ ความปลอดภัย และความนุ่มเงียบสบายที่เหนือกว่าแล้ว ยังเคารพและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ “ความยั่งยืนทุกด้าน” (All Sustainable) ของกลุ่มมิชลิน โดยแรงต้านทานการหมุนของยางล้อ(6) มีประสิทธิภาพดีขึ้น 5% ขณะที่อายุการใช้งาน(7) ยาวนานขึ้น 18%  อีกทั้งการออกแบบโดยรวมยังช่วยให้ยางรุ่นนี้ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมลดลงถึง 6%(1)

    ปัจจุบัน ‘มิชลิน ไพรมาซี่ 5’ มีวางจำหน่ายแล้ว ณ ร้านตัวแทนจำหน่ายยางอย่างเป็นทางการของมิชลินทั่วประเทศ โดยมีให้เลือกรวมทั้งสิ้น 46 ขนาด ตั้งแต่ขอบ 16 ถึง 20 นิ้ว  โดยยางขนาด 18 นิ้วขึ้นไป (21 รายการ) มาพร้อมแก้มยางกำมะหยี่ดีไซน์แบบเต็มวง  คลิกอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.michelin.co.th


    ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย

    Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
    Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
    Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
    instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
    Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
    Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
    Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine


    No Comment
  • PTG ร่วมกับกรมการค้าภายใน ให้ความมั่นใจ เติมน้ำมันเต็มลิตร ที่สถานีบริการน้ำมันพีที

    1 Min Read

    PTG ร่วมกับกรมการค้าภายใน ให้ความมั่นใจ เติมน้ำมันเต็มลิตร ที่สถานีบริการน้ำมันพีที

    บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ PTG ผู้ดำเนินธุรกิจให้บริการสถานีบริการน้ำมันภายใต้แบรนด์ พีที (PT) ร่วมกับ กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ ประกาศเสริมสร้างความมั่นใจแก่ประชาชนผู้บริโภค ในการเข้าร่วมโครงการ “หัวจ่ายเชื้อเพลิงมาตรฐาน” โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างความมั่นใจให้แก่ประชาชนผู้บริโภคในการใช้บริการสถานีบริการน้ำมันพีที

    นายพิทักษ์ รัชกิจประการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) เผยว่า “การสร้างความเชื่อมั่นในมาตรฐานปริมาณน้ำมันเชื้อเพลิงที่ประชาชนผู้บริโภคได้รับเป็นเรื่องสำคัญ เพื่อให้มั่นใจว่าน้ำมันที่เติมเงินที่จ่ายไปนั้นถูกต้อง และครบถ้วน ดังนั้นพีทีจี จึงได้เข้าร่วม “โครงการหัวจ่ายเชื้อเพลิงมาตรฐาน” ของกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ โดยสถานีบริการน้ำมันภายใต้แบรนด์พีทีทุกแห่งทั่วประเทศสมัครเข้าร่วมโครงการฯ และพร้อมปฏิบัติตามเงื่อนไขของโครงการ โดยจะมีการตรวจสอบความถูกต้องของหัวจ่ายเป็นประจำทุก 15 วัน ต่อเนื่องกัน 6 เดือน หลังจากนั้นจะเป็นการตรวจสอบเป็นประจำทุกเดือน ทั้งนี้เราตั้งเป้าในการผลักดันให้สถานีบริการน้ำมันพีทีทุกแห่งในประเทศไทยสามารถปฏิบัติตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขได้อย่างถูกต้อง ซึ่งในปัจจุบันมีสถานีบริการน้ำมันพีทีที่ผ่านการรับรองหัวจ่ายมาตรฐานแล้ว 1,680 สถานี เพราะเราตระหนักถึงความสำคัญของความโปร่งใส และการสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ประชาชนผู้บริโภคที่จะได้รับน้ำมันมาตรฐานเต็มลิตร และเต็มเปี่ยมด้วยความเชื่อมั่นในคุณภาพ รวมถึงมาตรฐานการให้บริการ เพื่อให้ประชาชนผู้บริโภคได้รับบริการที่ดีที่สุด ทุกครั้งที่เข้ามาใช้บริการในสถานีบริการน้ำมันพีที”

    นายวิทยากร มณีเนตร อธิบดีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ เผยว่า “ตามที่ทางกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ ได้ร่วมลงนามบันทึกความเข้าใจระหว่างกรมฯ กับผู้ประกอบการที่เข้าร่วม “โครงการหัวจ่ายเชื้อเพลิงมาตรฐาน” นั้น มีวัตถุประสงค์เพื่อการสนับสนุน ส่งเสริม และกำกับดูแลมาตรวัดปริมาณเชื้อเพลิงของสถานีบริการน้ำมัน ให้มีความเที่ยงตรง ถูกต้อง และมีประสิทธิภาพครอบคลุมทุกหัวจ่าย สำหรับสถานีบริการน้ำมันภายใต้แบรนด์พีทีนั้น ให้ความร่วมมือในการผลักดัน และปฏิบัติตามกฎหมายพระราชบัญญัติมาตราชั่งตวงวัดอย่างเข้มงวด โดยสถานีบริการน้ำมันพีทีนั้นสามารถปฏิบัติตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขของโครงการฯ ได้อย่างถูกต้องต่อเนื่องกัน 6 เดือน จึงได้รับการยกระดับป้ายสัญลักษณ์เป็นสีเงิน (Silver) ดังนั้นผู้บริโภคจึงสามารถมั่นใจได้ว่า ในการเติมน้ำมันในสถานีบริการน้ำมันที่ได้รับเครื่องหมายสัญลักษณ์ “โครงการหัวจ่ายเชื้อเพลิงมาตรฐาน” จะได้รับปริมาณน้ำมันที่ครบถ้วน ถูกต้องตามที่กฎหมายกำหนด”

    ทั้งนี้ บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) (PTG) มุ่งมั่นเดินหน้าขับเคลื่อนธุรกิจภายใต้หลักการเที่ยงธรรม เพื่อส่งมอบผลิตภัณฑ์ และบริการที่เป็นเยี่ยมสู่ลูกค้าผู้ไว้วางใจ ทั่วประเทศ ปัจจุบันสถานีบริการน้ำมันพีทีมีมากถึง 2,062 แห่ง ครอบคลุมทั่วประเทศ  ครบครันด้วยบริการหลากรูปแบบ อาทิ ร้านค้าสะดวกซื้อ “Max Mart” “ร้านกาแฟ พันธุ์ไทย” รวมทั้ง “Autobacs” ศูนย์บริการรถยนต์ครบวงจร มาตรฐานจากญี่ปุ่น ซึ่งสอดคล้องตามวิสัยทัศน์ของ PTG ในการพัฒนาสังคมให้ “อยู่ดีมีสุข” ต่อไป


    ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย

    Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
    Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
    Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
    instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
    Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
    Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
    Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine


    No Comment
  • เตรียมรถให้พร้อมก่อนหยุดยาว ศูนย์บริการฮอนด้าชวนลูกค้าตรวจสภาพรถยนต์ ฟรี! 25 รายการ พร้อมรับแคมเปญดีๆ “Honda Summer Deal” ตั้งแต่ 1 มี.ค. 2568 – 30 เม.ย. 2568

    1 Min Read

    เตรียมรถให้พร้อมก่อนหยุดยาว ศูนย์บริการฮอนด้าชวนลูกค้าตรวจสภาพรถยนต์ ฟรี! 25 รายการ พร้อมรับแคมเปญดีๆ “Honda Summer Deal” ตั้งแต่ 1 มี.ค. 2568 – 30 เม.ย. 2568

