• ฮอนด้า เรซซิ่ง คอร์ปอเรชั่น แต่งตั้ง สมเกียรติ จันทรา และ เจค ดิกสัน ร่วมทีมสู้ศึก FIM ซูเปอร์ไบค์ เวิลด์แชมเปี้ยนชิพ ฤดูกาล 2026

    1 Min Read

    ฮอนด้า เรซซิ่ง คอร์ปอเรชั่น แต่งตั้ง สมเกียรติ จันทรา และ เจค ดิกสัน ร่วมทีมสู้ศึก FIM ซูเปอร์ไบค์ เวิลด์แชมเปี้ยนชิพ ฤดูกาล 2026

    ฮอนด้า เรซซิ่ง คอร์ปอเรชั่น (Honda Racing Corporation – HRC)  ประกาศแต่งตั้ง สมเกียรติ จันทรา และ เจค ดิกสัน (Jake Dixon) เข้าร่วมเป็นนักแข่งของทีมในการแข่งขัน FIM ซูเปอร์ไบค์ เวิลด์แชมเปี้ยนชิพ (Superbike World Championship: WorldSBK) ฤดูกาล 2026 โดยทั้งคู่ถือเป็นนักบิดมากฝีมือในรายการโมโตทู ที่ได้รับการพิสูจน์ฝีมือแล้ว และมีประสบการณ์ระดับโลกมาอย่างโชกโชน

     

    การผนึกกำลังกันของ สมเกียรติ ตัวแทนจากวงการมอเตอร์สปอร์ตเอเชีย และ ดิกสัน นักบิดสายเลือดอังกฤษผู้มากประสบการณ์จากยุโรป นับเป็นการสร้างทีมที่เปี่ยมด้วยความเร็ว ทักษะ และความมุ่งมั่น ในการผลักดันฮอนด้าให้กลับสู่แถวหน้าของการแข่งขัน WorldSBK

     

    ไทอิจิ ฮอนด้า (Taichi Honda) – ผู้จัดการทั่วไปทีม Honda Racing Corporation (HRC) กล่าวว่า “เรารู้สึกยินดีอย่างยิ่งที่ได้ต้อนรับสมเกียรติและเจค ดิกสันเข้าสู่ทีม Honda HRC WorldSBK ตั้งแต่ฤดูกาล 2026 สมเกียรติคือนักบิดไทยคนแรกที่คว้าชัยชนะในโมโตทู และได้ก้าวขึ้นสู่การแข่งขัน โมโตจีพี และตอนนี้เขากำลังก้าวไปอีกขั้นที่สำคัญในครอบครัวฮอนด้า ด้วยมุ่งหน้าสู่เส้นทางอาชีพระดับสูงสุดในเวทีนานาชาติ ในฐานะนักแข่งชาวไทยคนแรกที่ลงแข่งเต็มฤดูกาลในรายการ Superbike World Championship ให้กับทีมของเรา ขณะเดียวกัน เจค ดิกสัน เจ้าของชัยชนะในโมโตทู หลายสนาม ก็แสดงให้เห็นถึงศักยภาพและความแน่วแน่ที่จะเดินหน้าสู่ความสำเร็จในรายการระดับสูงอย่าง WorldSBK มาโดยตลอด ความสามารถ ประสบการณ์ และจิตวิญญาณนักแข่งของทั้งสองคนจะเป็นทรัพยากรอันมีค่าสำหรับเรา ในการเดินหน้าสร้างความแข็งแกร่งให้กับทีมในรายการนี้ ทั้งสองจะเป็นกำลังสำคัญในการยกระดับทีมของเราให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น และเรายังคงมุ่งมั่นกับรายการ WorldSBK อย่างเต็มที่ ด้วยเป้าหมายชัดเจน คือ พาฮอนด้ากลับสู่ตำแหน่งแชมป์อีกครั้ง”

     

    ประวัติของนักแข่ง

    สมเกียรติ จันทรา เกิดเมื่อวันที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2541 ที่จังหวัดชลบุรี ประเทศไทย ปัจจุบันลงแข่งขันในรายการ โมโตจีพี  กับทีมอิเดมิตสึ ฮอนด้า แอลซีอาร์ โดยก้าวขึ้นสู่ระดับพรีเมียร์คลาสในฤดูกาล 2025 สมเกียรติเป็นนักแข่งที่เติบโตมาจากรายการ Asia Talent Cup ซึ่งเขาคว้าแชมป์ได้ในปี 2016 จากนั้นพัฒนาเส้นทางอาชีพผ่านรายการ FIM CEV โมโตทรี Junior World Championship ก่อนเข้าร่วมการแข่งขัน โมโตทู กับทีมอิเดมิตสึ ฮอนด้า ทีม เอเชีย ในปี 2019

     

    สมเกียรติสร้างประวัติศาสตร์ด้วยการเป็นนักบิดไทยคนแรกที่คว้าชัยชนะในรายการโมโตทู ด้วยผลงานที่โดดเด่นใน อินโดนีเซียน กรังด์ปรีซ์ – มันดาลิกา ฤดูกาล 2022 และ เจแปนนิส กรังด์ปรีซ์ – โมเตกิ ฤดูกาล 2023 โดยในฤดูกาล 2024 ทำคะแนนรวมได้ 104 คะแนน จบอันดับที่ 12 ของตาราง

     

    ด้าน เจค ดิกสัน เกิดเมื่อวันที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2539 ที่เมืองโดเวอร์ ประเทศอังกฤษ ปัจจุบันแข่งขันในรายการโมโตทู  กับทีมเอลฟ์ มาร์ค วีดีเอส เรซซิ่ง  (Elf Marc VDS Racing Team) เขาเคยเป็นรองแชมป์ใน การแข่งขันชิงแชมป์ซูเปอร์ไบค์แห่งสหราชอาณาจักร (British Superbike Championship) ปี 2018 และได้สร้างชื่อในฐานะหนึ่งในนักแข่งแถวหน้าของโมโตทู ด้วยชัยชนะรวม 6 สนาม ได้แก่

    • 2023 – อัสเซ่น (Dutch TT) และ คาตาลุนญา (บาร์เซโลนา)
    • 2024 – บริติช กรังด์ปรีซ์ (ซิลเวอร์สโตน) และ อารากอน (MotorLand)
    • 2025 – อาร์เจนตินา (เทอมาส เด ริโอ ฮอนโด) และ อเมริกาส์ (COTA, ออสติน)

    เขายังทำผลงานได้อย่างโดดเด่นด้วย 21 โพเดียม (รวม 6 ชัยชนะ) และ 8 โพลโพซิชัน ตลอดเส้นทางในโมโตทู


    ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย

    Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
    Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
    Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
    instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
    Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
    Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
    Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine


    No Comment
  • “ฮอนด้า” ยกระดับ “ก้อง-สมเกียรติ” ขึ้นสู่ทีมโรงงานลุยศึก “เวิลด์ ซูเปอร์ไบค์” ปี 2026 รุ่นใหญ่สุด

    1 Min Read

    “ฮอนด้า” ยกระดับ “ก้อง-สมเกียรติ” ขึ้นสู่ทีมโรงงานลุยศึก “เวิลด์ ซูเปอร์ไบค์” ปี 2026 รุ่นใหญ่สุด

    “ฮอนด้า” ประกาศยืนยันอย่างเป็นทางการ ยกระดับ “ก้อง” สมเกียรติ จันทรา ยอดนักบิดชาวไทยสู่ความท้าทายใหม่ในระดับโลก ร่วมทีมโรงงาน “ฮอนด้า เอชอาร์ซี” สร้างอีกหนึ่งประวัติศาสตร์ ในฐานะนักแข่งชาวไทยคนแรกที่ได้ร่วมทีมโรงงานระดับโลก เพื่อแข่งขันรุ่นใหญ่สุดในศึก “เวิลด์ ซูเปอร์ไบค์ แชมเปี้ยนชิพ 2026” ที่ยังไม่เคยมีคนไทยคนไหนได้ก้าวสู่จุดนี้ เคียงข้างทีมเมทฝีมือดี “เจค ดิกสัน” นักบิดชาวอังกฤษ ภายใต้โปรเจ็กต์บิดรถแข่งในตำนานอย่าง Honda CBR1000RR-R เตรียมสร้างความยิ่งใหญ่ในเวทีโปรดักชั่นไบค์

     

    ก้อง-สมเกียรติ นักบิดชาวไทยวัย 26 ปี เติบโตจากโครงการ “ฮอนด้า เรซ ทู เดอะ ดรีม” ของ ไทยฮอนด้า และสร้างผลงานอย่างโดดเด่นในศึกจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลกรุ่น โมโตทู นับตั้งแต่ฤดูกาล 2019-2024 ด้วยการคว้าชัยชนะได้ 2 ครั้ง และคว้าโพเดียมมาครองได้ 6 ครั้ง ก่อนจะเข้าร่วมการแข่งขันโมโตจีพี เต็มฤดูกาลในปี 2025

     

    ก้อง-สมเกียรติ กล่าวว่า “รายการ เวิลด์ ซูเปอร์ไบค์ 2026 ที่จะได้ทำงานกับทีมโรงงานอย่าง ฮอนด้า เอชอาร์ซี ถือเป็นความท้าทายใหม่ที่น่าตื่นเต้นสำหรับผม ต้องขอแรงเชียร์จากแฟน ๆ ชาวไทยทุกคน ร่วมส่งกำลังใจให้ผมในรายการใหม่ปีหน้า ที่เราจะออกเดินทางไปด้วยกันอีกครั้ง แรงเชียร์จากแฟนๆ เป็นส่วนผลักดันที่ทำให้ผมมาถึงจุดนี้ อยากให้ทุกคนตามเชียร์ผมกันนะครับ ส่วนผมก็จะเต็มที่กับทุกๆ รายการเหมือนเดิม ทั้งสนามที่เหลือในปีนี้ และ รายการใหม่ในปีหน้าครับ“

     

