-
มิตซูบิชิ ไทรทัน รุ่นปี 2025 ลุคใหม่ เข้มเต็มขั้น! ดุดันในทุกมิติ กับเอกลักษณ์ที่มีสไตล์ พร้อมฟังก์ชันจัดเต็ม
มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย เผยโฉม มิตซูบิชิ ไทรทัน รุ่นปี 2025 ที่ได้รับการพัฒนาทั้งรูปลักษณ์ที่สะท้อนความดุดันมากยิ่งขึ้น ด้วยชิ้นส่วนสีดำเงารอบคัน ให้ความรู้สึกทรงพลัง โดดเด่น มีสไตล์
เพิ่มระบบอำนวยความสะดวก และเทคโนโลยีที่ช่วยในการขับขี่ เพื่อยกระดับสมรรถนะการขับขี่ให้สนุก เร้าใจ และเหนือชั้นกว่าเคยมร. เรียวอิจิ อินาบะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “มิตซูบิชิ ไทรทัน รุ่นปี 2025 ไม่ได้เป็นเพียงรถกระบะสมรรถนะสูง แต่ยังเป็นรถที่มีดีไซน์การออกแบบที่โฉบเฉี่ยว จากการรับฟังความคิดเห็นของลูกค้า เรามีการปรับปรุงทั้งดีไซน์ภายนอก และเพิ่มระบบอำนวยความสะดวกภายในมาอย่างครบครัน เพื่อให้ตอบโจทย์ลูกค้าชาวไทยมากยิ่งขึ้น ทั้งในรูปแบบการใช้งานในชีวิตประจำวัน และวันหยุดพักผ่อนในวันสุดสัปดาห์”
“นอกจากการพัฒนารถให้ตอบโจทย์ลูกค้าชาวไทยเพิ่มมากขึ้นในทุกมิติแล้ว มิตซูบิชิ ยังมอบความสบายใจให้กับลูกค้า ด้วยบริการหลังการขายที่ยอดเยี่ยม จากเครือข่ายผู้จำหน่ายที่มีศักยภาพ กระจายอยู่กว่า 190 แห่ง
ทั่วประเทศไทย เพื่อให้บริการลูกค้าทุกท่านได้อย่างสะดวก รวดเร็ว ด้วยมาตรฐานสูงสุด” มร.อินาบะ กล่าวเพิ่มมิตซูบิชิ ไทรทัน รุ่นปี 2025 ปรับโฉมใหม่ และเพิ่มสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เช่น ในรุ่น มิตซูบิชิ ไทรทัน ดับเบิ้ล แค็บ พลัส อัลตร้า (รุ่น 4 ประตูยกสูง) ตกแต่งด้วยชิ้นส่วนสีดำเงารอบคัน เพื่อเพิ่มความเข้ม เท่ และดุดันมากกว่าเดิม ด้วยไดนามิก ชิลด์สีดำเงา กรอบไฟตัดหมอกสีดำเงา กระจกมองข้างสีดำเงา มือเปิดประตูด้านนอกสีดำเงา มือเปิดกระบะท้ายสีดำเงา กันชนหลังสีดำตกแต่งด้วยสีไทเทเนียมรมดำ บันไดข้างสีดำ ตกแต่งสีไทเทเนียมรมดำ และล้ออัลลอยสีดำ ขนาด 18 นิ้ว เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน
ภายในห้องโดยสารของ มิตซูบิชิ ไทรทัน ดับเบิ้ล แค็บ พลัส อัลตร้า (รุ่น 4 ประตู ยกสูง) เพิ่มอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครันมากยิ่งขึ้น อาทิ ระบบล็อกความเร็วแบบแปรผันอัตโนมัติ (Adaptive Cruise Control: ACC) ผู้ขับขี่สามารถตั้งค่าความเร็วตามที่กำหนด และระบบจะใช้เรดาห์ในการคำนวณเพื่อรักษาระยะห่างจากรถคันหน้าตามที่เหมาะสม และสามารถชะลอความเร็วของรถให้เองโดยอัตโนมัติจนถึงจุดหยุดนิ่ง เพิ่มเติมจากเทคโนโลยี ความปลอดภัย ไดมอนด์ เซนส์ (Diamond Sense) และยังยกระดับความพรีเมียมไปอีกขั้น ด้วยระบบฟอกอากาศ nanoeTMX ที่ติดตั้งอยู่กับระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติแยกอิสระ ซ้าย-ขวา มีคุณสมบัติในการสร้างอากาศบริสุทธิ์ ยับยั้งเชื้อแบคทีเรีย ให้ความสดชื่น และลดอาการอ่อนเพลียในการเดินทาง มาพร้อมเบาะที่นั่งหนังสังเคราะห์มีคุณสมบัติสะท้อนความร้อน (Heat Guard) ให้ความสะดวกสบายและปลอดภัยมากยิ่งขึ้น ขับขี่เร้าใจไปกับเครื่องยนต์ คลีนดีเซล เทอร์โบ ไฮเปอร์พาวเวอร์ (Hyper Power) ให้พละกำลังที่เหนือกว่าและประหยัดน้ำมันยิ่งขึ้น ด้วยกำลังสูงสุดที่ 184 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 430 นิวตันเมตร ผสานช่วงล่างใหม่และแชสซีส์เมกาเฟรมใหม่ที่ใหญ่ขึ้นและแข็งแรงขึ้น เพื่อประสบการณ์การขับขี่ที่นุ่มสบายเหนือระดับ คล่องตัวทั้งในเมืองและขณะเดินทางไกล
ทั้งนี้ สำหรับรถกระบะรุ่นเรือธง มิตซูบิชิ ไทรทัน แอทลีท รุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อ (4WD) เพิ่มความสะดวกสบาย ในห้องโดยสารขึ้นกว่าเดิม ด้วยระบบฟอกอากาศ nanoeTMX สัมผัสอากาศบริสุทธิ์ตลอดการเดินทาง นอกเหนือจากรูปลักษณ์ภายนอกที่สะดุดตา สปอร์ต ดุดัน ในแบบที่เป็นเอกลักษณ์และไม่ซ้ำกับใคร การันตีด้วยรางวัลด้านการออกแบบระดับโลก iF Design Award 2024 แรงขึ้นไปอีกขั้น ด้วยเครื่องยนต์ “ไฮเปอร์ พาวเวอร์ เอ็กซ์ ทู (Hyper Power X2)” เครื่องยนต์คลีนดีเซล เทอร์โบสองสเตจ (Two-Stage Turbo) ผสานขุมพลังด้วยกำลังสูงสุดที่ 204 แรงม้า โดดเด่นด้วยระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแบบ Super Select 4WD II ที่มีชื่อเสียงของมิตซูบิชิ สามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบการส่งกำลังของเครื่องยนต์ และระบบขับเคลื่อนให้เหมาะสมกับสภาพเส้นทาง
นอกจาก สองรุ่นข้างต้น มิตซูบิชิ ไทรทัน ดับเบิ้ล แค็บ (รุ่น 4 ประตู) มาในลุคใหม่ เข้มเต็มขั้นยิ่งกว่าเดิม ด้วยไฟหน้า และไฟเดย์ไทม์ LED แบบใหม่ พร้อมเสริมความเข้ม ด้วยชิ้นส่วนตกแต่งสีดำเงา ไดนามิก ชิลด์สีดำเงา และกรอบไฟตัดหมอกสีดำเงา กระจกมองข้างสีดำเงา มือเปิดประตูด้านนอกสีดำเงา มือเปิดกระบะท้ายสีดำเงา และกันชนหลังสีดำตกแต่งด้วยสีไทเทเนียมรมดำ ขับสนุกด้วยกำลังสูงสุดที่ 150 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 330 นิวตันเมตร
มิตซูบิชิ ไทรทัน รุ่นปี 2025 มีราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 722,000 บาท สำหรับรุ่น มิตซูบิชิ ดับเบิ้ล แค็บ พลัส (รุ่น 4 ประตูยกสูง) มีราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 914,000 บาท และ มิตซูบิชิ ไทรทัน แอทลีท ขับเคลื่อนสี่ล้อ (4WD) มีราคาจำหน่ายเริ่มต้น 1,299,000 บาท สามารถนัดหมายเพื่อทดลองขับ และสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ผู้จำหน่ายรถยนต์
มิตซูบิชิทั่วประเทศ หรือ มิตซูบิชิ คอลเซ็นเตอร์ หมายเลขโทรศัพท์ 02-079-9500 ทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมงโปรโมชั่นพิเศษ