    ลูกค้ารถยนต์ฮอนด้า ทั้งรถใหม่และรถมือสอง เตรียมเฮ! รับซัมเมอร์กับบริการตรวจสภาพรถฟรี! 25 รายการ จัดแคมเปญ Honda Summer Deal”* โดย บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด ร่วมกับกรมการขนส่งทางบก ชวนลูกค้าเตรียมความพร้อมให้รถยนต์ฮอนด้าของท่านก่อนการเดินทางช่วงฤดูร้อนและเทศกาลสงกรานต์ ด้วยบริการตรวจสภาพรถยนต์ฟรี 25 รายการ รับโปรโมชันพิเศษ ทั้งแบตเตอรี่ ยางรถยนต์ ผ้าเบรก และส่วนลดอะไหล่อื่นๆ มากมาย พร้อมผ่อนเบาๆ สุดคุ้ม สูงสุด 10 เดือน** เพียงนำรถเข้ารับบริการที่ศูนย์บริการฮอนด้าใกล้บ้านท่าน ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2568 30 เมษายน 2568 โดยสามารถจองคิวรับบริการล่วงหน้า ทาง “Online Service Booking” ที่ https://servicebooking.honda.co.th หรือทาง LINE Official Account (@Honda-Thailand) มาพร้อม 2 บริการพิเศษ*** ทั้ง Honda Drop & Go” การนัดหมายเช็กระยะล่วงหน้า และ “Honda Quick Service” การนัดหมายเช็กระยะเร่งด่วน แบบรอรับรถได้ภายในเวลาที่กำหนด เพื่อมอบความสะดวกสบายให้ลูกค้าทุกท่านยิ่งขึ้น

    สิทธิประโยชน์ในแคมเปญ “Honda Summer Deal*

    รายการที่ 1      บริการตรวจสภาพรถยนต์ฟรี 25 รายการ**** (อาทิ ตรวจวัดค่าแบตเตอรี่ด้วยเครื่องทดสอบโวลท์ / แอมแปร์ และตรวจเติมน้ำกลั่น ตรวจการทำงานของเครื่องยนต์ รอบเดินเบา / การรั่วซึม)

    รายการที่ 2      ส่วนลด 10% ผลิตภัณฑ์บำรุงรักษาเครื่องยนต์ (Engine Oil Treatment)

    รายการที่ 3      ส่วนลด 10% ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดระบบฉีดจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิง (Gasoline Treatment)

    รายการที่ 4     ส่วนลด 10% ผ้าเบรก

    รายการที่ 5      ส่วนลด 150 บาท แบตเตอรี่ทางเลือกยี่ห้อ GS และยี่ห้อ PUMA

    รายการที่ 6      โปรโมชันยางรถยนต์รุ่นที่กำหนด โดยมีเงื่อนไขแตกต่างกันในแต่ละรุ่น

    • ซื้อยาง 3 เส้น รับฟรี 1 เส้น
    • ยางโยโกฮาม่า (Yokohama) ซื้อ 3 เส้น รับฟรี 1 เส้น สำหรับลูกค้ารถยนต์ ฮอนด้า ซีอาร์-วี
      เอชอาร์-วี ซีวิค ซิตี้ และแจ๊ซ
    • ยางกู๊ดเยียร์ (Goodyear) ซื้อ 3 เส้น รับฟรี 1 เส้น สำหรับลูกค้ารถยนต์ ฮอนด้า เอชอาร์-วี
      ซิตี้ และแจ๊ซ
    • ยางดันลอป (Dunlop) ซื้อ 3 เส้น รับฟรี 1 เส้น สำหรับลูกค้ารถยนต์ ฮอนด้า เอชอาร์-วี ซิตี้ และแจ๊ซ
    • ซื้อยาง 4 เส้นตามรุ่นยางที่กำหนด รับส่วนลดพิเศษ บัตรโลตัส และบัตรน้ำมัน
    • ยางโยโกฮาม่า (Yokohama) ซื้อครบ 4 เส้น รับส่วนลด 1,280 – 3,200 บาท สำหรับลูกค้ารถยนต์ฮอนด้า เอชอาร์-วี แอคคอร์ด ซิตี้ และแจ๊ซ
    • ยางกู๊ดเยียร์ (Goodyear)
    • สำหรับขนาดล้อ 16 นิ้ว ซื้อครบ 4 เส้น รับบัตรโลตัส 200 บาท สำหรับลูกค้ารถยนต์ ฮอนด้า บีอาร์-วี ซีวิค ซิตี้ และแจ๊ซ
    • สำหรับขนาดล้อ 17 และ 18 นิ้ว รับบัตรเติมน้ำมัน 500 บาท สำหรับลูกค้ารถยนต์ ฮอนด้า
      ซีอาร์-วี เอชอาร์-วี แอคคอร์ด และซีวิค
    • ยางดันลอป (Dunlop) ซื้อครบ 4 เส้น รับส่วนลด 600 – 2,800 บาท สำหรับลูกค้ารถยนต์ ฮอนด้า
      ซีอาร์-วี บีอาร์-วี ซีวิค และโมบิลิโอ
    • ยางบริดจสโตน (Bridgestone) ซื้อครบ 4 เส้น รับฟรี บัตรเติมน้ำมัน 1,000 บาท สำหรับลูกค้ารถยนต์ ฮอนด้า ซีอาร์-วี เอชอาร์-วี บีอาร์-วี แอคคอร์ด ซิตี้ แจ๊ซ และโมบิลิโอ
    • โปรโมชันยางพิเศษอื่นๆ ตามรุ่นที่กำหนด
    • ซื้อยางฮันกุก (Hankook) รับส่วนลดสูงสุด 300 บาท/เส้น ไม่จำกัดจำนวน สำหรับลูกค้า
      รถยนต์ ฮอนด้า ซีวิค

    โดยลูกค้าสามารถเลือกผ่อนชำระค่าใช้จ่ายเบาๆ** ทั้งงานบริการ ดอกเบี้ย 0% นาน 6 เดือน สำหรับทุกธนาคารที่เข้าร่วมและสูงสุด 8 เดือน เฉพาะบัตรเครดิตกรุงศรีเฟิร์สช้อยส์ ยอดใช้จ่าย 5,000 บาทขึ้นไป และค่าใช้จ่ายยางรถยนต์ ดอกเบี้ย 0% นาน 6 เดือน และสูงสุด 10 เดือน ยอดใช้จ่าย 3,000 บาทขึ้นไป

    นอกจากนี้ รับเพิ่ม! สิทธิประโยชน์พิเศษ สำหรับ

    • ลูกค้ารถยนต์ฮอนด้าที่มีรถอายุ 5 ปีขึ้นไป รับส่วนลดเพิ่ม 200 บาท เมื่อซื้อแพ็กเกจเช็กระยะฮอนด้าเพย์เซฟแบบ 4 ระยะ
    • ลูกค้ารถยนต์ฮอนด้ามือสอง ทั้งลูกค้า ฮอนด้า เซอร์ติฟาย ยูสคาร์ (Honda Certified Used Car) และกลุ่มรถยนต์ฮอนด้ามือสองทั่วไป เพียงเข้าไปที่ศูนย์บริการฮอนด้าใกล้บ้านท่าน เพื่ออัปเดตข้อมูลเจ้าของรถยนต์ รับสิทธิประโยชน์ Welcome to Honda Family” ได้แก่ ส่วนลดค่าน้ำมันเครื่อง 200 บาท และส่วนลด 20% น้ำมันเกียร์ น้ำมันเบรก น้ำยาหม้อน้ำ ในแคมเปญ “เปลี่ยนมือ ไม่ปล่อยมือ”

    ลูกค้าสามารถตรวจสภาพรถฟรีและรับโปรโมชันพิเศษในแคมเปญ “Honda Summer Deal” ได้ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2568 30 เมษายน 2568 โดยสามารถตรวจสอบศูนย์บริการฮอนด้าที่เข้าร่วมได้ที่โชว์รูมและศูนย์บริการฮอนด้า
    ทั่วประเทศ หรือศูนย์บริการข้อมูลฮอนด้า 24 ชั่วโมง (Honda Call Center) โทร. 0 2341 7777 ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ https://www.honda.co.th/promotions/detail/honda-summer-deal-campaign

    หมายเหตุ

    * เงื่อนไขของแคมเปญฯ เป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด และขอสงวนสิทธิ์ในการยกเลิกหรือเปลี่ยนแปลง โดยไม่จำเป็นต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.honda.co.th/promotions/detail/honda-summer-deal-campaign