    ทั้งนี้ “ก้อง-สมเกียรติ” ได้รับการยืนยันอย่างเป็นทางการจาก ฮอนด้า เรซซิ่ง คอร์เปอเรชั่น (HRC) โยกไปร่วมสังกัด “ฮอนด้า เอชอาร์ซี” (Honda HRC) เพื่อลุยศึก เวิลด์ ซูเปอร์ไบค์ แชมเปี้ยนชิพ ฤดูกาล 2026 เป็นต้นไป สำหรับ “ฮอนด้า เอชอาร์ซี” มุ่งมั่นอย่างเต็มที่ในการยกระดับรถแข่ง Honda CBR1000RR-R เพื่อก้าวสู่ความยิ่งใหญ่ในศึก เวิลด์ ซูเปอร์ไบค์ แชมเปี้ยนชิพ และการดึง “ก้อง-สมเกียรติ” และ ร่วมกับทีมเมทชาวสหราชอาณาจักรอย่าง “เจค ดิกสัน” หนึ่งในดาวบิดชื่อดังในรุ่น โมโตทู เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ เข้าร่วมโปรเจ็กต์นี้ก็ถือเป็นหนึ่งในการขยับตัวครั้งสำคัญของ ฮอนด้าเพื่อร่วมกันสร้างประวัติศาสตร์ให้กลับมากระหึ่มอีกครั้ง

     

    ศึก เวิลด์ ซูเปอร์ไบค์ แชมเปี้ยนชิพ นับเป็นหนึ่งในการแข่งขันจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลกที่มีความยิ่งใหญ่ไม่แพ้ โมโตจีพี โดยใช้รถแข่งซูเปอร์ไบค์ที่ดัดแปลงเพิ่มสมรรถนะจาก “โปรดักชั่นไบค์” ที่มีจำหน่ายจริงในท้องตลาด เพื่อการแข่งขันในสนามแข่ง ซึ่งถือเป็นการประชันความโดดเด่นด้านเทคโนโลยีของแบรนด์จักรยานยนต์ในสนามแข่งอย่างแท้จริง

     

    แฟนมอเตอร์สปอร์ตส่งกำลังใจเชียร์นักบิดฮอนด้า ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ : https://facebook.com/HondaRacingTeamTH

     

    #HondaRacingThailand #RaceToTheDream #HondaBigBike #HondaHRC #HondaCBR1000RR-R #SC #Kong


    ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย

    Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
    Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
    Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
    instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
    Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
    Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
    Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine


    No Comment
  • ปอร์เช่ ประเทศไทย เปิดตัว คาเยนน์ เอส อี-ไฮบริด คูเป้ รุ่นปรับโฉมใหม่ ยกระดับดีไซน์สู่อีกขั้นของความสปอร์ต

    1 Min Read

    ปอร์เช่ ประเทศไทย เปิดตัว คาเยนน์ เอส อี-ไฮบริด คูเป้ รุ่นปรับโฉมใหม่ ยกระดับดีไซน์สู่อีกขั้นของความสปอร์ต

    ปอร์เช่ ประเทศไทยเปิดตัว คาเยนน์ เอส อี-ไฮบริด คูเป้ (Cayenne S E-Hybrid Coupé)
    รุ่นปรับโฉมปี 2026 โดยเน้นดีไซน์สปอร์ตและความดุดันยิ่งขึ้น ด้วยล้อ
    RS Spyder Design ขนาด 21 นิ้ว ช่วยเสริมความสปอร์ตเต็มพลัง มาพร้อมความแรงและสมรรถนะ E-Performance ด้วยเครื่องยนต์ V6 เทอร์โบ 3.0 ลิตร ผสานมอเตอร์ไฟฟ้า กำลังรวมสูงสุด 382 กิโลวัตต์ (519 แรงม้า) ระยะทางขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าสูงสุด 90 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน WLTP ในราคาจำหน่าย 6,690,000 บาท

     

    กรุงเทพฯ. จากความสำเร็จของ คาเยนน์ เอส อี-ไฮบริด คูเป้ ที่ประกอบขึ้นสำหรับประเทศไทยโดยเฉพาะ จากโรงงานในประเทศมาเลเซีย วันนี้ ปอร์เช่ ประเทศไทยพร้อมเปิดตัว คาเยนน์ เอส อี-ไฮบริด คูเป้ รุ่นปรับโฉมปี 2026 ด้วยการผสมผสานความแรงจากเทคโนโลยี E-Performance และความหรูหราในแบบฉบับรถสปอร์ต SUV ระดับพรีเมียม ที่มาพร้อมการพัฒนาดีไซน์ภายนอกโดยเฉพาะล้อ RS Spyder Design 21 นิ้ว ซึ่งมาพร้อมกับคิ้วตกแต่งซุ้มล้อสีเดียวกับตัวรถ ที่ช่วยเพิ่มความสปอร์ตและความดุดันให้กับตัวรถมากยิ่งขึ้น เพื่อตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าชาวไทยทั้งในแง่ของคุณภาพและราคา

     

    คาเยนน์ เอส อี-ไฮบริด คูเป้ รุ่นปรับโฉม ปี 2026

    สำหรับในรุ่นปรับโฉมที่ผลิตขึ้นในประเทศมาเลเซีย ได้มีการพัฒนาเพื่อให้มีความสปอร์ตและดุดันมากยิ่งขึ้น ด้วยล้อ RS Spyder 21 นิ้ว ที่ช่วยยกระดับรถให้มีความโฉบเฉี่ยวแต่ยังคงให้ความหรูหรา โดยล้อ RS Spyder ขนาด 21 นิ้ว มาพร้อมกับคิ้วตกแต่งซุ้มล้อสีเดียวกับตัวรถ

     

    และยังคงมาพร้อมอุปกรณ์มาตรฐานที่ครับครันเช่นเคย ไม่ว่าจะเป็น ไฟหน้า HD Matrix LED ที่ประกอบด้วยโมดูลความละเอียดสูง 2 ชุด และกว่า 32,000 พิกเซลต่อโคมไฟ พวงมาลัย GT Sports และแพ็คเกจ Sport Chrono พร้อมนาฬิกา Porsche Design รวมถึงเบาะนั่งไฟฟ้าแบบปรับได้ 14 ทิศทาง พร้อมระบบจดจำตำแหน่งที่มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ สีดำ หรือ สีดำ/สีแดง Bordeaux Red พร้อมลายสัญลักษณ์ปอร์เช่บนพนักพิงศีรษะที่เบาะคู่หน้า

     

    นอกจากนี้ยังมีระบบควบคุมอุณหภูมิแยก 4 โซน ระบบฟอกอากาศ ม่านบังแดดด้านหลังที่เปิดและปิดด้วยระบบไฟฟ้า และยังเพิ่มความทันสมัยให้กับห้องโดยสารด้วย Porsche Driver Experience ด้วยชุดหน้าปัดดิจิตอลโค้งมน 12.6 นิ้ว และหน้าจอ Infotainment 12.3 นิ้ว โดยตำแหน่งคันเกียร์อัตโนมัติที่จะอยู่ที่บริเวณด้านซ้ายของพวงมาลัยบนคอนโซลกลาง เพื่อเพิ่มพื้นที่เก็บของและแผงควบคุมระบบปรับอากาศในดีไซน์ทันสมัยโทนสีดำ และแผงควบคุมมาพร้อมปุ่มกดขนาดใหญ่ พร้อมสวิทช์หมุนปรับอากาศ และปุ่มปรับระดับเสียงแบบสัมผัส ทำให้ผู้ขับขี่ใช้งานได้อย่างสะดวกสบาย พร้อมความหรูหราที่ครบครัน

     

    คาเยนน์ เอส อี-ไฮบริด คูเป้ รุ่นปรับโฉม ปี 2026 ยังมาพร้อมระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่อัจฉริยะ มอบประสบการณ์การขับขี่ที่สะดวกสบาย ทั้งระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Adaptive Cruise Control) และระบบช่วยจอด (ParkAssist) พร้อมกล้องรอบทิศทาง (Surround View) ที่ช่วยให้การจอดและขับขี่ในพื้นที่จำกัดปลอดภัยมากยิ่งขึ้น

     

    เป็นเจ้าของรถสปอร์ต SUV ระดับพรีเมียม พร้อมสมรรถนะเต็มพลัง

    คาเยนน์ เอส อี-ไฮบริด คูเป้ รุ่นปรับโฉมปี 2026 เปิดตัวในประเทศไทยในราคาจำหน่าย 6,690,000* บาท เพื่อให้ผู้ขับขี่ได้สัมผัสสมรรถนะไฮบริดเต็มพลัง ความแรง และความหรูหราที่ครบครัน โดยสามารถเลือกสีตัวถังได้สามสี ได้แก่ สีขาวคาร์ราร่า (Carrara White), สีดำโครไมท์ (Chromite Black) และ สีเงินโดโลไมท์ (Dolomite Silver) พร้อมมอบประสบการณ์การขับขี่ที่สมบูรณ์แบบในทุกการเดินทาง

     

    ผู้ที่สนใจสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ปอร์เช่ ประเทศไทย หรือตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการทุกสาขา

    *เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด


    ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย

    Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
    Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
    Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
    instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
    Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
    Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
    Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine


    No Comment
  • เบนท์ลีย์ มูลินเนอร์ เผยภาพ Batur Convertible รุ่นพิเศษ 2 เฉดสี One Plus One รูปแบบใหม่

    1 Min Read

    เบนท์ลีย์ มูลินเนอร์ เผยภาพ Batur Convertible รุ่นพิเศษ 2 เฉดสี One Plus One รูปแบบใหม่