รุ่นรถยนต์ รายการ มิตซูบิชิ ไทรทัน ดับเบิ้ล แค็บ พลัส รุ่นปี 2025 – เลือกรับ ดอกเบี้ยพิเศษ 0.99% นาน 48 เดือน- เลือกรับ แพ็กเกจบำรุงรักษา 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร (แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน) มูลค่าสูงสุด
28,300 บาท พร้อมบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง 5 ปี มูลค่า 8,950 บาท– รับฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง นาน 1 ปี มูลค่าสูงสุด 19,100 บาท
– รับประกันคุณภาพนาน 5 ปี พร้อมฟรีค่าแรงเช็กระยะนาน 5 ปี มูลค่าสูงสุด 5,196 บาท
– ครอบครัวมิตซูบิชิรับส่วนลดเพิ่ม 10,000 บาท ผ่านแอปพลิเคชัน M-Drive
มิตซูบิชิ ไทรทัน แอทลีท
ขับเคลื่อน 4 ล้อ รุ่นปี 2025– เลือกรับ ดอกเบี้ยพิเศษ 0.99% นาน 48 เดือน- เลือกรับ แพ็กเกจบำรุงรักษา 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร (แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน) มูลค่าสูงสุด
28,300 บาท พร้อมบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง 5 ปี มูลค่า 8,950 บาท– รับฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง นาน 1 ปี มูลค่าสูงสุด 22,100 บาท
– รับประกันคุณภาพนาน 5 ปี พร้อมฟรีค่าแรงเช็กระยะนาน 5 ปี มูลค่าสูงสุด 5,196 บาท
– ครอบครัวมิตซูบิชิรับส่วนลดเพิ่ม 10,000 บาท ผ่านแอปพลิเคชัน M-Drive
เงื่อนไขและรายละเอียดเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด หลักเกณฑ์การพิจารณาสินเชื่อ เป็นไปตามที่ธนาคารกำหนด
*รางวัล iF DESIGN AWARD ถือเป็นหนึ่งในรางวัลด้านการออกแบบอันทรงเกียรติระดับโลก ที่ดำเนินการต่อเนื่องมาอย่างยาวนานกว่า 70 ปี ได้รับการก่อตั้งโดยสถาบัน iF International Forum Design GmbH ซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่ เมืองฮันโนเวอร์ ประเทศเยอรมนี ภายใต้ 5 หลักเกณฑ์การพิจารณา ได้แก่ แนวคิด (idea) รูปทรง (form) การใช้งาน (function) ความโดดเด่นและแตกต่าง (differentiation) และ กระแสตอบรับ (impact)
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine
-
GWM จุดพลุฉลอง “NEW GWM TANK 300 DIESEL” กับยอดส่งมอบทะลุ 1,000 คันทั่วไทย เตรียมรับชม Live! เจาะลึกเทคโนโลยีดีเซลของ GWM ครั้งแรกในไทย ในงาน “GWM DIESEL TECH NIGHT” เสาร์ที่ 7 มิถุนายนนี้
GWM (Thailand) ยกระดับสู่การเป็นแบรนด์รถยนต์ที่มีผลิตภัณฑ์ครอบคลุมทุกประเภทพลังงานที่ตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานทั่วทุกมุมโลก ด้วยแนวคิด “ครอบคลุมทุกการใช้งาน (All Scenarios) ด้วยผลิตภัณฑ์ที่ครอบคลุมทุกพลังงาน (All Powertrains) สู่การตอบสนองทุกกลุ่มผู้ใช้งานอย่างแท้จริง (All Users) ล่าสุด เดินหน้าสร้างแรงสั่นสะเทือนในอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยอีกครั้ง ด้วยการประกาศความสำเร็จครั้งสำคัญของ “NEW GWM TANK 300 DIESEL” กับยอดส่งมอบทะลุ 1,000 คันทั่วประเทศ ภายในระยะเวลาเพียง 2 เดือน หลังจากได้รับการตอบรับจากแฟน ๆ ชาวไทยอย่างล้นหลามและเกินความคาดหมาย สะท้อนถึงคุณภาพของรถยนต์ Premium Boxy เครื่องยนต์ดีเซลรุ่นนี้ได้อย่างเป็นรูปธรรม ทั้งนี้ GWM เตรียมเผยเบื้องหลังแบบเจาะลึกของเทคโนโลยีเครื่องยนต์ดีเซล 2.4T เจนเนอเรชั่นล่าสุด ผ่านไลฟ์สตรีมมิงในช่องทาง Facebook, YouTube และ TikTok ของ GWM Thailand ในวันเสาร์ที่ 7 มิถุนายน 2568 นี้ ตั้งแต่เวลา 17.00 น. เป็นต้นไป ความสำเร็จของ NEW GWM TANK 300 DIESEL นี้สะท้อนถึงนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ GWM มุ่งมั่นพัฒนายนตรกรรมที่ยึดการรับฟังเสียงของผู้บริโภคและใช้ผู้บริโภคเป็นศูนย์กลาง (User Centric) เพื่อส่งมอบประสบการณ์ที่ “ดีกว่า” และ “เหนือกว่า” ในทุกมิติ ตลอดช่วงเวลาของการเป็นเจ้าของรถยนต์คุณภาพของ GWM ภายใต้แนวคิด “GWM Go With More”
เวย์น โจว กรรมการผู้จัดการ GWM (Thailand) กล่าวว่า “ขอขอบคุณลูกค้าชาวไทยที่เชื่อมั่นในยนตรกรรมคุณภาพอย่าง NEW GWM TANK 300 DIESEL ที่มาพร้อมเทคโนโลยีดีเซลใหม่ล่าสุดของ GWM ในระยะเวลา 2 เดือนที่ผ่านมา เราได้เพิ่มกำลังการผลิตที่โรงงานอัจฉริยะจังหวัดระยอง และสามารถส่งมอบรถยนต์ให้กับลูกค้าของเรามากกว่า 1,000 รายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยภายในเดือนมิถุนายน เราจะสามารถส่งมอบรถยนต์ได้เพิ่มอีกประมาณ 1,000 คัน รวมเป็นทั้งสิ้นกว่า 2,000 คัน จากความสำเร็จดังกล่าว เป็นผลมาจากความมุ่งมั่นของ GWM ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์คุณภาพที่ตอบโจทย์การใช้งานของชาวไทยด้วยตัวเลือกพลังงานและเครื่องยนต์ที่ครอบคลุมตั้งแต่ไฮบริด, ปลั๊กอิน-ไฮบริด, รถยนต์ไฟฟ้า 100% และล่าสุดกับเครื่องยนต์ดีเซลที่ได้รับเสียงตอบรับอย่างล้นหลามจากผู้ใช้งานชาวไทย GWM เชื่อว่าการดำเนินธุรกิจที่เติบโตอย่างแข็งแรงและยั่งยืนภายใต้ความท้าทายในสถานการณ์ปัจจุบันนี้ คือ การส่งมอบทุกประสบการณ์ที่ดีกว่า และเหนือกว่าอย่างแท้จริงในทุกด้าน ทั้งด้านการขายและการบริการหลังการขาย เพื่อรอยยิ้มและความไว้วางใจของลูกค้าชาวไทยทั่วประเทศ”
บทพิสูจน์ความสำเร็จของ NEW GWM TANK 300 DIESEL คือ ความโดดเด่นของเครื่องยนต์ดีเซล 2.4T เจนเนอเรชั่นล่าสุดที่ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อตอบโจทย์ผู้ใช้งานในทุกการเดินทาง ทั้งในเมืองและนอกเมือง ด้วยเครื่องยนต์ที่มีสมรรถนะสูง มอบพละกำลังและแรงบิดที่เร้าใจ พร้อมความนิ่ง เงียบ และนุ่มนวลในการขับขี่ รวมถึงการประหยัดพลังงาน และด้วยดีไซน์อันโดดเด่น ไม่ซ้ำใคร เท่ทุกมุมมอง ร่วมกับเทคโนโลยีอัจฉริยะด้านความปลอดภัย ทำให้รถยนต์ PPV รุ่นนี้กลายเป็นที่พูดถึงในวงกว้าง ตั้งแต่กลุ่มคนรักออฟโรด นักเดินทาง ไปจนถึงผู้ใช้งานในเมืองที่ต้องการรถยนต์ที่ใช้งานได้อย่างหลากหลายและครอบคลุม