    ** เงื่อนไขการผ่อนชำระค่าใช้จ่ายงานบริการที่มียอดชำระขั้นต่ำ 5,000 บาทขึ้นไปต่อเซลล์สลิป
    – ผ่อนชำระ 0% นาน 6 เดือน สำหรับลูกค้าบัตรเครดิตธนาคารกรุงเทพทุกประเภท (ยกเว้น BBL American Express / BBL China Union Pay /บัตรบีเฟิสต์ –VISA ELECTRON) บัตรเครดิตธนาคารกสิกรไทย บัตรเครดิตธนาคารไทยพาณิชย์ บัตรเครดิตธนาคารกรุงศรีอยุธยาและในเครือ (บัตรเครดิตโฮมโปร / บัตรเซ็นทรัล เดอะวัน เครดิตคาร์ด / บัตรเครดิต เทสโก้ โลตัส)
    – ผ่อนชำระ 0% นาน 8 เดือน สำหรับลูกค้าบัตรเครดิตกรุงศรีเฟิร์สช้อยส์ และบัตรเครดิตธนาคารกรุงไทย

     เงื่อนไขการผ่อนชำระค่าใช้จ่ายยางรถยนต์ โดยลูกค้าสามารถเลือกผ่อนชำระดอกเบี้ย 0% นาน 6 เดือน หรือ 10 เดือน สำหรับลูกค้าบัตรเครดิตธนาคารกรุงเทพทุกประเภท (ยกเว้น BBL American Express / BBL China Union Pay / บัตรบีเฟิสต์ –VISA ELECTRON) บัตรเครดิตธนาคารกสิกรไทย บัตรเครดิตธนาคารไทยพาณิชย์ บัตรเครดิตธนาคารกรุงศรีอยุธยาและในเครือ (บัตรเครดิตกรุงศรี เฟิร์สช้อยส์ / บัตรเครดิตโฮมโปร / บัตรเซ็นทรัล เดอะวัน เครดิตคาร์ด / บัตรเครดิต เทสโก้ โลตัส)

    ***“Honda Drop & Go” หรือ “Honda Quick Service” ให้บริการแตกต่างกันในแต่ละโชว์รูมและศูนย์บริการฮอนด้า ลูกค้าสามารถตรวจสอบล่วงหน้าก่อนเข้ารับบริการ

    **** รายการตรวจสภาพรถยนต์ฟรี 25 รายการ

    1. ตรวจวัดค่าแบตเตอรี่ด้วยเครื่องทดสอบโวลท์/ แอมแปร์ และตรวจเติมน้ำกลั่น
    2. ตรวจเติมระดับน้ำในถังสำรองหม้อน้ำและถังเก็บน้ำล้างกระจก
    3. ตรวจการรั่วซึมของท่อยางหม้อน้ำ บน / ล่าง
    4. ตรวจทำความสะอาดไส้กรองอากาศ
    5. ตรวจระดับน้ำมันเครื่อง
    6. ตรวจระดับน้ำมันเบรก / คลัทช์ (สำหรับรุ่นที่มี)
    7. ตรวจระดับน้ำมัน พวงมาลัยเพาเวอร์ (สำหรับรุ่นที่มี)
    8. ตรวจระดับน้ำมันเกียร์
    9. ตรวจสภาพสายพานขับด้านนอก
    10. ตรวจสภาพยางปัดน้ำฝน
    11. ตรวจระดับหัวฉีดน้ำล้างกระจก
    12. ตรวจสภาพยาง วัดแรงดัน / เติมลมยาง 5 เส้น
    13. ตรวจการทำงานของไฟสัญญาณ / ไฟส่องสว่าง
    14. ตรวจการทำงานของเข็มขัดนิรภัย
    15. ตรวจการทำงานของระยะแป้นเบรก
    16. ตรวจการทำงานของระยะยกคันโยกเบรกมือ
    17. ตรวจการทำงานของแม่ปั๊มเบรก และหม้อลมเบรก
    18. ตรวจการทำงานของระบบปรับอากาศ (ความเย็น / ช่องทางลม)
    19. ตรวจสภาพของท่ออ่อนเบรก 4 ล้อ
    20. ตรวจลูกหมากและยางกันฝุ่นแร็คพวงมาลัย
    21. ตรวจยางกันฝุ่นเพลาขับด้านซ้าย
    22. ตรวจยางกันฝุ่นเพลาขับด้านขวา
    23. ตรวจถังน้ำมันเชื้อเพลิง / ท่อ และข้อต่อท่อน้ำมันเชื้อเพลิง
    24. ตรวจการทำงานของเครื่องยนต์ รอบเดินเบา / การรั่วซึม
    25. ตรวจช่วงล่าง ลูกยาง และลูกหมากต่างๆ

    ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย

    Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
    Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
    Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
    instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
    Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
    Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
    Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine

    No Comment
  • จากรันเวย์สู่แทร็ก! “Grid Girl ผ้าไหมไทย” กระหึ่มศึก MotoGP2025 สู่สายตาแฟนความเร็ว 800 ล้านคน 220 ประเทศทั่วโลก

    1 Min Read

    จากรันเวย์สู่แทร็ก! Grid Girl ผ้าไหมไทย” กระหึ่มศึก MotoGP2025 สู่สายตาแฟนความเร็ว 800 ล้านคน 220 ประเทศทั่วโลก

    ประเทศไทย สร้างปรากฏการณ์อีกครั้ง กับการนำหัตถศิลป์พื้นถิ่นเผยแพร่สู่การแข่งขันระดับตำนาน MotoGP 2025 ศึกชิงเจ้าความเร็วอันดับหนึ่งของโลกที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพสนามแรก กับการนำสุดยอดผ้าไหมไทย ภายใต้โครงการตามแนวพระดำริ “ผ้าไทยใส่ให้สนุก” ในสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา นำชุดผ้าไหมที่ไปเฉิดฉายในรันเวย์โลก มาสู่สุดยอดอีเว้นต์กีฬาที่ยิ่งใหญ่ที่สุด บูรณาการองค์ความรู้จากภูมิปัญญาท้องถิ่นกับเทคโนโลยีสมัยใหม่จนกลายเป็นผลิตภัณฑ์ร่วมสมัยที่มีความเป็นสากล เพิ่มรายได้และสร้างโอกาสส่งออกสินค้าไปยังตลาดนานาชาติ ให้เศรษฐกิจไทยเติบโตอย่างยั่งยืน นำเสน่ห์ของวิถีชุมชนสู่โลกมอเตอร์สปอร์ต

    นายเนวิน ชิดชอบ ประธาน สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ เปิดเผยว่า ” ศึก MotoGP นับเป็นการแข่งขันรถจักรยานยนต์ทางเรียบที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโลก มีประวัติศาสตร์อันยาวนานเข้าสู่ปีที่ 76 ฤดูกาลนี้จะมีการแข่งขันทั้งหมด 22 สนาม โดยประเทศไทยรับบทเป็นเจ้าภาพสนามเปิดฤดูกาล ภายใต้ชื่อรายการ “PT Grand Prix of Thailand 2025”  ถ่ายทอดสู่สายตาแฟนๆ โมโตจีพีที่มีมากกว่า 800 ล้านคน จาก 220 ประเทศทั่วโลก ด้วยเสน่ห์วิถีไทยครองใจคนทั่วโลก

    การจัดงานภายใต้แนวคิด Thailand to The World ในโอกาสนี้ฝ่ายจัดการแข่งขัน ร่วมกับดอร์น่า สปอร์ต เจ้าของลิขสิทธิ์โมโตจีพี ชูความงามของ Grid Girl “สาวงามสนามแข่ง” หรูหรา สง่างาม สวมใส่ชุดผ้าไหมไทย นำเสนอความสวยงามของผ้าไทยในช่วงพิธีเปิดการแข่งขัน MotoGP ซึ่งเป็นรุ่นใหญ่ที่สุดของรายการ

    ชุดที่สวมใส่เป็นผ้าไหมมัดหมี่ทอมือจากมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ แนวคิดการออกแบบอ้างอิงจาก EXPRESSIVE EXOTIC “ตัวตนข้ามวัฒนธรรม” หนึ่งในแนวคิดจากหนังสือ Thai Textiles Trend Book หนังสือจากพระดำริใน สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี  นารีรัตนราชกัญญา ทรงรับหน้าที่เป็นบรรณาธิการบริหาร นำเสนอข้อมูลตั้งแต่ประเภทเนื้อผ้า การเลือกสี การออกแบบลวดลาย รวมไปถึง ‘เทรนด์’ ของอุตสาหกรรมแฟชั่น