    เบนท์ลีย์ มูลินเนอร์ (Bentley Mulliner) แผนกออกแบบเฉพาะบุคคลของเบนท์ลีย์ มอเตอร์ส รังสรรค์ Batur Convertible แกรนด์ ทัวเรอร์แบบเปิดประทุนรุ่นออกแบบพิเศษคันแรกที่มีรูปลักษณ์ภายนอกอันงดงามด้วยเฉดสีเทา Opalite พร้อมกับภายในห้องโดยสารที่ตกแต่งอย่างร่วมสมัยด้วยเฉดสีดำ Beluga และการตกแต่งด้วยเฉดสีส้ม Mandarin โดยในส่วนภายในห้องโดยสารที่รังสรรค์ขึ้นอย่างพิถีพิถันด้วยความร่วมมือจากลูกค้าสะท้อนความโดดเด่นในแบบ “One Plus One” ที่ได้มีการตกแต่งด้วยเฉดสีที่ตัดกันบนเบาะโดยสารของผู้ขับขี่และผู้โดยสารแต่ยังคงความเข้ากันได้อย่างลงตัวของสองเฉดสีที่คอนทราสต์

    สมรรถนะที่เหนือชั้น

    การออกแบบของ Batur Convertible รุ่นแรกได้สะท้อนถึงสมรรถนะอันเหนือชั้นของระบบส่งกำลัง รุ่น W12 เจ้าของขุมพลังกว่า 740 แรงม้า พร้อมด้วยเฉดสีเทา-เงิน Opalite ที่แวววาวอยู่บนตัวถังตัดกับแถบแข่งในเฉดสีดำเงาที่ผนวกเข้ากับการตกแต่งด้วยแถบเฉดสีส้ม Mandarin ทั้งสองฝั่ง แถบแข่งมาพร้อมกับการลงสีพิเศษแบบฝังแน่นเข้ากับตัวถังของรถอย่างแนบเนียนจากฝากระโปรงหน้าตลอดแนวไปยังฝากระโปรงหลังต่อเนื่องไปยังส่วนท้ายบริเวณตราสัญลักษณ์ของเบนท์ลีย์ องค์ประกอบเหล่านี้เชื่อมโยงกันด้วยงานปักที่ออกแบบเฉพาะในรูปแบบเดียวกันบริเวณหลังเบาะโดยสาร และกระจังหน้าแบบเมทริกซ์อันโดดเด่นที่ตกแต่งด้วยเฉดสีดำ Beluga แบบเงา พร้อมด้วยไฮไลท์เฉดสีส้ม Mandarin พร้อมกับล้ออัลลอยด์แบบ 5 ก้านที่ได้รับการรังสรรค์ด้วยเฉดสีที่คอนเทราสต์เช่นเดียวกัน

    ภายในห้องโดยสารแบบ ‘One Plus One’

    รูปลักษณ์ภายนอกของ Batur Convertible มีกลิ่นอายความสปอร์ตและความคลาสสิกในแบบรถแข่ง ภายในห้องโดยสารยังได้รับการออกแบบที่สะท้อนสมรรถนะ ห้องโดยสารที่เน้นผู้ขับขี่ได้รับการรังสรรค์ให้แตกต่างด้วยโทนสีที่ตัดกันสองสี อันได้แก่ เฉดสีดำ Beluga สำหรับเบาะโดสารฝั่งคนขับ และเฉดสีขาว Linen สำหรับเบาะโดยสารฝั่งผู้โดยสาร

     

    เบาะโดยสารฝั่งคนขับตกแต่งด้วยหนังเฉดสีดำ Beluga Black Leather และ Alcantara พร้อมการตกแต่งด้วยลวดลาย Batur จากเบนท์ลีย์ มูลินเนอร์และแผงประตูที่มาพร้อมกับการเดินด้ายเฉดสีขาว Linen และเฉดสีส้ม Mandarin โดยมีการตกแต่งด้วยเฉดสีส้ม Mandarin บริเวณเบาะโดยสารฝั่งคนขับทอดยาวจากคอนโซลกลางตลอดแผงหน้าปัด และต่อเนื่องไปใต้ราวประตูแบบไร้รอยต่อ

     

    เบาะโดยสารแบบสปอร์ตได้รับการรังสรรค์ด้วยเฉดสีที่ตัดกันอย่างโดดเด่นโดยผนวกเข้ากับหนังเฉดสี Linen และ Alcantara พร้อมด้วยการตกแต่งด้วยเฉดสีส้ม Mandarin ลวดลายแบบ Batur และแผงประตูห้องโดยสารในเฉดสีขาว Linen ที่มีการตกแต่งด้วยการเดินด้ายในเฉดสีส้ม Mandarin แบบตัดกัน

     

    ด้านหลังเบาะโดยสารทั้ง 2 ที่นั่งมีพื้นที่เก็บสัมภาระที่ภายในได้รับการออกแบบด้วยลวดลาย Batur อันเป็นเอกลักษณ์ในเฉดสีดำ Beluga สำหรับฝั่งคนขับ และเฉดสีขาว Linen สำหรับฝั่งผู้โดยสาร โดยมีรายละเอียดต่างๆ อาทิ ซองกุญแจและเข็มขัดนิรภัยที่ได้รับการออกแบบให้เข้าชุดกัน

    รายละเอียดอันพิถีพิถัน

    รายละเอียดของ Batur Convertible เผยให้เห็นถึงความหลงใหลในรายละเอียดอันประณีตบรรจงของผู้ครอบครองที่ถ่ายทอดออกมาได้อย่างมีชีวิตชีวาด้วยฝีมืออันละเอียดอ่อนของทีมเบนท์ลีย์ มูลินเนอร์ โดยมีแผงหน้าปัดและราวข้างประตูที่ได้รับการตกแต่งอย่างประณีตด้วยเฉดสีดำด้าน พร้อมแผงคอนโซลกลางที่ตกแต่งด้วยวีเนียร์ในเฉดสีดำ Beluga เคลือบเงา และขอบหน้าปัดด้านนอกที่ทำจากวัสดุไทเทเนียมน้ำหนักเบากับการตกแต่งด้วยเฉดสีดำ Beluga

     

    พวงมาลัยตกแต่งด้วยหนังเฉดสีดำ Beluga และด้านในตกแต่งด้วยหนังเฉดสีขาว Linen พร้อมด้วยการเดินด้ายเฉดสีส้ม Mandarin ที่มากับวัสดุไทเทเนียมที่ใช้ตกแต่งแป้นเปลี่ยนเกียร์ ปุ่มควบคุมบนพวงมาลัย ปุ่มควบคุมบนคอนโซลกลาง ปุ่มควบคุมระบบปรับอากาศ และขอบวงแหวนของช่องแอร์ อีกทั้ง กาบบันไดแบบเรืองแสงยังมีการตกแต่งด้วยป้ายชื่อ Batur และหมายเลขประจำรุ่น

    สุดยอดแกรนด์ทัวเรอร์แบบเปิดประทุน

    ช่องเก็บสัมภาระด้านหลังยังเผยให้เห็นองค์ประกอบอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวอันน่าประทับใจอีกชิ้นหนึ่งด้วยชุดกระเป๋าเดินทางสองชิ้นที่ออกแบบขึ้นเป็นพิเศษในเฉดสีดำ Beluga ที่เข้ากันกับโทนสีของผู้ขับขี่ และอีกชิ้นมาในเฉดสีขาว Linen ที่เข้ากันกับผู้โดยสาร พร้อมกับซองใส่กุญแจสองชิ้นที่ออกแบบขึ้นเป็นพิเศษในสองเฉดสีเช่นเดียวกับกระเป๋นเดินทาง

     

    Batur Convertible ในงาน Monterey Week

    Batur Convertible Car Zero ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการในงาน Goodwood Festival of Speed ที่ผ่านมา และยังได้ร่วมเผยโฉมในงาน Monterey Car Week ที่ตัวรถมาในเฉดสี Vermilion Gloss over Vermillion Satin

     

    การรังสรรค์ยนตรกรรมรุ่นออกแบบพิเศษ

    Batur Convertible รังสรรค์ขึ้นโดยเบนท์ลีย์ มูลินเนอร์ แผนกออกแบบเฉพาะบุคคลของเบนท์ลีย์ มอเตอร์ส และถือเป็นผู้ผลิตตัวถังรถยนต์ที่ดำเนินกิจการมายาวนานที่สุดในโลก โดย Batur Convertible เป็นรถยนต์รุ่นที่ 3 ในตระกูล Coachbuilt ของเบนท์ลีย์ มูลินเนอร์หลังจากรุ่น Bacalar Barchetta และ Batur Coupé

     

    Batur Convertible ผลิตขึ้นจำนวนจำกัด โดยมาพร้อมกับขุมพลังเครื่องยนต์รุ่น W12 ขนาด 6.0 ลิตร 740 แรงม้าในตำนานของเบนท์ลีย์ที่ทรงพลังที่สุด

     

    ทีมออกแบบภายในของเบนท์ลีย์ มูลินเนอร์ ร่วมรังสรรค์ Batur Convertible ทุกคันร่วมกับลูกค้าผ่าน Visualizer ที่คิดค้นขึ้นเป็นพิเศษเพื่อช่วยในการปรับแต่งสีและพื้นผิวของตัวรถเพื่อให้สะท้อนเอกลักษณ์เฉพาะตัวของผู้ครอบครองให้ได้ดีที่สุด

     

    ผู้สนใจครอบครองรถยนต์เบนท์ลีย์กับการออกแบบยนตรกรรมในฝันให้มีเอกลักษณ์เฉพาะบุคคลสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมและรับข้อเสนอพิเศษได้ที่ เบนท์ลีย์ แบงค็อก โดย บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์เบนท์ลีย์อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย โทร. 080-925-9999 หรือ 02-261-1050 LINE Official Account: @bentleybangkokaas คลิก https://lin.ee/4JOaZyE8V


    ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย

    Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
    Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
    Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
    instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
    Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
    Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
    Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine


    No Comment
  • ‘มิชลิน’ คว้า 5 รางวัลอันทรงเกียรติจากเวที HR Asia Awards ประจำปี 2568 ชูทรัพยากรบุคคลเป็นหนึ่งในหัวใจสำคัญภายใต้วิสัยทัศน์ “ความยั่งยืนทุกด้าน”

    1 Min Read

    มิชลินคว้า 5 รางวัลอันทรงเกียรติจากเวที HR Asia Awards ประจำปี 2568 ชูทรัพยากรบุคคลเป็นหนึ่งในหัวใจสำคัญภายใต้วิสัยทัศน์ ความยั่งยืนทุกด้าน