GWM เตรียมเผยเทคโนโลยีดีเซล 2.4T เจนเนอเรชันใหม่แบบเจาะลึกของ NEW GWM TANK 300 DIESEL ในงาน GWM DIESEL TECH NIGHT รับชมพร้อมกันทั่วประเทศกับเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ล้ำหน้าของเครื่องยนต์ดีเซล ที่สร้างความแตกต่างจากเครื่องยนต์ดีเซลแบบเดิม ๆ และสามารถครองใจผู้ใช้งานชาวไทยภายในระยะเวลาอันรวดเร็ว ติดตามรับชม Live สดกับกิจกรรม GWM DIESEL TECH NIGHT ในวันเสาร์ที่ 7 มิถุนายน 2568 นี้ ตั้งแต่เวลา 17.00 น. เป็นต้นไป ทาง Facebook, YouTube และ TikTok ของ GWM Thailand
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine
-
ปิดฉากประทับใจ! GT World Challenge Asia 2025 สนามประเทศไทย ชูเสน่ห์อีสานใต้ “กันตรึมซิ่ง” สู่ซีรีส์ดวลความเร็วสุดลักชัวรีของโลก
ผ่านไปแล้วกับสุดสัปดาห์แห่งมอเตอร์สปอร์ตที่สุดประทับใจกับศึกซูเปอร์คาร์ชั้นพรีเมียม ที่กลับมาดวลความเร็ว-แรง-ดุดัน เติมเต็มประสบการณ์ให้กับแฟนชาวไทยถึงบ้าน โดยการแข่งขันฤดูกาลนี้เปิดฉากที่ประเทศมาเลเซีย ต่อด้วยสนามที่ 2 ที่อินโดนีเซีย ประเทศไทยรับไม้ต่อเป็นสนามที่ 3 ระหว่างวันที่ 30 พ.ค.-1 มิ.ย. ก่อนจะไปแข่งขันสนามที่ 4-5 ที่ญี่ปุ่น และปิดฉาก ฉลองแชมป์กันในช่วงเดือนตุลาคมที่ประเทศจีน
ทั้งนี้ GT World Challenge Asia (จีที เวิลด์ ชาเลนจ์ เอเชีย) ฤดูกาล 2025 สนามประเทศไทย ได้สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับนักแข่ง-ทีมงานผู้จัด รวมทั้งผู้ชมทั่วโลกอีกครั้ง โดยจังหวัดบุรีรัมย์ในฐานะตัวแทนประเทศไทย ได้นำเสนอมนต์เสน่ห์แห่งศิลปะแดนอีสานใต้ ผ่านชุดการแสดง “กันตรึมซิ่ง” โดยจัดในช่วง Grid Walk ก่อนการแข่งขันในเรซที่ 2 ปิดฉากการแข่งขันในประเทศไทยอย่างอลังการ สนุกสนานและงดงามที่สุด
การแข่งขันสนามนี้ ขับเคี่ยวกันอย่างสุดมันส์ ด้วยการรวมตัวของ ทีมแข่งชั้นนำ นักแข่งฝีมือดี จาก 33 ทีมทั่วโลก หลากหลายทวีปมากกว่า 60 คน ประชันความเร็วแบบดุเดือด ตลอดระยะเวลา 3 วัน
โดยในเรซที่ 1 ชัยชนะเป็นของ “อวี้ ไคว่” และ “เฉิง กงฟู่” คู่หูนักแข่งชาวจีน ควบรถแข่ง อาวดี้ อาร์8 แอลเอ็มเอส จีที3 อีโว2 เข้าป้ายเป็นคันแรก ผงาดคว้าชัยชนะเรซแรกไปครองอย่างสุดมันส์
ส่วนเรซที่ 2 แชมป์ตกเป็นของ “เจฟรี อิบราฮิม” เจ้าชายแห่งยะโฮร์ ประเทศมาเลเซีย สร้างผลงานระดับมาสเตอร์ ควงทีมเมทชาวบริติช “เบน กรีน” ควบรถแข่ง เชฟโรเลต จีที3 ผงาดคว้าชัยชนะเรซที่ 2 ปิดฉากสนาม 3 ของฤดูกาล 2025 อย่างสุดประทับใจ
นายโชติชนก ชิดชอบ ผู้อำนวยการฝ่ายกิจกรรมต่างประเทศ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต กล่าวว่า เสน่ห์ของการแข่งขัน “จีที เวิลด์ ชาลเลนจ์ เอเชีย” คือการหลอมรวมกันของเทคโนโลยียนตกรรมที่ล้ำสมัยของรถซูเปอร์คาร์ ที่เร็ว แรง ดุดัน เร้าใจและสง่างาม ผสานเข้ากับทักษะการขับขี่ขั้นสูง ทำให้ที่ผ่านมามีแฟนความเร็วติดตามชมและนิยมมากที่สุดในเอเชีย มียอดการเข้าถึงผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์มากกว่า 140 ล้านครั้ง และยอดชมผ่านไลฟ์ตรีมมิ่งมากกว่า 47 ล้านวิว”
ในช่วง Grid Walk ได้มีการนำเสน่ห์อีสานใต้ “เพลงกันตรึม” ศิลปะพื้นบ้านโบราณ นำเสนอในรูปแบบการแสดง “กันตรึมซิ่ง” เป็นขบวนกลองยาวประยุกต์ ผสานกับซอกันตรึม อีสานใต้ ให้ความบันเทิง โดยมีหมู่มวลนางรำ สวมใส่ชุดอีสาน ร่ายรำ ออกลีลาลวดลายอย่างสนุกสนาน เน้นความครื้นเครง มีอัตลักษณ์และภาพจำที่ไม่เหมือนใคร
เมื่อภาพชุดการแสดง “กันตรึมซิ่ง” ถูกถ่ายทอดสู่แฟนความเร็วทั่วทุกมุมโลก ที่ต่างรอติดตามชมซีรีส์ดวลความเร็วสุดลักชัวรีนี้ ก็ได้รับเสียงชื่นชมมากมาย ทั้งการจัดการแข่งขันที่ยิ่งใหญ่และสมบูรณ์พร้อม รวมทั้งโอกาสสำคัญที่ได้ชื่นชมศิลปวัฒนธรรมเก่าแก่ภาคอีสาน ที่ปัจจุบันยังถือว่าหาชมได้ยาก โดยฝ่ายจัดการแข่งขันมุ่งหวังในการเชิดชูเพลงพื้นบ้านอีสานใต้ เหล่านี้ให้คงคุณค่า ความภาคภูมิใจ และไม่เลือนหายไปตามกาลเวลา”
การจัดอีเวนต์ซูเปอร์คาร์ระดับท็อปของโลกที่ประเทศไทยในครั้งนี้ สร้างความประทับใจให้แฟนความเร็วทั่วโลก ทั้งกิจกรรมที่จัดเต็มตลอด 3 วัน ภาพความประทับใจของ “พิตวอล์คพันล้าน” ที่รวมซูเปอร์คาร์สุดหรู และมูลค่าการสร้างทีมมหาศาลระดับพันล้าน นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมเอาใจแฟนความเร็วมากมาย รวมทั้งยังมีการแข่งขันซัพพอร์ตเรซที่เติมเต็มความสนุกให้กับแฟนความเร็ว ได้เชียร์นักแข่งไทยในรายการ Honda One Make Race 2025 ที่จัดแข่งขันในสุดสัปดาห์เดียวกันด้วย
เหล่านี้เองคือการแสดงศักยภาพของประเทศไทย ในฐานะศูนย์กลางของมอเตอร์สปอร์ตเอเชีย ที่เป็นเป้าหมายสำคัญของชาติ ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ จุดประกายความฝัน สร้างแรงบันดาลใจให้เยาวชน ผลักดันสู่กีฬาอาชีพระดับโลก กระตุ้นเศรษฐกิจ-การท่องเที่ยวผ่านกีฬาระดับพรีเมียม ทั้งยังสนับสนุนการเติบโตให้กับอุตสาหกรรม มอเตอร์สปอร์ตและยานยนต์ให้เติบโตอย่างยั่งยืนอีกด้วย
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine
-
เมอร์เซเดส-เบนซ์ ต้อนรับกลางปีด้วยส่วนลดค่าอะไหล่30%* กับแคมเปญ “Shining in June” สำหรับลูกค้ารถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ ที่มีอายุการใช้งาน 5 ปีขึ้นไป
เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) ให้ความสำคัญในการดูแลลูกค้าที่ใช้รถยนต์มากกว่า 5 ปี ให้คงสภาพ การใช้งานให้เหมือนวันแรกที่ใช้งาน เพื่อตอบแทนความไว้วางใจของลูกค้าที่เข้ารับบริการอย่างต่อเนื่อง ด้วยแคมเปญ “Shining in June” มอบสิทธิพิเศษให้กับเจ้าของรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ ทุกรุ่น (รวมถึงรถ Van) ที่มีอายุการใช้งานมากกว่า 5 ปี (นับจากวันส่งมอบรถยนต์ภายในวันที่ 30 มิถุนายน 2563)
รับส่วนลดค่าอะไหล่ 30%* จากราคาขายแนะนำปกติ (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) เมื่อนำรถเข้ารับบริการหลังการขาย ที่ศูนย์บริการเมอร์เซเดส-เบนซ์ อย่างเป็นทางการทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2568 ถึง 30 มิถุนายน 2568 เพื่อมอบความมั่นใจให้กับลูกค้าคนสำคัญของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ในทุกการเดินทาง
รายละเอียดบริการที่เข้าร่วมรายการตามเงื่อนไขสำหรับลูกค้า ดังนี้
- ลูกค้าที่เข้ารับบริการทุกประเภทงาน ได้แก่ งานเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง รวมถึงงานซ่อมทั่วไป เฉพาะรายการที่ลูกค้าเป็นผู้ชำระเงินค่าอะไหล่/ค่าแรงและค่าบริการด้วยตนเองเท่านั้น
หมายเหตุ: ไม่รวมลูกค้างานรับประกันคุณภาพ (Warranty-วารันตี), งานภายใต้แพ็กเกจ MBSP, การซื้อแพ็กเกจ MBSP, งาน Internal, งานเคลมประกันภัย และงานซ่อมสี/ตัวถัง, การซื้ออะไหล่หน้าร้าน และผลิตภัณฑ์ยางรถยนต์ทุกประเภท, งานบริการหรืองานซ่อมสำหรับรถยนต์ที่ใช้เพื่อการพาณิชย์ (Fleet))
*เงื่อนไขเพิ่มเติม:
- สิทธิพิเศษลูกค้ารถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ ทุกรุ่น (รวมรถ Van) ที่มีอายุการใช้งานมากกว่า 5 ปีขึ้นไป (โดยนับจากวันส่งมอบรถยนต์ภายในวันที่ 30 มิถุนายน 2563) ที่เข้ารับบริการ ณ ศูนย์บริการเมอร์เซเดส-เบนซ์ อย่างเป็นทางการ ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2568 – 30 มิถุนายน 2568 และชำระค่าใช้จ่ายภายในระยะเวลาที่กำหนด
- สิทธิพิเศษนี้เฉพาะงานที่ลูกค้าที่ชำระเงินค่าอะไหล่, ค่าแรงและค่าบริการด้วยตนเองเท่านั้น (ไม่รวมลูกค้างานรับประกันคุณภาพ (Warranty-วารันตี), งานภายใต้แพ็กเกจ MBSP, การซื้อแพ็กเกจ MBSP, งาน Internal, งานเคลมประกันภัย และงานซ่อมสี/ตัวถัง, การซื้ออะไหล่หน้าร้าน และผลิตภัณฑ์ยางรถยนต์ทุกประเภท, งานบริการหรืองานซ่อมสำหรับรถยนต์ที่ใช้เพื่อการพาณิชย์ (Fleet))
- สิทธิพิเศษนี้ไม่สามารถแลก เปลี่ยน หรือทอนเป็นเงินสดได้
- ส่วนลดดังกล่าวไม่รวมค่าแรง
- เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯกำหนด กรณีมีข้อโต้แย้ง การตัดสินของบริษัทฯ ถือเป็นที่สิ้นสุด
- โปรดตรวจสอบรายละเอียดแคมเปญได้ ณ ศูนย์บริการเมอร์เซเดส-เบนซ์ อย่างเป็นทางการ
สอบถามข้อมูลและเงื่อนไขเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์บริการเมอร์เซเดส-เบนซ์ อย่างเป็นทางการทั่วประเทศ หรือผ่านช่องทางออนไลน์ที่ https://mb4.me/TH_CSSpecialOffers หรือติดต่อศูนย์บริการลูกค้าฯ โทร. 1250
ทั้งนี้ เงื่อนไขให้เป็นไปตามที่บริษัทฯ และศูนย์บริการเมอร์เซเดส-เบนซ์ อย่างเป็นทางการกำหนด#MercedesBenz #MercedesBenzThailand #MBTHCS
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine -
“GT World Challenge Asia” สนามประเทศไทยดวลโหด “เจ้าชายมาเลเซีย” ผงาดคว้าชัยส่งท้ายอย่างยิ่งใหญ่
ศึกซูเปอร์คาร์พันล้าน รายการ “GT World Challenge Asia” (จีที เวิลด์ ชาลเลนจ์ เอเชีย) ดวลกระหึ่ม สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ ผลการแข่งขันปรากฏว่า “เจฟรี อิบราฮิม” เจ้าชายแห่งยะโฮร์ ประเทศมาเลเซีย สร้างผลงานระดับมาสเตอร์ ควงทีมเมทชาวบริติช “เบน กรีน” ควบรถแข่ง เชฟโรเลต จีที3 ผงาดคว้าชัยชนะเรซที่ 2 ปิดฉากสนาม 3 ของฤดูกาล 2025 อย่างสุดประทับใจ
“จีที เวิลด์ ชาลเลนจ์ เอเชีย 2025” หนึ่งในซีรีส์การแข่งขันรายการยักษ์ของโลกที่จัดขึ้นใน 4 ทวีป ได้แก่ ทวีปอเมริกา,ยุโรป, ออสเตรเลีย และเอเชีย โดยรายการนี้มีสนามแข่งขันครอบคลุมทั้งเอเชีย ไม่ว่าจะเป็น ญี่ปุ่น มาเลเซีย อินโดนีเซีย จีน และไทย
ไฮไลต์ของสุดสัปดาห์นี้ อยู่ที่การลุ้นแชมป์ในแผ่นดินไทยของทัพนักแข่งจากทั่วโลก 60 คน ด้วยรถแข่ง จีที3 สุดล้ำ มากถึง 30 คัน ท่ามกลางแฟนความเร็วไทย-เทศ ที่เดินทางเข้าชมที่สนามและติดตามชมผ่านช่องทางการถ่ายทอดสดทุกแพลตฟอร์มอย่างคับคั่ง โดยในวันอาทิตย์ที่ 1 มิถุนายน 2568 เป็นการแข่งขันในเรซที่ 2
เกมเรซนี้ดวลกันสุดโหด 1 ชั่วโมงเต็ม บวก 1 รอบสนาม เริ่มจากกริดสตาร์ตที่ “เบน กรีน” ยอดนักขับจากสหราชอาณาจักรภายใต้รถแข่ง เชฟโรเลต คอร์เวทท์ ซีโอ6 จีที3 อาร์ หมายเลข 99 เป็นเจ้าของโพล โดยจับคู่กับ “เจ้าชายเจฟรี อิบราฮิม” แห่งยะโฮร์ ประเทศมาเลเซีย จากสังกัด ยะโฮร์ มอเตอร์สปอร์ต เรซซิ่ง เจเอ็มอาร์ เป็นเจ้าของโพล ขนาบข้างด้วย “มักซีม ออสเตน” นักขับดัตช์จาก ทีม เคอาร์ซี ในรถแข่ง บีเอ็มดับเบิลยู เอ็ม4 จีที3 อีโว หมายเลข 89 โดยมีทีมเมทชาวจีนอย่าง “หร่วน ชุ่น ฟั่น” เป็นมือที่สอง
โดยจุดเปลี่ยนสำคัญเกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงออกตัว จากการปะทะกันของรถแข่งหลายคัน ส่งผลให้ตัวเต็ง 3 คัน ต้องออกจากการแข่งขันทันที และกรรมการต้องส่ง “เซฟตี้คาร์” ออกมาวิ่งเพื่อเคลียร์แทร็ก และกินเวลามากกว่า 10 นาที
หลังจากนั้น เกมกลับมาดวลกันอีกครั้งในช่วงราว 45 นาทีที่เหลือ และไม่มีอะไรพลิกผันในตำแหน่งหัวแถว โดยชัยชนะตกเป็นของ “เจ้าชายเจฟรี อิบราฮิม” ที่ควบรถแข่งเชฟโรเลต คอร์เวทท์ ซีโอ6 จีที3 อาร์ หมายเลข 99 โดยรับช่วงต่อจาก “เบน กรีน” ทีมเมทชาวบริติช เข้าป้ายเป็นคันแรก ด้วยเวลา 1 ชั่วโมง 56.990 วินาที ได้ฉลองแชมป์เรซที่ 2 ส่งท้ายเกมที่บุรีรัมย์ไปครองอย่างยิ่งใหญ่