    ทั้งนี้ เทรนด์ EXPRESSIVE EXOTIC เล่าถึงเฉดสีของป่าไม้ และความอุดมสมบูรณ์ในธรรมชาติ พัฒนาผ้าไทยในรูปแบบร่วมสมัย เชื่อมโยงตั้งแต่รากฐานความดั้งเดิมในการรังสรรค์เป็นงานฝีมือสุดประณีต สีสันเน้นความสีสดเป็นชุดสีเหลืองและเขียว ภายใต้รูปแบบที่สามารถสวมใส่ได้ในชีวิตประจำวัน ผลงานการออกแบบของ อู๋-วิชระวิชญ์ อัครสันติสุข ดีไซเนอร์ชาวบุรีรัมย์ที่นำผ้าไทยไปเฉิดฉายบนรันเวย์โลกมากมาย จนเป็นที่รู้จักและยอมรับในระดับสากล

    สร้างความตื่นตาตื่นใจและมิติใหม่ให้กับการแข่งขันในครั้งนี้อย่างมากและยังถือเป็นโอกาสสำคัญในการเผยแพร่เสน่ห์ความสวยงามของผ้าพื้นเมืองของไทยสู่สายตาชาวโลกได้อีกทางหนึ่งด้วย”

    “นับเป็นโอกาสอันดีในช่วงหลังจากเสร็จสิ้นการแข่งขันชิงเจ้าความเร็วอันดับหนึ่งของโลกที่จังหวัดบุรีรัมย์ ยังมีกิจกรรมสุดยิ่งใหญ่ต่อเนื่องไว้รองรับนักท่องเที่ยว ซึ่งเป็นความร่วมมือของจังหวัดบุรีรัมย์ร่วมกับภาคเอกชน จัดงาน Colors of Buriram งานผ้าไทยครั้งใหญ่แห่งปีของจังหวัดบุรีรัมย์ พร้อมทั้งจำหน่ายผลิตภัณฑ์ชุมชน ของดีของขึ้นชื่อมากมาย ภายในโดมติดแอร์ขนาดมหึมา  ระหว่างวันที่ 19 มีนาคม -16 เมษายน 2568 เวลา 10.00-18.00 น. บริเวณสนามฟุตบอลช้าง อารีนา เปิดให้เข้าชมฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย จึงขอเชิญชวนผู้สนใจเข้าชมงานกันมากๆครับ”

    ทั้งนี้ การจัดงาน Color of Buriram จัดขึ้นเป็นปีที่ 2 อย่างยิ่งใหญ่และสมพระเกียรติ เพื่อสืบสานพระราชปณิธานสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถพระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในเรื่องการอนุรักษ์ภูมิปัญญาท้องถิ่นของไทย จัดแสดงผลการขับเคลื่อนงานผ้าและงานหัตถกรรม ที่ดำเนินการตามแนวพระดำริ “ผ้าไทยใส่ให้สนุก” ในสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา และเพื่อจัดแสดงผลิตภัณฑ์ผ้าไทยและงานหัตถกรรมภูมิปัญญาชุมชนของจังหวัดบุรีรัมย์ ให้ช่างทอผ้า ประชาชนในพื้นที่ รวมถึงท่องเที่ยวได้สัมผัสและเรียนรู้ภูมิปัญญาวัฒนธรรมความเป็นไทยผ่านผลิตภัณฑ์ผ้านานาชนิด


    ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย

    Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
    Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
    Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
    instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
    Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
    Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
    Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine


    No Comment
  • ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ สุดยอดองค์กรชั้นนำที่คนรุ่นใหม่อยากทำงานด้วย

    1 Min Read

    ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ สุดยอดองค์กรชั้นนำที่คนรุ่นใหม่อยากทำงานด้วย

    ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ คว้ารางวัล “The Most Attractive Employer 2025” องค์กรที่คนรุ่นใหม่อยากทำงานด้วยมากที่สุดจาก “Future Trends Awards 2025” งานประกาศรางวัลที่สุดขององค์กรแห่งปี เน้นย้ำการดูแลให้ความสำคัญกับพนักงาน เพราะ “พนักงานทุกคนคือหัวใจหลักแห่งความสำเร็จ ในการสร้างทุกสิ่งให้เป็นจริงได้” ตอกย้ำความเป็นผู้นำอุตสาหกรรมยานยนต์ตลอดระยะเวลายาวนาน 68 ปี ในประเทศไทย                                                                                                                                                            

    กลุ่มตรีเพชร โดย มร. นาโอยะ เซะงูจิ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด เผยว่า “เรารู้สึกยินดีอย่างยิ่งที่ได้รับรางวัล “The Most Attractive Employer 2025” องค์กรที่คนรุ่นใหม่ที่มีอายุระหว่าง 18 – 22 ปี อยากทำงานด้วยมากที่สุดประจำปี 2568 จากคณะกรรมการผู้ทรงเกียรติ และผลสำรวจของ Future Trends สื่อการตลาดและนวัตกรรมชั้นนำ ร่วมกับ Jobsdb by SEEK แพลตฟอร์มจัดหางานชั้นนำ…เราเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่า พนักงานคือสินทรัพย์ที่มีค่าที่สุดขององค์กร เราจึงมอบทั้งโอกาสในการเติบโตก้าวหน้าในอาชีพ ค่าตอบแทน เงินเดือน โบนัส และสวัสดิการต่าง ๆ ที่ดีระดับองค์กรชั้นนำ ในอุตสาหกรรมเดียวกัน เพื่อความมั่นคงของพนักงาน ทั้งนี้พนักงานยัง ได้โอกาสทำงานในโปรเจกต์พิเศษต่าง ๆ (Taskforce) รวมถึงการหมุนเวียนงาน (Rotation) เพื่อให้พนักงานได้มีการพัฒนาศักยภาพอย่างต่อเนื่องและมีประสบการณ์หลากหลายในสายงานต่าง ๆ รวมทั้งการให้ทุนการศึกษา ทั้งในและต่างประเทศ และคอร์สอบรมต่าง ๆ เพื่อให้พนักงานมีความสามารถเชิงลึกรอบด้าน (Well-roundedness) อีกทั้งยังให้ความสำคัญกับความเป็นอยู่ที่ดี (Well-being Programs) ของพนักงาน ด้วยการสนับสนุนด้านการแพทย์ รวมถึงการส่งเสริมด้าน Work-Life Balance ผ่านกิจกรรมต่าง ๆ และการทำให้บริษัทเป็นสถานที่ทำงานที่มีความสุข และสร้างความสำเร็จด้วยวัฒนธรรมการทำงานอันแข็งแกร่ง ที่ผสมผสานกันอย่างลงตัวจากทั้งแนวคิดไทยและญี่ปุ่น คือ การทำงานเป็นทีม (Teamwork) การมีวินัย (Discipline) รับผิดชอบหน้าที่ของตนเองอย่างเต็มที่ และมีความยืดหยุ่น (Flexibility) พร้อมที่จะปรับตัวไปตามสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ รวมถึงการสื่อสารพูดคุยที่เปิดกว้าง สร้างความรู้สึกให้พนักงานเป็นส่วนหนึ่งของบริษัท สนับสนุนการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นซึ่งกันและกัน สามารถสื่อสารโดยตรงและใกล้ชิดกับผู้บริหารได้เสมอ (Accessibility) เรามั่นใจว่ารางวัลนี้เป็นการพิสูจน์ได้ว่าเราให้ความสำคัญกับพนักงานอย่างแท้จริง เมื่อพนักงานมีความสุขและเต็มเปี่ยมไปด้วยศักยภาพแล้ว ก็จะนำไปสู่ความสำเร็จขององค์กร ทำให้ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ เป็นผู้นำรถยนต์เมืองไทยมาอย่างยาวนานตลอดระยะเวลากว่า 68 ปี และเป็นส่วนสำคัญของความสำเร็จขององค์กรธุรกิจอันหลากหลายภายใต้แนวคิด “กลุ่มตรีเพชร…ทุกสิ่งเป็นจริงได้””

    ติดตามข่าวสารของอีซูซุเพิ่มเติมได้ที่ www.isuzu-tis.com หรือ LINE: @isuzuthai


    ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย

    Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
    Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
    Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
    instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
    Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
    Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
    Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine


    No Comment
  • “MOTOR EXPO” มอบรถให้ผู้โชคดี

    1 Min Read

    “MOTOR EXPO” มอบรถให้ผู้โชคดี

    “IMC สื่อสากล” ผู้จัดงาน “มหกรรมยานยนต์” มอบรางวัลรถยนต์ 3 คัน จักรยานยนต์ 1 คัน แก่ผู้โชคดีที่ร่วมกิจกรรมชิงรางวัลจากงาน “มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 41” เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2568 ดังนี้

    ขวัญชัย ปภัสร์พงษ์ ประธานจัดงาน มอบรางวัลรายการ “ซื้อรถ…ชิงรถ” THE KIA EV 5 รุ่น LIGHT มูลค่า 1,299,000 บาท ผู้ได้รับรางวัล ได้แก่ อิทธิชัย พรหมประเทือง จาก กรุงเทพฯ

    ชไมพร ปภัสร์พงษ์ รองประธานจัดงาน ควบคุมงานด้านการตลาดสัมพันธ์ มอบรางวัลรายการ “ซื้อบัตร…ชิงรถ” MAZDA รุ่น NEW CX-3 BASE PLUS มูลค่า 830,000 บาท ผู้ได้รับรางวัล ได้แก่ ชมาพล ยิ้มน้อย จาก จ.ลพบุรี

    วุฒิชัย ไทยวุฒิพงศ์ รองผู้อำนวยการกองพัฒนาธุรกิจ และการตลาด มอบรางวัลรายการ “ชมงานผ่าน MOTOR EXPO APP ชิงรางวัล” SUZUKI รุ่น SWIFT GL มูลค่า 567,000 บาท ผู้ได้รับรางวัล ได้แก่ แพงจันทร์ เภาตะนะ จาก จ.ร้อยเอ็ด

    วราทิพย์ คำนึงคุณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท มอเตอร์ไซเคิล เอ็กซ์โป จำกัด มอบรางวัลรายการ “ซื้อมอเตอร์ไซค์…ชิงบิกไบค์” TRIUMPH รุ่น SCRAMBLER 1200 X มูลค่า 599,000 บาท ผู้ได้รับรางวัล ได้แก่ ไกรสร หนูด้วง จาก กรุงเทพฯ

    พบกับงาน “มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 42” ณ อาคารชาลเลนเจอร์ IMPACT เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน-10 ธันวาคม 2568 ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ motorexpo.co.th และทุกสื่อในเครือ “IMC สื่อสากล”

    ###

    รายละเอียดเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ: กองสื่อสารองค์กร บริษัท สื่อสากล จำกัด

    โทร. 0-2055-8444 ต่อ 435 E-Mail: thuchchanun@imc.co.th

    ทีมประชาสัมพันธ์งานมหกรรมยานยนต์: บริษัท โปรเฟสชันแนล มีเดีย บิสซิเนส จำกัด

    โทร. 0-2102-0024 # 32, 34 E-Mail: chatchawal_s@pmb.co.thvason_t@pmb.co.th


    ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย

    Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
    Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
    Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
    instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
    Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
    Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
    Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine


    No Comment
  • ปอร์เช่ เอจี (Porsche AG) ประกาศการเปลี่ยนแปลงคณะกรรมการบริหารตามแผนที่วางไว้

    2 Min Read

    ปอร์เช่ เอจี (Porsche AG) ประกาศการเปลี่ยนแปลงคณะกรรมการบริหารตามแผนที่วางไว้

    ปอร์เช่ เอจี (Porsche AG) ได้ประกาศการเปลี่ยนแปลงคณะกรรมการบริหารที่มีการวางแผนล่วงหน้าเป็นระยะเวลานาน โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2025 โดย โยเคน เบรคเนอร์ (Jochen Breckner) อายุ 47 ปี เข้ารับตำแหน่ง กรรมการบริหารฝ่ายการเงินและเทคโนโลยีสารสนเทศ (Board Member for Finance and IT) และ แมทเธียส เบ็คเคอร์ (Matthias Becker) อายุ 54 ปี เข้ารับตำแหน่ง กรรมการบริหารฝ่ายการขายและการตลาด (Board Member for Sales and Marketing) ทั้งสองจะเข้ามารับช่วงต่อจาก ลุทซ์ เมชเค (Lutz Meschke) อายุ 58 ปี และ เดทเลฟ วอน พลาเทน (Detlev von Platen) อายุ 61 ปี ซึ่งตกลงลาออกจากตำแหน่งโดยความเห็นชอบร่วมกัน ก่อนหน้านี้ เบรคเนอร์ เคยดำรงตำแหน่ง หัวหน้าสำนักเลขาธิการใหญ่และฝ่ายพัฒนาธุรกิจองค์กรของปอร์เช่ (Head of Porsche’s General Secretariat and Corporate Development) ขณะที่ เบ็คเคอร์ เคยดำรงตำแหน่ง หัวหน้าภูมิภาคตลาดต่างประเทศและตลาดเกิดใหม่ (Head of the Overseas and Emerging Markets region) และมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาให้ภูมิภาคนี้กลายเป็นหนึ่งในเสาหลักด้านยอดขายที่แข็งแกร่งของปอร์เช่

    “เรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้แต่งตั้ง โยเคน เบรคเนอร์ (Jochen Breckner) และ แมทเธียส เบ็คเคอร์ (Matthias Becker) ซึ่งเป็นผู้บริหารที่มีศักยภาพสูงจากภายในองค์กรของปอร์เช่ให้มาสืบทอดตำแหน่งสำคัญ ทั้งสองคนจะร่วมกันสานต่อเรื่องราวความสำเร็จอันโดดเด่นของบริษัทของเรา” ดร. วูล์ฟกัง ปอร์เช่ (Dr. Wolfgang Porsche) ประธานคณะกรรมการกำกับดูแลของ ปอร์เช่ เอจี (Porsche AG) กล่าว “เราขอขอบคุณ ลุทซ์ เมชเค (Lutz Meschke) สำหรับความทุ่มเทและการทำงานที่ยอดเยี่ยมตลอดหลายปีที่ผ่านมา เขามีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการขับเคลื่อนการเติบโตของบริษัทด้วยความมุ่งมั่นและวิสัยทัศน์เชิงกลยุทธ์ นอกจากนี้ เขายังมีบทบาทสำคัญในการนำพาปอร์เช่เข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ (IPO) อย่างประสบความสำเร็จ ผมขอขอบคุณ เดทเลฟ วอน พลาเทน (Detlev von Platen) ในนามของคณะกรรมการกำกับดูแล สำหรับความทุ่มเทอันยาวนานของเขาที่มีต่อปอร์เช่ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ความมุ่งมั่นในการพัฒนาตลาดทั่วโลกของเขานั้นถือเป็นสิ่งที่โดดเด่นและมีคุณค่าต่อบริษัทอย่างยิ่ง” ดร. วูล์ฟกัง ปอร์เช่ (Dr. Wolfgang Porsche) กล่าวเสริม