     

    ล่าสุด ในงานประกาศรางวัล HR Asia Awards ประจำปี 2568 นอกจากมิชลินจะได้รับรางวัล “สุดยอดองค์กรดีเด่นที่น่าทำงานมากที่สุดในเอเชีย” (HR Asia Best Companies to Work for in Asia) ซึ่งได้รับติดต่อกันเป็นปีที่ 4, รางวัล “องค์กรที่โดดเด่นด้านการสนับสนุนความหลากหลาย ความเท่าเทียม และการยอมรับความแตกต่าง” (HR Asia Diversity, Equity & Inclusion Award) ซึ่งได้รับติดต่อกันเป็นปีที่ 3 รวมถึงรางวัล “องค์กรที่โดดเด่นด้านความเป็นเลิศในการดูแลเอาใจใส่พนักงาน” (HR Asia Most Caring Company Awards) และ “องค์กรที่โดดเด่นด้านการส่งเสริมความยั่งยืนในสถานที่ทำงาน” (HR Asia Sustainable Workplace Awards) ซึ่งได้รับติดต่อกันเป็นปีที่ 2 แล้ว มิชลินยังประเดิมได้รับรางวัล ‘องค์กรที่โดดเด่นด้านการนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้เพื่อพัฒนาทรัพยากรบุคคลและเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน’ (HR Asia Tech Empowerment Awards) ซึ่งเปิดตัวในปีนี้เป็นปีแรกด้วย

     

    HR Asia Awards เป็นรางวัลระดับนานาชาติอันทรงเกียรติซึ่งจัดขึ้นเป็นประจำทุกปีโดย HR Asia นิตยสารชั้นนำด้านการบริหารทรัพยากรบุคคลที่ได้รับการยอมรับในภูมิภาคเอเชีย เพื่อมอบให้องค์กรที่มีความเป็นเลิศด้านการบริหารทรัพยากรบุคคล การสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่ยอดเยี่ยม และการส่งเสริมการมีส่วนร่วมของพนักงาน รวมถึงองค์กรที่ดำเนินงานโดดเด่นเป็นพิเศษในด้านต่าง ๆ สำหรับการพิจารณาองค์กรที่ได้รับรางวัลมีกระบวนการประเมินที่เข้มงวด เป็นกลาง และโปร่งใสตามมาตรฐานสากล ซึ่งครอบคลุมการวิจัยอิสระเกี่ยวกับชื่อเสียงและสภาพแวดล้อมการทำงาน การทำแบบสำรวจกับพนักงานเพื่อประเมินความผูกพันต่อองค์กร รวมถึงการสัมภาษณ์คณะกรรมการบริษัทและทีมผู้เชี่ยวชาญ โดยในปีนี้มีองค์กรเข้ารับการคัดเลือกกว่า 300 แห่ง จากภูมิภาคเอเชีย

     

    นางปาริชาติ ประจันพาณิชย์ ผู้อำนวยการฝ่ายทรัพยากรบุคคล บริษัท สยามมิชลิน จำกัด เปิดเผยว่า “ภายใต้วิสัยทัศน์ ความยั่งยืนทุกด้านของมิชลิน พนักงานคือหัวใจสำคัญ เราไม่เพียงสร้างสภาพแวดล้อมและวัฒนธรรมองค์กรที่ดีในหลายมิติ ทั้งการทำงานเป็นทีมและการเคารพความหลากหลาย ความเท่าเทียม และความแตกต่าง แต่ยังใส่ใจดูแลพนักงานอย่างรอบด้านเพื่อสร้างประสบการณ์การทำงานที่ดี ซึ่งเป็นพื้นฐานของความผูกพันและความพึงพอใจต่อองค์กร โดยมุ่งส่งเสริมให้พนักงานพัฒนาศักยภาพอย่างต่อเนื่องเพื่อรับมือกับความเปลี่ยนแปลง ตลอดจนมีบทบาทในการขับเคลื่อนอนาคตที่ยั่งยืนของตนเอง, องค์กร, ชุมชน, เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อม ทั้ง 5 รางวัลที่มิชลินได้รับในปีนี้เป็นเครื่องยืนยันถึงความมุ่งมั่นและวัฒนธรรมองค์กรที่มิชลินยึดมั่นเป็นแนวทางปฏิบัติ      มาโดยตลอด ทั้งยังเป็นกำลังใจให้เราเดินหน้าสร้างสรรค์มิชลินให้เป็นองค์กรที่ทุกคนอยากร่วมงานและภาคภูมิใจ

     

    สำหรับรางวัล “สุดยอดองค์กรดีเด่นที่น่าทำงานมากที่สุดในเอเชีย” เป็นรางวัลหลักซึ่งมอบให้เพื่อยกย่ององค์กรที่มีความเป็นเลิศด้านการบริหารทรัพยากรบุคคล การส่งเสริมการมีส่วนร่วมของพนักงาน ตลอดจนการสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานและวัฒนธรรมองค์กรที่ดี โดยมิชลินได้รับรางวัลนี้ถึง 4 ปีซ้อน ตอกย้ำความสำเร็จของแนวทางปฏิบัติและการบริหารทรัพยากรบุคคลอย่างยั่งยืนภายใต้วิสัยทัศน์สู่อนาคตที่องค์กรกำหนด

     

    รางวัล “องค์กรที่โดดเด่นด้านการสนับสนุนความหลากหลาย ความเท่าเทียม และการยอมรับความแตกต่าง” เป็นรางวัลพิเศษซึ่งมอบให้กับองค์กรที่มีนโยบายส่งเสริมความหลากหลาย ความเท่าเทียม และการยอมรับความแตกต่างระหว่างบุคคลภายในองค์กร โดยไม่คำนึงถึงเชื้อชาติ, เพศ, ความสามารถทางกายภาพ, ความต้องการพิเศษทางการแพทย์ ฯลฯ  มิชลินได้รับรางวัลนี้ติดต่อกันเป็นปีที่ 3 จากการนำแนวคิด “ความหลากหลายคือพลังขับเคลื่อนความสร้างสรรค์ ความเท่าเทียม และการเติบโตขององค์กรอย่างยั่งยืน” (Diversity Is Our Superpower) มาปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อสร้างพื้นที่การทำงานที่ทุกคนได้เป็นตัวของตัวเอง ได้รับการรับฟังและยอมรับอย่างเท่าเทียม และการเปิดโอกาสให้  ทุกคนได้เติบโตไปด้วยกัน

     

    รางวัล “องค์กรที่โดดเด่นด้านความเป็นเลิศในการดูแลเอาใจใส่พนักงาน” เป็นรางวัลพิเศษซึ่งมอบให้กับองค์กรที่มุ่งมั่นสร้างสภาพแวดล้อม ประสบการณ์การทำงาน และคุณภาพชีวิตที่ยอดเยี่ยมให้แก่พนักงาน พร้อมทั้งสร้างคุณค่าและความสุขในการทำงานภายใต้วัฒนธรรมแห่งการเกื้อกูลกัน  โดย      มิชลินได้รับรางวัลนี้ติดต่อกันเป็นปีที่ 2 จากการทุ่มเทใส่ใจพัฒนาศักยภาพพนักงาน, การให้ความสำคัญกับสุขภาพกายและใจที่ดี, การมีความยืดหยุ่นในการทำงาน (เปิดโอกาสให้พนักงานจัดเวลาเพื่อทำงานจากบ้าน) และการสร้างประสบการณ์ทำงานโดยรวมที่ดี

     

    รางวัล “องค์กรที่โดดเด่นด้านการส่งเสริมความยั่งยืนในสถานที่ทำงาน” เป็นรางวัลพิเศษซึ่งมอบให้กับองค์กรที่เป็นผู้นำขับเคลื่อนวัฒนธรรมเพื่อความยั่งยืนและแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน โดยถือหลักความรับผิดชอบต่อผู้คน ชุมชน สังคม และสิ่งแวดล้อม โดยมิชลินได้รับรางวัลนี้ติดต่อกันเป็นปีที่ 2 จากการวางแผนและกำหนดทิศทางการดำเนินงานอย่างยั่งยืนในระยะยาวถึงปี 2593 ภายใต้วิสัยทัศน์ Dream In 2050 ที่ให้ความสำคัญกับความสมดุลระหว่างความสำเร็จส่วนบุคคล การเติบโตทางเศรษฐกิจ และการใส่ใจในสิ่งแวดล้อม

     

    และรางวัลพิเศษที่เปิดตัวครั้งแรกในปีนี้ ‘องค์กรที่โดดเด่นด้านการนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้เพื่อพัฒนาทรัพยากรบุคคลและเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน’ ซึ่งมอบให้กับองค์กรที่นำเทคโนโลยีมาใช้ในสถานที่ทำงานเพื่อเสริมสร้างประสบการณ์การทำงานที่ดีให้กับพนักงาน รวมทั้งขับเคลื่อนประสิทธิภาพและความเป็นเลิศในการปฏิบัติงาน โดยมิชลินประเดิมรับรางวัลนี้จากการนำเทคโนโลยีและเครื่องมือดิจิทัลมาใช้เสริมสร้างประสบการณ์การทำงาน อาทิ แพลตฟอร์มดิจิทัล P Connect ที่ช่วยให้พนักงานเข้าถึงข้อมูลด้านสวัสดิการและสิทธิประโยชน์ของตนเองได้อย่างสะดวกรวดเร็ว, Chat Bot สำหรับตอบคำถามและข้อสงสัยของพนักงาน รวมถึงการจัดทำพอร์ทัลดิจิทัลเพื่อการเรียนรู้และพัฒนาบุคลากร โดยเน้นยกระดับทักษะเดิมและเสริมสร้างทักษะใหม่ด้านดิจิทัลและเทคโนโลยีให้กับพนักงานเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน

     