ขณะที่อันดับ 2 เป็นของ “หร่วน ชุ่น ฟั่น” นักแข่งรถชาวจีน จาก ทีม เคอาร์ซี ควบรถแข่ง บีเอ็มดับเบิลยู เอ็ม4 จีที3 อีโว หมายเลข 89 หลังรับช่วงจาก “มักซีม ออสเตน” ทีมเมทดัตช์ตามเข้าป้ายแบบเฉียดฉิว ด้วยเวลาตามหลังเพียง 0.350 วินาที ส่วนอันดับ 3 ได้แก่ “ไมค์ โจ” นักแข่งชาวจีน และ “ราฟ อารอน” ทีมเมทชาวสแปนิช ภายใต้รถแข่ง เมอร์เซเดส เอเอ็มจี จีที3 อีโว จากสังกัด ไคลแม็กซ์ เรซซิ่ง ตามหลัง 1.223 วินาที
ด้านอันดับ 4 ได้แก่ “ฉี เกา” นักแข่งจีน และ “แดเนียล โมรัด” ทีมเมทชาวแคนาดาในรถแข่ง เมอร์เซเดส เอเอ็มจี จีที3 อีโว หมายเลข 31 จาก คราฟท์ แบมบู เรซซิ่ง ตามหลัง 2.642 วินาที ส่วนอันดับ 5 ได้แก่ “แอนโทนี หลิว” นักแข่งจีนและ “โดเรียง บอคโคลาชชี” ในรถแข่ง ปอร์เช่ 911 จีที3อาร์ หมายเลข 37 จาก แฟนธอม โกลบอล เรซซิ่ง ตามหลังผู้ชนะ 6.119 วินาที
หลังผ่าน 6 เรซ จาก 3 สนามแรก สถานการณ์บนตารางแชมเปียนชิพเปลี่ยนแปลงอย่างมาก โดย “เจ้าชายเจฟรี อิบราฮิม” และ “เบน กรีน” ขยับขึ้นรั้งจ่าฝูงจากผลงานยอดเยี่ยมในประเทศไทย โดยมีทั้งสิ้น 93 คะแนน เหนือคู่แข่งอย่าง “แอนโทนี หลิว” และ “โดเรียง บอคโคลาชชี” อันดับ 2 อยู่ 10 แต้ม
ทั้งนี้ ศึก จีที เวิลด์ ชาลเลนจ์ เอเชีย 2025 สนามถัดไปจะยกพลไปดวลความเร็วกันที่ สนาม ฟูจิ อินเตอร์เนชั่นแนล สปีดเวย์ ประเทศญี่ปุ่น ระหว่างวันที่ 11-13 กรกฎาคมนี้
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine
-
“จีที เวิลด์ เอเชีย” เปิดฉากชิงดำสุดมันส์! “คู่หูนักแข่งจีน” แซงเดือด กระหึ่มชัยชนะเรซแรกที่ไทย
ศึกซูเปอร์สุดหรู รายการ “GT World Challenge Asia” (จีที เวิลด์ ชาลเลนจ์ เอเชีย) ฤดูกาล 2025 ซีรีส์แข่งขันดังของโลก ระเบิดศึกดวลความเร็วเรซแรก เสิร์ฟแฟนความเร็วชาวไทยถึงบ้าน ด้วยดีกรีความสนุกระดับ 5 ดาว ลุ้นชัยชนะแบบสุดสนุกในทุกวินาที โดยต้องตัดสินชัยชนะถึงรอบสุดท้ายหลังผ่านเรซสุดดราม่า ด้วยชัยชนะของ “อวี้ ไคว่” และ “เฉิง กงฟู่” คู่หูนักแข่งชาวจีน ควบรถแข่งเข้าป้ายเป็นคันแรก
การแข่งขัน จีที เวิลด์ ชาลเลนจ์ เอเชีย 2025 สนาม 3 ดวลความเร็วเรซแรก เมื่อวันเสาร์ที่ 31 พฤษภาคม 2568 ที่ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ ท่ามกลางการติดตามอย่างใกล้ชิดของแฟนมอเตอร์สปอร์ตทั่วโลก
ไฮไลต์ของเรซนี้อยู่ที่การดวลความเร็วของรถแข่งซูเปอร์คาร์ ในคลาส GT3 ที่เร็ว แรง ดุดัน เร้าใจและสง่างาม ผสานเข้ากับทักษะการขับขี่ขั้นสูงของนักแข่งชั้นนำของโลกที่ลงทำการแข่งขันมากถึง 30 คัน จากผู้ผลิตซูเปอร์คาร์ชั้นนำ อาทิ Mercedes-AMG, Ferrari 296, Porsche 911, Porsche 992, Lamborghini Huracan, Audi R8 LMS, BMW M4, Chevrolet Corvette Z06, Nissan GT-R NISMO ฯลฯ
โพลในเรซนี้เป็นของคู่หูชาวจีนอย่าง “หลิว ไคลู่” และ “เติ้ง อี้” ภายใต้รถแข่ง เฟอร์รารี่ 296 จีที3 หมายเลข 96 จาก วินเฮีย ฮาโมนี เรซซิ่ง ขนาบข้างด้วย “แอนโทนี หลิว” และ “โดเรียง บอคโคลาชชี” จาก แฟนธอม โกลบอล เรซซิ่ง ขนาบข้างในกริดที่ 2
จ่าฝูงบนตารางแชมเปียนชิพก่อนแข่งสนามนี้อย่าง “บ็อบ หยวน” และ “ลีโอ อี้” สองนักแข่งชาวจีนจาก ออริจิน มอเตอร์สปอร์ต เจองานสุดหินเพราะต้องถอยไปออกตัวจากกริดที่ 11 ในแถว 6
สถานการณ์ในกลุ่มหน้าต้องมาวัดกันหลังเข้ามาทำ “พิตสต็อป” เพื่อเปลี่ยนตัวนักแข่ง ก่อนที่ “เติ้ง อี้” นักแข่งชาวจีนภายใต้รถแข่ง เฟอร์รารี่ 296 GT3 หมายเลข 96 จาก วินเฮีย ฮาโมนี เรซซิ่ง จะขยับขึ้นเป็นผู้นำ โดยมี “อวี้ ไคว่” นักแข่งชาวจีนที่รับช่วงต่อจากทีมเมทอย่าง “เฉิง กงฟู่” ในรถแข่ง อาวดี้ อาร์8 แอลเอ็มเอส จีที3 อีโว2 หมายเลข 45 ตามเป็นอันดับ 2 ด้วยระยะห่างเกิน 5 วินาที
อย่างไรก็ดีในช่วงกลางเรซรถแข่งของ “บ็อบ หยวน” จอดเสียอยู่ที่พื้นที่ “รันออฟ แอเรีย” โค้ง 5 แม้กรรมการจะประกาศเป็น “ธงเหลืองถาวร” ในจุดดังกล่าว แต่ท้ายที่สุดก็ต้องเรียกเซฟตี้คาร์ออกมา เพื่อเคลียร์แทร็ก ส่งผลให้รถแข่งในกลุ่มหน้ารวม 6 คัน กลับมาชิดกันอีกครั้ง ก่อนจะกลับมารีสตาร์ตกันในช่วง 15 นาทีสุดท้าย
เกมต้องมาตัดสินกันถึงรอบสุดท้าย เมื่อ “อวี้ ไคว่” ไล่บี้อย่างหนัก ก่อนจะควบรถแข่ง อาวดี้ อาร์8 แอลเอ็มเอส จีที3 อีโว2 หมายเลข 45 แซงขึ้นมาเป็นหัวแถวได้ที่โค้ง 4 และปิดจ็อบเข้าป้ายเป็นคันแรก
ผลการแข่งขัน “อวี้ ไคว่” ยอดนักแข่งรถชาวจีน ผงาดคว้าชัยชนะเรซแรกที่ บุรีรัมย์ ไปครองอย่างสุดมันส์ ด้วยเวลารวม 1 ชั่วโมง 36.671 วินาที โดยเฉือนอันดับ 2 อย่าง “เติ้ง อี้” คู่แข่งชาวจีนภายใต้รถแข่ง เฟอร์รารี่ 296 จีที 3 เพียง 0.795 วินาทีเท่านั้น
ส่วนอันดับ 3 เป็นของ “เหว่ย หลู” นักแข่งจีน และ “บาสเตียน บุส” ทีมเมทชาวเดนมาร์ค ในรถแข่ง Porsche 911 GT3 R (992) หมายเลข 4 จาก ออริจิน มอเตอร์สปอร์ต ตามหลัง 1.632 วินาที ตามด้วย รถแข่ง เชฟโรเลต คอร์เวทท์ ซีโอ6 จีที3 อาร์ หมายเลข 99 จาก ยะโฮร์ มอเตอร์สปอร์ต เรซซิ่ง เจเอ็มอาร์ ที่ขับโดย “เจ้าชายเจฟรี อิบราฮิม” ของมาเลเซีย และ “เบน กรีน” ทีมเมทชาวสหราชอาณาจักร ในอันดับ 4 ตามหลัง 4.115 วินาที
ด้าน “เป่า จินหลง” ยอดนักแข่งจีนและทีมเมทชาวเยอรมันอย่าง “มาร์คุส วิลเคนฮอค” อดีตนักแข่งฟอร์มูล่าวัน ภายใต้รถแข่ง อาวดี้ อาร์8 แอลเอ็มเอส จีที3 อีโว2 หมายเลข 46 ตีตื้นจากกริดที่ 18 ขึ้นมาคว้าอันดับ 5 ตามหลังผู้ชนะ 6.715 วินาที
ขณะที่ผลการแข่งขันซัพพอร์ตเรซอย่าง “ฮอนด้า วันเมคเรซ 2025” สนามแรก ชัยชนะตกเป็นของ “วี” ธนาศิวณัฐ พงสินนัชอาชัญ แชมป์เก่าจาก พีที ออโต้แบคส์ x มูเกน ไทยแลนด์ ที่ออกสตาร์ตจากโพลก่อนนำม้วนเดียวจบเข้าป้ายเป็นคันแรก
ทั้งนี้ ศึก จีที เวิลด์ ชาลเลนจ์ เอเชีย 2025 สนาม 3 จะแข่งขันเรซที่ 2 ในวันอาทิตย์ที่ 1 มิถุนายนนี้ เวลา 10.45 น.