    ลุทซ์ เมชเค (Lutz Meschke) กำลังอำลาปอร์เช่หลังจากปฏิบัติงานให้กับบริษัทมาเป็นเวลา 24 ปี โดยเขาย้ายจาก ฮูโก้ บอส (Hugo Boss) มาร่วมงานกับ ปอร์เช่ เอจี (Porsche AG) ในปี 2001 โดยเริ่มต้นจากการดูแลด้านบัญชี และต่อมาได้รับความรับผิดชอบด้านควบคุมงบประมาณ ในปี 2009 เขาได้รับการแต่งตั้งเป็น กรรมการบริหารฝ่ายการเงินและเทคโนโลยีสารสนเทศ (Board Member for Finance and IT) และตั้งแต่ปี 2015 เป็นต้นมา เขายังดำรงตำแหน่ง รองประธานคณะกรรมการบริหาร (Deputy Chairman of the Board of Management) ช่วงเวลาที่ เมชเค ทำงานให้กับปอร์เช่เต็มไปด้วยหมุดหมายสำคัญในการพัฒนาบริษัท โดยหนึ่งในเหตุการณ์ที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ก็คือ การนำปอร์เช่เข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ (IPO) ในปี 2022 ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญขององค์กร นอกจากนี้ ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2020 เป็นต้นมา เมชเค ยังดำรงตำแหน่ง กรรมการบริหารของปอร์เช่ ออโตโมบิล โฮลดิ้ง เอสอี (Porsche Automobil Holding SE) อีกด้วย เดทเลฟ วอน พลาเทน (Detlev von Platen) เข้าร่วมงานกับ ปอร์เช่ เอจี (Porsche AG) ตั้งแต่ปี 1997 โดยเริ่มต้นอาชีพในตำแหน่ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) ของปอร์เช่ ฝรั่งเศส (Porsche France) ก่อนจะได้รับแต่งตั้งเป็น ประธานและซีอีโอของปอร์เช่ คาร์ส นอร์ธ อเมริกา (Porsche Cars North America) ในปี 2008 และต่อมาในปี 2015 เขาได้รับตำแหน่ง กรรมการบริหารฝ่ายการขายและการตลาด (Board Member for Sales and Marketing) วอน พลาเทน มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงของระบบการขายของปอร์เช่ โดยหนึ่งในผลงานที่โดดเด่นคือ การขยายธุรกิจในอเมริกา ผ่านการจัดตั้ง สำนักงานใหญ่ปอร์เช่ในแอตแลนตา (Porsche headquarters in Atlanta) นอกจากนี้ เขายังมีส่วนสำคัญในการเปิดตัวรถยนต์รุ่นสำคัญอย่าง ปอร์เช่ ไทคานน์ (Porsche Taycan) และ มาคันน์ (Macan) สู่ตลาด อีกหนึ่งความสำเร็จที่ได้รับการยอมรับคือ ความร่วมมืออันแน่นแฟ้นกับเครือข่ายตัวแทนจำหน่ายทั่วโลก ซึ่งช่วยให้ปอร์เช่สามารถขยายตลาดและสร้างความแข็งแกร่งในอุตสาหกรรมยานยนต์ระดับหรูได้อย่างต่อเนื่อง

    สมาชิกใหม่ของ คณะกรรมการบริหารของปอร์เช่ เอจี (Porsche AG Executive Board) เป็นบุคคลที่มีความผูกพันกับแบรนด์รถสปอร์ตจากโรงงานในซูฟเฟนเฮาเซน (Zuffenhausen) มาเป็นเวลาหลายปี โยเคน เบรคเนอร์ (Jochen Breckner) เริ่มทำงานกับปอร์เช่ตั้งแต่ปี 2000 โดยเริ่มต้นเส้นทางอาชีพในฐานะนักศึกษาฝึกงานและนักศึกษาทำวิทยานิพนธ์ ก่อนจะศึกษาต่อระดับปริญญาเอก และได้รับตำแหน่ง ผู้ช่วยประธานคณะกรรมการบริหาร (Assistant to the Chairman of the Executive Board) ในปี 2008 ตั้งแต่ปี 2010 ถึง 2012 เขาดำรงตำแหน่ง หัวหน้าฝ่ายควบคุมงบประมาณสำหรับการขาย การตลาด และบริการทางการเงิน (Head of Controlling for Sales, Marketing and Financial Services) และในปี 2012 เขาได้รับมอบหมายให้รายงานตรงต่อคณะกรรมการบริหารในฐานะหัวหน้าฝ่ายควบคุมงบประมาณผลิตภัณฑ์ (Head of Product Controlling) ก่อนจะก้าวขึ้นเป็น หัวหน้าฝ่ายควบคุมงบประมาณของบริษัท (Head of Controlling) ตั้งแต่เดือนกันยายน 2018 เป็นต้นมา เบรคเนอร์ดำรงตำแหน่ง หัวหน้าสำนักเลขาธิการใหญ่และฝ่ายพัฒนาธุรกิจองค์กร (Head of the General Secretariat and Corporate Development) ซึ่งในบทบาทนี้ เขาได้รับการยอมรับในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินและกลยุทธ์องค์กร โดยรับผิดชอบโครงการขนาดใหญ่หลายโครงการ รวมถึงการบริหารการนำปอร์เช่เข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ (Porsche IPO) และ โครงการเพิ่มประสิทธิภาพทางการเงินระยะยาวของบริษัท ซึ่งช่วยให้ปอร์เช่สามารถเสริมสร้างความแข็งแกร่งทางการเงินได้อย่างเป็นระบบ

    คริสเตียน พานเทล (Christian Pantel) จะเข้ารับตำแหน่ง หัวหน้าสำนักเลขาธิการใหญ่และฝ่ายพัฒนาธุรกิจองค์กร (Head of the General Secretariat and Corporate Development) ต่อจาก โยเคน เบรคนเนอร์ (Jochen Breckner) ก่อนหน้านี้ พานเทลมีบทบาทสำคัญในฐานะ ผู้รับผิดชอบด้านซีรีส์รุ่นรถยนต์ (Model Series) ภายในองค์กรของ ปอร์เช่ (Porsche) โดยมีส่วนร่วมในกระบวนการพัฒนาและวางแผนกลยุทธ์ของผลิตภัณฑ์หลักของบริษัท

    แมทเธียส เบ็คเคอร์ (Matthias Becker) ทำงานกับ ปอร์เช่ เอจี (Porsche AG) ตั้งแต่ปี 2015 โดยในฐานะ หัวหน้าภูมิภาคตลาดต่างประเทศและตลาดเกิดใหม่ (Head of the Overseas and Emerging Markets region) เขามีบทบาทสำคัญในการพัฒนาตลาดสำคัญของปอร์เช่ รวมถึง เอเชียตะวันออกเฉียงใต้, ออสเตรเลีย, ตะวันออกกลาง, แอฟริกา และอเมริกากลางและอเมริกาใต้ ซึ่งรวมกันแล้วมีมากกว่า 70 ตลาดทั่วโลก ทำให้ภูมิภาคเหล่านี้กลายเป็น หนึ่งในเสาหลักสำคัญของเครือข่ายการขายของปอร์เช่ ช่วงก่อนที่จะร่วมงานกับปอร์เช่ เบ็คเคอร์เคยดำรงตำแหน่งผู้บริหารระดับสูงหลายตำแหน่งภายใน กลุ่มโฟล์คสวาเกน (Volkswagen Group) โดยเขามีประสบการณ์ทำงานให้กับ อาวดี้ (Audi) ในด้านการขายในยุโรปและจีน รวมถึงบทบาทสำคัญที่ สโกด้า (Škoda) และฝ่ายการตลาดของโฟล์คสวาเกน (Volkswagen Marketing) ในเยอรมนี ประสบการณ์ที่กว้างขวางของเขาในด้านการขายและการตลาดระดับนานาชาติ ทำให้เขาเป็นผู้นำที่เหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับตำแหน่ง กรรมการบริหารฝ่ายการขายและการตลาด (Board Member for Sales and Marketing) ของปอร์เช่ (Porsche) “การเข้ามาของ โยเคน เบรคเนอร์ (Jochen Breckner) และ แมทเธียส เบ็คเคอร์ (Matthias Becker) จะช่วยเสริมทีมคณะกรรมการบริหารของปอร์เช่ให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น ซึ่งทั้งคู่ใช้ชีวิตและทำงานร่วมกับปอร์เช่มาเป็นเวลาหลายปี และนำประสบการณ์อันหลากหลายติดตัวมาด้วย สำหรับโยเคน เบรคนเนอร์ มีความเชี่ยวชาญจากบทบาทที่หลากหลายภายในปอร์เช่ ขณะที่ แมทเธียส เบ็คเคอร์ ได้นำความรู้จากการทำงานที่ ปอร์เช่, อาวดี้ (Audi), สโกด้า (Škoda) และ โฟล์คสวาเกน (Volkswagen) มาใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้ง 2 มีศักยภาพในการขับเคลื่อนบริษัทไปข้างหน้าในแนวทางที่มุ่งสู่อนาคต ตั้งแต่วันแรกที่พวกเขาเข้ารับตำแหน่ง การแต่งตั้งครั้งนี้เป็นผลมาจากแผนสืบทอดตำแหน่งที่เป็นระบบ และการพัฒนาบุคลากรระยะยาวของบริษัท ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างมากต่อปอร์เช่” กล่าวโดย โอลิเวอร์ บลูม (Oliver Blume) ประธานคณะกรรมการบริหารของ ปอร์เช่ เอจี (Chairman of the Executive Board of Porsche AG)


    ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย

    Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
    Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
    Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
    instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
    Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
    Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
    Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine

    No Comment
  • Quad Film มั่นใจศักยภาพตลาดรถยนต์ในประเทศไทย ส่งสินค้าตอบสนองไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภค

    1 Min Read

    Quad Film มั่นใจศักยภาพตลาดรถยนต์ในประเทศไทย ส่งสินค้าตอบสนองไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภค ทั้งฟิล์มปกป้องสี Wrap สีรถยนต์ และฟิล์มสำหรับซันรูฟ ชูจุดขายสินค้าคุณภาพสูง อายุการใช้งานยาว เหมาะสมกับตลาดเมืองไทย เร่งเดินหน้าขยายตัวแทนจำหน่าย 70 แห่งทั่วประเทศ ตั้งเป้ามีตัวแทนกว่า 25 แห่ง ในปีแรก และส่วนแบ่งตลาดฟิล์มกรองแสงพรีเมียม 10% ภายใน 3 ปี

    คุณกายสิทธิ์ ญาณประสิทธิเวทย์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ควอด ฟิล์ม จำกัด ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายฟิล์มปกป้องสีรถยนต์ ฟิล์ม Wrap สีรถยนต์ ฟิล์มสำหรับซันรูฟ และฟิล์มกรองแสงรถยนต์ ‘ควอด’ (Quad Film) แต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้รับการแต่งตั้งจากควอด ฟิล์ม ประเทศสหรัฐอเมริกา ผู้ผลิตฟิล์มสำหรับรถยนต์คุณภาพสูง ให้เป็นผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการรายเดียวในประเทศไทย

    ควอด ฟิล์ม ประเทศสหรัฐอเมริกา มีประสบการณ์ในการเป็นผู้ผลิตฟิล์มสำหรับรถยนต์แบบครบวงจร ทั้งฟิล์มกรองแสงสำหรับรถยนต์ ฟิล์มกรองแสงสำหรับซันรูฟ ฟิล์มสำหรับปกป้องสีรถยนต์ และฟิล์มสำหรับ Wrap สีรถยนต์ มีประสบการณ์ในการผลิตและทำตลาดทั่วโลกมาถึง 25 ปี มีพันธมิตรมากกว่า 30 ราย และมีการจำหน่ายสินค้าผ่านจุดขายกว่า 300 สาขาทั่วโลก โดยมีการผลิตฟิล์มให้กับผู้ผลิตรถยนต์ชั้นนำหลายยี่ห้อ

    “ที่ผ่านมา เรามองว่าตลาดฟิล์มกรองแสงรถยนต์ในประเทศไทยมีความน่าสนใจ จากการที่ตลาดรถยนต์ยังเติบโต มีสินค้าใหม่เข้ามาเพิ่มเติม และไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคก็มีความต้องการฟิล์มสำหรับรถยนต์ที่หลากหลาย จึงได้เริ่มหาข้อมูลเกี่ยวกับฟิล์มรถยนต์ในตลาดโลก และมาพบกับควอด ฟิล์ม ที่มีสินค้าที่หลากหลาย คุณภาพที่ดี จนได้รับความไว้วางใจจากพันธมิตรหลายรายทั่วโลก อาทิ โฟล์กสวาเกน อาวดี้ และบีวายดี ในต่างประเทศ แสดงให้เห็นถึงความยอดเยี่ยมของแบรนด์ได้เป็นอย่างดี”

    เทคโนโลยีการผลิตฟิล์ม Vacuum Magnetic Sputtering

    ทั้งนี้ ควอด ฟิล์มเป็นผู้ผลิตฟิล์มที่เชี่ยวชาญด้านฟิล์มปกป้องสีรถยนต์ ฟิล์มกรองแสง และฟิล์มอัจฉริยะ โดยใช้เทคโนโลยี Vacuum Magnetic Sputtering หรือเทคโนโลยีแม่เหล็กสุญญากาศเคลือบโลหะบนผิวฟิล์ม ที่จะช่วยสะท้อนความร้อนออกจากพื้นผิวหรือกระจกได้ดีกว่าฟิล์มรูปแบบอื่น ๆ ทำให้สามารถปกป้องผู้โดยสารในรถและทรัพย์สินต่าง ๆ ลดการใช้พลังงานของระบบในรถยนต์ ด้วยตอบโจทย์มาตรฐานและความปลอดภัยทุกรูปแบบ สามารถใช้งานกับรถยนต์ในประเทศไทยได้ทุกประเภท

    เทคโนโลยีการผลิตฟิล์มรุ่นใหม่ล่าสุด ทำให้ได้ฟิล์มที่มีคุณสมบัติที่ดีกว่าเทคโนโลยีรูปแบบเดียวกันถึง 3 เท่าตัว ด้วยการพ่นผสาน ชั้นอนุภาคโลหะไปบนเนื้อฟิล์มสูงสุด 24 ชั้น เพื่อช่วยสะท้อนความร้อนทั้งหมดออกไป โดยไม่เก็บความร้อนไว้ที่ตัวฟิล์มหรือ กระจกเหมือนกับฟิล์มกรองแสงรูปแบบอื่น ๆ ซึ่งช่วยเพิ่มคุณสมบัติการสะท้อนความร้อนที่ยอดเยี่ยม ลดอุณหภูมิในรถยนต์ ป้องกันการสะสมความร้อน ช่วยประหยัดพลังงาน และเพิ่มความสะดวกสบายในการขับขี่ ซึ่งในเบื้องต้นของการทำตลาด จะเน้นที่การทำตลาดฟิล์มปกป้องสีรถยนต์ รวมถึงฟิล์ม Wrap สีรถยนต์ และฟิล์มสำหรับซันรูฟเป็นหลัก

    บุกตลาดประเทศไทยด้วยฟิล์มปกป้องสีรถยนต์-Wrapสีรถยนต์

    คุณกายสิทธิ์ กล่าวถึง ฟิล์มกลุ่มปกป้องสีรถยนต์และ Wrap สีรถยนต์ของควอด ฟิล์ม ว่ามีความโดดเด่นด้วยการเป็นฟิล์ม TPU ซึ่งแตกต่างจากฟิล์มที่จำหน่ายอยู่ในท้องตลาด มีความหนาให้เลือกตั้งแต่ 7.5-10 mil รองรับแรงกระแทกได้ตั้งแต่ 350-450% โดยฟิล์มปกป้องสีรถยนต์จะมีให้เลือกทั้งแบบใสและด้าน ขณะที่ฟิล์ม Wrap สีรถยนต์ จะมีเฉดสีให้เลือกมากกว่า 80 เฉดสี รองรับความต้องการของลูกค้าได้อย่างหลากหลาย

    “ฟิล์มปกป้องสีรถยนต์และฟิล์ม Wrap สีรถยนต์ในช่วงก่อนหน้านี้ จะมีปัญหาในเรื่องอายุการใช้งานที่ไม่ยาวนาน แต่ด้วยเทคโนโลยีการผลิตของควอด ฟิล์ม ทำให้ได้สินค้าที่มีอายุการใช้งานนานขึ้น ให้สีสันเหมือนเดิมแม้จะผ่านการใช้งาน โดยราคาจำหน่ายของฟิล์มปกป้องสีรถยนต์รอบคันจะเริ่มที่ 60,000 บาท และฟิล์ม Wrap สีรถยนต์รอบคัน เริ่มต้นที่ 90,000 บาท โดยมีการรับประกันให้ 5 ปีหลังการติดตั้ง”

    พร้อมเปิดตัวฟิล์มสำหรับซันรูฟ รับตลาดขยายตัว

    นอกจากนี้ บริษัทยังมองเห็นการเปลี่ยนแปลงของตลาดรถยนต์ในประเทศไทย โดยเฉพาะการเข้ามาของตลาดรถยนต์ไฟฟ้า ที่ทำให้มีรถยนต์ที่มีหลังคากระจก หรือ ซันรูฟ เพิ่มเติมมากขึ้น ขณะเดียวกัน สินค้ากลุ่มฟิล์มกรองแสงเฉพาะซันรูฟก็ยังไม่มีผู้ทำตลาดมากนัก จึงได้นำเข้าฟิล์มกรองแสงสำหรับซันรูฟ ที่มีคุณสมบัติกันความร้อนได้อย่างยอดเยี่ยม ทำให้ผู้บริโภคใช้งานซันรูฟได้เหมือนเดิม โดยไม่ต้องไปติดตั้งม่านบังแดดเพิ่ม