    นางปาริชาติ ยังได้กล่าวเสริมว่า “ในยุคปัจจุบัน การเข้ามาของเทคโนโลยี AI ทำให้โลกของการทำงานเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว เราจึงส่งเสริมให้พนักงานไม่หยุดเรียนรู้และพัฒนาตนเองเพื่อให้มีทักษะและความพร้อมปรับตัวสู่อนาคต ในขณะเดียวกันยังสร้างระบบการทำงานที่ส่งเสริมพลังบวกและตอบโจทย์การใช้ชีวิตทุกด้านของพนักงาน โดยมุ่งพัฒนาความก้าวหน้าในการทำงานและความเป็นอยู่ที่ดีควบคู่กันไปอย่างสมดุล เพื่อดึงดูดบุคลากรที่มีศักยภาพ ตลอดจนเพื่อให้พนักงานทุกคนเติบโตอย่างยั่งยืนไปพร้อมกับองค์กร


    ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย

    Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
    Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
    Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
    instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
    Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
    Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
    Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine


    No Comment
  • ไทยฮอนด้า พาอัพสกิลสายลุย เปิดประสบการณ์ขับขี่สุดท้าทาย ณ จ.ขอนแก่น ในกิจกรรม ‘DIRT Xperience 2025 R.2’

    1 Min Read

    ไทยฮอนด้า พาอัพสกิลสายลุย เปิดประสบการณ์ขับขี่สุดท้าทาย ณ จ.ขอนแก่น ในกิจกรรม ‘DIRT Xperience 2025 R.2’

    ฮอนด้าบิ๊กไบค์ จัดเต็มอีกครั้งกับกิจกรรม “DIRT Xperience 2025 R.2” พาไบค์เกอร์สายลุย และ ชาว CUB House เปิดประสบการณ์การขับขี่ทางฝุ่นสุดเร้าใจ ณ ภูคำแคมป์ปิ้ง อำเภออุบลรัตน์ จังหวัดขอนแก่น ตั้งแต่วันที่ 20-21 กันยายน 2568 ที่ผ่านมา โดยในครั้งนี้ มีการจัดติวพื้นฐานการขับขี่โดยครูฝึกมากประสบการณ์จาก Honda Safety Riding รวมถึงโอกาสได้ใกล้ชิด ฝึกอัพสกิลแบบเข้มข้นจากอดีตนักแข่งระดับโปรเพลย์เยอร์

    ภายในงานครั้งนี้ เต็มไปด้วยความคึกคักจากเหล่ารถจักรยานยนต์สายลุย ทั้งสาย Adventure และ Enduro ที่ขนโมเดลยอดนิยมมาให้สัมผัสอย่างพร้อมเพรียง กลุ่มแอดเวนเจอร์ยกทัพมาทั้ง Honda CRF1100L, CRF1000L, XL750, X-ADV, NC750X, CB500X และ NX500 ส่วนฝั่ง Enduro ก็ไม่น้อยหน้า ด้วยไลน์อัปตระกูล CRF Series ครบครัน ทั้ง CRF450L, CRF300L, CRF250L, CRF300 RALLY และ CRF250 RALLY โดยผู้เข้าร่วมจะได้ทดลองขี่บนเส้นทางธรรมชาติสุดเร้าใจ เพื่อเพิ่มประสบการณ์การขับขี่แนวแอดเวนเจอร์อย่างแท้จริง

    และสำหรับชาว CUB House ที่พารถจักรยานยนต์คู่ใจมาร่วมลุยอย่าง Honda CT125 รถสายเทรลรุ่นฮิตมาเติมสีสันให้กับการผจญภัยในงาน DIRT Xperience 2025 นับเป็นการเปิดโอกาสให้กลุ่มผู้ขับขี่สาย CUB House ได้สัมผัสประสบการณ์ออฟโรดอย่างเต็มรูปแบบ จึงนับเป็นก้าวสำคัญของการต่อยอดคอมมูนิตี้สาย CUB House ให้ก้าวสู่โลกการขับขี่แอดเวนเจอร์อย่างมั่นใจ พร้อมสร้างประสบการณ์ใหม่ที่สนุกสนาน ปลอดภัย และอัดแน่นด้วยการเรียนรู้ในทุกช่วงการขับขี่

    ภายในกิจกรรม มีการแบ่งผู้เข้าร่วมออกเป็น 2 กลุ่ม คือ Rookie สำหรับนักบิดสายเริ่มต้น และ Experience สำหรับผู้ที่มีพื้นฐานและทักษะมาก่อน โดยทุกคนจะได้ฝึกฝนทักษะจากครูฝึกอย่างใกล้ชิดในสนาม ก่อนออกไปทดสอบจริงบนเส้นทางธรรมชาติ

    โดยเส้นทางในครั้งนี้ มีการเพิ่มอุปสรรคที่หลากหลายมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการลุยป่าทึบที่เต็มไปด้วยต้นไม้และกอไผ่ การฝ่าดินโคลนลึกที่มีน้ำขังเป็นช่วง ๆ ซึ่งต้องอาศัยทักษะการควบคุมรถและการทรงตัว นอกจากนี้ยังมีอุปสรรคอื่น ๆ เช่น การขับบนร่องลึก ขอนไม้ และการข้ามทางน้ำ ที่ท้าทายทั้งร่างกายและทักษะของผู้ขับขี่ มอบความมันส์ สะใจ ให้กับผู้เข้าร่วมเป็นอย่างมาก

    นอกจากนี้ ฮอนด้าบิ๊กไบค์ ยังมีกิจกรรม “All in Xperience ออลทุกค่าย อินทุกแพสชัน” ชวนผู้ขับขี่จากทุกค่าย ทุกรุ่น ทุกระดับ เข้าร่วมสัมผัสประสบการณ์สุดเอ็กซ์คลูซีฟในทุกกิจกรรมจากฮอนด้าบิ๊กไบค์ พร้อมรับสิทธิพิเศษในการเลือกเช่ารถ ฮอนด้าบิ๊กไบค์ กับ Moto Package สำหรับกิจกรรมสุดเอ็กซ์คลูซีฟตลอดทั้งปี

     

    สำหรับผู้ที่สนใจสามารถติดตามรายละเอียดกิจกรรมครั้งถัดไปได้ที่

    เว็บไซต์ : https://bit.ly/thaihondabigbike

    เฟซบุ๊กรถจักรยานยนต์ฮอนด้า : www.facebook.com/hondamotorcyclethailand/

    เฟซบุ๊กฮอนด้าบิ๊กไบค์ : www.facebook.com/HondaBigBikeTH/

    My Honda Moto App

    iOS : https://bitly.cx/W8of

    Android : https://bitly.cx/qTKBZ

     

    #DIRTXPERIENCE #HondaBigBike #HondaBigBikeThailand #ExcitesTheWorld

    #รถจักรยานยนต์ฮอนด้า #มอเตอร์ไซค์ฮอนด้า #HondaMotorcycle #ThaiHonda #ไทยฮอนด้า #HowWeMoveYou #CUBHouse #CUBHousebyHonda


    ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย

    Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
    Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
    Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
    instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
    Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
    Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
    Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine


    No Comment
  • Benz BKK Group ฉลองก้าวขึ้นแท่นผู้นำกลุ่มตัวแทนจำหน่าย ครองแชมป์ยอดขายพร้อมจัดกิจกรรมสุดพิเศษแห่งปีแทนคำขอบคุณไม่สิ้นสุด “Benz BKK Group: The Endless Appreciation Concert”

    1 Min Read

    Benz BKK Group  ฉลองก้าวขึ้นแท่นผู้นำกลุ่มตัวแทนจำหน่าย ครองแชมป์ยอดขายพร้อมจัดกิจกรรมสุดพิเศษแห่งปีแทนคำขอบคุณไม่สิ้นสุด  “Benz BKK Group: The Endless Appreciation Concert”

    กลุ่มบริษัท เบนซ์ บีเคเค กรุ๊ป จำกัด  ผู้แทนจำหน่ายและศูนย์บริการรถยนต์ Mercedes-Benz อย่างเป็นทางการ  แถลงผลการดำเนินธุรกิจในช่วง 3 ไตรมาสของปี 2568 พร้อมประกาศความสำเร็จขึ้นแท่นผู้นำดีลเลอร์กรุ๊ปด้วยยอดขายรวม 932 คัน ถือเป็นกลุ่มตัวแทนจำหน่ายที่สร้างผลงานได้ยอดเยี่ยมที่สุดจาก 3 โชว์รูม 3 มุมเมือง ครอบคลุมพื้นที่ทั่วกรุงเทพมหานคร โดย Benz BKK Bangna ครอบคลุมพื้นที่ฝั่งตะวันออก Benz BKK Vipawadee ครอบคลุมพื้นที่ตอนเหนือ และ BKK Autohaus Kanchanapisek ครอบคลุมพื้นที่ฝั่งตะวันตก

    สำหรับผลประกอบการธุรกิจตั้งแต่เดือนมกราคมจนถึง 31 สิงหาคม 2568 แม้จะต้องเผชิญกับความท้าทายด้านเศรษฐกิจและการแข่งขันที่เข้มข้นในตลาดรถยนต์ลักชัวรี กลุ่ม Benz BKK Group ยังคงสร้างผลลัพธ์ที่แข็งแกร่งด้วยยอดขายรวม  932 คัน โดยมียอดจำหน่ายรถยนต์ Mercedes-Benz จำนวน 621 คัน หรือคิดเป็นส่วนแบ่งตลาด (Market Share) ที่ 15.62% และ Mercedes-Benz Certified รถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์มือสอง จำนวน  311 คัน  ซึ่งมีอัตราการเติบโตเทียบปีที่ผ่านมาเพิ่มขึ้น  32% ก้าวขึ้นแท่นผู้นำกลุ่มตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ

    โดยภาพรวมส่วนของรถยนต์ใหม่ (New Car) ยังคงตอบโจทย์ลูกค้าทุกเซกเมนต์ ทั้งกลุ่มรถสปอร์ต รถอเนกประสงค์ (SUV) รวมถึงไลน์รถยนต์ไฟฟ้า (EQ) ที่นับเป็นกลุ่มเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทำให้ช่วยขยายฐานลูกค้าและถือเป็นหัวใจของการเสริมพอร์ตสินค้าระยะยาว ในขณะเดียวกัน Mercedes-Benz Certified ได้รับการตอบรับอย่างดีจากตลาดด้วยเช่นกันด้วยข้อเปรียบเทียบเชิงโครงสร้างที่ชัดเจน ทั้งพื้นที่โชว์รูมและขนาดการลงทุนที่ใหญ่ที่สุด  ตอบโจทย์ลูกค้าด้วยโชว์รูม Experience Center แบบครบวงจร มีรถให้เลือกครบทุกเซกเมนต์หมุนเวียนกว่า 150 คัน  รวมถึงรถทุกคันผ่านการตรวจเช็กแบบ Multi-point มากกว่า 200 รายการ รองรับบริการหลังการขายและการรับประกันคุณภาพที่มาพร้อมโปรแกรมสินเชื่อเฉพาะบุคคล    และบริการซื้อ-ขายแบบเอ็กซ์คลูซีฟ ทำให้รถยนต์ Mercedes-Benz Certified กลายเป็น “ตัวเลือกที่คุ้มค่า และเชื่อถือได้สำหรับลูกค้าที่มองหารถยนต์พรีเมียมพร้อมใช้งานในงบประมาณที่คุ้มค่า ซึ่งการตอบรับเห็นได้จากงาน BIG Motor Sale 2025 และช่องทางขายอื่นๆ ที่ยืนยันถึงศักยภาพของไลน์ Mercedes-Benz Certified ในการสร้างรายได้และขยายฐานลูกค้าอย่างมีนัยสำคัญ

     

    ด้านแผนการดำเนินธุรกิจไตรมาสสุดท้ายของปี 2568 ทาง Benz BKK Group ยังคงเสริมทัพรถยนต์ Mercedes-Benz ครอบคลุมทุกเซกเมนต์ รวมถึงรถยนต์ไฟฟ้าและรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์มือสอง  เพื่อตอบโจทย์ทุกความต้องการที่หลากหลาย  พร้อมมุ่งเน้นกลยุทธ์ Customer Centric เป็นการสร้างและรักษาความสัมพันธ์กับลูกค้าในระยะยาว ด้วยการให้ความสำคัญกับลูกค้าเป็นที่สุด มอบประสบการณ์การดูแลรถยนต์และการรองรับบริการที่เหนือระดับ เพราะลูกค้าคือคนพิเศษ ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญที่ทำให้ Benz BKK Group ประสบความสำเร็จมาอย่างต่อเนื่อง พร้อมยกระดับ CRM (Customer Relationship Management) แบบ 360 องศา เพื่อเข้าถึง เข้าใจ และตอบสนองความต้องการของลูกค้าและความพึงพอใจอย่างสูงสุด   ควบคู่ไปกับการสร้าง Brand Experience ผ่านกิจกรรม Lifestyle & Entertainment สร้างการมีส่วนร่วมกับลูกค้าผ่านกิจกรรมที่เข้าถึงไลฟ์สไตล์ มอบประสบการณ์สุดเอ็กซ์คลูซีฟให้กับลูกค้าในทุกมิติครอบคลุมกลุ่มลูกค้าทุกเจนเนอเรชัน  Benz BKK Group จึงได้จัดกิจกรรมสุดพิเศษแห่งปีแทนความขอบคุณไม่สิ้นสุด

    สำหรับกิจกรรมพิเศษแห่งปี Benz BKK Group : The Endless Appreciation Concert” แทนความขอบคุณที่ไม่สิ้นสุดบนการเดินทางแห่งเสียงดนตรีและความซาบซึ้งใจ คือการถ่ายทอดความผูกพันอันยาวนานระหว่าง Benz BKK Group และลูกค้า ที่ไม่ใช่เพียงความสัมพันธ์ทางธุรกิจ แต่เป็นการเดินทางร่วมกันบนถนนแห่งความเชื่อมั่น ความไว้วางใจ และความทรงจำที่งดงามตลอดหลายทศวรรษ ไฮไลต์สำคัญครั้งนี้จะเป็นการรวมกันครั้งสำคัญของลูกค้าคนพิเศษของ Benz BKK กว่า 5,200 คน ของกลุ่ม Gen X และ Gen Y  

    คุณอนุพล ลิขิตพฤกษ์ไพศาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารยานยนต์กลุ่ม บีเคเค กรุ๊ป กล่าวว่า กว่า 34 ปีที่เราอยู่เคียงข้างลูกค้า Mercedes-Benz วันนี้ Benz BKK Group ก้าวขึ้นเป็นผู้นำตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการได้ด้วยพลังศรัทธาและการสนับสนุนของลูกค้าทุกท่าน เรามุ่งมั่นที่จะพัฒนาทั้งยอดขาย บริการ และประสบการณ์ เพื่อส่งต่อสิ่งที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าในทุกเส้นทาง”

    คุณตวงรัตน์ ลิขิตพฤกษ์ กรรมการผู้จัดการบริษัท เบนซ์ บีเคเค กรุ๊ป กล่าวเสริมว่า “กลยุทธ์หลักของเราในไตรมาสที่ 4 คือการเดินหน้าทำการตลาดอย่างต่อเนื่อง เชื่อมต่อกับลูกค้าในทุกมิติ ทั้ง Online Marketing ที่เข้าถึงแบบ Personalized และ กิจกรรม Offline ที่สร้างประสบการณ์จริง เพื่อรักษาฐานลูกค้าเดิมให้แข็งแกร่ง พร้อมทั้งมุ่งดึงลูกค้า Lapsed Customer ให้กลับมาใช้บริการ โดยใช้ CRM ที่แม่นยำ และกิจกรรมการตลาดเชิงประสบการณ์ (Lifestyle & Engagement Marketing) เป็นเครื่องมือสำคัญ เราเชื่อว่าความสำเร็จของ Benz BKK Group ไม่ได้เกิดขึ้นเพียงเพราะยอดขาย แต่เกิดจากความไว้วางใจที่ลูกค้ามอบให้ และภารกิจของเราคือการสร้างความสัมพันธ์ระยะยาวที่ยั่งยืน เพื่อก้าวไปสู่อนาคตร่วมกัน

     

    ไฮไลต์กิจกรรมพิเศษแห่งปี “Benz BKK Group : The Endless Appreciation Concert” นำทีมโดยสุดยอดศิลปินระดับแนวหน้ามากมาย อาทิ ปาล์มมี่, นูโว, บอย Peacemaker, กบ Taxi, ปู Blackhead และอี๊ด FLY  โดยแต่ละบทเพลงและการแสดงจะเปรียบเสมือน “ช่วงเวลา” ของเส้นทางร่วมกัน ตั้งแต่วันแรกจนถึงก้าวสู่อนาคต  พร้อมจัดเต็มด้วยระบบแสง สี เสียง ย่านกลางใจเมือง ในวันอาทิตย์ที่ 2 พฤศจิกายน 2568 ณ  UOB Live ศูนย์การค้า EmSphere  พิเศษ!! สำหรับลูกค้า Benz BKK Group  เท่านั้น กิจกรรมสุดพิเศษนี้ ไม่ใช่เป็นเพียงแค่คอนเสิร์ต แต่คือบทพิสูจน์แห่งความใส่ใจที่ Benz BKK Group มอบให้ลูกค้าเสมอมา  


    ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย

    Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
    Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
    Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
    instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
    Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
    Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
    Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine


    No Comment
  • ฮอนด้า เผยไฮไลต์การจัดแสดง ณ งาน Japan Mobility Show 2025 นำโดยผลิตภัณฑ์หลัก 4 รุ่น ที่เตรียมเผยโฉมครั้งแรกในโลก พร้อมด้วยรถยนต์ต้นแบบรุ่นใหม่จาก Honda 0 Series

    2 Min Read

    ฮอนด้า เผยไฮไลต์การจัดแสดง ณ งาน Japan Mobility Show 2025 นำโดยผลิตภัณฑ์หลัก 4 รุ่น ที่เตรียมเผยโฉมครั้งแรกในโลก พร้อมด้วยรถยนต์ต้นแบบรุ่นใหม่จาก Honda 0 Series

    บริษัท ฮอนด้า มอเตอร์ จำกัด ประกาศไลน์อัปผลิตภัณฑ์ที่เตรียมจัดแสดงในงาน Japan Mobility Show 2025 โดยครอบคลุมทั้ง รถยนต์ รถจักรยานยนต์ เครื่องยนต์อเนกประสงค์ (Power Products) อากาศยาน รวมถึงผลิตภัณฑ์ต่างๆ ตลอดจนเทคโนโลยีและรถต้นแบบต่าง ๆ

    (รอบสื่อมวลชน วันที่ 29 – 30 ตุลาคม 2568 และรอบบุคคลทั่วไป วันที่ 31 ตุลาคม – 9 พฤศจิกายน 2568)

    จากการเผยข้อมูลเบื้องต้นไปเมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2568 ที่ผ่านมา ล่าสุด ฮอนด้าได้ประกาศไลน์อัปผลิตภัณฑ์ที่จะนำมาจัดแสดงที่บูทฮอนด้า ในงาน Japan Mobility Show 2025 รวมถึงข้อมูลเบื้องต้นของผลิตภัณฑ์ที่เตรียมเผยโฉมครั้งแรกในโลก โดยรายละเอียดทั้งหมดจะประกาศอย่างเป็นทางการในวันที่ 29 ตุลาคม 2568 ซึ่งเป็นวันแรกของรอบสื่อมวลชน

    <ภาพรวมของบูทฮอนด้า>

    จัดแสดงผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีแห่งการขับเคลื่อนทุกมิติ ทั้งทางบก ทางน้ำ และทางอากาศ ที่สร้างสรรค์จากพลังแห่งความฝันของฮอนด้า

     

    นับตั้งแต่ก่อตั้ง ฮอนด้าขับเคลื่อนด้วยพลังแห่งความฝันของพนักงาน โดยใช้ความคิดและเทคโนโลยีที่เป็นเอกลักษณ์ของฮอนด้าในการพัฒนาและสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยี ในฐานะบริษัทผู้นำด้านเทคโนโลยีแห่งการขับเคลื่อน ฮอนด้าจึงไม่หยุดยั้งที่จะสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ เพื่อเพิ่มพูน (Augment) ศักยภาพและความเป็นไปได้ของผู้คนและสังคมผ่านผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีแห่งการขับเคลื่อน รวมถึงบริการต่างๆ ของฮอนด้า