โดยกิจกรรมที่แฟนความเร็วห้ามพลาด คือ “พิตวอล์ค” ที่ได้รับการขนานนามว่า “พิตวอล์คพันล้าน” ด้วยรถแข่งและมูลค่าการสร้างทีมมหาศาล และยังเปิดโอกาสให้ผู้ชมสัมผัสความสวยงาม ตื่นตาไปกับเทคโนโลยียานยนต์ที่ล้ำสมัยอย่างใกล้ชิด แฟนความเร็วที่มีบัตรชมการแข่งขัน ได้เข้าร่วมกิจกรรม “ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย” วันอาทิตย์ที่ 1 มิ.ย.เวลา 9.55-10.15 น.
สำหรับแฟนความเร็วชาวไทย สามารถรับชมถ่ายทอดสด เรซ 2 วันอาทิตย์ที่ 1 มิ.ย. เวลา 10:30 – 12:00 น. ทางช่อง Truesports 2 ช่อง 667 ส่วนช่องทางออนไลน์สามารถรับชม Live สดผ่านทางเพจ Chang Circuit Buriram และ Youtube : Chang International Circuit
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine
-
อลังการ! “พิตวอล์คพันล้าน” ศึก GT World Challenge Asia 2025 สนามประเทศไทย
อีเวนต์ซูเปอร์คาร์ระดับลักชัวรี “จีที เวิลด์ ชาลเลนจ์ เอเชีย” เปิดฉากในประเทศไทยแล้วอย่างยิ่งใหญ่ โดยรายการนี้เป็นสุดยอดการแข่งขันซูเปอร์คาร์ GT3 สุดล้ำ หนึ่งในซีรีส์ดังที่ประชันความเร็วในหลายทวีปทั้ง ทวีปยุโรป,อเมริกา, ออสเตรเลียและเอเชีย และเป็นรายการชิงเจ้าความเร็วที่มีแฟนทั่วโลกติดตามชมมากที่สุด โดยประเทศไทย รับบทเป็นเจ้าภาพ สนามที่ 3 ของซีรีส์เอเชีย ระหว่างวันที่ 30 พฤษภาคม – 1 มิถุนายน 2568 ที่ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์
GT World Challenge Asia ฤดูกาล 2025 นี้ เป็นที่ประจักษ์แล้วว่า ยิ่งใหญ่สมการรอคอย โดยการเปิดฉากการแข่งขันอย่างเป็นทางการในประเทศไทย เริ่มต้นในสุดสัปดาห์นี้ ตั้งแต่การซ้อม ควอลิฟาย และแข่งขันทั้งหมด 2 เรซ โดยโปรแกรมที่ได้รับความสนใจอย่างมาก ไม่แพ้การแข่งขันที่เข้มข้นเร้าใจ ได้แก่ กิจกรรม “พิตวอล์ค” ที่สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับแฟนความเร็วที่เข้าชมในสนามอย่างมาก จัดขึ้นอย่างเต็มอิ่มจุใจถึง 2 วัน ทั้งวันเสาร์ที่ 31 พ.ค.เวลา 11.45-12.40 น. และวันอาทิตย์ที่ 1 มิ.ย.เวลา 9.55-10.15 น. แฟนความเร็วที่มีบัตรชมการแข่งขัน เข้าร่วมกิจกรรม “ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย”
โอกาสสำคัญในการได้สัมผัสรถแข่งซูเปอร์คาร์ GT3 สุดหล่อตัวแรงมากถึง 30 คัน จากผู้ผลิตซูเปอร์คาร์ชั้นนำ อาทิ Mercedes-AMG, Ferrari 296, Porsche 911, Porsche 992, Lamborghini Huracan, Audi R8 LMS, BMW M4, Chevrolet Corvette Z06, Nissan GT-R NISMO ฯลฯ
นอกจากนี้ยังกิจกรรม GT World Challenge HOT LAP มอบสิทธิ์สุดเอ็กซ์คลูซีฟ ให้กับแฟนความเร็วผู้โชคดีและสื่อมวลชน นั่งรถซูเปอร์คาร์ เติมเต็มประสบการณ์มอเตอร์สปอร์ตแบบเต็มขั้นในสนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ความสนุกและความพิเศษแบบนี้ หนึ่งปีมีแค่ครั้งเดียว
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine
-
“ทัพซูเปอร์คาร์พันล้าน” กระหึ่มไทย! “แบมบู เรซซิ่ง” ทีมแข่งฮ่องกงรั้งจ่าฝูงวันแรก
กองทัพรถแข่งซูเปอร์คาร์ชั้นนำของโลก 30 คัน รวมมูลค่ากว่าพันล้านลงสนามโชว์ความเร็วอวดสายตาแฟนชาวไทย ในศึก “GT World Challenge Asia” (จีที เวิลด์ ชาลเลนจ์ เอเชีย ) ฤดูกาล 2025 สนาม 3 ที่ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ ล่าสุดผ่านการซ้อมวันแรก ฉี เกา ยอดนักแข่งรถชาวจีนและ แดเนียล โมรัด ทีมเมทชาวแคนาดา ควบรถแข่ง เมอร์เซเดส-เอเอ็มจี จีที3 อีโว หมายเลข 31 จากสังกัด คราฟท์-แบมบู เรซซิ่ง ทะยานขึ้นเป็นผู้นำ ก่อนลุ้นแชมป์ 2 เรซสุดสัปดาห์นี้
ศึกซูเปอร์คาร์ระดับลักชัวรี GT World Challenge Asia 2025 สนาม 3 แข่งขันที่ประเทศไทย ในเรซ 5-6 ของฤดูกาล โดยรายการนี้นับเป็นหนึ่งในซีรีส์ดังที่จัดการแข่งขันทั้งในทวีปยุโรป,อเมริกา, ออสเตรเลียและเอเชีย และเป็นรายการชิงเจ้าความเร็วความเร็วที่แฟนความเร็วทั่วโลกติดตามชมอย่างมาก ภายใต้ซูเปอร์คาร์ GT3 ตัวแรงมากถึง 30 คัน จากผู้ผลิตซูเปอร์คาร์ชั้นนำ อาทิ Mercedes-AMG, Ferrari 296, Porsche 911, Porsche 992, Lamborghini Huracan, Audi R8 LMS, BMW M4, Chevrolet Corvette Z06, Nissan GT-R NISMO ฯลฯ
การแข่งขันเข้าสู่โปรแกรมการซ้อมอย่างเป็นทางการ วันศุกร์ที่ 30 พฤษภาคม 2568 ที่ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ โดยนับเป็นหนึ่งในช่วงสำคัญที่ทุกทีมใช้ สำหรับการค้นหาเซ็ตติ้งรถแข่ง รวมถึงการขับของนักแข่งทุกคน ภายใต้สุดสัปดาห์ที่สภาพอากาศยากต่อการคาดเดา
ผลการซ้อมปรากฏว่า “ฉี เกา” ยอดนักแข่งรถชาวจีนและ “แดเนียล โมรัด” ทีมเมทชาวแคนาดา ควบรถแข่ง เมอร์เซเดส-เอเอ็มจี จีที3 อีโว หมายเลข 31 จากสังกัด คราฟท์-แบมบู เรซซิ่ง ทะยานขึ้นเป็นผู้นำในการซ้อมวันแรกของศึก จีที เวิลด์ ชาลเลนจ์ เอเชีย 2025 สนาม 3 ด้วยเวลาต่อรอบ 1 นาที 33.983 วินาที
ขณะที่อันดับ 2 เป็นของ “หลู เหว่ย” นักแข่งจีนและทีมเมทชาวเดนมาร์คอย่าง “บาสเตียน บุส” ภายใต้รถแข่ง ปอร์เช่ 911 จีที3อาร์ (992) หมายเลข 4 จาก ออริจิน มอเตอร์สปอร์ต ด้วยเวลาต่อรอบ 1 นาที 34.117 วินาที ตามหลังจ่าฝูง 0.134 วินาที
ตามด้วยทีมแข่งจากมาเลเซียอย่าง ยะโฮร์ มอเตอร์สปอร์ต เรซซิ่ง เจเอ็มอาร์ ภายใต้รถแข่ง เชฟโรเลต คอร์เวทท์ ZO6 GT3.R หมายเลข 99 ขับโดย “เจ้าชายเจฟรี อิบราฮิม” จากมาเลเซีย และ “เบน กรีน” ทีมเมทชาวสหราชอาณาจักร ด้วยเวลา 1 นาที 34.172 วินาที ตามหลัง 0.189 วินาที
อันดับ 4 เป็นของคู่หูชาวญี่ปุ่นอย่าง “ฮิโระบง” และ “ยู คานามารุ” ภายใต้รถแข่ง นิสสัน จีที-อาร์ นิสโม จีที3 หมายเลข 500 ด้วยเวลาต่อรอบ 1 นาที 34.195 วินาที ตามหลัง 0.212 วินาที โดยมีรถแข่ง บีเอ็มดับเบิลยู เอ็มโฟร์ จีที3 อีโว หมายเลข 89 จาก ทีม เคอาร์ซี ที่ขับโดย “หร่วน ชุ่น ฟั่น” นักแข่งจีนและ มักซีม ออสเตน ทีมเมทชาวดัตช์ เป็นอันดับ 5 ด้วยเวลาต่อรอบ 1 นาที 34.499 วินาที ตามหลังหัวแถว 0.512 วินาที