    ทั้งนี้ ฟิล์มกรองแสงสำหรับซันรูฟของควอด ฟิล์ม มาพร้อมคุณสมบัติความหนา 7 มิล สามารถกันความร้อนจากรังสีอินฟาเรดได้มากสุด 99% ซึ่งลูกค้าสามารถเลือกที่จะติดเฉพาะภายนอก หรือติดที่ซันรูฟทั้งภายในและภายนอกได้ โดยราคาพร้อมติดตั้งจะเริ่มที่ 6,000 บาทสำหรับซันรูฟ และ 16,000 บาท สำหรับพาโนรามิก กลาสรูฟ ซึ่งบริษัทจะรับประกันคุณภาพสินค้าที่ 5-10 ปี เช่นเดียวกัน

    รับศึกษาตลาดฟิล์มกรองแสง ตั้งเป้าส่วนแบ่ง 10% ภายใน 3 ปี

    คุณกายสิทธิ์ กล่าวว่า นอกจากสินค้าหลัก 2 กลุ่มแรกแล้ว ก็จะเดินหน้าทำตลาดฟิล์มกรองแสงรถยนต์ไปพร้อมกัน โดยราคาจำหน่ายฟิล์มกรองแสงสำหรับรถยนต์จะเริ่มต้นที่ 7,500-39,000 บาท โดยมีประเภทของฟิล์มกรองแสงให้เลือกอย่างหลากหลาย และจะให้การรับประกันตั้งแต่ 8-10 ปี โดยในกลุ่มฟิล์มกรองแสงรถยนต์ ตั้งเป้าหมายส่วนแบ่งตลาดที่ 10% ภายใน 3 ปี จากกลุ่มฟิล์มกรองแสงพรีเมียมที่มีมูลค่าตลาดที่ 1,500-1,800 ล้านบาท ตามการเติบโตของอุตสาหกรรมยานยนต์

    “จริง ๆ เราตั้งเป้าหมายที่จะเป็นผู้นำในกลุ่มฟิล์มปกป้องสีรถยนต์และฟิล์ม Wrap สีรถยนต์ ซึ่งไม่มีตัวเลขมูลค่าตลาดที่ชัดเจน แต่ในส่วนของฟิล์มกรองแสงรถยนต์ก็อาจจะต้องใช้เวลาในการสื่อสารถึงคุณสมบัติและความแตกต่างของควอด ฟิล์ม ซึ่งด้วยความที่เป็นเทคโนโลยีรูปแบบใหม่ อย่างเทคโนโลยี Vacuum Magnetic Sputtering ที่เราใช้ก็ต้องสื่อสารให้กับผู้บริโภคได้รับรู้”

    นอกจากนี้ บริษัทก็มีแผนที่จะขยายตัวแทนจำหน่าย และศูนย์บริการติดตั้งในประเทศไทยให้ครอบคลุมทั่วประเทศ โดยตั้งเป้า 25 สาขาในปีแรก และจะขยายต่อเนื่องไปให้ครบ 70 สาขาทั่วประเทศ โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างการเปิดรับสมัครตัวแทนจำหน่ายในทุกภูมิภาคทั่วประเทศ และได้มีการก่อสร้างโชว์รูมพร้อมศูนย์บริการต้นแบบแห่งแรกบนถนนรัตนาธิเบศร์ ที่เสร็จสมบูรณ์และพร้อมเปิดให้บริการแล้วในปัจจุบัน

    คุณกายสิทธิ์ กล่าวสรุปว่า การเข้ามาทำตลาดของ Quad Film ในประเทศไทย ต้องการที่จะส่งมอบสินค้าและบริการที่ดีที่สุด ด้วยเทคโนโลยีในการผลิตรุ่นใหม่ล่าสุด เพื่อให้ได้ฟิล์มทุกประเภทที่สามารถตอบสนองต่อความต้องการของผู้บริโภคชาวไทยได้ ทั้งรถยนต์ใหม่ รถยนต์มือสอง หรือรถยนต์ที่ต้องการตกแต่งให้มีความพิเศษมากขึ้น ซึ่งควอด ฟิล์ม มีสินค้าคุณภาพดีที่หลากหลาย และสามารถรองรับความต้องการของเจ้าของรถยนต์ในประเทศไทยได้อย่างครบวงจรแน่นอน

    สำหรับลูกค้า ดีลเลอร์ ผู้แทนจำหน่าย สามารถเข้ามาเยี่ยมชมและสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์บริการ (สำนักงานใหญ่) ควอด ฟิล์ม ถนนรัตนาธิเบศร์  ได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 9.00 – 18.00 น.  โทรศัพท์ 061-614-5464  Facebook: https://www.facebook.com/quadfilmthailand หรือ Line Official: @quadfilmth


    ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย

    Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
    Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
    Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
    instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
    Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
    Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
    Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine


    No Comment
  • คาลเท็กซ์ เสิร์ฟความแรง! เปิดแคมเปญโฆษณาชุดใหม่ “เทครอนนนนนนนนน” เติมดีกรีความฮอตให้ระอุคว้าสองสาว “หลิง-ออม” ร่วมถ่ายทอดเรื่องราวสุดเซอร์ไพรส์

    1 Min Read

    คาลเท็กซ์ เสิร์ฟความแรง! เปิดแคมเปญโฆษณาชุดใหม่ “เทครอนนนนนนนนน” เติมดีกรีความฮอตให้ระอุคว้าสองสาว “หลิง-ออม” ร่วมถ่ายทอดเรื่องราวสุดเซอร์ไพรส์

    คาลเท็กซ์ โดย บริษัท สตาร์ ฟูเอลส์ มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (SFL) ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของบริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) (SPRC) และเป็นผู้ได้รับสิทธิแต่เพียงผู้เดียวในการประกอบธุรกิจน้ำมันเชื้อเพลิงภายใต้ชื่อคาลเท็กซ์ในประเทศไทย เปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่ “เทครอนนนนนนนนน” กระตุ้นการรับรู้ถึงคุณภาพของผลิตภัณฑ์น้ำมันเชื้อเพลิงคาลเท็กซ์ เทครอน ซึ่งเทครอนนั้นเป็นเอกสิทธิ์เฉพาะของคาลเท็กซ์ ที่ช่วยทำความสะอาด และปกป้องชิ้นส่วนสำคัญของเครื่องยนต์ให้ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพและช่วยประหยัดน้ำมันยิ่งขึ้น รวมถึงการมีส่วนร่วมและสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างลูกค้ากับแบรนด์ให้แน่นแฟ้นมากขึ้น เสริมด้วยกลยุทธ์สื่อสารการตลาดแบบ “Brandformance” (Brand + Performance) ครบวงจรทั้งออนไลน์ ออฟไลน์ และออนกราวด์ เน้นย้ำภาพจำแบรนด์  “ตัวจริง วิ่งไกล” พิสูจน์แล้ววิ่งได้ไกลกว่า 42 กม. ต่อถัง*

    ภาพยนตร์โฆษณาชุด “เทครอนนนนนนนนน” ความยาว 30 วินาที บอกเล่าเรื่องราวความสนุกของการเดินทาง ถูกถ่ายทอดผ่าน หลิงหลิง-ศิริลักษณ์ คอง และ ออม-กรณ์นภัส เศรษฐรัตนพงศ์ สองสาวสวยคู่จิ้นสุดฮอต โดยภายในภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่ เน้นความสนุกและเข้าถึงง่าย ใช้วิธีการสื่อสารผ่านการออกเสียงลากยาว เทครอนนนนนนนนน สะท้อนถึงคุณสมบัติของน้ำมันคาลเท็กซ์ เทครอน ที่ช่วยให้รถวิ่งได้ไกลกว่า พร้อมตอกย้ำภาพลักษณ์แบรนด์ “ตัวจริง วิ่งไกล” สัมผัสพลังของคาลเท็กซ์ เทครอนได้ที่ สถานีบริการน้ำมันคาลเท็กซ์ทั่วประเทศ ติดตามรายละเอียดได้ทาง Facebook: Caltex Thailand  LINE Official @Caltex และ Website: www.caltex.com/th/

    รับชมภาพยนตร์โฆษณาชุด “เทครอนนนนนนนนน” ได้ทาง https://youtu.be/LDW1Jk3ekwk


    ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย

    Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
    Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
    Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
    instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
    Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
    Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
    Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine


    No Comment