    ในงาน Japan Mobility Show 2025 ฮอนด้าเตรียมจัดแสดงผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีแห่งการขับเคลื่อนที่หลากหลาย ทั้งทางบก ได้แก่ รถยนต์และรถจักรยานยนต์ รวมถึงยานยนต์ทางทะเลและทางอากาศ ซึ่งสะท้อนความฝันที่กลายเป็นจริงด้วยการใช้เทคโนโลยีอันล้ำสมัยล่าสุด

    เว็บไซต์พิเศษของฮอนด้าสำหรับงาน Japan Mobility Show 2025:

    http://global.honda/en/japan-mobility-show/2025/

    รถยนต์ต้นแบบที่จะนำมาจัดแสดง

    รถยนต์ต้นแบบรุ่นใหม่ภายใต้ Honda 0 Series (เปิดตัวครั้งแรกในโลก)

    ฮอนด้าเตรียมจัดแสดงรถต้นแบบ SUV รุ่นใหม่ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของไลน์อัป Honda 0 Series เป็นครั้งแรกในโลก เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้คนได้สัมผัสถึงคุณค่าของ Honda 0 Series ได้มากยิ่งขึ้น

    รถยนต์ต้นแบบ Compact EV (เปิดตัวครั้งแรกในโลก)

    ฮอนด้าเตรียมจัดแสดงรถยนต์ไฟฟ้าต้นแบบ Compact EV ที่ได้รับการพัฒนาเพื่อมอบประสบการณ์ “ความสนุกในการขับขี่” หรือ “Fun of driving” อันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของฮอนด้า โดยผสานการใช้งานที่ดีเยี่ยมเข้ากับ “ความสุขในการขับขี่” หรือ “Joy of driving” ได้อย่างลงตัว โดยรถต้นแบบรุ่นนี้จะสะท้อนให้เห็นถึงจิตวิญญาณความสนุกสนานของฮอนด้า ที่พร้อมสร้างความตื่นเต้นและประสบการณ์ใหม่ ๆ เพื่อเป็นแรงบันดาลใจในการใช้ชีวิตประจำวันให้แก่ลูกค้า ปัจจุบัน รถต้นแบบรุ่นนี้กำลังอยู่ระหว่างการทดสอบจริงในหลายประเทศที่มีความต้องการรถยนต์ไฟฟ้าขนาด Compact สูง เช่น ญี่ปุ่น อังกฤษ และประเทศในเอเชีย เพื่อให้มั่นใจว่ารถคันนี้จะเป็นรถที่สามารถส่งมอบประสบการณ์การขับขี่ได้อย่างสนุกสนาน ตามความมุ่งมั่นของฮอนด้า

    รถจักรยานยนต์ไฟฟ้าต้นแบบ (เปิดตัวครั้งแรกในโลก)

    ฮอนด้าเตรียมเผยโฉมรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าต้นแบบเป็นครั้งแรกในโลก ซึ่งได้รับการพัฒนาด้วยแนวคิดใหม่ ที่ท้าทายและก้าวข้ามกรอบความคิดแบบเดิม ๆ เพื่อส่งมอบ ความตื่นเต้น และประสบการณ์การขับขี่รูปแบบใหม่ที่เหนือความคาดหมายให้แก่ลูกค้า

    รถจักรยานไฟฟ้าต้นแบบ Honda e-MTB (เปิดตัวครั้งแรกในโลก)

    ต่อเนื่องจากการจัดแสดงรถจักรยานคอนเซปต์ในปี 2563 ครั้งนี้ ฮอนด้าเตรียมเผยโฉมเป็นครั้งแรกในโลก กับHonda e-MTB รถจักรยานเสือภูเขาไฟฟ้าระดับไฮเอนด์ ซึ่งเป็นรุ่นที่วางแผนจะผลิตจริง มาพร้อมฟังก์ชันช่วยขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า ซึ่งได้รับการพัฒนาภายใต้แนวคิด “Ride Natural, Reach New Peaks” เพื่อมอบประสบการณ์การขับขี่ที่เป็นธรรมชาติ สู่จุดหมายใหม่ที่ท้าทายยิ่งขึ้น

    Sustainable Rocket

    ฮอนด้าเตรียมจัดแสดงโมเดลต้นแบบของ Sustainable Rocket ซึ่งประสบความสำเร็จในการทดสอบปล่อยและลงจอด ณ เมืองไทกิ จังหวัดฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น เมื่อเดือนมิถุนายน 2568 ที่ผ่านมา โดยจรวดรุ่นนี้ได้รับการพัฒนาภายใต้เป้าหมายเพื่อขับเคลื่อนสู่ สังคมเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon-neutral society) ด้วยการผสานเทคโนโลยีที่สามารถนำจรวดกลับมาใช้ซ้ำ รวมถึงการใช้เชื้อเพลิงแบบหมุนเวียนได้ นับเป็นอีกหนึ่งความท้าทายของฮอนด้าในการขยายขอบเขตจากพื้นโลกไปสู่ห้วงอวกาศ

    All-new Honda Prelude

    (รุ่นผลิตจริง และเริ่มวางจำหน่ายในประเทศญี่ปุ่น ตั้งแต่วันที่ 5 กันยายน 2568)

    Honda Prelude ใหม่ มาพร้อมระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด e:HEV เจเนอเรชันใหม่ ซึ่งเป็นเทคโนโลยีไฮบริดเฉพาะของฮอนด้าที่ได้รับการพัฒนาให้ก้าวล้ำไปอีกขั้น โดย Honda Prelude ใหม่ เปรียบเสมือนเป็น “บทนำ” (Prelude) สำหรับรถสปอร์ตเฉพาะทางระดับพรีเมียมจากฮอนด้าในอนาคต พร้อมส่งต่อแนวคิด “ความสนุกในการขับขี่”  หรือ “joy of driving” สู่ยุคแห่งการขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า พร้อมตอบโจทย์ทั้งด้านสมรรถนะความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและการใช้งานในชีวิตประจำวันได้อย่างลงตัว

    N-ONE e:

    (รุ่นผลิตจริง และเริ่มวางจำหน่ายในประเทศญี่ปุ่น ตั้งแต่วันที่ 12 กันยายน 2568)

    N-ONE e: ได้รับแรงบันดาลใจในการพัฒนาจาก Honda N360 ซึ่งเป็นรุ่นต้นกำเนิดรถยนต์นั่งฮอนด้า โดยคงไว้ซึ่งดีไซน์ภายนอกที่มีเสน่ห์และเป็นเอกลักษณ์ มาพร้อมห้องโดยสารที่กว้างขวาง และความคล่องตัวในการขับขี่ N-ONE e: มาพร้อมสมรรถนะการขับขี่ที่ทรงพลังและเงียบอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของรถ EV โดยฮอนด้ามุ่งมั่นสร้างสรรค์รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นเล็กนี้ให้เป็น “Standard EV” ที่ได้รับความเชื่อมั่นและไว้วางใจจากลูกค้าชาวญี่ปุ่นในวงกว้าง

    CB1000F/CB1000F SE (รุ่นวางแผนผลิตจริง)

    ฮอนด้าเตรียมจัดแสดง CB1000F ใหม่ และ CB1000F SE ใหม่ ในฐานะสมาชิกใหม่ในไลน์อัปของ CB Series ซึ่งเป็นแบรนด์ของรถจักรยานยนต์ Road Sports จากฮอนด้า โดย CB1000F ใหม่ จะถ่ายทอดจิตวิญญาณมาตรฐานสปอร์ตไบค์ที่ก้าวล้ำอย่างไม่หยุดยั้ง ขณะที่ CB1000F SE จะสะท้อนเอกลักษณ์การออกแบบสุดคลาสสิกของ CB1000F ไว้อย่างโดดเด่น

    <รายชื่อผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีต่าง ๆ ของฮอนด้าที่จะนำมาจัดแสดงภายในงาน>

    เทคโนโลยีแห่งการขับเคลื่อนทางบก รายชื่อ หมวด WP/JP*

    Concept ModelConcept Model ของรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าต้นแบบรถจักรยานยนต์WPEV Urban Conceptรถจักรยานยนต์

    ผลิตภัณฑ์ตามแผนการผลิตHonda 0 Saloon Prototypeรถยนต์JPHonda 0 SUV Prototypeรถยนต์JPPrototype ของ Honda 0 Series รุ่นใหม่รถยนต์WPPrototype ของ Compact EVรถยนต์WPCR-V e:HEV Prototypeรถยนต์JPCB1000Fรถจักรยานยนต์
    CB1000F SEรถจักรยานยนต์

    ผลิตภัณฑ์ตามแผนการผลิต (ยุโรป)Honda e-MTB Prototypeรถจักรยานยนต์WP
    ผลิตภัณฑ์ตามแผนการผลิต (อเมริกาเหนือ)Acura RSX Prototypeรถยนต์JP

    รุ่นการผลิตจริงPreludeรถยนต์
    N-ONE e:รถยนต์

    CR-V e:FCEVรถยนต์
    CUV e:รถจักรยานยนต์
    Rebel 1100 S Edition (DCT)รถจักรยานยนต์
    Rebel 250 S Edition E-Clutchรถจักรยานยนต์
    CRF 1100L Africa Twin Adventure Sports ES (DCT)รถจักรยานยนต์
    CT125 Hunter Cubรถจักรยานยนต์
    DAX 125รถจักรยานยนต์
    Monkey 125 Customรถจักรยานยนต์

    การจัดแสดงสำหรับการอ้างอิงHonda Micro EVรถยนต์
    CB1000F Moriwaki Engineering

    (2025 IRON HORSE With βtitanium, “Battle Day” model)รถจักรยานยนต์
    เทคโนโลยีการขับเคลื่อนทางน้ำ

    รุ่นการผลิตจริงเครื่องยนต์เรือขนาดใหญ่ของ BF350เครื่องยนต์อเนกประสงค์
    การจัดแสดงสำหรับการอ้างอิงConcept ของโมเดลเรือสัดส่วน 1/5 (การจัดแสดงสำหรับการอ้างอิง)

    เครื่องยนต์อเนกประสงค์
    เทคโนโลยีการขับเคลื่อนทางอากาศและอวกาศ
    ต้นแบบสำหรับการผลิตห้องโดยสารจำลองเท่าขนาดจริงของ HondaJet Elite IIอากาศยาน
    รุ่นทดลองSustainable rocketอื่นๆ

    *หมายเหตุ: WP=เปิดตัวครั้งแรกในโลก, JP=เปิดตัวครั้งแรกในประเทศญี่ปุ่น


    ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย

    Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
    Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
    Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
    instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
    Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
    Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
    Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine


    No Comment
  • โตโยต้าขอขอบคุณทุกการตอบรับและความไว้วางใจ ยอดจองสิทธิ์ล่วงหน้า NEW bZ4X ครบจำนวน 2,000 สิทธิ์แล้ว เตรียมเปิดราคาปลายเดือนตุลาคมนี้

    1 Min Read

    โตโยต้าขอขอบคุณทุกการตอบรับและความไว้วางใจ ยอดจองสิทธิ์ล่วงหน้า NEW bZ4X ครบจำนวน 2,000 สิทธิ์แล้ว เตรียมเปิดราคาปลายเดือนตุลาคมนี้

    บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ขอขอบคุณสำหรับการตอบรับและความไว้วางใจ ที่มอบให้ NEW TOYOTA bZ4X ซึ่งล่าสุดเมื่อวันที่ 29 กันยายน 2568 ทางโตโยต้าได้รับยอดผู้ลงทะเบียนสิทธิ์ล่วงหน้าครบตามจำนวน 2,000 ท่าน เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

     

    นายศุภกร รัตนวราหะ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กล่าวว่า “โตโยต้าขอขอบคุณลูกค้าทุกท่านที่ให้ความสนใจจองสิทธิ์ รถยนต์ไฟฟ้า BEV อเนกประสงค์ รุ่น NEW bZ4X ซึ่งสะท้อนถึงการให้ความไว้วางใจทางด้านคุณภาพ การให้บริการ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ความเชื่อมั่นที่มีให้กับบริการหลังการขาย ซึ่งรวมถึงความพร้อมของระบบการจัดการชิ้นส่วนอะไหล่ และเครือข่ายงานบริการที่ครอบคลุมกว่า 450 แห่งทั่วประเทศ ทั้งนี้ผู้ลงทะเบียนสิทธิ์ล่วงหน้าจะได้รับการติดต่อ เพื่อยืนยันสิทธิ์ส่วนลดเงินสด 20,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยพิเศษ 0.99% ในลำดับถัดไป โดยทางบริษัทฯ จะแจ้งราคาจำหน่ายของรถรุ่นนี้อย่างเป็นทางการ ในช่วงปลายเดือนตุลาคมที่จะถึงนี้

     

    สำหรับ NEW bZ4X ประกอบและนำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น โดดเด่นด้วยดีไซน์การออกแบบที่สะดุดตาและน่าดึงดูด ใช้เวลาในการชาร์จเร็วขึ้น และที่สำคัญ ในรุ่นระบบขับเคลื่อนล้อหน้าที่เพิ่มเข้ามาใหม่ ยังสามารถทำระยะการขับขี่ได้ถึง 600 กิโลเมตรต่อการชาร์จ 1 ครั้ง (ข้อมูลระยะทางวิ่งสูงสุดอาจมีการเปลี่ยนแปลง โดยอยู่ระหว่างการรับรองขั้นสุดท้าย) ภายใต้มาตรฐาน NEDC ซึ่งไกลกว่ารถหลายรุ่นด้วยกัน นอกจากนี้ พละกำลังสูงสุดยังได้รับการปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้น และติดตั้งระบบความปลอดภัยเต็มรูปแบบมาตรฐานโตโยต้าในทุกรุ่นย่อย กับเสถียรภาพ (stability) ความรู้สึกในการควบคุมพวงมาลัย (steering feel) ความนุ่มนวล (riding comfort) และประสิทธิภาพการเบรกที่ยู่ในระดับ “สูงสุดในรถระดับเดียวกัน” โดยโตโยต้าตั้งเป้าที่จะขายรถรุ่นนี้ ที่ 6,000 คันในช่วงปีแรก ซึ่ง NEW bZ4X จะสามารถเริ่มส่งมอบให้กับลูกค้าได้ในเดือนพฤศจิกายนเป็นต้นไป


    ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย

    Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
    Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
    Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
    instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
    Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
    Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
    Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine

    No Comment
  • “ทัพดาวรุ่งฮอนด้า” เจองานยาก BRIC Superbike 2025 สนาม 3 ลุ้นคัมแบ็คล่าแชมป์ สนามสุดท้ายปลายซีซั่น

    1 Min Read

    “ทัพดาวรุ่งฮอนด้า” เจองานยาก BRIC Superbike 2025 สนาม 3 ลุ้นคัมแบ็คล่าแชมป์ สนามสุดท้ายปลายซีซั่น

    ทัพนักแข่งไทยจาก 4 แซทเทิลไลท์ทีมฮอนด้า เผชิญศึกสุดหินในรายการ NEXZTER BRIC Superbike 2025 สนามที่ 3 ที่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์กิต จังหวัดบุรีรัมย์ ในเรซชิงชนะเลิศ วันอาทิตย์ที่ 28 กันยายน 2568 นำรถแข่งตระกูล Honda CBR Series โชว์ศักยภาพและสปิริตนักบิดไทย แม้ต้องเจออุปสรรคและอุบัติเหตุ แต่ยังรักษาโอกาสลุ้นแชมป์ ก่อนเข้าสู่สนามสุดท้ายตัดสินแชมป์ซีซั่นนี้

    รุ่นซูเปอร์ไบค์ 1,000 ซีซี (SB1Pro)

    “มิกซ์” ธนัช ละอองปลิว หมายเลข 31 จาก อิเดมิตสึ ฮอนด้า ทีม คริสมาส บิด Honda CBR1000RR-R ออกสตาร์ตจากกริดที่ 4 เปิดเกมได้อย่างยอดเยี่ยม ดวลความเร็วกับคู่แข่งจนขึ้นนำตั้งแต่ต้นเรซ แต่ด้วยสภาพอากาศที่ชื้นและอุณหภูมิสนามที่เย็น ส่งผลให้ “มิกซ์” พลาดล้มที่โค้งแรก ก่อนยกรถกลับมาสู้ต่อด้วยความมุ่งมั่น และจบการแข่งขันในอันดับ 7

    ขณะที่จอมเก๋า “ซุป” อนุชา นาคเจริญศรี หมายเลข 10 สังกัดทีม โปร ฮอนด้า บริดจสโตน อันเดรียนี เบกดิกซ์ เอเอ็น เรซซิ่ง ทีม เจออุบัติเหตุในช่วงต้นเรซ ทำให้ไม่สามารถจบการแข่งขันสนามนี้ได้

    รุ่นซูเปอร์สปอร์ต 600 ซีซี (SS1Pro)

    “ไฮเปค” กฤษฎา ธนะโชติ หมายเลข 18 จาก อีสต์ เอ็นเจที พีทีที ลูบริแคนท์ส ฮอนด้า ทีม ที่คว้าชัยชนะมาแล้ว 2 สนามติดต่อกัน และออกสตาร์ตจากตำแหน่งโพลโพซิชั่น ด้วยรถแข่ง Honda CBR600RR ต้องเจอศึกหนักกับ “ข้าวกล้อง” จักรีภัทร พฤฒิสาร หมายเลข 20 จาก อิเดมิตสึ ฮอนด้า ทีม คริสมาส ที่ขึ้นมาเป็นคู่ชิงแชมป์ เกมดำเนินไปอย่างเข้มข้นจนถึงช่วงท้าย แต่ก่อนจบ 2 รอบสุดท้าย เกิดอุบัติเหตุจากรถน็อกรอบที่บังไลน์ ส่งผลให้ทั้ง ไฮเปค และ ข้าวกล้อง ต้องออกจากการแข่งขัน

    รุ่นซูเปอร์สปอร์ต 250 ซีซี (SS1)

    สองดาวรุ่งจาก โปร ฮอนด้า สิทธิพล ไออาร์ซี ดีไอดี ซีบี อาชิ กิตติ เรซซิ่ง ลงเก็บประสบการณ์ในคลาส SS1 กับ Honda CBR250RR “เฟรม” ภูริทัต จันจาด หมายเลข 98 เข้าเส้นชัยในอันดับที่ 15 เก็บคะแนนสะสมรวมได้สำเร็จ ส่วนทีมเมท “ต้นกล้า” ภคภัคร พึ่งเจริญ หมายเลข 78 พลาดโอกาสทำผลงาน หลังต้องออกจากการแข่งขันกลางคัน

    ทั้งนี้ ศึก NEXZTER BRIC Superbike 2025 สนามที่ 4 สนามสุดท้าย เพื่อตัดสินแชมป์ประจำฤดูกาล จะกลับมาดวลความเร็วระหว่างวันที่ 20–23 พฤศจิกายน 2568 ที่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์กิต จังหวัดบุรีรัมย์

    แฟนความเร็วชาวไทยสามารถส่งกำลังใจเชียร์นักบิดฮอนด้าพร้อมติดตามข่าวสารและรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ : https://facebook.com/HondaRacingTeamTH

    #ThaiHonda #Motorsport #HondaRacingThailand #RaceToTheDream #RaceToTheChampion #BRICSuperBike2025 #NexzterBRICSuperBike2025 #HondaCBR #Mix31 #Kaowkong20 #HiPeck18 #ChangInternationalCircuit


    ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย

    Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
    Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
    Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
    instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
    Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
    Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
    Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine


    No Comment