ด้าน “เฮงก์ คิกส์” นักแข่งดัตช์ผู้บริหารแบรนด์ดังอย่าง บี-ควิกในประเทศไทย ลงแข่งแบบเรซเดียวร่วมกับสังกัด แอบโซลูท เรซซิ่ง ภายใต้รถแข่ง ลัมโบร์กินี ฮูราคาน จีที3 อีโว2 หมายเลข 19 จับคู่กับ “ลอริส สปิเนลลี” ทีมเมทชาวอิตาเลียน รั้งอันดับ 6 จากการซ้อมวันแรก ด้วยเวลาต่อรอบ 1 นาที 34.507 วินาที ตามหลังจ่าฝูง 0.527 วินาที
ส่วนซัพพอร์ตเรซอย่าง “ฮอนด้า วันเมคเรซ” ก็ลงซ้อมครั้งแรกในช่วงเช้า โดย “วี” ธนาศิวณัฐ พงสินนัชอาชัญ แชมป์เก่าจาก พีที ออโต้แบคส์ x มูเกน ไทยแลนด์ รั้งจ่าฝูงด้วยเวลาต่อรอบ 2 นาที 9.640 วินาที เหนืออันดับ 2 อย่าง ประพจน์ ชื่นวิจิตร จาก เน็กซเตอร์ เรสต์ คลับ อยู่ 1.136 วินาที ขณะที่อันดับ 3 ได้แก่ พีระพงศ์ เอี่ยมลำเนา จาก พีซีที ตามหลัง 2.188 วินาที
ทั้งนี้ ศึก จีที เวิลด์ ชาลเลนจ์ เอเชีย 2025 สนาม 3 จะจับเวลารอบควอลิฟายในช่วงวันเสาร์ที่ 31 พฤษภาคม เวลา 11.00 น. ก่อนดวลความเร็วเรซแรกในช่วงบ่าย (เรซละ 60 นาที) เริ่มต้น 15.00 น. จากนั้นจะแข่งขันเรซที่ 2 ในวันอาทิตย์ที่ 1 มิถุนายนนี้ เวลา 10.45 น.
โดยกิจกรรมที่แฟนความเร็วห้ามพลาด คือ “พิตวอล์ค” ที่ได้รับการขนานนามว่า “พิตวอล์คพันล้าน” ด้วยรถแข่งและมูลค่าการสร้างทีมมหาศาล และยังเปิดโอกาสให้ผู้ชมสัมผัสความสวยงาม ตื่นตาไปกับเทคโนโลยียานยนต์ที่ล้ำสมัยอย่างใกล้ชิด จัดขึ้นอย่างเต็มอิ่มจุใจถึง 2 วัน ทั้งวันเสาร์ที่ 31 พ.ค.เวลา 11.45-12.40 น. และวันอาทิตย์ที่ 1 มิ.ย.เวลา 9.55-10.15 น. แฟนความเร็วที่มีบัตรชมการแข่งขัน ได้เข้าร่วมกิจกรรม “ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย”
สำหรับแฟนความเร็วชาวไทย สามารถรับชมถ่ายทอดสดได้ทาง Truesports เรซแรกวันเสาร์ที่ 31 พ.ค. เวลา 14:45 – 16:30 น. ทางช่อง Truesports 3 ช่อง 668 และ เรซ 2 วันอาทิตย์ที่ 1 มิ.ย. เวลา 10:30 – 12:00 น. ทางช่อง Truesports 2 ช่อง 667 ส่วนช่องทางออนไลน์สามารถรับชม Live สดผ่านทางเพจ Chang Circuit Buriram และ Youtube : Chang International Circuit
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine
-
เบนท์ลีย์ แบงค็อก เปิด ‘Extraordinary Pop-up’ หรูกลางเมือง เชิญเหล่าซิตี้ไลฟ์สไตล์สัมผัสเสน่ห์แห่งอัครยนตรกรรม ณ ห้างเอ็มโพเรียม
เบนท์ลีย์ แบงค็อก โดย บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์เบนท์ลีย์อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย เชิญเหล่าชาวซิตี้ไลฟ์สไตล์สัมผัสเสน่ห์แห่งอัครยนตรกรรม รุ่น New Continental GT Speed รุ่น New Flying Spur Speed สุดยอดแกรนด์ทัวเรอร์โฉมใหม่ และรุ่น Bentayga Hybrid รถยนต์แบบอเนกประสงค์ที่จะมอบอรรถประโยชน์และประสิทธิภาพในขับขี่ที่เหนือกว่า พร้อมกับข้อเสนอทางการเงินสุดพิเศษที่คุณสามารถออกแบบเองได้สำหรับผู้ที่สนใจครอบครองรถยนต์เบนท์ลีย์ และสนุกไปกับการเลือกช้อปคอลเลกชันเบนท์ลีย์สินค้าของที่ระลึกจากแบรนด์กับส่วนลดพิเศษในบรรยากาศของ ‘Bentley Bangkok Extraordinary Pop-up’ สไตล์เรียบหรูที่จะสะท้อนวิสัยทัศน์ด้านความยั่งยืนของแบรนด์ วันที่ 3 – 15 มิถุนายน 2568 บริเวณชั้น M ศูนย์การค้าเอ็มโพเรียม ผู้สนใจเข้าชมสามารถนัดหมายได้ที่เบอร์ 080-925-9999 หรือ LINE Official Account: @bentleybangkokaas คลิก https://lin.ee/4JOaZyE8V
เบนท์ลีย์ แบงค็อก จัดแสดง New Continental GT Speed และ New Flying Spur Speed สุดยอดแกรนด์ทัวเรอร์ที่มาพร้อมสมรรถนะระดับซูเปอร์คาร์ด้วยขุมพลังแบบ Ultra Performance Hybrid ที่ทรงพลังที่สุดด้วยพละกำลังกว่า 782 แรงม้า แรงบิด 1,000 นิวตันเมตร ในเฉดสีดำ Onyx สะท้อนสุดยอดสมรรถนะอันเหนือชั้น พร้อมกับการตกแต่งสไตล์สปอร์ตที่ดุดันและร่วมสมัย แต่ยังคงความหรูหราและความประณีตของงานฝีมือในแบบของแบรนด์รถยนต์เบนท์ลีย์ และพบกับรุ่น Bentayga Hybrid รถยนต์แบบอเนกประสงค์กับอรรถประโยชน์อันล้นเหลือที่จะมอบประสิทธิภาพในการขับขี่ที่เหนือกว่าจากเครื่องยนต์เบนซินรุ่น V6 แบบไฮบริดในเฉดสีดำ Onyx และการออกแบบที่หรูหราและร่วมสมัย พร้อมด้วยภายในห้องโดยสารที่ตกแต่งอย่างประณีตและงดงามตามแบบฉบับของแบรนด์ไลฟ์สไตล์หรูสัญชาติอังกฤษ โดยภายในงาน เบนท์ลีย์ แบงค็อก ยังได้มอบโอกาสในการเป็นเจ้าของรถยนต์เบนท์ลีย์ด้วยข้อเสนอทางการเงินสุดพิเศษแห่งปีสำหรับรถยนต์เบนท์ลีย์รุ่นใหม่และรถยนต์เบนท์ลีย์พร้อมส่งมอบที่สามารถเลือกออกแบบเองได้เพื่อให้ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ พร้อมรับความอุ่นใจไปกับการรับประกันมาตรฐานโรงงานผู้ผลิต เอกสิทธิ์เฉพาะเมื่อเลือกครอบครองรถยนต์เบนท์ลีย์กับผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการเท่านั้น นอกจากนี้ เบนท์ลีย์ แบงค็อก ยังมอบส่วนลดพิเศษ 25% เมื่อช้อปคอลเลกชันเบนท์ลีย์ใหม่ล่าสุด สินค้าลิขสิทธิ์แบรนด์ นำเข้าจากโรงงาน ประเทศอังกฤษ อาทิ ตุ๊กตาหมีเบนท์ลีย์ กระบอกน้ำเก็บความร้อน-เย็น แก้วน้ำรักษ์โลก เสื้อโปโล หมวกเบสบอล และสินค้าของที่ระลึกอื่นๆ อีกมากมาย
ผู้สนใจเข้าชมงานสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมและข้อเสนอพิเศษ โทร. 080-925-9999 หรือ 02-261-1050 LINE Official Account: @bentleybangkokaas คลิก https://lin.ee/4JOaZyE8V
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine -
คอนติเนนทอล สานต่อกิจกรรม Continental CSR Skill Driving 2025 จับมือ Mercedes-Benz และ DEEPAL เปิดสอนหลักสูตรขับขี่ปลอดภัย มั่นใจทุกสถานการณ์ ต่อเนื่องปีที่ 3
คอนติเนนทอล ออโตโมทีฟ แบงคอก และ คอนติเนนทอล ไทร์ส (ประเทศไทย) ผู้นำด้านนวัตกรรมเทคโนโลยียานยนต์และยางรถยนต์ระดับโลกจากเยอรมนี เดินหน้าส่งเสริมความปลอดภัยบนท้องถนน ผ่านกิจกรรม “Continental CSR Skill Driving 2025 ขับขี่ปลอดภัย มั่นใจทุกสถานการณ์” ซึ่งจัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 โดยร่วมมือกับสองแบรนด์รถยนต์ชั้นนำระดับโลก เมอร์เซเดส-เบนซ์ (Mercedes-Benz) และ ดีพอล (DEEPAL) ถ่ายทอดความรู้ด้านความปลอดภัยและทักษะการขับขี่อย่างครบถ้วน ทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติ ภายใต้การดูแลของผู้เชี่ยวชาญชั้นนำของไทย ณ สนามปทุมธานี สปีดเวย์ จังหวัดปทุมธานี รายได้ทั้งหมดจากค่าสมัครโดยไม่หักค่าใช้จ่าย จะมอบให้แก่มูลนิธินโยบายถนนปลอดภัย เพื่อสนับสนุนงานวิจัยและการศึกษาในการพัฒนาคุณภาพความปลอดภัยบนท้องถนนของประเทศไทยอย่างยั่งยืน
ต่อยอดความสำเร็จสู่ปีที่ 3 ยกระดับสังคมการขับขี่ปลอดภัยให้มั่นใจในทุกเส้นทาง
มร. ปีเตอร์ รางเคิล (Mr. Peter Rankl) ประธานฝ่ายบริหารภูมิภาคอาเซียน คอนติเนนทอล ออโตโมทีฟ
แบงคอก กล่าวว่า “ในนามของคอนติเนนทอล เรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้สานต่อกิจกรรม Continental CSR Skill Driving 2025 เป็นปีที่ 3 เพื่อส่งเสริมองค์ความรู้ด้านการขับขี่ให้กับประชาชนไทยอย่างต่อเนื่อง เพราะเราเชื่อมั่นว่าทักษะและความเข้าใจที่ถูกต้องคือหัวใจของการขับขี่อย่างปลอดภัย สำหรับคอนติเนนทอล ความปลอดภัยถือเป็นคุณค่าหลักที่เรายึดถือมาตลอดระยะเวลากว่า 150 ปี ของการพัฒนาเทคโนโลยียานยนต์และยางรถยนต์ เราหวังว่ากิจกรรมนี้จะช่วยให้เกิดความตระหนักรู้ในวงกว้าง และมีส่วนสนับสนุนการยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยบนท้องถนนของประเทศไทยให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้นในอนาคต”ภายในงานได้มีการจัดกิจกรรมส่งเสริมความรู้ด้านการขับขี่ปลอดภัย ทั้งด้านทฤษฎีและการปฏิบัติจริง นำโดยวิทยากรผู้เชี่ยวชาญด้านการขับขี่แนวหน้าของประเทศไทย ได้แก่ นายวุฒินันท์ สภาวสุ, นายปริตร แม้นเมฆ, และนายสิรคุปต์ เมทนี ซึ่งหลักสูตรจะครอบคลุมตั้งแต่เรื่องทฤษฎีพื้นฐาน เช่น การปรับเบาะนั่งที่เหมาะสม วิธีการจับพวงมาลัยที่ถูกต้อง การเบรกในสถานการณ์คับขันต่าง ๆ ไปจนถึงระบบความปลอดภัยภายในรถ และความสำคัญของคุณภาพยาง จากนั้นผู้เข้าอบรมจะได้ปฏิบัติจริงโดยการขับรถยนต์ด้วยตนเอง โดยแบ่งออกเป็นการปฏิบัติตามฐาน ได้แก่ การเบรกกระทัน การหักหลบแบบต่อเนื่อง การควบคุมรถเสียหลัก และการหักหลบฉุกเฉิน นอกจากทักษะการขับขี่แล้ว การมีความรู้ความเข้าใจเรื่องอุปกรณ์ความปลอดภัยภายในรถ และการใช้ยางที่มีมาตรฐานก็สำคัญมากเช่นกัน
มร. คาเรล คูเซรา (Mr. Karel Kucera) กรรมการผู้จัดการ คอนติเนนทอล ไทร์ส (ประเทศไทย) กล่าวว่า “ทางยางคอนติเนนทอล เราไม่ได้เพียงพัฒนายางรถยนต์ระดับพรีเมียมที่มีความโดดเด่นด้านสมรรถนะ และเทคโนโลยีด้านความปลอดภัยขั้นสูงเท่านั้น แต่เรายังเล็งเห็นถึงการส่งเสริมองค์ความรู้และสร้างความตระหนักในเรื่องทักษะการขับขี่ที่ถูกต้องให้กับประชาชน โดยเฉพาะในประเทศไทย ซึ่งยังมีสถิติอุบัติเหตุทางถนนอยู่ในระดับสูง เราเชื่อว่ากิจกรรมในครั้งนี้จะเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญในการสนับสนุนให้ผู้ขับขี่มีความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับบทบาทของยาง และการควบคุมรถอย่างปลอดภัย เพื่อจะนำไปสู่การลดอุบัติเหตุบนท้องถนนในระยะยาว”
ในการอบรมการขับขี่ปลอดภัยครั้งนี้ คอนติเนนทอลยังได้รับความร่วมมือจากสองพันธมิตรแบรนด์รถยนต์ชั้นนำระดับโลกอย่าง เมอร์เซเดส-เบนซ์ (Mercedes-Benz) และ ดีพอล (DEEPAL) ในการสนับสนุนรถยนต์จำนวนกว่า 9 คัน ครอบคลุมประเภทรถที่หลากหลาย ได้แก่ Mercedes-AMG CLS 53 4MATIC+, Mercedes-Benz CLS 220 d AMG Premium และ DEEPAL S05 ทั้งรุ่น BEV และรุ่น REEV (Range-Extended Electric Vehicle) เพื่อให้ผู้เข้าอบรมได้สัมผัสถึงสมรรถนะของยาง และได้รับประสบการณ์จากการขับขี่และการควบคุมรถที่ครอบคลุม
ส่งมอบเงินบริจาคสมทบทุนให้มูลนิธินโยบายถนนปลอดภัย เพื่อส่งเสริมงานวิจัยและพัฒนาความปลอดภัยบนท้องถนน
คอนติเนนทอลนำรายได้จากการจัดกิจกรรมนี้ทั้งหมดโดยไม่หักค่าใช้จ่าย เพื่อเป็นทุนสนับสนุนการวิจัยด้านถนนปลอดภัย การศึกษาด้านการลดอัตราการเกิดอุบัติเหตุ และการนำเข้าสู่การบังคับใช้กฎหมายที่เป็นผลกระทบที่ดีในวงกว้าง ซึ่งปีนี้ได้ส่งมอบเงินจำนวนทั้งสิ้น 105,300 บาท โดยได้รับเกียรติจาก คุณถนอมศรี วาสนะตระกูล หัวหน้าฝ่ายบริหาร ประจำศูนย์วิชาการเพื่อความปลอดภัยทางถนน เป็นผู้รับมอบ
“คอนติเนนทอลตั้งใจให้กิจกรรมในครั้งนี้เป็นมากกว่าการฝึกอบรม เรารู้สึกเป็นเกียรติและภาคภูมิใจที่ได้มีส่วนร่วมในการส่งเสริมทักษะการขับขี่อย่างปลอดภัยให้แก่ประชาชนไทย เพื่อให้สามารถนำความรู้ ทักษะ และประสบการณ์จากการเข้าร่วมกิจกรรมไปปรับใช้ในชีวิตจริง พร้อมร่วมกันสร้างวัฒนธรรมการขับขี่ที่ปลอดภัยให้เกิดขึ้นในสังคมไทย โดยเราเชื่อว่าการสร้างความรู้และความเข้าใจอย่างถูกต้องคือรากฐานของการลดอุบัติเหตุ และเป็นก้าวสำคัญในการร่วมกันยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยบนท้องถนนอย่างยั่งยืน” ดร. ณรงค์ศักดิ์ รัตนสุวรรณชาติ ผู้อำนวยการฝ่ายขายและการตลาด ภูมิภาคอาเซียน และผู้จัดการทั่วไป ประเทศไทย กล่าวปิดท้าย
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine